[SF EXO] SORRY BUT I LOVE YOU [HUNBAEK] - [SF EXO] SORRY BUT I LOVE YOU [HUNBAEK] นิยาย [SF EXO] SORRY BUT I LOVE YOU [HUNBAEK] : Dek-D.com - Writer

[SF EXO] SORRY BUT I LOVE YOU [HUNBAEK]

โดย lemonprincez

มีแฟน...แล้วทำไมถึงปล่อยให้แฟนต้องน้อยใจซ้ำๆ สนใจกันบ้างสิ ดูแลกันหน่อยเถอะนะ ก่อนที่จะเหนื่อยจนรอไม่ไหว...แล้วไปจากนาย

ผู้เข้าชมรวม

1,874

ผู้เข้าชมเดือนนี้

1

ผู้เข้าชมรวม


1.87K

ความคิดเห็น


2

คนติดตาม


38
เรื่องสั้น
อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ย. 57 / 20:58 น.


ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้



 

SF Sorry But I Love You [HUNBAEK]

 

 

“พี่แบค...ผมว่าเรากลับไปเป็นพี่น้องกันดีมั๊ย”

“เฮ้...พูดอะไร ไม่ตลกเลยเถอะ...”

“พี่...ผมเจ็บมากพอแล้ว หยุดเถอะ เผื่อมันจะดีกว่าที่เราเป็นทุกๆวันนี้”




ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ



     

    SF Sorry But I Love You [HUNBAEK]

     

     

    “พี่แบค...ผมว่าเรากลับไปเป็นพี่น้องกันดีมั๊ย”

    “เฮ้...พูดอะไร ไม่ตลกเลยเถอะ...”

    “พี่...ผมเจ็บมากพอแล้ว หยุดเถอะ เผื่อมันจะดีกว่าที่เราเป็นทุกๆวันนี้”

    “เซฮุนนา...”

    “ผมทนมามากพอแล้ว ผมควรพอ...เป็นพี่น้องกันเถอะนะครับ ปล่อยผม...”

    “พี่...ขอโทษ หายโกรธพี่เถอะ บอกพี่ว่าครั้งนี้นายก็แค่โกรธพี่เหมือนคราวก่อนๆ พี่จะไม่ทำอีกแล้ว ให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ เซฮุน...ได้โปรด ยกโทษให้พี่เถอะ ไม่เอาไม่พูดแบบนี้ ไม่ดีเลยนะ อย่าเอาคำว่าเลิกกันมาพูดสิ”

    “พี่ก็ดีแต่พูดว่าขอโทษ ใจพี่รู้สึกผิดด้วยรึเปล่า ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมเจ็บ...ผมทน ผมร้องไห้ ผมเหนื่อย”

    “ฮึก...ไม่เอา...พี่ขอโทษ”

    “พอได้แล้วครับคนดี...”

    “ยกโทษให้พี่แล้วใช่มั๊ย...เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมใช่มั๊ย?”

    “เปล่าครับ...เพราะผมไม่อยากฟังมันจากปากพี่อีกแล้ว ไปหาคนที่ดีกว่าผมเถอะนะ”

     

     

     

    หาคนที่ดีกว่างั้นหรอ...จะไปหาได้จากที่ไหน

     

    ถ้าไม่ใช่นาย...เซฮุน

     

     

     

    เสียงพูดคุยจอแจดังมาจากร้านโซจูข้างทางไม่ได้ทำให้แบคฮยอนรำคาญหรือรู้สึกวุ่นวายแม้แต่นิด คนตัวเล็กนั่งอยู่ในนั้นด้วยสภาพเหม่อลอย ถือขวดโซจูไว้หลวมๆแล้วหมุนมันเล่น ดวงตาเรียวมองน้ำเมาในขวดอย่างว่างเปล่า ขวดแล้วขวดเล่าที่ถูกสั่งมากองไว้ตรงหน้า ขวดแล้วขวดเล่าที่ถูกกรอกน้ำเมาเข้าปากผ่านลำคอที่แห้งผาก ดวงตาฉ่ำไปด้วยน้ำสีใสเอ่อคลอ ฉุนจมูกทุกครั้งที่ความรู้สึกบางอย่างมันตีตื้นขึ้นมาเต็มอก หากเขาเผลอนิดเดียว...ไอ้ที่เอ่อๆอยู่ขอบตามันคงจะร่วงลงมาให้เขาสมน้ำหน้าตัวเองเล่น

     

     

    วันนี้วันครบรอบ 1 ปีของเรา....ที่เลิกกัน

     

     

    ตอนนั้นไม่รู้ตัวเลยจริงๆ...ว่าเซฮุนจะพูดจริง ไม่คิดว่าคนที่ยอมให้อภัยเขาทุกครั้งจะตัดสินในแน่วแน่เพื่อที่จะจากเขาไปอย่างไม่เหลียวมามองอีก มันกะทันหันซะจนหัวใจไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีกเป็นครั้งที่สอง

     

    ยังจำภาพนั้นได้ดี....

     

    แผ่นหลังของอีกคนกำลังทิ้งห่างจากเขาไป ไหล่กว้างๆที่เคยซบกำลังหายไป....โดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง

     

     

    เหลือเพียงน้ำตาและความอ่อนแอของคนที่สำนึกผิด....ในวันที่สายไป

     

     

    ฉันรู้ดี....ทำไมท้องฟ้ายามเช้า กลับดูมืดมน...กว่าทุกวันที่เลยผ่าน

    ฉันเข้าใจ...ทำไมแสงจันทร์คืนนี้เหน็บหนาวกว่าที่ฉัน...เคยรู้สึก

    ไม่คิดสงสัย พอฟังเพลงรักวันนี้กลับเศร้ากว่าทุกที...ที่ได้ยิน

    ไม่แปลกใจ กับความรู้สึกที่ฉันเผชิญอยู่ตอนนี้

    แต่ยังมีหนึ่งคำถาม ที่ฉันไม่เข้าใจ เป็นหนึ่งคำถามที่ฉันยังตอบไม่ได้...

     

     

    จ่ายเงินค่าโซจูก่อนจะเดินออกมานอกร้าน เดินไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย...สองมือเรียวซุกเข้าในกระเป๋าหาไออุ่น อากาศกำลังเริ่มหนาว...เมื่อก่อนคงมีมือใครบางคนคอยกุมเอาไว้ให้คลายความหนาวเหน็บ

     

    “เซฮุนนา...ตอนนี้นายกำลังทำอะไรอยู่กันนะ?”

    ริมฝีปากอิ่มพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว แบคฮยอนกำลังเมา...ไม่สิ เขาไม่ได้เมา ยังรู้สึกตัวดีทุกอย่าง เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะบังคำหรือว่าควบคุมจิตใจ...ให้วันนี้เป็นวันที่เขาอยากทำทุกอย่างตามความรู้สึกของตัวเอง ปล่อยให้ความเศร้า ความเหงา ความคิดถึง ความรักมันแสดงออกมาเต็มที่

     

    เหนื่อยมาตลอดทั้งปีกับการต้องซ่อนน้ำตาไว้ภายใต้รอยยิ้ม

     

    พยายามทำตัวปกติ ไม่แคร์ ไม่เครียด ไม่สนใจ เฮฮา สนุกสนาน เป็นตัวแจกรอยยิ้มให้คนรอบกายมีความสุข

     

    ถ้าคุณเคยดูรายการตลก...เวลาตัวตลกร้องไห้ คุณคงไม่เชื่อ ว่าเขากำลังร้องไห้จริงๆ ก็นั่นแหละ แบคฮยอนเป็นตัวสร้างรอยยิ้มของทุกๆคน เวลาเศร้า ใครจะเชื่อว่าเขาเศร้า

     

    มันเป็นความเศร้าที่เศร้ากว่าใครๆ

     

    แบคฮยอนก้มมองมือข้างซ้ายของตัวเองที่ซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เหลือบมองข้างกายที่เมื่อก่อนเคยมีใครคนหนึ่งเดินอยู่ข้างๆ ยิ้มให้กับถนนข้างกายที่ว่างเปล่าน้อยๆก่อนจะหลุบตาลงต่ำ

     

    ตอนนี้นายคงมีความสุขกับคนใหม่...คนที่ดีกว่าเขาในตอนนั้น

     

    คงจะมีคนที่สามารถดูแลนายได้ดีกว่า...และไม่ดีแต่ทำให้นายเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนเขาคนนี้

     

    นายจะสามารถยิ้มได้กว้างแค่ไหนกันนะ เสียงหัวเราะของนาย...เขาจะสามารถทำให้นายมีความสุขได้มากกว่าเขาใช่มั๊ย...อ้อมกอดของเขาอุ่นพอรึเปล่า...เวลานายเหนื่อยเขาจะดูและและพูดให้กำลังใจนายเหมือนที่แบคฮยอนคนนี้เคยทำให้ไหม...เขาจะ...เติมเต็มสิ่งที่นายต้องการได้รึเปล่า

     

     

    ยังเก็บไว้ความจำที่เคยสดใส เมื่อตอนที่เธอยังคงอยู่

    เพิ่งเข้าใจว่าความเดียวดายมันเหงาเพียงใด เมื่อเธอหายไป...

     

     

    “แบคฮยอน เซฮุนหายไปไหนล่ะ ช่วงนี้ไม่เห็นพวกนายอยู่ด้วยกันเลยนะ”

    “อ่า...คือเราทะเลาะกันน่ะคยองซู”

    “อีกแล้วหรอ ทำไมทะเลาะกันบ่อยจัง”

    “ไม่มีอะไรมากหรอก พอดีว่าเซฮุนไม่ชอบที่เราไปเล่นกับชานยอลบ่อยๆน่ะ”

    “เซฮุนขี้หึงชะมัด ชานยอลไม่ใช่เสปกนายซักนิดเลยนะแบคฮยอน อีกอย่าง เซฮุนก็เป็นแฟนนายอยู่แล้ว ยังจะหึงอะไรไม่เข้าท่า”

     

    เพราะว่ารัก...ถึงได้หึง

    เพราะว่าสนใจ...ถึงได้หวง

    เพราะว่าเราเป็นของกันและกัน ถึงได้ไม่อยากให้ใกล้ใครๆ

     

    ทำไมเขาจะไม่เข้าใจ....แต่เพราะว่าเหตุการณ์มันพาไปแบบนั้น จะให้เขาทำยังไงล่ะ

     

    แบคฮยอนชอบให้เซฮุนหึง...มันดูเหมือนเขาสำคัญ

     

    แต่วันนี้....ไม่มีใครคอยหึง

     

    “เวลาใครๆเขาถามหานาย...รู้มั๊ยว่าพี่ต้องเจอกับอะไรบ้างน่ะ...หึ...”

    พูดระบายแผ่วเบากับสายลม เท้าเล็กเดินไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน เซบางเอียงบ้างเนื่องจากเริ่มกรึ่มๆเซจูมาบ้างแล้ว แค่นเสียงหัวเราะหนึ่งทีก่อนจะหันไปมองสวนสาธารณะข้างทางที่ไร้ผู้คน คิดจะเข้าไปนั่งพักแต่ก็ไม่...ขาเรียวยังคงเดินต่อไปไม่หยุด ปลายแขนปลายขาเริ่มเย็นจนมันปวดหนึบไปหมด...แต่ทำไมขอบตาของเขาถึงได้ร้อนผ่าวขนาดนี้

     

    เวลาใครถามว่านายไปไหน...พี่ไม่รู้จะต้องตอบว่าอะไร

     

    เวลานายไม่อยู่ข้างๆพี่...ใครถามหานายแล้วจะให้พี่ตอบใครๆว่านายกำลังทำอะไรอยู่ทีไหน

     

    แล้วนาย...ถ้าเป็นนาย ถ้าใครๆถามนาย นายจะตอบว่ายังไงเซฮุน....

     

    การใช้ชีวิตโดยไม่มีนายมันรู้สึกยากลำบากขึ้นเป็นกองเลย...

     

     

    ป๊อก...

    ป๊อก...

     

    “เฮ้...เซฮุน นายเอาอะไรมาเขวี้ยงกระจกห้องพี่เนี่ย ถ้ามันแตกจะว่ายังไง”

    แบคฮยอนเปิดหน้าต่างห้องออกก็พบว่าตัวการที่ทำให้เกิดเสียงอยู่ข้างล่าง เที่ยงคืนแล้วทำไมยังมาอยู่ที่บ้านเขาอีก ทั้งๆที่ก็แยกกันไปตั้งแต่ตอนเย็นแล้วแท้ๆ

     

    *จำได้มั๊ยว่าวันนี้วันอะไร?*

     

    กระดาษแผ่นใหญ่ถูกชูขึ้นเหนือหัวเซฮุนพร้อมกับข้อความบนนั้น แบคฮยอนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะส่ายหน้าตอบกลับไป วันอะไรหว่า?

     

    “ก็วันที่ 1 ไง ทำไมหรอ?”

     

    เซฮุนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเขียนข้อความขึ้นบนกระดาษแผ่นใหม่ แขนยาวๆชูมันขึ้นเหนือหัวตัวเองอีกครั้ง เป็นข้อความที่แบคฮยอนอ่านแล้วถึงกับน้ำตาซึม

     

    *ครบรอบ 5 เดือนของเราแล้วนะป้า ถึงป้าจะชอบเจ้าชู้ คุยกับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว อ้วน เตี้ย หลายใจ นิสัยดีเกินไป ใครอยู่ใกล้แม่งก็หลงรัก แต่ว่านะ อะไรที่เป็นของผม มันก็เป็นของผมอยู่ดี อยู่กับผม ไม่ต้องกลัวว่าใครจะทำร้ายพี่ จับมือแล้วอยู่ข้างหลังผมเอาไว้ ผมไม่ทิ้งพี่แน่นอนไอ้อ้วน*

     

    “ฮึก....ไอ้บ้า นี่จะด่าพี่หรอ ....รักนายเหมือนกัน ขอโทษนะที่จำไม่ได้...”

    *รักป้าแบค”

     

    “รักลุงฮุน...ลุงฮุนของป้าแบค อยู่ด้วยกันไปจนแก่เลยนะ คิกๆ”

     

     

     

    แบคฮยอนคนนี้ไม่เคยมีอะไรดีเลย....ไม่เคยทำอะไรให้คนเป็นแฟนภูมิใจซักครั้ง

     

    ไม่เคยจำวันครบรอบที่คบกันได้

     

    ไม่เคยรู้ว่าเขาชอบกินอะไร ไม่ชอบอะไร

     

    เทคแคร์คนรอบข้างมากไป จนบางทีก็ลืมเวลาที่จะอยู่กับเซฮุน

     

    ถนัดนักล่ะ...ทำให้เซฮุนโกรธวันเว้นวัน

     

    แบคฮยอนคนนี้ก็แค่คนที่นิสัยแย่...ทำร้ายคนที่รักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

     

    คนเราก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีทั้งหมด คนเลวทั้งหมด แบคฮยอนก็เช่นกัน เขาเองก่อนมาเจอเซฮุนก็ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ เจอใครถูกใจก็สานต่อ ถ้าไม่ก็จบคืนเดียวบนเตียง ความสำพันธ์วาบหวาม แป๊บเดียวก็มอด ไม่สนใจใคร ตื่นมาก็ทางใครทางมัน แต่กับเซฮุนไม่ใช่...เราเริ่มต้นจากการเป็นพี่ชายน้องชาย สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความผูกพัน แบคฮยอนไม่รู้ตัวหรอกว่าโดนเซฮุนยึดพื้นที่หัวใจไปเมื่อไหร่ เซฮุนก็ไม่รู้...ว่ารักแบคฮยอนตั้งแต่ตอนไหน

     

    ถึงแม้ต่างคนจะรู้สึกดีๆต่อกัน แต่แล้วแบคฮยอนก็ก่อเรื่องจนได้...

     

     

    “พ...พี่แบคฮยอน คบกับพี่ชานยอลหรอครับ ยินดีด้วยนะ ฮ่ะๆ”

    “ซ...เซฮุน คือว่า...พี่ พี่ขอโทษ พี่...โว้ย!!!!

    “พี่จะมาขอโทษผมทำไมล่ะ พี่ไม่ได้ผิดอะไรซะหน่อย ผมต่างหากที่ผิด...ผิดที่รักพี่ แต่ผมคงเป็นได้แค่น้องแล้วแหละ พี่คบกับพี่ชานยอลแล้วนี่”

    “ตอนนั้นพี่ไม่รู้ว่าพี่คิดอะไรอยู่ พี่รักนายนะแต่ว่าชานยอลมาขอพี่เป็นแฟน พี่เองก็ตกลงไปเล่นๆไม่คิดว่าเรื่องมันจะขนาดนี้ อย่าเข้าใจพี่ผิดสิ”

    “ไม่ผิดหรอกครับ พี่ก็แค่ไปคบกับพี่ชานยอล ผมก็อยู่ส่วนผม”

    “ไม่ พี่รักนาย พี่จะไปเลิกกับชานยอล...แล้วพรุ่งนี้เรามาคบกันนะเซฮุน”

     

     

    ไงล่ะ เลวดีเน๊อะแบคฮยอน

     

    เรื่องของแบคฮยอนกับเซฮุนเริ่มขึ้นหลังจากนั้น เขาไปบอกเลิกชานยอลทั้งๆที่เพิ่งตกลงคบกันได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แบคฮยอนผิดเอง เขาอยากจะขอโทษชานยอลที่ตอบตกลงไปอย่างไม่คิด เขารู้ว่าชานยอลรู้สึกอย่างไรกับเขา และเขาเองก็รักเซฮุนไปแล้ว เพียงแต่ปากเจ้ากรรมดันไปตอบรับคำขอของชานยอลเนี่ยสิ....

     

    ชานยอลไม่ผิด เซฮุนเองก็ไม่ผิด

    ใครผิดก็คงไม่ต้องพูดย้ำ

     

    มันคงเป็นเพราะความไม่เคยพอในความรักของเขาเองนี่แหละที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันพัง

     

    เขาเองเป็นคนที่ต้องการความรัก...ความสนใจจากคนรอบๆข้าง โลภมากไม่เคยพอ

     

    บางทีมันอาจยังไม่ถึงเวลาในตอนนั้น...บทลงโทษของเขาก็เลยยังไม่มาถึง

     

     

     

     

    ขาเรียวเดินเตะก้อนหินริมทางไปเรื่อยๆ....หัวสมองว่างเปล่าไร้สิ่งใด หยิบหูฟังขึ้นมาเสียบหูเพียงข้างเดียวแล้วเปิดเพลย์ลิสฟังเพลงไปเรื่อยๆ...หูฟังอีกข้างก็ปล่อยมันตกไว้ข้างๆตัว

     

    แบคฮยอนเคยไม่ชอบเวลาใส่หูฟังทั้งสองข้างแล้วมีมือดีมาดึงมันออกไปฟังหนึ่งข้าง

     

    แต่วันนี้กลับไม่ชิน...ที่ต้องใส่หูฟังทั้งสองข้าง

     

    เพราะหูฟังอีกข้าง...เซฮุนชอบดึงไปฟังเพลงด้วยกันประจำ

     

    แบคฮยอนแค่ชิน...กับการเสียบหูฟังข้างเดียวแล้วอีกข้างก็เป็นของร่างสูง

     

     

     

    “นายทำให้พี่นิสัยเสีย...แย่ชะมัด เพราะนายตามใจพี่จนเคยตัวแท้ๆเลยเซฮุน”

     

    เมื่อก่อนเซฮุนน่ะเคย....

     

    “พี่แบค ร้อนไหมเดี๋ยวพัดให้”

    “พี่แบค หิวไอติมมั๊ยเดี๋ยวผมไปซื้อให้”

    “พี่แบค เอากระเป๋ามาสิผมถือให้”

    “พี่แบค ฝนมันตก ผมมีร่ม เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน”

    “อ่ะ ป้อน”

    “ขี่หลังผมมั๊ย ง่วงจนตาจะปิดแล้ว”

    “มีอะไรเรียกผมได้ตลอดเลยนะ โทรหาผม”

     

     

    “กลับมาดูแลพี่อีกครั้งได้มั๊ย คนบ้า!! ไหนบอกจะดูแลกันไง ไหนบอกจะอยู่ด้วยกันตลอดไปไง ตอนนี้หายไปไหน ทำไมปล่อยให้พี่เดินอยู่คนเดียว ทำไม...ฮึก ทำไม ทิ้งพี่ไปไหน นายจะทำกับพี่แบบนี้ไม่ได้นะ ฮือ...พี่ขอโทษ กลับมาหาพี่ได้มั๊ย...พี่ขอแก้ตัวอีกครั้ง พี่รู้ว่าพี่ไม่ใช่คนดี พี่รู้ว่าพี่มันแย่ แต่...คนแย่ๆอย่างพี่ก็รักนายนะ...”

     

    หมดแล้วความอดทน เสียงใสตะโกนดังจนหอบ ไม่สนใจว่าใครจะเดินผ่านไปมาบ้าง ไม่สนว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน ใครทำอะไรอยู่ ไม่มีแรงเลย...อ่อนแอถึงเพียงนี้เลยหรอ แบคฮยอนผู้ไม่เคยร้องไห้ให้ใครในเมื่อก่อน วันนี้ถึงกับตะโกนกู่ร้องเหมือนคนบ้าให้กับคนๆนึงที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ไหนซะด้วยซ้ำ

     

    น้ำตาไหลลงจากดวงตาสวยกลิ้งลงมากับแก้มใสช้าๆจนในที่สุด...น้ำตาก็หยดลงบนพื้นพร้อมๆกับที่แบคฮยอนทรุดเข่าลงไปอย่างหมดเรี่ยวแรงที่จะยืน

     

    อยากให้รู้ว่ารักนายจริงๆนะเซฮุน ถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่เคยจางหายไปไหน

     

    ไม่สนว่าชุดที่ใส่นั้นจะเปื้อนแค่ไหน ไม่สนว่ามันจะราคาแพงเท่าไหร่ อยากจะลงโทษตัวเองอยู่ซ้ำๆกับความผิดที่ทำลงไป กับหลายๆอย่างที่ทำให้อีกคนได้เสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับความไม่เคยพอของตัวเอง นึกๆไปแล้วบทลงโทษแค่นี้ยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ แค่เซฮุนทิ้งเขาไป...มันยังเจ็บได้ไม่เท่าครึ่งหนึ่งที่เขาทรมานเซฮุนด้วยซ้ำ

     

     

    “พี่แบคฮยอน ตอนนี้พี่คุยไลน์กับใครบ้างอะ ตอบมาตามตรง”

    “ก็มีพี่คริส ชานยอล พี่ซิ่วหมิน คยองซู พี่เลย์ บลาๆ”

    “เหอะ...เยอะเน๊อะ”

    “ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าคิดมากสิ”

    “งั้นเอาไลน์มาให้ดูหน่อยสิ”

    “มันจะมากไปแล้วนะ พี่ไม่ให้นายดูหรอก”

     

     

    “พี่แบค ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน”

    “กำลังติวหนังสือกันอยู่น่ะ ทำไมหรอ?”

    “กับใคร?”

    “กับชานยอลน่ะ”

    “พี่อยู่ที่ไหน”

    “ที่บ้านชานยอล”

    “พี่ไปติวทำไมที่บ้านพี่ชานยอล บ้านพี่ก็มีทำไมไม่อยู่ที่บ้าน ผมหึง”

    “ไม่มีอะไรหรอกนะ แค่ติวหนังสือจริงๆ”

    “เชื่อได้หรอ? สายตานี่จะกินกันอยู่รอมร่อแล้ว”

    “เซฮุน ไม่เชื่อใจพี่หรอ?”

    “เชื่อก็ได้ครับ”

     

     

    “พี่แบคฮยอน พี่ปล่อยให้พี่คริสกอดทำไม”

    “ก็แค่พี่น้องกอดกันเอง อย่าคิดมากจะได้มั๊ย?”

    “พี่เป็นแฟนผมนะ! ไม่คิดมากได้หรอ ไม่มีใครคนไหนอยากให้แฟนตัวเองโดนคนอืนกอดหรอก”

    “พี่ขอโทษ วันหลังจะไม่ทำอีกแล้ว”

     

     

    “พี่แบค พี่ไปหอมแก้มพี่ซูโฮทำไม พี่ยังรู้ตัวอยู่รึเปล่าว่าพีเป็นแฟนผมน่ะ”

    “พี่ขอโทษ แต่พี่ไม่ได้คิดอะไรนะ”

    “ขอโทษอีกแล้ว ไม่ได้ตั้งใจอีกแล้ว ไม่ได้คิดอะไรอีกแล้ว แต่การกระทำพี่น่ะมันไม่ใช่เลยนะ”

    “พี่ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ พี่ก็แค่เฟรนด์ลี่”

    “พี่เลิกได้มั๊ยไอ้นิสัยเฟรนด์ลี่เนี่ย คุยแบบนี้กับผมคนเดียวไม่ได้หรอ มันยากมากหรอ”

    “ไม่ได้หรอกเซฮุน พี่มีแฟนแล้วจะให้พี่เปลี่ยนไปเพราะนายงั้นหรอ คนอื่นๆจะคิดยังไงล่ะ”

    “งั้นก็ตามใจครับ”

    “ขอโทษนะ คืนดีกันเถอะ พี่จะพยายามไม่ทำตัวแบบนี้อีกแล้วถ้านายไม่ชอบ”

    “เหอะ....”

     

     

     

    “พี่แบค...คำว่ารักของพี่น่ะ พี่ใช้มันพร่ำเพรื่อไปรึเปล่า ทำไมพี่บอกกับทุกคน...”

    “พี่รักทุกคนนี่ แต่พี่ไม่ได้รักเหมือนนายนะ อย่าเข้าใจผิดสิ....”

    “ผมไม่ชอบหรอกเวลาพี่ไปบอกรักใครๆเขาน่ะ พี่ไม่เคยรู้สึกถึงใจผมเลย เมื่อไหร่พี่จะหยุดซักที พี่มีผมแล้วยังไม่พอใจอีกรึไง”

    “มันไม่ใช่นะ พี่รักเขาแบบพี่น้อง นายก็ช่วยเข้าใจพี่หน่อยสิ”

    “พี่น้องหรอ เคยถามพวกเขารึเปล่าว่าเขาอยากจะเป็นพี่น้องกับพี่รึเปล่าน่ะ”

    “เซฮุน...ไม่เอาน่า เราทะเลาะกันบ่อยไปแล้วนะ อย่าทะเลาะกันอีกเลย”

    “เพราะใครล่ะ ไปหาคนอื่นไม่เว้นวัน”

    “เซฮุน!!! โลกนี้ไม่ได้มีแค่นายคนเดียวนะ พี่ก็มีสังคมของพี่ นายก็มีสังคมของนาย”

    “งั้นก็อยู่กับสังคมของพี่ไปเลย ผมไม่สนละ”

     

     

     

    “พี่แบคฮยอน”

    “พี่ขอโทษ พี่รู้ตัว พี่ไปค้างกับชานยอลมา พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกนาย”

    “หึ....”

    “แต่พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขานะ เชื่อใจพี่ดิ”

     

     

     

    เชื่อใจพี่ดิ.....

     

    คำๆนี้ได้แต่บอกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเซฮุนก็จะให้อภัยทุกครั้ง และเชื่อใจเขาทุกครั้ง แบคฮยอนเองก็พยายามปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เขาไม่เคยกอดคนอื่นก่อน แบคฮยอนไม่เคยส่งสายตาหวานๆให้ใคร เพียงแค่อ้อนไปตามนิสัย แต่เซฮุน....คงไม่เหลือความเชื่อใจให้เขาแล้วในวันนั้น เลือกที่จะไม่เชื่อใจแบคฮยอนอีกต่อไป

     

    กับคนที่พยายามเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเองแทบตาย...และคนที่ปิดใจไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งสิ้น

     

    ถ้าใครจะนิยามการรักกันของคนสองคนว่ามันก็เหมือนเส้นตรงสองเส้นมาบรรจบกันที่กึ่งกลาง

     

    หลังจากนั้นล่ะก็...เขาก็ขอนิยามต่อ อีกหน่อยเส้นสองเส้นก็จะทะลุผ่านเลยกันไป...ไม่กลับมาบรรจบกันอีกเลย

     

    สู้เป็นเส้นขนานกันตั้งแต่แรกจะดีกว่า...ถึงแม้มันจะไม่เคยมาบรรจบกัน แต่เส้นขนานทั้งสองเส้นก็ยังคงทอดยาวคู่กันไปเรื่อยๆไม่มีหายไปไหน

     

     

     

    แบคฮยอนยกแขนซ้ายขึ้นมามองดูนาฬิกา...

     

    0.0 น.

    เที่ยงคืนแล้วหรอเนีย....

     

     

         สุขสันต์วันครบรอบวันที่เราเลิกกันนะเซฮุน...

     

     

    ถ้าเปรียบความรักเป็นนิยายซักเล่ม...คุณคิดว่ามันจะจบลงตรงที่พระเอกกับนางเอกรักกันแค่นั้นรึไง...

    ชีวิตจริงมันไม่ใช่เลย มันมากกว่านั้น ชีวิตหลังจากนั้นนั่นแหละคือของจริง...ที่คนสองคนจะสามารถทำให้มันยืนยาวได้หรือไม่ จะสามารถทำให้มันไม่น้อยลงหรือมากเกินไปได้หรือไม่

    ก็นั่นล่ะ....ชีวิตของแบคฮยอนไม่ได้เพอร์เฟกต์ดั่งนิยาย สุดท้ายแล้วเขากับเซฮุนก็ต้องเลิกกัน

     

    ฝืนตัวเองลุกขึ้นเดินไปนั่งบนม้านั่งในสวนสาธารณะใกล้ๆด้วยหัวใจที่อ่อนล้าโรยแรง

     

    น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าไหลลงมาจากดวงตาที่เริ่มแดงก่ำ กี่เดือนกี่วันกี่วินาทีที่ผ่านพ้นไปไม่ทำให้เขาลืมคนที่ชื่อโอเซฮุนได้ซักครั้งเดียว ยังคงคิดถึงเขาอย่างกับคนบ้านับตั้งแต่ที่เขาจากไป เข้าใจว่าตัวเองสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไปก็ตอนนั้น ถ้าเขาเปลี่ยนตัวเองให้เร็วกกว่านี้ ไม่พยายามนอกใจคนที่รักตัวเองมากที่สุดในตอนนั้น วันนี้เขาก็อาจจะยังคงมีเซฮุนอยู่ข้างกาย...มีเซฮุนที่คอยกุมมือเขาเอาไว้

     

    ไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเองเลยให้ตายเถอะ

     

    เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ ลืมได้ซักทีสิแบคฮยอน คนดีๆก็ผ่านเข้ามาตั้งเยอะทำไมไม่สนใจเขาบ้าง

     

    ร่างเล็กนั่งกอดเข่าฝังใบหน้าจิ้มลิ้มและรอยน้ำตาเอาไว้บนเข่า กอดตัวเองร้องไห้สะอื้นจนตัวโยนอย่างน่าสงสาร โทษตัวเองมาตลอด ตั้งแต่เลิกกันมาก็เอาแต่โทษตัวเองมาตลอด เข้าใจว่าตัวเองไม่ดี รู้ตัวว่าแย่เหลือเกิน....แต่จะให้ทำยังไง นิสัยบางอย่างเขาก็ไม่สามารถแก้มันได้ดั่งใจ มันต้องใช้เวลา...

     

    รู้สึกเหมือนมีใครมานั่งข้างๆ

     

    แต่แบคฮยอนก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองว่าใครอยู่ดี ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาที่แสนอ่อนแอ

     

    “ทำไมยังมาที่นี่อยู่ล่ะครับพี่แบคฮยอน....จำได้ด้วยหรอว่าม้านั่งตัวนี้เราเคยมานั่งเล่นด้วยกันบ่อยๆน่ะ”

     

    เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาแบคฮยอนนั่งนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ดวงตาเรียวเบิกกว้างตกใจไม่อยากจะเชื่อ เสียงนี้มัน...คนๆนั้น ใช่คนๆนั้น...

     

    “...เซ...เซฮุน”

     

    เงยหน้าขึ้นมองคนข้างกายช้าๆ ด้วยดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหล่อคมที่แสนคิดถึง ตอนนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเองแล้ว เซฮุนมองมาทางเขาด้วยสายตาที่เรียบเฉย...ไม่มีแววตาสงสารใดๆหรือความรู้สึกใดๆหลงเหลืออยู่

     

    แววตาของเซฮุนไม่ได้สะท้อนภาพของเขาอีกต่อไป...

     

    ไม่มีแบคฮยอนอยู่ในดวงตาสีนิลของเซฮุนอีกต่อไปแล้ว

     

    “ยังไม่ลืมอีกหรอครับ....เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วนะ”

     

    เสียงทุ้มของคนตัวโตเอ่ยออกมาด้วยท่าทางปกติ เซฮุนทำเหมือนทักทายพูดคุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป แตกต่างจากอีกคนที่ตอนนี้หัวใจมันกำลังเต้นตุบๆรัวเหมือนกลองชุดอยู่ในอก

     

    ไม่เคยเตรียมใจมาก่อน...ไม่เคยคิดว่าจะได้เจออีกครั้ง

     

    หนึ่งปีที่ผ่านมาแบคฮยอนไม่เคยเจอเซฮุนอีกเลยนับตั้งแต่วันที่เลิกกัน แบคฮยอนพยายามตามหาเซฮุนเท่าไหร่ก็ตามแต่ก็ไม่พบ แบคฮยอนพยายามขอโทษเซฮุน แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จนในที่สุดแบคฮยอนก็ยอมรับตัวเองว่าเลิกกันจริงๆ เซฮุนเลิกกับแบคฮยอนจริงๆในวันนั้น...

     

    “กับคนที่รัก...จะลืมมันลงได้ยังไงเซฮุน”

     

    “ผมก็ไม่ได้ลืมเรื่องของพี่หรอก แต่ผมก็แค่ไม่ได้รักพี่อีกแล้ว”

     

    เจ็บ...ได้ยินแบบนี้เจ็บไปเลย มันจุกเหมือนกับมีใครเอามีดมากรีดซ้ำๆไปทั่วร่างกาย...มีแค่เขาใช่ไหมที่ตอนนี้ยังรู้สึกรักอีกฝ่ายคนเดียว เซฮุนไม่ได้รักเขาแล้ว

     

    “กลับมา....”

     

    “ผมคิดว่าเลิกกันแบบนี้ดีที่สุดแล้วล่ะ ผมโอเคดี ผมคิดว่าพี่จะโอเคขึ้นนะ เปิดใจรับคนใหม่ได้แล้วครับ...ผมขอโทษจริงๆที่ผมเป็นคนๆนั้นของพี่อีกไม่ได้แล้ว ผมคงอดทนไม่พอ”

     

    “แต่พี่จะพยายามปรับปรุงตัว นายก็รู้ใช่มั๊ยว่าพี่ไม่มีใคร พี่จริงจังกับนายแค่คนเดียวเท่านั้น”

     

    “จริงจัง....แต่พี่ไม่เคยหยุด แล้วมันจะมีค่าอะไรล่ะครับ ผมมาที่นี่วันนี้ไม่ได้มาเพื่อที่จะทะเลาะกับพี่ แต่ผมมาก็เพราะว่า...ผมยังคิดถึงพี่อยู่ ถึงแม้จะไม่ได้รักแล้วก็เถอะ เรื่องของเรายังคงมีเรื่องดีๆอยู่เสมอ ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด”

     

    แล้วกับความรู้สึกของพี่...จะจัดการมันยังไงล่ะ?

     

    “ช่างพี่เถอะ...เดี๋ยวพี่ก็ดีขึ้นเอง การหาใครซักคนมาดามหัวใจมันไม่ยากเกินไปหรอก”

     

    “ขอให้หาเจอไวๆนะครับ ผมต้องไปแล้ว...ดูแลตัวเองด้วยนะครับพี่แบคฮยอน”

     

    มือหนายกขึ้นมาลูบผมนุ่มของแบคฮยอนอย่างแผ่วเบาราวกับคำบอกลาของพระเจ้า แบคฮยอนได้แต่หลับตาซึมซับสัมผัสนั้นเอาไว้ให้ได้มากที่สุดก่อนที่มันจะหายไป ก่อนที่เจ้าของมือข้างนี้จะจากไปอีกครั้ง แบคฮยอนก็คว้าแขนของเซฮุนเอาไว้แน่น

     

    เหมือนกับหัวใจบางส่วนยังต้องการ....

     

    “ดู...แล ดูแลตัวเองดีๆเหมือนกันนะเซฮุน พี่คงพูดได้แค่นี้”

     

    จบประโยค มือเล็กก็ปล่อยแขนของเซฮุนให้เป็นอิสระ รอยยิ้มฝืนๆถูกนำมาใช้อีกครั้ง คราวนี้เซฮุนไม่ได้ยิ้มกลับมา เดินหันหลังจากแบคฮยอนไปเงียบๆ

     

    อยากให้รู้ว่าคนนิสัยไม่ดีก็รู้สึกเจ็บไม่น้อยในวันที่ทำร้ายนาย มันเป็นการทำร้ายที่เขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ไม่ได้เอามีดแทง ไม่ได้เอาดาบฟัน แต่มันเป็นการทำร้ายทางจิตใจ....เขาเองรู้ตัวตลอด แต่มันห้ามใจไม่ได้ อดไมได้ที่จะทำตัวน่ารักๆใส่คนอื่นเพื่อที่จะได้รับความรักความเอ็นดู ข้อนี้เขารู้ดีว่าเซฮุนจะต้องไม่พอใจ แต่เซฮุนก็เคยอดทนมาได้ตลอด...บางทีแบคฮยอนอาจจะลืมไป ว่าความอดทนของคนเรามันมีขีดจำกัด

     

    แล้ววันนั้นขีดจำกัดของเซฮุนก็หมดลง

     

    วันนี้เซฮุนเลยเดินจากไปได้ง่ายดายไร้เยื่อไย...

     

    คงต้องทำใจจริงๆซักที....

     

    ก็ไม่รู้ว่าวันนี้หรือวันไหนที่จะทำใจได้ ซักวันนึงเขาจะต้องสามารถกลับมายิ้มให้เซฮุนได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

     

    ความรักมันต้องมีหลายรูปแบบ.....

     

    แอบรัก หลงรัก รักกัน เข้าใจกัน ทะเลาะกัน สุดท้าย...ก็เลิกกัน

     

    แด่ความรักทุกรูปแบบ...แด่ทุกคู่ที่กำลังมีความรัก...

     

    ************************************


    ขอบคุณนะคะที่ทุกคนเข้ามาอ่านฟิคสั้นเรื่องนี้

    คือไรท์อยากจะบอกว่า ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของไรท์ด้วยแหละ

    อยากจะบอกกับคนๆนึงให้รู้ว่าเราเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน

    ขอโทษที่เป็นคนไม่ดี ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้

    อยากให้รู้ว่าคนๆนี้ก็เสียใจไม่ต่างกัน....


    ฟิคเรื่องนี้อาจเวิ่นเว้อไปหน่อยๆเน๊าะ

    เอนจอยรีดดิ้งนะคะ 

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น

    ×