ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF[พี่เอก&พี่เบส] : Little Love

    ลำดับตอนที่ #39 : Special (เอกxเบส) : แฟนเก่า... (จบแล้วจ้าา)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.64K
      11
      1 ม.ค. 57


    Special (เอกxเบส)แฟนเก่า... (กี่เปอร์ก็มิรู้คะ แหะๆ)

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     “เฮ้อออ~~~”วันนี้ผมถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วของวัน เพราะอะไรน่ะหรอครับ? ฮึ!ไม่อยากจะพูด ตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ก็ขวัญใจของพวกคุณนั่นแหละครับ! พูดแล้วก็หงุดหงิด! อยากจะต่อยหน้ามันแมร่งสักทีให้หายแค้น!

    เป็นไรไปพี่เบส ผมเห็นพี่ถอนหายใจมานานแล้วนะ ผมอุตส่าห์หนีพี่ออยมาหาพี่ได้ทั้งที อย่างน้อยก็บอกผมหน่อยเหอะว่าเป็นอะไร?” เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักหรือก็คือไอคิวเคะครอสนั่นแหละครับ ผมเรียกมันออกมาให้มานั่งกินอะไรเล่นเป็นเพื่อน แต่ผมก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับมันเลย เหอๆ

    เฮ้อ~~ทะเลาะกับเอกมาน่ะผมก็เลยต้องละสายตาจากน้ำปั่นสีสวยมามองหน้ามันแทนครับ

    ห๊ะ!อะไรนะ!พี่กับพี่เอกเนี่ยะนะทะเลาะกัน? เป็นไปได้เร๊อะ?”มันทำน้ำเสียงได้โอเวอร์มากครับ ราวกับว่าโลกจะแตกภายในสามที

    เออ ไม่เห็นต้องทำน้ำเสียงโอเวอร์ขนาดนั้นเลยผมก็บอกมันไปพร้อมกับเคาะหัวมันเล็กน้อยครับ

    เฮ้ย!ก็นี่มันไม่ธรรมดาแล้วนะพี่ พวกพี่รักกันปานจะกลืนกิน แล้วไหงมาทะเลาะกันได้อ่ะ?”มันถามผมด้วยท่าทีจริงจัง ปนๆไม่อยากจะเชื่อครับ นี่กูต้องเล่าให้มึงฟังใช่ไหมเนี่ยะ

    ก็ไอเอกอ่ะดิ วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ไม่ได้สนใจกันเลย!เออ เรื่องเล่นเกมส์ยังไม่เท่าไหร่ยังพอชิน แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้ว่ะ พี่ก็เลยตามสืบแล้วก็เห็นมันยืนคุยอยู่กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้! พอพี่ถามมันว่าใคร มันก็บอกว่านี้แอบตามไปหรอ อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวมากนักจะได้ไหม โอ๊ยยยยย!!แทบอยากจะบีบคอมันให้ตายคามือ!หาว่าแมร่งยุ่งเรื่องส่วนตัว! เออดี! วันหลังกูจะไม่สนใจอะไรมึงอีกเลย แมร่ง!ไม่อยากจะพูด!!บอกแล้วว่าอยากจะพูด เพราะถ้าผมพูดแล้วมันจะยาว แมร่งยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิด ยิ่งอยากจะกระโดดถีบหน้ามันสักสองสามที!

    เหอๆ นี่ขนาดว่าพี่ไม่อยากพูดนะเนี่ยะ ว่าแต่ พี่เอกว่าพี่อย่างนั้นเลยหรอว่ะ?”คิวมันก็ทำตาโตยื่นหน้าแบ๊วๆของมันเข้ามาถามผมด้วยความอยากรู้ครับ

    ก็เออดิ! พอมันพูดแบบนั้นพี่ก็เลยเตะมันไปทีหนึ่งก่อนจะออกมาอยู่บ้านตัวเองเนี้ยะ ไม่ได้คุยกับมันมาสามวันแล้วพอพูดมาถึงตรงนี้ก็ยอมรับว่าใจหายเหมือนกันนะครับ ก็เคยเห็นหน้ากันทุกวัน คุยกันทุกวัน แต่พอวันดีคืนดีทะเลาะกันไม่ได้เจอกัน ก็แอบมีเศร้าบ้างแหละครับ

    โหหห สามวันเลยหรอ เป็นผมนะผมทนไม่ได้หรอกก็แน่ล่ะสิ ขืนมึงหายไปยังไม่ถึงครึ่งวัน เดี๋ยวก็มีหัวเหลืองๆทองๆมาลากมึงกลับบ้านไปอย่างทุกทีนั่นแหละ นี่ผมยังแปลกใจอยู่เลยนะที่วันนี้ผมออกมาหาผมได้ นี่ไอคิวลอบวางยาไอออยมันป่าวว่ะเนี่ยะ =.=

    ก็ช่วยไม่ได้ เรืองนี้มันผิดเองนิพูดแล้วก็น้อยใจเหมือนกันนะครับ ตั้งสามวันแล้วผมก็ยังไม่เห็นว่ามันจะมาง้ออะไรผมจริงจังเลย มากสุดก็เห็นมันแค่โทรมาไกป์มา แต่ผมไม่ได้รับหรอกครับ แต่พอผมจะรับมันก็ดันวางไปก่อน เลยหมั่นไส้ไม่โทรกับไม่รับสายมันอีกเลย แล้วพวกคุณอย่าคิดว่ามันจะตามมาง้อผมที่บ้านนะครับ ไม่ครับ!! ม่ายยยย !! ไม่เลยยยย ผมไม่เห็นหัวมันเลยสักปลายเล็บขบมันครับ!! เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมหงุดหงิดตลอดสามวันที่ผ่านมา เดี๋ยวกูก็บอกเลิกชิบ!!

    ฮ่าๆ ถึงงั้นก็เหอะพี่ พี่น่าจะยอมๆพี่เอกแกไปหน่อยนะ เดี๋ยวก็ไม่ได้คืนดีกันพอดีอ่ะคิวว่าพลางดูดน้ำในแก้วขึ้นด้วยท่าทีสบายๆครับ

    ได้ไงกัน ก็ยอมรับอยู่แหละว่าอาจจะผิดที่ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของมัน แต่ถ้ามันไม่มีอะไรจริงๆเอกมันก็ไม่น่าจะโวยวายเลยนี่น่า มันน่าสงสัยนิผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นกิ๊กเอกมันแน่ๆ ไม่งั้นมันไม่โวยวายใส่ผมขนาดนั้นหรอก นี่กูยังดีไม่พอที่จะให้มึงรักใช่ไหมว่ะ มึงถึงต้องไปหาคนอื่นมาอีก

    โห พี่เบส ผมไม่รู้หรอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ผมว่าพี่เอกคงไม่มีกิ๊กหรอกน่า พี่เอกไม่มีทางนอกใจพี่เบสแน่ๆอ่ะ พี่เอกรักพี่เบสจะตายไอคิวพูดขึ้นเหมือนอ่านความคิดของผมได้ ก็รู้อยู่หรอกเรื่องที่มัน...รักผมน่ะ แต่ว่า อะไรๆมันก็เปลี่ยนแปลงได้นี่น่า

    น่าๆอย่าคิดมากไปเลยพี่เบส ผมว่านะทางที่ดีควรจะหันหน้าคุยกันมากกว่าคิวเลื่อนตัวเองให้เข้ามาใกล้ผมขึ้นก่อนจะตบบ่าเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากบ่นอะไรออกมา เสียงโทรศัพท์ของคิวก็ดังขึ้นก่อน แล้วเจ้าตัวก็ละจากบ่าของผมไปรับโทรศัพท์แทน ก่อนจะรับโทรศัพท์ผมเห็นมันทำหน้าซีดๆด้วยแหละครับ ฮึ! ไม่บอกก็รู้ว่าใครโทรมา

    ฮัลโหลคร้าบบบบ~~~~”คิวลากเสียงยาวๆอย่างออดอ้อนเมื่อกดรับโทรศัพท์

    อยุ่กับพี่เบสครับ…..ครับ…..ผมป่าวหนีสักหน่อยก็พี่เบสมีปัญหานิ…...ครับๆรู้แล้วจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละครับ…...ครับผม……..ตายแน่เลยไอคิวเอ๊ยยยยยยย!!!ทันทีที่มันวางโทรศัพท์มันก็ตะโกนออกมาเลยครับ โดนด่าชัวร์เลยนั่น ผมว่าไอออยมันก็ขี้หวงไปนะ ก็เอาเถอะ มีเมียเด็กก็ต้องหวงไว้ก่อนเป็นธรรมดาแหละนะ

    ฮึ! มึงรีบไปก่อนที่ไอออยมันจะงอนเลยป่ะผมว่าพลางดูดน้ำปั่นในแก้วที่ตอนนี้รู้สึกจะละลายเหลือเพียงแค่น้ำแล้วแฮะ ไม่อร่อยเลย

    เฮ้ออ~~ครับ งั้นผมไปนะ พี่ก็อย่าไปงอนพี่เอกแกมากคุยๆกันซะ ไปแหละมันว่างพลางหยิบกระเป๋าสะพายข้างของมันไปด้วยอย่างรวดเร็ว ให้เข้าไปคุยหรอ? เฮ้อออ~~~~~ลำบากนะนั่นก็ผมเป็นคนงอนมันก่อนนี่น่า แต่เอาเถอะ ผมก็ไม่อยากจะคิดมากไปเองฝ่ายเดียวด้วยไหนๆแล้วก็ลองไปดูมันสักหน่อยจะเป็นไรไป เรื่องผู้หญิงคนนั้นก็….ค่อยถามมันก็ได้ว่ะ!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เฮ้ออ~~~สรุปว่ากูต้องเป็นฝ่ายง้อก่อนอีกแล้วใช่ไหมเนี่ยยตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าครับ ว่าจะซื้อของกินไปง้อมันสักหน่อย ตลอดเวลาที่มันกับผมคบกันผมบอกได้เลยว่าผมเป็นฝ่ายง้อมันก่อนตลอดดดด มันเป็นคนที่ขี้งอนมากครับ!งอนอะไรนักหนาก็ไม่รู้ แล้วไม่ใช่งอนธรรมดา มันเป็นคนงอนเงียบครับแถมยังขี้ประชดสุดๆ ใครบอกว่ามันเป็นคนปล่อยวาง ผมบอกได้เลยเรื่องของผมมันไม่เคยวางได้ =.=

    แล้วในขณะที่ผมกำลังเลือกขนมยี่ห้อนู้นยี่ห้อนี่อยู่ ตาเจ้ากรรมของผมก็ดันไปสะดุดอยุ่กับร่างอันคุ้นเคยกำลังยืนคุยยืนยิ้มอยู่กับผู้หญิงคนเดิมที่ผมเห็นคราวนั้นครับ ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาผมรีบเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วหลบอยู่ในมุมที่ผมจะฟังมันคุยกับผู้หญิงคนนั้นได้ถนัดๆครับ

    ฮ่ะๆ ครับไม่คิดเลยนะครับว่าจะได้มาเจอกันที่นี้ไอเอกมันยิ้มไปหัวเราะไปครับ จะมีความสุขอะไรนักหนา

    นั้นสินะคะ แพรกำลังอยากเจออยุ่พอดีเลยหื้มมม?ชื่อแพรงั้นหรอเนี้ย ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยแฮะ แล้วหมายความว่าไงที่พูดว่าอยากเจอว่ะ

    มีอะไรรึป่าวครับ?”เอกก็ยังคงใช้เสียงหล่อๆของมันถามอีกฝ่ายครับ แพรเป็นผู้หญิงที่จัดได้ว่าสวยทีเดียวเลยแหละครับ เป็นผู้หญิงตัวสูงเพรียว สวยแบบผู้ใหญ่เลยแหละครับ ท่าทางจะถูกใจเอกมันนะ ฮึ่ยย!! หงุดหงิด

    คือว่า...อ่ะ!ยังไม่ทันที่ผู้หญิงคนนั้นจะได้พูดจบประโยค ก็มีเด็กจากไหนไม่รู้มาวิ่งชนเธอจนเซมาทางของเอกครับ เอกมันก็สุภาพบุรุษน่ะนะก็เลยรับตัวแพรเอาไว้ ตอนนี้สองคนนั้นเลยเหมือนอยู่ในท่ากอดกันเลยครับ! โอ๊ยยยยยย!!!ถ้าผมเข้าไปถีบไอเอกออกจะมีใครว่าผมไหมครับ ผมจะได้ไปเสียบแทน กร๊ากกกกก!!ไม่ใช่แหละๆ กลับเข้าเรื่องเดิม เด็กคนนั้นพอเห็นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่ได้สนใจอะไรเลยครับ ก็อย่างว่าเด็กแหละนะ จนแม่ของเด็กคนนั้นต้องมาขอโทษแพรกับเอกเองแล้วก็ตีลูกเขาไปเบาๆ เด็กคนนั้นก็เลยต้องก้มหัวขอโทษครับ

    ไม่เป็นอะไรนะครับ?”ล้มไปทับมึงเต็มๆแบบนั้นคงเลือดตกยางออกมั้งสัส =.=

    มะ...ไม่เป็นอะไรคะ ขอบคุณนะคะเอกเฮ้ยยยยยยยยยย!!!!!ผู้หญิงคนนั้นหน้าแดงด้วยอ่ะ!!ทำไมต้องหน้าแดงงงง เอกมันไม่หล่อหรอก หันมาชอบผมดีกว่าผมดูดีกว่ามันเยอะ!

    ครับ ไม่เป็นไรครับด้วยความยินดีเอกมันพูดพร้อมยิ้มหวานจนอีกคนอายหน้าแดงแทบจะมุดหนีลงไปใต้กระโปรงครับ ฮึ!ทีอย่างเงี้ยะละพูดเสียงอ่อนเสียงหวานทีกับกูละขึ้นเสียงเอาๆ เฮอะ! ไอคนสองมาตารฐาน!!!!


    ~มาต่อกันๆ~

     

    เอ่ออ คะ คือ เอกคะพรุ่งนี้ขอคุยด้วยได้ไหมเอ่ย?คนที่ชื่อแพรทำท่าลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะกลั้นใจถามเอกออกมาครับ

    มีอะไรรึป่าวครับ?เอกมันก็เอียงคอถามครับ แต่น้ำเสียงมันเหมือนกับจะเป็นห่วงคนชื่อแพรนี้ยังไงก็ไม่รู้

    ปะ ป่าวคะ ไม่มีอะไร แค่อยากจะคุยด้วยเฉยๆ ไหนๆเราก็ไม่ได้เจอกันมาตั้งนานแล้วนี่นะเธอพูดออกมารัวเลยครับ พร้อมกับปัดมือไปมาตรงหน้าตัวเองยิ้มๆเหมือนกับจะบอกว่า ไม่เป็นไรไม่ต้องเป็นห่วง แล้วไอคำพูดนั้นของเธอนี่หมายความว่าไงครับ รู้จักกันมาก่อนงั้นหรอ?

    อ่ออ นั่นสินะ จะว่าไปก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้วจริงๆนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆเอกมันก็ยิ้มไปหัวเราะไปอย่างร่าเริงครับ มึงหัวเราะได้แต่กูนี่แมร่งโครตจุก มีเรื่องอะไรที่มันยังไม่ได้บอกผมอยู่รึป่าวนะ แต่ ไม่หรอกครับ ผมยังเชื่อใจเอกมันอยุ่ ผมแค่น้อยใจมันและไม่เข้าใจมันเฉยๆ ผมยังเชื่ออยู่เสมอว่ามันรักผมคนเดียว

    ฮ่าๆ คะ แต่ถ้าเอกไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะคะ แค่เมื่อไม่กี่วันที่เราได้มาเจอกันแค่นั้นก็พอแล้วแหละนะเธอพูดออกมายิ้มๆครับ ไม่อยากจะยอมรับเลยว่ารอยยิ้มของเธอสวยมาก ดูเปล่งประกายเลยทีเดียวแหละครับชักหวั่นใจแล้วสิ ที่เธอบอกว่าเจอกัน น่าจะเป็นช่วงที่เอกดูแปลกๆไป….

    ผมยังไม่ได้พูดเลยย ว่างสิครับ ที่ไหนดีล่ะ ยังไงโทรมานัดผมเอาแล้วกันนะ”……มึงลืมอะไรไปรึป่าวเอก กูงอนมึงอยู่นะเว้ย มึงกับกูไม่ได้เจอกันมาสามวันแล้วนะ วันนี้มึงยังไม่ได้โทรมาหากูเลยด้วยซ้ำ แล้วนี่มึงยังจะมีหน้าไปเที่ยวกับใครคนอื่นอยู่อีกหรอ กูเครียดแทบตายแต่นี่มึงไม่คิดอะไรเลยใช่ไหมว่ะ กูควรจะเชื่อใจมึงต่อไปดีรึป่าวเอก

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

        สรุปแล้ว สุดท้ายผมก็ไม่ได้ไปง้อเอกมันครับ ส่วนขนมที่ผมตั้งใจจะซื้อไปง้อมัน ก็กลายเป็นว่าตอนนี้อยู่ในปากของผมเรียบร้อยแล้ว ผมยืนฟังเอกกับคนที่ชื่อแพรคุยกันจนแยกย้ายกันไป ผมถึงจะเดินออกมาจากที่ตรงนั้นครับ บอกตามตรงว่าผมเครียดนะ เอกไม่เคยเป็นแบบนี้ แล้วทำไม? มันเกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้ความเชื่อใจที่ผมมีให้มันลดน้อยลงไปเยอะทีเดียวเลยครับ ผมหวั่นไหวนะ วันนี้มันก็ยังไม่ได้โทรหาผม ส่งข้อความ หรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการง้อหรือพยายามที่จะคุยกับผมเลยสักนิด โอ๊ยยยยยย!!! ไอเอกแมร่งงงงงง เชี่ยยยยยยยยยยยยยย อยากจะร้องไห้แล้วสัส!!

    (ตื้ดด~ ตื้ดด~)

    อยู่ดีๆโทรศัพท์ที่ผมตั้งไว้เป็นระบบสั่นมันก็เริ่มทำงานครับ ผมรีบคว้าโทรศัพท์มาดูแทบไม่ทัน หวังลึกๆว่าคนที่โทรมาจะเป็นไอคนที่ผมเพิ่งบ่นถึงไปเมื่อกี้ ….แต่ก็ไม่ใช่ครับ ชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของผมก็คือ ไอเอกบี เพื่อนในกลุ่มผมเองแหละครับ ผมถอนหายใจออกมาทีหนึ่งก่อนจะกดรับด้วยความซังกะตาย

    เออ ว่าไงมึง มีไรผมกรอกเสียงลงไปตามสาย

    [ดูเสียง นี่มึงทะเลาะกับไอเอกมันหรอว่ะ?]เสียงผมตอนนั้นมันคงแย่มากมั้งครับผมเลยอุทานออกมา ก่อนที่จะตั้งคำถามที่พอผมได้ยินแล้วก็แอบนินทามันในใจครับ เออสิว่ะ! ถามมาได้เพิ่งรู้รึไงว่ะสัส!!

    เฮ้ออ นิดหน่อยผมถอนหายใจนิดหน่อยก่อนจะตอบมันไปครับ เวลาที่ผมกับเอกทะเลาะกันทีไร ก็มีไอเอกบีเนี้ยะแหละที่จะคอยโทรมาถามไถ่อยู่ตลอดดด เป็นห่วงหรือสาระแนก็มิอาจทราบได้ ฮ่าๆๆๆ

    [ไม่นิดมั้งกูว่า ขนาดมึงหนีกลับไปอยู่บ้านเนี้ยะ เรื่องไรว่ะ?] รู้ว่ากูหนีกลับมาบ้าน แต่ดันไม่รู้ว่าทะเลาะเรื่องอะไรเนี้ยะนะ? ข้ามขั้นสัสๆ

    ไม่อยากพูดถึงว่ะ เรื่องมันยาว แล้วนี่มึงรู้ได้ไง? ผมว่ามันต้องไม่ได้รู้มาจากไอเอกแน่ๆ อีหรอบนี้

    [กูรู้มาจากไอคิวมัน]นั่นไง ผมเดาไม่ผิดหรอกครับ ไอคิวนี่ก็ปากไวจริงๆเลยเชียว

    อ่อ ไม่มีไรมากหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง แค่เซ็งนิดหน่อยเท่านั้นแหละผมก็บอกมันไปเพื่อให้มันสบายใจครับ เห็นงี้มันก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นห่วงผมมากคนหนึ่งเลยนะ

    [กูไม่ไว้ใจมึงว่ะ พรุ่งนี้กูไปหามึงแล้วกัน เดี๋ยวไปเที่ยวกัน นั่งกร่อยอยู่บ้านเดี๋ยวแมร่งก็คิดอะไรพิเรนท์ๆจนได้]มันว่ามายาวเลยครับ อย่างกูจะคิดอะไรพิเรนท์ๆได้ว่ะ คิดมากเกินไปแหละ

    เว่อร์ไปแหละมึงน่ะ เออ แต่ไงก็ขอบใจแล้วกันผมพูดแบบนี้เป็นอันว่าตกลงครับ ก็ดีเหมือนกัน ดีกว่านั่งกร่อยอยู่บ้านอย่างที่มันว่านั่นแหละ

    [เออ โอเค ที่ไหนเดี๋ยวกูโทรหามึงอีกที]ผมก็เออออไปก่อนจะวางสายครับ

     

     

     

     

     

     

                ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ผมก็เลยนั่งเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนไปเล่นหลายต่อหลายเกมส์ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าอาการวิตกกังวลของผมจะลดน้อยลงเลยครับ ผมยังคงกังวลอยู่เหมือนเดิม ระหว่างที่ผมเล่นเกมส์ ไอเอกก็โทรมาหาผมครับ ตอนที่มันโทรมาบอกเลยว่าดีใจมาก แต่ผมก็ตัดสินใจที่จะไม่รับ ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะคุยกับมัน คุยกันไปตอนนี้มีหวังผมได้ชวนมันทะเลาะแน่ๆ ผมก็เลยให้โทรศัพท์มันสั่นไปอยู่อย่างนั้น มันยังโทรมาอีกประมาณสี่ห้ารอบครับ แต่ผมก็ไม่ได้รับเลยสักรอบ จนผ่านไปสักพักมันถึงจะส่งข้อความมาหา มันเป็นเพียงแค่ข้อความสั้นๆง่ายๆ มันส่งมาแค่ว่า ฝันดีพอผมอ่านจบผมแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง!! สัสเอ้ยย!! นี่มึงไม่กะจะขอโทษจะอธิบายอะไรเลยหรอว่ะ! ไม่กะจะง้อห่าอะไรกูเลยรึไง! มึงคิดว่ากูจะฝันดีได้ยังไงว่ะเอก แค่หลับตากูยังจะไม่อยากทำเลย หลับตาทีไรกูก็เห็นภาพที่มึงกับผู้หญิงคนนั้นพูดคุยกัน หัวเราะกัน กูลบภาพนั้นออกไปไม่ได้เลยจริงๆ…. มึงกับเขาเป็นอะไรกันแน่ว่ะเอก?

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ~วันรุ่งขึ้น~

    ไอเชี้ยเบสสสสสสสส!!!!!! ไอสาสสสสสส!!! กูบอกมึงแล้วไงว่าไปเช้า!!! ไอห่า! ตื่นเดียวนี้เลยนะมึงงงงงงงงงงง!!!!!!!” โอ๊ยยยยยยยยยยย!!! เสียงเปรตขอส่วนบุญจากไหนว่ะเนี้ยยยยยยยย คนจะหลับจะนอน!!! ผมว่าแล้วก็ขดตัวเข้าไปในผ้าห่มมากขึ้นครับ

    ไอเบสสสส มึงตื่นเดียวนี้เลยนะ!! อย่าให้กูต้องพังบ้านมึงเข้าไปฉุดมึงออกมา!!!!!” นี่มึงกะจะฉุดกูเลยเร๊อะ!!! ไม่นะ!! กูมีผัวแล้วนะเว้ย ถึงแม้ตอนนี้จะไม่เข้าใจกันอยู่ก็เถอะ!! แต่กูไม่ใช่วันทองงงงงง กูไม่หลายใจ!! เชร้ออออ!!!!

    โอ๊ยยยยยยย!!! ไอสัส!!หยุดได้แล้วมึงเดี๋ยวคนข้างบ้านก็ได้ปารองเท้ามาหรอก!!” ผมจำใจต้องโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มเพื่อตะโกนตอบคนที่แหกปากอยู่หน้าบ้าน ไม่ใช่ใครหรอกครับ ไอเอกบีนั่นแหละ วันนี้มันนัดกับผมว่าจะไปดูหนังกัน แต่ไม่รู้มันแมร่งเป็นอะไรทำไม๊ทำไมต้องนัดแต่เช้าด้วยก็ไม่รู้ ก็รู้อยู่ว่าผมตื่นบ่ายมากมายแค่ไหน =.=

    ตื่นได้สักที!! รีบมาเปิดประตูให้กูเลยนะมึง!” มันก็คาดโทษผมครับ ก็ได้ว่ะ! วุ่นวายจริงเชียว

    ผมตะโกนตอบรับมันไปก่อนจะเดินออกไปทั้งชุดนอนนั่นก็คือบ๊อกเซอร์ตัวเดียวโท่งๆนี่แหละครับ ออกไปเปิดประตูให้มันเข้ามาในบ้าน

    วี้ดวิ้วววว~~~กูเพิ่งสังเกตนะเนี้ยะว่ามึงจะหุ่นดีขนาดนี้ สัสเอ้ยย เอวบางสาสสสส ฮ่าๆๆๆขณะที่มันเดินเข้ามาในบ้านมันก็แกล้งแซวผมด้วยการทำสายตาหื่นกามใส่แล้วก็ไล่มองผมตั้งแต่หัวจรดปลายตีนเลยครับ ผมก็เลยประเคนบาทาให้มันไปทีหนึ่ง กวนตีน!

    มึงรออยู่นี่ก่อนเดี๋ยวกูไปอาบน้ำแต่งตัวแปบผมก็บอกมันชี้ๆให้มันนั่งที่โซฟาแล้วผมก็ขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวครับ เวลาที่คนเรามีเรื่องทุกข์ใจหรือไม่สบายใจอะไรการได้อยู่กับเพื่อนนี่มันก็ดีนะครับ มันทำให้เราลืมเรื่องที่ไม่ดีเหล่านั้นไปได้ ถึงแม้ว่าจะหายไปแค่พักเดียวก็ตาม แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าอย่างน้อยมันก็ไม่ได้ร้ายแรงเกินไปจนถึงขนาดที่เราจะยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้อีก ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยครับ เอาเป็นว่าวันนี้ทั้งวันผมจะทำเป็นลืมเรื่องของไอเอกไปก็แล้วกันเนอะ!

        

     

       ผมใช้เวลาในการอาบน้ำแต่งตัวไม่นานครับ ผมลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ซักพวกเสื้อผ้าเลยมีพวกเสื้อผ้าให้ใส่ออกบ้านไปได้แค่ไม่กี่ตัวเอง อะไรมีอยู่ในตู้ผมก็หยิบๆมานั่นแหละครับ แหละเสื้อผ้าชุดที่โชคดีจากการจับฉลากของผมนั่นก็คือออออ…..เสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลนั่นเอง เอง เองงงงงง แต่เดียวก่อนนนนนน รู้นะว่าพวกคุณคิดอะไรกันอยุ่….มันไม่ใช่กางเกงขาสั้นแบบ ไม่เสมอหูอย่าเรียกหนูใบเตยอะไรอย่างนี้!! กางเกงขาสั้นในที่นี้ก็คือมันเหนือเข่าขึ้นมาประมาณคืบหนึ่งเท่านั้นแหละครับ!! ถ้าสั้นมากกว่านั้นผมก็ไม่ใส่แล้วแหละ เหอๆ การจับสลากเลือกชุดของผมในวันนี้ถือได้ว่ากูกลับไปซักเสื้อผ้าก่อนได้ไหมอะไรอย่างนั้นเลยครับบบ เฮ้อออ~~~~~~~ ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ช่างมันเถอะครับ!! ไปเที่ยวดีฟ่า~

     

        ผมลงมาก็เห็นไอเอกบีนั่งแกะขนมปังกินพร้อมกับนั่งดูทีวีอย่างสบายอารมณ์เลยครับ กูรู้นะว่าบ้านเพื่อนก็เหมือนบ้านเรา แต่…. ไอเอกบี ขนมปังนั่นน่ะ…..มันหมดอายุแล้วนะเพื่อน กร๊ากกกกกกกก!!! สมน้ำหน้า! ผมไม่บอกมันหรอกว่าหมดอายุ หมั่นไส้! อยากแกะกินเองขอให้ปวดท้องจู๊ดๆ หึหึ

    วะ วะ วะ ว๊าวววววว~~~~~” พอมันละสายตาจากจอทีวีมามองผมมันก็ตาโตแล้วก็ส่งเสียงล้อเลียนขึ้นทันทีเลยครับ ผีเปรตเข้าสิงอีกแล้วรึไงว่ะเนี้ยะ =.=

    อะไรมึงผมก็ถามมันไปพลางเดินไปปิดทีวีครับ เป็นสัญญาณบอกมันทางอ้อมว่า กูจะไปดูหนังแล้ววว เอกบีมันก็ลุกตามผมออกมา

    ฮ่าๆๆๆ กูไม่เคยเห็นมึงแต่งตัวแบบนี้นี่ ใส่แล้วก็ดูดีนี่หว่า~” มันว่าแล้วเดินเลยผ่านผมไปเพื่อไปรอที่รถครับ มันขับรถมาแหละ

    คนหน้าตาดีใส่อะไรมันก็ดูดีเว้ยยยยยย ฮุฮุผมล๊อคประตูบ้านเสร็จก็เดินมาหามันที่รออยู่ที่รถครับ ใช่ครับปกติผมไม่แต่งหรอกแบบนี้ ยิ่งขาสั้นเหนือเข่านี่ยิ่งไม่ใส่!! แล้วเอกมันก็ไม่ชอบให้ผมใส่ด้วยแหละมันแทบจะเอากางเกงที่ขาสั้นๆทุกตัวของผมไปเผาทิ้งแหน่ะ อะไรของมะ….. เออเว้ย ผมลืมไปวันนี้ผมจะต้องไม่นึกถึงมันนี่น่า ไม่ได้ๆ!! ผมไม่พูดแหละ ไปดูหนังดูกว่า….

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ~ณ โรงหนัง~

        ตอนนี้พวกผมเลือกหนังที่จะดูได้พร้อมกับซื้อตั๋วมาไว้เรียบร้อยแล้วครับ! กว่าหนังจะฉายก็นู้นนน เกือบจะสิบเอ็ดโมงแหน่ะแต่ตอนนี้เพิ่งจะสิบโมงเอง พวกผมก็เลยตัดสินใจกันว่าจะไปหาอะไรกินกันก่อนครับ แต่ยังไม่ทันที่พวกผมจะหาที่กินได้ อะไรบางอย่างก็ทำให้ผมชะงักครับ ใช่ครับอย่างที่พวกคุณก็คิด….ไอเอกกับผู้หญิงคนนั้น

    ชิบหายแล้วไงผมได้ยินไอเอกบีสบถออกมา ก่อนที่ผมจะดึงมันเดินไปอีกทางครับ

    นี่แหละ ที่กูทะเลาะกับมันผมพูดกับมัน มันก็มองหน้าผมนิ่งๆก่อนจะทำท่าเหมือนลังเลอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายมันก็ยอมพูดออกมาครับ สิ่งที่ผมได้ยินทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน….

     

    นั่นแฟนเก่าไอเอก…”
     

    ~มาต่อกันนน~
     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

         ตอนนี้ผมอยู่ในโรงหนังแล้วครับ กำลังนั่งดูหนังที่เลือกมากับไอเอกบีมัน ผมเห็นคนทั้งโรงหัวเราะ ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันตลกยังไงเพราะผมไม่ได้ตั้งใจดูเลยจิตใจของผมไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้ว มันลอยไปไกลแสนไกล ใจผมไปไหนก็ไม่รู้ มันมีเพียงแต่ประโยคเดียวที่ยังดังก้องกังวานอยู่ภายในหัวของผมนั่นก็คือ นั่นแฟนเก่าไอเอก’ …ปกติผมไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยหรอกครับ แต่เรื่องนี้ผมยอมรับว่าผมส่งผมกระทบต่อความรู้สึกของผมมาก อย่างแรกเลยก็คือ ไอเอกผมเคยบอกกับผมว่ามันจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนเก่าของมันอีกไม่ว่าคนนั้นจะอยู่ในสถานะของเพื่อนไปแล้วก็ตาม มันสัญญากับผมไว้ เพราะผมไม่ชอบ อย่างที่สองก็คือ ผมอารมณ์เสียใส่ผม และแน่นอนว่าต้นเหตุก็คือแฟนเก่ามัน นี้มันหมายความว่าไงว่ะ โอ๊ยยยย!! ไหนไอเอกบียังจะบอกผมอีกว่า แฟนเก่าคนนี้ของมันเป็นคนที่มันเคยรักมากตอนเลิกกันมันร้องไห้ฟูมฟามแทบจะไม่เป็นคนเลยทีเดียว สัสเอ้ย!! ผมคิดมากว่ะครับ ทำไงดี

    เบส ไอเบส!” ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อไอเอกบีมากระซิบข้างๆหูผม

    เป็นอะไรของมึงว่ะ นั่งนิ่งเชียว หนังสนุกออกมันก็บ่นของมันไป พอผมหันไปมองมัน มันขมวดคิ้วมุ่นเชียวครับ หน้าตามันนี่รู้เลยว่ากำลังเป็นห่วงผมอยู่

    หือ? ป่าวๆ ไม่มีไร ดูหนังต่อเหอะผมพยายามฝืนยิ้มให้มัน แล้วยิ้มข้าวโพดคั่วขึ้นมากินครับ

    แน่ใจนะ?ไม่กูไม่โอเคเลยว่ะเอกบี แต่ผมจะบอกประโยคนี้กับมันไม่ได้หรอกครับ ต่อให้ถึงผมจะบอกยังไงมันก็ไม่เชื่อผมก็ตามเถอะ

    อื้ม กูยังไม่เป็นไรมากหรอก ดูหนังต่อเถอะน่า~~~” ผมผลักหัวมันให้หันมาสนใจกับหนังต่อ ผมก็เริ่มมาสนใจกับหนังบ้างแล้วแหละครับ แต่ในหัวผมก็ยังคงคิดไปถึงเรื่องอื่นอยู่มึงคงกำลังสนุกอยู่กับเขาสินะเอก

     

     

     

    ตอนนี้ผมออกมาจากโรงหนังแล้วครับ บอกตามตรงว่าผมดูหนังไม่รู้เรื่องเลย ผมว่าเนื้อเรื่องมันก็สนุกตลกเฮฮาดีหรอก แต่ที่รู้ก็เพราะว่าคนทั้งโรงเขาขำขึ้นมาต่างหาก ส่วนผมได้แต่นิ่งไม่มีกะจิตกะใจจะดูต่อเลยจริงๆ ผมสังเกตได้เลยว่าไอเอกบีมันจะแอบมองมาทางผมเป็นระยะๆ สงสัยว่าจะเป็นห่วงผมนั่นแหละครับ เฮ้ออออ ขอโทษจริงๆว่ะเพื่อน แต่วันนี้กูขอเถอะ กูสนุกไม่ได้จริงๆ แค่แค่นยิ้มยังลำบากเลยครับ

    กลับบ้านเลยไหมว่ะเบส กูว่าอาการมึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะนั่นไงครับ ผมบอกแล้วว่ามันเป็นห่วงผม ตอนนี้พวกเรากำลังเดินไปเรื่อยเปื่อยครับ ไม่ได้จะไปทำอะไรเป็นพิเศษหรอก

    ฮึ ไม่ว่ะ อยุ่นี้แหละดีแล้ว ช่างมันเหอะ กูไม่เป็นไรผมพูดพลางตบไหล่มันไปเบาๆเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงมันก็พยักหน้ารับรู้ แล้วก็ชี้นู้นนั่นนี่ให้ผมดูใหญ่เลยครับ แต่อยู่ดีๆมันก็ดันชี้ไปยังจุดๆหนึ่งมันบอกว่ามันหิวแล้วก็จะไปกินเคเอฟซีกัน แต่ภายในร้านดันมีบุคคลที่ผมหลบหน้ามาตลอดนั่งอยู่ด้วย และแน่นอนครับ กับผู้หญิงคนนั้นไอเอกบีชะงักไปเล็กน้อยมันคงเห็นเหมือนที่ผมเห็น มันหันามองผมนิ่งๆผมก็มองเข้าไปในร้านนิ่งๆเช่นกัน มองคู่ที่กำลังตักไก่ให้กันกินอย่างยิ้มแย้ม ทีมากินกับกูล่ะให้กูแกะให้แดกอย่างเดียว ไม่เห็นจะมีมาตักหงตักให้งี้เลยผมอยากรู้ว่าจริงๆผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่ งั้นสงสัยผมคงต้องเผชิญหน้าแล้วแหละครับ

    ไอเอก! ป่ะ! ไปกินเคเอฟซีกัน!” ไม่ว่าเปล่าผมยังพยายามฉุดกระชากให้มันตามผมมาด้วย มันขืนตัวเองไว้เล็กน้อยครับ เอ้าก็ไหนว่าอยากแดก =.=

    “…มึงแน่ใจนะเบส?มันถามผม ผมมองมันตรงๆแล้วพยักหน้า ต่อให้เจ็บผมก็ยอม

     

     

     

     

    ผมพยายามเดินเข้ามาภายในร้านเคเอฟซีโดยไม่ให้เอกมันเห็นครับ เรียกได้ว่าหลบกันสุดฤทธิ์เลย และด้วยความเร็วของผมที่มีมาแต่กำเนิดก็ทำให้ผมได้ที่นั่งด้านหลังซึ่งติดกับโต๊ะที่ไอเอกและผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ ผมนั่งเบาะติดกับไอเอกครับโดยนั่งหันหลังให้มันเวลาพวกเขาพูดอะไรผมจะได้ยินทุกอย่าง

    เดี๋ยวกูไปซื้อไก่มาน่ะ มึงนั่งนี่แหละไอเอกบีบอกผม ผมก็เพียงแค่พยักหน้าเออออไปกับมันมึงไม่บอกกูกูก็กะนั่งอยู่ตรงนี้นี่แหละ อยากจะรู้จริงๆว่าถ่านไฟเก่าอยู่ๆมันจะจุดติดขึ้นมารึป่าว

    ขอบคุณนะคะเอก ที่มาเป็นเพื่อนแพรเริ่มบทสนทนากันแล้วครับ หูผมก็เริ่มทำงานขึ้นเป็นอย่างดีเช่นกัน

    ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง ผมเต็มใจช่วยหึ พูดซะเพราะเลยนะมึง แล้วอะไร? มันช่วยอะไรเขางั้นหรอ?

    เป็นเพราะแพรงี่เง่าเองแท้ๆ เลยทำให้เอกต้องลำบากเลย เฮ้อออผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเหมือนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนผิดจริงๆครับ ถ้ารู้ตัวว่าทำให้ลำบากแล้วจะกลับมาทำไม =.=

    ไม่เอาสิครับแพร อย่าเครียดสิครับ เดี๋ยวไม่สวยน่าเอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทะเล้นๆ เลยทำให้ผู้หญิงที่ชื่อว่าแพรส่งเสียงหัวเราะออกมาได้ครับ

    ฮ่าๆๆๆ เอกนี่ล่ะก็ เอกคะ เอกมีแฟนรึยัง?เอาแล้วครับ ถามทีเล่นเอาผมที่แอบฟังอยู่จุกกันเลยทีเดียว มันจะตอบว่ายังไงล่ะทีนี้

    “…ครับ ผมมีแฟนแล้วเอกตอบออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังครับ ทำให้ผมแอบอมยิ้มออกมาเล็กน้อย ยังไงซะ มันก็เลือกผมอยู่ดี

    หื้มม งั้นหรอคะ ต้องเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากแน่ๆเลยได้เอกไปเนี้ยะ ฮ่าๆๆๆแพรพูดขึ้นมาทีเล่นทีจริงครับ แต่ก็เล่นเอาผมชะงักไปเหมือนกันนะ ก็ผมเป็นผู้ชายหนิ ผู้หญิงซะทีไหนกัน =//=

    ฮ่าๆๆ ไม่หรอกครับ เขาต้องปวดหัวกับผมมากแน่เลยแหละ ตอนนี้ก็เหมือนกันโกรธผมจนไม่ยอมคุยกับผมเลย ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วอือหือ ก็รู้ตัวหนิว่าทำตัวน่าปวดหัวน่ะ เสียงที่มันพูดออกมาฟังดูหงอยมากเลยครับ ทำให้ผมพยายามที่จะตั้งใจฟังอีกครั้งทันที

    หือ? โทรไปหาเขารึยังคะ?แพรถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัยครับ

    อื้ม โทรไปแล้วครับ แต่เขาไม่รับสักกะสายผมเลยส่งข้อความไปแทนแต่ก็ไม่ตอบกลับมา ผมพยายามติดต่อไปทุกทางแล้วจริงๆนะ ทั้งไกป์ เฟส มันก็ไม่ตอบผมเลย เล่นอยู่แท้ๆแหน่ะ! ท้ายประโยคแอบมีทำน้ำเสียงน้อยจงน้อยใจ กูไม่ใช่หราห๊ะ! ที่ต้องเป็นฝ่ายน้อยใจมึงน่ะ ห่า!

    อ่าว แล้วได้ไปง้อเขาเองกับตัวไหมคะ?ดีครับดีเป็นคำถามที่ดีมากเลยครับแพร ถามมัน ถามมันเลยยยย

    เอ่อป่าวครับมันตอบเสียงซะเบาเลยครับ ชิส์

    อ่าว ทำไมล่ะคะ ไปเองกับตัวมันง้อง่ายกว่านะแพรว่าเสียงคล้ายเตือนปนดุเล็กน้อยครับ ใช่ๆ เนี้ยะๆ ฟังที่เขาพูดมั้ง!

    ก็ผมกลัวมันจะรำคาญหนิครับ ก็เลย…” มันยังคงพูดเสียงหงอยๆต่อก่อนที่อยู่ดีๆจะหยุดพูดไป

    ก็เลยรอให้เขากลับมาเองงั้นหรอคะ? ง่ายไปมั้งคะเอกนี่!! เป็นไงล่ะ ด่ามันเลยครับแพร ด่ามันนนนนนนน

    ก็…” เอกเหมือนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกครับ คงไม่รู้ว่าจะเถียงยังไงสิท่า

    ไม่ต้องมาก็เลยคะ ถ้าไม่ตามเขากลับมาเขาจะกลับมาไหมล่ะ ให้เขารำคาญดีกว่าเสียเขาไปนะ เขาอาจจะกำลังรอเอกอยู่ก็ได้แพรยังคงว่ามันไปอีกชุดหนึ่งครับ ถูกเผงเลยครับแพร ผมกำลังรอมันอยู่เนี้ยะ!!

    เฮ้ออออ ครับ ผมจะพยายามอีกครั้งหนึ่ง!! ยังดุเหมือนเดิมเลยนะครับแพรเนี้ยะ ฮ่าๆๆๆยัง ยัง ยังมีหน้ามาหัวเราะร่าอีก ขอให้แม่งมาง้อผมจริงๆเถอะ เหอะ!!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    [Eak : Part]

    ~18:34 .~

    ฮันแหน่ะ!!!! อย่า ผมรู้ว่าพวกคุณกำลังจะด่าผม เพราะฉะนั้นผมขอดักทางเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งว่าผมนะคร้าบบบบบบบ ตอนนี้ผมมาง้อเบสขวัญใจของพวกคุณแล้วไง ใช่ครับ ผมกำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้านเบส ก็ไม่รู้ทำไมการทะเลาะของผมกับมันครั้งนี้ผมถึงคิดเองไม่ได้ว่าต้องมาง้อมันเองกับตัว ผมคงกังวลมากเกินไปว่ามันอาจจะไม่ยอมที่มายุ่งกับมันมากเกิน มันอาจจะอยากอยู่คนเดียวสักพัก และความคิดที่แย่ที่สุดคือ ผมคิดว่ามันจะกลับมา แต่ป่าวเลยครับ มันไม่หายโกรธผมเลย สงสัย ผมจะพูดแรงไปจริงๆ

    พอผมรู้ว่ามันแอบตามผมไปว่าทำอะไรแล้วก็ว่ามันว่าอย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัว ก็เพราะว่าผมไม่อยากจะให้มันคิดมากครับ แพรเป็นแฟนเก่าของผม แพรเป็นคนที่ผมเคยรักมาก แต่ก็แค่เคย ผมกลัวว่าถ้าเบสมันรู้ว่าแพรเคยเป็นอะไรกับผมมันจะคิดมากว่าผมจะกลับไปคบกับเธอ ผมเลยไม่อยากให้เบสมายุ่งกับเรื่องนี้ แพรเป็นคนกลับมาหาผมเองครับ ส่วนเหตุผลนั้น ก็เพราะว่าแพรทะเลาะกับแฟนมาเลยมาปรึกษาผมนั่นเอง ผมสนิทกับแพรมาก ไม่แปลกที่แพรจะเลือกมาคุยกับผม แต่สุดท้ายก็นะมันก็ทำให้ผมทะเลาะกับเบส

    เฮ้ออออ เมื่อไหร่จะมาสักทีเนี้ยะผมยืนพิงประตูบ้านมันมาเกือบชั่วโมงแล้วครับ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะกลับมาสักที ออกไปไหนของมันว่ะ! อย่าให้รุ้นะว่าแอบไปเล่นชู้ กูเอาตายแน่

    อ่าว ไอเอกระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าชู้ของเบสจะหน้าตาเป็นยังไงนั้นผมก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยเรียกชื่อผมขึ้นครับ พอผมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเพื่อนรักที่มีชื่อเดียวกับผมยืนอยู่ข้างๆกับคนที่ผมเรียกมันว่าเมียไปแล้วครับ อ่อ กูรู้แหละว่าชู้มึงหน้าตายังไง =.=

    ไปไหนกันมา?คำถามแรกที่ผมทักทายกับเพื่อนฝูงครับ จริงๆผมอยากจะถามมันว่า มึงพาเมียกูไปไหนมาต่างหาก

    กูพาเบสมันไปดูหนังมาตาผมจ้องไปที่เบสครับมันก็จ้องมตอบเหมือนกันในแววตานั้นไม่ได้สื่อถึงอะไรแค่มองมาเฉยๆ

    ตั้งแต่เมื่อไหร่?ผมยังคงถามต่อไปตาผมก็ยังไม่เลิกจ้องคนหัวชมพูครับ

    ตั้งแต่เช้าแล้วโอ๊ยยยย!!!! แล้วทำไมกูต้องมาตอบคำถามมึงด้วยว่ะเนี้ยะ มีเหี้ยอะไรก็เคลียร์กันเองแล้วกันเรื่องผัวเมียกูไม่อยากยุ่ง กูไปแหละ!” ไอเอกมันโวยวายขึ้นก่อนจะเดินไปเลยครับ เออ กูอยากให้มึงทำอย่างนี้นานแหละ ห่า!

    เมื่อไอเอกบีไปก็เหลือแค่ความเงียบที่อยู่ระหว่างผมกับเบสครับ ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงดี โอ๊ยยยยย!!! ทีอย่างนี้ล่ะไม่รู้ที่เรื่องอื่นละรู้ดีจริงๆนะไอเอกกกกก

    “…” เบสเบนสายตาที่มองผมอยู่ไปทางอื่นก่อนที่จะเดินมาเปิดประตูบ้านอย่างเงียบๆครับ

    เบส…” ผมเริ่มต้นด้วยการเรียกชื่อมันก่อนเบาๆ

    เข้ามามันพูดด้วยเสียงนิ่งๆก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านครับ ผมก็จัดการเดินตามมันเข้าไปโดยไม่ลืมที่จะล๊อคกลอนปิดประตูบ้านให้ด้วยครับ

    พอเดินเข้ามาจนถึงภายในตัวบ้านผมกับเบสก็ยังคงเงียบกันอยู่ เบสเดินไปนั่งไขว่ห้างที่โซฟาตัวเดียว เลยทำให้ผมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับมันครับ

    มีอะไรจะพูดไหม?เบสเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน เลยทำให้ผมต้องสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ฮู้ววววววว~~~~~ ได้เวลาตายแล้วเอกเอ่ยยยยยย

    ผู้หญิงที่มึงเห็นอ่ะเป็นเพื่อนกูเองเขามีปัญหากับแฟนเลยมาปรึกษากูน่ะ แล้วที่กูหาว่ามึงมายุ่งวุ่นวายกับกูกูขอโทษกูแค่ไม่อยากให้มึงคิดมากผมจับเอาแต่ประเด็นสำคัญๆที่คิดว่าเบสโกรธขึ้นมาอธิบายให้มันฟังครับ เข้าใจกูทีเถ๊อออออออ

    “…แค่เพื่อน?มันถามพลางเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความฉงนครับ นั่นไง ไปรู้อะไรมาสิท่า

    เฮ้อออ แฟนเก่าน่ะแหละแต่ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกันแล้วไม่มีอะไร เบส กูขอโทษ ยกโทษให้กูนะ นะ นะครับผมพยายามใช้เสียงออดเสียงอ้อนมันเต็มที่เลยครับ ไม่รู้มันจะใจอ่อนบ้างรึป่าว

    “…ง่ายเนอะแค่ขอโทษแล้วกูจะหายเนี้ยะแหง่ะ! พูดทีเล่นซะกูหงอยเลยนะสัส!

    “…แต่กูยอมง่ายให้แค่มึงก็ได้เบสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนๆแต่ไม่ได้มองหน้าผมนะครับ แต่ผมเนี้ยะดิ มองหน้ามันตาโตแล้วครับ!! สรุปว่า มันยกโทษให้ผมแล้วใช่หม้ายยยยยยยยยยยยย

    หึ! ใจง่ายว่ะแกล้งมันไปหน่อยครับ อยากมาน่ารักเอง

    ไอเอก!! พูดงี้เดี๋ยวกูก็หยิ่งซะหรอก!” เป็นดั่งคาด มันโวยวายคิดว่าทันทีเลยครับ แต่ผมก็ตั้งใจให้มันโวยวายนี่แหละครับ เวลามันโกรธน่ารักดี แถมตอนนี้มันยังทั้งโกรธทั้งอายที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้ด้วย ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ อยากจะจับมาฟัด

    ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นคร้าบบบบบ ขอบคุณนะผมเดินเข้าไปกอดมันจากข้างหลังครับ กอดมันเอาไว้แน่นโดยไม่กลัวว่าเบสมันจะอึดอัดรึป่าว ก็ผมไม่อยากจะให้คนๆนี้จากผมไปไหนอีกนี่น่า

    หื้ม? ขอบคุณอะไร?มันก็พิงตัวมันลงมาให้ผมกอดเหมือนกันครับมือมันก็เขี่ยแขนผมไปมาอย่างเพลินๆ

    ขอบคุณ ที่ทนกับคนอย่างกูไง กูรู้ว่ากูงี่เง่านะ อยู่ด้วยแล้วมึงคงจะเหนื่อย ขอบคุณที่อยู่กับกูผมว่าพลางก้มลงหอมซอกคอมันก่อนจะเอาคางวางไว้บนไหล่ของมันแล้วก็ซุกบนไหล่มันอยู่อย่างนั้นแหละครับ

    “…เอก มึงรู้ไหม ไม่เคยมีสักวินาทีเลยนะเว้ยที่กูรู้สึกว่าการอยู่กับมึงคือการ ทนกูอยากอยู่กับมึงก็เพราะอยากอยู่ ไม่ได้ทนอะไรทั้งนั้นแหละมันว่าแล้วเอื้อมมือของตัวเองมาเล่นหัวผมไปด้วยครับ ประโยคที่มันพูดออกมายอมรับเลยว่าตื้นตันมากบวกเขินเล็กน้อยถึงปานกลางด้วยครับ

    แล้วทำไมถึงอยากอยู่กับกูล่ะ หื้ม?จริงๆก็รู้คำตอบแหละครับ แค่อยากได้ยินเฉยๆ ผมเงยหน้าขึ้นมามองมันอย่างยิ้มๆครับ

    “…ไม่ต้องมาหลอกให้กูพูดเลยเอกหว่า ดันรู้ทันซะได้ ฮ่าๆๆๆ หน้าแดงแจ๋เลยครับ

    เสียดายจัง เฮ้ออออผมแกล้งถอนหายใจเล่นๆไม่ได้จริงจังอะไรครับ ผมรู้เบสมันปากแข็งจะตาย อย่าว่าแต่มันเลย ผมก็เป็น ฮ่าๆๆๆ ก็มันเขินนี่ครับ -///-

    ระ…” ผมที่กำลังอมยิ้มให้กับความน่ารักของมัน อยู่ดีๆก็ต้องสะดุดกับคพที่เบสจะพูดครับ ห๊ะ? ว่าอะไรนะ? ขนาดหน้าผมอยู่ใกล้ๆกับมันผมยังไม่ได้ยินเลยคร้าบบบบบ

    หื้ม? อะไรนะ?

    รักนะ” …………………. สตั้นซ์ 80 วินาที มันบอกรักโผ้มมมมมมมมมมมมมมม โนววววววววววววว ก็อดดดดดดดดดด มันเป็นไปได้ครับท่านผู้อ่าน!!!!

    หึหึ อะไรนะครับ? ไม่เห็นจะได้ยินเลยแกล้งมันไปสักนิดดดดด

    สัส!! ไม่น่าพูดให้เสียปากเลยแม.. อุ๊บ!” ผมไม่ปล่อยให้มันได้ด่าผมจบประโยค ปากของผมก็จัดการครอบครองปากนุ่มนิ่มของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตอนแรกผมก็กะจะจูบเฉยๆนั่นแหละนะ แต่พอจูบไปจูบมามันก็อยากจะเข้าไปรับรู้รสให้มันลึกมากกว่านี้ และดูเหมือนปลายลิ้นของผมจะรู้ถึงความต้องการของผมครับจัดการเข้าไปควานหาความหวานภายในโพรงปาก ต่อให้จะเคยลิ้มลองมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อเลยสักครั้ง มีแต่ต้องการเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น มากจนไม่มีวันสิ้นสุด….

    “…. รักเหมือนกันนะครับเมื่อผมเห็นว่าเบสเริ่มหายใจไม่ทันผมก็ถอนริมฝีปากออกมาก่อนจะบอกรักมันกลับด้วยเสียงหวานๆที่ผมรู้ว่ามันชอบฟังครับ

    อื้ม อย่าทำแบบนั้นอีกนะ มีอะไรห้ามปิดบัง ทุกเรื่องต้องบอกนั่นไง เบสเวอร์ชั่นเผด็จการออกมาแล้วครับท่าน

    หึหึ ครับ สัญญา จะไม่ทำแบบนั้นอีก จะบอกทุกเรื่อง แค่เบสยอมอยู่กับเอกไม่ไปไหนเอกก็ยอมทำทุกอย่างแล้วผมพูดจริงๆไม่ได้หยอดนะ ตอนไม่มีมันผมรู้สึกเหมือนการหายใจมันลำบาก

    พูดแล้วทำให้ได้ด้วยมันย้ำอีกครั้งผมก็ตอบรับมันกลับไปด้วยการหอมแก้มนิ่มนั่นไปฟอดใหญ่ทีหนึ่งครับ

    ครับ เอกรักเบสนะถ้อยคำที่แสนหวาน ประโยคที่ทำให้ใครต่อใครคล้อยตาม แค่คำว่า รักคำเดียว สามารถที่จะสร้างปาฏิหาริย์ได้มากมาย อนาคตจะเป็นอย่างไรผมไม่รู้ ผมรู้แค่ในวันนี้ผมได้รู้จักกับคำว่ารักแล้ว แล้วผมจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปอีกเป็นครั้งที่สอง คำพูดที่ได้เอ่ยออกไปผมจะทำมันให้เป็นจริง สัญญาต้องเป็นสัญญา เพราะเมื่อไหร่ที่ผมผิดคำพูดขึ้นมาคนตรงหน้าผมตอนนี้อาจจะหายไปไม่กลับมาหาผมอีกเลย ผมไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น ความรักของผมยังต้องดำเนินต่อไป ตราบเท่าที่ผมยังหายใจหัวใจของผมจะยังคงมีแค่ดวงเดียว หัวใจของผม คือเบส

     

     

     

    … The End…

    ขอโทษที่ดองตั้งนานนะคะ ฮืออออ สเปเชี่ยลเป็นอะไรที่คิดอยากมากจริงๆแต่งแล้วลบแต่งแล้วลบอยู่หลายครั้งกว่าจะได้แบบนี้ ไม่รู้ว่าดีรึยัง แต่ก็ขอให้ทุกคนชอบกันนะคะ >/\<

    HNY คะ มีความสุขมากๆนะคะรีดเดอร์ทุกคน มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในปีใหม่ๆนี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาเสมอคะ สิ่งที่ได้รับจากทุกๆคนตลอดจนนิยายนี่จบ เป็นสิ่งที่มีค่ามากคะ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณมากจริงๆ รักนะคะ จุ๊ฟๆ ฮ่าๆๆๆ >3<


     

     

     

    .

     


    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×