ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic BTS ] Best Options

    ลำดับตอนที่ #5 : Best Options ll (( 4 )) : Uncultured

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 184
      3
      31 ม.ค. 58

    (( 4 ))

    .…uncultured....

     


     


    แอ๊ดดดดดด

    ยุนกิค่อยๆเปิดประตูห้องเข้าไปข้างในห้องพักเบาๆ ซึ่งมันเป็นห้องนั่งเล่น โดยไม่ให้คนในห้องที่ไม่รู้ว่าจะอยู่มุมไหนของห้องรู้ว่ามียุนกิกลับมา  ยุนกิค่อยๆย่องเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองอย่างเบาสุดๆ


    “นายหายไปไหนมา” เสียงจากทางด้านหลังที่ทำให้ยุนกิต้องหยุดนิ่งทันทีในขณะที่กำลังจะเข้าไปในห้อง  ยุนกิค่อยๆหันหลังกลับมาหาเจ้าของเสียงที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร

    “อ้าว..วันนี้นายไม่ไปซ้อมเต้นหรอกหรอ” ยุนกิแกล้งเปลี่ยนเรื่อง เพื่อหนีความผิดของตัวเอง

    “นายหายไปทั้งคืน จะให้ฉันมีกระจิตกระใจออกไปซ้อมเต้นงั้นหรอนายถามอะไรบ้าๆแบบนั้นห๊ะ!!” โฮซอกตอบคำถามยุนกิอย่างโกรธๆ

    “ไม่ต้องห่วงฉันหรอกน่าไปเถอะ ฉันโอเคดี ตอนนี้ฉันขอไปพักผ่อนก่อนน่ะ” ยุนกิว่าพรางบิดตัวเพื่อแสดงว่ารู้สกเหนื่อยและเดินไปตบบ่าโฮซอกเบาพร้อมกับหันหลังกลับเตรียมจะเข้าไปในห้อง

     

    พลึ่บ!!


    โฮซอกจับข้อมือยุนกิขึ้นแล้วดันตัวยุนกิไปติดประตูอย่างแรงด้วยความโกรธพรางใช้มือที่ว่าอยู่อีกข้างดันกำแพงข้างๆตัวยุนกิไว้

     

    “ถ้านายไม่อยากให้ฉันเป็นห่วง นั่นก็แสดงว่านายกับฉันไม่รู้จักกัน และรู้ไหมถ้าคนที่ไม่รู้จักกันจะไม่อยู่ที่นี่ด้วยกัน และฉันจะส่งนายกลับบ้าน เพราะเราไม่ใช่เพื่อนกัน ฉันก็จะกลับไปอยู่บ้านของฉัน นายต้องการแบบไหนหา!! ” โฮซอกตะคอกใส่ยุนกิและกำข้อมือยุนกิอย่างแรง

     

    “ฉันแค่ไม่อยากให้นายลำบากใจ….และฉันก็ไม่ต้องการแบบไหนทั้งนั้น!!” ยุนกิว่าทั้งกัดปากอดทนกับความเจ็บเพราะโดนโฮซอกกำข้อมือไว้อย่างแรง

     

    “ฉันไม่ต้องการกลับไป ขุมนรกที่ฉันหนีออกมาได้หรอกน่ะ  ฉันเกลียดพวกแม่เลี้ยงพวกนั้น และที่สำคัญคือฉันเกลียดที่สุดคือพ่อของฉัน” ยุนกิว่าจบก็สบัดมือโฮซอกออกก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินฟ้าที่พาดอยู่ที่โซฟามาใส่และจะเดินออกจากห้องไป

     

    “นายจะไปไหน….ฉันขอโทษที่พูดถึงเรื่องนั้น ฉันแค่เป็นห่วง….” โฮซอกว่าในขณะที่ยุนกิกำลังจะเดินออกจากห้องไป

    “ฉันเข้าใจว่านายเป็นห่วงเอาเป็นว่าฉันจะออกไปข้างนอกนายไม่ต้องห่วงฉัน” ยุนกิว่าขณะที่หันหลังให้โฮซอกก่อนจะเดินไปที่ประตูและเตรียมจะออกไป

     

    “คราวหน้าฉันจะไม่ใช้อารมณ์….ฉันจะฟังเหตุผลของนายก่อน..ขอโทษน่ะ” โฮซอกว่าก่อนจะเดินไปที่ห้องของตัวเอง

    ยุนกิเองก็ไม่พูดอะไรได้แค่เปิดประตูและเดินออกไปจากห้อง

     

    ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าถ้าจะให้คุยกันตอนนี้ก็คงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ต่างฝ่ายต่างจึงแยกกันไปเพื่อทำให้ใจเย็นลง

     

    “ฉันไม่ควรพูดแบบนั้นออกไปเลย ไอ้บ้าเอ้ย!!” โฮซอกกำหมัดแน่นและชกไปที่ประตูห้องของตัวเองอย่างแรง เมื่อเข้ามาถึงในห้อง

     

     

     

     
     

    ยุนกิที่เดินออกมาจากตึกและกำข้อมมือที่แดงเพราะโดนโฮซอกกำมันอย่างแรงด้วยความโกรธ ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านอาหารประจำของยุนกิ ซึ่งมันเป็นร้านที่รวบรวมความรู้สึกของยุนกิไว้ที่นี่ และเป็นร้านที่เก็บความทรงจำที่รู้สึกผิดต่อจองกุกเอาไว้ไม่มีวันเจือจาง  ร้านนี้เป็นร้านที่ยุนกิใช้บอกความจริงกับจองกุก….เรื่องที่ไม่น่าทำมัน


    เพราะความรู้สึกผิดและยังมีบางอย่างที่ยังไม่ได้พูดให้จองกุกรู้จึงเป็นเหตุผลที่ร้านนี้เป็นร้านประจำของยุนกิ  เพราะยุนกิมารอใครบางคนที่นี่เป็นประจำเพื่อจะบอกบางอย่าง แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วหละ เพราะคน คนนั้นเกลียดยุนกิไปแล้ว…..

    เพียงแค่ใช้ร้านนี้เป็นที่ระบายความรู้สึกก็พอแล้ว…..สินะตอนนี้

     

     

    “โอ๊ะ!! นั่นมันยุนกิหนิ เฮ้อ ทำไมต้องให้ฉันมาเจอกับนายทุกทีเลย สวรรค์จงใจแกล้งฉันชัดๆเลย” แทฮยองที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารไม่ไกลจากยุนกินักพูดขึ้นอยู่คนเดียว เมื่อเห็นยุนกิเดินเข้านั่งโต๊ะอาหารของร้านนี้ แต่โชคดีที่ยุนกินั่งหันหลังให้แทฮยองจึงทำให้ยุนกิไม่เห็นแทฮยอง

     

    “แต่ทำไมวันนี้นายนั่นดูซึมๆ ผิดปกติน่ะ หรือว่าจะมีเรื่องไม่สบายใจ ไม่หรอกน่า นายนั่นอารมณ์ดีเกินเหตุจนชอบแกล้งคนอื่นขนาดนั้น จะมีเรื่องไม่สบายใจได้ไงเป็นไปไม่ได้หรอก” แทฮยองว่าก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว ก่อนจะเทน้ำที่อยู่ในขวดใส่ในแก้วใหม่

     

    หลังจากที่ยุนกิสั่งอาหารและเครื่องดื่อมมาทานเพื่อที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกเครียดน้อยลง ยุนกิก็พูดบางอย่างขึ้นมาเหมือนเก็บไว้นานและอยากระบายมัน

    “ฉันเกลียดๆๆ เกลียดทุกคนที่อยู่รอบตัวพ่อ….และที่สำคัญรู้ไว้ด้วยว่าคนที่ฉันเกลียดมากที่สุดคือพ่อ” ยุนกิว่าและมองออกไปนอกกระจกใสของร้าน พรางมองเงาสะท้อนตัวเองซึ่งเป็นเงสะท้อนจางๆไม่ชัดผ่านกระจกของร้านก่อนจะนึกถึงอดีตที่แสนจะเจ็บปวดของตัวเอง

     

    น้ำตาของยุนกิค่อยๆไหลรินๆ ลงอย่างช้าๆ มือของยุนกิกำกันไว้แน่น ข้างในใจรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าโดนมีดแทงหัวใจ

     

    “หรือว่าจะมีเรื่องทุกข์ใจจริงๆ..” แทฮยองว่าขณะที่ยืดคอมองไปที่ร่างบางที่ดูซึมเศร้า

    “ฉันควรเข้าไปถามดีไหมน่ะเอ๊ะ!! เดี๋ยวน่ะมันไม่ใช่เรื่องของฉันซ่ะหน่อย อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับนายนั่นสักเท่าไหร่ ” แทฮยองว่าก่อนจะส่ายหัวตัวเองแล้วเลิกสนใจยุนกิ ก่อนจะกลับไปให้ความสนใจแก้วน้ำในมือต่อ

     

     

     

    “ฉันจะไม่มีวันกลับไปอยู่ที่นั่นต่อให้จะสบายแค่ไหน แต่ฉันไม่เคยได้รับความสุขเลย มันคือนรกชัดๆ….” ยุนกิว่าและถอยหายใจเฮือกใหญ่ ในขณะที่น้ำตาก็ไหลรินไม่หยุด

     

    “เอ่อ..ผมขอนั่งด้วยคนน่ะครับ คือผมมองคุณมาสักพักแล้ว” ชายคนหนึ่งเดินมาขอนั่งโต๊ะเดียวกับยุนกิ

     

    ยุนกิรีบเช็ดน้ำตาบนแก้มของตัวเองอย่างรวดเร็วและพยายามทำตัวให้เป็นปกติ

    “ขอโทษน่ะ ฉันต้องการนั่งคนเดียวโปรดอย่ารบกวน..” ยุนกิรีบปฏิเสธเพราะกลัวจะเป็นพวกที่ชอบเข้ามาจีบ ซึ่งยุนกิเองก็เจอบ่อยไม่เว้นไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย

     

    “อ่างั้นขอโทษน่ะครับ แต่ผมขอเวลาแปปเดียวเองครับ” ชายคนนั้นว่า

    “ฉันขอร้องล่ะ..” ยุนกิยังคงปฏิเสธ

    “คือว่าผมเห็นว่าคุณเหมาะที่จะเป็นพิธีกรรายการของเรามันเป็นรายการที่เพิ่งจะสร้างและจะฉายในไม่ช้านี้ ถ้าสนใจติดต่อมาหาผมได้เลยครับ นี่นามบัตรครับ” ชายคนนั้นว่าทั้งๆที่ยุนกิไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยแล้วยื่นนามบัตรให้ยุนกิ

     

    “บอกไว้เลยว่าคุณมองคนผิดแล้ว ฉันไม่ติดต่อไปหรอก ไปหาคนอื่นเถอะ” ยุนกิรับนามบัตรมาแต่กลับกล่าวปฏิเสธ

    “ผมชอบนิสัยแขร็งกร้าวของคุณจัง” ชายคนนั้นว่าทิ้งท้ายแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินจากไป

    “หมอนั่นว่านิสัยฉันแย่งั้นหรืป่าวน่ะหรือว่าหมอนั่นหรอกด่าฉันรึป่าวเนี่ย!!” ยุนกิว่ากับตัวเองอย่างสับสนหลังจากชายคนนั้นเดินออกไปจากร้านแล้ว

     

    “ฉันไปดีกว่า ถ้าอยู่ที่นี่คงจะไม่สงบเท่าไหร่ ฉันต้องการที่สงบกว่านี้” ยุนกิว่าและเรียกพนักงานให้มาเก็บตังค์ค่าอาหารที่ยุนกิสั่งมาทานไม่มากนัก

     

    “ทั้งหมด xxxxx วอนค่ะ” พนักงานคิดเงินได้บอกจำนวนเงินของอาหารที่ต้องจ่าย

    ยุนกิเมื่อรู้จำนวนเงินก็รีบควานหากระเป๋าตังค์ของตัวเองทันที แต่ว่า….หายังไงก็หาไม่เจอซ่ะที

    “นี่ฉันลืมเอากระเป๋าตังค์มาหรอ..” ยุนกิพูดกับตัวองเบาๆก่อนจะหันไปบอกกับพนักงาน

    “อ่อคือว่าผมลืมเอากระ

    “ไม่มีตังค์จ่ายก็ไปล้างจานในครัวน่ะค่ะ” พนักงานหญิงที่ดูไม่คุ้นหน้ายุนกิ เหมือนจะเป็นพนักงานใหม่ว่ากับยุนกิแบบไร้มารยาท

    “อะไรน่ะ!!” ยุนกิตกใจกับคำพูดของพนักงาน

    “ถ้าไม่มีปัญญาจ่าย..จะมากินทำไม ไปล้างจานในครัวเลยไป” พนักงานคนนี้พูดจาเสียมารยาทใส่ยุนกิ ทำให้ยุนกิรู้สึกไม่พอใจนัก

    “นี่ฉันรวยพอที่จะซื้อร้านอาหารแห่งนี้ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่ซื้อหรออกน่ะ ถ้าจะซื้อต้องไม่มีพนักงานอย่างเธอ” ยุนกิว่า และเตรียมที่จะระเบิด

    “ฉันไม่พูดดีด้วยหรอกน่ะกับคนที่ไม่มีตังค์จ่ายค่าอาหาร  เมื่อวานฉันเห็นว่านายมีตังค์จ่ายไม่งั้นฉันจับน้ำสาดหน้านายไปแล้ว” พนักงานหญิงว่า

    พนักงานหญิงคนนี้เป็นพนักงานที่เดินเข้ามาบอกยุนกิเมื่อวานนี้ตอนที่ยุนกิเมาในช่วงที่ร้านกำลังจะปิด เธอเดินมาบอกยุนกิว่าร้านกำลังจะปิด แต่กลับโดนยุนกิสบถใส่เพราะขาดสติ ทำให้พนักงานคนนี้รู้สึกเสียหน้าและไม่พอใจยุนกิ

     

     

    “อะไรหน่ะ?หรือว่านายนั่นจะหาเรื่องพนักงาน เหมือนกำลังถกเถียงกันเลย” แทฮยอง ว่าและมองไปทางยุนกิและพนักงาน อย่างเข้าใจผิดว่ายุนกิไปหาเรื่องพนักงาน

     

     

     

    “พนักงานอย่างเธอไม่ควรมาอยู่ที่ร้านอาหารที่เพียบพร้อมและหรูแบบนี้” ยุนกิว่าและกำหมัดแน่น

    “ส่วนค่าอาหารฉันเอามาจ่ายแน่ รอเดี๋ยว เพราะฉันมีปัญญาจ่าย” ยุนกิว่าและพยายามควบคุมอารมณ์ก่อนจะเตรียมเดินออกไปจากร้านเพื่อกลับไปเอากระเป๋าตังค์

     

    “กินแล้วจะชิ่งหรอ??  นายอาจจะไปแล้วไม่กลับมาก็ได้ใครจะไปเชื่อว่านายจะไปเอาเงินมาจ่ายจริงๆต่อให้จะเป็นลูกค้าประจำก็เถอะ!!  ไว้ใจไม่ได้” พนักงานว่าพรางทำท่าเคะเล็บและเป่าเล็บตัวเองอย่างไร้มารยาท

     

    “จะเอายังไงว่ามา!!” ยุนกิเริ่มอารมณ์เสียมากกว่าเดิม

    “ฉันบอกไม่ได้ แต่นายต้องไปพูดตกลงกับพ่อครัวของเราเอาเอง ถ้าอยากให้จบก็ตามฉันมาละกันน่ะ แต่ถ้าจะหนีไปดื้อๆหละก็…..หึ นายก็คงจะป็นแบบที่ฉันว่าก่อนหน้านั้นพวกไม่มีปัญญาจ่ายแต่ดันใฝ่สูงมากิน ” พนักงานหญิงพูดจบก็ไม่รอช้าเธอเดินเข้าไปในห้องครัวของร้านอาหารทันที

    ยุนกิไม่พูดอะไรและยืนกำหมัดคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเดินตามพนักงานคนนั้นไปเพราะอยากให้เรื่องมันเคียร์ๆให้จบๆไป

     

     

    “พวกเค้าจะไปไหนกันน่ะ” แทฮยองว่าขณะจิบน้ำชาและมองยุนกิที่เดินตามพนักงานหญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้องครัว

     

     

     

     

    “นั่นมันคุณยุกิหนิครับจะลงไปทักหน่อยไหมครับคุณชาย” เลขาของจองกุกพูดขึ้นขณะที่พวกเค้าอยู่ในรถที่จอดอยู่หน้าร้านเพื่อจะมากินอาหารที่ร้านนี้เหมือนกัน “ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วยเค้าไม่มีประโยช์อะไรกับผม ผมไม่สนใจผู้ชายคนนั้นหรอก เราไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ และอีกอย่างผมก็ไม่ชอบผู้ชายคนนั้นเลยสักนิด เหมือนว่าเราเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำ ” จองกุกว่าท่าทางรีบรนอธิบาย ก่อนจะถามเลขาขึ้น

    “อ่อ..อะไรหน่ะ แล้วเค้าเดินตามพนักงานเข้าไปข้างในห้องครัวทำไมกัน” จองกุกว่าอย่างไม่เข้าใจและรอดูว่ายุนกิเข้าไปข้างในนั้นทำไม

    “ไหนบอกว่าไม่สนใจไงครับ??” เลขาของจองกุกแกล้งว่าหยอก

    “เปล่าหนิผมแค่กลัวว่าเค้าจะมาสมัครงานที่นี่เพราะนี่มันร้านของผม ผมไม่อยากได้เค้าเป็นพนักงานเพราะนี่มันเป็นร้านประจำของผม” จองกุกรีบแก้ตัวทันทีและทำท่าทางไม่สนใจโดยการนั่งตัวตรงกอดอกแน่นพยายามไม่หันไปมองยุนกิ

     

     

     

    “รอฉันอยู่ตรงนี้ฉันจะเข้าไปบอกพ่อครัวก่อน” พนักงานหญิงคนนั้นว่าเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องครัวของพ่อครัวที่ทำอาหารอยู่ข้างใน

    “จะทำอะไรก็เชิญ..” ยุกิว่าเรียบๆ

    “พูดเองน่ะหึ!!” พักงานหญิงยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้ายก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน

    ยุนกิไม่ได้เอะใจกับคำพูดของพนักงานหญิงคนนั้นเลย…..

     

    ผ่านไป 2 นาที พนักงานหญิงคนนั้นก็เดินออกมาและเปิดประตูให้ยุนกิเข้าไป

     

    “เข้ามาสิ” พนักงานหญิงว่า

     

    ยุนกิไม่รอช้า โดยเดินเข้าไปข้างในห้องครัวนั่นเพื่อไปต่อรองกับคนทำอาหารหรือพ่อครัวของที่นี่หรือเคียร์เรื่องนี้ให้จบๆไป

     

     

     

     

    “เข้าไปในห้องครัวทำไมน่ะ??

    “เฮ้อแล้วฉันจะสงสัยทำไม เค้าเข้าไปทำอะไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย” แทฮยองว่าขณะยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและเต็มไปด้วยความสงสัย

     

    “ที่รักฉันว่าเรารีบๆจ่ายตังค์ค่าอาหารแล้วกลับกันเถอะ!!” หญิงวัยทองคนหนึ่งดูมีฐาน่ะ ที่น่าจะมีอายุประมาณเกือบ 50 ได้เดินมาที่โต๊ะที่อยู่ข้างๆแทฮยองและพูดกับสามีของเธอที่นั่งกินข้าวอยู่

     

    “อ้าวทำไมหละ?? คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย”  สามีของหญิงแก่ว่า

    “ก็ตอนฉันเดินไปเข้าห้องน้ำฉันได้ยินพนักงานหญิงคนหนึ่งคุยกับลูกค้าที่ลืมเอากระเป๋าตังค์มาแบบไม่สุภาพเลยหละ” หญิงแก่ว่า

     

     

    แทฮยองที่นั่งอยู่ใกล้ๆได้ยินสองสามีภรรยาคู่นั้นก็พอจะเดาได้ว่าเป็นยุนกิเพราะดูลักษณะที่ยุนกิกับพนักงานหญิงคนนั้นเหมือนจะมีเรื่องกันยังไงยังงั้น

     

    “พักงานคนนั้นเธอพูดว่ายังไง รู้ไหม? เธอพูดว่า ถ้าไม่มีปัญญาจ่าย..จะมากินทำไม ไปล้างจานในครัวเลยไป!!’ เธอพูดแบบนี้เลย ไร้มารยาทจริงๆ” หญิงแก่ว่าพร้อมแสดงท่าทางแอคติ้งเป็นพนักงานได้เป๊ะมาก

     

    “จริงหรอ? ใช่คนที่เพิ่งเดินเข้าไปในห้องครัวกับพนักงานหญิงคนนั้นเมื่อตะกี้ รึป่าว?

    “อะไรกัน!! เข้าไปข้างในครัวหรอ?? เด็กคนนั้นเค้าต้องเข้าไปล้างจานในครัวจริงๆหรอเนี่ย?” หญิงแก่ว่าท่าทางดูตกใจ บวกกับสงสาร

    “ทำไมคุณดูตกใจขนาดนั้นหละ??” สามีของหญิงชราถาม

    “ก็ฉันรู้จักเค้าหน่ะสิ ฉันเคยไปเยี่ยมท่านทูตที่อังกฤษ และฉันก็ได้เจอลูกของท่านด้วย คือคนนี้แหละ”

    “อ่อท่านทูตที่มีชื่อสียงโด่งดังที่รวยเป็นอันดับ3ของประเทศหนะหรอ แต่อาหารแค่นี้ก็ต้องจ่ายไหวอยู่แล้วหละสิ แล้วทำไมเด็กคนนั้นไม่บอกไปหละว่าเป็นใคร ถ้าเป็แบบนี้ไม่ดีแน่เกิดว่าท่านประทูตรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของท่านร้านนี้อาจโดนทุบได้เลยหน่ะสิ?” ชายชราว่าอย่างหวาดผวา

     

    “ไม่หรอก?? ท่านไม่เคยสนใจลูกเลยด้วยซ้ำสนใจแต่พวกภรรยาเก็บทั้งหลายมากกว่า ถ้าให้เดาฉันคิดว่าเด็กคนนั้นหนีมาอยู่ที่เกาหลีด้วยซ้ำ เพราะว่าทนพ่อตัวเองไม่ได้” หญิงชราว่าและถอนหายใจเบาๆ

     

    “เฮ้อฉันสงสารเด็กคนนี้จัง อาจจะกลายเป็นเด็กที่มีปัญหาเพราะขาดความรักก็ได้น่ะนั่น” ชายแก่ว่า

    “อืมก็อาจเป็นไปได้เห็นว่าชื่อ อ่อ มิน มินอะไรสักอย่างนี่แหละ” หยิงแก่ว่าและนึกชื่อของยุนกิ

     

    “มินยุนกิใช่ไหมครับ” แทฮยองว่าขึ้น ทำให้สองสามีภรรยาคู่นั้นหันมามองอย่างไม่ตั้งตัว   พร้อมกับท่าทาง งงๆ

    แทฮยองไม่รอคำตอบจากสองสามีภรรยาคู่นั้น เพราะแน่ะใจแน่แล้วว่าคือยุนกิ จึงรีบลุกออกจากโต๊ะโดยไม่ลืมที่จะวางตังค์ไว้ที่โต๊ะเพื่อเป็นค่าอาหาร และรีบเดินไปยังห้องครัว….

     

    “นี่ไงคนที่ฉันว่า” เมื่อพนักงานหญิงและยุนกิเดินเข้ามาข้างในเรียบร้อยแล้วพนักงานหญิงก็แนะนำยุนกิทันที

     

    “นายเองหรอ?” ชายร่างใหญ่ตัวอ้วนคนหนึ่งที่แต่งตัวท่าทางจะเป็นพ่อครัวที่พนักงานหญิงคนนั้นว่า พูดขึ้นพร้อมแสดงสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่

    “อืม..ใช่ ต้องการจะตกลงว่าพวกคุณจะเอายังไงกับฉัน” ยุนกิว่า

    “นายกล้าดียังไงไม่จ่ายตังค์ แล้วยังมาดูถูกรสชาติอาหารของฉัน” ชานร่างใหญ่ว่าและเดินเข้าไปใกล้ยุนกิ

    “ฉันไม่ได้ดูถูกอาหารของนายเลยน่ะ” ยุนกิว่าและค่อยๆเดินถอยหลังไปทีละนิดในขณะที่ชายร่างใหญ่อเดินเข้ามาใกล้

     

    ชายร่างใหญ่เมื่อได้ยินที่ยุนกิพูดก็หยุดเดินแล้วหันหน้าไปมองพนักงานหญิงคนที่พายุนกิเข้ามา

     

    “เค้าพูดใครกันที่จะยอมรับเมื่อถึงทางตัน” พนักงานหญิงคนนั้นเมื่อเห็นชายร่างใหญ่หันมามองก็รีบตอบทันที โดยการใส่ร้ายยุนกิ

     

    “นายกล้ามากที่มาดูถูกเชฟมือหนึ่งอย่างฉัน ไม่เคยมีใครดูถูกฉันเลยมีแต่คนชมว่ามันอร่อย และนายรู้ไหม? ว่าคนที่ดูถูกอาหารของฉันมันจะเป็นยังไง!!!

     

    ปึก!!

    “อั่ก!!”  ยุนกิโดนชายร่างใหญ่ผลักเข้าที่ตัวอย่างแรงจนจุกพรางล้มลง

     

    เพล้ง!!

    พล้าง!!

     

    ตูม!!

     

    ด้วยแรงผลักของคนร่างใหญ่ทำให้ยุนกิกระเด็นไปชนเข้ากับชั้นเก็บจานแก้วและล้มลงนั่งและไปชนเข้ากับตู้เก็บถ้วยชามอย่างแรงทำให้จานและแก้วอื่นๆมันหล่นลงมาถูกตัวยุนกิอย่างเต็มๆ และยังไม่พอแค่นั้น เพราะข้างๆตู้เก็บจานมีถังน้ำลางจานอยู่ใกล้ๆ และตู้ดันไปชนถังน้ำล้างจานทำให้มันหกลงมาใส่ยุนกิที่นั่งกองอยู่กับพื้นอย่างจัง

     

    ยุนกิที่นั่งลงก้มหน้าอยู่กับพื้น ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากกำหมัดแน่นและพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาเพราะรู้ว่าคงสู้แรงคนร่างยักษ์นั่นไม่ได้ ได้แต่เจ็บใจ

     

    พนักงานคนอื่นที่อยู่ข้างในมองไปด้วยความตกใจ แต่มีเพียงแค่คนเดียวที่ยิ้มอย่างสะใจนั่นก็คือพนักงานหญิงคนเดิมที่วางแผนให้ยุนกิโดนเข้าใจผิดและโดนทำร้ายแบบนี้

     

    ปัง!!

     

    แทฮยองเปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว และก็ต้องช็อคอย่างตกใจทันทีที่เห็นยุนกินั่งอยู่กับพื้นที่มีแต่เศษจานที่แตกและตัวเปียกปอนเพราน้ำล้างจานที่คว่ำลงมาใส่ตัว แทฮยองยืนมองยุนกิที่เหมือนจะรู้สึกแย่สุดๆเพราะเห็นยุนกิกำหมัดแน่น และนึกถึงเรื่องที่หญิงแก่คนนั้นว่าและแถมยุนกิเองยังเป็นลูกของคนที่มีชื่อเสียง กลับต้องมาเจอแบบนี้ แทฮยองกำหมัดแน่น ก่อนจะหันไปหาพนักงานและชายร่างใหญ่นั่น

     

    “แค่ไม่จ่ายเงินค่าอาหารแค่นี้ถึงต้องกันแบบนี้เลยหรอ!!” แทฮยองสบถอย่างไม่พอใจ

    ยุนกิเมื่อได้ยินเสียงของแทฮยองก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียงอย่างช้าๆ ที่เต็มไปด้วยความโกรธ

    “แกเป็นใคร เข้ามาทำไม?” ชายร่างใหญ่ว่า

    “แกนี่มันถ่อยจริงๆ ไอ้เวร ทำร้ายคนมี่ทางสู้” แทฮยองว่าและพยายามห้ามมือตัวเองไม่ให้ไปต่อยหน้าชายร่างใหญ่นั่น

    “สมควรแล้วที่โดนแบนี้ มาดูถูกรสชาติอาหารของฉัน” ชายร่างใหญ่ว่าพรางชี้หน้ายุนกิ

    “ฉันไม่ได้พูดเลยผู้หญิงคนนั้นใส่ร้ายฉัน” ยุนกิว่าและชี้ไปทางพนักงานหญิงคนเดิม

    “ย๊า!! เธอต่างหากที่กำลังจะใส่ร้ายฉัน” พนักงานหญิงว่าอย่างร้อนรนจนแทฮยองสังเกตได้ว่าพนักงานหญิงคนนี้ดูร้อนตัวเกินไป

     

    “ฉันคิดว่าเค้าพูดถูก…..” แทฮยองว่าและหยิบกระเป๋าสะตังค์ของเค้าออกมาและโยนมันไปต่อหน้าของพนักงานหญิงทั้งกระเป๋าก่อนจะพูต่อ และหันหน้าไปทางยุนกิที่นั่งก้มหน้าอยู่

    “อาหารที่นี่มันห่วยแตก อย่างที่นายว่าจริง โดยเฉพาะมีพนักงานห่วยแตกยิ่งไปกันใหญ่” เมื่อพูดจบแทฮยองก็เดินไปพยุงตัวยุนกิเพื่อให้ยืนขึ้น ในขณะเดียวกันเมื่อแทฮยองเดินไปพยุงตัวยุนกิก็พบบาดแผลตามแขนและขาของยุนกิจากการโดนแก้วบาด

    “แกมันโครตโง่เลยว่ะ!! เชื่อคำพูดของพนักงานไร้มารยาทจนทำร้ายได้แม้กระทั่งลูกค้า

    “แก!!” ชายร่างใหญ่มีท่าทางที่ไม่พอใจอย่างมาก

    “ยอมรับความจริงซ่ะ ฉันไม่อยากมีเรื่อง และฉันจะไม่มาเหยีบที่นี่จนกว่าพวกแกจะออกไป!!” แทฮยองว่าและพายุนกิเดินออกไปจากห้องครัวนี้ โดยไม่ลืมที่จะจับหมวกของเสื้อกันหนาวที่ยุนกิใส่ขึ้นมาใส่หัวยุนกิไว้เพื่อไม่ให้ใครจำยุนกิได้ และจะได้ไม่รู้สึกอับอายเพราะต้องมีคนมองมาที่ยุนกิ เรื่องแบบนี้มันยากที่จะรับได้

    “ไม่เป็นไรแล้วหละ” แทฮยองว่าก่อนจะถอดเสื้อแขนยาวของตัวเองมาคลุมตัวยุนกิที่เปียกไปทั่ว

     

    ยุนกิไม่พูดอะไรออกมาสักคำได้เพียงแต่เดินก้มหน้าและกำมือแน่นอย่างเจ็บใจ พร้อมกับที่มีแทฮยองพยุงยุนกิให้เดินออกไป

     

     

    ในขณะเดียวกันกับที่จองกุกยังคงจอดรถอยู่ที่เดิมและเห็นยุนกิออกมาในสภาพแบบนั้นยิ่งทำให้เค้ารู้สึกกระวนกระวายและเป็นห่วง…..

    “เกิดอะไรขึ้นกับนาย” จองกุกว่าขณะที่มองไปที่ยุนกิไม่วางตา

     

    >>>>>>>> To be continue >>>>>>>>
     

    หายไปนานเนื่องจากติดเรียนค่ะ-
    ขอโทษน้าาาที่ต้องให้รอแล้วรออีก

    **Sorry Sorry**

     ✄--THE ORA

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×