ศาลเจ้าแม่งูจงอางและลูก

คนไหนกันแน่ที่ถูกใจเรื่องราวตำนาน ความศรัทธา เลขเด็ด ติดตามพวกเราพอดีบล็อกของพวกเราได้เลยขา จะมีเรื่องมีราวใหม่ๆมาลงให้ทุกคนได้อ่าน ห้ามพลาด!!

ผู้ดูแล ศาลเจ้าแม่งูจงอางและก็ลูก เล่าว่า ตามเรื่องราวกว่า 30 ปีที่ล่วงเลยไป ศาลเจ้าแม่งูที่นี้มีการบอกต่อๆกันมา จากการเริ่มทำ ถนนหนทางพระราม ๒ ในเวลาที่ตัดถนนมาถึงหลัก กิโลเมตรที่๕-๖ กำเนิดอาเพศขึ้น โดยมีอยู่วันหนึ่ง คนงานหลับไปแล้วฝันว่า เจ้าแม่งูจงอาง มาเข้าฝันขอเวลา ๗วัน เนื่องด้วยเวลานี้กำลังครรภ์แก่ ถ้าหากอย่างไรขอให้ออกลูกก่อนแล้วหลังจากนั้นก็จะย้ายไปที่อื่นๆเมื่อคนงานฝันแบบนั้นก็ตกอกตกใจตื่นขึ้นมา แล้วนำเรื่องราวทั้งผองไปเล่าให้หัวหน้าคนงานฟังหัวหน้าคนงานบอกปัดไปว่า อาจจะเป็นเพียงแค่ความฝัน คือเรื่องปกติ อาจจะไม่มีอะไร หัวหน้างานคนนี้ได้สั่งให้คนงานทำงานต่อไป ระหว่างที่คนงานกำลังขับรถยนต์เพื่อเกลี่ยดินอยู่นั้น ได้ถอยไปทับครอบครัวของเจ้าแม่งู จนกระทั่งเสียตายทั้งหมดทั้งปวง เมื่อคนงานรู้ดีว่า ถอยรถยนต์ไปทับครอบครัวเจ้าแม่งู ก็ตกอกตกใจ ก็เลยขับขี่รถกลับไปอยู่ที่บ้าน ระหว่างถอยอยู่นั้นไม่เคยรู้ถอยเช่นไร คนงานคนนี้กำเนิดถอยไปทับครอบครัวตนเองเสียชีวิตทั้งปวง สถานะการณ์คราวนั้น ทำให้เขาสะดุ้ง แล้ววิกลจริตหายไปไหนไม่มีผู้ใดทราบ ถัดมารอบๆนั้นก็เลยเกิดอุบัติเหตุเสมอๆ

 

ศาลเจ้าแม่งูจงอางเป็นกระทั่งวันหนึ่ง มีราษฎรไปชวนพราหมณ์มาประกอบพิธี เพื่อสื่อกับภูตผีของเจ้าแม่งู แล้วมีการถามคำถามว่า เพราะเหตุใดท่านถึงแค้นเคืองมาฆ่าผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนี้ เมื่อถาม เจ้าแม่งู ก็ให้คำตอบกลับมาว่า ท่านโกรธเคืองที่ทำให้ครอบครัวของท่านเสียชีวิต เนื่องจากก่อนหน้านั้น ก็บอกแล้ว แต่ว่าไม่มีผู้ใดฟังท่านก็เลยอยากสังหารผู้คนให้มากยิ่งกว่าที่ท่านเสียไป การติดต่อสื่อสารคราวนั้นก็เลยถามอีกว่า แล้วจะให้ทำยังไง ท่านถึงจะหายโกรธโกรธแค้น กับสิ่งที่สูญเสีย เจ้าแม่งูจงอางตอบว่า ขอให้สร้างศาลให้อยู่รอบๆที่เสียชีวิต ถ้าเกิดสร้างศาลให้แล้ว ก็จะไม่รังแกคนไหนกันอีก แม้กระนั้นจะช่วยเหลือผู้คน เพื่อบำเพ็ญตนถัดไป โดยเหตุนั้นราษฎรก็เลยพากันตั้ง ศาลเจ้าแม่งู ที่นี้เป็นศาลไม้เพียงตาขึ้น แล้วพลเมืองที่เดินทางผ่านไปมาในบริเวณนี้ ต่างมีความเห็นว่า มีศาลเจ้าแม่งูเป็นไม้เล็กๆก็เข้ามาไหว้กัน จนกระทั่งมีผู้คนเดินทางมาขอพรท่านแล้วประสบผลสำเร็จ มีการบอกต่อๆกัน ทำให้ผู้คนเดินทางมากมายราบไหว้เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนมากมายราบไหว้กันมากมายๆทำให้สถานที่แออัด แล้วผู้คนที่มาไหว้เดินทางกลับหมดแล้ว แต่ว่าเหลือธูปที่ยังไม่ดับประกอบกับลมที่แรง ก็เลยทำให้ธูปกำเนิดไฟลุกไหม้ศาลเจ้าแม่ ซึ่งเกิดเรื่องแปลกเป็นอย่างมาก ไฟที่ลุกอยู่นั้น ไหม้ป่าแถบนี้เป็นรอบๆกว้างแต่ว่าเสมือนเป็นปาฏิหาริย์ ศาลเจ้าแม่งูกลับไม่ไหม้คนจำนวนไม่น้อยก็เลยมั่นใจว่า เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน

 

ถัดมามีการขยายถนนหนทางพระราม 2 เป็นสองเลน ทำให้จำเป็นต้องย้าย ศาลเจ้าแม่ งู พระราม 2ตอนนั้นวิญญาณเจ้าแม่งูไปเข้าฝันน้องเจ้าของที่เดี๋ยวนี้ว่า ขณะนี้เขากำลังจะออกเดินทางมาตัดถนน ก็เลยมีความทุกข์ร้อนเรื่องที่อยู่ มีความเห็นว่าที่ดินรอบๆนี้ยังว่างอยู่ ต้องการจะขอให้สร้างศาลใหม่ได้ไหม วันพรุ่งนี้ น้องสาวเจ้าของที่เล่าให้ครอบครัวฟัง เจ้าของที่มีความรู้สึกว่า ถ้าเกิดเป็นอย่างความฝันจริง ก็จะสร้างศาลให้ตามกำลังเงิน ดังนั้น เพียงพอเริ่มสร้างศาลที่นี้ตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ ระหว่างที่ลงมือสร้าง ไม่ทราบกำเนิดสิ่งอัศจรรย์อะไร มีผู้คนมากมายราบไหว้แม่งูไม่น้อยเลยทีเดียว "ราว ๘๐เปอร์เซ็นต์ที่มาบนแล้วเสร็จกัน นี้ศาลมิได้ชี้แนะว่าต้องทำเช่นไร แต่ผู้ที่มาไหว้ต่างมาด้วยหัวใจรวมทั้งเชื่อถือ ที่ศาลที่นี้ไม่มีคนทรงเจ้าอะไรก็ตามทั้งนั้น บนเสร็จจะเอาไข่ไก่ เป็ด ไก่ หมู ชุดไทยบายศรีและจากนั้นก็ภาพยนตร์ อยู่ที่กำลังทรัพย์สินของแต่ละคน ท่านเองมิได้กะเกณฑ์อะไร ผมอยู่ตรงนี้มาตรงเวลา ๑๐ ปี มองเห็นคนมาบนมากบนน้อย ต่างก็เสร็จ ท่านก็ช่วยเหลือกับทุกคน ส่วนเงินช่วยเหลือที่พสกนิกรมาบริจาคกันไว้ เจ้าของที่จะเก็บไว้เพื่อซ่อมศาลเจ้าแม่งูถัดไป วันนี้รอบๆที่นี้ยังมีงูอยู่อีกมากมาย ปัจจุบันนี้ก็เลยจำเป็นต้องนำของกินไปวางไว้ให้งูรับประทานเสมอๆ" นายสมหมายกล่าว

 

"ไม่เชื่ออย่าดูหมิ่น" เป็นคำพูดยอดนิยม สำหรับเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ในเหตุที่เกิดขึ้น แม้กระนั้นไม่สามารถอธิบายด้วยหลักรวมทั้งเหตุผลด้านวิทยาศาสตร์ได้ เมื่อไม่สามารถอธิบายได้ คำพูดที่ตามมาเป็น"เชื่อไว้ไม่เสียหาย ไม่เชื่อบางทีอาจจะเสียหลายา" ส่วนคติความไว้ใจเรื่องอาถรรพณ์ของวิญญาณนั้นพระธรรมคำเล่าลือเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสัมพันธวงศ์ ในฐานะผู้ดำเนินรายการมหาเถรสมาพันธ์บอกว่าเรื่องวิญญาณ หรือเจ้าที่เจ้าทางตามสถานที่ต่างๆที่หลายท่านอาจมองเกิดเหตุแปลก หรือคนจำนวนไม่น้อยมองเป็นเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม เราเองเป็นชาวพุทธก็ไม่อาจมองผ่านความเลื่อมใสนี้ไปได้