"มาร์ค" เสียงหวานติดงัวเงียของแฟนตัวเล็กดึงสะติของผมจากจอโทรศัทน์
"ครับ?" ผมขานรับโดยไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
"ป่าว" เสียงหวานฟังดูหงอยลงเล็กน้อย ร่างบางซุกหัวที่หน้าท้องแกร่งของผมเหมือนเดิม ผมจิ๊ปากเบาๆด้วยความรำคาญ บอลแมชนี้มันสำคัญกับผม แต่โดนแฟนงอนระหว่างดูบอลเนี่ยสิ ทำให้ผมหงุดหงิด ผมก้มมองคนบนตักแล้วกลับไปสนใจจอแก้วข้างหน้าต่อ ความรู้สึกเปียกชื้นจากบริเวณหน้าท้องที่แบมแบมซบอยู่เกิดขึ้นมา ร่างบางสั่นน้อยๆคล้ายกับกลั้นสะอื้นอยู่ ผมจึงถือโอกาสช่วงโฆษนาดึงตัวแบมแบมขึ้นมาคุยด้วย
"แบมเป็นไร บอกมาร์คดิ" ผมลูบหัวอีกคนให้ใจเย็นแต่ผมกลับไม่ได้มองตาแบมแบม สายตาผมจดจ้องอยู่ที่อื่นแทน
"ไม่ๆ แบมไม่ได้เป็นไร แบมแค่ง่วงไปนอนก่อนนะ อย่าลืมปิดไฟนะมาร์ค" อีกฝ่ายขืนตัวออกจากตักผม แล้วเดินเข้าห้องนอนไปผมนั่งดูบอลต่อสักพัักก็ได้ยินเสียงไอมาจากในห้อง "แบม เบาๆหน่อย มาร์คไม่ได้ยินเสียงทีวี" ผมตะโกนเข้าไปในห้อง แต่ไม่เห็นแบมแบมหยุดสักทีจึงเปิดประตูห้องนอนเข้าไป สิ่งที่ตรงหน้าทำเอาผมแทบทรุด ร่างบางนอนกองบนพื้นที่มีคราบเลือดกระเด็มเป็นจุดๆ มือคู่สวยเต็มไปด้วยเลือดไขว่คว้าไปมาตรงหน้าผม ดวงตาหวานปรือขึ้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา จ้องมองมาที่ผม และค่อยๆหลับลงไป ผมวิ่งเข้าไปอุ้มร่างบางมาไว้แนบอกวิ่งไปที่ลิฟท์และลงไปข้างล่างอย่างเร็วที่สุด ผมวางคนในอ้อมแขนอย่างเบามือบนเบาะรถ โดนไม่สนว่าเลือดจะเปื้อนตรงไหนหรือป่าว และขับรถออกไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
"ไอ้มาร์ค อย่าร้องดิ ถ้าแบมรู้ว่ามึงร้องน้องจะไม่สบายนะ" แจ็คสันตบลงเบาๆที่ไหล่ของผม ผมเช็ดน้ำตาออกแล้วแค่นยิ้มเบาๆเพื่อให้เพื่อนรักสบายใจ
"มึงไปเหอะ กูรอแบมคนเดียวได้ อย่าปล่อยให้แฟนมึงรอนาน" ผมยกมือขึ้นโบกไว้มัน เวลาบนฝาผนังโรงพยาบาลบ่งบอกว่า เพราะอาทิตย์กำลังจะขึ้น นานนับชั่วโมงแล้ว หมอยังไม่ออกมาจากห้องไอซูยูเลย ผมนั่งจ้องนาฬิกาสลับกับประตูห้องนั้นอย่างจดจ่อจนในที่สุด "หมอครับ.....แฟนผมเป็ยยังไงบ้างครับ" ผมวิ่งเข้าไปหาหมอที่เปิดประตูออกมาจากห้องฉุกเฉินออกมา
"หมออยากให้คุณทำใจไว้ก่อนนะครับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
คนไข้เป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้ายครับ" หมอโค้งให้ผมแล้วเดินเลี่ยงออกไป น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้ว กลับมาไหลอีกรอบ ม่านน้ำตาบังทุกสิ่งอย่างตอนนี้ ผมไม่สามารถรับอะไรอีกแล้ว
ผมเปิดประตูห้องของโรงพยาบาลเข้าไปหาคนที่นั่งรออยู่ในห้อง นี่ก็หลายเดือนแล้วตั้งแต่แบมแบมอยู่ในโรงพยาบาล "มาร์คมาแล้ว คิดถึงมาร์คมั้ยคะคนดี" ผมยิ้มให้คนที่นั่งอยู่บนเตียง และอีกฝ่ายก็ยิ้มกลับมาให้ ผมกอดแบมแบม ลูบหัวทุยที่ตอนนี้ไร้เส้นผมจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด พยายามกลั้นน้ำตาและเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น ผมพยายามทำใจตลอดเวลา แม้ได้กำลังใจจากคนรอบข้างมากมายแต่ทุกครั้งที่เจอหน้าแบมแบมผมกลับรู้สึกร้าวไปหมดทุกที
"มาร์ค หายใจไม่ออกอ้ะ กอดแน่นไปแล้วนะ" เสียงอู้อี้จากคนในอ้อมกอดทำให้ผมต้องปล่อย
RRTTRRR โทรศัพท์บนโต๊ะของผมสั่นขึ้นมา ผมจึงต้องเดินไปรับสาย "สวัสดีครับ"
(มาร์ค เนียร์คิดถึงมาร์คนะ) เสียงๆหนึ่งที่ผมไม่ได้ยินมานานดังขึ้นจากปลายสาย หัวใจของผมกระตุกน้อยๆ
"ครับ" ผมหันไปมองแบมที่หันไปจดจ่อกับหนังสือเรียบร้อย ผมจึงยกโทรศัพท์ออกจากหูและหันไปคุยกับคนตัวเล็กแทน "แบม มาร์คออกไปข้างนอกนะคะ เอาไรป่าว?" อีกฝ่ายยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ
ผมไม่รู้ว่าทำไม หรือเพราะเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมออกไปเจอจูเนียร์ผมไม่รู้จริงๆ
*แบมแบม*
ทันทีที่พี่มาร์คออกไปจากห้อง ผมก็โทรหาพี่แจ็คสันเพื่อนของพี่มาร์คเพื่อทำอะไรบางอย่าง
*จบแบมแบมพาร์ท*
(เชี่ยมาร์ค มึงอยู่ไหนมาโรง'บาลเร็ว) เสียงแจ็คสัน ตะโกนใส่โทรศัพท์ ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าผมออกมาจากโรงพยาบาลนานเกินไป ผมจึงลุกออกจากโต๊ะทั้งๆที่จูเนียร์ยังนั่งอยู่
"มาร์ค ไปไหน" จูเนียร์จับข้อมือผมไว้
"ขอโทษนะ" ผมสะบัดข้อมือตัวเองออก แล้ววิ่งออกไปจากร้านอาหาร
@hospital
"มาร์คมาแล้ว" แบมแบมอ้าแขนออกกว้างทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง "มาร์ค แบมคิดถึงมาร์คจัง" อีกฝ่ายเริ่มพูดขึ้นมาก่อนจนผมแปลกใจ "มาร์ค มาร์ครู้ใช่มั้ย ว่าแบมรักมาร์คมากกกก มากๆๆๆที่สุดในโลกเลย มาร์คสำคัญที่สุดสำหรับแบมนะ" คนตัวเล็กพูดไปเรื่อยๆและจ้องมาที่ผมจนผมต้องเข้าไปกอด และปล่อยให้แบมแบมนอนลงบนเตียง "อย่าลืมกลับห้องนะ คิดถึงแบมด้วย" คนตัวเล็กค่อยๆหลับตาลง รอยยิ้มจางๆบนใบหน้าซีดยังคงอยู่ ชีพจรบนจอมอนิเตอร์ขึ้นเป็นเส้นตรง
"แบมมม ฮึก ไม่ไปไม่ได้หรอ กลับมาหามาร์คก่อนนะ" ผมก้มลงกอดร่างไร้วิณญาณของคนรัก ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใครอีกแล้ว "แบม อย่าทิ้งมาร์คไปนะ กลับมาหามาร์คนะคนดี" หากรู้ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้กอดเขา ผมจะไม่ออกไปไหน และกอดแบมแบมแบบนี้ทั้งวัน ผมจะบอกรักคนตัวเล็กให้เขาเบื่อไปเลย แต่ผมกลับไม่ได้ทำอะไรเลย เจ็บชะมัด
หมอและพยาบาลเข้ามาจัดการเรื่องร่างของแบมแบม ผมจึงกลับห้องไปตามคำขอของคนรัก
@condo that markbam stay
ผมประครองร่างที่ไร้เรี่ยวแรงขอตัวเองมาที่ห้อง ก็พบกับกระดาษโน็ตเล็กๆที่แปะอยู่ตรงประตู และเมื่อผมเปิดเข้าไปก็พบกับโน็ตอีกเป็นจำนวนมาก แปะตามผนัง และสิ่งของในห้องผมหยิบมันขึ้นมาอ่านทีล้ะแผ่น
"มาร์ค
ตอนมาร์คเห็นโน็ตพวกนี้แบมคงไม่อยู่แล้วนะ
แบมอยากให้มาร์คดูแลตัวเองดีๆ
อย่าลืมกินข้าวก่อนไปทำงานนะ มาร์คน่ะชอบลืมตลอดเลย
ตอนกลางคืนห้ามอยู่ดูบอลจนดึกล้ะ เดี๋ยวขอบตาคล้ำ ไม่มีใครถามครีมให้นะ
ทำความสะอาดห้องอาทิตย์ละครั้งด้วยล้ะ ห้ามขี้เกียจนะ
แบม ขอบคุณนะสำหรับเวลาที่ผ่านมา มาร์คทำให้ชีวิตแบมมีแต่ความสุขเสมอเลย
ไม่มีแบมแล้วมาร์คต้องอยู่ให้ได้ อย่าร้องไห้นะ สัญญา?
แบมขอโทษที่อยู่กับมาร์คนานกว่านี้ไม่ได้
และขอโทษที่แบมไม่เคยบอกเรื่องที่แบมป่วย
มาร์คไปมีคนใหม่ก็ได้ แบมไม่ห้าม
สุดท้าย แบมรักมาร์คนะ และจะขอรักแบมนี้ทุกชาติไป
แบมฝากดูแลหัวใจของแบมที่อยู่กับมาร์คด้วยนะ
ลาก่อน
แบมแบม"
ผมอ่านข้อความบนโน็ตทุกแผ่นจด ก็ปล่อยโฮออกมา แบมแบมคนที่รักผมจนวินาทีสุดท้าย แต่ผมกับมีแต่ทำให้เขาเสียใจ ผมทรุดลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมา 'มาร์คขอโทษนะ ที่รักษาสัญญาไม่ได้ มาร์คักแบมนะ มาร์คขอโทษ'
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จงอยู่กับคนที่คุณรักให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต จงกล้าที่จะบอกรักเขา เพราะถ้าหากเขาเป็นอะไรไป อย่างน้อยคำที่อยากได้ยินต้องเป็นคำว่ารักจากคุณ
จบ บริบูณร์