ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -(: ตัวสวย – ตัวหล่อ :)- [YUNJAE]

    ลำดับตอนที่ #32 : Part [13.] : ภาคปฏิบัติขั้นเชี่ยวชาญ 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.55K
      9
      30 พ.ย. 54

               


     -(: ตัวสวย - ตัวหล่อ :)-

    ภาคปฏิบัติขั้นเชี่ยวชาญ 3 :P




    NOTE : *ก่อนอ่านพาร์ทนี้ ต้องไปอินฟิคกับชองยุนโฮเรื่อง
    JAEJOONG ACCOUNT 」::  http://kyokoong.exteen.com/20111130/12300-jaejoong-account-12301 มาก่อนค่ะ : ) (จิ้มลิ้งค์ได้เลย)*





    อิมซูจองเป็นเด็กมัธยมปลายปีหนึ่งเข้าใหม่ที่สอบเข้ามาได้เป็นอันดับที่สอง

                เธอเป็นเด็กผู้หญิงร่างเล็กที่มีใบหน้าน่ารักโดดเด่นกว่าเด็กใหม่คนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน และด้วยประวัติการศึกษาที่ยอดเยี่ยมกับครอบครัวที่มีชื่อเสียงในฐานะลูกนักธุรกิจเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศ จึงไม่แปลกที่ชื่อของเธอจะเป็นที่รู้จักในเวลาเพียงไม่นานตั้งแต่ได้เข้าแทฮวาชินมา

                ปาร์คจียองไปแนะนำให้เธอเข้ามาร่วมงานกรรมการนักเรียนทันทีในวันแรกที่เปิดเทอม และซูจองเองดูจะตื่นเต้นกับอะไรหลายๆ อย่างของโรงเรียนในฝันของเธอตั้งแต่เด็กแห่งนี้ไม่ใช่น้อย ตั้งแต่บรรยากาศที่กว้างขวาง สังคมนักเรียนที่ดูมีคุณภาพและมีรสนิยม แม้กระทั่งครูอาจารย์และบุคลากรคนอื่นๆ ด้วยก็เช่นกัน ด้วยความที่ถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนูหากแต่ไม่เอาแต่ใจ ซูจองจึงเป็นที่น่ารักและเข้ากับใครๆ ได้ง่าย และด้วยภาพลักษณ์ที่ทั้งสวยและฉลาดนั้น ทำให้เธอก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกรรมการนักเรียนได้โดยไม่ยากเย็น

                หากแต่ภายใต้ใบหน้าที่แสนน่ารักไร้เดียงสานั้น ใครจะรู้ว่าจิตใจที่แสนซับซ้อนของเธอเป็นอย่างไร

                อิมซูจองเป็นเด็กที่มีความทะเยอะทะยานสูงมากจนน่ากลัว

                มันไม่ใช่นิสัยที่ไม่ดี หากแต่เมื่อมีมากเกินก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ซูจองเป็นมาตั้งแต่เด็ก หากแต่มันค่อยๆ ซึมซับเข้ามาในทุกวันที่เธอเติบโตขึ้น ทุกครั้งที่เธอสอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียน ทุกครั้งที่แข่งขันบัลเล่ต์ได้อันดับหนึ่งของประเทศ ทุกสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันรอบตัวเธอกำลังปลูกฝังความทะเยอะทะยานอย่างสูงส่งลงไปในตัวเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งโดยที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีสิ่งใดที่ซูจองอยากได้แล้วไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดที่เธออยากเป็นแล้วไม่ได้เป็น

                และถึงแม้บางอย่างเธอไม่มีความสามารถคู่ควรเหมาะสม เธอก็รู้ว่าความพยายามจะทำให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จได้

                โดยที่ไม่รู้เลยว่าความต้องการอันรุนแรงนั้นไม่ได้เรียกว่า ความพยายาม แต่มันคือสิ่งที่เรียกว่า ความทะเยอทะยาน ต่างหาก

                ตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสอบไม่ได้ที่หนึ่ง

                ซูจองแปลกใจนิดหน่อย แม้จะเป็นแค่ผลคะแนนสอบเข้า แต่เธอก็ยังจะอยากเห็นหน้าคนที่ชื่อ ปาร์คฮยอนชอลที่มันอยู่บนชื่อของเธอเหมือนกันว่าเป็นใครกันแน่ จนในที่สุดเธอก็ได้พบเขา เราเรียนอยู่ห้องเดียวกัน และซูจองรู้สึกไม่ถูกชะตาเท่าไหร่นักกับสายตาเย็นชาที่เหมือนจะไม่แคร์ใครทั้งโลกของเด็กผู้ชายที่หน้าเหมือนผู้หญิงคนนั้น

                เหอะ ปาร์คฮยอนชอลงั้นเหรอ มันจะซักเท่าไหร่กันเชียวล่ะ

                เพิ่งเข้ามาอยู่ในโรงเรียนได้ไม่นาน แต่ซูจองก็พบกับเป้าหมายแรกของเธอแล้ว

                เธอจะต้องเอาชนะปาร์คฮยอนชอลให้ได้

             

                นอกจากเรื่องของฮยอนชอลแล้ว แทฮวาชินก็ยังมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นอีกหลายอย่าง

                รุ่นพี่จียองที่เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ คนหนึ่งเท่าที่เธอเคยพบ ทั้งดูใจดีและมีมนุษยสัมพันธ์ แต่ไม่น่าเชื่อตรงที่เธอได้ยินมาจากคนอื่นๆ ว่าเธอคือพี่สาวแท้ๆ ของฮยอนชอลผู้เย็นชาคนนั้น  ในคณะกรรมการนักเรียน มีงานหลายส่วนที่เธอต้องได้รับการฝึกฝนก่อนจะเป็นคนรับผิดชอบ ทั้งแทนในสวนของพวกปีสามที่ออกไปและปีสองที่ขึ้นรับหน้าที่แทน และที่นั่น ซูจองจึงได้รู้จักกับคิมแจจุง รุ่นพี่ปีสองที่ดูจะโดดเด่นที่สุดในบรรดาทุกคน

                รุ่นพี่แสนใจดีที่ปาร์คจียองพามาแนะนำให้เธอรู้จัก ในฐานะ คนช่วยสอนงานของอิมซูจอง

                วินาทีที่ได้พบคิมแจจุงเป็นครั้งแรก ซูจองรู้สึกอะไรหลายๆ อย่างกับเขาในทันที อาจจะชื่นชม ปลาบปลื้ม สนใจ หรือแม้แต่อิจฉา

                แจจุงเป็นผู้ชายที่สวยมาก สวยมากและอาจจะสวยกว่าผู้หญิงแท้ๆ ทุกคนในโรงเรียน ดวงตาเขากลมโต ผิวขาวสุขภาพดีที่สุดอย่างที่ใครหลายคนเห็นแล้วต้องอิจฉา เขาสูงเหมือนกัน แต่ก็ดูบอบบางไปมากเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ผู้ชายคนอื่นที่ทั้งบึกบึนและมีผิวสีคร้ามแดด แจจุงน่ารัก อัธยาศัยดีและเป็นกันเอง และซูจองรู้สึกได้ในทันทีว่าเขาคือจุดศูนย์กลางความรักของทุกคนที่นี่

              หรืออาจจะเป็นแม้แต่ศูนย์กลางความรักของคนส่วนใหญ่ในโรงเรียนนี้

                ไม่มีซักคนที่ไม่ชอบคิมแจจุง ในขณะเดียวกัน ทุกสายตากลับมองเขาด้วยความเอ็นดูรักใคร่ และนั่นทำให้ซูจองเห็นสิ่งที่เขามีแต่เธอไม่มีได้อย่างชัดเจน  ต่อหน้าทุกคน ดวงตากลมโตของเด็กหญิงได้แต่เฝ้ามองรุ่นพี่คนสวยด้วยสายตาปลาบปลื้มชื่นชม เธอเป็นเด็กดีของแจจุง เป็นรุ่นน้องที่เรียบร้อยเชื่อฟังจนแจจุงเอ็นดูเธอมาก หากแต่ภายใต้ท่าทีเคารพรุ่นพี่เหล่านั้น ซูจองยอมรับว่าเธออิจฉาคนๆ นี้มากนัก

     

                หากแต่สุดท้าย

                ก็ไม่มีอะไรสำคัญและฉุดหัวใจของเธอให้ดำดิ่งสู่ความทะเยอะทะยานขั้นสูงสุดได้มากเท่า เขา

               

                ในทุกๆ วันที่เธอเริ่มใช้ชีวิตในแทฮวาชิน มีเรื่องมากมายให้อิมซูจองต้องคิด หนึ่งในประเด็นหรือบุคคลที่น่าสนใจอีกหนึ่งคนก็คือชองยุนโฮ ชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดในบรรดานักเรียน ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าน่าสนใจและฮ็อตที่สุด ในทีแรกซูจองแค่อยากเห็นเขา อยากเห็นว่ามันสมองของแทฮวาชิน ผู้ชายที่เพอร์เฟ็คในทุกเรื่องราวกับเดินออกมาจากโลกแห่งความฝันที่ว่านั้นเป็นคนยังไง ว่ากันว่าชองยุนโฮเป็นคนที่สังคมแคบมาก แม้เขาจะหล่อเหลา แต่ก็ทั้งดุและเย็นชา แถมยังหาตัวยากยิ่งกว่านินจา และนั่นทำให้ทุกอย่างน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

                การพบกันอย่างบังเอิญครั้งแรกของซูจองและยุนโฮเกิดขึ้นในวันที่เธอกำลังขนเอกสารที่เตรียมเสร็จแล้วไปให้อาจารย์ที่ภาควิชาเคมี

                เธอชนร่างสูงของใครบางคนอย่างแรงจนเอกสารหล่นเละเทะไปหมด เขาคนนั้นช่วยเธอเก็บของและมอบผ้าเช็ดหน้าให้หนึ่งผืนแทนคำขอโทษที่ทำเครื่องดื่มหกรดใส่เสื้อของเธอ และในวินาทีที่สบตากับเขา ซูจองก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาคือชองยุนโฮ

     

              ผู้ชายเย็นชาที่ทำให้เธอหลงตกหลุมรักเข้าอย่างจัง

               

                และเป้าหมายใหญ่ที่สำคัญเสียยิ่งกว่าการเอาชนะปาร์คฮยอนชอล

                อิมซูจองพบว่าเธอจะต้องทำให้เขาเป็นของเธอให้ได้

     

     

               

     

                “อะไรนะ ปีสามจะต้องไปเป็นพี่เลี้ยงด้วยเหรอ?”

                สามสหายประสานเสียงกันลั่น ในขณะที่ได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบจากหัวหน้าห้องคนสวย “อืม จริงๆ พวกอาจารย์แนะนำว่าให้ห้องเราไปกันทุกคนเพราะเป็นห้องคิงนะ แต่ฉันก็พอจะเข้าใจอยู่ว่าเพื่อนของพวกนายคงไม่อยากไป ถ้าเหลือทนจริงๆ ฉันจะไปคุยกับอาจารย์ให้ก็ได้ว่ายุนโฮไม่ต้องไป” จียองว่า และคำพูดนั้นทำให้ลีมินโฮ ชองยงฮวา และปาร์คยูชอนสลด – ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นคนที่หวังดีกับเพื่อนของเขาเสมอ

                แต่ให้ทำไงได้ล่ะ เรื่องของหัวใจมันห้ามกันได้ที่ไหน

                “เอ่อ ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องลำบากเธอหรอก ไอ้ยุนโฮมันไปอยู่แล้ว” ยงฮวาตอบ ในขณะที่อีกสองคนพยักหน้าหงึกหงัก

                “เห? ยุนโฮน่ะเหรอจะไป” จียองถาม เอียงสงสัยด้วยความไม่เข้าใจ – คนอย่างยุนโฮนี่ยนะ?

                “พวกฉันก็ยังไม่ชัวร์หรอก แต่ค่ายเนี่ยบังคับปีสองไปไง ....” มินโฮละไว้ในฐานที่เข้าใจ “เธอคงเข้าใจนะ”

                จียองนึกภาพตาม ก่อนใบหน้าของรุ่นน้องคนสวยจะลอยเข้ามา “อ๋อ เพราะแจจุงน่ะเหรอ”

                “เอ่อ”

                “ว่า?”

                “เธอเป็นไรปะ?” ยูชอนหยั่งเชิง อย่างไรเขาก็ยังไม่แน่ใจในตัวเพื่อนคนนี้ว่าทำใจเรื่องยุนโฮได้แล้วจริงๆ เหรอ ในขณะที่จียองยิ้มให้ “เรื่องยุนโฮน่ะเหรอ? ช่างมันเถอะ พวกนายไม่ต้องเกรงกันขนาดนั้นก็ได้ กับแจจุงฉันก็รักเขาเป็นน้องเหมือนกันนั่นแหละ เรื่องอกหักมันช่วยไม่ได้นี่นา” ยิ้มเศร้าๆ

                สามสหายพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจียองจะเข้าเรื่องต่อ

                “แต่ก็โอเค ถ้ายุนโฮจะไปจริงๆ พวกนายก็คงต้องช่วยหมอนั่นหน่อยนะ เพราะค่ายนี้เล่นพิเรนทร์เยอะแน่”

                “ชัวร์แหละ” เพราะมีพวกฉันไปด้วยไง –เพื่อนปาร์ค เพื่อนลี และเพื่อนชองคิดในใจ

                “เดี๋ยวฉันจะเอาตารางกิจกรรมมาให้ รอปรับตัวเรื่องเปิดเทอมสักหน่อย เดี๋ยวก็คงกำหนดวันแล้วล่ะ ฝากด้วยละกัน ปีสามแล้ว ฉันหวังว่าพวกนายจะไม่ทำให้เสียงานหรอกนะ”

                ว่าจบก็เดินออกไป ในขณะที่สามสหายได้แต่ถอนหายใจกันยกใหญ่ “เฮ้อ มีงานอีก แล้วนี่ปกติไปค่ายนี่เค้าทำไรกันมั่งวะ กูจะรอดมั้ยเนี่ย”

                “รอดดิ งานนี้สาวๆ น่ารักอื้อ แซวเด็กกันมันส์แหละมึง” ชองยงฮวาผู้เจนจัดในเรื่องของงานค่ายว่าให้กำลังใจ

                “เออ ไอ้ยงฮวา มึงไปค่ายนู่นนี่บ่อยนี่หว่า ปกติเค้าทำไรกันมั่งอ่ะ” มินโฮหันไปถาม ตามประสาคนเคยแต่ร่วมค่ายแต่ไม่เคยคุม ยอมรับตรงๆ ว่าพอต้องมาเป็นพี่ใหญ่แล้วดูแลน้องนู่นนี่ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาเคยเห็นพวกรุ่นพี่ดูแลตัวเองตอนเด็กๆ เลย

                “ก็เยอะนะ ส่วนใหญ่ก็เล่นเกม เข้าฐาน แต่รายละเอียดไม่รู้ว่ะ คงต้องรอลุ้น”

                “ค่ายเรานี่ค่ายใหญ่เลยปะ”

                “ใหญ่นะ แถมปกติเค้าจะรับสมัครเด็กนอกสายที่อยากไปศึกษางานให้ไปเพิ่มได้อีกประมาณห้าสิบคนนะถ้ากูจำไม่ผิด เบ็ดเสร็จก็สี่-ห้าร้อยคนได้ ซึ่งเชื่อขนมกินได้เลยว่าถ้าไอ้ยุนโฮไปค่าย ขี้คร้านพวกผู้หญิงกับเด็กในสายเราจะแห่ไปกันหมดโรงเรียน”

                “เออ จริงด้วยว่ะ”

                “งานบิ๊กละ มึงว่าไอ้ยุนโฮจะเอาตัวรอดมั้ย”

                “กูว่างานนี้ไอ้ยุนโฮตายแน่”

                “ไม่เหลือว่ะ”

     

                เพื่อนลี เพื่อนชอง และเพื่อนปาร์คมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเพลียๆ

     

                .....

     

     

              ผมเหม่อมองเขาได้ไม่ถึงห้าวินาที เขาก็เดินตรงเข้ามาหา

              โอ๊ะ เขาอุ้มผมขึ้นมาซะแล้ว นี่ตัวผมเบาหรือแรงเขาเยอะกันแน่นะ

              ซักพักเขาก็เดินไปนั่งที่เตียง ยุนโฮจับผมนั่งหันเข้าหากันบนตัก ให้ตายสิ ผมรู้สึกอายจังที่ต้องคร่อมขาบนตักเขาแบบนี้ ท่ามันค่อนข้างอันตรายทีเดียว ตอนนี้ผู้ชายของพวกคุณเหมือนคนเมาเลย เขาเป็นอะไรก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็เอาหน้ามาซุกซอกคอผม อ๊ะ ตอนนี้ปากหยักๆ ที่พวกคุณตกหลุมรักนั้นดูดเนื้ออ่อนตรงคอผมอย่างแรงเลยล่ะ ให้ตายสิ ตอนนี้ผมกำลังหวิวได้ที่เลย ก็ยุนโฮของพวกคุณน่ะฟอนฟัดผมราวกับตุ๊กตาตัวนุ่มที่เด็กๆ ชอบเลย ในขณะที่ผมก็ได้แต่นั่งนิ่งๆ อยู่แบบนั้น อา พวกคุณอย่าโกรธเคืองผมเลย ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนสักหน่อย

             

              เจ้าของดวงตากลมโตพูดประโยคพวกนั้นออกมาด้วยท่าทีแม่เสือสาว ในขณะที่มองเขาด้วยแววตาแสนยั่วยวน

                บรรยายบทรักด้วยวาจาเสียดสี หากแต่ทำเป็นเอียงอายน่ารักทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย

                คิมแจจุง ผู้ที่นอนเสพสุขกับผมในทุกค่ำคืน

                อา

                สิ่งมีชีวิตที่ดูช่างไร้เดียงสา หากแต่กลับมีลีลาบนเตียงที่แสนจะเซ็กซี่

                .

                .

              คิมแจจุง

                ตัวสวยของเขาเอง

                .

                .

                สัด! มึงคิดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยชองยุนโฮ!!! !~#@#@!@#$@!

     

              ใบหน้าหล่อๆ รู้สึกเหมือนชาไปทั้งแถบในตอนที่รู้สึกตัว แม้จะยังเบลอๆ อยู่นิดหน่อยแต่ยุนโฮก็รู้สึกได้ในทันทีว่าเขาคงจะกลับสู่โลกความเป็นจริงแล้ว เขาแน่ใจว่าตอนนี้หน้าตัวเองคงจะกำลังขึ้นสีแดงจัด ก็มันร้อนซะขนาดนี้นี่ มือใหญ่ยกขึ้นลูบหน้า พลางในใจนึกก่นด่าตัวเองที่เกิดความคิดทุเรศๆ ขึ้นมาได้หลังจากผละออกมาจากการอ่านนิยายเรื่องล่าสุดจบ

                คิมแจจุง ตัวสวยในคราบนักร้องนำศิลปินกลุ่มชื่อดังกับเขาผู้เป็นชายคนรัก

                ในความเป็นจริงยุนโฮรู้จักวงนักร้องนั่นเหมือนกัน  จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าสองในสมาชิกนั้นหน้าคล้ายๆ เขากับตัวสวยเลย  แต่จะยังไงก็ช่างมันเหอะ ในเมื่อเขาจินตนาการอะไรไม่ออกเลยนอกจากหน้าตัวเองกับตัวสวยที่กำลังเริงรักกันอยู่ในห้องมืดๆ ตอนนั้น

                ตัวสวยผู้แสนเรียบร้อยไร้เดียงสา ที่บรรยายฉากอย่างว่าของเราด้วยน้ำเสียงมั่นใจที่แสนจะเซ็กซี่

                อึ้ย อึ้ย อึ้ย

                แค่คิดหน้าชองยุนโฮก็แทบจะร้อนเป็นไฟ

                เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในขณะที่คิดได้ว่าเหตุการณ์พวกนั้นเป็นแค่เรื่องแต่งไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย ก็ตัวสวยแสนน่ารักของเขายังนั่งทำการบ้านหน้ามุ่ย งุ้งงิ้งอยู่ตรงนี้เลยนี่นา แล้วแม่เสือสาวคนนั้นจะมาจากไหนได้ล่ะ

                ฟุ้งซ่านจริงๆ ชองยุนโฮ

                สะบัดใบหน้าหล่อๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าบอคอแตกนั้นออกไปจากหัว ความจริงจะช่วยให้เขาเลิกบ้าได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มีแค่ห้องธรรมดาๆ กับตัวหล่อและตัวสวยที่ใช้เวลาช่วงวันหยุดด้วยกันอย่างเรียบง่ายเท่านั้น

                เขานึก

                 และในขณะที่ปลายนิ้วยาวเตรียมจะขยับเม้าส์เพื่อหาอะไรอย่างอื่นทำต่อบ้างนั้นเอง สัมผัสที่แตะลงบนไหล่พร้อมกับเสียงหวานๆ ที่ดังกระซิบข้างหูนั้นก็ทำให้เขาต้องสะดุ้ง

                “ตัวหล่อ...เล่นอะไรอยู่เหรอ”

                “...ละเล่นคอมฯ ดิ ตัวสวย ทำไรเนี่ย ไปทำการบ้านไป” เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก ในขณะที่ภาพที่พยายามลืม กับสติที่พยายามตั้งเริ่มกระเจิงอีกรอบ

     

              สองต่อสอง – ห้องแคบๆ - แม่เสือสาว – เก้าอี้

     

                เหี้ยแล้ว เหี้ยแล้ววว

                ภาพจินตนาการที่ชัดเจนแบบ 4D กำลังล่องลอยกลับมาในหัวของยุนโฮอีกครั้ง

                แจจุงทำเสียงอ้อนเขา บวกกับใบหน้าเศร้าๆ ที่ทำเอาตัวหล่อใจตกไปอยู่ตาตุ่ม ก็รู้อยู่หรอกว่าเก็บคะแนนน่ะก็แค่เอาปากมาชนกันเท่านั้นเอง แถมตอนปิดเทอมก็ทำกันออกบ่อย แต่ก็นั่นแหละที่เป็นปัญหา ยิ่งคะแนนเยอะขึ้น อะไรๆ มันก็ยิ่งชักจะไปกันใหญ่ขึ้นทุกที ยุนโฮยังจำได้ดี ครั้งสุดท้ายที่เขาได้หกคะแนนน่ะ

                ตัวสวยของเขาปากบวมไปเป็นวันเลยล่ะ

                ประเด็นที่สำคัญเลยก็คือ ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เสี่ยงมาก บรรยากาศที่พร้อมปฏิบัติสุดๆ กับคิมแจจุงที่ยั่วหนักเหมือนในฟิคไม่มีผิด ให้ตายสิ ตั้งแต่เกิดมา ยุนโฮไม่เคยรู้สึกว่าเขาต้องเจออะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากขนาดนี้มาก่อนเลย

                “ก็ไหนว่าแค่เอาปากมาชนกัน เฮอะ คนใจร้าย”

                “.....เอ่อออ....”

                “ไม่ต้องมาจับแจจุงหรอก เดี๋ยวแจจุงจะไปทำการบ้านต่อแล้ว ก็พี่ยุนโฮอ่ะ...อื้อออ.......”

               

                และในที่สุด น้ำเสียงที่ตัดพ้อนั้นเองที่ทำให้รุ่นพี่ผู้อัจฉริยะลืมทุกสิ่ง

     

                มือใหญ่เชยคางมนให้เข้ามารับสัมผัสแสนอ่อนโยนแทนคำตอบรับในทันที ปลายนิ้วเรียวเป็นข้อขยับแนบไปตามสันคางได้รูปของคนที่อยู่บนตักแผ่วเบา กลีบปากอิ่มดูดดึงปากกลมเบาๆ อย่างไม่ให้คนตัวเล็กทันตั้งตัว ดวงตากลมโตเบิกกว้างในทีแรก ก่อนจะปรือในวินาทีต่อมาเมื่อรสจูบแสนหอมหวานดำเนินต่อไป

                เสียงหอบหายใจเบาๆ ดังลอดออกมาในตอนที่ยุนโฮจูบแจจุงแรงขึ้น ริมฝีปากบางอ้าเผยอ ในขณะที่ส่งลิ้นเล็กๆ มาแตะกับปลายลิ้นอุ่นที่ดูไม่แน่ใจเท่าไหร่ของคนตรงหน้า คนสวยผู้เป็นทั้งสิ่งมีชีวิตในความดูแลและอาจารย์ในเวลาเดียวกันเบี่ยงองศาใบหน้า ก่อนจะขยับกลีบปากตัวเองเป็นฝ่ายรุกรุ่นพี่ด้วยตัวเอง มือเล็กยกขึ้นเกาะไหล่หนาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมันเข้าแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกอดคอ

                ราวสองนาที ในที่สุดเขาก็ผละใบหน้าออกมาแล้วกระซิบที่ข้างหูคนที่กำลังเริ่มเบลอด้วยน้ำเสียงแสนเซ็กซี่ “เจ็ดคะแนนแล้วนะ...เก่งมากเลย”

                “.....” ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูจะมึนไปหมดแล้วหันมาจ้องตากับคนที่นั่งวางขาข้างๆ บนตักเขา อาจจะต้องการถามว่าแล้วจะให้เอายังไงต่อ ในขณะที่แจจุงอมยิ้ม เอาปลายนิ้วนุ่มจิ้มไปเบาๆ ตรงรอยแยกเล็กๆ บนริมฝีปากได้รูป ก่อนจะเอียงคอ ทำท่าทีใสซื่อแล้วตอบ

                “แจจุงว่าวันนี้เราสอบเก็บให้ครบสิบคะแนนกันเลยดีกว่า...”

                และไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเพราะชองยุนโฮอินฟิค หรือความต้องการส่วนตัวของเขาเอง หากแต่เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ทุกอย่างดำเนินต่อไป แน่นอนว่ามีอยู่เพียงสิ่งเดียว

                ไม่มีอะไรที่ชองยุนโฮจะขัดใจคิมแจจุงได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว

     

                ...

     

                มือเล็กเลื่อนมาจับโครงหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง ก่อนจะดึงเข้ามารับรสจูบอันหนักหน่วงในบทต่อไป ยุนโฮสะดุ้งเมื่อรู้สึกได้ถึงเรียวขาขาวที่ขยับย้ายจากการนั่งข้างมาเป็นการนั่งคร่อมตักเขาแทน จิตใต้สำนึกส่วนลึกเริ่มสั่งยุนโฮให้เลื่อนมือไปกอดเอวบางๆ นั้นเอาไว้ แจจุงตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไป จนในที่สุดเมื่อการล้อเล่นเกินจุดที่ควบคุมได้ของอารมณ์ไป เมื่อนั้นเองที่ตัวสวยแสนเซ็กซี่คนนั้นเริ่มรู้ตัวว่ากำลังเล่นอะไรที่ไม่เข้าท่าเสียแล้ว

                ริมฝีปากอิ่มพยายามละออกมา ในขณะที่ยุนโฮยิ่งดึงดันจะจูบเขาต่อไม่หยุด และจากจูบที่หยอกล้อกันเล่นๆ ก็ชักจะลึกซึ้งมากขึ้นทุกทีจนแจจุงหายใจไม่ทัน ผิวเนื้อสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกได้ถึงปลายนิ้วที่เลื่อนเข้าไปลูบเบาๆ ใต้เสื้อแขนยาวผ้านุ่มที่เขาใส่ หัวใจที่เคยเต้นอย่างปกติเพราะเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ได้มาโดยตลอดเริ่มบีบตัวถี่ขึ้นในทุกจังหวะที่ท่าทีของยุนโฮแปลกไป

                และแจจุงพยายามจะหยุดมัน

     

              “พี่ยุนโฮ ป....แปดคะแนนแล้ว..อื้อ พ..พักก่อนไหม แจจุงหายใจไม่ทัน”

     

                ยุนโฮเหมือนจะรับรู้ในสิ่งที่เขาบอก หากแต่ก็ยังไม่ตอบอะไรออกมาเลย

                ท่าทีที่นิ่งเงียบเริ่มทำเอาแจจุงสงสัยว่ายุนโฮเป็นอะไรไปแล้วหรือเปล่า และในทันทีที่จมูกโด่งเป็นสันนั้นเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ข้างแก้ม ต้นคอ และบริเวณอื่นๆ ในขณะที่ปล่อยให้แจจุงพักหายใจ ตัวสวยก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าสติยุนโฮตอนนี้กระเจิงไปหมดแล้วแน่ๆ

                ซวยแล้วไง

                แจจุงเริ่มดิ้นในขณะที่ข้อแขนแกร่งโอบรัดเอวเขาแน่นขึ้น ท่าคร่อมตักทำให้ทุกอย่างเป็นไปโดยง่ายและเข้าทางเจ้าของตักอย่างไม่ต้องสงสัย ใบหน้าหวานแดงซ่านเมื่อรู้สึกได้ถึงริมฝีปากอุ่นที่พรมจูบไปทั่วคอเขา

                “พ...พี่ยุนโฮ นี่มัน...”

                “.....”

                “พี่ยุนโฮ พ..พอ..แจจุงให้เก้าคะแนนแล้ว ปล่อยแจจุงก่อนได้ไหม...”

                มือเล็กเริ่มทุบไปที่ไหล่หนา แต่ก็ไม่มีผลอะไรกับยุนโฮเลยแม้แต่น้อย เจ้าของใบหน้าสวยหวานเริ่มรู้สึกได้ถึงหายนะก็ตอนที่ฝ่ามือใหญ่สอดเข้าไปลูบแผ่นหลังของเขาทั้งมือ ยุนโฮไม่ได้ทำอะไรมาก หากแต่แค่มันวางอยู่บนผิวเนื้อของเขาแบบนั้นแจจุงก็แทบสะดุ้ง ร่างบอบบางดิ้นพรวดพราด ก่อนจะยิ่งตกใจเมื่อยุนโฮกลับมาบดริมฝีปากกับเขาอีกครั้ง ก่อนจะทำในสิ่งที่ทำให้แจจุงแทบจะกรีดร้องออกมา

                ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาอุ้มแจจุงขึ้นมาในท่านั้น จนคนที่จู่ๆ ก็ลอยหวือขึ้นตกใจจนต้องเอาทั้งขาและแขนเกี่ยวเอวรุ่นพี่ผู้สติแตกเอาไว้เพราะกลัวตกเป็นลูกหมีโคอาล่า แจจุงร้องลั่นออกมาในทันที

                “พี่ยุนโฮ ทำอะไรเนี่ย !

                แต่ก็อย่างที่คิด ยุนโฮไม่รู้สึกตัวอะไรเลย

                ฝ่ามือใหญ่รัดแน่นที่ช่วงเอวเล็ก พาแจจุงไปวางลงบนเตียงนอนนุ่มในขณะที่ยังจูบกันนัวเนีย ผิวเนื้อขาวเริ่มแดงไปหมดด้วยทุกอารมณ์ที่ปะปนกัน ทั้งอาย ทั้งเขิน ทั้งกลัว ตกใจ หรือแม้แต่อารมณ์ -นั้นๆ- ก็คงจะมีเหมือนกัน แต่นี่ไม่ใช่เวลามาเคลิ้ม แจจุงรู้ว่าชองยุนโฮสติแตกไปหมดแล้ว และนั่นจะโทษใครไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ตัวเขาเองที่ไปกดดันตัวหล่อเสียจนเป็นแบบนี้

     

                วินาทีที่เสื้อเลิกขึ้น แผ่นหลังแตะเบาะเตียง และเงาดำๆ ของร่างสูงที่วาดทับลงมาบนตัว แจจุงรู้ตัวแล้วว่านี่กำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินของจริง

     

                “พี่ยุนโฮ !! สิบคะแนนแล้ว พอแล้ว ! เอาเต็มไปเลย”

                “.....”

                “โอ๊ย เอาจมูกออกไปจากคอแจจุงนะ ตัวหล่อบ้า ถ้าไม่หยุดจะโกรธแล้วนะ”

                แจจุงรู้สึกได้ว่าคนที่อยู่บนตัวเขาชะงักไปพักหนึ่ง

                ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นจับขาแจจุงแยกแล้วแทรกตัวเข้ามาแทน

                ชิบหายแล้วไงล่ะ !

                 “พี่ยุนโฮ ปล่อยนะ อื้อ !” ทั้งดิ้นทั้งถีบแต่ก็ไม่มีผลในเมื่อชองยุนโฮทั้งตัวใหญ่แล้วก็หนักซะขนาดนั้น แจจุงเริ่มกลัวจนตัวสั่น จนในที่สุด ดวงตากลมๆ ที่กะพริบปริบๆ ไปมาก็เริ่มเลือนลางไปด้วยแววตาใสๆ ที่มีหยดน้ำไหลออกมาจนได้

                “ฮึก...”

                และเสียงนั้นเองที่ทำให้ดวงตาที่ไร้แววไปแล้วของยุนโฮถูกฉุดกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงในทันที

     

              หืมมมม

                นี่กูทำไรอยู่หว่า

                ใบหน้าคมก้มลงมองคนที่อยู่ใต้ตัวเอง ก่อนหน้าสวยๆ ที่นอนน้ำตาซึม สะอื้นเบาๆ ด้วยท่าทางน่าปล้ำสุดๆ จะกระจ่างชัดเข้ามาในสายตา มันดูน่ารักเป็นที่สุด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ยุนโฮพอใจเลย

                ในทางกลับกัน น้ำตาพวกนั้นกำลังจะทำให้หัวใจเขาเต้นช้าลง

                “ตัวสวย...”

                “ฮึก”

                “ร้องไห้ทำไมน่ะ” ยุนโฮถามเสียงนิ่ง อันที่จริงแล้วเขาพยายามจะคุมเสียงไม่ให้สั่น หลังจากที่มองสภาพตัวเองกับตัวสวยในตอนนี้ ยุนโฮพอจะรู้แล้วว่าเมื่อกี้เขากำลังทำอะไรลงไป เสื้อผ้าที่ยู่ยี่นิดหน่อยของแจจุงกำลังทำให้เขาหัวใจสั่นไปหมด ลืมหมดสิ้นแล้วซึ่งความรู้สึกเมื่อครู่

              ในใจมีแต่เสียงตะโกนดังว่า เขาทำตัวสวยร้องไห้ดังซ้ำไปซ้ำมา

                แจจุงที่เห็นดวงตาคมฉายชัดถึงหลายความรู้สึกรู้ได้ในทันทีว่ายุนโฮคนเดิมกลับมาแล้ว  ในทีแรกก็นึกอยากจะงอนยุนโฮโทษฐานที่ทำเขากลัวจนร้องไห้ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าที่ตัวหล่อเป็นแบบนั้นเพราะอะไรก็ได้แต่คอตกแล้วนอนนิ่งอยู่เฉยๆ

                ยิ่งเห็นพี่ยุนโฮที่ทำหน้าเศร้าเหมือนปล้ำเขาเสร็จไปแล้วยิ่งพูดอะไรไม่ออกเลย

              คนที่น่าเอ็นดูที่สุดไม่ใช่เขาซักหน่อย แต่เป็นชองยุนโฮต่างหากล่ะ

     

              ทันทีที่คิดได้อย่างนั้น แขนเรียวก็ยกขึ้นกอดคนที่นั่งอยู่บนเตียงแน่น “พี่ยุนโฮฮฮฮฮฮ~

     

                “.....” ให้ตายเถอะ ผู้ชายอะไรทำหน้าตาน่าสงสารได้ขนาดนี้

                “แจจุงไม่ร้องไห้แล้ว ไม่ต้องเสียใจนะ”

                ราวกับล่วงรู้ความคิดในใจ ใบหน้ารู้สึกผิดของรุ่นพี่จับจ้องตัวสวยที่โผเข้ากอดตัวเองด้วยแววตาหลากความหมาย ก่อนอ้อมแขนแข็งแรงจะรัดเอวบางเอาไว้แน่น กดคางลงบนไหล่เล็กด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง

                ทั้งอ่อนหวาน และบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

                “ตัวสวย.....”

                “.....”

                เขารอฟัง แต่ยุนโฮก็พูดแค่นั้นแล้วไม่ต่ออะไรออกมาอีก

                “.....” ท่าทีเหงาหงอยขั้นโคม่าทำให้แจจุงรู้ได้ในทันทีว่าสภาพจิตใจของชองยุนโฮกำลังแย่อย่างหนักจริงๆ จนตัวสวยที่เมื่อกี้นึกกลัวพี่ยุนโฮยังคิดว่าตัวเองไร้สาระ ชองยุนโฮไม่มีอะไรซับซ้อนเลย แม้แต่ในเวลาที่เขาถูกอารมณ์ครอบงำมากกว่าเหตุผล สิ่งที่ไม่เคยถูกอะไรควบคุมได้ในหัวใจยุนโฮก็คือความรักที่มีให้เขา

     

                เพราะยุนโฮรักแจจุงมากๆ แม้จะไม่เคยบอกซักครั้ง แต่แจจุงก็รู้ดี

     

                ผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรที่เขาต้องกลัวเลย

                “นี่ อย่าทำหน้าหงอยสิ มาคุยกันดีๆ มา”

                “.....”

                “เป็นปรมาจารย์ขั้นเชี่ยวชาญแล้วนะ ยังจะมาหงอยเป็นเด็กสามขวบอีก”

                “.....”

                และเพราะยุนโฮยังคงใบ้กินอยู่อย่างนั้น แจจุงก็เลยจับร่างสูงดันๆ ให้ไปกึ่งนั่งกึ่งนอนเอาหลังพิงหัวเตียงซะ ยุนโฮทำหน้าไม่เข้าใจแต่ก็ยอมเขยิบๆ ไปตามที่ตัวสวยดัน ก่อนจะตกใจเมื่อมือเล็กพยายามยกขาเขาอ้าออก “ขาหนักจัง ช่วยกางออกนิดนึงสิ”

                ก็ไม่รู้หรอกจะทำอะไร แต่เขาก็ไม่เคยขัดแจจุงอยู่แล้วนี่

                ยุนโฮทำตามที่สั่ง ก่อนร่างเล็กนั้นจะขยับมานั่งพิงอกเขา แทรกตัวลงมากลางหว่างขาแล้วจัดแจงจับมือเขาให้ไปกอดตัวเองเสร็จสรรพ

                “อุ่นดีจัง~

                “.....”

                “กอดแจจุงแน่นๆ สิพี่ยุนโฮ”

                “ตัวสวยไม่กลัวพี่เหรอ”

                “หืม กลัวอะไรล่ะ”

                “ก็เมื่อกี้พี่...” ไม่ต้องพูดก็รู้ว่ายุนโฮหมายถึงอะไร แจจุงอมแก้มป่อง ก่อนจะจับคนที่นั่งซ้อนกอดหลังตัวเองอยู่โยกเยกไปมา “แจจุงอ่ะเล่นไม่รู้เรื่องเอง พี่ยุนโฮไม่ผิดหรอก”

                “แต่ตัวสวยร้องไห้เลย” เขาก้มหน้า เอาคางวางบนไหล่เล็กแล้วพึมพำ “นี่มัน.....แย่สุดๆ”

                “งั้นคราวหน้าไม่ร้องไห้แล้วเอาป่ะ” คนที่กลับมาคึกอีกรอบจับมือใหญ่ขึ้นมาแล้วเขย่าๆ “คราวหน้าเดี๋ยวให้ตัวหล่อจัดการตามใจชอบเล้ยยยยยย ดีมั้ย”

                “เฮ้ยบ้า พูดอะไรออกมาเนี่ย รู้ตัวไหม” ยุนโฮทำหน้าโหด ในขณะที่แจจุงพลิกตัวมาหันหน้าเข้าหา มือบางยกขึ้นจับโครงหน้าหล่อเอาไว้ ก่อนจะกดจูบลงไปแผ่วเบา “ล้อเล่น – แต่เอาเป็นว่าพี่ยุนโฮไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ ตะกี้แจจุงแค่ตกใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

                “คราวหน้าไม่ทำให้กลัวแล้ว สัญญา”

                “คราวหน้าจัดการตัวสวยให้หมอบเลยนะ”

                “บ้าดิ ตัวสวย อย่ามาทะลึ่งดิ๊”

                “เดี๋ยวไม่ร้องไห้และ”

                “ทะลึ่งอีก เดี๋ยวโดนอีกแล้วจะหาว่าไม่เตือน!

                “เดี๋ยวนอนรอเลย!

                “เฮ้ นี่!!!” ยุนโฮจิ๊ปาก “อย่าเอาไปพูดกับใครนะ ไม่งั้นพี่เอาตายแน่!

                “เอาตายเลยหรออออ”

                แจจุงทำหน้าล้อเลียน ก่อนจะถูกยุนโฮที่ชักหมั่นไส้จนทนไม่ไหวจักจี๋เอวจนดิ้นพล่านตกเตียงน้ำหูน้ำตาไหล

                และรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้านั้นก็ทำให้เขายิ้มได้ในที่สุด

     

                : )

     

                เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ยุนโฮต้องการจริงๆ ก็คงไม่พ้นความสุขของคิมแจจุงนั่นแหละ

               

              ปล.  ตัวสวย :

              (คิดในใจ) ตัวหล่อเจนเทิลแมนแบบนี้ งั้นคราวหน้ายั่วอีกดีกว่า พี่ยุนโฮจูบเก่งชะมัดเลย !

               

                fin.



    - - - - - -  -

    TALK :
    แต่งพาร์ทนี้เขินมาก แต่งไปกัดตุ๊กตาไป (เว่อร์) ,
    ช่วงนี้ลงฟิคเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะจะเปิดเทอมแล้วไม่รู้จะหายไปนานไหม (หรือไม่นาน)
    ถ้าเป็นไปได้พยายามจะไม่ดองนะคะ , แต่ถ้าดองก็อ่านของเก่าแก้เซ็งไปก่อนแล้วกันค่ะ TT ,
    ชีวิตวุ่นวายมาก - ลาละค่ะ~




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×