เหมือนดาวคนละดวง (เรื่องสั้นของ..คนเหงา) - เหมือนดาวคนละดวง (เรื่องสั้นของ..คนเหงา) นิยาย เหมือนดาวคนละดวง (เรื่องสั้นของ..คนเหงา) : Dek-D.com - Writer

    เหมือนดาวคนละดวง (เรื่องสั้นของ..คนเหงา)

    'ใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ว่าความเหงาเป็นอย่างไร ร่างกายเหงาไม่เท่าใจเหงาหรอก ประโยคนี้จริงหรือไม่มาค้นหาคำตอบกันเถอะ'

    ผู้เข้าชมรวม

    1,175

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    22

    ผู้เข้าชมรวม


    1.17K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 พ.ค. 56 / 22:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    เหมือนดาวคนละดวง

    (เรื่องสั้นของ...คนเหงา)

     

     

     

    ใต้แสงดาว...ระยิบระยับพรับพราวพร่างฟ้า...

                อยู่แห่งไหนหนอ..เดือนดาราฉันเฝ้าแหงนมองหา...

     

                                                                                          

                ท่ามกลางความเวิ้งว้างเดียวดายของท้องทะเลยามดึก แสงดาวระยิบระยับส่องแสงในค่ำคืนนี้ จนใครบางคนอดใจไม่ไหวต้องขึ้นมายืนอยู่บนดาดฟ้ามองดูดาวพราวระยิบอย่างเหงาใจ

         ชายหนุ่มในชุดกางเกงนอน เสื้อกล้ามสีขาวยืนเกาะลูกกรงเหล็กบนชั้นสูงสุดของดาดฟ้าเรือนนอนเหม่อมองไปบนฟ้ากว้าง แสงดาวระยิบนั้นจะส่องแสงไกลไปหาใครที่อยู่ไกลกว่าหนึ่งพันกิโลเมตรได้หรือไม่

                อาชีพหนึ่งซึ่งหลายคนใฝ่ฝันและอยากเป็น อาชีพซึ่งทำเงินมหาศาลในแต่ละวัน เดือน ปี มีไม่กี่คนที่จะรู้ว่าอาชีพนั้นต้องแลกมาด้วยความทุ่มเท และสุ่มเสี่ยงมากมาย

     

                ที.เจ คือชื่อย่อที่เพื่อนร่วมงานใช้เรียกขาน ที.ย่อมาจากชื่อจริง เจ.ย่อมาจากนามสกุล ที่นี่เขาเรียกกันแบบนี้ การทำงานที่มีคนจำนวนไม่มากที่รู้ว่าเป็นอย่างไรทำงานกันอย่างไร เริ่มขึ้นในทุกสิบห้าวัน และพักผ่อนในทุกสิบห้าวันเช่นกัน วนเวียนอย่างนี้ตลอดนานนับปี นับหลายปี...

                การทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันและแยกก๊าซธรรมชาติ มีอัตราความเสี่ยงสูงกว่าอาชีพทั่วไป เพราะต้องเดินทางไกลเกือบหนึ่งพันกิโลเมตรในแต่ละครั้งจากบนฝั่งแผ่นดินเพื่อจะไปยังแท่นขุดเจาะที่อยู่กลางทะเลลึก

                กฎข้อห้ามก่อนขึ้นเครื่องไปทำงานคือ 'ห้าม'ดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าตรวจเจอปริมาณแอลกอฮอล์ก็คือเป็นอันไม่ต้องไปทำงาน แถมยังถูกเพ่งเล็งเป็นของแถม เผลอๆจะโดนตัดแต้มเอาดื้อๆ สภาพต้องพร้อมเสมอสำหรับการทำงาน ไม่มีคำว่ามาสายหรือบิดพลิ้ว เพราะถ้ามาสายหมายความว่าคุณไม่ต้องไป การเช็คสภาพความพร้อมของร่างกายต้องปฏิบัติเป็นประจำทุกสิบห้าวัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มปฏิบัติงานในทันทีที่ไปถึง ระยะเวลากว่าสองชั่วโมงบนเฮลิคอปเตอร์ประสิทธิภาพสูงลำใหญ่จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนนอนหลับที่แท้จริง
     

       เมื่อถึงที่หมายซึ่งก็คือจุดจอดเฮลิคอปเตอร์บนจุดสูงสุดของฐานปฏิบัติการ ก็ได้เวลาเริ่มต้นทำงาน ที.เจ เข้าห้องนอนของตนที่เป็นเตียงสองชั้น ภายในห้องแอร์เย็นฉ่ำมีโทรทัศน์เครื่องเล็กๆเท่านัน เมื่อเปลี่ยนชุดพร้อมทำงาน รองเท้าสั่งตัดพิเศษ หมวกกันภัยอย่างดี ก็ได้เวลาเตรียมพร้อมสู่การทำงาน

                บ้างที่ตำแหน่งสูงก็จะได้อยู่ในห้องแอร์ที่เรียกว่าคอนโทรลรูม บ้างก็อยู่ฝ่ายปฏิบัติงานต้องนั่งเรือไปยังทุ่นที่อยู่ไม่ไกลเรียกว่ารีโมท

    ยังดีที่สวัสดิการดี อาหารพร้อมสรรพจากพ่อครัวชั้นยอด อาหารไทย จีน ฝรั่ง ไอศกรีมรสเลิศยี่ห้อดังก็มีไม่ได้ขาด ระบบสันทนาการก็ไม่บกพร่อง วันๆต้องทำงาน พักก็ทานข้าว เย็นก็สันทนาการ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา อินเตอร์เนต มีพร้อมสรรพ การทำงานเป็นอยู่อย่างนี้ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็นไม่เว้นวันหยุดจนครบสิบห้าวันถึงจะเป็นไทแก่ตัว ได้กลับบ้าน ขึ้นฝั่ง กลับไปหาครอบครัว

    ภายใต้การทำงานที่พร้อมสรรพ ฐานะการเงินที่มั่นคง จะมีใครรู้ว่าภายในหัวใจเปลี่ยวเหงาขนาดไหน จะไม่เป็นอะไรเลยถ้าหากคนนั้นไม่เป็นคนขี้เหงา และคนขี้เหงาอย่าง ที.เจ ก็ต้องอาศัยดาดฟ้า เฝ้ารอคอยมองเดือนดารา แสงดาวระยิบให้คอยเป็นเพื่อนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

     

    วันแล้ว วันเล่า หนึ่งวัน สองวัน สามวัน เป็นอย่างนี้เรื่อยไปจนครบสิบห้าวัน เพราะนั่นคืออาชีพ คืองานที่เขาเลือกแล้ว งานที่ไม่ใช่ใครก็เป็นก็ทำได้

    แล้วจะเหงาทำไม ในเมื่องานดีเงินดีขนาดนั้น ใครไม่เหงาไม่รู้หรอก ร่างกายเหงาไม่เท่าใจเหงา การอยู่ท่ามกลางทะเล คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล นั้นเหงาอย่างไร

     

     

                ภายใต้ท้องฟ้ามืดมิดกลางทะเลกว้างเวิ้งไกลสุดลูกหูลูกตา..

                ใครบางคนเฝ้ามองเดือนดาราอย่างเปลี่ยวเหงา...

                แสงดาวระยิบระยับใหญ่น้อยส่องแสงพราว..

                สุดแสนเปลี่ยวเหงาใจไร้เธอเคียง...

     

     

       เกือบสิบเอ็ดโมงใกล้ได้เวลาอาหารเที่ยง ท้องเริ่มร้องดังอย่างโหยหิว อะไรไม่เท่าหัวใจที่กำลังโลดแล่นจนลืมความหิว ทันทีที่มองเห็นฝั่งรำไร ปากน้ำป่าชายเลนยามสายให้ความรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้มอง

                ใกล้ได้เวลาเครื่องแล่นลงแตะรันเวย์ของสนามบินเล็กของกองทัพแล้ว หัวใจกำลังโลดแล่นโบยบินหาครอบครัวที่มีใครบางคน และหลายคนรออยู่ ที.เจ กระชับกระเป๋าเป้สะพายหลังที่ไม่มีแม้แต่โลโก้บริษัท เพราะสุ่มเสี่ยงต่ออะไรบางอย่าง ชายหนุ่มกระชับหูฟังป้องกันเสียงดังของเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ไว้มั่นก่อนจะถอดมันออกเพื่อก้าวลงจากเครื่อง

                ทันทีที่สองเท้าก้าวเหยียบลงบนรันเวย์ บนผืนแผ่นดินใหญ่ หัวใจของ ที.เจ ก็พองโตอย่างที่เคยเป็นประจำยามที่ได้กลับบ้าน ทันทีที่ก้าวออกจากที่นี่ อย่างแรกที่ต้องทำก็คือต่อรถเข้าไปยังสนามบินประจำจังหวัด แล้วก็ขึ้นเครื่องบินกลับไปยังจังหวัดบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ยามเมื่อหัวใจมีความสุข ต่อให้ต้องขึ้นเครื่องลงเครื่องอีกกี่ครั้งก็ไม่หนักหนาอะไรเลย

                เพราะรู้ว่าค่ำคืนนี้ เขาจะได้กลับบ้าน บ้านที่มีเธอคนนั้น คนที่เป็นครอบครัวของเขารออยู่ ภายใต้ท้องฟ้าผืนเดียวกัน ใต้แสงดาวดวงเดียวกัน ภายใต้หลังคาเดียวกัน และภายใต้ผืนแผ่นดินที่เหยียบยืนเดียวกัน

     

     

                คืนนี้ และอีกสิบสี่วันที่เหลือบนผืนแผ่นดิน

                ที.เจ คงจะไม่เหงาอีกต่อไป..

     

    ***********************************************
     

    ขอบคุณที่แวะมาอ่านเรื่องสั้น คนเหงาค่ะ ^^

    สุดปลายทางมี คนรออยู่ค่ะ ฝากติดตามเรื่องหน้าด้วยนะคะ

    ++
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×