ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -(: ตัวสวย – ตัวหล่อ :)- [YUNJAE]

    ลำดับตอนที่ #49 : Part [26.] : ค่าสัมบูรณ์ของความรัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.38K
      7
      14 ก.ค. 55

     



    -(: ตัวสวย - ตัวหล่อ :)-

    ค่าสัมบูรณ์ของความรัก






    จริงๆ แล้ว

    ได้มีศาสตร์เรื่องหนึ่งกล่าวถึงความเหมือนของสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วเอาไว้ในวิชาคณิตศาสตร์

    นั่นคือความหมายของค่าสัมบูรณ์

    ตรรกะประหลาด ที่แทนเขียนด้วยสัญลักษณ์เป็นขีดตรงๆ สองเส้นแบบนี้  à |   |

    แค่เอามันครอบลงในตัวเลขสองตัวที่มีจำนวนตรงข้ามกัน --- ผลที่ได้ออกมาก็คือมันจะมีค่าเท่ากันทันที

    ตัวอย่างเช่น |5| หมายถึงเลขจำนวนสองตัว คือ 5 แล้วก็ -5

    เพราะว่า

    |-5| มีค่าเท่ากับ 5

    แล้ว

    |5| ก็มีค่าเท่ากับ 5 เหมือนกัน

    ตลกดีใช่ไหมล่ะ?

    -5 กับ 5 ดูเผินๆ ก็เหมือนสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่ค่าสัมบูรณ์ก็เหมือนจะอธิบายให้เข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ลึกลงไปกว่านั้น เพราะมันหมายถึงระยะห่างระหว่างตัวเลขนั้นๆ กับ 0 ซึ่งแน่นอนว่า สองเลขที่ต่างกันอย่างสุดขั้วนี้มีเหมือนกัน

    -5 อยู่ห่างจาก 0 อยู่ 5...

    และในทำนองเดียวกัน 5 ก็อยู่ห่างจาก 0 อยู่ 5 เหมือนกัน

    ดูเหมือนไม่มีอะไรเหมือน แต่แท้ที่จริงแล้วก็มีอะไรบางอย่างที่ไม่ต่างกัน

    และบางทีปาร์คยูชอนว่ามันก็จริง...

     

    ถึงจะเป็นแค่เรื่องเลขธรรมดาที่ดูน่าไร้สาระ แต่ยูชอนกลับเชื่อในสิ่งเหล่านั้น

    เชื่อในความจริงที่ว่า...แม้จะเป็นคนที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่บางที เขาอาจถูกสร้างมาเพื่อคู่กันแล้วจริงๆ ก็ได้

     

    นี่เขาคิดมากเกินไปรึเปล่านะ?

     

     

    เพราะบางทีจุนซูก็คงไม่รู้      

    ว่าจริงๆ แล้ว...ยูชอนอยากคุยกับเขามากแค่ไหน

     

    เป็นเวลาผ่านมาสักพักแล้วเหมือนกัน ที่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของยูชอนกับจุนซูจะพัฒนาไปอีกขั้น ช่วงนี้ยูชอนดีใจมากที่จุนซูเริ่มยอมรับโทรศัพท์จากเขาบ้างแล้ว ทุกๆ วันยูชอนจะโทรไปหาจุนซูตอนประมาณสองทุ่ม แรกๆ ก็ทำเป็นแกล้งเล่น จนเจ้าตัวน่ารักของเขาโกรธงอนแล้วหาว่าเป็นโทรศัพท์โรคจิตไม่ยอมรับอยู่หลายครั้ง อ้อนอยู่เป็นอาทิตย์จนดูเหมือนเจ้าตัวก็เริ่มเบื่อที่จะทะเลาะกับปาร์คยูชอนแล้ว หลังๆ ก็เลยเริ่มที่จะยอมคุยด้วยบ้าง ผ่านไปหลายวันเข้า กิจกรรมที่เคยคิดว่าจะทำเล่นๆ นี้ก็กลายเป็นเรื่องประจำวันที่ยูชอนจะต้องทำทุกวัน ทุกสองทุ่ม ที่เขาจะต้องโทรไปหาใครบางคน นั่งทะเลาะจิกกัด เล่าเรื่องที่เกิดในวันนั้นของตัวเองให้ฟังบ้าง ฟังเรื่องของอีกคนที่เล่ามาด้วยความตื่นเต้นบ้าง หยอกกันบ้าง ก่อนจะนอนไปพร้อมๆ กันในบางวัน

    ...ก็สนุกดี

    ยูชอนไม่รู้ว่าจุนซูจะรู้สึกเหมือนเขาไหม แต่สำหรับยูชอน นี่เป็นช่วงเวลาเล็กๆ ที่ทำให้เขามีความสุขมากเหลือเกิน

    ก็ไม่ได้อยากจะทำอะไร นอกจากแค่อยากรู้ว่า วันนี้ไปไหน เจอใคร ทำอะไรมาบ้าง...ฟังเสียงหัวเราะที่บางที่ก็อารมณ์ดี บางทีก็โมโหของจุนซู บางทีมันก็สนุกดี

    เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นหนักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

    แต่ก็อย่างว่า ในความสุขเหล่านี้ ก็ยังมีความเจ็บปวดจากความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ที่คอยทำร้ายเขาอยู่

    ยูชอนรู้ตัวเองดีว่าเขาเริ่มจะรักจุนซูมากขึ้นนทุกวัน

    ในขณะที่ก็เข้าใจด้วยว่าตอนนี้เขากับจุนซูยังไม่ได้เป็นอะไรกัน...

    จะเรียกรุ่นพี่รุ่นน้องก็ยังดูสนิทมากไปเลยเสียด้วยซ้ำ

    บางที ถ้ายูชอนจะได้อยู่แทฮวาชินต่อไปอีกซักสี่ห้าปีมันก็คงจะไม่มีอะไรให้น่าเป็นกังวลเท่าไหร่ – นั่นหมายความว่า เขาจะมีเหตุผลเวลาโทรไปหาจุนซูทุกวันอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกนาน และยังมีเวลาอีกมากพอที่เขาจะค่อยๆ ทำให้จุนซูผู้ใจแข็งคนนั้นรักขึ้นมาได้ในสักวัน

    แต่ในความเป็นจริง...เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว

     

    อีกไม่นาน ยูชอนจะต้องสอบเอนทรานซ์และจบไปจากโรงเรียนนี้

    ในขณะที่จุนซูยังอยู่ที่นี่ อยู่ที่เดิม ไม่ได้ย้ายไปไหน

    หากความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจุนซูยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกหน่อยถ้าเขายิ่งจบไปจากโรงเรียนแล้วเราก็จะยิ่งห่างเหินไปกันใหญ่...และบางทียูชอนก็ไม่ได้อยากจะเป็นแบบนั้น ถึงเขาจะยังมีทางออกอีกมากมายกับการเลือกที่จะตัดใจจากจุนซูตอนนี้แล้วไปเริ่มต้นใหม่ แต่ยูชอนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ส่วนลึกในจิตใจของเขารู้ดีว่าเวลาสองปีที่ผ่านมาแม้จะไม่ได้รักกันอย่างเปิดเผยหรือเป็นแฟนกันแล้วอย่างยุนโฮกับแจจุง แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่นานมากพอที่ยูชอนจะมีความรู้สึกดีๆ ให้จุนซู จนเขาไม่อยากให้ช่วงเวลาแบบนี้ผ่านไป

    เพราะเขายังอยากที่จะรักจุนซูต่อไปเรื่อยๆ และยังไม่มีความรู้สึกเลยว่าจะอยากหยุดมันเมื่อไหร่

    ใช่...เรื่องของเรามันผ่านมานานมากแล้วจริงๆ

    นานจนยูชอนเปลี่ยนจากคำว่าชอบกลายเป็นรักจุนซูไปซะแล้วยังไงล่ะ

     

     

     

    เพราะบางทียูชอนก็คงไม่รู้    

    ว่าจริงๆ แล้ว...จุนซูก็รอโทรศัพท์จากเขาอยู่ทุกวันเหมือนกัน

     

    “ฮัลโหล ยูชอน – ตัวเปลี้ย ตัวเปลี้ย! ยังฟังอยู่รึเปล่า”

    (อืมๆ ฟังอยู่)

    “จริงป่ะเนี่ย ไม่ใช่หลับไปแล้วนะ เปลี้ยจริงๆ เลย”

    (ไม่ได้เปลี้ยโว้ย หล่อ)

    “แหวะ กากๆๆ”

    อันที่จริงจุนซูก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะมีความสุขอะไรกับการที่ได้ทะเลาะกับใครสักคนในทุกๆ วัน

    แต่บางทีมันอาจจะเป็นเพราะคนที่เขาคุยด้วยเป็นปาร์คยูชอนก็ได้ล่ะมั้ง

    จุนซูไม่เคยเรียกยูชอนว่าพี่ ในขณะที่เรียกพี่ยุนโฮ พี่มินโฮ พี่ยงฮวา

    ตัวเปลี้ยมักจะบ่นเรื่องนี้กับเขาเสมอๆ ว่าอยากจะให้จุนซูเรียกพี่เหลือเกิน แต่ก็อย่างว่า ถ้าเด็กแสบคู่กัดตลอดกาลอย่างตัวน่ารักยอมทำก็คงประหลาดแล้ว บางทีจุนซูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น รู้สึกนิดๆ ว่า การไม่เรียกพี่มันทำให้ดูไม่เคารพเท่าไหร่ แต่จริงๆ จุนซูก็ไม่ได้อยากเคารพอะไรยูชอนอยู่แล้วนี้ – อีกอย่างหนึ่ง สำหรับจุนซูแล้ว บางทีเขาก็รู้สึกว่าตัวเปลี้ยเป็นเพื่อนมากกว่าเป็นพี่

    อย่างน้อยอยากระบายอะไรให้ฟังก็ระบายได้ จะงอแงงี่เง่ายังไงตัวเปลี้ยก็ไม่เคยว่าอะไร...

    อาจจะเป็นเพราะแบบนั้นล่ะมั้ง ถึงจะชอบทะเลาะ แต่จุนซูก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาชอบที่จะคุยกับยูชอนอยู่เหมือนกัน

    ถึงแม้ช่วงนี้จะรู้สึกแปลกนิดๆ หน่อยเพราะดูเหมือนรุ่นพี่ที่ไร้สาระตลอดเวลาอย่างตัวเปลี้ยจะดูเหมือนมีเรื่องให้กังวลใจอะไรอยู่ก็เถอะ

    อันที่จริง...ยูชอนก็ไม่เคยบอกหรอก ไม่เคยพูดถึงด้วยซ้ำ

    แต่เพราะจุนซูเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้อยากจะทำอะไร ก็แค่อยากรู้เหมือนกัน...ว่าวันๆ ยูชออนไปไหน เจอใคร ทำอะไรมาบ้าง

    เพราะฉะนั้นถ้าน้ำเสียงของเขาจะแปลกไป หรือมีอะไรไม่เหมือนเดิม จุนซูก็ต้องรู้สึกได้อยู่แล้ว

    ว่าแต่ถ้าถามไป...เขาจะบอกไหมนะ?

     

    (นี่ ทำไมเงียบไปล่ะ)

    เสียงจากโทรศัพท์เรียกจุนซูที่กำลังตกอยู่ในภวังค์เพราะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยให้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เสียงเล็กๆ สองข้างในสมองยังตีกันวุ่นวาย ก่อนคนคิดมากจะรีบตอบแก้ตัวออกไปเร็วๆ “อ้อเปล่า...พอดีคิดอะไรอยู่นิดหน่อย”

    (อะไรอ่ะ บอกมั่งดิ)

    “แล้วทำไมฉันต้องบอกตัวเปลี้ยอย่างนายด้วย”

    (เร็วๆ ดิ๊ อ้วน)

    “ไม่ได้อ้วนว้อย – นี่ ช่วงนี้นายเป็นอะไรรึเปล่า” บางทีจุนซูก็เกลียดนิสัยอยากรู้อยากเห็นของตัวเองแบบนี้นัก – สุดท้ายก็ถามออกไปจนได้

    (หืม? พี่เหรอ?) เสียงปลายสายดูงงน่าดู จุนซูอมยิ้ม เป็นแบบนี้เสมอ ถึงแม้จุนซูจะไม่เรียกยูชอนว่าพี่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจอะไร แถมยังแทนตัวว่าพี่กับจุนซูทุกครั้งด้วย ฟังไปฟังมาก็น่ารักดีเหมือนกัน

    “อืม”

    (เปล่านี่ ทำไมอ่ะ)

    “ก็เสียงดูซึมๆ เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ”

    (...เอ่อ)

    “มีจริงๆ ใช่ไหมล่ะ” เสียงท่าทางไม่มั่นใจนั้นเร่งให้คนตัวเล็กต้อนคนเป็นรุ่นพี่จนมุมไปอีก ยูชอนอึกอักหนักกว่าเดิม

    (เปล่า)

    “อะไรอ่ะ แค่นี้บอกไม่ได้?” เจ้าของเสียงทำหน้ามุ่ยอยู่ที่ปลายสาย ท้ายเสียงเทความน้อยใจใส่เข้าไปเต็มที่ และนั่นทำให้ปาร์คยูชอนหนักใจกว่าเดิม

    (อยากรู้จริงๆ เหรอ?)

    “แน่ดิ” จุนซูตอบมั่นใจ และแน่นอนว่ายูชอนเองก็อึกอักหนักกว่าเดิม จนตัวน่ารักต้องคะยั้นคะยออยู่หลายครั้ง นานอยู่เหมือนกันที่ในที่สุดยูชอนก็เงียบไป...เหมือนกำลังเตรียมใจจะพูดอะไรบางอย่าง

    ซึ่งบางทีจุนซู...ก็ไม่ได้ตั้งใจจะฟังมาก่อน

    ความในใจของปาร์คยูชอน

    ที่บางทีเขาก็ลืมไป...ว่ามันเป็นสิ่งที่เขาเองก็รู้อยู่ในใจตลออดมา

    “.....”

    (.....)

    “.....”

    (จริงๆ ก็มีนิดหน่อย อันที่จริงพี่ก็ยังไม่กล้าพูดแต่...อืม)

    จุนซูได้ยินเสียงคนที่ปลายสายสูดลมหายใจ

    “.....”

    (จุนซูรู้ไหม ว่าปีนี้พี่จะจบไปจากแทฮวาชินแล้วนะ)

    “.....”

    (ต่อไป...เราก็อาจจะไม่ได้มาโทรศัพท์คุยกันอย่างนี้แล้ว...พี่ไม่รู้ว่าจุนซูรู้สึกยังไง แต่จริงๆ พี่ชอบนะ ช่วงนี้พี่มีความสุขมากๆ...เราอาจจะคิดว่าพี่พูดเล่น แต่ที่พี่ทำไปทุกๆ อย่าง จริงๆ ก็รอคำตอบจากเราอยู่นะ)

    “.....”

    (ก็เวลามันเหลือไม่มากแล้วนี่เนอะ...ฮะๆ)

    “.....”

    (พี่รักจุนซูนะ)

     

    สุดท้ายแล้ว บทสนทนาในวันนั้นก็ยังคงไร้ซึ่งคำตอบ

    และมีเพียงรอยยิ้มกว้างๆ ยิ้มเดียวจากคนปลายสายที่ยูชอนในตอนนี้อาจจะยังไม่มีโอกาสได้เห็น

    แต่บางที...

     

    ก็คงอีกไม่นานแล้วล่ะ

     

     

     

     

    “พี่ยุนโฮ คิดไว้หรือยังว่าจะเอนท์เข้าคณะอะไร”

     ยุนโฮไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ แจจุงถึงได้ถามคำถามนี้กับเขา

    แต่เมื่อถามมา หน้าที่ของตัวหล่อก็ต้องเป็นการให้คำตอบกับตัวสวย ใบหน้าหล่อคมเงยขึ้นมาจากหน้ากระดาษที่นั่งหมกมุ่นอยู่แต่เช้าครู่หนึ่ง เขาใช้เวลาคิดอยู่ประมาณสามนาที ก่อนจะตอบออกไป

    “ไม่รู้อะ”

    - -

    “เห นี่ก็ใกล้จะสอบแล้วนะพี่ยุนโฮ ยังไม่คิดอีกเหรอ” ใบหน้าน่ารักฉายแววประหลาดใจ

    เหลือเชื่อ นี่ตัวหล่อที่แสนจะตั้งใจเรียนยังไม่ได้คิดเรื่องอนาคตตัวเองเลยเหรอเนี่ย ใช้ไม่ได้เลย!

    ยุนโฮส่ายหัว ก่อนจะทำหน้างงๆ จนแจจุงต้องทำหน้ามุ่ย “นี่มันเรื่องสำคัญเลยนะ มัวเอาเวลาไปคิดอะไรอยู่ แจจุงนึกว่าพี่ยุนโฮเตรียมพร้อมแล้วซะอีก”

    ตัวสวยเก๊กหน้าทำเป็นดุ ท่าทางที่ตัวหล่อเคยบอกเสมอว่ายังไงซะก็เหมือนแมวขู่

    แล้วยุนโฮทำหน้ามึน ก่อนจะตอบ

    “ก็คิดถึงตัวสวยไง”

    >///<

    ไอ้บ้า มันเป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบซะหน่อย!

    ตัวสวยที่เจอหมัดฮุคแบบซื่อสุดๆ ของตัวหล่อเข้าไปถึงกับหน้าแดงแจ๋ อ้าปากกลมๆ อึกอัก หุบอ้า หุบอ้า อยู่อย่างนั้นแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา สุดท้ายก็เลยไปไม่เป็นแล้วได้แต่ตัดบทไปส่งๆ ทั้งๆ ที่แก้มยังเรื่อสีชมพู

    “ก..ก็เอาเป็นว่า เริ่มคิดได้แล้วนะรู้มั้ย”

    “อืม...”

    เสียงทุ้มออกรับในลำคอ ท่าทีที่ไม่ค่อยสนใจอะไรตัวสวยตั้งแต่เมื่อกี้แล้วทำเอาสิ่งมีชีวิตจอมป่วนรู้สึกสงสัย เสียงใสกระเซ้าแหย่แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเพื่อเรียกความสนใจอีกครั้ง

    “พี่ยุนโฮ ทำไรอยู่”

    “แป๊บนะ”

    “พี่ยุนโฮ พี่ยุนโฮ”

    “.....” ทำหน้าเคร่งใส่หนังสือ ไม่ค่อยมีสมาธิเลยวุ้ย

    “พี่ยุนโฮ พี่ยุนโฮ พี่ยุนโฮ”

    “.....” พับผ่า เสียงอะไรงุ้งงิ้งๆ

    “พี่ยุนโฮทะลึ่ง” ทำหน้าแบ๊ว แล้วก็จีบปากจีบคอพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

    ท่าทีที่ทำให้ยุนโฮได้แต่ขมวดคิ้วขึ้นมาแก้ต่างให้ตัวเองอย่างเร่งรีบ

    “ทะลึ่งไร ตัวสวยมั่ว”

    บ่นหน้ามุ่ย ในขณะที่นั่งเอาปากกาเขียนอะไรคิดอะไรในหนังสือต่อ จนคนที่ไม่ชินกับการโดนตัวหล่อเมินอย่างแจจุงต้องชะโงกหน้ามามองใกล้ๆ ด้วยใบหน้าที่ฉายชัดว่างอนสุดๆ

    “ทำไรอยู่อ่ะ ไม่สนใจแจจุงเลย”

    “เปล่านี่” แล้วก็ก้มลงทำโจทย์อะไรซักอย่างยุกยิกๆ คนสวยหน้ามุ่ย เขยิบหน้าเข้าไปอีก

    “ขอดูหน่อย”

    .\/.

    และเพราะเขยิบหน้าเข้ามาใกล้มากไปพอยุนโฮเงยหน้าขึ้นมาก็เลย...

    อึ้ย เกือบจุ๊บแก้มแล้ว

    สถานการณ์ที่ทำเอาคนตัวโตสะดุ้ง

    “เฮ้ย! เอาหน้ามาใกล้ๆ ทำไมเนี่ย”

    “ก็แค่จะมาดูว่าทำอะไรไง อะไรเนี่ยพี่ยุนโฮ ทำหน้าแดงไมอะ” คนตากลมแป๋วเลิกทำหน้าบึ้ง ก่อนจะหันมาเอียงคอทำหน้าแบ๊วในเสี้ยววินาที – ท่าทางที่ยุนโฮเรียกมันว่าท่าไม้ตายรูปแบบที่ 1 พลังคอมโบ 40+ 

    ให้ตายสิ ขยันจริงๆ นะ ไอ้เรื่องเล่นหูเล่นตาแบบนี้เนี่ย !

    “...เปล่า”

    “โหย ไรเนี่ย หน้าแดงไม่พอ หน้าหื่นอีกอ่ะ”

    “หื่นตรงไหน??? มั่ว!” ยุนโฮบ่นงึมงำ “เดี๋ยวเจอเอนซีจริงละจะหนาว ตัวสวย”

    “ว่าไงนะ?”

    “เปล่า” แล้วก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

    “บอกมาเลย อะไรหนาวๆ  ได้ยินนะ!

    “ไม่บอก” แล้วก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อีก แสบขึ้นเยอะนะตัวหล่อ!

    “อ้อ” แจจุงทำหน้าทำตาเป็นต่อ “รู้แล้ว จริงๆ คิดมิดีมิร้ายกับตัวสวยใช่ไหมล่ะ” แล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มหวานๆ ใส่หนึ่งที

    พลังคอมโบเบาะๆ 25+

    และนั่นทำให้ยุนโฮร้อนตัวขึ้นมาทันที

    “เฮ้ยเปล่า ตัวสวย มั่วละ !

    “เหๆๆ นี่พูดเล่นหรอก หน้าแดงเลย นี่คิดจริงๆ หรอเนี่ยตัวหล่อ” อ้าว พลาดละ!

    “เปล่า”

    “อย่ามาโกหก ฮันแน่~” แล้วก็ทำตาโตแบ๊วๆ ใส่

    พลังคอมโบ 35+ แล้ว!

    และนั่นทำให้ยุนโฮฟิวส์ขาด

    “โธ่เว้ย เดี๋ยวก็จับปล้ำจริงๆ ซะเลยนี่!

     

    O _ O

     

    หน้าตาตื่นๆ ของตัวสวยที่ตั้งตัวไม่ทันกับคำพูดเมื่อครู่ทำให้ตัวหล่อได้ใจขึ้นมาทันที ท่าทีงุ่มง่ามเมื่อครู่ถูกสลัดทิ้งเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ยุนโฮยิ้มกรุ้มกริ่ม

    ให้ตายสิ ไปฝึกทำหน้าแบบนั้นมาจากไหนกันน่ะ!!!

    “จะว่าไป ตามหลักของชีวะ ว่าด้วยเรื่องของการสืบพันธุ์...มันก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลาซักหน่อยนี่นะ จะทำตอนไหนก็ได้...” ยุนโฮทำหน้าจริงจังราวกับกำลังรำลึกเนื้อหาวิชาอะไรบางอย่างในหัว และนั่นทำให้แจจุงขนลุก

    นี่เล่นกันแบบนี้เลยเหรอเนี่ย!

    “ตะ...แต่ว่า ตามหลักของสุขศึกษาอ่ะ มันยังไม่เหมาะสมไม่ใช่เหรอพี่ยุนโฮ~” เท่านี้ล่ะเสียงอ่อนขึ้นมาทันที มือน้อยยกขึ้นกอดตัวเองแน่นด้วยเริ่มรู้สึกจะไม่ปลอดภัยในสวัสดิภาพของตัวเองยังไงชอบกล ยุนโฮยิ้มกรุ้มกริ่มอีกครั้ง

    เอาอีกแล้วนะ ถามจริงเหอะ ไอ้ยิ้มแบบเนี้ยไปฝึกมาจากไหนกัน!!!

    “แต่เราเรียนสายวิทย์ ต้องสนใจหลักของชีวะมากกว่าสิ”

    “ตลกและ”

    “ไหนบอกคราวหน้าจะนอนรอไง”

    “เย้ย พูดเล่น!

    “แต่พี่เอาจริง!

    ท่าทางเป็นหมีแง่งๆ พร้อมกระโจนเข้ามาทุกเมื่อของยุนโฮทำเอาแจจุงขนลุกซู่ บางทีก็รู้สึกสงสัยเหลือเกิน ว่าใครกันนะ ที่ทำให้พี่ยุนโฮเจ้าเล่ห์ขึ้นมาได้มากขนาดนี้ – ให้ตายเถอะ เอาตัวหล่อแสนซื่อที่น่ารักของแจจุงคืนมานะ!

     

    แต่จะว่าไป ตัวสวยไม่รู้จริงๆ หรอว่าใครกันที่ทำให้ชองยุนโฮเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือแบบนี้น่ะ?

     

    ในขณะที่ดูท่ามวยยกนี้ของตัวสวยจะเสร็จแน่ๆ กรุณาย้อนกลับไปอ่านที่ย่อหน้าแรกใต้รูปหัวใจ

    คนตากลมแป๋วเอียงคอทำหน้าแบ๊ว – ท่าทางที่ยุนโฮเรียกมันว่าท่าไม้ตายรูปแบบที่ 1 พลังคอมโบ 40+ 

    ใช่ อย่างที่ว่า นั่น่ะมันท่าไม้ตายรูปแบบที่ 1

    และแน่นอนว่ามันต้องมีแบบที่ 2 ...

     

    “ฮึก...พี่ยุนโฮนิสัยไม่ดี”

     

    น้ำใสๆ ที่ปริ่มออกมาจากขอบตากลมในเสี้ยววินาทีทำเอายุนโฮขนลุกซู่ – มาแล้ว!

    นี่รู้นะว่าตั้งใจอ่ะ นี่รู้จริงๆ !

     

    ท่าไม้ตายรูปแบบที่ 2 – น้ำตาพิฆาต พลังคอมโบ 50+ !!!

     

    ชองยุนโฮ ยู ลูส

     

    “โธ่ ตัวสวย พี่ล้อเล่น!~

     

     

     

     

    อีกไม่นานก็ใกล้จะถึงช่วงสอบของแทฮวาชินแล้ว

    อันที่จริงมันก็เป็นการสอบปลายภาคธรรมดาๆ เหมือนทุกปีนั่นแหละ เพียงแต่มันสำคัญตรงที่ปีนี้พวกยุนโฮอยู่ปีสามแล้ว ดังนั้น นอกจากการสอบปลายภาคแล้ว สิ่งที่เปรียบเสมือนตัวตัดสินใจปลายทางแยกเล็กๆ ของอนาคตในขั้นต่อไปก็คือการสอบเอนทรานซ์ ซึ่งเป็นถือว่าเป็นช่วงที่หนักที่สุดในชีวิตมัธยมปลายเลยก็ว่าได้

    บางที ถ้ายุนโฮไม่ได้รู้จักแจจุงเสียก่อน ป่านนี้ก็คงจะกำลังนั่งอ่านหนังสือเลือกคณะจนหัวฟูอยู่ที่ไหนสักแห่งก็ได้

    แต่ตั้งแต่ได้มาทำวิจัยศึกษาสิ่งมีชีวิตที่ชื่อตัวสวย กลับกลายเป็นว่าเขาดันลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท

    จนกระทั่งวันหนึ่ง ตัวสวยถามเขาว่า...

    “พี่ยุนโฮ คิดไว้หรือยังว่าจะเอนท์เข้าคณะอะไร”

     

    นั่นสิ?

     

    หลังจากเก็บไปนอนคิดเสียหลายคืน ยุนโฮที่ออกนอกลู่นอกทางชีวิตไปนานก็เริ่มกลับเข้ามาสู่วังวนชีวิตของการเรียนอีกครั้ง ก็พูดตรงๆ เลยว่าตั้งแต่รู้จักกับตัวสวยนี่ก็หมกมุ่นอยู่กับแต่เจ้าตัวจริงๆ หนังสือหนังหาอะไรก็อ่านน้อยลงไปเยอะ เวลาที่ใช้คิดโจทย์ก็ดันเอาไปคิดถึงแจจุงซะหมด – ปาร์คยูชอนเรียกอาการนี้ว่าติดแฟน ซึ่งยุนโฮก็ไม่รู้จะเถียงอะไร ไม่รู้เป็นเพราะยอมรับความจริงแล้ว หรือไม่อยากเสวนากับตัวเปลี้ยกันแน่ (น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า)

    พอกลับมาอ่านหนังสือ ชีวิตยุนโฮก็น่าจะเป็นเหมือนเดิม แต่สำหรับเจ้าตัวแล้ว บอกได้เลยว่าตอนนี้ต่างกับเมื่อ 2-3 ปี ก่อนเยอะ

    ก็ตอนนี้...มีตัวสวยอยู่ข้างๆ แล้วนี่นา

    ดวงตาคมเหม่อมองไปที่นอกหน้าต่างในขณะที่ยกมือขึ้นเท้าคางบนโต๊ะเรียนในห้องขณะรอพักเปลี่ยนคาบในช่วงบ่ายวันหนึ่ง อันที่จริงก็เรียกได้ว่านั่งแบบนี้มาทั้งวันแล้วก็ว่าได้ ในใจครุ่นคิดถึงคำถามง่ายๆ ของตัวสวยที่เขายังไม่ได้ให้คำตอบไป แล้วก็หันกลับมามองตัวเองอีกครั้ง

    เอนท์ทรานซ์เหรอ?

    จะว่ายังไงดีล่ะ...

    คือจะว่าไปก็ยังไม่ได้คิดเลย

    เมื่อวันก่อน ตอนพักกินข้าวเที่ยง จะว่าไปมินโฮก็ถามถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เหมือนเจ้าพวกนั้นจะเลือกกันได้แล้ว มินโฮเหมือนจะอยากเรียนวิศวะ ตรงกันข้ามกับส่วนยงฮวาที่เห็นว่าจะไปสอบกฏหมายหรืออะไรสักอย่าง เพราะเบื่อสูตรเบื่อคำนวณแล้ว

    มินโฮถามกลับมาว่า แล้วเขาเองอยากเป็นอะไร เพราะยังไม่คิดเลย ตัวสวยถามก็ตอบไม่ได้ มินโฮถามอีกก็เลยไม่รู้จะตอบอะไรอยู่ดี สุดท้ายก็เลยเผลอถามเพื่อนไปว่า แล้วมึงว่ากูจะเรียนอะไรดี ซึ่งก็ไม่คิดเลยว่าหลังพูดประโยคนั้นจบจะโดนไอ้เจ้ายงฮวากับมินโฮรุมตบหัวเสียยกใหญ่

    รุมกูทำไมวะเนี่ย

    ข้อหากวนตีนไง ก็เรื่องแบบนี้กูตอบได้ที่ไหนเล๊า

    ก็กูยังไม่ได้คิดเลยนี่หว่า ไม่รู้จะเอาไรดี

    ก็ชอบทำอะไรก็เรียนอันนั้นนั่นแหละ คิดไรเยอะแยะ!’

    มินโฮว่าอย่างนั้น ยุนโฮซึ่งตอนนั้นยังงงๆ ก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากหันไปขอความเห็นจากคนที่ช่วงนี้จะดูพูดน้อย เก็บตัวผิดปกติกว่าทุกที...ปาร์คยูชอน

    แต่เจ้านั่นก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็ดูเหมือนว่าจะยังตัดสินใจไม่ได้เหมือนเขาเหมือนกัน

    ละมั้ง?

     

    ก็ชอบทำอะไรก็เรียนอันนั้นนั่นแหละ คิดไรเยอะแยะ!’

    แล้วประโยคนี้ก็เลยกลายเป็นอีกประโยคนึงที่วนเวียนอยู่ในหัวยุนโฮตลอดทั้งวันนอกจากคำถามจากตัวสวย

    ถ้าถามว่าอยากทำอะไรมากที่สุด...ในเรื่องเกี่ยวกับการเรียนยุนโฮก็บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่เขาชอบมากถึงขั้นเอามาตัดสินใจอะไรได้ทุกอย่างอย่างนั้น โดยทั่วไปก็คือไม่ได้ชอบแล้วก็ไม่ได้เกลียด – แต่ถ้าถามรวมทุกเรื่องไม่ยกเว้นไว้เฉพาะเรื่องเรียนล่ะก็ ถ้าถามว่าชอบอะไรก็คงต้องตอบว่า...ตัวสวย

    อืม แต่เหมือนคำตอบนั้นจะเอามาใช้ไม่ได้ในเรื่องนี้สินะ?

    ไม่สิ...

    บางทีแม้แต่เรื่องแบบนี้ แจจุงก็อาจจะมีส่วนในการตัดสินใจของเขาเหมือนกัน

    จริงๆ ถึงแม้จะเรียนเก่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่า ตัวยุนโฮเองจริงๆ จะเก่งไปเสียทุกเรื่อง บางทีก็มีหลายอย่างที่เขาอยากทำให้ตัวสวยแต่ก็ทำไม่ได้จนรู้สึกหงุดหงิดตัวเองขึ้นมาเลยก็เยอะ ซึ่งพอคิดแบบนั้นทีไร ก็รู้สึกอยากจะทำให้ได้ขึ้นมาทุกที ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการที่ทำกับข้าวไม่เป็น เรื่อยไปจนถึงเรื่องที่ใหญ่ที่สุดอย่าง...เหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สำคัญจนทำให้ยุนโฮรู้สึกตัวขึ้นมาทันทีเลยว่าตัวเองน่ะไม่ได้เรื่องชะมัด

     

    นั่นก็คือ การที่ตัวสวยป่วยแล้วเขาทำอะไรไม่ได้เลย...

     

    นับย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่เห็นเด็กคารัมแบกแจจุงออกมาจากป่าในสภาพแบบนั้น ภาพของตัวสวยที่นอนตัวร้อน หมดแรงมาบนรถตอนกลับบ้าน ตัวสวยที่เปื่อยสนิท ไม่รู้สึกตัวอยู่หลายชั่วโมงเพราะพิษไข้ เหตุการณ์เหล่านั้น...สิ่งที่เหตุขึ้นทั้งหมดตอนที่ตัวสวยป่วย ยุนโฮคิดทีไรก็อดจะรู้สึกแย่แปลกๆ ขึ้นมาไม่ได้ทุกที

     เพราะมันเป็นครั้งแรก

    ครั้งแรกที่ยุนโฮต้องอยู่กับแจจุงในช่วงเวลาที่ลำบากเพียงสองคนขึ้นมาเป็นครั้งแรก ช่วงเวลาที่พ่อแม่ของแจจุงไม่อยู่ แม่เขาเองก็ไม่อยู่ ช่วงเวลาที่ที่นี่ไม่มีอ๊กแทคยอน ไม่มีชางมิน หรือใครสักคนเลยที่น่าจะปกป้องแจจุงได้นอกจากเขา ซึ่งกลับกลายเป็นว่าคนที่ควรจะได้รับหน้าที่ที่สำคัญที่สุดอย่างการดูแลแจจุงนั้นกลับทำอะไรไม่เป็นเลย ยุนโฮอยู่ที่นั่นในช่วงเวลาแบบนั้น แต่แค่จะปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็ยังทำไม่เป็น ต้องไปเปิดอินเตอร์เน็ตหาวิธีนู่นนี่นั่นอยู่เสียหลายชั่วโมง กว่าจะมาเริ่มทำอะไรได้ ซึ่งก็ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าวันนั้น ตัวสวยผู้น่าสงสารป่วยเป็นอะไรที่หนักกว่าวันนั้น หนักกว่าไข้หวัดเล็กๆ ที่นอนพักไม่กี่คืนก็หาย ถ้าถึงตอนนั้น คนที่ไม่ได้เรื่องอย่างเขาจะทำยังไง ต้องทำอะไร ไม่รู้เลย

    และภาพตัวสวยที่นอนซม ปากซีด หายใจแผ่วๆ ก็ทำให้ยุนโฮรู้สึกใจหายขึ้นมาอีกครั้ง

    ยุนโฮเกลียดเวลาที่แจจุงป่วยที่สุด

     

    ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว...แต่ยุนโฮยังคงจำความคิดแรกของเขาเมื่อเริ่มรู้จักแจจุงได้ไม่นานเท่าไหร่ได้ดี

              แพทย์ยังรักษาคน สัตวแพทย์รักษาสัตว์ แต่ไม่รู้ว่าจะมีหมอคนไหนรับรักษา ตัวสวยรึเปล่า?

     

    และบางที...นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการตัดสินใจเลือกทางเดินในอนาคตของตัวเขาเอง

     

     

     


     

    - - - - -

    TALK:


    ประชาสัมพันธ์เช่นเคย
    1. พรุ่งนี้เที่ยงคืนปิดโอนแล้วนะคะ (15 ก.ค.)
    2. นัดรับวันที่ 11 ส.ค. 55 / ไปรษณีย์หลังนัดรับ 1-2 อาทิตย์
    3. แบบทดสอบชิงรางวัลตัวสวยฯ 5 คู่สุดท้าย ส่งได้ถึงวันที่ลงตอนจบ

    รายละเอียดทั้งหมดให้เข้าไปอ่านที่ http://kyokoong.exteen.com



    -( : ตัวสวย ตัวหล่อ : )- ตอนหน้าเสนอเป็นตอนจบแล้วค่ะ ^^





    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่า




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×