ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] F.T Island ...ReFrain...

    ลำดับตอนที่ #16 : ...รักที่สับสน...

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 852
      2
      2 ต.ค. 52


    แพขนตาหนากระพริบน้อยๆ   อย่างที่เจ้าตัวพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะลืมตาตื่น  ริมฝีปากขยับพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ว่า  ความง่วงก็ยังเป็นนายเช่นเดิม   แม้จะไม่อยากให้เป็น

     

     

    จงฮุน...ถ้าฉันล้มลงล่ะก็   นายจะช่วยฉันได้ไหม   มือของนายจะช่วยฉุดให้ฉันลุกขึ้นแล้วเดินต่อไปครั้งหน้าได้รึเปล่า   

     

     

    ถ้าเพียงแต่เรามีใครซักคน   แค่คนเดียวก็พอ   คอยอยู่เคียงค้างเราไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม    ต่อให้คนทั้งโลกเกลียดเรา    ฉันก็คิดว่าทนได้แค่เพียง   มีนาย    นายเท่านั้น   เพราะว่าฉันโลภ   คนเพียงคนเดียวนั้นถึงไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้แต่ต้องเป็นนาย    ถ้าไม่ใช่นายมันก็ไม่มีความหมายใดๆ

     

     

    หยดน้ำใสค้างที่อยู่ที่ขนตาเมื่อฮงกีผล็อยหลับลึกลงอีกครั้ง   สำนึกบางอย่างทำให้คิดได้ว่านี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านแจจิน...

     

     

    ...

     

     

    ระยะทางโรงเรียนกลับมาบ้านทำไมคราวนี้ถึงได้แปลกนัก   ตอนที่เดินมาเหมือนว่าใช้เวลานานนักหนาแต่พอเห็นประตูรั้วเท่านั้นกลับรู้สึกเหมือนเวลานั้นผ่านเร็วไป   มินฮวานนึกอยากให้เวลานี้ทอดต่อไปอีกซักนิด   นิดเดียวก็ยังดี   เวลาที่มีคนที่รักเดินเคียงข้างไปด้วยกัน   แต่นั่นก็เป็นได้เพียงปรารถนาเพียงฝ่ายเดียว

     

     

    บ้านของมินฮวานและจงฮุนนั้นอยู่ใกล้โรงเรียนมากเดินไปกลับได้อย่างสบาย   ส่วนบ้านของวอนบินนั้นอยู่ห่างออกไปอีกหน่อยแต่ก็พอที่จะเดินไปโรงเรียนได้   ซึ่งบางวันก็จะเห็นวอนบินขี่จักรยานไปโรงเรียน   ผิดกับบ้านของแจจินที่อยู่ไกลออกไปในย่านของคนรวย   ถ้าไม่มีรถคอยรับส่งก็เดาได้เลยว่าต้องตื่นแต่เช้านั่งรถไฟใต้ดินมาโรงเรียน

     

     

    ขอบคุณนะฮะที่มาส่ง มินฮวานว่า

     

     

    อื้ม วอนบินตอบรับ ฉันไปก่อนนะ

     

     

    กลับบ้านดีๆนะฮะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้

     

     

    มินฮวานยืนส่งวอนบินด้วยสายตา   ร่างสูงที่เดินไกลออกไปยกมือโบกลาในอากาศ

     

     

    เด็กหนุ่มถอนใจเฮือก   ในที่สุดก็ไม่ได้พูด...

     

     

    คำว่าชอบ   ทำไมถึงได้พูดยากนักก็ไม่รู้   ทั้งๆที่มีโอกาสแล้วแท้ๆ   โอกาสที่ได้มาเพราะคนคนนั้นช่วย   มินฮวานเจ็บใจตัวเอง  

     

     

    มินฮวานไขประตูรั้วก่อนเดินเข้าบ้านไป    เขาเปิดประตูบ้านถอดรองเท้าเก็บใส่ชั้น   เปิดไฟให้บ้านที่ว่างเปล่าสว่างไสว   ว่างเปล่าเหมือนหัวใจของตัวเองแต่ไม่มีวันที่จะสว่างไสวเพราะแสงไฟนั้นไม่ใช่ของเขาแต่เป็นของ  ลีฮงกีแต่ผู้เดียว   ความจริงนี้ไม่มีวันเปลี่ยน

     

     

    มินฮวานย้ำกับตัวเอง

     

     

    โอวอนบินรักเพียงลี ฮงกี

     

     

    และชอยมินฮวานก็เป็นได้แค่ไอ้โง่ที่รักเขาข้างเดียวเป็นเวลาหลายปี   เด็กหนุ่มหัวเราเบาๆ  ก็แค่ไอ้โง่

     

     

    ถึงเวลารึยังหนอ  เวลาที่ควรตัดใจ  ก็ตอนนี้เจ้าของตัวจริงเขากลับมาแล้วนี่นา   เพราะฉะนั้นที่ตรงนั้นก็ไม่เหลือช่องว่างให้เราเข้าไปแทรกอีกแล้ว

     

     

    น้ำใสเอ่อคลอในดวงตา

     

     

    ไม่มีมีที่สำหรับเขาอีกแล้ว

     

     

    ไม่มี

     

     

    น้ำตาหยดหนึ่งไหลผ่านแก้มใสไปตามแนวคางได้รูปก่อนตกลงบนพื้น

     

     

    เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดหน้านึกดีใจที่ตอนนี้บ้านว่างเปล่า  

     

     

    อย่างน้อยก็ขอให้ได้บอกก่อน   บอกคำว่ารัก   หลังจากนั้นไม่ว่าคำตอบที่ได้จากเขาจะเป็นอย่างไรเราจะยอมรับทั้งหมด    อย่างน้อยก็ขอให้ได้หลอกตัวเองไปอีกซักพักเถอะนะครับว่า   หัวใจของพี่ยังมีผมอยู่บ้าง   แม้จะเป็นเพียงเสื้ยวเล็กๆก็ตามที 

     

     

    ....

     

     

    จงฮุนไขประตูรั้วบ้านอย่างยากลำบากเพราะตัวภาระที่ไม่ใช่ขนาดเล็กๆบนหลัง   ใบหน้าหล่อเหลาบูดสนิทเมื่อไม่ว่าจะกดกริ่งเท่าไหร่   น้องชายตัวดีที่อยู่ร่วมชายคาบ้านก็ไม่มีวี่แววว่าจะมาช่วยซักนิด   กระเป๋านักเรียนสองใบถูกวางทิ้งอย่างไม่ได้รับการสนใจข้างตัวตั้งแต่แรก   แต่พอคิดว่าน่าจะวางฮงกีลงด้วย   ส่วนเล็กๆในหัวใจกลับค้านแรงว่า    ไม่อยากปล่อยมือ

     

     

    จงฮุนร้องไชโยในใจเมื่อได้ยินเสียงคลิกของล็อกที่ถูกปลด   เด็กหนุ่มเดินไขประตูบ้านด้านในได้โดยใช้เวลาไม่นาน   ภายในบ้านนั้นมืดสนิท   ทำให้คิดว่ามินฮวานคงหลับไปเรียบร้อยแล้ว  

     

     

    จงฮุนเปิดไฟ    ก่อนจะเดินขึ้นบันไดพาเอาร่างที่ไม่มีสติของคนขี้เซาติดตามไปด้วย   ประตูห้องนอนถูกเปิดอย่างแผ่วเบา    ร่างสูงเดินเข้าไป    บรรจงวางร่างเพรียวลงบนเตียงนุ่มของตัวเอง

     

     

    ปวดไหล่ชะมัดเลยแฮะ อดไม่ได้ที่จะบ่น    เหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าเกือบ ห้าทุ่มแล้ว    จงฮุนไม่ได้โทรบอกแจจินก่อนเรื่องฮงกี   พอนึกได้ตอนนี้ก็อดห่วงไม่ได้ว่าคนขี้กังวลคนนั้นจะร้อนรนขนาดไหนแล้ว

     

     

    โทรศัพท์มือถือถูกกดโทรออกอย่างรวดเร็ว   ด้วยคีย์ลัด    รอสายไม่ถึงสามครั้งเสียงใสๆของคนปลายสายก็ดังขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร้อนใจไม่ผิดจากที่คิดไว้ซักเท่าไหร่

     

     

    จงฮุนเหรอ    นายโทรมาก็ดีเลย   ฮงกียังไม่กลับบ้านฉันโทรหาเท่าไหร่ก็ปิดเครื่อง   ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า    ทำยังไงดีจงฮุน

     

     

    แจจินร่ายยาวมาเป็นชุด   เมื่อนิสัยดั้งเดิมทำเอานั่งไม่ติดที่

     

     

    จงฮุนหัวเราะกับความน่ารักนั่น ใจเย็นแจจิน   ไม่มีอะไรซักหน่อย

     

     

    ไม่มีได้ยังไง แจจินสวน ฮงกีจะกลับบ้านดึกขนาดไหนก็ต้องโทรมาบอกก่อน   เพราะเค้ารู้ว่าฉันจะเป็นห่วง  

    แต่นี่เล่นหายไปเงียบๆ    โดนใครดักตีหัวขโมยกระเป๋าไปรึเปล่าก็ไม่รู้   จงฮุนฉันไปแจ้งตำรวจดีมั้ย

     

     

    จงฮุนมองร่างของเจ้าของชื่ออย่างนึกขำ ฉันก็เห็นว่าเขานอนหลับสบายดีนะ

     

     

    เอ๋

     

     

    หมอนั่นย้อนกลับมาน่ะ   เพราะยูริยังทำงานอยู่ก็เลยกลับมาอยู่เป็นเพื่อน

     

     

    อ้อ   ตรงนั้นฮงกีโทรมาบอกก่อนแล้ว

     

     

    ทีนี้รอไปรอมา   ก็หลับ

     

     

    แล้ว?”

     

     

    ฉันไม่มีปัญญาปลุกคนขี้เซาของนายน่ะสิก็เลยพอมานอนที่บ้านฉันก่อน

     

     

    เอ๋

     

     

    ไม่ต้องมาทำเสียงงงเลย   ไม่งั้นจะให้ฉันทำยังไง   ปล่อยทิ้งไว้ที่โรงเรียนอย่างนั้นเหรอ   นายเห็นฉันเป็นคนใจดำได้ขนาดนั้นเชียว จงฮุนพูดกลั้วหัวเราะ   ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้อารมณ์ดีนัก   แค่มองดูดวงหน้าสวยหวานหลับสนิทอยู่บนเตียงของเขาเท่านั้น    หัวใจกลับรู้สึกพองโตคับอกอย่างไม่มีเหตุผล

     

     

    งั้นอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะเอารถออกไปรับฮงกีกลับแล้วกันนะ   จะได้ไม่รบกวนนาย

     

     

    ไม่ต้องหรอก   ให้นอนที่นี่ไปก่อนก็ได้   ชุดนักเรียนฉันก็มีเหลือเฟือเดี๋ยวตอนเช้าให้ฮงกียื้มก่อนก็ไม่มีปัญหาอะไร   ทางนี้ฉันดูเองนายอย่าห่วงเลย   นี่ก็ดึกมาแล้วไปนอนเถอะนะ จนฮุนกล่าว   แม้สมองจะแย้งหนัก   ทำไม   ทำไมถึงต้องเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยมากขนาดนี้

     

     

    คนที่เคยลั่นวาจากับตัวเองไว้ว่า   เกลียด

     

     

    แจจินพูดอะไรอีกสองสามคำก็วางไปพร้อมคำบอกให้ฝันดีจากจงฮุนซึ่งเจ้าตัวก็ตอบกลับมาด้วยความสนิทที่มีให้เสมอไม่ว่าจะเวลาจะผ่านไปซักเท่าไหร่ก็ตามว่า นายก็เหมือนกัน   อ้อ  ถ้านอนเตียงเดียวกันระวังโดนถีบล่ะ

     

     

    เมื่อวางสายจากเพื่อนเรื่องที่กวนตะกอนในใจให้ขุนก็หวนกลับมาอยู่ในห้วงความคิดที่สับสน

     

     

    ทั้งทั้งที่แจจินก็เสนอมาแล้วแท้ๆว่าจะมารับกลับ   ไม่ง่ายกว่าหรือ   ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องวุ่นวาย

     

     

    จงฮุนขมวดคิ้ว   ไม่เข้าใจตัวเองและที่ไม่เข้าใจยิ่งกว่าก็คือ คนที่นอนหลับสบายคล้ายห่างไกลเรื่องทุกร้อนทั้งปวง

     

     

    เพราะว่านี่มันก็ดึกแล้ว   ถ้าให้แจจินมารับรายนั้นก็ต้องพลอยไม่ได้นอนไปด้วย    แล้วเขาก็ต้องอยู่รอ

     

     

    และแล้วคนฉลาดเสมอก็หาข้ออ้างให้กับการกระทำแปลกๆของตัวเองได้อีกครั้ง   ทั้งๆที่หัวใจมีรอยอุ่นวาบที่

    หายไปเนิ่นนาน   นานพอๆกับการจากลาที่รุนแรงครั้งนั้นของคนที่บัดนี้หวนคืนกลับมา    กลับมาแล้วหัวใจ

     

     

     

     

     

    ฮงกีขยับตัวอย่างอึดอัด   คิ้วเรียวสวยม้วนเข้าอย่างขัดใจ   ร้อนชะมัด   แพขนตาหนาที่ทาบอยู่บนแก้มเนียนกระพริบอยู่สองสามครั้งก่อนลืมเปิดขึ้น

     

     

    แจจินฮงกีครายอือ   เรียกคนที่นอนด้วยกันอยู่ทุกวัน ร้อน เขาเริ่มงอแง

     

     

    แต่คราวนี้แทนที่จะได้รับคำพูดตามใจอย่างที่ควรกลับได้รับเพียงความเงียบไร้การตอบสนอง   

     

     

    แจจิน ฮงกีเรียกดังขึ้นอีกนิด    ก่อนจะหายงัวเงียและก็พบสาเหตุที่ว่าทำไมวันนี้ถึงได้ร้อนนักก็หลุดขำออกมา เฮ้ย   เอาแขนหนักๆของนายออกไปไกลๆจากตัวฉันเลยนะ   ร้อนจะตายอยู่แล้ว   ไม่งั้นถึงเป็นนายก็เถอะฉันถีบตกเตียงๆจริงๆนะ

     

     

    ฮงกีบ่นหงุงหงิงอย่างอารมณ์ดีโดนไม่รู้เรื่องรู้ราว   ด้วยนึกขำเพื่อนตัวดีที่ดันละเมอมากอดเขาได้  

     

     

    ฮงกีเลิกคิ้วเมื่อยังคงไม่ได้รับการตอบสนอง    เด็กหนุ่มแย้มรอยยิ้มบางในความมืด  ฉันจะนับถึงสามนะถ้านายยังไม่ขยับออกไปล่ะก็  หึหึ   เอาล่ะนะ

     

     

    หนึ่ง   สอง…”

     

     

    สองครึ่ง   ไม่เอาน่าแจจิน   ฉันไม่อยากเห็นนายตกเตียงดังอั๊กเพราะโดนถีบดังปึ๊กหรอกนะ

     

     

    ฮงกีขมวดคิ้วเมื่อเพื่อนรักที่ปรกติเป็นคนหลับยากแต่ตื่นง่ายยังคงเงียบอยู่เช่นเดิน  เอางั้นก็ได้  สะ…”

     

     

    ก่อนที่จะได้เอ่ยคำว่าสามและเงื้อเท้าวงแขนอบอุ่นนั้นก็ละออกไปแต่โดยดี   กลายเป็นมือใหญ่ที่รั้งท้ายทองเขาเข้าหาตัว   กว่าจะรู้ตัวอีกทีริมฝีปากร้อนก็แนบประชิด

     

     

    อื้อออฮงกีประท้วง   มือขาวทุบอกแกร่งของคนฉวยโอกาสแรงๆพร้อมดิ้นใหญ่   มือใหญ่รั้งต้นคอเขาไว้แรงมากขึ้น

     

     

    ฮงกีเพ่งมองไปในความมืดเบื้องหน้า   ก่อนที่จะพบความจริงที่ทำเอาตัวเองเกือบสำลักลมหายใจตาย   ชอย   จงฮุน  หมอนี่มาอยู่นี่ได้ยังไงกัน

     

     

    ด้วยความตกใจฮงกีจึงเผลอเผยอริมฝีปากให้เรียวลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาภายในอย่างอ่อนหวาน  

     

     

    ความเจ็บปวดรุนแรงพุ่งขึ้นจากช่องอกวูบเดียวแต่เสียวแปลบจนใจสะท้าน   มือที่เคยทุบเคยดันออกกลับกำเสื้อของจงฮุนแน่นเพื่อใช้เป็นหลักยึด   ในความมืดดวงหน้าหวานซีดจัดลงอย่างรวดเร็ว   จงฮุนละริมฝีปากออกช้าๆจากเรียวปากนุ่มที่สั่นระริกและลมหายใจหอบที่ถี่กระชั้น

     

     

    เลิกโวยวานซักที่ได้มั้ย   ฉันจะนอน จงฮุนพูดเสียงเย็น

     

     

    ฮงกีอ้าปากเพื่อหอบหายใจ   อาการปวดหนึบในช่องอกมันร้าวราวกับโดนมีดกรีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า   ทุกๆครั้งที่ลมหายใจเข้า   ทุกๆครั้งที่หายใจออก    เจ็บซะจนน้ำตาซึม   ร่างบางจึงผวาตัวเข้ากอดร่างสูงที่นอนเคียงข้าง   ไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าจนฮุนพูดอืออาอะไรต่อ   คืนนี้อาจจะยาวนานกว่าที่คิดสำหรับลีฮงกี  

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×