คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : New Face
- New Face-
ฉันถูกย้ายตัวมาอยู่ที่ประเทศฮิโนะ ในมหานครที่เรียกว่าโคโนฮะ
อย่างที่รู้กัน เมื่อหลายวันก่อนฉันถูกผู้ชายแปลกหน้าที่เรียกตัวเองว่า พ่อทูลหัว นั่นเอากระสุนยาสลบมาเพ่งที่กลางกระบาล..พอรู้สึกตัวอักทีก็อยู่ที่นี่ซะแล้ว อีกอย่าง..คือเข้าใจนะว่าสมัยนี้มีกฏมายเรื่องความเท่าเทียมกันเรื่องเพศ แต่อย่างน้อยก็ควรจะละมุนละม่อมดีๆ ซักนิ๊ด...
รู้สึกว่าประเทศนี้จะเป็นหนึ่งในประเทศเกิดใหม่ซึ่งก่อตั้งได้ไม่นานนักจากสงครามโลกครั้งที่ห้าจากการผนวกรวมรัฐเล็กๆ เข้าด้วยกัน ด้วยการที่เป็นประเทศที่ชนะสงครามจึงทำทำจากซากของสงครามครั้งนั้นที่นี่ถือว่าเป็นมหานครที่แรกที่ถือว่าพัฒนาได้รวดเร็วมาก แทบจะฉีกขีดจำกัดไปเลย คงจะเป็นสันติวิธีของท่านธานาธิบดีฮาชิรามะ เคยอ่านในหนังสืออยู่่บ้างเรื่องว่าคนๆ นั้นเป็นที่เลื่องลือในหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะทักษะสาลิกาลิ้นทอง...
เฮ้อ..ว่าไปนั่น..
เรื่องนั้นไม่ต้องไปสนใจสำหรับในตอนนี้...ดูที่นี่ซิ บ้านหลังใหญ่ประหนึ่งหลุดมาจากตัวร้ายในหนังมาเฟียอิตาลีสมัยพระเจ้าเหาไม่มีผิด หรูจนน่าหมั่นไส้แบบไม่บันยะบัน ฮัลโหล..ที่เหยียบอยู่นี่ก็พรมขนสัตว์ไก่การาคาเหยียบแสนที่พวกคนรวยๆ เค้าใช้กันนะคะ แต่เป็นพรมหมีกริสลี่ยักษ์ที่ป๋าแกเข้าไปล่าเองกับมือก่อนที่มันจะสูญพันธ์เมื่อสิบปีก่อน ฟอนิเจอร์อันอื่นก็ใช่เล่น..ตู้ แจกัน และของวางโชว์ต่างๆ นั้นจัดทำเฉพาะเจ้าบ้านล้วนๆ ทุกอย่างมันคลาสสิค ทุกอย่างคลาสสิคไปหมด..
ถึงไม่อยากจะยอมรับก็เถอะ แต่ที่นี่ถอดแบบบ้านในฝันที่เคยร่างไว้ในหัวฉันมาทุกระเบียบนิ้ว ทั้งพ่อทูนหัวทั้งฉัน เราคงรสนิยมเหมือนกันอย่างน่าประหลาด
โอเค ข้ามเรื่อนั้นไปก่อน..ที่พีคกว่าคือการที่ชั้นใต้ดินของที่นี่ เต็มไปด้วยสุดยอดเทคโนโลยีก้าวหน้าได้อย่างอลังการยังกับศูนย์บัญชาการลับที่มีไว้เพื่อปกป้องความสงบสุขแห่งชาติที่ลับสุดยอด ลับชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นกองกำลังเงามืดเพื่อสันติราชของประเทศ ซึ่งเรื่องที่น่าตลกก็คือเจ้าแก่นั่นดันเป็นหัวหน้าองค์กรอย่างที่พูดข้างต้นเป๊ะ สถานะของฉันในตอนนี้ก็แทบไม่ต่างอะไรกับของเล่นชิ้นใหม่ของตาแก่นั่นด้วยซ้ำ พอตื่นมาอีกที พ่อทูนหัวก็เล่นเปลี่ยนตัวตนใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ทั้งชื่อใหม่ โรงเรียนใหม่ สถานะใหม่...
โชคยังดีที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนหน้าหรือเปลี่ยนเพศเหมือนในหนัง ถ้าเป็นอย่างนั้นยอมกัดลิ้นตายดีกว่า.....
"อรุณสวัสดิ์ครับคุณหนู...ตื่นเช้าแบบนี้ ยังไม่ชินกับเวลาที่นี่เหรอครับ?"
เสียงของชายในชุดเครื่องแบบของตำรวจลับเดินเข้ามาถามฉันในชุดเสื้อยืดบ๊อกเซอร์โง่ๆ ยืนเหม่อกินป๊อปคอร์น มองพวกบรรดาคนในชุดแปลกๆ ใส่หน้ากากปิดหน้ากำลังต่อยรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ที่ลานกว้างจำนวนนับไม่ถ้วนตรงหน้า นั่นเป็นคนของโทบิรามะ ทุกคนถูกฝึกไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดป่าเถื่อน แต่ก็แค่เรื่องงานเท่านั้นล่ะ สำหรับพ่อทูลหัวแล้วทุกคนที่นี่แทบจะไม่ต่างอะไรกับเด็กๆ แสนน่ารักที่ดูจะเชื่องแทบทุกคน..
และหน้าที่ของฉันก็คือต้องชินกับสภาพแวดล้อมป่าเถื่อนแห่งนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..ฉันไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่..ตอนที่เพิ่งฟื้นยาสลบ..ตาแก่นั่นก็สั่งเป็นคำขาด ต้องชินกับการเป็น เซ็นจู นาโอมิ ลูกสาวของหัวหน้าองค์กรที่ดำมืดที่สุดในประเทศซะ...และถ้าปฏิเสธ..สิ่งที่จะฝังอยู่ในหัวจะไม่ใช่ยาสลบ...
...แต่จะเป็นลูกกระสุนแทน...
"..มันก็ต้องชินสถานเดียวเลยไม่ใช่เหรอวะ"
ฉันพึมพำภาษาบ้านเกิดกับตัวเองเสียงอ่อนแล้วเงยหน้ามองคนทักที่ไม่ได้มีแค่หนึ่ง..เดี๋ยวนะ คนในชุดสูทสีเข้มแถมยังสวมแว่นดำสนิทพวกนั้นเป็นใคร ทำไมถึงถือกระเป๋าน่าสงสัยมาด้วย!?
"ว่าแต่..มาทำอะไรกันเยอะแยะขนาดนี้เหรอคะ?" ฉันถามอย่างสงสัย...
"..ออ นี่เป็นคนของทางโรงเรียนที่คุณหนูจะต้องไปในวันนี้พรุ่งนี้น่ะครับ เชิญคุณหนูไปทางนั้นด้วย คุณท่านประสงค์จะให้ทางโรงเรียนทดสอบคุณสมบัติด้านการศึกษาของคุณ.." พี่ชายสวมหน้ากากญี่ปุ่นคนนั้นร่านจบก็ผายมือไปยังบรรดาพ่อบ้านที่ยืนคอยท่าอยู่ที่ทางออก..ส่วนฉันที่ยืนแบล๊งมาได้ห้าวินาทีถ้วนต้องชะงักรอบ..เดี๋ยวดิ๊!? โรงเรียนงั้นเหรอ?!
"ไม่เห็นบอกเรื่องนี้เลย" ฉันตอบเสียงขุ่น
"ก็บอกตอนนี้ไงล่ะครับ พรุ่งนี้คุณหนูต้องไปโรงเรียนนะครับ" เขาตอบ แล้วถือวิสาสะดันหลังฉันตรงไปหากลุ่มคนไม่น่าไว้ใจพวกนั้น...
โอเค ได้เรื่องปวดหัวเข้ามาเพิ่มอีกแล้ว...ปัญหาใหญ่ด้วย..
ฉัน-เกลียด-โรง-เรียน!!!!
โชคร้ายที่เช้าวันที่สองได้มาถึง และ..ฉันก็ยังติดแหง๊กอยู่ที่ชั้นใต้ดินเหมือนเดิม
...เพิ่มเติมคืออยู่ในชุดสาวไฮสคูล..
"อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหนู!"
"จา.."
ดูเหมือนพ่อทูลหัวน่าจะถูกจัดอยู่ในหมวดของชายที่มีโอกาสเสี่ยงโสดตลอดชีพร้อยละล้านเปอร์เซ็นต์
นี่ไม่ได้ใส่อารมณ์เลยนะเพราะเรื่องเมื่อวานหรอกนะ..แต่มาอยู่นี่ได้สองวันเต็มๆ สารภาพว่าฉันยังไม่เห็นหัวชายวัยทำงานอายุสามสิบคนนั้นปรากฏตัวออกมาเลย ถึงจะยังออกไปข้างนอกปราสาทแดรคคิวล่านี่ไม่ได้ แต่คือมันไม่เลวร้ายหรอกนะที่เจ้าพ่อเลี้ยงนั่นปล่อยให้ฉันไปไหนมาไหนทั่วบ้านได้ คงเป็นโชคดีที่ฉันดันมีนิสัยเสียไม่ค่อยจะชอบออกไปไหน หลังจากคนของโรงเรียนทดสอบฉันเสร็จก็ใช้เวลาสำรวจบ้านนี้จนเผลอหลับไปซะได้..การใช้เวลาอยู่ที่นี่มีประโยชน์กว่าที่คิด..
...ที่พูดก็ไม่ใช่อะไร...
เพราะฉันไม่โอเคกับการใส่สเกิร์ตสั้นจู๋ไปโรงเรียนยังไงเล่า!! (กรีดร้องในใจ)
“มาเถอะครับ ผมจะไปส่งคุณหนูเอง.." เสียงสัญญาณเตือนว่าหมดเวลาอาหารเช้าดังขึ้น เมื่อพี่ชายคนเดิมเดินเข้ามาซ้อนจากทางด้านหลังพร้อมกับเสียงกรุ้งกริ้งของกุญแจรถ..ฉันกรอกตาขึ้นฟ้าเล็กน้อยก่อนที่จะหยุดเคี้ยวขนมปังชิ้นสุดท้าย ก่อนจะทำหน้าตาน่าสงสารที่สุดไม่ต่างจากหมาถูกทิ้ง
"ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ?"
“กฏก็คือกฏนี่ครับ” ชายในเครื่องแบบพูดสีหน้านิ่ง ก่อนที่จะวางบัตรนักเรียนและอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ที่ต้องใช้เป็นปราการก่อนเข้าโรงเรียน เอาตรงๆ นะ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโรงเรียนใหม่ของตัวเองเลยด้วยซ้ำ การทดสอบเมื่อวันก่อนพวกคนที่นั่นก็แค่เอากระดาษข้อสอบแค่แผ่นเดียวมาให้ แค่สามชั่วโมงพวกเค้าก็หายไปเลย แต่ฉันก็ไม่ได้สนนักหรอก..ที่สำคัญในตอนนี้....
คือการใช้ชีวิตเยี่ยง เซ็นจู นาโอมิยังไงรอดชีวิตจากพ่อทูลหัวนั่นตังหาก...
โรงเรียนโคโนฮะ
หลังจากถูกปล่อยลงจากรถ...นาโอมิก็เริ่มไล่อ่านประวัติของโรงเรียนระหว่างทางเดินแคบ ผ่านหน้าประตูหินอ่อนของโรงเรียนที่มองผิวเผินอาจเป็นแค่ประตูของโรงเรียนธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้วมันถูกสร้างเพื่อกั้นความปลอดภัยระดับสูงรวมถึงเซนเซอร์ตรวจจับใบหน้าซึ่งค่อนข้างเป็นพืื้นฐานของโรงเรียนในสมัยนี้ เธอหยุดเดินไปครู่หนึ่งแล้วหันไปมองป้ายชื่อโรงเรียน..โอเค มาถูกที่...
ไม่คิดเลยว่า..โรงเรียนจะคนเยอะขนาดนี้...
ริมฝีปากสีแดงอ่อนตวัดลิ้นดุนอมยิ้มสีแดงสดเคลื่อนไปยังอีกข้าง ดวงตาสีอ่อนไล่สายตามองไปรอบๆ บรรยากาศวันเรียนวันแรกของโรงเรียนประจำเมืองโคโนฮะ ที่นี่ถือว่าเป็นต้นแบบการศึกษาสมัยใหม่ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทั้งวิชาการสอนและเทคโนโลยีที่ถือว่าก้าวหน้า แต่ภาพลักษณ์ภายนอกน้นยังคงความเป็นวัฒนธรรมอยู่ แค่มองก็สัมผัสได้ถึงความเป็นเอกลักษณ์และมาตรฐานที่สูงลิ่ว...
..แต่ขอหักคะแนนเรื่องชุดนะ..คนมองอะไรกันนักหนาเนี่ย?...
ในทางเดินกว้างที่ถูกจัดแจงไม่ต่างจากงานศิลปะ นักเรียนแปลกหน้าแปลกตาหลากหลายเชื้อชาติแห่เข้ามาอย่างไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่นัก บรรดาผู้ปกครองและนักข่าวที่คอยมาถ่ายรูปนักเรียนและบรรยากาศกันอย่างครึกครื้น ไหนจะนักเรียนโรงเรียนอื่นที่คอยมามุงดูอย่างตื่นเต้น..ยังโชคดีที่มีพวกพี่ๆ สวมชุดสูทแว่นดำที่คอยทำหน้าที่กันไม่ให้พวกเขาเดินเข้าในตัวโรงเรียน...
สมกับเป็นหนึ่งในห้าโรงเรียนยักษ์ใหญ่จริงๆ นั่นล่ะ..
“ได้ข่าวมาว่า ปีนี้มีนักเรียนใหม่เข้าไปอยู่ในห้องพิเศษด้วยละ..”
“จริงเหรอ? คราวนี้เป็นลูกเศรษฐีอีกละซิ..หรือว่าขุนนางละ?”เด็กชายอีกคนหันมาถามคนเริ่มประเด็นด้วยสีหน้าไม่ค่อยอยากจะลุ้นเท่าไหร่..เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อ..
“เป็นประเภทพิเศษนะ..เห็นว่ามาจากต่างประเทศด้วย..”
“พิเศษงั้นเหรอ? เป็นแค่คนธรรมดางั้นเหรอ?? เธอตายแน่!! ห เหวอ เธอหัดดูทางบ้างซิ!”
เสียงโวยวายไม่เป็นมงคลของใครซักคนพูดกันเซ็งแซ่หลากภาษา นาโอมิที่กำลังดูแผนผังของโรงเรียนอยู่เงียบๆ เดินแทรกกลางผ่านพวกเขาไปเชิงไม่อยากจะสนใจนัก นอกโรงเรียนก็ถือว่าเป็นการแบ่งชนชั้นกันพอสมควรระหว่างนักเรียนกับบุคลากรภายนอก...แต่ดูเหมือนด้านในนี้เองก็มีสิ่งที่เหนือชั้นไปมากกว่านั้น...
นิ้วเล็กที่ประดับด้วยแหวนเกือบทุกนิ้วไล่มองอาคารผู้อำนวยการเพื่อไปรายงานตัวเป็นอันดับแรกก่อน ก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจภาษาที่คนพวกนั้นแอบด่าหรอกนะ ใจจริงก็อยากเดินเข้าไปแอบฟังเรื่องชาวบ้านแก้เครียดอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเกิดไปหาผอ.ช้า แล้วพิธีปฐมนิเทศสายแล้วล่ะก็...มีหวังเรื่องบานปลายถึงคุณพ่อทูลหัวแน่...รายนั้นยิ่งหาความเป็นมนุษย์ไม่ได้ซะด้วย...
จะว่าไปประสบการณ์ชีวิตธรรมดาๆ ในรั้วโรงเรียนของเธอเองก็ไม่ค่อยจะมี..
..ทางที่ดีคงต้องอยู่ที่นี่ในฐานะ คนธรรมดา..พยายามทำตัวให้ไม่เด่น แล้วก็ไม่ไปมีเรื่อง---...
พลั๊ก...
“เฮ้ย ดูทางหน่อยไม่ได้หรือไง!?”
ชายนิรนามที่พุ่งออกมาจากประตูกระจกอาคารด้านหน้าจนชนไหล่กับนาโอมิพอดิบพอดีหันมากดเสียงต่ำ ก่อนที่จะเดินอารมณ์เสียสวนออกไป...
…แม่*เอ้ย...
เด็กสาวจับหัวไหล่ของตัวเองสลับกับกระเป๋าใบใหม่ที่ตอนนี้ร่วงไปนอนกองกับพื้น หนังสือเล่มโปรดที่อุซ่าแบกมาจากบ้านหลังใหม่ถูกอีกฝ่ายเหยียบไม่ทิ้งไม่ต่างจากขยะทำให้เธอฉุนขาด...กว่าจะรู้ตัว ร่างกายก็พุ่งไปคว้าแขนของอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
"ทานโทษนะ เป็นห่*าอะไรไม่ทราบ?"
ชายหนุ่มคนนั้นหันกลับมา เขาอายุดูห่างจากเธอไม่มากนัก มีผมสีเทาอ่อนกับชุดนักเรียนที่ค่อนข้างไม่ค่อยเรียบร้อย ใบหน้าสวมมาร์คปิดหน้าปิดตาจนแทบจะมองอะไรไม่ชัด จะเห็นก็เพียงแค่ตาสีนิลข้างขวา กับผ้าปิดตาข้างซ้าย แผลสดที่ลึกยาวตั้งแต่หน้าผากจนถึงโหนกแก้มทำให้เขาดูน่ากลัว..
"อยากหน้าแหกมั้ยละ?"
...แต่ไม่เท่ากับประโยคที่พ่นออกมาเลยซักนิด...
โอเค...ไอ้เวรนี่มันอยากจะไฝว้ชัดๆ...
"ตึกผู้อำนวยการ..อยู่ที่ไหน?" เป็นโชคของเขาอยู่บ้างที่เธอพอจะตระหนักได้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายก่อสงครามตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนไม่ได้ นาโอมิจึงลดอารมณ์ ปล่อยแขนของอีกฝ่ายแล้วถามเสียงเรียบแม้จะไม่ได้เต็มใจนัก ร่างสูงที่กำลังอยู่ในอารมณ์โมโหถอนหายใจออกมาเสียงดังไม่แพ้กับวัวกระทิง..
"เข้าไปจะเจอประตูกระจกบานใหญ่" เขายกมือหนาชี้ไปยังอาคารกระจกด้านหลัง "ก็ใช้บัตรนักเรียนแสกนก่อน"
"เค"
เธอหันไปตามที่อีกฝ่ายชี้แล้วพยักหน้าเข้าใจ เอนตัวก้มลงไปหยิบข้าวของที่กระจัดกระจายเข้ากระเป๋า ปัดเศษดินบนเล่มหนาแล้วแนบมันขึ้นอกเพื่อมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาเหยียบอีก ก่อนที่จะหันหลังเดินเพื่อตัดบทสนทนาไว้แค่นั้น ถึงจะยังดีที่มีความเป็นผู้เป็นคนให้รู้สึกดีอยู่บ้าง แต่ขอเถอะ แค่พอทูนหัวก็พอแล้ว อย่าให้เจออีกเล๊ย!!
"..นักเรียนใหม่สินะ.."
เจ้าของผมสีเทาอ่อนพึมพำเสียงขุ่นแล้วเดินจากไป..
"หักสิบแต้ม กริฟฟินดอร์!!"
"ใกล้สายแล้วแฮะ.."
เวลาไม่เคยคอยท่าให้ใคร นาโอมิมองนาฬิกาในโทรศัพท์แล้วรีบเร่งฝีเท้ามายังด้านใน บรรยากาศเงียบๆ เย็นๆ จากด้านในอาคารชวนวังเวง ที่เห็นเด่นหราก็คงเป็นตราโรงเรียนพร้อมกับธงชาติของประเทศที่เป็นโฮโลแกรมอยู่ตรงกลางของอาคารใหญ่ ไม่มีนักศึกษาเดินผ่านไปมาซักคน
อืม.. นี่คิดไปเองหรือเปล่านะ ทำไมถึงรู้สึกถึงเดจาวูแปลกๆ ที่นี่มันต้องมีอะไรมากกว่าจะเป็นอาคารในศูนย์การศึกษาแน่ๆ...เจ้าหัวถั่วงอกเมื่อกี้นั่นก็ตัวดีเลย..
..ต้องไม่ใช่แน่ๆ (ฝังใจ)..
พอมองไปรอบๆ เพื่อสังเกตห้องผู้อำนวยการ ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อมีเสียงรองเท้าส้นสูงของคนสองคนที่กระแทกออกมาจากลิฟต์แก้ว...พร้อมกับเสียงคำรามลั่นจากสตรีผมสีครีมอ่อน...
"ไอ้เจ้าเด็กบ้านั่น! ถ้าโผล่หน้ามาอีกฉันจะหักคอมัน!!"
"..." นาโอมิหยุดกึกสีหน้านิ่ง ก่อนที่จะระบายยิ้มโล่งใจ..มั่นใจเต็มประตูเลยว่าออร่าผิดมนุษมนานี่ต้องเป็นเครือญาติเดียวกับพ่อทูลหัวไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน..
"ท่านซึนาเดะคะ..มีเด็กอยู่ตรงนั้นค่ะ" พี่สาวผมสั้นประบ่าสีดำเข้มมาดเลขาเอนตัวออกมามองสาวน้อยที่ยังยืนรอพวกเธออยู่ที่หน้าลิฟต์..แล้วกระพริบตางงๆ "นักเรียนต่างชาติที่หลงทางมาเหรอคะ?"
“ที่ไหนกันล่ะ ดูยังไงนี่ก็หลานคนใหม่ของฉันตังหาก" นาเมะคุจิ ซึนาเดะ ผู้อำนวยการโรงเรียนโคโฮะพูดแก้เสียงขุ่น ก่อนที่จะยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร “ฮิโตมิใช่มั้ย?"
"เอ่อ..นาโอมิค่ะ เซ็นจู นาโอมิ" นาโอมิพูดแก้ ก่อนที่จะเอะใจขึ้นมาเมื่อเห็นป้ายชื่อของหญิงสาวตรงหน้าที่ติดอยู่ที่ผนังใกล้ๆ นาเมะคุจิ..อ้าว คนละนามสกุลกับพ่อทูลหัวนี่นา..
“ฉันเป็นญาติทางฝั่งแม่ของพ่อเธอน่ะ..อันที่จริงก็ไม่ได้อยากนับญาติเท่าไหร่หรอก" ซึนาเดะตอบด้วยสีหน้าเชิงไม่ค่อยชอบใจนัก แล้วไล่สายตามองร่างเล็กที่ยังคงทำหน้าสับสน "คิดซะว่าฉันเป็นน้าสาวคนนึงแล้วกัน อันที่จริงเมื่อวานนี้ก็ว่าจะไปหาเธออยู่หรอก แต่เมื่อวานค่อนข้างยุ่งเหยิงไปหมด...แล้วเป็นยังไงบ้าง หวังว่าโทบิรามะจะไม่ทิ้งให้เธอทำอะไรแปลกๆ ใช่มั้ย"
เกรงว่าจะถามช้าไปแล้วนะคะ
เด็กสาวผู้สัมผัสประสบการณ์อย่างว่านั่นมาตลอดสองวันตอบเสียงแห้งในใจ
“ท่านซึนาเดะคะ..ได้เวลาแล้วคะ”พี่สาวเลขาเอนตัวเข้ามาพูดข้างๆหู ผู้อำนวยการ ก่อนที่จะหยิบบางอย่างออกมาจากแฟ้มทำงานที่เธอถือมาด้วย ซึนาเดะพยักหน้าเข้ามาใจก่อนที่จะหยิบสิ่งนั้นแล้วยื่นมันให้กับเธอ...
เข็มกลัด...?
“เอ่อ..มันคือ..?”เด็กสาวถามด้วยสีหน้าสงสัย
“อ้อ จากการทดสอบเมื่อวันก่อน เธอได้ถูกพิจาณาให้อยู่ที่นี่ในระดับของนักเรียนชั้นพิเศษน่ะ"
"พิเศษ?!" ล้อกันเล่นแรงไปป๊ะ? เธอที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนมาเกือบชาติเนี๊ยะน๊ะ!?
"ประมาณนั้นละ ส่วนเจ้านี่มีไว้บอกระดับความสามารถแล้วก็หมายเลขห้องด้วย ถ้าไม่ติดเจ้านี่เธอก็เข้าห้องเรียนไม่ได้ล่ะนะ"
"อ๋อ.." รวบรัดเสร็จสรรพเลยสินะ...
"อันที่จริงผู้ปกครองควรจะใส่ให้ ยังไงซะ หลานของฉันมาโรงเรียนทั้งที ขออนุญาติติดแทนไอ้พี่บ้านั่นละกัน” ซึนาเดะพูดจบ ไม่รอช้าที่จะติดมันที่เนคไทของหญิงสาวพร้อมกับลูบหัวเด็กตรงหน้าอย่างเอ็นดู “ต่อจากนี้เธอต้องผ่านออะไรอีกมาก ตั้งใจเรียนละ..”
“ค่ะ..” เธอพยักหน้าเชิงทำตัวไม่ถูก ในใจก็รู้สึกดีอยู่ลึกๆ..แต่เพราะคิดว่าชีวิตของเธอ ผ่าน อะไรมาเยอะมากกว่าแค่เรื่องรั้วของโรงเรียน...แล้วก็...เรื่องของครอบครัว
..จนกลายเป็นแค่ของแสลงทั้งคู่...
“นาโอมิคุง ตอนนี้ใกล้เวลาปฐมนิเทศแล้ว ไปที่อาคารประชุมเลยนะจ๊ะ” พี่สาวเลขาหันมาพูดดวยสีหน้ายิ้มแย้ม..เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจ แล้วเดินออกไปทันที ทิ้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสองมองหน้ากันด้วยสีหน้านิ่งเงียบ...
“..เป็นเรื่องแล้วซิ” ซึนาเดะพูดด้วยสีหน้านิ่ง "..มีแววเหมือนโทบิรามะยังไงไม่รู้.."
“ค่ะ จากผลการทดสอบเมื่อวาน..อาจารย์ทุกคนต่างสรุปกันแบบนั้น..ถึงตอนนี้เจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัวก็ตาม..”
“..ฉันคนนึงล่ะที่ไม่ยอมให้เป็นแบบนั่นง่ายๆ แน่..” ซึนาเดะพูดเสียงเข้มแล้วมองหญิงสาวที่เดินออกไปด้วยสีหน้ากังวล “..ต่อจากนี้จับตามองเธออย่าให้คลาดสายตาเชียวละ ชิซึเนะ"
ความคิดเห็น