ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO- YAOI FIC] ::: What Series ::: Sehun x Baekhyun HunBaek

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] What is... (Kai x Suho) - Chapter 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.04K
      7
      25 เม.ย. 55

    Title: What is…

    Couple: Kai x Suho

    Rate: PG-13

    Author: LL1990

    Note: เรื่องนี้เป็นซีรีย์ต่อจากเรื่อง What the (LayxLuhan)เผื่อใครอยากกลับไปอ่านที่ตอนข้างบนได้ แต่ถ้าไม่อ่านก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะไม่ได้โยงกันเท่าไรนัก

     

     

     

    ดอกไม้อีกแล้ว

     

    จุนมยอนมองช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะหลังเวทีในหอประชุมคณะ ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นของใครเพราะช่วงสามสี่วันที่ผ่านมานี้มีเพียงแค่ โอเซฮุนที่เวียนเข้ามาหาเขาทุกวัน  วันนี้เขาขึ้นร้องเพลงที่หอประชุมแต่ตัวเซฮุนติดธุระมาไม่ได้ เลยฝากดอกไม้มาแทน

     

    แล้วยังย้ำบอกให้รอเดี๋ยวจะขับรถมารับตอนเย็น

     

    เฮ้อจะให้เขารู้สึกดีได้ไง ก็ในเมื่อก่อนหน้านี้จุนมยอนก็เห็นอยู่ว่าโอเซฮุนคบกับลู่หานมาก่อน  ถึงจะไม่ค่อยรู้จักลู่หาน  แต่ก็พอรู้ความเคลื่อนไหวของทั้งคู่หรอกนะ ก็ในเมื่อเป็นคนหล่อกับคนน่ารักของมหาลัยขนาดนี้

     

    แอบหนีกลับดีกว่า ร้องเพลงเสร็จแล้วด้วย ปากแดงเล็กเอ่ยพึมพำกับตัวเองแล้วรีบเก็บของลาอาจารย์ พอออกมาหน้าหอประชุมก็เดินเลาะออกทางประตูหลังมหาลัยเพื่อจะทะลุไปยังถนนใหญ่แล้วขึ้นรถกลับบ้าน

     

    แต่พอเดินผ่านสนามบาสที่อยู่ติดรั้วหลังมหาลัยก็เผลอไมได้ที่จะหยุดมอง ...

     

    ........... มีนักกีฬาบาสของมหาลัยฝึกซ้อมอยู่หลายคน แต่สายตาของจุนมยอนกำลังจับจ้องอยู่ที่ ใครบางคน ...เขามองไม่เห็นจุมฮยอนหรอก เพราะเขาไม่แม้แต่จะหันมา... ร่างบางมองมองอยู่อย่างนั้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าๆ มันเป็นรอยยิ้มที่
    จุนมยอนไม่ค่อยแสดงออกมาให้ใครเห็น 

     

    ไม่ว่าใครก็พูดเหมือนกันหมดว่ารอยยิ้มสดใสๆต่างหากที่เหมาะกับเขา  ใครเห็นก็ต้อหลงรัก

    ใครเห็นก็ต้องหลงรักเหรอ.....  ไม่เห็นจะจริงเลย

     

     

    มีอยู่คนนึงไง........

     

     

    จุนมยอนน!!!!!  เสียงเรียกที่ดังมาแต่ไกล ทำให้ร่างบางที่กำลังตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งหันไปมอง  แล้วก็หนีแทบไม่ทัน เมื่อโอเซฮุนตรงดิ่งมาหาราวกับพายุ  จนคนบริเวณนั้นหันมามองด้วยความสนใจ

     

    ทำไมไม่รอเลยล่ะ ผมบอกแล้วไงว่าจะมารับ

     

    ก็...พี่ว่าพี่จะกลับเอง...ลำบากนายเปล่าๆเขาตอบกลับไปโดยไม่ค่อยจะใส่ใจกับสรรพนามที่อีกคนเรียกเพียงชื่อของตนเองเฉยๆเท่าไรนัก เพราะเซฮุนเรียกเขาอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว กับเซฮุนเองก็คงจะเป็นความเคยชิน แม้ว่าเพื่อนของเขาจะเคยตักเตือน แต่เด็กดื้ออย่างเซฮุนน่ะฟังกันซะที่ไหน มิหนำซ้ำยังเกือบแลกหมัดกันซะอีก ดีนะที่เขาห้ามเอาไว้ได้ทัน

     

    “ลำบากที่ไหน สำหรับพี่ไม่มีคำว่าลำบากหรอก” ใช่ มันจะไปลำบากเขาที่ไหนกัน ได้ขับรถไปส่งคนน่ารักอย่างจุนมยอน ที่พ่วงด้วยตำแหน่งคนรักของเขาไปด้วย คงไม่มีอะไรจะมีความสุขไปกว่านี้แล้วใช่ไหมล่ะ

     

    ใบหน้าหล่อยิ้มให้อีกคนอย่างเต็มใจแล้วถือวิสาสะคว้าปึกกระดาษโน้ตในมือของจุนมยอนมาถือไว้เสียเอง ก่อนที่มืออีกข้างจะไปคว้ามือบางมากุมเอาไว้อย่างไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง หากแต่จุนมยอนกลับเผลอสะบัดมือออกทันที ทำเอาเซฮุนที่เตรียมเดินนำหน้าไปนั้นหันกลับมามองนิ่ง

     

    “ขอโทษ...พี่ไม่ได้ตั้งใจ”

     

    “บ้างทีพี่ก็น่าจะชินได้แล้ว”

     ใบหน้าคมกรอกตาขึ้นมองฟ้าแล้วส่ายหัวเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือของจุนมยอนเอาไว้อีกครั้งแน่น แม้จะรู้สึกเจ็บที่ข้อมือแต่จุนมยอนก็ยอมเดินตามเซฮุนไปแต่โดยดี...หากแต่สายตาของจุมยอนก็ดันเผลอไปสบเข้ากับใครบางคนที่ยืนถือลูกบาสอยู่ข้างสนามแล้วมองมาทางเขาด้วยแววตาที่เขาเองก็ยากที่จะอธิบาย...

     

    .......

    ...........

    .................

     

    “เฮ่ยไค มองอะไรอยู่วะ” เสียงทุ้มใหญ่เฉพาะตัวของเพื่อนรักอย่างชานยอลทักดังขึ้นพลางวิ่งเยาะๆเขามาหา ทำเอาจงอินที่กำลังยืนนิ่งมองร่างของใครบางคนเดินจากไปจนลับตาต้องสะดุ้งก่อนจะหันกลับไปมองต้นเสียงแล้วส่ายหัวเบาๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    “ก็กูเห็นอยู่ว่ามึงมองไอ้เซฮุน มึงคิดจะแก้แค้นให้ลู่หานใช่ไหมวะ”

     

    “.....................”

     

    “น่าจะบอกกู จะได้เข้าไปช่วยอัดแม่ง”พูดเองเออเองเสร็จสรรพอย่างเคืองๆ ก็จะไม่ให้ชานยอลแค้นไอ้หมอนั่นได้ไง บังอาจมาทำให้เพื่อนเขาเสียใจ จนลู่หานร้องไห้กับแบคฮยอนทางโทรศัพท์เป็นวรรคเป็นเวร แล้วมันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าเขาไม่ต้องมารับภาระจ่ายค่าโทรศัพท์ที่บิลยาวเป็นหางว่าวเพราะแบคฮยอนมันเสือกขโมยโทรศัพท์ของเขาไปใช้!

     

    แต่หน้าแปลกแหะที่ลู่หานมันเศร้าอยู่ได้แค่วันเดียว เพราะหลังวันเกิดหมอนั่นก็เหมือนจะร่าเริงผิดปกติ....

     

     

    “เปล่า” เสียงไคตอบกลับมาสั้นๆเล่นเอาชานยอลรู้สึกฉุนอยู่ไม่น้อย

     

    “นี่มึงไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง  มันมาทำให้เพื่อนเราเสียใจนะเว่ย” จุนมยอนส่ายหัวเบาๆแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ มือแกร่งปาลูกบาสทิ้งไปยังกลางสนามก่อนจะก้าวเท้าไปนั่งที่ม้านั่งใกล้ๆแล้วทิ้งตัวนั่งลง โดยมีชานยอลเดินตามไปนั่งด้วยติดๆ

     

    ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องของลู่หาน แต่จะให้เขาบอกออกไปได้ยังไงว่าเมื่อครู่คนที่เขามองนั้นไม่ใช่ไอ้เซฮุน แต่คือคนที่เดินจับมือไปกับมัน....

     

    “อย่างน้อยลู่หานก็ตาสว่างขึ้นไม่ใช่รึไง”

     

    “แต่มันต้องโดนสั่งสอน”

     

    “ใช่ มันต้องโดนสั่งสอน! เสียงใสของใครบางคนเอ่ยแทรกตามขึ้นมาทันที จนชานยอลและจงอินหันกลับไปมองอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะพบว่าเป็นแบคฮยอนเพื่อนตัวเล็กที่เพิ่งเลิกเรียนวิชาเลือกเสร็จ กำลังเดินก้าวฉับเข้ามาทางพวกเขาแล้วทิ้งกระเป๋าดังตุ้ม

     

    “อ้าวเตี้ยเป็นไรหน้าหงิกเป็นต---”  ((

     

     

    “เป็นอะไรพูดให้มันดีๆชานยอล” คนตัวเล็กตั้งท่าหาเรื่องทันทีนี่ยังไม่รวมที่มันว่าเขาว่าเตี้ยนะ บยอนแบคฮยอนไม่ได้เตี้ยนะ ความสูงเขาถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานชายเกาหลี เพียงแต่เตี้ยกว่าไอ้2ตัวนี้ก็เท่านั้นเอง หรืออีกอย่างก็คือพวกมันสูงเกินมาตรฐาน  และคนที่ควรจะมีความสูงเป็นปมด้อยคือชานยอลกับจงอินไม่ใช่เขา!

     

    “หน้าหงิกเป็นคนหน้าตาดี...เลย” ร่างโปร่งแค่นยิ้มตอบไปอีกอย่าง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำในกระติกประเคนให้อีกคนไปดื่มเผื่อจะได้ใจเย็นลง ก็คนที่ชานยอลไม่อยากมีเรื่องมากที่สุดรองจากลู่หานก็แบคฮยอนนี่แหละ ไม่ใช่ว่าเขากลัวไอ้เตี้ยนี่หรอกนะ แต่สำหรับแบคฮยอนมีไว้ให้เกรงใจมากกว่า   ใช่..มีไว้ให้เกรงใจ

    ... แล้วทำไมสายตาของจงอินที่มองมาทางเขามันเหมือนกับกำลังจะพูดว่า

     

    ((กูนึกว่ามึงจะแน่))  ด้วยวะ

     

    ก็เขาบอกแล้วไงวะว่าเขาไม่ได้กลัวไอ้เตี้ยนี่น่ะ

     

     “แม่ง เมื่อกี้เดินสวนกับไอ้เซฮุนด้วย เดินจูงมือไปกับพี่จุนมยอน นี่ถ้ากูไม่เกรงใจเขากูซัดหน้ามันไปแล้ว” แบคฮยอนว่าพลางเปิดขวดน้ำขึ้นซดเข้าปากอึกใหญ่อย่างเจ็บใจ

     

     

    “เกรงใจรึกลัวมันต่อยกลับกันแน่เตี้ย”

     

     

    “ไคคค ดูมันเห่อะ”

     

    จงอินส่ายหน้าให้กับไอ้คู่เตี้ยสูงที่กำลังหาเรื่องกัน  เขาถือลูกบาสเดินแยกไปกลางสนามชู๊ตมันลงแป้นหลายๆครั้ง  เมื่อมันไม่ลงก็ชู๊ตซ้ำๆ ราวกับสมาธิหลุดลอยออกไปและกำลังพยายามเรียกมันกลับมา  แค่นึกไปถึงใบหน้าหวานเศร้าๆก็รู้สึกหงุดหงิด 

     

    ใครกันล่ะที่เคยมาสารภาพรักกับเขาแล้วพอถูกเขาปฏิเสธ ก็ร้องไห้... หึ ดีแล้วที่เขาไม่สนใจ

    เพราะตอนนี้ก็มีไอ้เซฮุนหน้าอ่อนมาตามต้อยๆแล้วนี่

     

    ไอ้ไคแบ่งทีมซ้อมกันเหอะ เสียงตะโกนจากชานยอลทำให้จงอินโยนเรื่องบ้าๆในหัวทิ้งแล้วเดินไปรวมซ้อมกับเพื่อนๆ 

     

    .......

    ...........

    ...............

    .................

     

    จุนมยอนถูกพามานั่งในร้านอาหารแทนที่จะได้กลับบ้านเพราะเซฮุนยืนยันว่าจะเลี้ยงข้าวเย็น  พอนั่งอยู่ในร้านเซฮุนก็เป็นคนสั่งอาหารและคอยดูแลทุกอย่างให้อย่างดี ถึงแม้จุนมยอนไม่ได้เต็มใจมาแต่เพราะรอยยิ้มของเซฮุนที่ส่งมาให้มีแต่ความจริงใจเลยยิ้มตอบไปด้วย 

     

    วันนี้ผมเลยไม่ได้ดูจุนมยอนร้องเพลงเลย

     

     

    นายก็เคยฟังพี่ร้องบ่อยๆ 

     

    ผมอยากฟังจุนมยอนร้องด้วยตาตัวเองทุกครั้งนี่  มีงานครั้งต่อไปตอนไหน  เซฮุนถามพร้อมยิ้มใส่ตาคนน่ารัก  เขาชอบทุกครั้งเวลาที่จุนมยอนหลบตาเขาเหมือนกับกำลังเขิน ถึงจะไม่รู้ว่าใช่ความเขินรึเปล่า ก็ขอเข้าตัวเองเถอะ

     

     

    อาจารย์ยังไม่ได้บอกมาเลย ช่วงนี้ต้องทำงานส่งอาจารย์ด้วย พรุ่งนี้เลยจะไปหาข้อมูลในห้องสมุด

     

    งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปอยู่เป็นเพื่อน

     

    อ...อืม... 

    ใบหน้าหวานก้มลงทานอาหารเงียบๆ  ตอบคำถามเซฮุนเป็นบางครั้ง  หรือบางครั้งที่ได้มองไปรอบร้านอาหารก็มักเห็นสายตาของสาวๆแอบลอบมองมาทางเซฮุนบ่อยครั้ง  เลยทำให้จุนฮยอนเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย  หนุ่มฮอตอย่างเซฮุนเวลาไปไหนด้วยก็ต้องตกเป็นเป้าสายตา ..หรือบางครั้งอาจจะเป็นเป้านินทาก็ได้

     

    พี่อึดอัดรึเปล่า

     

    “..........” เสียงถามที่เหมือนล่วงรู้ความในใจทำให้จุนมยอนมองสบตา  กัดริมฝีปากแดงของตัวเองแล้วพยักหน้าเบาๆ    มือของคนถามเลยเอื้อมมาไล้ที่แก้มขาวแผ่วเบา ผมขอโทษ  ทีหลังเราไปร้านที่ไม่ค่อยมีคนดีกว่าเนอะ จุนฮยอนจะได้ไม่อึดอัด

     

    พี่ไม่เป็นไรหรอก แค่กลัวเขาจะมองเซฮุนไม่ดี....

     

    ทำไมต้องมองผมไม่ดี

     

    .................  เงียบ  ไม่มีคำตอบ แต่เหมือนเซฮุนจะรู้ถึงสิ่งที่จุนมฮยอนคิด  เลยบีบมือเรียวไว้แน่น

     

    ผมไม่เห็นแคร์  ก็ผมชอบจุนฮยอนนี่

     

     

    ...........

    ...............

    ....................

     

    มื้ออาหารจบลงในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เซฮุนสั่งไอศกรีมรสโปรดให้จุนฮยอนทานก่อนจะเช็กบิลกลับด้วยรถของเซฮุนเอง ตลอดเวลาที่นั่งมาในรถไม่มีการพูดคุยใดๆ พอถึงบ้านก็พลบเย็นเกือบหัวค่ำ

     

    ปลดล็อคสิ พี่จะลงแล้ว

     

    จุนมยอนอ่า ผมชอบจุนมยอนนะ อย่าทำหน้าเหมือนฝืนๆเวลาอยู่กับผมสิ  มันทำให้ผมเสียใจนะ

     

    เซฮุนเป็นน้องพี่

     

    ก็ไม่ได้อยากเป็นน้องนี่ อยากเป็นสามี

     

    “..................” คำพูดตรงๆทำเอาใบหน้าขาวเนียนขึ้นสีทันที เซฮุนยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูก่อนจะก้มลงฉวยโอกาสหอมแก้มปลั่งนั่นอย่างแผ่วเบาทำเอาจุนมยอนตกใจเบนหน้าหนีไม่ทัน คราวนี้ร่างสูงเลยหัวเราะออกมากับท่าทางตื่นๆนี่  ก็แล้วจะให้เขาเรียกพี่ได้ไง ในเมื่ออีกคนท่าทางเด็กกว่าเขาขนาดนี้

     

    ฝันดีนะจุนมยอน

    ร่างบางไม่ตอบแต่รีบเปิดประตูลงมาจากรถ  ลูบแก้มตัวเองเบาๆ  ถ้าถูกเซฮุนจู่โจมแบบนี้มากๆสักวันนึงเขาต้องแย่แน่  พอรถเซฮุนเลื่อนออกไป ก็ต้องมองรอบๆตัวที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครเดินมาทางหน้าบ้านเพราะเป็นช่วงค่ำ  ร่างบางแอบถอนหายใจเพราะกลัวใครจะมาเห็นแล้วเอาไปว่าลับหลัง

     

     

    แต่พอหันหลังจะเดินเข้าบ้านกลับเจอใครบางคนยืนอยู่...........

     

     

    “ไค....” เสียงจุนมยอนครางอย่างตกใจ ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นทันทีเห็นอีกคนยืนมองหน้าเขานิ่ง จงอินยืนอยู่ตรงนี้นานเท่าไร แล้วเมื่อครู่ที่เซฮุน....หอมแก้มเขาล่ะ จงอินจะเห็นรึเปล่า

     

    อ่า...แล้วทำไมจุนมยอนจะต้องกลัวว่าจงอินจะคิดอะไรด้วยล่ะ

    ก็ในเมื่ออีกคนไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อย...นายมันบ้าไปแล้ว คิม จุนมยอน

     

    “พอดีเอาของมาให้พี่ซีวอนน่ะ”

     

     

    “หรอ....”ร่างสูงพยักหน้าน้อยๆเป็นคำตอบ หากแต่ดวงตาทั้งสองคู่เหมือนไม่ได้สนใจในคำตอบหรือคำถามของกันและกันแม้แต่น้อย มันก็แค่คำถามที่อีกคนตั้งขึ้นเพื่อให้ได้ถ่วงเวลาเอาไว้อีกสักนิด และคำตอบที่เพียงแค่ต้องการได้เพียงเห็นใบหน้าหวานนั้นชัดๆ

     

     

    “งั้นผมกลับล่ะ” เขาพูดตัดบทขึ้นเมื่อรู้สึกถึงแววตาเศร้าๆของจุนมยอนที่เหมือนกำลังตัดพ้อเขาอยู่เป็นนัยๆก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อเดินไปยังบ้านของตัวเองบ้าง

     

     

     ใช่บ้านของเขา....ที่อยู่ข้างๆกับบ้านของคิมจุมยอน และแม้แต่ชานยอล แบคฮยอนหรือลู่หานเองก็ไม่รู้

     

     

    “เดี๋ยวไค”

     

     

    “...............”

     

     

    “เมื่อกี้พี่กับเซฮุนเราไม่ได้....”

     

     

    “พี่จะทำอะไรมันก็ไม่ได้อะไรกับผมอยู่แล้ว พี่ไม่ต้องกังวลไปหรอก”จงอินพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหันหลังเดินกลับไปอีกครั้งโดยไม่หันกลับมามองเจ้าของบ้านตัวเล็กอีก ทิ้งให้จุนมยอนมองตามแผ่นหลังแกร่งนั่นหายลับเข้าบ้านไปจนสุดสายตา กลีบปากบางเม้มกัดเข้าหากันแน่นให้ตัวเองได้รู้สึกเจ็บเล่น  พอยิ่งคิดว่าตัวเองเผลอพูดออกไปอย่างนั้นแล้วจุมยอนก็ยิ่งนึกอยากจะตบปากตัวเองแรงๆอยู่ไม่น้อย ทำไมเขาจะต้องร้อนรนรีบแก้ตัวเหมือนว่ากับเขากำลังทำผิดมหันต์ต่อจงอินอย่างนั้นกันด้วย

     

     

    เฮ่อ...จุนมยอนนะจุนมยอน








    TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×