ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -(: ตัวสวย – ตัวหล่อ :)- [YUNJAE]

    ลำดับตอนที่ #29 : Part [12.] : BELLE BOMBS (EPISODE II STARTS)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.35K
      7
      11 พ.ย. 54


    [Fic] -( : ตัวสวย – ตัวหล่อ : )- II [semester 3-4]

    Author : Kyokoong
    Pairing : Yunho x Jaejoong
    Genre : Romantic



    NOTE : วันนี้เปิดเทอม อย่าลืมมาเช็คชื่อเข้าเรียนกันให้ครบองค์ประชุม อิอิ


    - - - - - - - - - -


    -( : ตัวสวย – ตัวหล่อ : )-

    : XII BELLE BOMBS! XD



           ในที่สุด ชมรมหนังสือพิมพ์ก็ประกาศอันดับประเด็นร้อนที่ทำให้แทฮวาชินปีนี้คึกคักกว่าปกติออกมาจนได้

     

                สำหรับเด็กแทฮวาชินแล้ว โพล โหวต หรืออันดับบ้าบออะไรก็แล้วแต่ที่มาจากชมรมหนังสือพิมพ์เป็นอะไรที่น่าเชื่อถือและน่าสนใจที่สุด เพราะมันทั้งมีคุณภาพแล้วก็จริงโคตรๆ ระดับที่ว่าจะเป็นประเด็นเม้าท์ในหมู่นักเรียนไปอีกนานหลายเดือน เพราะฉะนั้นแม้แต่ครูพละ ภารโรง หัวหน้าหมวดวิชา ไปถึงแม้แต่ผู้อำนวยการโรงเรียน ถ้าไม่อยากจะตกข่าวล่ะก็ ก็ควรจะอ่านนิตยสารรายสัปดาห์ หรือติดต่อข่าวสารจากชมรมนี้เอาไว้ให้เป็นประจำสม่ำเสมอ

              ซึ่งส่วนใหญ่โพลการจัดอันดับที่ชมรมหนังสือจะทำเป็นประจำทุกทีและเด็กๆ ให้ความสนใจมากที่สุดก็คงไม่พ้น รวมอันดับประเด็นร้อนที่มีผลต่อแทฮวาชินมากที่สุดแห่งปี ซึ่งก็จะรวมเรื่องราวข่าวเด่นทั้งหมดที่ชมรมเคยออกประกาศ และคัดมาเฉพาะที่มีคนสนใจมากที่สุดมาจัดอันดับโดยเรียงจากคะแนนโหวต 

                และแน่นอนว่าผลโหวตทั้งหมดก็มาจากการตอบโพลแบบสอบถามของนักเรียนทั้งชายและหญิงมากกว่า 92% ของโรงเรียน แถมอีก 8% ยังเป็นแค่พวกติสท์แตก ไร้ตัวตน และเนิร์ดจัดแบบไม่สนความเป็นไปใดๆ ในโลก ซึ่งก็ถือว่าไม่มีผลอะไรต่อคุณภาพของโพลอยู่ดี

     

              นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคิมจุนซูถึงได้สมัครสมาชิกรายปีของชมรมหนังสือพิมพ์ทั้งที่ตัวเองไม่ได้อยู่ชมรมนั้นยังไงล่ะ

     

                “อันดับที่ห้า – ข่าวลือที่ว่าชิมชางมินเป็นแฟนกับคิมแจจุง”

                เขาพูดออกเสียงในขณะที่คว้าขนมจากถุงขึ้นมาเคี้ยวกรุบๆ ไปด้วย และชื่อที่ออกมาจากปากเพื่อนตัวเล็กก็ทำให้เจ้าของชื่ออีกสองคนที่นั่งติวหนังสือกันอยู่หันมามองหน้าเขาจนได้

                “อ่านไรอยู่น่ะ” เสียงคำถามจากชิมชางมินทำให้คนที่กำลังทั้งกินขนมและอ่านข่าวไปด้วยทำตาโต เขาหันมามองหน้าเพื่อน “เฮ้ ชางมิน นายคือไอ้พวก 8% นั่นใช่ไหม ถึงไม่รู้ว่าฉันกำลังอ่านอะไรอยู่”

                ชางมินขมวดคิ้ว ก่อนจะใช้มันสมองอันชาญฉลาดประมวลผลในเวลาสิบวินาที แล้วยกมือตบกะโหลกเพื่อนตัวเล็กไปหนึ่งที “กล้ามากนะ คิมจุนซู ฉันได้ตอบโพลด้วยเว้ย แค่สงสัยว่านายกำลังอ่านคอลัมน์อะไรไร้สาระอยู่ - อย่างเช่น รวมอันดับประเด็นร้อนที่มีผลต่อแทฮวาชินมากที่สุดแห่งปี บ้าบออะไรอย่างนั้น”

                จุนซูหน้ามุ่ย ก่อนจะบ่นพึมพำ “ก็รู้แล้วจะถามทำไมล่ะ ชิ”

                เขาพูดคุยกันไปพลางตีกันไป ในขณะที่คนน่ารักที่นั่งอยู่ที่ริมโต๊ะอีกฝั่งที่ได้ยินบทสนทนาของเพื่อนรักทั้งสองแล้วก็ได้แต่ชะโงกหน้ามาดูด้วยอย่างสนใจ ดวงตากลมโตจ้องมองหนังสือพิมพ์ในมือของจุนซูที่มีรูปร่างแตกต่างไปกว่าทุกวันแล้วอมยิ้ม

     

                “ดูอะไรอยู่เหรอ จุนซู”

                ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือน แต่ให้ตายเถอะ ยังไงจุนซูกับชางมินก็ยังไม่ชินเสียงน่ารักๆ กับตาโตแบ๊วๆ นี่ซักที

     

                “โพลประจำปีไง” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่แจจุงทำหน้างง “โพลประจำปีคืออะไรอะ?”

                เมื่อนั้นเองจุนซูก็ทำหน้างงกลับ ก่อนจะร้องอ๋อขึ้นมาเมื่อนึกอะไรขึ้นได้

                “อ้อ แจจุงเพิ่งย้ายมานี่นา นี่เทอมที่เท่าไหร่แล้วนะ”

                “อ่า ก็เทอมหนึ่งไง นี่ปีสอง เทอมหนึ่ง”

                “อ่าไม่ใช่ ฉันหมายถึงอยู่มากี่เทอมแล้ว แบบ ฉันกับชางมินอยู่มาตั้งแต่ ม.ต้น ปีหนึ่ง นี่ก็เทอมที่เก้าแล้ว อะไรแบบนี้”

                “อ๋อ – นี่เทอมสามของแจจุงล่ะ”

                การทักทายแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมประจำตัวของเด็กโรงเรียนนี้ เพราะเวลาถามกันเขามักจะไม่พูดว่าอยู่มากี่ปีแล้ว – แต่มักจะบอกว่าอยู่มากี่เทอมแล้วมากกว่า ทั้งนี้ก็เพราะจะได้ลำดับจัดเรื่องราวกันถูก ก็กิจกรรมในแทฮวาชินน่ะมันมีเยอะเหลือเกิน จะพูดถึงเรื่องไหนเหตุการณ์ไหนถ้าไม่เฉพาะเจาะจงเป็นเทอมๆ ไปล่ะก็ไม่มีใครจำได้หรอก

                “อือ แจจุงคงไม่รู้ล่ะสิ ปกติโรงเรียนเรา พอผ่านไปปีหนึ่ง ชมรมหนังสือพิมพ์เขาก็จะเอาข่าวดังๆ ตลอดทั้งปีนั้นๆ มาจัดโพลกัน ฉันชอบมากเลยล่ะ เนี่ย อันดับปีนี้มีเรื่องของแจจุงเยอะเหมือนกันนะ”

                “เอ๋?”

                “แจจุงรู้ไหมว่าตัวเองดังมากๆ เลยตอนนี้”

                “อ่า” เขาเนี่ยนะ?

                “อันนี้ก็เด็ดเหมือนกันนะเจ้าโย่ง ข่าวลือนายกับแจจุงคบกันเป็นอันดับที่ห้าเลยนะ” จุนซูอ่านข้อความในนั้ พลางหันไปพูดกับเพื่อนอีกคนแล้วทำหน้าเบ้ “แต่ไม่ยักกะมีข่าวฉันแฮะ”

                ชางมินหัวเราะสะใจ “ก็เพราะนายไม่ดังไง”

                “หุบปากไปเลยไป” จุนซูหันไปด่าเพื่อนตัวโตอีกยก ก่อนจะหันกลับไปสนใจเนื้อความในข่าวแทน

              “เดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังนะแจจุงๆ นี่ไง  อันดับที่ห้า – ข่าวลือที่ว่าชิมชางมินเป็นแฟนกับคิมแจจุง หลังจากที่หนุ่มหล่ออัจฉริยะของสายวิทย์เข้าวินได้เป็นเพื่อนสนิทกับนางฟ้าเข้าใหม่คนนี้ ก็มีข่าวลือออกมาตลอดว่าชิมชางมินน่ะทั้งเอ็นดู ทั้งโอ๋เพื่อนสวยๆ คนนี้มากกว่าปกติ แถมยังมีคนเคยเห็นเหตุการณ์ที่เขามาช่วยน้องแจจุงตอนที่โดนแกล้งอยู่หลายครั้งซะด้วย เล่นเอาฮือฮาข่าวสะพัดไปถึงแทฮวาชินฝ่าย ม.ต้นซึ่งมีฐานแฟนคลับของน้องชางมินอยู่มาก...”

                “พอเหอะ ขอสั้นๆ ฉันล่ะเกลียดไอ้คำว่า เข้าวินบ้านี่จริงจัง”

                “ก๊าก ชางมินเข้าวิน” จุนซูหัวเราะสะใจบ้าง “โอเคๆ สั้นๆ ก็คือสรุปว่าข่าวนายกับแจจุงเป็นแค่ข่าวลือ คนก็เลยเลิกสนใจกันไปซะก่อน เลยได้แค่อันดับห้า”

                “เออ ก็แค่นั้น”

                “หรอๆ แล้วอันดับอื่นล่ะ” แจจุงที่ยังมีความสนใจทำหน้าตาตื่นเต้นเต็มที่ จนจุนซูพลอยมีอารมณ์ร่วมไปด้วย “เดี๋ยวนะๆ”

                “อันดับสี่ – เจ้าหญิงของโรงเรียนปาร์คจียองอกหัก”

                เล่นเอาเงียบกันไปทั้งกลุ่ม เพราะรู้เหตุผลกันดีว่าเป็นเพราะอะไร ก่อนจุนซูจะพูดต่อ

                “อันดับสาม – รุ่นพี่ประธานนักเรียน อ๊กแทคยอน เอ่อ...อกหัก”

                ให้ตายสิ ทำไมถึงมีแต่ข่าวรอบๆ ตัวเขาทั้งนั้นเลยนะ! ตัวสวยได้แต่กรีดร้องในใจพลางทำหน้าเจื่อนๆ ให้เพื่อนรัก

                “อันดับสอง – ผู้อำนวยการกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วลื่นล้มก้นกบกระแทกตอนไปยกกระถางต้นไม้เลยพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่สองอาทิตย์”

              แจจุงทำหน้าตั้งอกตั้งใจฟัง ในขณะที่ชางมินเองก็หันมามองในที่สุดเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าอันดับที่หนึ่งจะเป็นอะไร – จริงๆ เขาก็พอจะเดาได้อะนะ

                “แล้วอันดับที่หนึ่งล่ะจุนซู”

                คนตัวเล็กมองข้อความในหนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษที่ทางชมรมลงทุนพิมพ์สี่สีเพื่อเป็นการฉลองการเปิดปีการศึกษาใหม่ของแทฮวาชินเป็นประจำทุกปี ก่อนจะอมยิ้มออกมาเมื่ออ่านไปที่ข้อความพาดหัวใหญ่สุดของคอลัมน์นี้

     

                “อันดับหนึ่ง – รุ่นพี่ยุนโฮเป็นแฟนกับคิมแจจุง”

     

     

             

     

               

                “ท่าน เซอร์ ลอร์ด มิสเตอร์ คุณ ยุนโฮผู้น่าเคารพยิ่งค้าบบบบบบ” ทันทีที่หน้าตาแป้นแล้นของเด็กหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดีแต่ดูไม่มีสาระปรากฏตัวขึ้นที่ข้างโต๊ะ ดวงตาเรียวรีที่กำลังจ้องตุ๊กตาในมืออยู่ก็ฉายแววเบื่อหน่ายทันที

               

                “ไรมึง เปลี้ย”

     

              นี่คือประโยคเปิดตัวปาร์คยูชอนในปีการศึกษาใหม่เหรอเนี่ย ให้ตายเถอะเจ้าของชื่ออยากจะบ้า!

                “ยุนโฮ มึงมาเรียกกูเปลี้ยเฉยๆ งี้ได้ไง กูอุตส่าห์เรียกมึงท่าน เซอร์ ลอร์ด เลยนะเว้ย” ยูชอนว้าก ในขณะที่ยุนโฮทำหน้ามึนไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ ทั้งสิ้นตามสไตล์

                “งั้น – ไรมึง ตัวเปลี้ย

              คนที่มีประโยคเปิดตัวไม่โดนใจถึงกับอ้าปากค้าง

                เชี้ยยยยยยย กูไม่ได้หมายความว่าให้มึงเพิ่มคำว่า ตัวมาด้วย

              โอ้ย ไม่อยากจะเถียงกับมันแล้ว นึกเสร็จก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ย ในขณะที่ยุนโฮหันมามองหน้า เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ปาร์คยูชอนกำลังทำคือสิ่งที่เรียกว่า งอนเหมือนที่ตัวสวยชอบทำหรือเปล่า

                ท่าทางมันคล้ายกันนะ แต่ทำไมพอไอ้นี่ทำแล้วมันน่าเกลียดกว่ากันเยอะเลยล่ะ

                ยุนโฮยักไหล่ เมื่อเห็นว่ายูชอนไม่พูดอะไรต่อ เขาก็เลิกสนใจแล้วกลับไปเอานิ้วจิ้มหัวตุ๊กตาตัวน้อยต่อ ท่าทางไม่แยแสที่ทำเอาเพื่อนรักอ้าปากค้าง

                “มึงไม่คิดจะง้อกูเลยอ่อ?”

                “ไม่คิด” เขาตอบกลับมาในทันที

                คือมึงคิดก่อนตอบซักวินาทีนึงก็ได้นะ ถือซะว่าปาร์คขอร้องงงงงงงงงงงงง

                อันที่จริงเขาก็ไม่ได้จะมีธุระอะไรกับไอ้ยุนโฮนักหรอก ก็แค่เรียกกลัวลืมชื่อเนื่องจากปิดเทอมไปสามสี่เดือนไม่ได้เจอหน้าหล่อมึนๆ ของมันแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีพัฒนาเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง – แต่สรุปแล้วก็คือไม่มี ! ไอ้บ้านี่ยังคงนิ่งและกวนตีนได้เสมอต้นเสมอปลายมาก จนบางทีปาร์คยูชอนก็สงสัยนะว่าไอ้การที่ชองยุนโฮเป็นแฟนกับน้องแจจุงเนี่ย มันไม่ได้เชื้อความน่ารักสดใสของน้องเค้าติดตัวมาบ้างเลยหรือไงกัน?

                จะมีก็แต่ไอ้นิสัยแปลกๆ ที่เพิ่มขึ้นทุกวี่ทุกวันเนี่ย

                “ไอ้มินโฮกับยงฮวาไปไหนอ่ะมึง”

                “หาข้าวแดก”

                “แล้วมึงไม่ไปกับมันอ๊ะ?” ไม่อยากจะสารภาพว่าปาร์คยูชอนท้องเสียตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน เหตุก็เพราะท่านหญิงแม่ปลาบปลื้มใจยิ่งนักในวันเปิดภาคเรียนของ ม.ปลาย ปีสุดท้ายของลูกชาย ถึงกับลงทุนบอกแม่บ้านว่าขอเข้าครัวเอง จัดเมนูอาหารมารับขวัญเขาชุดใหญ่ ซึ่งเมื่อได้เห็นจำนวนเมนูแล้วปาร์คยูชอนก็ได้แต่ตาโต ก็แม่คุณเล่นจัดมาซะยังกับลูกชายตัวเองอดอยากมาซักสิบชาติ กว่าจะกินหมดเพื่อรักษาน้ำใจท้องเขาก็แทบแตก จนสุดท้ายต้องมาปล่อยทิ้งหมดที่โรงเรียนนี่ไง

                “กูมีข้าวกินแล้ว”

                “อ่อ ฮันแน่ ข้าวกล่องน้องแจจุงเหรอวะ กิ๊วๆ อิจฉาคนมีแฟนจัง ทีหลังไปขอให้น้องแจจุงทำให้กินมั่งดีกว่า คิดถึงรสมือน้องเค้าจัง อร่อยสัด”

                “ถ้ามึงกล้านะ” ยูชอนรู้สึกเหมือนตัวเองหดเหลือสองนิ้วในทันทีที่ดวงตาคมคู่นั้นที่เมินเขามาตลอดหันตวัดมาจ้องเขาในทันที

                “อุ้ยยยย ไม่กล้าจ้ะ ไม่กล้า” เขารีบพูดก่อนจะหยิบตุ๊กตาตัวน้อยที่เห็นยุนโฮเล่นมาตั้งแต่เช้ามาจับมือโบกไปมาเป็นท่าทาง ไม่กล้า ยุนโฮตาโตทันที

              “อย่าแกล้งตัวสวยนะมึง”

                พูดจบก็ขมวดคิ้วก่อนจะแย่งตุ๊กตากลับมาจากมือปาร์คยูชอนในทันทีราวกับกลัวว่าราคีจะติดอะไรอย่างนั้น  ปาร์คยูชอนหัวเราะทันทีให้กับท่าทางนั้น “ฮ่าๆ ไอ้ยุน ให้ตายเหอะ ทำตัวน่ารักตลอดนะมึง เดี๋ยวน้องแจจุงก็หลงโงหัวไม่ขึ้นหรอก” เขาแซวก่อนจะว่า

                “งั้นเดี๋ยวกูไปหาไรแดกละ เจอกันคาบบ่าย”

               

                ปาร์คยูชอนเดินออกไปแล้ว ในขณะที่ยุนโฮยังคงนั่งเล่นตุ๊กตาต่อไป

                ก็เปิดเทอมมันไม่มีอะไรจะทำ แถมจะออกไปข้างนอกก็วุ่นวายอีก

                ใช่ วุ่นวายมากๆ

     

                ผ่านไปหนึ่งปีตั้งแต่ได้พบกับคิมแจจุง ชีวิตยุนโฮก็มีเรื่องราวอะไรประหลาดเกิดขึ้นมากมายอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนตลอดสิบเจ็ดปีที่ผ่านมา ถึงจะประหลาด มึน ดูงงๆ และสับสนไปบ้าง แต่ยุนโฮคิดว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก

                แถมยังสนุกอีกต่างหาก

                ปิดเทอมไปหลายเดือนอยู่เหมือนกัน แต่ชีวิตประจำวันของยุนโฮก็ยังเป็นแบบเดิม คือตื่นนอน กินข้าว อาบน้ำ เลี้ยงตัวสวย บันทึกข้อมูล เล่นอินเตอร์เน็ต แปรงฟัน เข้านอน

                หลักๆ ก็มีแค่ประมาณนี้

                ว่าแต่เขากลายเป็นไปเด็กติดอินเตอร์เน็ตตั้งแต่เมื่อไหร่ อันนี้น่ะมีคนสงสัยมาเยอะเหมือนกัน ตั้งแต่ปาร์คยูชอนที่ถามเขาว่าทำไมออนเอมเอสเอ็นบ่อย ชองยงฮวาที่ชวนเขาตีดอทเอแต่เขาไม่ว่าง และลีมินโฮที่ถามเสมอว่าเขาเล่นเว็บอะไรอยู่กันแน่ ดูหนังโป๊หรอ? และแน่นอนว่าชองยุนโฮไม่ใช่คนแบบนั้น

               

                คงไม่ต้องสงสัยหรอกนะว่าเข้าไปทำอะไร

               

                ปิดเทอมผ่านไป นับวันยุนโฮก็ยิ่งจะเหมือนสมาชิกอีกคนของบ้านตระกูลคิมเข้าไปทุกวัน เพราะเล่นแวะไปทุกวัน โดยบอกพ่อแม่ของตัวสวยว่าเขามีความจำเป็นต้องมาทำรายงานเกี่ยวกับการศึกษาตัวสวย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของแจจุงก็เอาแต่หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร บางวันแจจุงก็จะชวนเขาออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าง เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีวันไหนที่ไม่เจอกันเลย นอกจากวันอาทิตย์ที่ชองยุนโฮจะทำสรุปผลการศึกษาประจำสัปดาห์อยู่ที่บ้านนั่นแหละ

     

                โลกของเขายังคงโคจรไปรอบตัวสวยเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

     

              แต่ถึงยังไงก็ตาม ยุนโฮยังมีภารกิจที่ต้องเข้าเรียนภาคปฏิบัติขั้นพื้นฐานที่ตัวสวยตัววุ่นวายคนนั้นท้าทายเอาไว้ตั้งแต่ก่อนปิดเทอม ซึ่งยุนโฮก็ทั้งเขินจะเป็นบ้าแต่จะระเบิดตัวตายไปก่อนก็ไม่ได้ เขายังไม่พอใจแน่ๆ ตราบใดที่ตัวสวยยังคงสบประมาทเขาว่าได้แค่เกรดศูนย์

                ชองยุนโฮต้องคว้าเกรดสี่มาให้ได้!

                ถึงยังงั้นก็เหอะ ตัวหล่อก็ยังหงุดหงิดอยู่ดีที่ตัวสวยชอบหาเรื่องมาให้เขาปวดหัวอยู่เรื่อยเลย

                เข้ามาวนในหัวตลอดๆ ไม่พอ ยังจะมาหางานให้อีก

     

                จริงๆ เลยนะคิมแจจุง!

                           

               

               

     

                “พี่ยุนโฮ วันนี้ไปกินพิซซ่ากันเถอะ”

                เสียงใสๆ ที่นำมาก่อนตัว เรียกให้คนที่ยืนรอที่หน้าตึกเหมือนทุกวันหันไปมอง ยุนโฮไม่ได้สนใจกับสายตาหลายคู่ที่หันมามองเขากับตัวสวยเป็นตาเดียวเลยสักนิด นอกไปเสียจากคนตัวเล็กๆ ที่กำลังวิ่งมาหาเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทันทีที่เห็นแจจุง ยุนโฮก็ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด

                “ตัวสวยกลับมาใส่ชุดนักเรียนแล้ว” ราวกับพูดกับตัวเอง

                “หืม?”

     

              “ย้อมสีขนแล้วพอใส่ชุดนักเรียนก็แปลกไปอีกแบบนะ”

     

              “ฮ่าๆๆ มึนจริงๆ เลยพี่ยุนโฮ”

                มีอีกอย่างที่ยังไม่ได้เล่า นั่นก็คือเมื่อตอนช่วงปิดเทอม จู่ๆ คุณแม่ของยุนโฮคิดยังไงก็ไม่รู้ ถึงซื้อยาย้อมผมมา แล้วตอนที่ตัวสวยไปเล่นที่บ้าน ก็เลยเอามาลองใช้กับแจจุงซะอย่างนั้น จนตอนนี้เส้นผมสีดำสนิทของแจจุงกลายเป็นสีน้ำตาลทองๆ ไปแล้ว ยุนโฮเองก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าสีอะไร จะทองก็ไม่ใช่ น้ำตาลก็ไม่เชิง แต่ตอนที่เห็นครั้งแรกเขาก็ตกใจมาก ถึงมันจะดูสวยไปอีกแบบก็เถอะ คุณแม่ของยุนโฮบอกว่าแจจุงทำแล้วดูเปรี้ยวขึ้นตั้งเยอะ ซึ่งยุนโฮก็ไม่เข้าใจอีกว่าแม่เขาเคยกินตัวสวยเข้าไปหรือไง ถึงจะได้บอกว่าตัวสวยเปรี้ยว

     

                บางทีคนรอบๆ ตัวเขาก็ชอบทำให้ยุนโฮงงอยู่เรื่อย

                แต่ไม่ว่าจะไงก็ตาม สิ่งแรกที่ยุนโฮพูดกับแจจุงต่างหากที่ทำให้ตัวสวยเหวอไปเลย

              แม่ย้อมขนตัวสวยเหรอ!’

              ตอนที่เห็นครั้งแรกยุนโฮรีบเข้ามาจับผมแจจุงใหญ่ พลางเอาแต่บ่นอะไรงุ้งงิ้งอยู่คนเดียวว่ากลัวสารเคมีมันจะเป็นอันตรายต่อตัวสวย และหลังจากนั้น ยุนโฮก็เรียกการย้อมผมของเขาว่าตัวสวยย้อมสีขน แถมยังเผลอเมื่อไหร่ก็จะมาเอามือจับเล่นตลอด

              มึนมากเลยนะตัวหล่อ

                 

                “ทำไมอยากกินพิซซ่า?”

                “ฉลองเปิดเทอมไง เลี้ยงด้วยนะ”

                “ขี้งก”

                “ก็เป็นคนเลี้ยงตัวสวยไม่ใช่เหรอ”

     

     

     

     

                “กินเข้าไปก็ไม่เห็นจะโตเลย เปลืองตังค์จัง” ยุนโฮพูดเบาๆ ก่อนจะโดนคนตัวขาวทำหน้ามุ่ยใส่แล้วชกเข้าไปที่แผ่นอกกว้างเต็มแรง แต่นึกเหรอว่าแรงเท่าแมวขู่แบบนั้นเขาจะเจ็บ “แมวจริงๆ”

                “แมวอะไร!

                “ไม่ต้องร้องเมี้ยว เดี๋ยวพาไปกินพิซซ่าหน้าปลา”

                “ไม่ได้ร้องเมี้ยว! แจจุงขึ้นเสียงสูง ในขณะที่ยุนโฮทำหน้านิ่ง แล้วเอานิ้วยาวๆ นั่นชี้มาทางเขาพร้อมด้วยประโยคที่ทำให้แจจุงถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง

                “นี่ไงร้องเมี้ยวแล้ว”  

                งื่ออออออออออออออออ ตัวสวยโดนแกล้งอ่ะ!

     

                พิซซ่าจานโตถูกเอามาวางเสิร์ฟลงบนโต๊ะของลูกค้า ที่ไม่ว่าพนักงานจะมองยังไงก็รู้สึกว่าเด็กนักเรียนสองคนนี้น่ะมันโดดเด่นกว่าใครจริงๆ เด็กผู้ชายตัวสูง – อันที่จริงก็เรียกเด็กผู้ชายได้ไม่เต็มปากนักหรอก เขาค่อนข้างเป็นหนุ่มหล่อเลยทีเดียว เส้นผมสีดำสนิทถูกตัดสั้น พร้อมกับเสยผมข้างหน้าขึ้นนิดๆ พอเป็นทรง แต่แค่นั้นก็ทำให้ยุนโฮดูดีไม่ต่างอะไรกับดาราเลยซักนิด คนข้างๆ เขาเองก็เช่นกัน เด็กผู้ชายตัวเล็กที่มีผมสีน้ำตาลทองคนนั้นตัวเตี้ยกว่านิดหน่อย และที่สำคัญก็คือใบหน้าที่สวยหวานน่ารักเหมือนผู้หญิงของเขานั่นแหละที่ทำให้คนทั่วไปอดไม่ได้เลยที่จะหันไปมองกันเต็มไปหมดแบบนี้

                และนั่นทำให้ยุนโฮหงุดหงิดนิดหน่อย

                “มองกันทำไมนักหนาก็ไม่รู้ ไม่ได้เอาตัวสวยมาขายซักหน่อย”

                “เอ่อ” แจจุงที่ได้ยินประโยคนั้นถึงกับอึ้ง ก่อนจะหลุดขำ “ฮ่าๆๆ”

                “ขำไรตัวสวย ย้อมสีขนมาละคนมองกันเต็มเลย”

                “ปกติก็มองอยู่แล้วนี่”

                “แต่วันนี้มันเยอะกว่าทุกที”

                “ก็วันเปิดเทอมไง”

                “ก็ไม่ชอบนี่” ยุนโฮพึมพำเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาดึงพิซซ่าออกมาชิ้นหนึ่ง แจจุงแกล้งแหย่ “จริงๆ เขาอยากซื้อตัวหล่อรึเปล่า ตัดขนแล้วหล่อขึ้นกว่าเดิมอีกนะเนี่ย”        

    “ใครตัดขนกัน? ตัวสวยมั่วอ่ะ”

                “ก็คุณแม่เพิ่งเล็มผมพี่ยุนโฮไปไง”

                “เขาเรียกตัดผมหรอก”

                “ตัดผมเค้าใช้กับคนนะพี่ยุนโฮ ตัวหล่อใช้ตัดขน” แกล้งพูดล้อเลียนคำที่คนตรงหน้าเคยใช้กับเขาเสร็จ คนน่ารักก็หัวเราะเสียงดังพลางยกมือขาวๆ ขึ้นปิดปาก ใช่แล้ว นอกจากแจจุงจะย้อมสีผมแล้ว ยุนโฮเองก็ถูกคุณแม่จับไปตัดผมเหมือนกัน ซึ่งจริงๆ แล้วทรงใหม่นี้ก็ออกจะถูกใจแจจุงไม่น้อยเลย – ทรงเดิมก็หล่อนะ แต่พอเปลี่ยนบรรยากาศแล้วพี่ยุนโฮก็รู้สึกเหมือนจะดูดีขึ้นไปอีกแบบ

     

      

              


    “เปิดเทอมใหม่แล้วเนอะ นี่ก็เป็นพี่ใหญ่แล้ว ไม่สนใจลงสมัครประธานนักเรียนมั่งเหรอ ถ้าพี่ยุนโฮสมัครก็ได้แน่ๆ เลยอ่ะ”

                “เหอะ ไม่เอาอ่ะ”

                “ทำไมล่ะ”

                “ก็ประธานนักเรียนมีแต่งาน ถ้าเป็นแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเลี้ยงตัวสวยล่ะ” ยุนโฮพูดหน้านิ่ง โดยที่ไม่รู้ตัวอีกแล้วว่าทำให้คนตรงหน้าหน้าแดงนิดๆ

                “พูดถึงก็คิดถึงพี่แทคยอนเนอะ จบไปซะแล้ว”

                ชิ้นพิซซ่าที่กำลังจะถูกส่งเข้าปากหยักชะงักทันที

                “น่าคิดถึงตรงไหนเนี่ย? ตัวสวย อย่ามานิสัยไม่ดี” เขาบ่นขึ้นมาในทันที แววตาท่าทางที่บ่งบอกชัดเจนว่าชองยุนโฮเริ่มเซ็งแล้วทำให้แจจุงอมยิ้ม

                “นิสัยไม่ดีตรงไหน ก็พี่เค้าจบไปแล้ว คิดถึงก็ไม่เห็นแปลก”

              “เป็นตัวสวยน่ะ คิดถึงแต่ตัวหล่อก็พอแล้ว”

                พูดจบแล้วก็ก้มลงไปราดซอสมะเขือเทศใส่หน้าพิซซ่าด้วยใบหน้าเรียบนิ่งติดจะบูดบึ้งเล็กน้อย โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตัวสวยที่ว่าน่ะ นั่งม้วนเป็นใบเฟิร์นไปอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามแล้ว

                บ้า ตัวหล่ออ่ะ ทำเขินตลอดดดดดดด โอ้ย ใครกันแน่ที่นิสัยไม่ดี !

              “บ้า...จริงๆ เลย ตัวอะไรก็ไม่รู้” ดวงตากลมโตจ้องไปที่คนตรงหน้าเขม็ง พลางขยับปากมุบมิบๆ บ่นพึมพำกับตัวเองอยู่คนเดียว ในขณะที่ยุนโฮหันมาเห็นพอดี “อะไรน่ะตัวสวย งุ้งงิ้ง มุ้งมิ้งอยู่นั่นแหละ”

                จะว่าไปแล้วพักนี้แจจุงรู้สึกว่ายุนโฮน่ะชักจะมีศัพท์แปลกๆ มาใช้เพิ่มขึ้นทุกวัน

                โดยเฉพาะเอามาใช้กับเขาน่ะยิ่งเยอะเลย ไอ้ประเภทว่า โมเอะ งุ้งงิ้ง มุ้งมิ้ง เมี้ยวๆ หงุงหงิง อะไรประมาณเนี้ย เป็นคำที่พี่ยุนโฮมักจะเอามาใช้จำกัดความกับเขาเป็นประจำ ซึ่งในความเป็นจริงแจจุงก็พอจะเข้าใจได้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่ที่ไม่เข้าใจเนี่ยคือยุนโฮไปเอามาจากไหนต่างหาก

                เหมือนแจจุงจะเคยได้ยินพวกเด็กผู้หญิงเขาพูดกันมาบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่

                ไปติดมาจากไหนกันนะ?

     

              อืม...เดี๋ยวค่อยลองไปถามจุนซูดูก็ได้

     

                แจจุงก้มหน้าก้มตากินบ้าง ในขณะที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เขาลืมประเด็นเรื่องที่พูดถึงพี่แทคยอนไปแล้ว หากแต่ผู้ชายตรงหน้านี่สิที่ยังคิดมากไม่เลิก เขาจ้องตัวสวยที่ใช้ส้อมจิ้มชิ้นพิซซ่าที่ตัดเอาไว้อย่างดีใส่ปากพลางเคี้ยวหงุบหงับด้วยท่าทีน่าเอ็นดูแล้วว่า

                “ตัวสวยน่ะ ต้องให้ตัวหล่อเลี้ยงเท่านั้นรู้มั้ย ถึงจะมีความสุข คนอื่นเลี้ยงไม่ได้หรอกนะ”

                “หืม?” ประโยคแปลกๆ ออกมาจากยุนโฮอีกครั้ง และแจจุงก็ได้แต่ทำตาโตเลิกคิ้วอย่างต้องการคำอธิบาย ในทันทีที่ใบหน้าน่ารักนั้นเหมือนจะไม่เข้าใจที่เขาพูด ยุนโฮก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา

                พร้อมกับตัวตุ๊กตาตัวสวยขนาดประมาณฝ่ามือที่แขวนติดอยู่กับมันนั้นก็เลยออกมาด้วย

                “นี่คือตัวสวย เห็นมั้ย?”

                แจจุงจ้องตุ๊กตาตัวสวยในมือพี่ยุนโฮ ตุ๊กตาที่แจจุงบอกว่ามันเป็นร่างแบ่งภาคของตัวเขาเอง “อือ เห็น แล้วไงอ่ะ?”

                “มันอยู่กับพี่ แล้วยิ้มอยู่ ไม่เห็นเหรอ?”

                โอ้โห เข้าใจคิดมุข พยายามจริงนะตัวหล่อ

                แจจุงหัวเราะ ก่อนจะพูด “ตัวสวยอยู่กับใครก็ยิ้มทั้งนั้นแหละ” ตุ๊กตาตัวสวยยิ้มตลอด อย่ามาเล่นมุขนี้น่า พี่ยุนโฮ

                “ใครบอก”

                “หือ?”

                “ตัวสวยรู้ได้ไง ว่าตัวสวยอยู่กับคนอื่นแล้วจะยิ้ม” คำถามอาจจะดูงงๆ ไปหน่อย แต่ก็พอจะเข้าใจได้ไง ตัวสวยคำแรกเป็นบุรุษที่สองหมายถึงเขา และตัวสวยคำที่สองเป็นบุรุษที่สามหมายถึงตุ๊กตาสินะ

                “ก็ยิ้มตลอด”

                “ไม่จริงหรอก ไม่เชื่อตัวสวยลองถามมันสิ”

                “เห?” แจจุงทำหน้างงๆ

                “บอกให้ถามก็ถามเหอะน่า” ตัวหล่อจะเล่นอะไรเขาก็ยังไม่เข้าใจนักหรอก แต่ถ้าจะให้ถามก็ถามได้ แจจุงอมยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าลงไปจ้องตากับตุ๊กตาตัวน้อยในมือของคนที่ตำแหน่งเป็นถึงแฟนของเขาเอง แล้วทำท่าเหมือนกำลังพูดคุยกับตุ๊กตาตัวน้อยตัวนั้น

                “ตัวสวย ... ชอบให้พี่ยุนโฮเลี้ยงเหรอ”

                ยุนโฮที่ทำหน้ามุ่ยอยู่รีบยื่นตุ๊กตามาจ้องหน้าแจจุงกลับ ก่อนจะเอานิ้วชี้กดหัวมันให้พยักหน้าหงึกหงัก

                แน่ะ ดูทำ!

                แจจุงอมยิ้มออกมาอีก ก่อนจะเล่นกลับอีก “ตัวสวยไม่อยากให้พี่แทคยอนเลี้ยงหรอ หล่อน้า ใจดีด้วย มีคนหล่อๆ ใจดีๆ กว่าพี่ยุนโฮอีกตั้งเยอะนะ”

                คราวนี้ยุนโฮทำหน้ามุ่ยหนัก เขารีบดึงตัวสวยกลับมา ก้มลงไปคุ้ยอะไรในกระเป๋านักเรียนอยู่ซักพัก นั่งเขียนอะไรบางอย่างใต้โต๊ะที่แจจุงเห็นแล้วก็ได้แต่เอียงคองงด้วยความสงสัย ก่อนยุนโฮจะค่อยๆ หยิบตุ๊กตาตัวน้อยออกมาอีกครั้ง

                พร้อมกับภาพที่ทำให้แจจุงอ้าปากค้าง พลางอมยิ้มจนปวดแก้มไปหมด

     

     

     

                ตุ๊กตาตัวสวยกลับมาจ้องหน้าแจจุงอีกครั้ง พร้อมกับใบหน้านองน้ำตาและริมฝีปากบึ้งตึง

                ก็หน้าบึ้งคล้ายๆ กับพี่ยุนโฮตอนนี้ ต่างกันตรงที่ตัวสวยตัวน้อยร้องไห้ซะด้วย

     

                ช่างคิดซะจริง แฟนใครเนี่ย!

     

                มันเป็นโพสอิทสีเหลืองใบเล็กๆ ที่ยุนโฮพกติดตัวไว้ใช้ตอนเรียน โพสอิทแบบเดียวกับที่ยุนโฮใช้ง้อแจจุงที่ห้องสมุด ที่บัดนี้มันมีลายแปลกๆ เขียนอยู่เต็มไปหมด และเมื่อถูกเอามาทาบติดกับใบหน้าของตุ๊กตา ก็กลับกลายเป็นว่าตัวสวยร้องไห้ไปซะได้

                “เห็นรึเปล่า ตัวสวยทำตัวสวยร้องไห้เลย นิสัยไม่ดี”

                “อ่า...” จะว่ายังไงดีล่ะ จะว่าขำก็ขำ แต่จะว่าเขินก็เขิน ให้ตายสิ พี่ยุนโฮจะทำแจจุงระเบิดตัวตายวันละหลายรอบก็เพราะแบบนี้ทุกที!

                “ตัวสวยอยากอยู่กับพี่ยุนโฮใช่มั้ยครับ” คราวนี้ยุนโฮหันไปจ้องหน้ากับตุ๊กตาในมือเอง พูดกับมัน ก่อนจะเอานิ้วชี้กดหัวมันเองอีกต่างหาก เขาเก็บตุ๊กตาลงไปใต้โต๊ะ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะหยิบออกมาให้แจจุงดูอีกครั้งพร้อมกระดาษโพสอิทที่หายไปแล้ว

                “เห็นป่ะ ตัวสวยยิ้มแล้ว”

     

              งื้อออออออออออออออออออออออออออออออออ พี่ยุนโฮ บ้า บ้า บ้า

                เขินตัวจะระเบิดตายอยู่แล้วนะรู้ไหม

                ไอ้ตุ๊กตาน่ะไม่เท่าไหร่หรอก

              แต่ไอ้ที่พูด “ครับ” เนี่ยสิ !!!!!

              โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย > ////////////////////// <

                พี่ยุนฮคนบ้า บ้าที่สุดเลย !!!

     

               

                ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว แต่ให้ตายเถอะยังไงแจจุงก็ยังไม่ชิน

                ถ้าตราบใดที่ชองยุนโฮยังคงไม่เลิกทำตัวเป็นมนุษย์ดาวอังคารที่ทั้งบ้าและน่ารักที่สุดในโลกแบบนี้!

               

                แก้มขาวๆ พองออกก่อนจะระเรื่อเป็นสีแดงจัด มันแดงมากๆ จนยุนโฮตกใจ เขาทำตาโตก่อนจะหันมาถามแจจุงด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “เฮ้อ ตัวสวย เป็นอะไรรึเปล่า ร้อนเหรอ”

                “เปล่าสักหน่อย” งื้อ...ก็เพราะตัวเองนั่นแหละ มาทำไม่รู้ตัวอีก

                “ปวดหัว หรือว่าตัวร้อนรึเปล่า?” มือใหญ่รีบยื่นไปแตะหน้าผากและแก้มนุ่มทันทีตามสัญาชาตญาณ ซึ่งแจจุงก็ได้แต่ก้มหน้าลงไปดูดน้ำในแก้วเงียบๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “พี่ยุนโฮเปิดเทอมมาที่ห้องมีเด็กเข้าใหม่หรือเปล่า”
                “ถามอะไรยากจังตัวสวย” เขาว่า ก่อนจะกลอกตา “ไม่รู้อ่ะ นึกไม่ออก”

     

                - -

     

                “แจจุงคิดผิดเองแหละที่จะถามพี่ยุนโฮ” ตัวสวยว่า “ปีนี้พี่ยุนโฮเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียนแล้วเนอะ เร็วจัง แป็บๆ ก็ผ่านไปปีนึงแล้ว – แจจุงอยากรู้จังว่าใครจะได้เป็นประธานนักเรียน”

                “ทำไมถึงอยากรู้นัก”

                “ก็แจจุงต้องทำงานกับเขานี่” ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ ก่อนจะหันไปบรรยายสรรพคุณของความยิ่งใหญ่ของตำแหน่งประธานนักเรียนให้ตัวหล่อฟัง “ประธานนักเรียนอ่ะเจ๋งนะ เพราะคนที่จะเป็นได้น่ะ ต้องทั้งเก่งแล้วก็จิตใจดีมากๆ ด้วย งานนี้น่ะทั้งหนักทั้งเหนื่อย จะทำอะไรก็ต้องเสียสละเพื่อคนอื่นตลอด เหมือนพระราชาที่ปกครองนักเรียนเลยล่ะ”

                “พระราชาเลยเหรอ”

                “อื้อ แต่แจจุงคิดว่าถ้าไม่มีใครลง พี่จียองก็คงจะได้เป็นประธานอ่ะแหละ ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่แจจุงก็คิดว่ามันโอเคนะ”

                “ตัวสวยอยากให้พี่เป็นเหรอ ไอ้ประธานนักเรียนเนี่ย?” ยุนโฮลองหยั่งเชิงถาม แต่ก็ได้คำตอบเป็นเพียงการส่ายหน้าของแจจุงเท่านั้น “ไม่อยากหรอก แค่ถามไปอย่างนั้นเอง พี่ยุนโฮน่ะสนใจเรื่องของคนอื่นน้อยเกินไป คนที่จะดูแลคนอื่นได้น่ะ เราต้องสนใจเรื่องของเขาเยอะๆ ตำแหน่งประธานนักเรียนก็เหมือนกัน แล้วก็อย่างที่ว่า พี่ยุนโฮต้องหัวหมุนตายแน่ เพราะตำแหน่งเนี่ย งานเยอะสุด เรื่องที่เราจะไปกินนู่นกินนี่ เที่ยวกันตอนเย็นๆ แบบนี้อ่ะ ลืมไปได้เลย”

                “งั้นเหรอ แต่พี่ว่าพี่เป็นประธานของตัวสวยได้นะ”

                “หืม? ประธานของตัวสวยคืออะไร?” แจจุงทำหน้างง อะไรของพี่ยุนโฮอีกเนี่ย

                “ก็ประธานนักเรียนต้องดูแลนักเรียน แล้วก็สนใจนักเรียนเยอะๆ ไม่ใช่เหรอ” แจจุงพยักหน้า ก่อนยุนโฮจะว่า “งั้นพี่ก็เป็นประธานของตัวสวยได้ไง เพราะพี่ชอบดูแลตัวสวย แล้วก็สนใจตัวสวยมากๆ ด้วย”

     

              อ๊ากกกกกกกกกก ชองยุนโฮ !!!!!!!

     

                สิ้นคำนั้นแจจุงแค่รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจะเป็นบ้า

     

              “พี่ยุนโฮ...กินหมดแล้วเรา..เอ่อ กลับบ้านกันเถอะ”

                “หือ? ตัวสวยรีบเหรอ”

                “ก็ ...พอดีมีการบ้านนิดหน่อย”

                “อื้ม” เขาก้มลงมองนาฬิกา – จะสามทุ่มแล้ว วันนี้ชองยุนโฮต้องรีบกลับไปเล่นอินเตอร์เน็ตเหมือนกัน

     

                ว่าแล้วก็เดินออกไปจ่ายตังค์แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้รู้อะไรเลยสักนิดว่าคนที่ชวนจะกลับบ้านน่ะ หน้าแดงแจ๋ไปหมดแค่ไหน คิมแจจุงหยิบตุ๊กตาตัวสีเขียวของตัวเองในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาทันที ก่อนจะใช้ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปที่หน้าบึ้งๆ นั้น

                “คนบ้า!

     

                ถึงจะบ่นเบาๆ แต่ก็แน่นอนว่าคนที่เป็นตัวตายตัวแทนของเจ้าตุ๊กตานั่นได้ยินชัดเต็มสองหู ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงทันที ก่อนจะหันหน้ามาว่า “บ้าที่ไหน ถ้าบ้าจะเลี้ยงตัวสวยได้ไงล่ะ”

             

                ให้ตายสิ นี่เขาต้องระเบิดตัวตายแบบนี้ไปอีกตลอดทั้งปีเลยหรือเปล่านะ

              โอ้ยยยยยยยยยยยย เขิน เขินไม่ไหวแล้วอ๊า

     

               งื้อออออออออออออออ

     

     

                  fin. (to be continued in XIII)



    - - - - - - -


    TALK :


    สวัสดีค่ะท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ' _ '

    มีอะไรอยากทอล์คเยอะนะ แต่คิดไม่ออก เอาเป็นว่าเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมที่วุ่นวายในขณะนี้
    แทฮวาชินก็เลยเลื่อนเปิดเทอมให้เร็วขึ้น = _ = งื่ออออ ยังไม่ได้สอบเอนท์เลยค่ะ ,, ก็คงลงไปเรื่อยๆ
    ไม่รู้จะไปดองช่วงไหนนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามใน เทอม1-2 มากเลยค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้า

    (ตัวสวยทำสีขนใหม่แล้ว จริงๆ คิดว่าจะทองกว่าในรูปหน่อยนะคะ)

    #วันนี้ 11/11/11 ฤกษ์ดีเปิดเทอม ใครมาเรียนบ้างเอ่ยยยย? เอิ้กๆ
    #พูดคุยติดตาม @Kyokoongbank โฟ่ทั้งวัน 24 ชม. = _ =

    PS : ตอนหน้ามี NC (?????)


    เพิ่มเติมสำหรับทอล์คในเด็กดี


    ตอนนี้เพื่อนๆ ที่ไม่มียูสใน TVXQFic สามารถมาอ่านตัวสวยฯ ได้ที่เด็กดีนะคะ
    แบงค์ไม่ได้อัพในบล็อค เพราะว่าจะเอาบล็อคไว้ลงช็อตฟิคอ่ะค่ะ
    แต่ถ้าแต่งจบแล้วจะทำไฟล์ให้ดาวน์โหลดที่บล็อคเหมือนเดิม :D

    แล้วก็ตอนนี่้เด็กดีอัพเท่ากับที่บอร์ดแล้วนะคะ
    แต่จะช้ากว่าประมาณ 2 ชั่วโมง | เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^


    "


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×