ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังแสงแสนฟิคของผึ้ง (Naruto , KNY , Magi, JJK etc.) X Reader

    ลำดับตอนที่ #11 : Numb

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 191
      17
      13 ม.ค. 61




    เช้าต่อมาบนดาดฟ้าของโรงเรียน..


    “เฮ้ เป็นอะไรของเธอ ท้องเสียหรือไง..”


    ในโรงเรียนยามเช้า...นาโอมิมาโรงเรียนเช้ากว่าเมื่อวันก่อน เธอใช้เวลายามเช้าไปกับหนังสือเล่มหนาที่เพิ่งได้จากพ่อเลี้ยงเมื่อคืนก่อน เขาวางมันเอาไว้ที่หน้าห้องของเธอแล้วก็ไม่มีคำพูดอะไรมากไปกว่านั้น ทำให้เธอเริ่มคิดถึงเป้าหมายจริงๆ จังๆ ของตัวเองได้บ้าง...


    แต่ไม่ใช่ตอนที่ได้เจอกับคาคาชิ...


    เธอเพิ่งจะนึกได้ว่า เราไม่ควรรู้จักกันเลย..ไม่ควรจริงๆ..


    ดวงตาสีทองครามหม่นลงเล็กน้อย พลางจะมองร่างสูงตรงหน้า...แต่จะให้เธอทิ้งงั้นเหรอ ความรู้สึกดีๆ ที่ผ่านมาไม่นานมันไม่ใช่สิ่งที่เธอจะคว้ามาจากใครง่ายๆ เธอจะเอาสิ่งที่ควบคุมชีวิตเธอมาตลอด มาตัดสินสิ่งมีค่าพวกนั้นได้ยังไง...


    แล้ว...เธอควรจะทำยังไง...คำถามนั้นมันทำให้เธอเศร้าเพราะคิดคำตอบนั้นไม่ได้...


    “อืม ฉันกำลังรู้สึกแย่พอๆกันเลยล่ะ”เธอตอบเสียงเบาแล้วปิดหนังสือของตัวเอง..


    “เรื่องแค่นี้เธอไม่น่าจะละเอียดอ่อนเลยนะ..กินนมบูดหรือไง”เขาเดินมานั่งข้างๆ เพื่อนสาวแล้วถอดผ้าคลุมออกเพื่อเตรียมจัดการกับมื้อเช้าที่เพิ่งซื้อมา สายตาไล่ไปมองคนที่ผิดปกติในวันนี้แล้วมองท้องฟ้าที่อึมครึมคล้ายจะฝนตก “วันนี้ฟ้าครึ้มจังเลยนะ..”


    เหมือนใบหน้าของเธอด้วย มันช่างหม่นจริงๆ...


    “นั่นซิ..แย่จัง”เธอพึมพำเสียงลอยก่อนที่จะลูบเปลือกตาตัวเอง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าคนข้างๆ กำลังมองเธออยู่นั้นรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย..ครั้นเขาจะหันไปถาม..


    “เฮ้.-“


    “เอ้า คาคาชิ มาอยู่ที่นี่อีกแล้วเหรอ?”เสียงหวานของใครซักคนหนึ่งทักเขาเสียก่อน พอเขารู้ว่านั่นเป็นเสียงของใคร..เขาจึงรีบละมือของตัวเองออกแล้วหันไปสนใจต้นเสียงที่เรียกขานเขาทันที...


    “ริน”เขาเรียกชื่อนั้นแล้วยิ้มเล็กๆ “มีอะไรเหรอ..”


    “เปล่าหรอกจ๊ะ ก็แค่มาทักเธอนะ เมื่อวานนี้ขอบคุณมากเลยนะ”รินพูดแล้วยิ้มหวานอีกครั้งหนึ่ง สายตาของเธอหันไปมองยังหญิงสาวข้างๆ เขาเล็กน้อยก่อนที่จะเลื่อนมามองเขาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับถือกล่องๆ หนึ่งขึ้นมา “ถือเป็นของขอบคุณนะ”


    “ไม่เป็นไรหรอก ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย”เขาพูดปรามอีกคนด้วยความเกรงใจ..สายตายังมองไปยังคนที่จู่ๆ วันนี้กลับไม่เหมือนเดิมอย่างที่เขาเห็นทุกวัน..แม้ว่าเขาจะมีเวลาอยู่ที่โรงเรียนมากขึ้น..แต่เขาไม่ได้หวังว่าจะมาเจอภาพนี้เลย...


    เขาแค่อยากเห็นเธอยิ้ม เหมือนตอนนั้น..


    “แล้วนี่..เพื่อนในห้องที่ว่าเหรอ น่ารักจัง..ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะจ๊ะ หน้าตาเธอออกไปทางๆ ยุโรปด้วยนะเนี่ย..”คนมาใหม่หันมาถามเขาแล้วมองมายังเพื่อนใหม่ที่กำลังนั่งเงียบๆ มาได้พักหนึ่งแล้ว นาโอมิสะดุ้งตัวก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร..


    “โทษทีนะ..ฉันชื่อเซ็น นาโอมิ แล้วก็ขอบคุณที่ชมฉันนะ เธอเองก็น่ารักเหมือนกัน”นาโอมิเงยหน้าขึ้นมายิ้มเล็กๆ


    คาคาชิที่ได้ยินแบบนั้นหันขวับไปมองทันที....พูดจาดีแปลกๆ แฮะ..


    “เธอปากหวานมากเลยอ่ะ...มีแฟนหรือยังจ๊ะเนี่ย”เพราะโดนทั้งสายตาและรอยยิ้มไปเต็มๆ ทำเอารินถึงกับหน้าแดงเห่อร้อนแล้วรีบถามอีกคนทันที 


    “โหย พูดหวานใช่ว่าจะต้องมีป๊ะล่ะ”เธอยิ้มขำแล้วมองระหว่างคนสองคนที่มองหน้ากันยิ้มเล็กยิ้มน้อยเท่านั้นละก็เข้าใจทันที “อย่าบอกนะว่า..ฉันพลาดอะไรไป.”


    “ไม่ เราเป็น-“


    “ตาแหลมมากจ๊ะ~เราเป็นแฟนกัน~คาคาชิหนะ ขี้อายก็เลยไม่กล้าพูดอีกละซิ”รินพูดเสียงหวานก่อนที่จะยิ้มให้นาโอมิอย่างเป็นมิตร ผิดกับสีหน้าของคาคาชิที่นิ่งไปเสียสนิทไม่มีคำเถียงใดๆ ต่อจากนั้นเลย


    ...แสดงว่านี่คงเป็นเรื่องจริง..


    หญิงสาวเบิกตากว้างเบาๆ มีบางอย่างในร่างกายของตัวเองที่ค่อยๆ เคลื่อนไปมาอย่างเอื่ยช้าและลึกลงไปจากหน้าอก..ลึกลงไปยังส่วนลึกในความรู้สึกที่ไม่เคยหยั่งถึง มือทั้งสองรู้สึกสั่นเทิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเพราะรู้สึกว่าตัวเองคงจะมาเกะกะชาวบ้าน อีกอย่างเพื่อนของเธอเองก็ไม่ใช่คนมีเวลาเท่าไหร่ซะด้วย..


    เพื่อนของเธองั้นเหรอ...หึ...นาโอมิเดี๋ยวนี้เป็นคนแบบนี้งั้นเหรอเนี่ย...


    “งั้น..ฉันไม่กวนนะ..”


    ใช่..ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปซะ..


    หมับ..


    ร่างสูงคว้ามือเล็กๆ เบาไว้ทันที เขามองหน้าเพื่อนที่ดูแปลกๆไป..“จะไปไหน..นาโอมิ”


    “อะไรของนายอีกละ..แฟนนายมาทั้งคนนะ”เสียงเบาถามคนที่รั้งมือของเธอไว้ “เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับวะ..ขอไปก่อนนะ นายอยู่ที่นี่เถอะ..”


    ...อยู่ตรงที่ๆ เหมาะสมมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ..


    ฉัน...ไม่ควรจะหวัง..อะไรจากนายเลยซักนิด...




    นาโอมินั่งอยู่ในพุ่มไม้สูง..สถานที่ที่ไม่มีใครเข้ามาและสงบ..


    “หลับซิ...เหนื่อยแล้วนะ...”


    หลังจากเดินออกมาจากดาดฟ้า หาที่เงียบๆ สบายใจและเอนพิงตัวเองลงบนต้นไม้ได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือการพยายามข่มตาหลับ..แต่มันก็ไม่หลับซักที มันเป็นอะไรที่เธอไม่โปรดเอาซะเลย มันเจ็บใจที่เธอไม่เข้าใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเผชิญกับสภาพอ่อนแอของตัวเอง ถ้าจะมองในแง่ของคนในครอบครัวของเธอมันคงเป็นเรื่องที่อัปยศ..


    วอร์คเกอร์...ไม่ควรอ่อนแอ และเพราะเธออ่อนแอ จึงถูกทิ้ง..

    ในความจริงแล้วนาโอมิก็ไม่อยากจะคิดแง่ร้ายถึงจุดนั้น แต่เธอเองก็ยังไม่ได้คำตอบเลยว่าทำไมครอบครัวบ้านั่นถึงได้หายไปกันหมด ทำไมสิ่งที่เธอได้รับมีเพียงแค่จดหมายโง่ๆ แล้วก็พวกคนแปลกหน้าที่พาเธอมาที่นี่...ไอ้ตาแก่นั่นคิดจะทำกับเธอเหมือนที่ทำกับผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ ไม่...เลิกคิดซะ ในตอนนี้เธอคือเซ็น นาโอมิ รักษาความลับ..ถ้าอยากมีชีวิตอยู่อย่าทำให้โทบิรามะต้องผิดหวัง ห้ามเด็ดขาด...


    แต่...หมอนั่น เธอควรจะจัดการความรู้สึกนี้ยังไงดี เพราะดันมาโรงเรียนซะเช้าขนาดนี้ แถมยังมาเจอเหตุการณ์แปลกๆ ตาไปเมื่อกี้อีก เฮ้อ..ให้ตายซิ ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนรู้อะไรมาเยอะ แต่พระเจ้าท่านคงไม่มาเล่นตลกกับเรื่องแบบนี้หรอกนะ..


    ถึงจะ...ไม่ใช่คนแรกก็เถอะ เพราะเหมือนงั้นเหรอ...


    “เฮ้ เธอเองเหรอที่ชื่อนาโอมิ หน้าหงอยเลยนะ”เสียงคนแปลกหน้าดังออกมาจากด้านนอกพุ่มไม้ หญิงสาวสะดุ้งตกใจก่อนที่จะมองลอดออกไปผ่านกิ่งไม้ที่ขดเลี้ยวจนแทบไม่เห็นด้านนอก แต่ไม่รู้ว่าทำไมชายคนด้านนอกถึงได้รู้ว่าเธออยู่ข้างใน..


    “ใช่ มีธุระอะไร”เธอถามออกไปด้วยเสียงเรียบๆ ก่อนที่จะถอดสโมทอร์กออก


    “แต่..ที่ได้ยินมาเนี่ย..ไม่ใช่ชื่อนี้ไม่ใช่เหรอ...เอเลนจัง~”เสียงด้านนอกพูดออกมาลอยๆ ก่อนที่จะทาบมือลงบนกิ่งไม้ที่มีเจ้าของดวงตาสีทองครามนั่งอยู่ด้านในที่สะดุดตกใจ หญิงสาวค่อยๆ เคลื่อนตัวเองออกมาจากพุ่มไม้นั้นพร้อมๆ กับคว้ากระเป๋าของตัวเองทันที...


    ชื่อนั่น..หมอนี่มันรู้มาได้ยังไง...


    “คุณหมายความว่าอะไร” เธอถามเสียงแข็ง


    “อย่ากลัวกันเลยน่า..ฉันรู้ว่าเธอแสบแค่ไหน”คนด้านนอกยังคงพูดก่อนที่จะเดินเข้ามายังทางเข้าเพียงทางเดียวของพุ่มไม้ หญิงสาวที่ไร้หนทางหนีกลืนน้ำลายลงคอก่อนที่จะมองชายตรงหน้าที่เดินเข้ามายังที่ที่เธอนั่งอยู่..หญิงสาวพอได้เห็นใบหน้าของอีกคนชัดมากเท่าไหร่...ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ..


    รอยสักที่แขนนี่มัน...


    “น นาย!!" หมอนี่มันตัวอันตราย!


    “ได้ยินมาว่าลูกสาวของโทบิรามะเป็นคนสวย แล้วมันก็สวยอย่างที่เค้าว่ากันจริงๆ.." ร่างสูงพูดแล้วเอื้อมมือเข้ามาจับใบหน้าหวานคมตรงหน้าอย่างถูกอกถูกใจ “ออ เรื่องนี้คนรู้แค่ไม่กี่คนเท่านั้น ไม่ต้องกลัวหรอกเธอไม่ใช่เป็นคนทำความลับแตกซะเองนี่นะ..”


    “นายพูดถึงเรื่องอะไร..ป ปล่อยฉันนะ!”เธอพูดด้วยสีหน้าไม่ตลกก่อนที่จะมองแขนข้างหนึ่งที่ดึงตัวเธอขึ้นมาพาดบนไหล่แกร่งพร้อมๆกับล็อคขาของตัวเองไว้..


    แรงเยอะชะมัด!!


    “โอเคๆ ฉันปล่อยเธอแน่”

    คนแปลกหน้าพูดแล้ววางคนตัวเล็กลงตรงหน้าของตัวเอง แต่ยังคงวางมือแกร่งบนไหล่เล็กเอาไว้ไม่ให้เจ้าตัวได้หนีไปเสียก่อน นาโอมิเริ่มเบ้หน้ากับท่าทางวางอำนาจนั่น นี่ถ้าวันนี้ไม่มาเจออะไรน่าอารมณ์เสียก่อนละก็..ต่อมลูกหมากไอ้บ้านี่แตกไปแล้วแน่ๆ..


    “นายเป็นใคร..”

    “อุจิวะ โอบิโตะ”ร่างสูงพูดแล้วยิ้มเล็กๆ “อยู่ห้องพิเศษปีสอง เป็นรุ่นพี่ของเธอปีนึง..ฉะนั้นเธอควรจะเคารพฉันนะ.”


    “แล้วรุ่นพี่..ต้องการอะไรเหรอคะ”ร่างเล็กถามเสียงอ่อนแต่ก็ยังหงุดหงิดอยู่ไม่หาย..มันน่าเคารพตรงไหนไม่ทราบ..


    “วันนี้รินคงไปหวานกับไอ้คาคาชินั่นสินะ เธอเลยมาหงอยอยู่ที่นี่..อา..น่าสงสารจริงๆ เธอคงจะไม่มีเสปคประหลาดๆ แบบนั้นหรอกนะ”เขาพูดอีกคนด้วยสีหน้าไม่จากเดิมก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แขนแกร่งดันร่างเล็กให้ติดไปกับพุ่มไม้ แล้วจ้องมองสีหน้าของเด็กสาวที่กำลังประหม่าด้วยแววตาที่สนุกสนาน... “อยากรู้งั้นเหรอว่าทำไมฉันถึงรู้ ไม่ต้องแสร้งทำหน้าไร้เดียวสาขนาดนั้นก็ได้...เธอคงจะหลอกฉันไม่ได้เหมือนกับทุกคนหรอกนะ..”


    “…”ไร้ซึ่งคำพูดที่ออกมาจากนาโอมิ..สีหน้าของเธอดูหมองลงเมื่อได้ยินคำๆ นั้น..


    “โอเค ฉันพูดแรงไปหน่อย ที่ฉันได้ยินมากับความจริงมันคงคนละเรื่องกัน” รุ่นพี่พึมพำกับตัวเองก่อนที่จะลูบหัวคนตรงหน้า พอสายตาเมื่อยๆ เชิงขี้เกียจจะเอาปัญหาเดิมๆ มาคิดเงยขึ้นมาสบตากับเขาแล้วถอดถอนหายใจพ่นใส่หน้าม้าของตัวเอง..


    “แล้ว...มันเกี่ยวอะไรกับคุณไม่ทราบคะ”


    “เกี่ยวซิ เกี่ยวแบบจังๆ เลยละ”โอบิโตะยิ้มก่อนที่จะละตัวออกมา “แต่ฉันไม่ใช่คนอย่างที่เธอคิดหรอกนะ..เพราะพ่อของฉันเองก็รู้จักกับเซ็นจู โทบิรามะ ฉันก็เลยพอรู้เรื่องของเธอมาบ้างเท่านั้นเอง..เถอะน่า เราสองคนนี่เหมาะกันมากกว่าที่คิดนะ เพราะว่าอนาคต..เธอต้องมาเป็นวอร์คเกอร์ให้กับฉันยังไงล่ะ...”


    ...ของๆ ฉันงั้นเหรอ เหอะ หมอนี่มันเพี้ยนชะมัด...


    คนที่นี่ไม่ว่าใคร....ก็บ้ากันไปหมด..


    นาโอมิคิดกับตัวเองขำๆ ท่ามกลางความเศร้า..


    ดวงตาเหม่อลอยมองชายตรงหน้าแล้วลากสายตาไปทางอื่นก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกริ่งจากประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน ร่างสูงที่ยืนตรงหน้านึกบางอย่างขึ้นได้ จึงคว้ามือเล็กของอีกคนไว้..


    “ฉันรู้..ว่าการเป็นเธอน่ะมันเหนื่อยแค่ไหน" เขาพูดแล้วยิ้มอีกครั้ง "..งั้นกันเถอะ..ถึงเวลาที่เธอต้องเล่นละครต่อแล้ว.”



    “เฮ้ยจริงดิ รุ่นพี่ระดับนั้นเดินมาส่งยัยแม่มดงั้นเหรอ..”
    “เหอะ แม้แต่รุ่นพี่ก็ไม่เว้นงั้นเหรอเนี่ย..”
    “ตามมารยานั่นละมั้ง ฮิฮิ”


    เสียงซอกแซกของคนในห้องหันไปมองร่างทั้งสองที่เดินเข้าอยู่ที่ประตูหน้าห้อง และกำลังคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่นาโอมิจะเดินเข้ามาท่ามกลางสายตาที่แปลกๆ ไปจากทุกๆ วัน เธอขมวดคิ้วเล็กๆ ก่อนที่จะเดินตรงไปยังโต๊ะของตัวเองพร้อมกับ..


    “ยุ่งเรื่องชาวบ้านแบบนี้..ทำตัวเองให้ดีก่อนมั้ย?”


    ฮ เฮือก...

    และทั้งห้องก็สะดุ้งกันถ้วนหน้าทันที...


    “ให้ตาย..พรุ่งนี้กรุงโรมจะแตกหรือไง..”

    พอยัยแม่มดของห้องฟาดคำพูดใส่กลางหน้าพวกปากดีทั้งหลายแล้ว เธอถอนหายใจก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองอย่างปวดหัว วันนี้ก็แล้ว เมื่อวานก็แล้ว ไหนจะวันต่อๆ ไปอีก คิดว่าเธออยู่ที่นี่แล้วจะเป็นจำอวดให้พวกนี้ล้อได้ทุกวันหรือไง อย่าให้หมดความอดทนเมื่อไหร่เธอจะคว้าตำแหน่งสภาแล้วก็เปลี่ยนกฏในโรงเรียนนี้มันซะให้หมด...


    ไม่เคยหงุดหงิดอะไรซ้ำซากแบบนี้มาก่อน พับผ่าซิ..


    “ฉันจะไปตอนคาบสาม..ฝากแลคเชอร์ด้วย”ร่างสูงที่นั่งข้างๆ พูดกับอีกคนด้วยสีหน้าปกติ ที่แฝงไปด้วยความกังวลของเขาแต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไล่สายตาไปมองก็ตาม...


    “อืม..”เธอครางเบาๆ ก่อนที่จะหยิบกล่องขนมแบบเดียวกับที่เขาเคยซื้อเมื่อวันก่อนขึ้นมาเคี้ยวเบาๆ เพื่อทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง..มือเล็กเท้าแขนมองหนังสือตรงหน้าไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะปิดมันซะ...แล้วหยิบสมุดอีกเล่มขึ้นมาเขียน..


    “นิยายเหรอ..”เสียงจากข้างๆ ถามอีกคนที่เขียนผิดเวลาไปหรือเปล่า..


    “…”


    นาโอมิ..


    ...พอเห็นท่าทางเงียบๆ ของอีกคนมาได้ซักพัก เขาจึงถอนหายใจเพราะเริ่มรู้ว่าอีกคนอยู่ในโลกส่วนตัวไม่สนใจสิ่งรอบตัวแล้ว...


    “รุ่นพี่นั่น..รู้จักกันงั้นเหรอ..”


    “เพิ่งรู้จักเมื่อกี้นี้เอง..พูดมากกว่านายอีก..ไม่ชอบเลย”เธอพูดตามสิ่งที่ตัวเองคิดก่อนที่วางขวดโหลขนมของตัวเองลงบนโต๊ะ เรื่องอื่นเธอไม่คิดจะปิดบังเพื่อนคนนี้อยู่แล้ว...แต่ขอแค่เรื่องเดียวเท่านั้น..มันเป็นแค่เรื่องๆ เดียวที่ทำให้คนอย่างเธอยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองทั้งหมดเพื่อไม่อยากจะทำลายมัน...


    ขอแค่เรื่องเดียวเท่านั้น...


    ร่างสูงมองท่าทางไร้อารมณ์ของอีกคนแล้วขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างหงุดหงิด..


    ..ว่าจะถามแต่อาจารย์ก็ดันเข้าเสียก่อนเนี่ยซิ....



    “เราต้องคุยกันแล้วละ..”


    ห๊ะ...


    “นาโอมิ...เธอเป็นอะไรของเธอ ตั้งแต่เช้าที่เธอทิ้งฉัน..แล้วไหนจะไอ้รุ่นพี่นั่นอีก..”


    ร่างสูงดันร่างเล็กชิดกับกำแพงอาคารพฤกษาด้วยสีหน้าหมดความอดทน มือข้างหนึ่งดึงสิ่งปกปิดหน้าของตนเองออก ดวงตาอีกข้างที่ถูกเกี่ยวออกมาเผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้าทำให้เขาดูดุดันมากกว่าครั้งไหนๆ..ทั้งๆ ที่วันก่อนเธอรู้สึกว่ามันสวยก็ตาม...


    แต่ทำไมวันนี้...เธอถึงรู้สึกกลัว...เพราะรู้สึกอ่อนแอในตอนนี้งั้นเหรอ..


    “ไม่ได้ทิ้งซักหน่อย..”เธอพูดเสียงเบาแล้วก้มหน้าลง แต่ไม่ทันเท่าไหร่ก็ถูกมือหนาจับให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาแกมบังคับ..นั่นละที่ทำให้คาคาชิเริ่มอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง มันเป็นไปไม่ได้ที่นาโอมิจะทำตัวแบบนี้ เท่าที่รู้จักกันมาหลายวันเธอไม่มีใช่ผู้หญิงที่จะมาอ่อนแอแบบนี้


    อะไรกันที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้...มันคืออะไรกันแน่...


    “ฉันไม่ชอบคนโกหกนะ”เขาถามอีกคนเสียงต่ำ


    “ก็บอกว่าไม่ได้โกหกอะไรไง แล้วนายจะมาทำหน้าตาโกรธฉันทำไม ยังกับ..ฉันทำอะไรที่แย่ไปมากๆ...ฉันไม่รู้ว่าฉันทำอะไรผิดเลย..”เธอพูดตามที่ตัวเองคิดก่อนที่จะหลบสายตาที่แทบจะแยกเขี้ยวเข้ามากินเธอได้ทั้งร่าง มันคงเป็นความกังวลจากเรื่องหลายๆ เรื่องจริงๆ นั่นละ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมากลัวถึงจุดนี้.. 


    “งั้นฉันจะพูดให้ฟัง..แต่ก่อนอื่น..เลิกกลัวฉันก่อนได้มั้ย”เสียงดุเริ่มอ่อนลงเล็กน้อยพลางยื่นมือเข้าไปจับมือของอีกคนที่กำลังสั่นไม่่หยุด รวมไปถึงตาช้ำตรงหน้าที่กำลังกลัวเขาที่กำลังโมโห..ไม่คิดเลยว่าในการกระทำของเขาเพียงแค่นี้จะมีอิทธิพลกับอีกคน...


    “นายทำหน้าเหมือนจะฆ่าฉัน..หึ เป็นแค่คาคาชิแท้ๆ..แต่คิดว่าแค่นี้ฉันจะกลัวหรือไง”แม้ปากจะพูดสู้ขึ้นมาแบบนั้น แต่ดวงตาสีหวานข้างหนึ่งมีน้ำตาหยดแรกร่วงลงมาแล้วต่อตามมาหยดด้วยแล้วหยดเล่า คนเห็นตรงหน้าได้แต่ต้องทำใจแข็งไม่ใจอ่อนไปด้วย..


    บ้าเอ้ย...


    “ฉันเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับริน..เราเคยสนิทกันมาก” 


    “…”


    “แต่..ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่านั้น”


    “แล้วนายจะมาบอกฉันทำไม..”นาโอมิถามคนตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ..


    “เพราะนั่นคือประเด็นที่เธอควร-.” เธอควรรู้จักเขามากกว่านี้.


    ควรจะรู้จัก...ตัวตนของเขา...


    ฮูกกกก...


    จู่ๆ นกฮูกที่ไม่น่าจะอยู่ใอาคารพฤกษาก็ปรากฏตัวกระพือปีกขาวสะอดจากต้นไม้สูงด้านบนพร้อมกับจดหมายที่ติดมากับจงอยขาองมัน ร่างสูงที่พอได้ยินเสียงของมันแล้วถึงกับจิปาก ก่อนที่จะโค้งตัวลงมาใกล้หญิงสาวตรงหน้ามากขึ้น...


    “ฉ ฉันว่ามันมาหานายนะ..”นาโอมิพูดเสียงเบาเพราะดูจากแววตาไร้เดียงสาของนกฮูกตัวนี้มันเพ่งเล็งมายังชายตรงหน้าที่กำลังทำหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด..


    “รู้แล้ว..”เขาพึมพำแล้วลดตัวออกอย่างช่วยไม่ได้ เขาคว้ากระดาษซองจดหมายที่มันบินมาส่งแล้วโฉบลงบนแขนเล็กของหญิงสาวที่ถูกต้อนจนมุมทำให้ร่างสูงต้องขยับออกไป และสร้างพื้นที่หายใจโล่งๆ ให้เธอได้ทันเวลาเสียดิบดี..


    เฮ้อ..รอด..


    “อย่าคิดว่าจะรอดนะ..”เขาหันมาพูดทันทีที่อีกคนถอนหายใจโล่งแล้วทำหน้าดุอีกครั้งหนึ่ง นาโอมิสะดุ้งแล้วหันมากระพริบตาปริบๆ ทันที...


    “น นายต้องการอะไรกันแน่.”เธอถามด้วยสีหน้าสงสัย..อะไรของมันกันแน่วะ..


    “เย็นนี้ฉันจะมารับที่หน้าโรงเรียน ห้ามไปไหนกับใคร แม้แต่ซากุระก็ห้ามไป..”


    “นี่นายเป็นแม่ฉันอีกแล้วนะ..มีปัญหาก็รีบ-“


    มือหนากระชากเสื้อนักเรียนของหญิงสาวอย่างแรงจนร่างเล็กสะดุ้งเฮือกตกใจ...


    อ อะไรกันวะเนี่ย!?


    “ฉันจะให้เธอเลี้ยงข้าว..จบมั้ย?”


    “จบ จบก็ได้..”หญิงสาวพูดเสียงอ่อนแล้วมองคอเสื้อที่ถูกกระชากด้วยสีหน้าตกใจน้ำตาที่ไหลจู่ๆ มันก็แห้งไปดื้อๆ ที่ตกใจไม่ได้กลัวมากกว่าเดิมหรอกนะ แต่การกระทำแบบนี้คนธรรมดาๆ รู้จักกันได้แค่สี่วันนี่ถึงขั้นกระชากกันแล้วเหรอ..เธอว่าไม่นะ..ไอ้หมอนี่มันต้องการอะไรจกาสังคมกันแน่วะ..


    “ถ้าไม่มา...ได้มีเรื่องแน่"


    ใบหน้านิ่งพูดขู่ตบท้ายก่อนที่จะสวมผ้าคลุมและผ้าคลุมตาตัวเองแล้วเดินออกไปทันที...


    “เฮ้อ..ไอ้หมอนี่ที่เข้ามาได้คงไม่ได้บ้าหรอกนะ ใช่มั้ย” หญิงสาวที่ยืนตัวตรงมานานถึงกับขาอ่อน สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าคาคาชินั่น คุยกับเสือสิงกระทิงแรดมันคงจะง่ายและไม่เปลืองแรงกว่านี้เยอะ..จะให้เลี้ยงข้าวทีต้องบีบบังคับกันขนาดนี้เชียวเหรอ? 


    โอ้ย..เหนื่อยใจ...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×