คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : Part [24.] : L ♥ v e s i c k 2
-(: ตัวสวย - ตัวหล่อ :)-
L ♥ v e s i c k 2
หากคุณอยากรู้ว่าเวลา ‘ป่วย’ คิมแจจุง มีระดับความอ้อนอยู่ในปริมาณเท่าไหน
ให้แทนค่าตัวแปร จากสูตรที่ว่า
ความอ้อนตอนป่วยของตัวสวย = ความน่ารักของตัวสวยยกกำลัง 5 x กำลังสองของผลบวกระหว่างความสวยและความใจดี x 1,000,000 เท่าของความอ้อนตอนไม่ป่วยของตัวสวย
ด้วยสมการง่ายๆ แค่นี้ คุณก็จะได้ปริมาณความอ้อนที่เยอะจนดูเหมือนมีลิมิตเข้าใกล้อนันต์ของคิมแจจุงตอนป่วยออกมา
ชองยุนโฮสาบานได้เลยว่าตอนตัวสวยป่วยน่ะขี้อ้อนมาก
ปากก็ทำเสียงแหบๆ เบาๆ เหมือนกระซิบ หน้าซีด ตัวอุ่น แต่ก็ยังลืมตาแป๋วมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่น่าสงสารสุดๆ จะทำอะไรขัดใจหน่อยก็ไม่ได้ เกิดเป็นเจ็บคอ ไอ ปวดหัว ตัวร้อน ฯลฯ กันขึ้นมาตลอด และนี่แหละที่ทำให้ยุนโฮปวดหัว เพราะเขารู้ตัวดีอยู่แล้วว่าถ้าเจอแจจุงโหมดนี้ล่ะก็ จะปฏิเสธอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ถึงอยากจะใจร้ายใส่เพราะรู้ว่าเป็นแผนการณ์แอบแฝงยังไงก็เหอะ แต่พอเห็นเจ้าตัวทำหน้างอ ตัวก็งอ พลางขดเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วทำหน้ามุ่ยทั้งๆ ที่ยังไม่สบายอยู่แล้วอดใจอ่อนไม่ได้ทุกที
บางทียุนโฮก็สงสัย ว่าอินฟลูเอนซ่าในไข้หวัดใหญ่ของตัวสวยตอนนี้ มันกลายพันธุ์ไปเป็นไวรัสแทรกซ้อนในตัวของแจจุงด้วยรึเปล่า
ไวรัสที่ชื่อเชื้อ ‘ดื้อ’ น่ะ
ยุนโฮเหงื่อตก รู้ตัวแล้วว่างานเข้าเลยตอนที่ตัวสวยยื่นข้อเสนอที่จะยอมกินยาออกมาให้ฟัง
‘ถ้าแจจุงกินยา...พี่ยุนโฮต้องบอกรักแจจุงนะ’
ปากกลมๆ ฉีกยิ้มเสียกว้างทั้งๆ ที่หน้ายังแดงระเรื่อด้วยพิษไข้หรือเป็นเพราะเขินอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้ ในขณะที่ยุนโฮทำหน้าทำตาอะไรไม่ถูก ด้วยเพราะข้อแลกเปลี่ยนที่ถูกบอกออกมาอย่างที่เขาแทบตั้งตัวไม่ติด ถึงแม้เรื่องนี้จะได้รับคำปรึกษามาจากปาร์คยูชอนจนกระจ่างทุกอย่างหมดแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ยุนโฮยังไม่เคยบอกแจจุงตรงๆ ซักที และหากจะให้พูดออกมาเลยตอนนี้ มันก็ดูจะเป็นครั้งแรกที่จะกะทันหันไปหน่อย
การครุ่นคิดของยุนโฮทำให้เกิดหลุมอากาศระหว่าง –(:ตัวสวย – ตัวหล่อ:)- ขึ้นมายาวนานประมาณสองนาที
และท่าทีอันนิ่งเฉยนั้นก็ทำให้รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของคนป่วยค่อยๆ จางลง
แจจุงก้มหน้าลงน้อยๆ ดวงตาใสที่เคยมีประกายหมองลงทันที พยายามไม่สบตายุนโฮ เพื่อหลบซ่อนความน้อยใจที่เริ่มซึมออกมาจนได้ผ่านทางแววตาไม่ให้ตัวหล่อเห็น ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆ ที่ดูไม่สดชื่นเหมือนคราวแรกเท่าไรนักให้คนเป็นรุ่นพี่เพื่อคลายบรรยากาศ แล้วเอื้อมมือไปหยิบเม็ดยามาใส่ปากพลางรีบคว้าน้ำกลืนตาม
ดวงตากลมโตหยีลงทันทีเพราะรสชาติที่เฝื่อนลิ้น
แหวะ
แจจุงเบ้หน้านิดๆ แป๊บนึง ก่อนจะหันมายิ้มแบบที่ดูยังไงก็รู้ว่าฝืนให้คนเป็นรุ่นพี่ “มึนๆ อีกแล้ว งั้นแจจุงนอนก่อนละกันนะ ฝันดีพี่ยุนโฮ”
“..................”
ยุนโฮทำหน้าเอ่ออ่า ไม่รู้ว่าจะถามอะไรแจจุงก่อนดี ก็เขายังไม่ทันได้ให้คำตอบอะไร แจจุงก็กินยาเข้าไปซะแล้ว อย่างนี้หมายความว่า...เขาต้อง เอ่อ อ่า บอก...รึเปล่า
และท่าทางอึกอักจนแทบมีตัวหนังสือขึ้นกลางหน้าหล่อๆ นั่นแจจุงก็เข้าใจดี ดวงตากลมหันไปสบตากับตัวหล่อ ก่อนจะพูดปประโยคปลอบใจที่ไม่ได้ทำให้ยุนโฮรู้สึกดีขึ้นสักนิด “อ่อ...เรื่องข้อแลกเปลี่ยน...แจจุงพูดเล่นน่ะ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องฝืนทำหรอก แจจุงเข้าใจ...”
“เ...แจ...”
“ฝันดีพี่ยุนโฮ”
ว่าแล้วก็มุดเข้าผ้าห่ม คลุมโปง ทำตัวงอ พลิกตัวหนีไปอีกข้าง แล้วก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก
ท่าทางที่ยุนโฮผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูตัวสวยมาเป็นเวลานานรู้สึกได้เลยว่า อาการนี้ - งอนแน่ๆ
แต่ยุนโฮไม่โกรธแจจุงหรอก ก็สมควรแล้วนี่นา
ใครๆ อาจมองว่าเขาทุ่มเทอะไรทำเพื่อแจจุงมากมายเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ในความรู้สึกของยุนโฮแล้ว สิ่งเหล่านี้ มันช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่แจจุงให้เขา
เพราะยุนโฮรู้ตัวดีว่าตัวเขาเองก่อนหน้านี้ ทั้งชีวิตบางทีก็ดูจะเหมือนว่ารู้จักอยู่แค่หนังสือและเรื่องราวในตำรา ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว โลกนี้มีอะไรที่น่าสนใจอยู่มากมาย และบางที แค่การอ่าน ก็ไม่ทำให้เขาเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้เท่ากับการได้สัมผัสมันด้วยตัวเอง
และแจจุงเป็นคนสอนให้ยุนโฮเข้าใจสิ่งเหล่านั้น
คนที่สวยและน่ารักมีมากมายในโลกใบนี้ แต่สำหรับยุนโฮ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็น ‘ตัวสวย’ ได้
ไม่มีใครที่เข้าใจเขาโดยไม่ต้องอธิบายอะไรเลยมาก่อนแบบแจจุง
เด็กผู้ชายธรรมดาๆ ที่ดูเผินๆ ก็ไม่มีอะไรต่างไปจากใครคนนั้นทำให้ยุนโฮได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้เจอในสิ่งที่ไม่เคยเจอ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ และเปลี่ยนชีวิตที่แสนจำเจน่าเบื่อของเขา ให้มีความสุขเพิ่มมากขึ้นทุกที ในทุกๆ วัน
โดยเฉพาะสิ่งที่เค้าว่ากันว่าถ้าใครสามารถค้นพบมันได้ด้วยตัวเองแล้ว จะกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก
และตอนนี้ยุนโฮก็พบมันแล้ว
ความรัก
ยุนโฮยังนั่งอยู่ที่เดิม ใช้สายตาคมทอดมองคนที่นอนพลิกตัวไปอีกทาง ก่อนจะเอามือไปลูบบนหัวกลมเบาๆ
“ฝันดี ตัวสวย”
และบางทีแจจุงที่นอนทำหน้าบึ้งอยู่อีกฝั่ง ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องน้ำตาซึมกับความอ่อนโยนนี้
♥
มีเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนตัวสวยจะตื่น
ยุนโฮกลับมานั่งที่หน้าแล็ปท็อปอีกครั้ง ทำหน้าหนักใจ ก่อนจะตัดสินใจรีบเปิดโปรแกรมเอมเอสเอ็นขึ้นมา ตั้งสถานะเป็นไม่อยู่ แล้วเลื่อนรายชื่อไปยังคนที่ต้องการตอนนี้มากที่สุด
และลัคกี้
6002themicky กูรู้มึงอยู่หน้าคอมฯ แต่ตั้ง AWAY (online)
บางทียุนโฮก็แอบเซ็งกับชื่อเอมเอสเอนของปาร์คยูชอน
แม่งหลอกด่ากูนี่
แต่เพราะตอนนี้เหลือเวลาไม่มาก ยุนโฮเลยพยายามตัดความเซ็งเล็กๆ นั้นทิ้งออกไปจากสมอง แล้วรัวแป้นพิมพ์ส่งคำที่ต้องการไปให้เพื่อนรักในทันที
JUNGYUNHO says
: ปาร์ค มีเรื่องให้ช่วย
6002themicky กูรู้มึงอยู่หน้าคอมฯ แต่ตั้ง AWAYsays
: มีไรวะ / มึงพิมพ์สวัสดีไม่เป็นเหรอ
JUNGYUNHO says
: ตัวสวยเค้าอยากให้กูบอกรักเค้าอ่ะ / เป็น แต่ขี้เกียจ
6002themicky กูรู้มึงอยู่หน้าคอมฯ แต่ตั้ง AWAYsays
: เอ๊า ก็บอกเค้าไปดิ
JUNGYUNHO says
: ไม่รู้จะเริ่มยังไงอ่ะ ตอนนี้นอนคลุมโปงงอนไปแล้ว / นอกเรื่องนะ มึงเปลี่ยนชื่อเอมได้ปะ เบื่อ
6002themicky กูรู้มึงอยู่หน้าคอมฯ แต่ตั้ง AWAYsays
: 555555555555555555 โดนหลอกด่าเลย มึงก็เปลี่ยนก่อนดิ กูถึงจะเปลี่ยน กูก็เบื่อ JUNGYUNHO
JUNGYUNHO says
: มึงเปลี่ยนก่อน เดี๋ยวกูเปลี่ยนตาม
6002themicky กูรู้มึงอยู่หน้าคอมฯ แต่ตั้ง AWAYsays
: แน๊ เดี๋ยวนี้ว่าง่ายว่ะ พูดจารู้เรื่องขึ้นด้วย ฮ่าๆๆ รอแป๊บ
ยุนโฮขมวดคิ้วในขณะที่อ่านข้อความที่ตัวเปลี้ยส่งมา พลางคิดในใจ ถ้ากูไม่รีบกูไม่คุยกับมึงดีๆ ให้ได้ใจเล่นแบบนี้หรอกกกกก
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี says
: มาละ
JUNGYUNHO says
: -*- เปลี้ยว่ะ
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี says
: อะไร กูอุตส่าห์ชมมึงกับไอ้มินโฮยงฮวาน้า ไม่ต้องแถ รีบเปลี่ยนชื่อเลย
Billion marsmen on Mars , but only one on Earth. says
: -*- เปลี้ยว่ะ
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี says
: เหย่ดดดด อินเตอร์มาเลย
Billion marsmen on Mars , but only one on Earth. says
: -*- เปลี้ยว่ะ
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี says
: ก็อบเพสเหรอสาด
Billion marsmen on Mars , but only one on Earth. says
: อย่ามัวแต่ลีลาดิ๊ ช่วยคิดวิธีบอกรักตัวสวยเร็วๆ
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี says
: แป็บ เดี๋ยวกูรวบรวมข้อมูลก่อน
แล้วปาร์คยูชอนก็หายเงียบไป
ก็แล้วยังไง ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องไหม แต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกแล้ว...
คิดมากได้ไม่นาน ซักพัก เสียงสัญญาณเตือนจากโปรแกรมแช็ทก็ดังขึ้น
มีไฟล์เอกสารจากปาร์คยูชอนส่งมาให้เขา ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ก็กดรับมา
Billion marsmen on Mars , but only one on Earth. says
: อะไรวะ
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี says
: สุดยอดตำราจีบสาว บาย ปาร์คยูชอนสุดหล่ออภิมหาหล่อ เปิดเวิร์ดแล้วเอาไปปริ๊นท์มาท่องได้เลย!!
Billion marsmen on Mars , but only one on Earth. says
: อะไรของมึงเนี่ย
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี says
: เอาน่า เชื่อกู ต้องไปเก็บกระเป๋าที่ไปค่ายก่อนละ กูดองไว้แม่ด่า บายๆ สู้ๆ เค้าเพื่อน”
6002themicky มีเพื่อนหล่อไว้เสริมบารมี is offline.
เฮ้ยๆๆๆๆๆ เดี๋ยวสิ แล้วนี่ปาร์คยูชอนจะรีบไปไหนวะเนี่ย !
ยุนโฮลนลานอย่างหัวเสีย ก่อนจะได้แต่ส่ายหัวแล้วกดเปิดไฟล์เอกสารสุดท้ายที่ปาร์คยูชอนได้สั่งเสียเอาไว้ขึ้นมาดูอย่างเป็นตัวแทนของที่พึ่งสุดท้าย
ก่อนจะพบกับ...
บทบอกรักน้องแจจุงคนสวย รวบรวม by ปาร์คยูชอนสุดหล่ออภิมหาหล่อ
รักเธอคนนี้ 24 ชั่วโมง เช้าสายบ่ายเย็นก็ยัง I love you ไม่ว่าจะกินไม่ว่าจะนอน อะไร ๆ ยังไงก็เธอ
หัวใจเปิดให้เธอ all day and night ให้เธอเข้ามานั่งนอนเดินข้างในใจ บอกใครต่อใครว่าใจข้างในฉันมีเจ้าของก็คือเธอ...
รีบเลื่อนเม้าส์ไปหน้าถัดไปทันที
จะมีเพียงเธอ รักเพียงแต่เธอ โอบกอดเธอด้วยรัก รักที่ห่วงใย ใจฉันให้เธอ มันเป็นของเธอรู้ไหม ทุกคำมันกลั่นออกมาจากหัวใจ เราจะลอยข้ามฟ้า ท่ามกลางหมู่ดาว จะไม่มีความเหงา เข้ามากล้ำกราย เพลงนี้เพื่อเธอ มันเป็นของเธอรู้ไหม สัญญาจะดูแลเธอจากนี้...ตลอดไป
ตลกป่ะเนี่ย
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้ จะไม่มีตรงกลาง ที่เหลือว่างเผื่อใคร ถ้าใจเรายังผูกถ้า...!@#@%T$35V^%X&$*^QQ%#@!!$
ไอ้เปลี้ยปาร์ค!!!!!
ตะโกนด่าเพื่อนในใจ ก่อนจะต้องถอนหายใจเสียงดัง
เฮ้อ เอาไงดีล่ะ
ยุนโฮที่นั่งจ้องตัวหนังสือในคอมฯ อย่างปลงๆ กับประโยคหวานเลี่ยนที่ดูยังไงก็ใช้ไม่ได้ในชีวิตจริงที่เพื่อนเปลี้ยส่งมาให้ แผ่นหลังกว้างเอนพิงพนักอย่างหมดปัญญา พลางคิดถึงรูปแบบการบอกรักที่จินตนาการออกยากเสียยิ่งกว่าสมการโอลิมปิกที่เขาเคยแก้ โจทย์ยังมีแบบฝึกหัดให้ทำ แล้วยุนโฮจะบอกรักแจจุงยังไงในเมื่อมันไม่มีอะไรที่เป็นต้นแบบให้เขาได้สักอย่าง...
เดี๋ยวนะ ต้นแบบเหรอ?
จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนี่หว่า...
นั่งคิดอะไรได้ซักพัก มือคู่ที่ปล่อยให้ตกข้างลำตัวอย่างหมดหนทางเมื่อคู่ก็เลื่อนขึ้นมาแตะบนคีย์บอร์ดอีกครั้ง
♥
“ฉันอิจฉานายจัง ที่พูดสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกมาได้ทั้งหมด”
“ฉันขอโทษ...ที่ไม่ยอมบอกความรู้สึกของตัวเองให้นายรู้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่ไม่มั่นใจ...แต่...เพราะฉันไม่กล้าพอ”
“อาจจะเห็นแก่ตัวนะที่ตอนแรกฉันตั้งใจจะเก็บนายเอาไว้แบบนี้ ให้เป็นแค่ลูกกวางของฉัน”
ลูกกวางอะไรวะ?
ยุนโฮยกมือขึ้นเกาหัว หลังอ่านข้อความจากกระดาษในมือจบ คิดแล้วยังไงมันก็ยังทะแม่งๆ รู้สึกประหลาดชะมัดทั้งๆ ที่เวลาอ่านในฟิคก็ไม่เห็นจะรู้สึกแบบนี้เลย แล้วอีกอย่าง ในบทนี้มันเป็นลูกกวางนี่ – แล้วเขาต้องแก้บทเป็นตัวสวยรึเปล่านะ?
ว่าแล้วก็หยิบกระดาษที่ปริ้นท์ออกมาจากคอมฯ เมื่อกี้ขึ้นมา แล้วขีดฆ่าข้อความที่ตัวเองเพิ่งอ่านไปเมื่อกี้ออก
เอาใหม่
“สำหรับฉัน นายมีค่ามากกว่าสิ่งใดที่ฉันเคยครอบครอง ต่อให้ต้องสูญเสียทุกอย่าง แต่ฉันจะไม่มีวันยอมเสียนายไป”
( My mafia , my beloved : Hizukaya -> จิ้ม )
ขนาดพูดตามสคริปต์เฉยๆ ยุนโฮก็ยังรู้สึกเลยว่าหน้าตัวเองร้อนไปหมดแล้ว
โอ้ย ก็มันยังไม่ใช่อ่ะ
“จะรักหรือฆ่ากันก็ตามใจ...จำไว้นะว่าพี่รักแม่มดมาก...รักมากจริงๆคนดี”
( YOU DA ONE : i3e-dwz -> จิ้ม // เปิดจองอยู่ด้วยนะก๊าบ 555 เปิดจอง YOUYOUYOU XD )
แล้วตัวสวยไปเป็ดแม่มดตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ ประเด็นก็คือแจจุงยังไม่ได้ฆ่าเขาเลยด้วย
โธ่...ทั้งๆ ที่ตอนอ่านมันก็ดูดีมากแท้ๆ เป็นยุนโฮเหมือนกัน...แต่ทำไมเขาถึงดูไม่เท่เหมือนในฟิคเลยก็ไม่รู้
อีกทีละกัน
“เจนี่...ผมรักพี่ ได้ยินไหม คนดี ผมรักพี่คนเดียว...”
“เจนี่คือหัวใจผม เขาคือชีวิตของผม...”
“เจนี่...”
( DO YOU KNOW ? : as_say -> จิ้ม )
แค่อ่านออกเสียงก็เขินแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
ยุนโฮนั่งหน้ามุ่ย เท้าคางลงกับเก้าอี้อย่างหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ เขาคิดว่าบางทีฟิคชั่นที่มีเขาและตัวสวยเป็นนางเอกอาจจะให้ประโยคอะไรเจ๋งๆ ดีๆ กับเขาก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ ทั้งปริ้นท์ ทั้งคัด เอามาฝึกอ่านก็แล้วอ่ะไรก็แล้ว ยุนโฮก็ยังไม่ชินอยู่ดี และไม่เห็นด้วยว่าจะมีประโยคไหนที่เข้ากับเขาเลยสักนิด ทั้งๆ ที่เวลาอ่านในฟิค มันก็ดูเพราะดูซึ้งดีทั้งนั้น
อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ใช่มาเฟีย ไม่ใช่เท็ดดี้ หรือมิสเตอร์ริบลี่ย์ที่ไหนเลยถึงจะโรแมนติกและดูเท่ได้เวลาที่พูดประโยคหวานๆ ที่น่าฟังเหลือเกินพวกนั้น
เพราะเขาเป็นแค่ตัวหล่อ...
และบางที ก็อาจจะเป็นเพราะแจจุงเองก็ไม่ใช่ลูกกวาง เจนี่ หรือแม่มดที่ไหนเหมือนกัน
ดังนั้น สิ่งที่ตัวสวยอยากจะฟัง บางทีก็อาจจะเป็นเพียงคำบอกรักสั้นๆ ธรรมดาๆ หรืออะไรก็ได้...ที่แค่ได้ฟังจากปากของเขาก็พอ
ลืมอะไรไปหรือเปล่านะตัวหล่อ
ถึงจะเป็นชองยุนโฮเหมือนกัน แต่ต่างคนต่างก็มีคาแร็คเตอรของตัวเองไม่ใช่หรอ...
ทั้งมาเฟีย เท็ดดี้ หรือมิสเตอร์ริบลี่ย์ ต่างก็มีวิธีบอกรักคนรักของเขากันทั้งนั้น แล้วทำไมยุนโฮจะต้องไปลอกเขาด้วย?
ในเมื่อตัวหล่อ...ก็น่าจะมีวิธีบอกรักตัวสวยในแบบของตัวเองเหมือนกันนี่นา
♥
เวลาผ่านล่วงเลยมาจนช่วงเย็น
ในที่สุดตัวสวยที่เปื่อยสนิทก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาจนได้
ทั้งๆ ที่คิดว่าจะนอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง สุดท้าย กว่าแจจุงจะตื่นก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว อาการเวียนหัวก็ทุเลาลงไปนิดหน่อย แต่พอมือน้อยยกขึ้นแตะหน้าผากตัวเองก็รู้ตัวเลยว่ายังไม่หายดีนักเพราะอุณหภูมิบนหน้าผากที่ยังอุ่นๆ อยู่ไม่น้อย วัดไข้ตัวเองเสร็จก็ยกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองซ้ายขวาหาคนที่น่าจะอยู่ใกล้ๆ แถวๆ นี้ แต่พอมองไปที่ข้างเตียงแล้วไม่เจอ อาการขี้สงสัยของคนป่วยก็เลยเริ่มออกฤทธิ์
พี่ยุนโฮไปไหนอ่ะ?
“พี่ยุนโฮ” เสียงแหบแห้งเรียกชื่อคนคนเดียวที่น่าจะอยู่ในบ้านออกมาด้วยแรงทั้งหมดที่มี แม้มันจะยังเบาหวิว แต่แจจุงก็คิดว่าถ้ายุนโฮอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ก็น่าจะได้ยินบ้าง หลังรวบรวมพลังเสียงที่มีอยู่ทั้งหมดตะโกนออกไปได้ คนน่ารักที่นอนหมดแรงข้าวต้มอยู่บนเตียงก็รอเสียงตอบรับที่หวังว่าจะได้ยินอยู่ซักพัก หนึ่งนาที สองนาที สามนาที ... แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงทุ้มคุ้นหูอะไรตอบกลับมาเลย สุดท้าย ปากกลมๆ เลยได้แต่มุ่ยขึ้นมาอีกรอบ...
“หายไปไหนนะ”
ว่าแล้วก็ยันกายขึ้นพิงพนักเตียงอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เลื่อนผ้าห่มลง ก่อนจะรู้สึกได้ถึงเครื่องแต่งกายของตัวเองที่แปลกไป ตอนนี้แจจุงไม่ได้อยู่ในชุดลำลองตัวที่ใส่ตอนกลับมาจากค่ายแล้ว แต่กลับกลายเป็นชุดนอนตัวใหญ่ๆ ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ไซส์ของแจจุงแทน แค่คิดใบหน้าหวานก็ร้อนผ่าว รู้สึกได้เลยว่าสบายตัวขึ้นเยอะ แบบนี้ก็แปลว่า...ตัวหล่อน่าจะเปลี่ยนชุดและเช็ดตัวให้เขาแล้ว
อ๊า...
อย่างงี้พี่ยุนโฮก็เห็นแจจุงโป๊แล้วอ่ะดิ >_<
นึกแล้วก็รู้สึกตัวรุมๆ ร้อนๆ เหมือนไข้จะขึ้นหนักมาอีกรอบเสียให้ได้ แต่เนื่องด้วยเพราะยังหาตัวคนที่ทำให้เขาเขินจนแทบจะลงไปกลิ้งๆ กับพื้นไม่พบ สุดท้ายคนป่วยที่อยู่ในชุดนอนตัวใหญ่ๆ ก็เลยได้แต่ยันกายลงจากเตียงแล้วเดินเซๆ ไปที่หน้าห้องแทน
มือเล็กเปิดประตูออก ก่อนจะพบกับบ้านที่มืดสนิท มองจากชั้นสอง ไม่มีไฟสักดวงข้างล่างเลยที่เปิด ห้องตรงข้ามบนชั้นเดียวกันก็เหมือนกัน มีแค่ห้องนอนของพี่ยุนโฮที่แจจุงนอนอยู่เท่านั้นที่เปิด แล้วแบบนี้หมายความว่ายังไง?
ทันทีที่ส่วนกั้นห้องนอนกับภายนอกถูกเปิดออก เสียงน้ำฝนที่ดังกระหน่ำอยู่ข้างนอกก็ลอดเข้ามาให้แจจุงได้ยิน
ฝนกำลังตก...
และเสียงลมที่พัดโหมอยู่ภายนอกราวกับพายุก็ทำให้แจจุงรู้สึกกลัวขึ้นมา
พี่ยุนโฮหายไปไหนนะ?
แค่คิด คนป่วยที่อารมณ์ไม่ค่อยคงที่อยู่แล้วก็ถึงกับร้อนรนขึ้นมาทันที นาฬิกาในห้องนอนบอกเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากแจจุงเลยที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวหล่อน่าจะนอนเฝ้าเขาอยู่ใกล้ๆ แท้ๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าแจจุงจะฝันมากไป...
พี่ยุนโฮทิ้งแจจุงไปไหนแล้ว...
คนป่วยที่อารมณ์แปรปรวน จากที่เพิ่งเขินอะไรไปได้ไม่นานคราวนี้ก็เริ่มจะหงอยขึ้นมาซะแล้วเพราะต้องอยู่ในที่ที่ไม่ใช่บ้านของตัวเองคนเดียว แถมยังไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรเลยอีกต่างหาก เพราะที่นี่ไม่มีสวิตซ์ไฟแบบสองทิศทาง มือเล็กก็เลยต้องคลำไต่หาทางลงไปข้างล่างท่ามกลางความมืดมิด ตากลมๆ วาววับในความมืดอย่างหวาดๆ ก่อนจะค่อยๆ เปิดไฟทีละดวงแล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง
ในขณะที่กำลังเดินวนไปวนมาอยู่ในบ้านอย่างหงอยๆ นั้นเอง เสียงดังกุกกักที่ดังมาจากที่ไหนซักแห่งรอบนอกตัวบ้านก็ทำเอาแจจุงสะดุ้ง
กึก กึก กึก
อะไร? เสียงอะไร?
คนป่วยพยายามขจัดความกลัวที่พุ่งสูงขึ้นมาออกไปจากหัวในทันที ใจเย็นน่าแจจุง...อาจจะเป็นตัวหล่อก็ได้
คิดได้อย่างนั้น เสียงหวานก็เลยร้องเรียกออกไป
“พี่ยุนโฮ”
“พี่ยุนโฮใช่ไหม”
รออยู่สักพัก แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ
“พี่ยุนโฮ...อยู่ไหน”
“ตัวหล่อ”
“ฮึก...”
นิ้วป้อมๆ โผล่พ้นชายเสื้อเพียงเล็กน้อยยกขึ้นปาดที่หางตาที่มีน้ำซึมออกมานิดๆ เบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่หน้าประตูใหญ่ ที่มาของเสียงประหลาด กลืนน้ำลายไล่ความหวาดกลัว ก่อนจะค่อยๆ เปิดมันออกหมายจะออกไปเพื่อหาสาเหตุของเสียงแปลกๆ
ก่อนจะ...
พบกับร่างสูงทะมึนในชุดโค้ทสีกรมท่ายืนขวางทางท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำ
ดวงตากลมโตเบิกกว้างในทันที
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
มือเล็กยกขึ้นกระชากบานประตูปิดในทันทีด้วยแรงที่มากที่สุดเท่าที่คนป่วยคนหนึ่งจะมี ภาพเงาดำทะมึนของชายแปลกหน้าท่ามกลางพายุฝนทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะด้วยความกลัว นั่นต้องเป็นเหมือนในหนังแน่ๆ คนบ้า? หรือฆาตกรโรคจิต? หรือขโมย? หรือผี? โอ้ย แต่ที่แน่ๆ มันมายืนอยู่หน้าบ้านแล้วทำไงดี!
ปัง! ปัง! ปัง!
เพราะรีบปิดและล็อคประตูเร็วเกินไป ผลลัพธ์ที่ได้ตามมาก็คือเสียงเคาะประตูตอบที่ดังแข่งกับเสียงฝน แจจุงตัวสั่นอย่างหวาดกลัว ก่อนจะค่อยๆ ทรุดลงลงนั่งที่พื้นเพราะเขาอ่อนแล้วเริ่มเบะอีกครั้ง
ปัง! ปัง! ปัง!
“พี่ยุนโฮ...”
กึก กึก กึก
“ฮึก...พี่ยุนโฮอยู่ที่ไหน...”
“ตัวสวย เป็นอะไรไปน่ะ พี่อยู่นี่แล้ว”
และประตูบานใหญ่ก็เปิดออกอีกครั้ง
ทันทีที่ไม้แผ่นใหญ่ที่แจจุงเพิ่งจะล็อคปิดไปเมื่อกี้ถูกเปิดออก ร่างสูงในโค้ดสีกรมท่าก็ปรากฏตัวอีกครั้ง
พร้อมกับเสียงทุ้มอันคุ้นเคยที่ดังขึ้นอย่างอ่อนโยน
ตากลมที่ชื้นไปด้วยรอยน้ำตาเงยหน้ากลับไปหาที่ต้นเสียงอีกครั้ง ก่อนจะได้เห็นใบหน้าของชายแปลกหน้าในชุดโค้ทคลุมฝนที่เปียกปอนชัดๆ อีกครั้ง ทันใดนั้น เสียงหัวใจที่เคยเต้นระรัวอย่างหวาดกลัวก็ค่อยๆ สงบลง
และไม่ต้องรอให้ใครพูดอะไรต่อ ร่างบางก็กระโจนเข้ากอดคนตัวสูงทั้งๆ ที่เปียกแฉะไปหมดทันที
“เฮ้ย!”
“พี่ยุนโฮ ฮืออออ”
“ตัวสวย ใจเย็น เป็นอะไรน่ะ อย่าเพิ่งกอดพี่สิ เปียกไปด้วยแบบนี้เดี๋ยวไข้ก็หนักกว่าเดิมหรอก” ยุนโฮพยายามแงะสิ่งมีชีวิตแสนน่ารักที่ตอนนี้อยู่ในสภาวะไม่ปกติเท่าไหร่ออก แต่แจจุงก็ยังคงกอดเขาแน่น จนคนตัวสูงต้องค่อยๆขยับตัวเข้ามาในบ้านก่อนแล้วพยายามปิดประตูที่ฝนกำลังสาดเข้ามาด้วยข้าวของที่พะรุงพะรังเต็มสองมือ
“เดี๋ยวนะ ขอพี่ปิดประตูก่อนนะตัวสวย”
“.....”
“ขอพี่ถอดเสื้อเปียกๆ นี่ออกก่อนด้วย”
“.....”
“แล้วก็...ขอพี่วางโจ๊กก่อนนะ ลุยฝนมาด้วย คงไม่ร้อนแล้ว เดี๋ยวค่อยอุ่นก็แล้วกัน”
แจจุงสะอึกเป็นพักๆ ก่อนจะร้องโฮออกมาทันทีเมื่อเห็นถุงกับข้าวในมือใหญ่ และในทันทีที่ยุนโฮจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย ตัวสวยแสนร่าเริงที่วันนี้ดูอ่อนแอกว่าทุกทีก็กระโดดกอดเขาแน่น
มือใหญ่ชะงักเพียงเล็กน้อย ก่อนจะขจัดความลังเลในใจออกไป แล้วเริ่มต้นกอดที่เอวเล็กหลวมๆ ตอบกลับ
“พี่ยุนโฮทิ้งแจจุง...ตัวหล่อทิ้งตัวสวย...”
“.....”
“...”
“ไม่เป็นไรแล้ว พี่อยู่นี่แล้ว ขอโทษ”
บางทีเขาก็ลืมความจริงข้อนี้ไปเสียสนิท ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าตัวสวยเวลาป่วยมักจะขี้อ้อน ขี้แยผิดปกติ แต่ก็นะ...เรื่องที่ฝนตกหนักแบบนี้แล้วทำให้เขากลับช้ามันก็ผิดคาดไปหน่อยนี่นา
ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เขาก็กลับมาแล้วล่ะ
♥
"เข้ามาได้ไงก็แจจุงล็อคแล้ว"
"ก็พี่มีกุญแจ"
"....."
“ดีขึ้นแล้วเหรอ”
“ก็นิดหน่อยอ่ะ หายมึนหัวแล้วนิดนึง” พูดแจ้วๆ ในขณะที่ตักโจ๊กเข้าปากอย่างกระหาย ไม่รู้ทำไม หลังจากที่ลืมเรื่องน่ากลัวๆ เพราะอยู่คนเดียวไปหมดแล้ว อาการใหม่ที่แทรกเข้ามาก็กลับกลายเป็นความหิวอย่างหนักซะงั้น
“หรอ” ตาคมนั่งมองคนที่ตักโจ๊กเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วก็อมยิ้ม พูดล้อๆ “ไม่ให้ตัวหล่อป้อนแล้วเหรอ?”
“เอาไว้ก่อนเหอะ มัวแต่ป้อน แจจุงหิวตายพอดี” เถียงกลับไปแบบไม่สนใจ ในขณะที่ยุนโฮก็ยังมุ่งมั่นตั้งหน้าจ้องแจจุงต่อไป
มันเกิดเป็นความเงียบระหว่างคนสองคนบนโต๊ะอาหารครู่หนึ่ง จนแจจุงที่เริ่มรู้สึกตัวต้องเงยหน้าละจากชามโจ๊กขึ้นมามองคนตรงหน้า ก่อนจะต้องเสตา หลบสายตาอบอุ่นนั้นแล้วก็นั่งทำแก้มแดงกินโจ๊กต่อไปคนเดียว
คนบ้า ใครสั่งใครสอนให้มานั่งมองหน้ากันเฉยๆ แบบนี้นะ!
“แจจุง”
“...?”
“.....”
“มีอะไรเหรอ?” คนป่วยถาม เมื่อคนตรงข้ามจู่ๆ ก็เอ่ยเสียงเรียกเขาขึ้นมาแล้วก็เงียบไป ยุนโฮอึกอักอยู่สักพัก ก่อนจะตอบ “เปล่า กินต่อเถอะ”
“? ...อืม”
แล้วก็ต่างคนต่างเงียบอีก
“แจจุง”
เอาอีกและ
“มีอะไรเหรอ?”
“.....ป่าว...เอ่อ...เดี๋ยวพี่มานะ แป็บนึง”
ไม่ทันได้ฟังคำตอบจากคนที่กำลังนั่งเอร็ดอร่อยกับโจ๊กฝีมือแม่ค้าที่ดีกว่าพี่ยุนโฮเป็นไหนๆ ตัวหล่อก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนหายตัวไป
ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ไม่ได้สนใจอะไรเลยจริงๆ ...
จนกระทั่ง...
ตอนที่ชองยุนโฮเดินลงมาจากชั้นบน นั่งลงตรงหน้าเขา พร้อมกับกระดาษติดมือใบหนึ่ง
“แจจุง”
เขาเรียกเป็นครั้งที่สามแล้ว
คราวนี้แจจุงอมยิ้ม
“อะไรอีกล่ะ นี่รอบที่สามแล้วนะ ถ้าไม่มีอะไรกับแจจุงล่ะก็ ไม่คุยด้วยแล้วจริงๆ ด้วย”
“คือ...พี่...”
“?”
เขาพูดเสียงเบา แถมยังตะกุกตะกัก บอกได้เลยว่าประหม่าสุดๆ แต่แจจุงก็ยังได้ยิน
“อะไรเหรอ?”
ยุนโฮไม่ตอบ ได้แต่ก้มลงมองกระดาษ
“พี่จะอ่านหนังสือให้ฟัง...”
“ห๊า?”
แจจุงได้แต่ทำหน้างง ในขณะที่คิ้วเรียวของผู้ชายตรงหน้าขมวดเข้าหากันเป็นปม เขากำกระดาษในมือแน่น ก่อนจะเริ่มอ่านข้อความที่เขียนอยู่ในนั้น ทุกคำ...ทุกตัวอักษร
“บันทึกประจำวันของนายชองยุนโฮ ปีสามห้องเอ โรงเรียนมัธยมปลายแทฮวาชิน”
“.....”
“วันนี้เพิ่งกลับจากค่ายวิทย์ เซ็งมาก ตัวสวยไม่สบาย ป่วยหนัก ที่เซ็งกว่านั้นคือตัวเองทำอะไรไม่เป็นเลย แล้วก็ไม่มีใครอยู่บ้านด้วย แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดมาจนได้ ตัวสวยเวลาป่วยแม่งโคตรขี้อ้อนเลย แถมตอนบอกว่าถ้ากินยาจะต้องบอก..เอ่อ...รักก็น่าสงสารมากๆ เรามันแย่เองแหละที่ทำอะไรไม่ชัดเจนเลย จริงๆ ก็อยากบอกนะ แต่ไม่รู้ทำไมโคตรป๊อดเลยว่ะ ขนาดไปปรึกษาไอ้เปลี้ยมาแล้วนะ เห็นตัวสวยทำหน้าหงอยแบบนั้นแล้วไม่ชอบเลย ก็เลยคิดว่าน่าจะบอกไปซักทีนะ อุตส่าห์ลงทุนไปนั่งหาประโยคดีๆ มา แต่ก็ไม่ได้เรื่องเลยซักอัน คิดๆ ดูแล้ว เขียนใส่กระดาษแล้วนั่งอ่านคงง่ายกว่ามั้ง ก็แค่บอกว่า...ร..รัก รักเอง...ไม่เห็นยากตรงไหนก็แค่บอกว่าร...รักตัวสวย รักแจจุงเท่านั้นเอง...ถ้าถือกระดาษอ่านแบบนี้แล้วตัวสวยได้ยินก็แปลว่าบอกแล้วใช่มั้ย...เรื่องง่ายๆ แค่นี้ชองยุนโฮทำได้สบายมาก...ก็แค่บอกว่ารักตัวสวยเท่านั้นเอง ง่ายกว่าทำการบ้านเคมีตั้งเยอะ...”
สิ้นตัวอักษรสุดท้ายที่อยู่ในกระดาษ ยุนโฮก็กำกระดาษในมือแน่นจนยับยู่ ในขณะที่พยายามก้มหน้าซ่อนแก้มกร้านที่ตอนนี้คงจะแดงเถือกไปหมดแล้วให้พ้นจากสายตาคนที่ตรงข้าม แต่ก็คิดว่ามันคงหลบไปไหนไม่พ้น
ตกในอยู่ในความเงียบชั่วครู่หนึ่ง หากแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคนที่น่าจะนั่งฟังเขาอยู่
บางที ยุนโฮก็แค่จินตนาการว่าเขาจะได้เห็นแจจุงอมยิ้มจนแก้มแดง ไม่ก็เขินจนฟาดงวงฟาดงาใส่เขาไปหมดธรรมดา อะไรประมาณนั้น
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ตัวหล่อก็รู้สึกได้ในทันทีว่าสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อครู่ มันเป็นสิ่งที่สำคัญต่อตัวสวย และคุ้มค่าที่เขาจะทำมันลงไปจริงๆ
แก้มใสเลอะคราบน้ำตาที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มของแจจุงนั้นคือคำตอบ
“ขอบคุณนะตัวหล่อ...”
“.....”
“ตัวสวยก็รักตัวหล่อมากๆ มากๆ มาก...มากที่สุดเหมือนกัน...”
และหากความสุขคือยาชั้นดีที่จะทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการหวัดเร็วขึ้น
แจจุงคิดว่า อีกไม่นาน...เขาก็คงจะหายแล้วล่ะ : )
XXIV fin.
- - - - -
TALK:
ตอนนี้สามารถดูอัพเดทรายชื่อคนที่โอนตัวสวยฯ แล้วได้ในบล็อคนะคะ ปิดโอน 30 มิถุนายน (กระทู้บน) / รวมไปถึงเปิดกิจกรรมตอบคำถามชิงตุ๊กตาตัวสวยฯ 5 คู่สุดท้ายแล้วด้วยนะคะ อ่านรายละเอียดที่บล็อคเช่นกัน (กระทู้ล่าง) ช่วงนี้อัพเดทไม่บ่อย ติดตามอะไรตามในบล็อคโลดเลยนะคะ
http://kyokoong.exteen.com
ปล. เจอคำผิดตรงไหนเม้นท์บอกหน่อยนิ ตาลายละ // แขกรับเชิญเยอะเนอะวันนี้ 5555555555
ปล. 2 หนังสือคิดว่าเสร็จไม่ทันเดือนนี้แน่ๆ เลยค่ะ รอประกาศเพิ่มเติมอีกทีนะคะ ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ
ความคิดเห็น