ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Change! เปลี่ยนพี่ชายมาเป็นคนรัก (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #26 : Change! Special SF : At the first time I met you (SoulxKirew)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      0
      20 ก.พ. 53


    Change! Special SF : At the first time I met you (SoulxKirew)


    คำอธิบาย
    : ตอนนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน Change! 1 ปีค่ะ คิริวเพิ่ง 16 ม.4 ส่วนโซล 17 ม.5 ค่ะ (ในเรื่องราวของ Change! คิริว ม.5 โซล ม.6)

     

    ...จากความรักเพียงวูบหนึ่งในวัยเด็ก...

     

    ...กลายกลับมาพบพานกันอีกครั้งอย่างค้างคา...

     

    ...คนหนึ่งรักมาตลอด อีกคนหนึ่งไซร้เจ้าแผนการ...

     

    ...ความสัมพันธ์นี้จะกลับมาพันผูกกันได้อีกหรือไม่?...

     

    .

    .

    .

     

    พี่โซล...

     

       ปากเล็กๆขยับเอ่ยขึ้นมาเป็นชื่อของคนเบื้องหน้าด้วยน้ำเสียงหวานใส เจ้าของเสียงนั้นเป็นเด็กน้อยหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาตัวน้อยๆที่แสนจะน่าทะนุถนอม เด็กชายร่างเล็กที่อายุประมาณ 6 ปี กำลังยืนกอดแขนร่างสูงร่างหนึ่งไว้แน่น ดวงตากลมโตรื้นเต็มเปี่ยมไปด้วยหยาดน้ำใสและบวมแดงเสียจนน่าสงสาร

     

    ไม่ไปนะฮะ อย่าไปเลยนะ...

     

    ร่างที่ถูกยื้อยุดมีสีหน้าลำบากใจเป็นอย่างมาก มือหนายกขึ้นมาลูกเรือนผมนุ่มของร่างเล็กเบาๆ

     

    พี่ขอโทษนะครับคนดี โตขึ้นเมื่อไหร่พี่จะกลับมาหานะ

     

       เรียวปากได้รูปจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างอ่อนโยน ก่อนที่แขนแกร่งจะรั้งคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอดไว้แน่น

     

    ร่างเล็กกอดโซลไว้แน่นเช่นเดียวกัน ใบหน้าน่ารักอิงแอบที่อกแกร่งของคนที่รักดั่งพี่ชาย (โซล 7 ปี)

     

    ผมรักพี่โซลนะฮะร่างเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนปนสะอื้น

     

    พี่ก็รักคิริว

     

       ร่างสูงเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโน้มตัวลงจุมพิตบนเรียวปากบางเบาๆแล้วจึงหันหลังเดินขึ้นรถคันหรูไป

     

    ...เหลือไว้เพียงความทรงจำที่แสนเลอค่า...

     

    .

    .

    .

     

    คิริว...คิริว!”

     

    เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงหลุดจากภวังค์ก่อนจะหันไปทางต้นเสียง

     

    มีอะไรหรอครับพี่ฟิวส์?”

     

    มาช่วยงานทางนี้ทีร่างสูงผู้หล่อเหลาขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่เอ่ยเนิบนาบพลางกวักมือเรียก

     

       ร่างเพรียวหัวเราะในลำคอกับท่าทางนั้นก่อนจะเดินไปช่วยงานอย่างว่าง่าย แต่นั่นก็ทำให้รุ่นพี่ทั้งหลายได้รับรู้ว่าการเรียกรุ่นน้องที่แสนจริงจังมาช่วยนั้นทำให้สบายขึ้น...แต่ก็นรกชัดๆ!

     

       ผ่านมาเป็นเวลานานนับ 10 ปี จากเด็กชายตัวเล็กได้เติบใหญ่มาเป็นเด็กหนุ่มที่ทั้งหล่อทั้งสวยเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างเหลือล้น มีคนวิ่งตามจีบไม่เว้นแต่ละวัน แต่ก็เป็นอันต้องอกเดาะไปทุกราย...

     

    เพราะมีข่าวลือกันว่า...เด็กหนุ่มคนนี้มีคนรักอยู่แล้ว!

     

    (ประเคนน้ำใบบัวบกมาแจกจ่ายอีกรอบ...)

     

    ถึงแม้ว่าจะมีข่าวออกมาเช่นนั้น...แต่คนใกล้ตัวก็พากันยืนยันอย่างมาดมั่นว่าคิริวยังไม่มีแฟน!

     

    (กระดิกมือขอค่าน้ำ - -^)

     

       แฟนคลับจำนวนมากทั้งชายทั้งหญิง (แท้และไม่แท้) จึงยังคงพยายามติดสอยห้อยตามไปในสถานที่ต่างๆที่คิริวอยู่ หวังจะให้หนุ่มน้อยแลตนบางสักนิดก็ยังดี อย่างเช่นมาเกาะหน้าต่างห้องสภานักเรียนในเวลานี้ เป็นต้น...

     

    แฟนคลับ ‘We Love Kirew’ สุโค่ยยยยยยยยยยยยยย!!!

     

    ฮ่าๆ แฟนคลับนายนี่น่านับถือชะมัดฟิวส์ว่าพลางตบป้าบไปเต็มๆหลัง

     

    ประทานโทษครับ...ช่วยมองไปทางทิศของประตูบ้างนะครับ เกินครึ่งของพวกที่เกาะประตูคือแฟนคลับของพี่ไม่ใช่หรือครับ?”

     

    ฉึก!

     

       ฟิวส์เบ้หน้าในทันที คิริวทั้งหล่อ ทั้งสวย ทั้งฉลาดและออกจะเป็นรุ่นน้องที่น่าเอ็นดู ถ้าไม่ติดว่ามันปากคอเราะร้ายระดับสุดยอดอ่านะ...แถมยังเป็นสกิลที่อัพเลเวลได้เสียด้วย! เทียบกันแล้วน้องชายของเขายังน่ารักกว่าเยอะเลย อายุเท่ากันจริงหรือเปล่าเนี่ย?

     

    คิริวหัวเราะในลำคออีกครั้งหนึ่งอย่างสุดแสนจะน่าหมั่นไส้ในสายตาของฟิวส์

     

    ไอฟิวส์

     

       เสียงหัวเราะในลำคอหยุดชะงักในทันที ริมฝีปากบางเม้มแน่น นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยจ้องมองไปข้างหน้าด้วยแววตาสั่นระริก ภาพของชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี ดูเย็นชาและเจ้าเล่ห์ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฟิวส์สาวเท้าเข้ามาคนข้างกายเขาอย่างเชื่องช้า

     

    ร่างสูงดูจะสะดุดกับตัวตนของเขาเล็กน้อย ซักพักหนึ่งเขาก็คลี่ออกมา

     

    สวัสดีครับน้องคิริว

     

    ครับ...พี่โซล

     

    ร่างเพรียวตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่สดใสเท่าที่ควร

     

    โซลคลี่ยิ้มอีกครั้งหนึ่งก่อนจะหันไปสนทนากับฟิวส์

     

       คิริวจ้องมองร่างสูงโปร่งอย่างไม่วางตา เขาคือ โซลใช่...ชื่อเดียวกับพี่ชายที่เขารู้จักตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ต้องย้ายบ้านไปต่างประเทศตอนเขาอายุ 6 ขวบ มีเรือนผมสีรัตติกาลและนัยน์ตาสีอเมทิสต์เหมือนกัน กระทั่งเสียงตอนที่เรียกชื่อเขาก็ยังเหมือนกัน...

     

    จะแตกต่างก็แค่นิสัยที่ดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง...

     

    ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยถาม...แต่ถามแล้วไม่เคยได้คำตอบดีๆกลับมาเลยต่างหาก! มันน่าโมโหนัก...

     

       ใบหน้างามฉายแววเคร่งเครียดจากการใช้ความคิดอย่างหนักจนเหม่อลอย และนั่นเป็นโอกาสสำคัญของคนบางคนที่จะได้มองคนน่ารักของเขาได้อย่างเต็มๆตา มอง...ด้วยแววตาอ่อนโยนและอบอุ่น ไม่ใช่แววตาที่เจ้าเล่ห์และพราวระริกอยู่ตลอดเวลา

     

    เด็กน้อยของเขาไม่เคยเปลี่ยนไป...ยังคงน่ารักอยู่เสมอ...

     

    เขารู้ว่าคิริวมักจะนั่งคิดเกี่ยวกับปริศนาที่เขาทิ้งเอาไว้อยู่ตลอดเวลา

     

    เขาจงใจไม่บอกตัวตนที่แท้จริงไปตรงๆ เพราะอยากจะลองใจคิริวดู...

     

    ว่าเด็กน้อยคนนี้ รู้สึก เหมือนกับเขาหรือเปล่า!

     

    เที่ยงแล้ว!”

     

    อยู่ดีๆฟิวส์ก็ตะโกนขึ้นมาดังก้องห้อง คิริวและโซลสะดุ้งหลุดออกจากห้วงความคิดของตนในทันที

     

    ทำไมล่ะ?”

     

    ฉันต้องไปหาน้องชายของฉันแล้ว ไปล่ะนะ!”

     

       ฟิวส์เอ่ยตอบโซลอย่างกระชับได้ใจความก่อนจะคว้าเสื้อคลุมของตนขึ้นมาสวมอย่างลวกๆแล้วเผ่นออกไปจากห้องด้วยความเร็วชนิดที่เสือชีต้ายังได้แต่ยืนมอง คิริวจ้องมองภาพนั้นอย่างหน่ายๆเพราะมันชินตาอยู่แล้วทุกวัน เขาทำตรงข้ามกับฟิวส์โดยการถอดเสื้อนอกทิ้งไว้บนโซฟาอย่างไม่ใยดีก่อนจะเดินตัวปลิวไปที่ประตูอีกคน

     

    ...มีอะไรหรอครับ?”

     

       สองขาหยุดชะงักก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยไม่แม้แต่จะมีความคิดที่จะหันกลับมามองคนที่ยื้อข้อมือเขาเอาไว้

     

    โซลคลี่ยิ้มบางก่อนจะเปลี่ยนเป็นกุมมือเล็กๆไว้แทน

     

    ไปทานอาหารกลางวันด้วยกันนะครับ

     

    ...ว่าพลางลงมือลากไปในทันที...

     

    .

    .

    .

     

       เสียงฮือฮาดังลั่นโรงอาหาร กลุ่มของเด็กชาย เด็กหญิง หลายกลุ่มพากันสุมหัวจับเข่าคุยกันในทันทีด้วยใบหน้าตื่นตระหนกราวกับเห็นผีมาเต้นระบำให้ดูก็ไม่ปาน

     

       แต่การที่ Ice Prince กับ Phantom Princess มาเดินคู่กันมันก็ไม่ได้ต่างกับกรณีเบื้องต้นซักเท่าไหร่หรอก!

     

    ‘Ice Prince’ คือตำแหน่ง เจ้าชายเย็นชา

     

    ส่วน ‘Phantom Princess’ คือตำแหน่ง เจ้าหญิงผู้ลึกลับ

     

       ทุกคนต่างบอกกันได้อย่างมั่นใจเกินล้านว่าคิริวไม่ถูกกับโซล ส่วนโซลก็แทบจะไม่เคยยุ่งกับคิริวเลยแม้แต่ครั้งเดียว  ภาพที่ปรากฏต่อหน้าสาธารณะชนในเวลานี้จึงถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจเสียยิ่งกระไร

     

       คิริวรับรู้ได้ถึงสายตาของทุกคน แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จับช้อนข้าวยัดปากไปเรื่อยๆตามสไตล์ ‘Phantom Princess’ ของตนเอง แต่ ‘Ice Prince’ กลับสลัดคราบเจ้าชายเย็นชาของเขาอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มบางๆในขณะที่เอาแต่นั่งเท้าคางมองร่างเล็กที่กำลัง กระซวกข้าวอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยสายตาหวานเชื่อม

     

    คนรอบข้างพากันเอามือทุบหัวตัวเองด้วยใบหน้าราวกับวันนี้คือ วันสิ้นโลก

     

    คิริวรับรู้ได้ถึงสิ่งนัก เขาเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะผงะค้างไปในทันที

     

    โซลเองก็ตกใจไม่แพ้กันเพราะกลับมาเก๊กไม่ทันเสียแล้ว...

     

    พี่โซล?”

     

    โซลคำเดิมๆแต่ความหมายกลับแปรเปลี่ยนไปโดยลิบลับในเวลานี้...

     

       นัยน์ตาที่กึ่งกลมโตกึ่งเรียวเกิดประกายบางอย่าง ก่อนที่หยาดน้ำใสจะค่อยพรุ่งพรูหลั่งรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย คนๆนี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก มาหลอกกันได้...

     

       ร่างเล็กเฝ้าพะวงคิด ในขณะที่โซลลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ เขาอ้อมไปทางคิริวก่อนจะดึงแขนร่างเล็กให้เดินตามเขาไป...

     

    ร่างเพรียวมองตามด้วยความงุนงง มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ถูกยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกไปอย่างลวกๆ

     

       โซลลากเขามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำแห่งหนึ่ง เขาหายลับเข้าไปหลังประตูบานนั้น เกิดเสียงกุกกักเล็กน้อยก่อนที่ร่างๆเดิมจะเดินกลับออกมาพร้อมป้าย ชำรุด

     

    คิริวเบิกตากว้าง เขาทำท่าจะวิ่งหนีไป แต่โซลนั้นเร็วกว่า...เขาคว้าแขนร่างเล็กไว้ได้ทันท่วงที

     

       สายตาสองคู่ปะทะกันตรงๆ ชั่วขณะหนึ่งคิริวรู้สึกราวกับว่าได้เห็นแววตาโอนอ่อนจากนัยน์ตาสีอเมทิสต์คู่สวยของร่างสูง โซลหันไปแขนป้าย ชำรุดไว้หน้าประตู ก่อนจะผลักประตูพร้อมกับดันร่างเล็กเข้าไปด้วย

     

       ข้างในห้องน้ำนั้นสะอาดเสียจนแลดูผิดหูผิดตา และวิสัยทัศน์รอบข้างยังแปลกประหลาดเสียจนน่าสงสัย ซักพักหนึ่งสมองของคิริวก็ประมวลผลออกมาเป็นอย่างดีว่าที่นี่คือ...

     

    ห้องน้ำหญิง!!! อุ๊บ...

     

         ร่างเล็กตะโกนลั่นก่อนจะต้องปิดปากในทันทีเมื่ออยู่ดีๆร่างสูงก็โถมตัวเข้ามาประกบปากเขา นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างและค่อยๆหรี่ลงอย่างช้าๆเมื่อร่างสูงเพิ่มความเร่าร้อนกับการกระทำอันจาบจ้วงนี้มากขึ้น

     

       คิริวหอบถี่ ใบหน้างามขึ้นสีแดงระเรือเล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลสวยหรี่ลงและดูเยิ้มแสนจะเย้ายวนใจ ร่างสูงจ้องมองภาพนั้นอย่างไม่วางตา เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

     

    ชักจะล้ำเส้นเกินไปแล้วแฮะ...

     

    พี่โซล...

     

    ร่างเพรียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานล้ำ นัยน์ตาของคิริวจ้องมองไปที่อีกร่างหนึ่งอย่างสื่อความหมาย

     

    โซลจ้องตาร่างเล็กกลับอย่างอบอุ่น

     

       คิริวเม้มปากแน่น หยาดน้ำใสไหลหลั่งอาบทั่วใบหน้างามอีกครั้งหนึ่งก่อนที่เขาจะทิ้งตัวเข้าหาร่างสูงอย่างผลุนผลัน ดีที่โซลโอบรอบเอวบางยึดกับตัวไว้ได้ทัน มิเช่นนั้นก็คงล้มกระแทกพื้นไปทั้งสองคนเป็นแน่แท้...

     

    ทำไมล่ะฮะ...อึก...ทำไมไม่ยอมบอกกันบ้างเลย...พี่ก็น่าจะรู้ ผมรอพี่มาตลอด...

     

    คิริว

     

    นัยน์ตากลมโตเบิกกว้าง จ้องมองร่างสูงราวกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

     

       พี่โซลมักจะเรียกเขาว่า คิริวเฉยๆเพราะว่าเราอายุห่างกันแค่ปีเดียวเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้...ตัวตนของ โซลที่ถูกสร้างขึ้นมาบดบังเอาแต่เรียกเขาว่า น้องคิริวชวนขย้อนอยู่ได้ตั้งนาน...ไอ้ความกะล่อนนี่มันน่าซัดให้ตายนัก...

     

    รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากคิริวสร้างความร้อนๆหนาวๆเสียวสันหลังให้แก่โซลเป็นอย่างยิ่ง

     

    พี่รักคิริวนะครับ

     

    ร่างน้อยนิ่งเงียบไปเมื่อได้ฟังประโยคหวานหูก่อนจะตอบกลับด้วยประโยคที่เป็นเชิงขู่

     

    ถ้ามีคนอื่นล่ะก็...พี่เตรียมตัวตายอย่างสยดสยองที่สุดได้เลยล่ะครับ...คิริวเอ่ยหยั่งเชิง แต่คนถูกขู่กลับยิ้มหน้าบาน

     

    รักมาตั้งสิบกว่าปี...เรื่องอะไรจะปล่อยไปล่ะครับ

     

       ร่างสูงเอ่ยอย่างจริงจังก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากมนเบาๆ ตาประสานตา ก่อนจะทิ้งให้จุมพิตที่แสนหวานเป็นตัวอธิบายเรื่องทุกอย่างต่อไป...

     

    ... At the first time I met you...

     

    ...I thought, I fall in love with you so much...

     

       สต็อปปุ! อย่าเพิ่งเตรียมตัวโวยวายค่ะ =[]=! บางท่านอาจเริ่มตะขิดตะขวงตั้งแต่ตรงที่ลากเข้าไปในห้องน้ำแล้วว่า...ทำไมไม่จับกด? คำตอบ...ตอนแรกก็กะจะเป็นอย่างนั้นค่ะ แต่ก็เกิดหมดอารมณ์กะทันหันจึงถูกงดไปโดยปริยาย...

       ตอนเขียนใส่กระดาษนี่เขียนซะเมามันประมาณว่าไม่รู้จักพอ แต่พอมานั่งพิมพ์อีกที...ชักรู้สึกเหมือนตัวเองเขียนอะไรตั้งมากมาย ยาวยืดบรมขนาดนั้น - -^ แต่ในตอนนี้ทุกท่านก็คงสร่างความสงสัยแล้วว่าสองคนนี้ไปรักกันตอนไหน...

       แต่งไว้นานแล้วแต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงสอบวันนี้จึงเพิ่งได้ฤกษ์มาอัพค่ะ เดี๋ยวเราต้องสอบวันอังคารกับพฤหัสอีกสองวัน...อีกแค่สองวัน จบสิ้นกันทีเส้นทางชีวิตอันยาวาน T^T๐ (พูดอย่างกะจะไปตาย)

       Change! ยังไม่จบนะคะ แต่กะว่าจะสานต่อแค่ไม่กี่ตอนก็จบแล้วล่ะค่ะ อันที่จริงกะจะปิดตั้งแต่ตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่เพื่อนบอกว่า...ถ้าตัดจบตอนนี้ตาย - -^ และเนื่องจากตอนนี่มันยาวเกินที่คาดไว้จึงไม่ได้เช็คคำผิด หากเจอผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยล่วงหน้าค่ะ

     

    20/ก.พ./53 อัพ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×