คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ...จุดเริ่มต้น...
REFRAIN
จุดเริ่มต้น
เสียงสายน้ำจากฝักบัวตกกระทบผิวกาย ทำให้ร่างสูงนึกถึงเรื่องวันนี้ มันเป็นเวลานานแล้วที่ชอย จงฮุนไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับลี แจจิน พอนึกก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มออกมา แจจินเหมือนเดิมทุกอย่างเลย ยังคงขี้อายและขี้กังวล ผิดกับสองคนนั่นลิบลับ
มือใหญ่เอื้อมไปปิดน้ำ ก่อนคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาพันลวกๆแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
“วันนี้พี่ดูอารมณ์ดีผิดปรกตินะ” เสียงทักของน้องชายตัวแสบที่เข้ามาในห้องโดยไม่ขออนุญาต แถมยังขึ้นไปนั่งบนเตียงเขาอีก
“ลงมา มินฮวาน” จงฮุนสั่นขณะแต่งตัว
“ใจร้ายชะมัด” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยอมลงแต่โดยดี เพราะทราบชัดว่าผู้เป็นพี่ชายห่างๆคนนี้น่ากลัวขนาดไหนเวลาโกรธ
มินฮวานลูบผมสีน้ำตาลทองของตัวเองเก้อ ง่า...พอลงมาแล้วไม่รู้จะนั่งตรงไหนดี มองพี่ชายสุดหล่อตาแป๋วก่อนหันไปทางโต๊ะเขียนหนังสือที่ค่อนข้างรกอย่างมีความหมาย
“ที่โต๊ะนั่น ถ้าอยากจะนั่งก็ได้ แต่อย่าแตะต้องอะไรล่ะ” จงฮุนพูด
มินฮวานยิ้มร่าเดินไปนั่งแปะที่โต๊ะทันที จงฮุนถอนหายใจ มินฮวานเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งย้ายมาอยู่ด้วยประมาณ 6 เดือนเพราะปัญหาทางบ้าน จงฮุนที่โตกว่าสองปีจึงต้องรับภาระไม่ต่างจากพี่เลี้ยงเด็ก ถ้ามันจะเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายแล้วล่ะก็เขาจะไม่ว่าอะไรเลย...สาบานก็ได้ แต่กับชอย มินฮวานเฮอะ ต่อให้ว่าขนาดไหนมันก็ยังยิ้ม ไขหูไม่รับฟัง
เสียงโทรศัพท์ของจงฮุนที่วางทิ้งไว้ดังขึ้น มินฮวานหยิบขึ้นมาเตรียมจะรับแต่มือใหญ่กลับคว้าไปรวดเร็ว
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่างจับอะไร” จงฮุนพูดเสียงต่ำ
“พี่ รับโทรศัพท์ก่อนไม่ดีเหรอ” มินฮวานยิ้มเจื่อน
พี่ชายคนเก่งก้มลงมองชื่อคนที่โทรเข้ามานิดหนึ่งก่อนเอ่ยต่อ “เออ ฉันจะออกไปคุยข้างนอกถ้ายังอากอยู่ในนี้ก็ อย่า ยุ่งอะไร เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ” มินฮวานตอบหนักแน่ ด้วยท่าทางไม่น่าไว้ใจซักนิด
ดวงตาคมหรี่ลงนิดหนึ่งก่อนที่จงฮุนจะเดินออกจากห้องไป ทำไมเขาจะต้องเป็นคนเดินออกมาด้วยวะ นั่นมันห้องเขานะโว้ยยยยยยยยยยย
ชื่อสายเรียกเข้า...ฮัน เมริน...
หลังจากที่จงฮุนเดินออกจากห้องไปแล้ว มินฮวานก็ขำเบาๆ ก่อนหันมาสำรวจข้าวของบนโต๊ะทำงานของท่านประธานนักเรียนสุดเท่ห์ คอมพิวเตอร์สีฟ้าที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งถูกทับด้วยกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณชมรมของปีนี้ตั้งเบ้อเร่อ อีกกองก็เป็นรายงานการจัดกิจกรรมภายในโรงเรียนรายงานความประพฤติ
มินฮวานหยิมขึ้นมาอ่านช้าๆ เมื่อเห็นชื่อของคนคุ้นเคยที่ไม่ได้พบกันมานานเด่นหรา
“...พี่วอนบิน” หัวใจที่สงบเริ่มเต้นถี่เพียงแค่คิดถึงใบหน้าของคนคนนั้น
มินฮวานกวาดสายตาอ่านข้อความนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนยิ้มอย่างโล่งอก คนคนนั้นก่อเรื่องชกต่อยกับนักเรียนโรงเรียนอื่นจนแขนของคู่กรณีหัก เพียงแค่ถูกพักการเรียนซักระยะเท่านั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่านะไม่ว่าอย่างไรก็อยากจะพบจัง...ถึงจะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ก็ตาม ก็คนคนนั้นนะไม่เคยมองใครนอกจาก...ช่างมันดีกว่า
มินฮวานวางกระดาษนั้นลงอย่างเดิม ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดอยู่ที่สมุดโน๊ตสีขรึมที่เห็นจงฮุนถือไปไหนมาไหนตลอด มือเล็กคว้าขึ้นมาเปิดอย่างอยากรู้ เขาเปิดไล่ไปหน้าแรกๆดูเหมือนจะเป็นตารางนัดหมาย
“พี่นี่มีเดทเยอะจริงแฮะ ทั้งๆที่ไม่มีแฟนซะหน่อย เอ...ฮัน เมรินนี่มันรุ่นพี่ที่โรงเรียนเรานี่นา” มินฮวานพึมพำ ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรซักอย่างที่ปะทะเข้าอย่างแรงที่หัวดัง ปั๊ก
มินฮวานกุมหัวแน่น สมุดตกกระทบพื้นทันที กระดาษที่สอดอยู่ด้านในหล่นกระจายแทบเท้าร่างสูงที่เข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“พี่ตบหัวผมทำไมเนี่ย เดี๋ยวโง่ไปพี่จะเลี้ยงมั้ย” เด็กหนุ่มโอดครวญเป็นการใหญ่
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าแตะต้องของบนโต๊ะ” จงฮุนถามยิ้มๆ แต่มือกำลังหักนิ้วดังเป๊าะๆ
มินฮวานยิ้มประจบแต่ชักจะหน้าซีด...ลืมอ่ะ
จงฮุนเดินเข้ามาใกล้ มินฮวานหลับตาปี๋
ร่างสูงก้มลงเก็บกระดาษใบหนึ่งขึ้นมา มินฮวานลืมตาขึ้นมามองอย่างผิดคาด พลางเอียงคอมองดูกระดาษในมือพี่ชายอย่างสงสัย
รูป...รูปใบหนึ่งที่ไม่ว่าอย่างไรชอย จงฮุนก็ไม่สามารถทิ้งมันไปได้
มินฮวานพูดไม่ออก รูปใบนั้น รูปใบสุดท้ายทุกคนได้ถ่ายร่วมกันก่อนที่คนคนหนึ่งจะจากไปแสนไกล
ในภาพคนที่อยู่ตรงกลางเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก ผิวขาวจัด เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตากลมระยิบระยับราวแสงดาว ริมผีปากสีชมพูแย้มรอยยิ้มที่สวยที่สุดในโลก...ลี ฮงกี ล้อมรอบด้วยเพื่อนรัก ชอย จงฮุน โอ วอนบิน ลี แจจิน และ ชอย มินฮวาน
...
9 ปีก่อน
“นาย...นี่...”
เสียงเล็กดังขึ้นข้างหู ดวงตาคมลืมขึ้นมองอย่างไม่ตื่นดี
“นายมานอนอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ”
“ฮะ...” คนถูกปลุกทำท่าคิดอย่างหนักว่าเด็กตัวเล็กคนนี้กำลังหมายความว่ายังไง
“ไปเล่นกันเถอะ นี่มันพักกลางวันนะ” เด็กคนนั้นพูดต่อ พร้อมยิ้มน่ารัก รอยยิ้มที่ทำให้ต้องยิ้มตามไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว “นะ นะ นะ ไปเล่นเป็นเพื่อนกันนะ”
ไม่พูดเปล่า มือขาวยังคว้าเอามือเขามาจับแล้วดึงอย่างเอาแต่ใจ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงโกรธไปแล้วแต่ก็น่าแปลกเขากำลังรู้สึกดีใจ ดีใจมากๆ แต่แล้วคนตัวเล็กก็หยุดชะงัก
“ชั้นชื่อฮงกีนะ ลี ฮงกิ แล้วนายชื่ออะไรเหรอ”
“ชอย จงฮุน”
ฮงกีตัวน้อยผงกหัวรับงึกงักยิ้มร่าดวงตาเป็นประกาย “เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”
“อื้อ”
“แล้วนี่พวกเพื่อนฉัน...”
...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งขัดความคิดของจงฮุน เขายกขึ้นมาดูชื่อสายเรียกเข้ากลับไม่ปรากฎชื่อคนโทรมา ร่างสูงก้มลงเก็บรูปนั้นเข้าไปในสมุดตามเดิมอย่างทะนุถนอมอย่างที่มินฮวานยังรู้สึกได้ พร้อมกับกดรับโทรศัพท์ไปด้วย
“ฮัลโหล” จงฮุนพูด
ปลายสายเงียบไปอึดใจก่อนที่เสียงของทางนั้นจะดังตอบมา “...นี่โอ วอนบิน...”
ดวงตาคมเบิกกว้างขึ้น ประกายเกรี้ยวปนความเกลียดชัดฉายชัดยามเงยหน้าขึ้นมาสบตากับน้องชาย
“นายออกไปก่อน”
มินฮวานขยับลุกแต่โดยดี ก่อนที่ประตูห้องจะปิดลงเสียงของจงฮุนก็ดังขึ้น
“ว่าไง วอนบิน”
REFRAIN
จุดเริ่มต้น
เสียงสายน้ำจากฝักบัวตกกระทบผิวกาย ทำให้ร่างสูงนึกถึงเรื่องวันนี้ มันเป็นเวลานานแล้วที่ชอย จงฮุนไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับลี แจจิน พอนึกก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มออกมา แจจินเหมือนเดิมทุกอย่างเลย ยังคงขี้อายและขี้กังวล ผิดกับสองคนนั่นลิบลับ
มือใหญ่เอื้อมไปปิดน้ำ ก่อนคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาพันลวกๆแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
“วันนี้พี่ดูอารมณ์ดีผิดปรกตินะ” เสียงทักของน้องชายตัวแสบที่เข้ามาในห้องโดยไม่ขออนุญาต แถมยังขึ้นไปนั่งบนเตียงเขาอีก
“ลงมา มินฮวาน” จงฮุนสั่นขณะแต่งตัว
“ใจร้ายชะมัด” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยอมลงแต่โดยดี เพราะทราบชัดว่าผู้เป็นพี่ชายห่างๆคนนี้น่ากลัวขนาดไหนเวลาโกรธ
มินฮวานลูบผมสีน้ำตาลทองของตัวเองเก้อ ง่า...พอลงมาแล้วไม่รู้จะนั่งตรงไหนดี มองพี่ชายสุดหล่อตาแป๋วก่อนหันไปทางโต๊ะเขียนหนังสือที่ค่อนข้างรกอย่างมีความหมาย
“ที่โต๊ะนั่น ถ้าอยากจะนั่งก็ได้ แต่อย่าแตะต้องอะไรล่ะ” จงฮุนพูด
มินฮวานยิ้มร่าเดินไปนั่งแปะที่โต๊ะทันที จงฮุนถอนหายใจ มินฮวานเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งย้ายมาอยู่ด้วยประมาณ 6 เดือนเพราะปัญหาทางบ้าน จงฮุนที่โตกว่าสองปีจึงต้องรับภาระไม่ต่างจากพี่เลี้ยงเด็ก ถ้ามันจะเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายแล้วล่ะก็เขาจะไม่ว่าอะไรเลย...สาบานก็ได้ แต่กับชอย มินฮวานเฮอะ ต่อให้ว่าขนาดไหนมันก็ยังยิ้ม ไขหูไม่รับฟัง
เสียงโทรศัพท์ของจงฮุนที่วางทิ้งไว้ดังขึ้น มินฮวานหยิบขึ้นมาเตรียมจะรับแต่มือใหญ่กลับคว้าไปรวดเร็ว
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่างจับอะไร” จงฮุนพูดเสียงต่ำ
“พี่ รับโทรศัพท์ก่อนไม่ดีเหรอ” มินฮวานยิ้มเจื่อน
พี่ชายคนเก่งก้มลงมองชื่อคนที่โทรเข้ามานิดหนึ่งก่อนเอ่ยต่อ “เออ ฉันจะออกไปคุยข้างนอกถ้ายังอากอยู่ในนี้ก็ อย่า ยุ่งอะไร เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ” มินฮวานตอบหนักแน่ ด้วยท่าทางไม่น่าไว้ใจซักนิด
ดวงตาคมหรี่ลงนิดหนึ่งก่อนที่จงฮุนจะเดินออกจากห้องไป ทำไมเขาจะต้องเป็นคนเดินออกมาด้วยวะ นั่นมันห้องเขานะโว้ยยยยยยยยยยย
ชื่อสายเรียกเข้า...ฮัน เมริน...
หลังจากที่จงฮุนเดินออกจากห้องไปแล้ว มินฮวานก็ขำเบาๆ ก่อนหันมาสำรวจข้าวของบนโต๊ะทำงานของท่านประธานนักเรียนสุดเท่ห์ คอมพิวเตอร์สีฟ้าที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งถูกทับด้วยกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณชมรมของปีนี้ตั้งเบ้อเร่อ อีกกองก็เป็นรายงานการจัดกิจกรรมภายในโรงเรียนรายงานความประพฤติ
มินฮวานหยิมขึ้นมาอ่านช้าๆ เมื่อเห็นชื่อของคนคุ้นเคยที่ไม่ได้พบกันมานานเด่นหรา
“...พี่วอนบิน” หัวใจที่สงบเริ่มเต้นถี่เพียงแค่คิดถึงใบหน้าของคนคนนั้น
มินฮวานกวาดสายตาอ่านข้อความนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนยิ้มอย่างโล่งอก คนคนนั้นก่อเรื่องชกต่อยกับนักเรียนโรงเรียนอื่นจนแขนของคู่กรณีหัก เพียงแค่ถูกพักการเรียนซักระยะเท่านั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่านะไม่ว่าอย่างไรก็อยากจะพบจัง...ถึงจะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ก็ตาม ก็คนคนนั้นนะไม่เคยมองใครนอกจาก...ช่างมันดีกว่า
มินฮวานวางกระดาษนั้นลงอย่างเดิม ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดอยู่ที่สมุดโน๊ตสีขรึมที่เห็นจงฮุนถือไปไหนมาไหนตลอด มือเล็กคว้าขึ้นมาเปิดอย่างอยากรู้ เขาเปิดไล่ไปหน้าแรกๆดูเหมือนจะเป็นตารางนัดหมาย
“พี่นี่มีเดทเยอะจริงแฮะ ทั้งๆที่ไม่มีแฟนซะหน่อย เอ...ฮัน เมรินนี่มันรุ่นพี่ที่โรงเรียนเรานี่นา” มินฮวานพึมพำ ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรซักอย่างที่ปะทะเข้าอย่างแรงที่หัวดัง ปั๊ก
มินฮวานกุมหัวแน่น สมุดตกกระทบพื้นทันที กระดาษที่สอดอยู่ด้านในหล่นกระจายแทบเท้าร่างสูงที่เข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“พี่ตบหัวผมทำไมเนี่ย เดี๋ยวโง่ไปพี่จะเลี้ยงมั้ย” เด็กหนุ่มโอดครวญเป็นการใหญ่
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าแตะต้องของบนโต๊ะ” จงฮุนถามยิ้มๆ แต่มือกำลังหักนิ้วดังเป๊าะๆ
มินฮวานยิ้มประจบแต่ชักจะหน้าซีด...ลืมอ่ะ
จงฮุนเดินเข้ามาใกล้ มินฮวานหลับตาปี๋
ร่างสูงก้มลงเก็บกระดาษใบหนึ่งขึ้นมา มินฮวานลืมตาขึ้นมามองอย่างผิดคาด พลางเอียงคอมองดูกระดาษในมือพี่ชายอย่างสงสัย
รูป...รูปใบหนึ่งที่ไม่ว่าอย่างไรชอย จงฮุนก็ไม่สามารถทิ้งมันไปได้
มินฮวานพูดไม่ออก รูปใบนั้น รูปใบสุดท้ายทุกคนได้ถ่ายร่วมกันก่อนที่คนคนหนึ่งจะจากไปแสนไกล
ในภาพคนที่อยู่ตรงกลางเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก ผิวขาวจัด เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตากลมระยิบระยับราวแสงดาว ริมผีปากสีชมพูแย้มรอยยิ้มที่สวยที่สุดในโลก...ลี ฮงกี ล้อมรอบด้วยเพื่อนรัก ชอย จงฮุน โอ วอนบิน ลี แจจิน และ ชอย มินฮวาน
...
9 ปีก่อน
“นาย...นี่...”
เสียงเล็กดังขึ้นข้างหู ดวงตาคมลืมขึ้นมองอย่างไม่ตื่นดี
“นายมานอนอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ”
“ฮะ...” คนถูกปลุกทำท่าคิดอย่างหนักว่าเด็กตัวเล็กคนนี้กำลังหมายความว่ายังไง
“ไปเล่นกันเถอะ นี่มันพักกลางวันนะ” เด็กคนนั้นพูดต่อ พร้อมยิ้มน่ารัก รอยยิ้มที่ทำให้ต้องยิ้มตามไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว “นะ นะ นะ ไปเล่นเป็นเพื่อนกันนะ”
ไม่พูดเปล่า มือขาวยังคว้าเอามือเขามาจับแล้วดึงอย่างเอาแต่ใจ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงโกรธไปแล้วแต่ก็น่าแปลกเขากำลังรู้สึกดีใจ ดีใจมากๆ แต่แล้วคนตัวเล็กก็หยุดชะงัก
“ชั้นชื่อฮงกีนะ ลี ฮงกิ แล้วนายชื่ออะไรเหรอ”
“ชอย จงฮุน”
ฮงกีตัวน้อยผงกหัวรับงึกงักยิ้มร่าดวงตาเป็นประกาย “เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”
“อื้อ”
“แล้วนี่พวกเพื่อนฉัน...”
...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งขัดความคิดของจงฮุน เขายกขึ้นมาดูชื่อสายเรียกเข้ากลับไม่ปรากฎชื่อคนโทรมา ร่างสูงก้มลงเก็บรูปนั้นเข้าไปในสมุดตามเดิมอย่างทะนุถนอมอย่างที่มินฮวานยังรู้สึกได้ พร้อมกับกดรับโทรศัพท์ไปด้วย
“ฮัลโหล” จงฮุนพูด
ปลายสายเงียบไปอึดใจก่อนที่เสียงของทางนั้นจะดังตอบมา “...นี่โอ วอนบิน...”
ดวงตาคมเบิกกว้างขึ้น ประกายเกรี้ยวปนความเกลียดชัดฉายชัดยามเงยหน้าขึ้นมาสบตากับน้องชาย
“นายออกไปก่อน”
มินฮวานขยับลุกแต่โดยดี ก่อนที่ประตูห้องจะปิดลงเสียงของจงฮุนก็ดังขึ้น
“ว่าไง วอนบิน”
...
ความคิดเห็น