คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : Chapter 40 : The Beginning of Drama
Chapter 40 -- The Beginning of Drama --
...คาร์ในฐานะของคนรักลังเลใจที่จะตัดขาดความสัมพันธ์นี้...
...ฟรานในฐานะเพื่อนสนิทที่รักเพื่อนที่สุดไม่ลังเลที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ของทั้งสอง...
...ฟิวส์เลือกใช้วิธีประนีประนอมไม่ให้ถึงกับต้องขาดกันไปเลยในครั้งเดียว...
...แล้วคุณล่ะ คิดว่าความจริงเป็นเช่นไร? และควรจะใช้วิธีใดแก้ไขเหตุการณ์นี้?...
--Change! --
...ทว่าความเป็นจริงคือเราจะไม่เลือกมันสักทางเลยนั่นแหละ!...
ภายในรถยนต์คันหรูคันเดียวกันกับตอนขามา ทว่าสารถีผู้ขับรถนั้นแปรเปลี่ยนไปเป็นบุตรชายคนโตแห่งตระกูลแฟทัลที่ทั้งรักทั้งหวงผู้เป็นทั้งน้องชายและคนรักของตนเองสุดหัวใจ ถึงขนาดยอมทิ้งการประชุมใหญ่ของสภานักเรียนเพื่อมายืนรอรับฟรานถึงที่เลยทีเดียว
พวกเขารู้ได้อย่างไรน่ะหรือ?
...ก็เพราะคิริวโทรมาฟ้องบวกฝากจิกฝากด่าให้ด้วยน่ะสิ!
แม้ฟรานในยามที่เพิ่งได้ออดอ้อนพี่ชายสุดที่รักจะลดตัวลงมาเหลืออยู่เพียง ‘โหมดปกติธรรมดา’ มิได้มีปีกปีศาจงอกขึ้นมากลางหลังแล้วแต่อย่างใด ทว่าบรรยากาศเคร่งเครียดถมึงทึงก็ยังคงแผ่ไปทั่วทั้งรถคันนี้ ซ้ำร้ายตัวการปล่อยรังสีอำมหิตยังกระตุกยิ้มน่าสยดสยองทุกๆ สิบวินาทีอีกด้วย
ฟิวส์และคาร์เนื่องด้วยยังเกรงๆ ผู้กุมอำนาจใหญ่ที่สุดในตระกูลแฟทัลตัวจริงจะหันมาแว้งกัด ทั้งสองจึงต้องสนทนากันทางสายตาและภาษามือแทน และก็น่าแปลกที่มันสื่อสารกันรู้เรื่องเสียด้วย!
คาร์กะพริบตาปริบๆ คล้ายจะถามว่า ‘เกิดอะไรขึ้นอีกเหรอ?’
ฟิวส์แสดงสีหน้าละเหี่ยใจ ยกมือขึ้นชี้ทางฟรานก่อนทำท่าปาดคอตนเองสื่อตอบว่า ‘ฟรานมีแผนร้ายอีกแล้วน่ะสิ!’
เด็กหนุ่มเผยสีหน้าแสดงความสยดสยองอย่างปิดไม่มิด ‘ตายแน่’
ฟิวส์พยักหน้าหงึกหงักตอบกลับ ‘ใช่! ตายแน่ๆ!”
ก่อนที่ทั้งคู่จะเบือนหน้ากลับไปคนละทางเมื่อเหลือบแลเห็นว่าฟรานกำลังจะเงยหน้าขึ้นมา ฟิวส์ทำท่าจริงจังกับการขับรถสุดกู่ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เขาเพิ่งใช้ข้อศอกดันพวงมาลัยขับรถหน้าตาเฉยและใช้มือในการสื่อสารกับคาร์แทนอย่างไม่เกรงกลัวว่า ‘ข้อศอก’ ของเขาจะพารถแหกโค้งดับอนาถ ส่วนคาร์ก็หันกลับไปนั่งทำท่าโศกสลดทั้งๆ ที่หมดอารมณ์จะนั่งเศร้าไปตั้งแต่รับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตชวนสยองเกล้าของฟรานแล้ว
แม้จะรู้สึกตงิดๆ ใจ แต่ฟรานในยามที่แผนร้ายกำลังโลดแล่นในหัวอย่างสุดแสนจะบรรเจิดนั้นไม่ได้คิดจะใส่ใจโลกภายนอกอีกต่อไปแล้ว ใบหน้าน่ารักก้มลงพร้อมกับหัวเราะคิกคักในลำคออย่างน่าขนลุก
...วิธีการที่ไม่ต้องลังเลใจ...
...วิธีการที่ไม่ต้องตัดขาดให้สะบั้น...
...วิธีการที่ไม่ต้องมามัวนั่งประนีประนอมให้เสียเวลา...
...และที่สำคัญคือน่าสนุกใช่เล่น!...
เรียวลิ้นเล็กตวัดปาดริมฝีปากสีแดงสดของตนด้วยท่าทางชั่วร้ายเกินจะทานทนไหว สร้างความสยดสยองฝังลึกลงในจิตใจให้แก่ผู้ร่วมเดินทางอีกสองคนที่เหลือ
ใครกัน?! เมื่อตะกี้ใครกันที่บอกว่าฟรานหลุดจากโหมดปกติแล้ว!
บ้านคุณสิ!
--Change! --
รถยนต์คันหรูที่โลดแล่นอวดโฉมอยู่บนท้องถนนมาเป็นเวลานาน ที่สุดมันก็ค่อยๆ ลดความเร็วและจอดลงอย่างนุ่มนวลเบื้องหน้าคฤหาสน์สุดหรูที่แสนจะคุ้นตา ประตูรถทั้งสามด้านถูกผลักออกในเวลาเดียวกัน ก่อนที่ร่างสามร่างจะก้าวลงมาจากรถ และมีร่างของคนขับรถประจำตระกูลถลาออกมานำรถไปเก็บให้อย่างรู้งาน
ก่อนที่ร่างทั้งสามจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยท่าทางสบายๆ ทว่าความจริงแล้วในใจของพวกเขากำลังสับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก มากเสียจนแทบจะระเบิดออกมาทุกเมื่อเลยก็ว่าได้!
“พี่ฮะ”
“ครับ”
เสียงหวานๆ เอ่ยเรียกผู้เป็นพี่ชายอย่างน่ารัก และตัวพี่ชายนั้นก็คุ้นเคยกับการที่จะตอบรับน้องชายสุดที่รักในทันทีจนฝังลึกเข้าไปในขั้วกระดูกเสียแล้ว ดังนั้นปากของเขาจึงขยับเปล่งเสียงตอบรับออกไปก่อนที่สมองจะได้ทันสั่งการเสียอีก
ฟรานหันมายิ้มหวานด้วยท่าทางราวกับเทวดาตัวน้อยๆ เขาสลัดคราบปีศาจเมื่อครู่ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “ช่วยอะไรฟรานหน่อยได้มั้ยฮะ?”
ฟิวส์เลิกคิ้วเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะปฏิเสธฟรานอยู่แล้ว ดังนั้นคำตอบที่หลุดออกมาจากปากของเขาจึงสามารถคาดเดาได้อย่างง่ายดาย “ได้อยู่แล้วล่ะครับ”
ร่างเล็กคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิมก่อนจะร่ายสิ่งที่ตนเองต้องการออกมาในทันที “ติดต่อหาพี่ๆ สิบสามมรณะให้ฟรานหน่อยฮะ ย้ำพวกเขาด้วยว่าให้มาหาฟรานให้ครบทุกคน ภายในวันนี้ได้ด้วยยิ่งดี”
บุตรชายคนโตแห่งตระกูลแฟทัล เจ้าของเรือนผมและนัยน์ตาคมกริบสีทองมีสีหน้าสงสัยเล็กน้อยแต่ก็ไม่คิดจะตั้งคำถามออกไป พี่ชายผู้แสนดีพยักหน้ารับก่อนจะปลีกตัวออกไปจัดการ ‘ธุระ’ ตามที่น้องชายของเขาร้องขอโดยพลัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคาร์ในการออกปากถามให้ความสงสัยในใจของหลายๆ คนได้กระจ่างชัด
“จะเรียกสิบสามมรณะมาทำอะไรเหรอ?”
คงไม่ใช่เรียกมารุมฆ่าหมกศพพี่แบล็คหรอกนะ
คาร์หน้าซีดเผือดในทันทีเมื่อมีความคิดซึ่งไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่นักอันหนึ่งวูบเข้ามาในห้วงคะนึงของเขา
ฟรานยิ้มหวานให้กับเพื่อนรักของเขาและเลี่ยงที่จะตอบคำถามออกมาตรงๆ “เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ” ไม่วายเน้นย้ำทิ้งท้ายราวกับอ่านใจอีกฝ่ายออก “แล้วก็ไม่ได้เรียกมาฆ่าพี่แบล็คด้วย ถ้าจะฆ่าทิ้งล่ะก็ฉันจัดการเองยังจะง่ายกว่าเยอะ”
“มันก็จริง...”
ร่างที่เล็กไม่แพ้กัน เจ้าของใบหน้าสวยหวานพึมพำกับตนเองเบาๆ แม้เขาจะตอบรับเพื่อนสนิทของเขาเช่นนั้นทว่าความหวาดระแวงก็ยังมิได้สลายหายไปทั้งหมด พี่แบล็คถึงกับทำให้คนถือทิฐิอย่างเขาลงไปนั่งร้องไห้ฟูมฟายต่อหน้าฟราน และนั่นก็ทำให้คาร์มั่นใจมากว่าฟรานจะไม่มีทางหยุดการ ‘แก้แค้น’ กับอีแค่การ ‘เดินไปอัดสักครั้งสองครั้งแถมด้วยกระทืบปิดท้ายก่อนจะกระชากคอขึ้นมาถาม’ แน่ๆ!
รู้สึกว่าครั้งล่าสุดที่ฟรานเข้าโหมดสติแตกเพราะเรื่องของเขา ครั้งนั้นคู่กรณีแค่ชิงหอมแก้มเขาไปฟอดหนึ่งและมาทำตัวรุ่มร่ามอีกเล็กน้อย ทว่าทันทีที่ข่าวนั้นแพร่ไปถึงหูของฟราน วันต่อมาก็มีข่าวลือออกมาว่าชายหนุ่มคู่กรณีคนนั้นถูกชายชุดดำจำนวนไม่น้อยรุมสกรัมจนต้องนอนโรงพยาบาลไปสามเดือน หลังจากนั้นก็ย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศในทันทีอย่างน่าฉงนสงสัยยิ่งนัก
เอ้อ แต่คนที่สงสัยน่ะไม่ใช่เขาหรอก เพราะเขารู้อยู่แก่ใจตั้งแต่แรกแล้วต่างหากว่านั่นเป็นฝีมือใคร
“ฟรานครับ”
เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังของฟิวส์ดังขึ้นมาขัดห้วงภวังค์ของเขาเสียก่อน เมื่อหันกลับไปสังเกตสถานการณ์อีกครั้งหนึ่งก็พบว่าสองพี่น้องตระกูลแฟทัลย้ายไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ และฟิวส์ก็กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงฟรานที่นั่งอยู่บนตักของตนด้วยความรักใคร่อย่างสุดซึ้ง สักพักหนึ่งถัดมาเสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น ชายหนุ่มกดรับก่อนหยุดฟังและตอบแค่ ‘อืมๆๆ’ ก่อนจะวางสายและหันมาร้องเรียกน้องชายสุดที่รักในอ้อมแขนซึ่งหันมาทำตาบ๊องแบ๊วใส่พลางรับคำ
“ฮะ?”
คนเขากำลังอมทุกข์มีปัญหาชีวิตที่แก้ไม่ตก แต่คู่นี้มันก็ยังมานั่งสวีทต่อหน้าเขาอีก!
“เจ้าหน้าที่เขาติดต่อมาว่าสิบสามมรณะมากันแล้วครับ กำลังรออยู่ที่ห้องรับแขก”
“มาครบสิบสามคน?”
“มาครบสิบสามคนครับ”
“...ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ”
เพียงเท่านั้นรอยยิ้มหวานซึ้งแฝงความเจ้าเล่ห์เต็มสตรีมก็เผยขึ้นมาบนใบหน้าน่ารักนั้นอีกครั้งหนึ่ง ไม่นานนักเสียงหัวเราะคิกคักก็หลุดออกมาจากเรียวปากอิ่มสร้างความสงสัยให้กับพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
“ฟราน?”
คาร์เอ่ยเรียกชื่อเพื่อนรักเป็นการหยั่งเชิง
เจ้าของนามเบื้องต้นชะงักกึกก่อนจะหันมาคลี่รอยยิ้มลึกลับให้กับคาร์พร้อมเอื้อนเอ่ยน้ำเสียงเนิบนาบว่า “ตัวละครก็มากันครบแล้ว รับรองว่าพี่แบล็คของนายต้องได้สนุกสุดเหวี่ยงแน่ๆ”
ว่าพลางหัวเราะหึๆ ในลำคออีกสองสามครั้ง ก่อนจะออกตัวเดินนำไปสู่ห้องรับแขกซึ่งมีแขกถึงสิบสามคนนั่งแออัดรออยู่ คาร์ส่ายศีรษะไปมาพลางบอกกับตนเองว่านึกแล้วไม่มีผิด แต่ในคราวนี้นั้นเขามิได้ออกปากห้ามปรามแต่อย่างใด
...เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ใช่ว่าจะโกรธไม่เป็น กล้ามาทำให้เขาเสียใจนี่คงเตรียมใจไว้แล้วสินะ?...
To Be Continue
มา...อัพ...แล้ว...ค่ะ... (โผล่หน้ามาเหมือนศพ) เพิ่งออกจากโลงเมื่อวานนี้ค่ะ เอ้ย! ไม่ช่ายยยยย!! เพิ่งเคลียร์เรื่องวุ่นวายในชีวิตเสร็จค่ะ - -^ ปิดเทอมเหมือนไม่ได้ปิด วุ่นวายซะจนเสียดายเวลา จะเปิดเทอมแล้วอ่า TT^TT
23/ต.ค./53 อัพ
10/มี.ค./55 Re-write
ความคิดเห็น