คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Paradise Lost-LeoN] 1st Paradise
PARADISE LOST
Pairing: JungLeo x Chahakyeon
Leo x N
#LeoN #Neo
START: 15/03/2015
16/03/2015
จริงๆเขียนคู่อื่นอยู่ด้วยค่ะ แต่คัมแบ็คอีบยอลกงชิกมาเลโอเอ็นเขาทวงบรรลังก์โบ้มๆเลย..
เลยตัดหน้าลงคู่เก่าเจ้าเดิมนี้ก่อนก็แล้วกันนะคะแฮ่
***ฟิคทุกเรื่องนี้มาจากจินตนาการล้วนและความฟินส่วนตัวล้วนๆ
ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปิน/เรียล/ตัวจริง เสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด***
ENJOY :)
หากได้ลองรักใครซักคน คุณจะอยากปกป้องเขาไปตราบนานเท่านาน ถึงแม้คุณจะรู้ดีว่าการปกป้องของคุณไม่ได้ช่วยอะไร แต่ถึงจะต้องแลกด้วยชีวิต คุณก็ยังคงจะทำมันอยู่ดี
ครอบครัวฮักยอนก็เช่นกัน คำสั่งลาสุดท้ายของพวกเขาคือขอให้ลูกชายเพียงคนเดียวปลอดภัย คำขอร้องอันจนตรอกถูกส่งให้เงื้อมือกับซาตานและน่าขันนักที่เขาก็ตอบรับมัน
‘แต่เมื่อหมดพันธะสัญญา พวกคุณก็รู้ดีใช่ไหมว่าซาตานน่ะกลืนกินวิญญาณมนุษย์เป็นอาหาร’
ชาฮักยอน ผู้สืบทอดตระกูลเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ในคฤหาสถ์หลังเก่ากว่าร้อยปีกำลังขะมักเขม้นทำงานบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่เฉกเช่นทุกวัน ธุรกิจค้าขายที่สานต่อจากรุ่นสู่รุ่นกำลังทำกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะอยู่ภายใต้กำมือของเด็กอายุไม่ถึง20ปีดีก็ตาม ตระกูลชากลายมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งทางด้านการค้าขายของประเทศภายในระยะเวลาแค่ห้าปีหลังจากผ่านเหตุการณ์วิกฤตถ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อห้าปีก่อน..
เหตุการณ์ลอบวางเพลิงที่ทำให้เขาต้องเสียทั้งพ่อและแม่
แต่กลับแลกมาด้วยคนดูแลข้างกาย คนที่ทำตามหน้าที่ได้อย่างไม่เคยบกพร่อง คนที่สามารถเนรมิตได้ทุกอย่างอย่างน่าประหลาดใจ
“พ่อ!! แม่!! ปล่อยผม!!” ชาฮักยอนวัย15ปี เพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมคุณน้าที่ต่างประเทศ กำลังยืนมองดูคฤหาสถ์ของตัวเองเผาไหม้ไปกว่าครึ่งหลัง รถที่เรียงรายอยู่ในโรงจอดรถนั้นทำให้เขารู้ดีว่าทุกคนอยู่ที่บ้านในคืนนี้ เหล่าแม่บ้านและผู้ติดตามรั้งตัวคุณชายคนเดียวของบ้านไม่ให้วิ่งเข้ากองไฟ
ฮักยอนหมดแรงต้านทาน เขาทรุดลง แม่บ้านและผู้ติดตามเห็นดังนั้นจึงฝากเขาไว้กับคนขับรถแล้วรีบกระจายตัวไปช่วยกันดับไฟ เสียงรถดับเพลิงที่ดังอยู่ไกลลิบนั่นทำให้เด็กคนนี้รู้ได้ว่ามันไม่ทางมาทัน
ท่ามกลางสติที่เลื่อนลอย ชายในสูทสีดำเดินฝ่ามรสุมเพลิงออกมาพร้อมกับสองร่างในอ้อมแขน ถึงตาจะพร่ามัวเพราะควันไฟ แต่ก็บอกไม่ยากว่าร่างนั้นคือใคร
ชายในสูทสีดำวางร่างทั้งสองตรงหน้า ฮักยอนไม่มีแรงแม้จะโผเข้าดูใจบุคคลแห่งดวงใจ ร่างสูงยืนเอามือไขว้หลังมองดูการกระทำนั้นด้วยสายตานิ่งเฉย ด้วยความสามารถในการหยั่งรู้ เมื่อร่างเล็กได้สติชายตาขึ้นมามองเขา ร่างสูงจึงคุกเข่าลงหนึ่งข้างแล้วใช้มือขวาเชยคางอีกฝ่ายขึ้นให้สบตามองชัดๆ
‘พ่อแม่ของคุณขอเอาไว้’
‘นับจากนี้ไปผมคือคนดูแลของคุณชาฮักยอน’
มือซ้ายของคนดูแลถูกวาดออกมาข้างหน้า เจ้าของมือใช้ฟันคมกัดถุงมือขาวออกก่อนจะสอดมือเข้ามาในคอเสื้อของฮักยอนแล้วกดมือลงตรงไหปลาร้าฝั่งซ้ายจนขึ้นเป็นรูปสัญลักษณ์ที่ไม่อาจจะลางเลือนไปได้ มันเจ็บแสบจนร่างเล็กหมดสติไป
‘และนี่คือพันธะสัญญาของเรา’
XXX
การสานต่อทำธุรกิจค้าขายจนทำให้เป็นที่รู้จักเป็นเพียงแค่ฉากหน้า ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา เขาสะสมข้อมูลมามาก มากพอที่จะรู้ว่าใครคือผู้ลอบวางเพลิงในครั้งนั้น ฮักยอนที่เป็นที่รู้จักในเรื่องของความฉลาดหลักแหลม เย็นชาและนุ่มลึก ราวกับคนไม่มีความรู้สึก เขาใช้หมากทุกตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเขาก็ไม่เคยเดินเกมพลาด จนตอนนี้เหลือการเดินอีกไม่กี่ตาปริศนาของเขาก็จะคลี่คลาย
“ฮักยอน ได้เวลาอาบน้ำแล้ว”
“นายรองน้ำไว้เรียบร้อยหรือยังก่อนจะมาเรียกฉัน”
“คุณก็ช่วยละสายตาจากงานขึ้นมาดูก่อนสิ”
“ยอกย้อน!”
“ผมได้นิสัยมาจากคุณทั้งนั้นเจ้านาย”
“รู้ว่าฉันเป็นเจ้านาย…………..ก็ดี!” ร่างเล็กที่ปัจจุบันความสูงใกล้เคียงกับคนดูแลตรงหน้าลุกออกจากโต๊ะทำงานจงใจกระแทกไหล่เข้ากับอีกฝ่ายก่อนจะเดินเลยไปทางห้องน้ำ
ปฎิเสธไม่ได้ว่าคนดูแลของเขาที่ได้มาแลกเปลี่ยนกับ’ความตาย’ทำหน้าที่ได้อย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง การลงมือทำเองก็ไม่ได้ผลเสมอไปการยืมมือคนอื่นหรือเรียกง่ายๆว่าการสั่งจึงเปรียบดั่งสวรรค์ของผม ยิ่งถ้าสั่งคนๆนั้น คนที่เต็มไปด้วยความเพียบพร้อมเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไหวพริบที่ดี ความรอบคอบในการสังเกต การวางแผนอย่างแยบยล และฝีมือดีจนเป็นที่น่าพอใจ ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่อีกฝ่ายมีฝีมือมากกว่าเขาอยู่มากโข ดูอย่างเทียนไขกลิ่นโปรดที่ถูกวางในห้องน้ำชิดลายเส้นบนกระเบื้องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกระเบียดนิ้ว ไหนจะอุณหภูมิของน้ำในอ่างที่ตัดกับอากาศห้องแอร์เย็นข้างนอกจนเป็นฝ้าไปทั้งอ่างใสอย่างที่ผมต้องการ เขายังคงไม่พลาดที่จะตอบรับคำสั่งได้เป็นอย่างดีอยู่ร่ำไป
นอกเหนือจากการทำตามความปรารถนาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น’เจ้านาย’ งานภายในคฤหาสน์ก็ตกเป็นของเขาด้วยเช่นกัน สิ่งที่ต้องทำก็มีแค่การออกแรงที่ปลายนิ้วเพียงเล็กน้อยราวกับการหักนิ้วเล่นทุกอย่างก็เข้าที่อีก ห้องรวง สิ่งของ สะอาดและลงตัวราวกับไม่เคยมีคนแตะต้องมาก่อน
ก็แน่ล่ะ ผมไม่ใช่คนนี่ :)
เมื่อเสร็จธุระภายนอกแล้ว ขายาวก้าวกลับเข้าไปที่ห้องเดิมพร้อมกับถาดที่มีถ้วยชาร้อนสองแก้ว สายตาสอดส่องหาร่างที่ต้องการไม่เจอจึงวาดถาดไว้หัวเตียงแล้วก้าวขาไปที่ที่เขาเห็นเป็นที่สุดท้ายเมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้า
ก๊อก..ก๊อก
‘ฮักยอน คุณแช่น้ำนานเกินไปแล้ว’
.
‘ฮักยอน ออกมาได้แล้ว ผมเตรียมชาร้อนไว้แล้ว’
.
.
‘ฮัก..’ ด้วยความเป็นห่วงชาในแก้วจะเย็นชืด ร่างสูงถือวิสาสะเปิดประตูห้องน้ำพลางเรียกและพบว่าเจ้าตัวยังคงแช่น้ำอยู่จริงๆ เขายืนรอหน้าประตูห้องน้ำ คิดคำนวณระหว่างความร้อนของชากับไอน้ำข้างอ่างอะไรจะหมดลงก่อนกัน ซึ่งเขาหวังให้เป็นอย่างที่สองเสียมากกว่า เพราะถ้าหากไอน้ำไม่หายไปจนหมดคนตรงหน้าไม่มีทางลุกจากน้ำแน่นอน นั่นคืออีกหนึ่งนิสัยที่เขารู้ดี เวลาสองนาทียาวนานราวกับสองชั่วโมงก่อนที่ไอน้ำจะลดลงจนถึงก้นอ่างและนั่นทำให้สามารถจดจ้องร่างกายเปลือยเปล่าได้อย่างเต็มตา
“ได้เวลาแล้วฮักยอน”
“หยิบผ้าเช็ดตัวมาสิ” มือเรียวขยี้ผมสีดำขลับทันทีที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ต่อด้วยสายตาเฉี่ยวถูกนำมาเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่สีแดงเลือดหมูประจำตระกูลที่ถูกยื่นให้
ความเงียบสงบเข้ามาแทนที่ในขณะที่อีกคนกำลังง่วนอยู่กับการเช็ดตัว ผิวสีน้ำผึ้งตัดกับสีของผ้าถึงแม้ไม่โดดเด่นแต่ก็ชวนมองไม่น้อย
เมื่อไหร่กันนะที่..
“นายเหม่อ” เจ้าของผิวเนียนเอ่ยขึ้น เสียงไม่ดังแต่ทว่าจงใจเข้ามาพูดประชิดตัวพอที่จะทำให้ได้ยินเข้าไปทุกโสตประสาท
“ผมรอจนเบื่อ คุณเช็ดตัวนาน”
“ฉันเช็ดของฉันนานแบบนี้อยู่แล้วหรือนายจะบอกว่าไม่รู้?”
“และผมก็รู้ว่าคุณไม่เคยเช็ดจนแห้งสนิทมาโดยตลอดเช่นกัน” กล่าวอย่างถือดีก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวมาไล่เช็ดให้เอื้อมจากกลางหลังมาจนถึงด้านหน้า ไหปลาร้าข้างซ้ายขึ้นรูปสวยจนมีน้ำขัง คนตรงหน้าปฏิเสธที่จะเช็ดมันจนแห้งเสมอมา หากสิ่งใดไปโดนแม้แต่เล็กน้อยความเจ็บแสบที่จะได้รับมันไม่ใช่เล่นๆเลย อย่างครั้งล่าสุดที่เผลอเอามือลูบเพราะต้องการไล่พิษไข้ยังปวดแสบปวดร้อนแทบตาย ถึงแม้ความเจ็บปวดทางกายจะเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดทางใจ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่มีใครอยากจะเจ็บหรอก
“อ๊ะ?” เผลอหลับตาอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อผ้าวนเวียนใกล้ตรานั่น แต่ก็ต้องลืมตาแปลกใจ
ซ้วบ..
“คุณคงไม่ได้ลืมใช่มั้ยว่าผมเป็นคนทำมันขึ้นมา”
เพราะฉะนั้นนอกจากน้ำที่ทำให้มันเปียกได้ ก็มีปากของผมเป็นข้อยกเว้นที่สามารถทำให้มันแห้งได้โดยไม่เจ็บแสบเช่นกัน
“หึ” อย่างที่เขาว่ายาถอนพิษก็มาจากตัวปล่อยพิษนั่นแหละ
“ชาร้อนอยู่ข้างหัวเตียงคุณ.. เรียบร้อย” ผู้พูดพูดไม่ทันจบประโยคดี อีกคนก็เดินผ่านหน้าออกไปแต่งตัวแล้วสาวเท้าไปยังเตียงในทันที และเป็นอีกครั้งที่ชาเขียวนมถูกเลือกแทนชามิ้นท์ ฮักยอนดื่มจนพอใจแล้วผละปากออกจากขอบแก้ว
“เมื่อไหร่จะเลิกทำชาสองแก้วซักที”
“เผื่อคุณจะเปลี่ยนใจ ผมคิดว่าชาใส่นมไม่เหมาะที่จะดื่มก่อนนอน”
“นายจะเปลี่ยนฉันได้ตอนไหนนายก็รู้ดี มันอีกไม่นาน”
“รู้ตัวหรือเปล่าว่าพักนี้คุณพูดถึงเรื่องนี้บ่อย”
“เลโอ ฉันขอสั่งให้นายเลิกทำชาสองแก้ว ราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์ฮักยอน”
คนเย่อหยิ่ง จองหอง ไม่กลัวที่จะพูดถึงความตาย ทั้งหมดเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณหรือแค่เกราะกำบัง
XXX
วันนี้แล้วสินะที่การนัดพบกับมิสเตอร์เจฟจะมาถึง ผมขบคิดไประหว่างนั่งรถไปยังสถานที่นัดพบ การคุมเกมทั้งหมดของผมไม่เคยพลาด และวันนี้มันจะต้องไม่พลาดอีกครั้ง ก้าวขาเข้าสู่ห้องนัดพบพร้อมกับคนดูแลข้างกายที่จ้องมองมาอย่างไม่วางตา แต่เขาหาได้สนใจไม่ จิตใจตอนนี้อยู่กับสถานการณ์ตรงหน้ามากกว่าอะไรดี
“สวัสดีครับคุณชาฮักยอน” คำทักทายถูกส่งมาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“สวัสดีครับมิสเตอร์เจฟ ในที่สุดก็ได้พบกันซักทีนะครับ” อีกฝ่ายยกยิ้มอีกครั้งก่อนจะขยับตัวทำท่าเป็นจะทักทายใกล้ชิดเยี่ยงชาวยุโรปสมัยใหม่ก่อนจะเอ่ยคำข้างหูขึ้น
“ขนาดพ่อแม่ไม่อยู่ยังมาได้ถึงขนาดนี้นะครับ เก่งจริงๆ”
หน้ากากของผมหนาพอที่จะเอาตัวรอดมาเป็นเวลานาน
จากข้างซ้ายไปข้างขวาคำทักทายจอมปลอมได้ถูกกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ผมล่ะอยากกำจัดเสี้ยนหนามธุรกิจให้มันสิ้นซากไปซะจริงๆ”
ตอนนี้มันกำลังจะพังทลายลง
ร่างกายบางสั่นเล็กๆขัดกับแววตานิ่งสงบไร้ความรู้สึก ชาฮักยอนไม่ใช่คนที่จะแสดงจุดอ่อนให้ใครเห็น
อีกไม่นานเท่านั้น
มือไม้ขยับอยู่ใต้โต๊ะเต็มไปด้วยความแค้นที่สั่งสม
อีกไม่นาน
อีก..
“มิสเตอร์เจฟกรุณาถอยออกมาจากคุณฮักยอนเถอะครับ เจ้านายผมไม่ค่อยคุ้นกับการทักทายสมัยใหม่ซักเท่าไหร่” ถึงแม้จะไม่ได้ยืนคุมติดข้างกายแต่เขาได้ยินชัดเจนว่าอีกฝ่ายพูดอะไร ฝ่ายนั้นเองอาจจะเห็นแค่แววตานิ่งเฉยที่ถูกฉาบไว้อย่างดีแต่ไม่ทันเห็นกำมือสั่นๆข้างใต้โต๊ะเพราะคำพูดข้างต้นนั่นมีอิทธิพลเอาการ แต่แน่นอนว่าการกระทำนั้นไม่สามารถลอดสายตาเขาไปได้
“โอ้ ขอโทษด้วยนะครับที่เสียมารยาท แล้วคุณใช่คนติดตามของคุณฮักยอนที่เขาลือกันใช่ไหมครับ?”
“ผมไม่เคยได้ยินข่าวลือเลยครับ แต่ใช่ครับ ผมคือคนดูแลคุณฮักยอน”
“ดูแลมานานแค่ไหนแล้วครับ?”
“ไม่นานหรอกครับ ผมยังอยู่ในช่วงเรียนรู้อะไรอีกเยอะเลยครับ”
ไร้ช่องโหว่
“ผมถามได้ไหมครับว่าคุณเป็นคนที่ไหนหรอครับ?”
“ได้สิครับ ผมหนีจากการเป็นแรงงานทาสมาจากเมืองเล็กๆใกล้ที่นี่น่ะครับ”
รอบคอบ
“แล้ว..”
“ผมทราบมาว่ามิสเตอร์เจฟตรงดิ่งมาจากท่าทันทีเมื่อเรือเทียบ และคุณอาจจะรีบมาตามนัดจนลืมเอาสัญญาของเรามา ผมเลยเอาสัญญามาเผื่ออีกชุดครับ นี่ครับ”
ไหวพริบดี
“หึหึ อย่างนี้นี่เอง มีผู้ช่วยที่ดีจริงๆนะครับคุณชาฮักยอน”
“หึ ตามที่เห็นเลยครับ”
การนัดพบเสร็จสิ้น มิสเตอร์เจฟตัดสินใจขายหุ้นกว่าครึ่งให้กับตระกูลชาตามที่ฮักยอนวางแผนไว้ แล้วมันจะไม่เป็นไปตามแผนได้อย่างไร เพราะหุ้นธุรกิจย่อยอื่นๆของมิสเตอร์เจฟถูกฮักยอนกว้านซื้อลับๆจนเกือบหมดแล้ว กว่าฝ่ายนั้นจะรู้ตัว ธุรกิจก็อยู่ในช่วงขาลงเสียแล้ว แต่นั่นนับเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆต้อนรับคู่แข่งก็เท่านั้น
“แล้วพบกันใหม่นะครับ มิสเตอร์เจฟ” คนดูแลตัวสูงหันไปกล่าวลาอีกฝ่ายอย่างมีมารยาทจนอีกฝ่ายอดจะก้าวเข้ามาพูดความคิดที่เขาเก็บกลั้นไว้ใกล้ๆไม่ได้
“แล้วพบกันใหม่ครับ ผมล่ะหวังว่าจะได้คุณมาอยู่กับผมไม่ช้าก็เร็วซักทีนะครับ”
ตลอดทางกลับนี่ก็เป็นอีกครั้งที่การเดินทางเต็มไปด้วยความเงียบ ฮักยอนรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาตั้งแต่ขึ้นรถและมันน่ารำคาญ
“มีอะไรก็พูดมา”
“คุณเกือบพลาด”
“อย่ามาวิจารณ์ฉัน”
“มนุษย์..สุดท้ายแล้วก็ควบคุมร่างกายและจิตใจไม่ได้ทั้งที่มันเป็นของตัวเองแท้ๆ” อีกฝ่ายพูดลอยหน้าลอยตาไปมา
“เลโอ!! ฉันสั่งให้นายหุบปาก!” อีกฝ่ายเงียบและเลิกจ้องไปแล้ว เขาจะได้ใช้เวลากับตัวเองซักที ร่างเล็กเอนลงกับเบาะนุ่ม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองเกือบทำพลาด เขาเคยคิดว่าการทำใจในวันที่พ่อแม่จากไปนั้นยากที่สุดแล้ว แต่พอต้องสวมหน้ากากยิ้มให้กับคนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองในวันนี้ทำให้รู้ว่ายังมีอีกสิ่งที่ทำยากกว่านั้นมาก ไหนจะประโยคที่ออกมาจากปากฆาตกรที่ไม่ได้มีความสำนึกผิด กลับกันอยากจะโค่นเขาให้ล้มลงอีกคนด้วย ถ้าไม่คิดถึงผลประโยชน์ที่สั่งสมมาตลอดห้าปี เขาไม่ลังเลที่จะเอามีดปลอกผลไม้บนโต๊ะแทงเข้าที่คอหอยมันเลยจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามการเขายังคงจะยึดทฤษฎี ช้าช้าได้พร้าเล่มงาม ก็เขารอมาห้าปีแล้ว รออีกไม่กี่ชั่วโมงมันก็คงไม่เป็นไร
XXX
เมื่อกลับมาถึงคนตัวสูงก็หายไปทำหน้าที่โดยที่บอกไว้ว่าอีกสองสามชั่วโมงจะกลับมา เวลานั่นเหลือเฟือฮักยอนจึงทำทีไปอาบน้ำก่อนเปลี่ยนชุดลำลองก่อนจะออกไปบาร์ตามที่มิสเตอร์เจฟแอบนัดไว้เพียงลำพัง วันนี้เขาจะได้เจอมิสเตอร์เจฟครั้งแรก
และมันจะเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อมาถึงหน้าบาร์ฮักยอนสั่งคนขับรถให้กลับไปเพราะเขาไม่ต้องการจะให้ใครรู้ว่าเขาแอบออกมา กระดาษรองแก้วใบนึงถูกยื่นให้จากมือบริกรชายที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า
‘ผมอยู่ที่หลังร้าน’
เดินเข้าไปก็เข้าเลยคงไม่ใช่เรื่องฉลาดเท่าไหร่ เขาเลยตัดสินใจนั่งสั่งเครื่องดื่มหน้าบาร์มา แน่นอนเขาสั่งมันมาแต่ไม่แตะมันสักหยด นาทีนี้เขาจะไว้ใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
ฮักยอนไม่รู้เลยว่าคนอื่นภายในร้านค่อยๆโดนหิ้วปีกออกไปจนจำนวนลงเหลือเพียงจำนวนบางตา หันมาทันสังเกตเมื่อบริกรชายตรงหน้าเคาน์เตอร์ กำลังจ้องมาพร้อมทำท่าจะสะพายกระเป๋าออกจากร้าน แต่แล้วชายคนนั้นทำทีชงแก้วเหล้าก่อนจะสอดกระดาษใบเล็กมาใต้เหล้าแล้วยื่นให้เขาก่อนจะเดินออกไป
‘aircondition’
“ชิท” เพราะมัวแต่กังวลถึงบางสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เขาถึงไม่ทันเอะใจว่าศัตรูจะกล้าเล่นการใหญ่ได้ถึงขนาดนี้ ร่างกายบางอ่อนเพลียลงไปมาก ชายปริศนาในหน้ากากเข้ามาช้อนแขนกึ่งลากกึ่งจูงฮักยอนไปซอกตึกหลังร้าน ทั้งแคบ ชื้นแฉะ และมืดสนิท
“คุณไม่ได้หลงผิดคิดว่าผมจะเรียกคุณออกมาตกลงเรื่องสัญญาหรอกใช่ไหม” น้ำเสียงที่ดูเย้ยหยันมากกว่าจะต้องการคำตอบถูกส่งมาจากมุมมืดตรงหน้า ถึงแม้จะไม่เห็นแต่กลิ่นสาปศัตรูมันแรงพอที่จะทำให้รู้ว่าเป็นใคร
“แต่คุณคิดว่าผมจะโง่พอที่จะไม่ได้ระวังตัวใช่ไหมล่ะ ไอ้ฆาตรกร!!” พูดจบฮักยอนไม่เสียเวลาช้าบิดแขนชายร่างยักษ์ที่จับไหล่เขาตั้งแต่ในร้านเข้าหากัน โดยไม่ทันตั้งตัวร่างนั้นร่วงลงไปกับพื้นก่อนที่ฮักยอนจะหยิบมีดพกที่เหน็บอยู่บนต้นขาออกมาปาดคอซ้ำจนร่างนั้นแน่นิ่ง ทว่าเสียงชื้นแฉะที่กระทบกันทางด้านหลังทำให้รู้ว่ามีผู้ประสงค์ร้ายกำลังดาหน้ากันเข้ามาอีกหลายคน ฮักยอนก้มตัวลงคว้ากระบอกปืนไร้เสียงคู่เล็กที่เหน็บไว้ข้างรองเท้าก่อนจะหันไปไล่ยิงคนแล้วคนเล่า
ปัง!
เสียงปืนลั่นขึ้นจากทางเก้านาฬิกาสวนทางกับกระสุนที่ฮักยอนเพิ่งฝังมันลงในร่างยักษ์คนสุดท้าย ที่หนึ่งนาฬิกา กระสุนนั้นไม่ได้แค่ถากหัวไหล่เขาจนเลือดออก หากแต่มันฝังลึกเข้าไปในร่าง ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั้งร่างจนต้องทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างจำใจ มือขวาที่ถือปืนเอื้อมมากดฝืนหัวไหล่อีกข้างไว้ไม่ให้มันร่วงลง
ตราพันธะ..
กระสุนปืน..
และ หัวใจ..
ร่างนี้ช่างเป็นศูนย์รวมความตายไว้ได้ดีจริงๆ :)
มือเหี่ยวแต่มีพละกำลังย่อตัวลงบีบสันกรามกระชากหน้าเด็กหนุ่มตรงหน้าให้ขึ้นมาสบตา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเด็กนี่จะกล้ามาเพียงคนเดียว นักธุรกิจทุกคนล้วนชมชอบในความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น เหมือนกับเขาที่เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางฆ่าคนเพื่อให้ได้ขึ้นมาเป็นที่หนึ่งยังไงล่ะ
“ได้เจอคนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองแล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ เห็นแววตาน่าสมเพชขอร้องชีวิตจากสายตาฉันหรือเปล่า”
“วันนี้ถ้านายขอร้องฉันอีกคนก็จะทั้งครอบครัวพอดีล่ะนะ”
“จะบอกอะไรให้นะไอ้หนู ความเสี่ยงครั้งนี้มันมากเกินตัวไปสำหรับนาย”
“ทุกครั้งผลตอบแทนของมันจะมีแค่เพียงสองทาง”
“และครั้งนี้ก็เหมือนกัน!!” ร่างกายหยัดตัวยืนพร้อมจะเหนี่ยวไก ฮักยอนชายตามองตาม เขาไม่ได้มองชายแก่จิตใจหยาบ แต่มองเลยขึ้นไปถึงเงาดำบนมุมตึกสูงด้านบนก่อนจะแสยะยิ้มราวกับนี่จะเป็นการมองครั้งสุดท้าย ก่อนที่ชายแก่จะเล็งปืนมาทางหัวใจคนหนุ่มกว่า
ปัง! /ปัง!
ก่อนจะยกยิ้มให้กับความสุขสุดท้ายที่ได้กำจัดเสี้ยนหนาม เงาดำพุ่งมาส่งมือทะลุกระชากหัวใจชายแก่ออกมากำไว้ในมือ ร่างไร้วิญญาณเพียงใช้นิ้วสะกิดเบาๆให้พ้นทางก็ลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าร่างบาง
“ฮักยอน คุณเพิ่งจะผิดสัญญา”
XXX
แอบมาแนวแฟนตาซีเบาๆ ครั้งแรกอีกแล้วที่เขียนแบบนี้555
รู้สึกสนุก>,< เจอกันตอนต่อไปนะคะ ฮี่ๆ
โน้ต* เอ็นจะไม่เรียกชื่อเลโอเลยค่ะ ยกเว้นแต่ว่าจะออกคำสั่ง เนอะะ^^
ความคิดเห็น