คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : บทที่สิบเจ็ด ของหายอยากได้คืน[110%]
บทที่สิบเจ็ด
ของหายอยากได้คืน
เฟรนด์มองตามร่างของน้องชายกับเพื่อนร่วมทางเดินห่างเรื่อยๆก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาในตอนนี้เริ่มไว้ใจเรย์ขึ้นมาทีละนิดๆ ต่างจากตอนแรกที่เขาไม่แม้แต่อยากจะคุบกับเรย์เสียด้วยครั้ง แต่ก็มีเรื่องให้ต้องปะทะฝีปากกันอยู่บ่อยไป เทวดาหน้าสวยมองตามไปจนลับตาก่อนเบนสายตากลับมามองที่พื้นตรงหน้าที่อดีตเคยเป็นกองไฟในยามค่ำคืน ตอนนี้พวกเขาโดนประกาศจับไม่สามารถไปไหนได้ เข้าพักที่ไหนก็ไม่ได้ เรื่องวุ่นวายนั่นเริ่มเพราะใคร เพราะอลาวถูกลักพาตัวไป? เพราะจักพรรดิปีศาจมาลักพาตัวอลาวไป? หรือเป็นเพราะอลันไปเป็นเขยปีศาจ? แต่ไม่ว่าเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้เพราอะไร เจ้าชายสวรรค์ก็รู้สึกได้ว่าอีกไม่นานเรื่องมันต้องจบลงแน่ๆ
“ท่านเฟรนด์ เป็นห่วงท่านฟรานสินะขอรับ”เดม่อนเอ่ยคำพูดที่เหมือนคำถามแต่มันเป็นเพียงประโยคบอกเล่าเท่านั้น
เฟรนด์พยักหน้ารับเบาๆถึงแม้มันจะไม้ใช่ความจริงทั้งหมด เขาเป็นห่วงฟรานน่ะใช่...แต่ก็เป็นห่วงเรย์ด้วยเช่นกัน แม้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะเก่งแค่ไหนแต่ว่าการที่มาอยู่ท่ามกลางกองปีศาจนาดนี้ก็คงไม่ไหว
“เดม่อน...เจ้ามานี่ดิ๊ มาเร็วๆ”
ซีโร่ที่ไม่ได้อยู่วงสนทนาด้วยแต่แรกควักมือยอยๆให้เดม่อนเดินเข้าไปหา ฝ่ายยมทูตที่ถูกเรียกก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมเดินเข้าไปหา
“มี.....”
พลั่ก!
ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรจนจบประโยชน์เดม่อนก็ถูกอีกฝ่ายจับคอเสื้อแล้วเหวี่ยงลงพื้น สีหน้าของซีโร่ตอนนี้ทำให้เดม่อนเผลอกลืนน้ำลายด้วยอาการหวั่นๆ ยมทูตผมดำทิ้งเข่าทั้งสองลงที่หน้าท้องของเดม่อนดังอั่ก! ก่อนจะโน้มหน้าลงมาเลื่อยๆ...
“ทำอะไรหัดคิดถึงสถานะตัวเองบ้าง ลูซิเฟอร์ เดม่อน”
น้ำเสียงเย็นๆกล่าวออกมาอย่างไม่ได้สนใจว่าเฟรนด์อยู่ที่นี่แม้แต่น้อย เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เฟรนด์คิดคงมีแค่การทะเลาะกันธรรมดาเท่านั้น...แต่ทั้งคู่รู้ดีว่ามันไม่
“ถ้าข้าไม่ทำแบบนั้น แล้วพวกเราจะออกมาได้ยังไง?”
เดม่อนเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงปกติ อีกฝ่ายกำลังโกธรที่เขาทำอะไรไม่คิด ที่เงียบมาตลอดไม่ใช่ว่าใช่ความคิดแต่กำลังสงบงติอารมณ์และ...แอบฟังเสียงบ่นในใจของคนรอบๆตัว
“ท่านฟรานได้ยิน”
ซีโร่ก้มลงกระซิบข้างหูยมทูตผมน้ำเงินก่อนจะทิ้งคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วลุกขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าลงมา เดม่อนลุกพรวดขึ้นมาด้วยอารามตกใจ มือขวาคว้าได้เรียวแขนของอีกฝ่าย
“ทำไม ก็ในเมื่อ...”
“แหวนของท่านอลาวจะล่วง ท่านฟรานเลยปล่อยมือจากหูแลบ้วคว้าเอาไว้ แล้วตอนนั้น...เขาก็ได้ยิน”
ซีโร่เอ่ยเสียงเบา นัยน์ตาสีฟ้าเสรมองเดม่อนอย่างคาดโทษ
“พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า?”เฟรนด์เห็นทั้งคู่กระซิบกันไปกระซิบกันมาอีกทั้งยังเสรนัยน์ตามองเขาก็หลายรอบ
“เอ่อ...คือความจริงแล้ว...”
“คือเราทะเลาะกันนิดๆหน่อยๆนะขอรับท่านเฟรนด์ ซีโร่ก็เลยงอนข้าเล็กน้อยน่ะ”
เดม่อนเอ่ยขัดขึ้นมาพลางยิ้มกลบเกลื่อน
“เจ้า!”ซีโร่ตวาด”เจ้าจะปิดเรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่?? ยังไงท่านฟรานก็เริ่มระคายแล้วคนหนึ่งนะ แทนที่เจ้าจะปิดต่อไปสู้บอกไปไม่ง่ายกว่าหรือไง?!!!”ซีโร่ออกปากโวยวายออกไป
“ปิด?”เฟรนด์เอียงคอมองอย่างสงสัย
ยิ่งพูดไปก็ยิ่งดูน่าคิดไปไกล แม้สีหน้าจะไม่สื่อออกมามากแต่เดม่อนก็เดาได้ว่าเฟรนด์ไม่ได้คิดเรื่องเดียวกับเขาแน่นอน
“คือความจริงแล้ว....”
ฟิ้ว~
เดม่อนชะงักเท้าที่จะเดินไปสร้างเรื่องโกหกแก่เฟรนด์กึก เขารับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่ผ่านใบหูเขาไปทาง...ซีโร่? เฟรนด์เองก็มีสีหน้าตกใจขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะขรึมขึ้นมาทันที
“เจ้า...”
เดม่อนที่หันไปพบกับต้นเสียงถึงกับหน้าถอดสี เขาไม่ตกใจที่อีกฝ่านโพล่มาแต่ตกใจที่ซีโร่โดนอีกฝ่าย
ล็อกคอไว้ต่างหาก
“ไงท่านพี่ สีหน้าใช้ได้นี่”
“เมลลาเวียร์”
เดม่อนเรียกอีกฝ่ายเสียงนิ่งนัยน์ตามองเพียงร่างของซีโร่ที่พยายามเอาตัวออกมาจากการเกาะกุมของเจ้าชายปีศาจแต่ดูเหมือนเวลาร้อยกว่าปีที่ผ่านเมลลาเวียร์ที่มีเบือดปีศาจแท้เกินครึ่งจะแข็งแกร่งก่วาเทพที่พลันตัวไปเป็นยมทูตอย่างซีโร่ พลังซีโร่ปรับสมดุลได้ไม่ดีนักยิ่งในแดนที่ไม่ใช้ทั้งนรกและสวรรค์อย่างนี้ แม้เดม่อนจะรู้เรื่องนั้นดีแต่แรกที่ก้าวเข้ามาที่นี่แต่เพราะที่ผ่านๆมาซีโร่ก็แลดูปกป้องตัวเองได้อยู่ตลอด แม้ฝีมือที่ออกมาจะไม่ใช่ฝีมือเต็มร้อยเปอร์เซนก็ตาม
“ท่านเรียกใครว่าพี่กัน เจ้าชาย”
เดม่อนกล่าวเสียงเรียบอย่างพยายามจะเล่นสงครามประสาทกับอีกฝ่าย เมลลาเวียร์ยกยิ้มขึ้นอย่างที่เดม่อนไม่เคยเห็นมาก่อน
“ช่วยอยู่นิ่งๆก่อนจะได้ไหม?”
เสียงทุ้มเอ่ยข้างใบหูของซีโร่ ยมทูตผมดำขนลุกพรึบ แต่ยังไม่วายหยุดดิ้น เมลลาเวียร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ
“ข้ามีข้อเสนอ”
“ข้าไม่สน”
เดม่อนตอบแทบจะทันทีที่เจ้าชายปีศาจเอ่ยจบ ดวงตาของเขาฉายแววไม่พอใจเล็กๆที่อีกฝใยมารากฎตัวตรงหน้าแถมยังจับ.โร่ไปเป็นตัวประกันอีก
“ไม่ฟังก่อนเหรอ...ชีวิตยมทูตนี่อยุ่ในมือข้านะท่านพี่ แค่ขยับ...ร่างทั้งร่างนี่อาจจะสลายกลายเป็นฝุ่นไปเลนก็ได้...ต่อใฝห้นี่คือเทวดาที่มีอายุไม่ต่างจากท่านอาเท่าไหร่ก็ตาม”
เดม่อนรู้ได้ท่านทีว่าท่านอาในความหม่ายอีกฝ่ายคืออะไร ซีโร่เองก็ด้วย ร่างสูงกัดริมฝีปากล่างของตนเองไม่ใช่ด้วยความกลัวแต่เป็นเพราะเขากำลังโกธรตัวเองทีที่กำลังเป้นตัวถ่วงอยู่ต่างหาก ถ้าเมื่อครู่เขาไม่มัวแต่โมโหเดม่อนแล้วระวังตัวตลอดเวลาล่ะก็ อีกฝ่ายคงไม่มาจับเขาได้แบบนี้ ยิ่งอีกฝ่ายมีพลังปีศ่าจเข้จ้นมันยิ่งทำให้เขาอ่อนแรง เขาเป็นเทวดาเลือดบริสุทธิ์ย่อมไม่ถูกกับไอปีสาจดำมืดพวกนี้อยู่แล้ว อีกอย่สงเขาเองที่เพิ่งฟื้นจากการบาดเจ็บได้ไม่นาน ยังมีแรงพอมาทะเลาะกับเดม่อนนี่ก็มากพอแล้ว...
“ข้อเสนออะไร?”
เดม่อนเอ่ยอย่างไม่นิ่งเหมือนเคย ดูเหมือนสงครามประสาทครั้งนี้เทลลาเวียร์จะเป้นฝ่ายได้เปรียบเสียแล้ว
“กลับไปกับข้าแลกกับตัวประกันนี่”
“!!!!”
ซีโร่เบิกตาโพลงมองเสี้ยวหน้าของเมลลาเวียร์ที่ตนเห้นเพียงหางตาสลับกับใบหน้าตกตะลึงของเดม่อน เขารีบส่งสายตามหามปรามอีกฝ่ายไม่ให้ทำตามขจ้อตกลงไร้สาระนั่น
“อย่ามาตลก”
“ข้าก็ไม่ได้ขำ”
เจ้าชายปีศาจยักไหล่ เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบรนี้มาก่อน ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีแดงนั่นเองก็ยากจะหยั่งถึง
“นี่พวกเจ้า...คุยเรื่องอะไรกันน่ะ?”
“ไว้ข้าจะเล่าที่หลังขอรับท่านเฟรนด์”เดม่อนเอ่ยแผ่วๆก่อนหันกลับไปหาเมลลาเวียร์
“ข้าจะไม่กลับและไม่มีวันกลับ”เดม่อนยื่นเสียงขาด
ใครอยากจะกลับไปเจอกับคนที่ไล่เขาออกมากันเล่า...เรื่องอะไรจะโ.ทำร้ายตัวเองซ้ำๆ!!
“กลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้! ถ้ายังไม่อยากเสียงเจ้าเทพยมทูตนี่ไป...อดีตเทพแห่งความตายมันอาจจะเสริมพลังเวทย์ในส่วนที่ขาดไปของข้าก็ได้นะ”
ร่างนั้นขยับยิ้มมุมปาก เดม่อนมองร่งนั้นอย่างไม่เชื่อหู เมลลาเวียร์...น้องชายแท้ๆที่คลานตามกันมาของเขาไม่มีทางพูดอะไรที่เห็นแก่ตัวและเจ้าเล่ห์แบบนั้น!!
“ทำไมข้าต้องกลับ? ในเมื่อท่านพ่อไล่ข้าออกมาข้าจะหน้าด้านกลับไปทำไมกัน? คนเขาไล่ใครมันอยากจะหน้าด้านอยู่!!!”
“เมื่อคนเขาไม่ต้องการไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่อยากหน้าด้านอยู่หรอก”
ประโยคคำพูดที่คล้ายๆกันดังขึ้นในหัวของเมลลาเวียร์ ร่างนั้นขยับยิ้มที่แปลความหม่ายไม่ออกออกมาก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพูดกับเดม่อน
“เรเวอร์เรียหายไป คนที่จะตามหาเขาได้มีแต่ท่านที่เป็นเจ้าชายลำดับที่หนึ่งที่สามารถมองเห็นบริเวณทั้งหทดของแดนปีศาจได้ ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าตามหาเขา”
....ใช่ ในตอนที่เขาไม่รู้จะให้ใครช่วยตนตามหาเรเวอร์เรีย ใบหน้านี้ก็ลอยเข้ามา เนโรนัวร์ ลูซิเฟอร์ เดม่อน...
“หายไป...ไม่ใช่ว่าเจ้าพลั้งปากไล่เขาไปงั้นหรือเด็กน้อย คนอย่างเขาดูไม่น่าจะไปจากเจ้าเองได้ง่ายๆ”
เดม่อนเอ่ยดักอย่างรู้ทางอีกฝ่าย ตอนนี้ไม่มีแม้อะไรที่ต้องปิดบังอีกแล้ว เฟรนด์เองคงเดาอะไรหลายๆอย่างได้จากบทสนทนาของเขาและเมลลาเวียร์...ควรจะเข้าใจตั้งแต่ที่เมลลาเวียร์เอ่ยเรียกเขาว่าพี่แล้ว
“ท่านก็ยังเป็นท่านที่ดูข้าออกไม่เปลี่ยน พี่ข้า”
“เจ้าก็ยังเป็นน้องที่ดูออกง่ายไม่ต่างจากเดิมเลยสักนิด เมลลาเวียร์”
เดม่อนจ้องหน้าอีกฝ่ายก่อนจะเริ่มแผ่ไอปีศาจกดดัน ด้านเมลลาเวียร์เองก็ด้วยถ้าเขา ลำบากเฟรนด์ที่ต้องแผ่ไอเทพออกมาต้านไม่อย่างนั้นคงหายใจไม่ออกตายกันพอดี
“เดม่อน...หยุดแผ่ไอ...ปีศาจก่อนดิ แค่กๆๆ ไอ้บ้าเอ๊ย!”
“ซีโร่!!!!”
เดม่อนรีบลดไอปีศาจลงทันทีเป็นผลให้อีกสองร่างลดไอตัวเองลงมาด้วย ซีโร่ไอแค่กๆเนื่องจากไม่สามารถพอจะแผ่ไอเทพหรือแผ่จิตยมทูตออกมาต้านได้ ทั้งสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม ทั้งเรื่องที่โดนไอปีศาจของเมลลเวียร์ต้านพลังกายเขาไปทีละนิดกับการที่ต้องมาอยู่ใกล้กัน ยมทูตผมดำแทบทรุดฮวบลงไปกับพื้นหากไม่มีเมลลเวียร์ล็อกคอกึ่งพยุงไว้ เดม่อนจิ๊ปากอย่างหัวเสีย ที่ผ่านมาเวลาซีโร่อยุ่ใกล้เขาเขามักจะดึงจิตยมทูตออกมากลบไอปีศาจเลือดแท้ทั้งหมดที่อยู่ในตัวเขาเพราะรู้ว่านั่นไม่ใช่ผลดีกับซีโร่
“เอาไงล่ะพี่ข้า ถ้าไม่รีบเจ้ายมทูตนี่อาจจะสิ้นชีพจริงๆโดยที่ข้าไม่ต้องทำอะไรก็ได้นะ”
คำว่าทำที่ถูกเน้นทำให้เดม่อนเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องมีแผนอะไรในหัวแน่ๆ ผลกระทบของไอปีศาจของซีโร่นี่อาจจะเป็นเพียงผลพลอยได้ที่ไม่ได้คำนวณไว้แต่แรกก็ได้
“ข้าไม่ตายง่ายๆหรอกน่า”
ซีโร่พูดออกมาดังๆแม้บนใบหน้าของเขาจะพรุดพรายไปด้วยเหงื่อมากมายก็ตาม ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขารู้สึกคืออาการเจ็บแผล การอยู่ใกล้ไอปีศาจของเมลลาเวียร์มันทำให้เวทย์สมานแผลที่เรย์ร่ายไว้ค่อยๆคลายออกทีละนิด ทีละนิด...
“เจ้า...”
เดม่อนมองร่างซีโร่อย่างู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล จะบอกว่าซีโร่ได้รับผลต่อไอปีศาจของเมลลาเวียร์มันก็ใช่ แต่มันดุมากเกินไป หรือว่า...
“เมลลาเวียร์เจ้าได้ถือครองอำนาจการทำลาย?”
“ปิ๊งป่อง! ใช่เลยล่ะท่านพี่ ท่านพ่อมอบให้ข้าในตอนที่สามารถทำให้อลาวกลายเป็นปีศาจได้ ที่ผ่านๆมาข้าก็ไม่ได้ใช้อะไรเลย ดูแล้วมันก็ไร้ประโยชน์แต่เพิ่งมาเห็นตอนนี้นั่นแหละว่ามันมีประโยชน์ หึ”
เดม่อนชักใจไม่ดี เฟรนด์ที่อยู่ด้านหลังเองทำอะไรไม่ได้แน่ เทวดาเองก็คงไม่ถูกกับไอปีศาจในแดนนี้อีกฝ่ายคงทำได้เพียงป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกจับไปเพิ่งอีกคนเป็นพอ
“จะกลับดีๆหรือไม่ท่านพี่ น้องท่านอยากเจอองค์รักษ์ซาตานใจจะขาด”
เสียงเย็นๆเอ่ยพลางยิ้มเยาะมองยังทั้งสามคนก็ว่าแปลก รู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนคนเดียวกับที่เจอที่นิมธาร ในตอนนั้นมันมีแต่บรรยากาศที่อบอุ่นแต่ตอนนี้กลับเต็ทไปด้วยบรรยากาศชวนปวดหัว เดม่อนเองก็แปลกใจไม่น้อยถ้าเขาไม่ได้เจอเมลลาเวียร์มาก่อนที่ริมน้ำเขาคงคิดว่าอาจจะเป็นเวลาที่ทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนไป แต่นับจากตอนที่เขาเตออีกฝ่ายมาถึงตอนนี้มันยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ! เวลาแค่นั้นไม่น่าทำคนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เว้นเสียจะมีการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง
“ก็แล้วถ้าเจ้าไม่พูดแบบนั้นท่านเมลจะเป็นแบบนี้ไหม!! อย่ามาทำอะไรโง่ๆด้วยการโยนความผิดให้คนอื่นท่านเดม่อน!”
คำพูดของเรเวอร์เรียครั้งที่เจอกันล่าสุดดังขึ้นในหัวเดม่อน อย่าบอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะคำพูดไร้สาระของเขา...
“ตกลงท่านจะเอายังไง?”
เมลลาเวียร์เอ่ยออกมาอีกครั้ง ดวงตาสีแดงภายใต้กรอบแว่นเริ่มขุ่นเคืองจากการที่อีกฝ่ายให้คำตอบช้า
“หึ ถ้าท่านยังตอบช้าแบบนี้ข้าว่าอาจจะต้อวงเชือดยมทูตให้ปี เดม่อนตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่านสุดเสียง เขี้ยวสีขาวถูกฝั่งลงไปยังลำคอของซีโร่ ยมทูตผมดำไม่มีแม้แต่แรงขัดขืน รับรู้ได้เพียงความเจ็บปวดที่ต้นคอตนเอง น้ำตาคลอออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่รู้ตัว เฟรนด์อยากจะพุ่งเข้าไปช่วยอีกฝ่ายมากแต่สามารถทำแบบนั้นได้กลัวว่าเกิดเข้าไปเทลลาเวียร์อาจจะฆ่าซีโร่ทิ้งเสียทันทีก็ได้ เจ้าชายปีศาจค่อยๆเงยหน้าขึ้นพลางไล่เลียริมฝีปากอย่างกระหาย ดวงตาสีแดงภายใต้กรอบแว่นเรืองขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนจะหายไป
“อ่า...เลือดของอดีตเทพแห่งความตายนี่ไม่ว่าแบบไหนยังไง ก็อร่อยที่สุดจริงๆสินะ ตามที่ท่านอลาวบอกไว้ไม่มีผิด”
“เกี่ยวอะไรกับอลาว”
เฟรนด์เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย อลาวจะไปรู้รสเลือดของเทพแห่งความตายได้ยังไงอลาวเคยกินแต่เลือดของเขานี่?
“เอ๊า! นี่พวกท่านยังไม่รู้กันอีกเหรอ...หึหึหึ ท่านฟรานก็เป็นเทพแห่งความตายองค์ปัจจุบันสินะ”
คำพูดที่ดูไม้เชื่อมโยงกันแต่มันไม่พ้นสมองของเฟรนด์ ฟรานที่เป็นเทพแห่งความตายกับอลาวดี้ที่ลิ้มรสเลือดของเทพแห่งความตาย แปลว่อลาวกินเลือดของฟรานไป...
“เจ้า...เจ้ามันไม่ใช่เมลลาเวียร์ที่ข้าเคยพบ”เฟรนด์เค้นเสียงออกมา เขารู้แน่ว่าที่อลาวทำแบบนั้นมันต้องอยู่ในบงการของเมลลาเวียร์
“หึ! ท่านไปแน่ใจได้อย่างไรองค์ชายว่าข้าใช่หรือไม่ใช่ ท่านเคยพบข้ากดี่ครั้งกันล่ะฮึ?”
“แม้การพบกันของข้ากับเจ้ามันจะไม่มากพอให้ข้าใช้เวลาเข้าใจตัวเจ้า แต่ข้ามั่นใจว่าข้ามองคนไม่ผิด สวรรค์ไม่เคยมองแค่วันนี้แต่นังคงมองวันพรุ่งนี้และเมื่อวานเสมอ”
เฟรนด์ร่ายยาว นิมฝีปากบ้างเอ่ยคำพูดที่แลดูกำกวมยากจะเข้าใจในความหมาย แม้แต่ซีโร่ที่อยู่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กก็ไม่อาจเข้าใจได้
“หมดเวลาเสวนาภาษาฉันมิตร ตอบมาว่าจะไปหรือไม่ไป ท่านพี่?”
เดม่อนไม่ตอบคำถามของคนเป็นน้อง เขาเพียงจ้องอีกฝ่ายตาไม่กระพริบราวกับจะมองหาช่องทางเพื่อที่จะใช้ในการช่วยเหลือซีโร่ออกมาโดยไม่ต้องกลับไปเหยียบที่เก่าๆนั่นอีก
“ว่าไง?”
เดม่อนมองอีกฝ่ายอย่างเคย เพียงอีกฝ่ายแค่กระพริบตาเข้าก็เตรียมจะพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงที่เกินสายตาจะมองได้ เขาควรจะเข้าไปหาร่างนั้นแล้วดึงตัวซีโร่คืนมา แต่เปล่าเลย เพียงสามก้าวที่พุ่งออกไปร่างของเดม่อนดลับหยุดนิ่งราวกับโดนสาป ดวงตาสีแดงแสดงถึงความตกใจไม่น้อย เมลลาเดวียร์ระเบิดหัวเราะอย่างที่ไม่เคยแป็นมาก่อนออกมา
“ฮ่ะฮ่าๆๆๆ ท่านคิดว่าข้าตามความคิดเจ้าเล่ห์ของท่านไม่ทันเหมือนเมื่อก่อนกรือ พี่ข้า อย่ามาโง่เง่า!”
เมลลาเวียร์กระแทกเสียงที่ท้ายประโยค ดวงตาภายใต้เลนส์แว่นหนาเตอะยังคงมองอีกฝ่ายอย่างเชือดเฉือนราวกับไม่หลงเหลือความรักและความอาทรณ์ใจใดๆที่เคยมีอยู่เลย มองด้วยแววตาเช่นเดียวกับที่เดม่อนเคยมองเขาเมื่อการเจอกันครั้งแรกในรอบร้อยกว่าปี เขาอยากให้รับรู้ว่าการที่ถูกผู้ร่วมสายเลือดมองด้วยความว่างเปล่ามันเป็นเช่นไร?!!!
“ตอบคำถามข้ามาดีๆเทิดท่านพี่...ดูท่าซีโร่ตะไม่ไหวเอานะ”
“!!!!”
เดม่อนถลึงตามองเจ้าของคำพูดอย่างเจ็บแสบ วินาทีนี้เฟรนด์เข้าในดีเลยว่าตนเองไม่สามารถสอดมือเข้าไปยุ่งได้นอกจากการที่เป็นเรื่องของพี่น้องแล้ว เขาเองก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้เช่นกัน
“ยิ่งตอบข้าเท่าไหร่ โลหิตสีแดงนี่ยิ่งไหลอาบพื้นปัฐพีไปเรื่อยๆจนหมดไป...”
ดวงตาสีแดงชอนกับจากลำคอของซีโร่สู่ใบหน้าไม่สู้ดีของเดม่อน มันทำให้เมลลาเวียร์รู้สึก...เจ็บปวดอย่างไม่สามารถอธิบายได้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาเองโดนอีกฝ่ายทำให้บาดเจ็บ เข้าที่อยู่กับอีกฝ่ายมาตั้งแต่เล็ก แต่อีกฝ่ายกลับไม่แยแส ผิดกับร่างไอ้อ้อมแขนเขา กี่ปีกันเชียว...เพียงกี่ปีกันใยท่านใส่ใจมันเช่นนี้!!
“อั่ก!!!”
ซีโร่กระอั่กออกมาตามแรงบีบของมือเมลลาเวียร์ เจ้าชายปีศาจลำดับสองยังคงจ้องใบหน้าผู้เป็นพี่ไม่ยอมละสายตาราวกับว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายตายได้ด้วยสายตา
“เจ้ามันไม่ใช่น้องข้า”
“มันก็ไม่ใช่ตั้งนานแล้วนี่ ท่านเป็นคนตัดความสัมพันนั่นออกเองมิใช่หรือท่านพี่”เมลลเวียร์ยกยิ้มทั้งที่ในใจเจ็บปวด สองหูแว่วได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาแต่ไกล นัยน์ตาสีแดงตวัดมองชั่วครู่ก่อนตวัดกลับอย่างไม่เป็นที่สังเกต
“ตอบข้ามาซะ ยิ่งช้าเท่าไหร่เท่ากับท่านยิ่งเผาพลังชีวิตของซีโร่ไปมากเท่านั้น”
“ข้า....”เดม่อนมีแววชั่งใจ เข้ารู้สึกมั่นใจว่าซีโร่ต้องไม่เป็นไรแต่อีกใจกลับกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก
“ข้าจะ....”
“เดม่อน....ข้าขอร้อง..อึ่ก!! เดม่อน...”
ซีโร่เสียงอีกฝ่ายเสียงพร่า ดวงที่ดูอ้อนวอนไม่อาจตีความหมายได้ สภาพร่างกายคนตรงหน้าย่ำแย่เกินกว่าเดม่อนจะทนเห็นต่อไปได้อีก
“ข้าจะไปกับเจ้า เมลลาเวียร์”
เจ้าชายปีศาจลำดับที่สองแสยะยิ้มออกมาก่อนจะเสรมองร่างที่กำลังวิ่งมาทางนี้ทั้งสองร่าง
“ซีโร่!! เดม่อน!! เมลลาเวียร์ เจ้ามาที่นี่ได้ไงกัน!!”
ฟรานตะโกนสุดเสียงพยายามสุดฝีเท้าเพื่อจะไปให้ถึงอีกฝ่าย
“ไม่จำเป็นต้องตอบอะไรเพราะว่าข้าจะกลับแล้ว”
สิ้นสุดคำพูดนั้นร่างของเมลลาเวียร์และเดม่อนก็หายไปจากตรงนั้นทันที ทิ งไว้เพียงร่างของซีโร่ที่เกือบจะล้มพับโชคดีที่เรย์มาคว้าไว้ทัน นัยน์ตาสีฟ้ามองอย่างหวั่นๆก่อนจะเริ่มรักษาร่างตรงหน้าทันที
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?!!!”
ข้าตวาดเสียงลั่นก้องป่าที่เราอยู่ตอนนี้ นี่มันบ้าอะไรกัน?? แค่ไม่นานที่ข้ากับเรย์ไปไขข้อข้องใจเรื่องเดม่อนกลับมาก็ได้รับการยืนยันคำตอบเลยงั้นหรือ?? ถึงข้าจะมาไม่ทันที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ข้าก็มาทันพอจะเห็นว่าเดม่อนไปกับเมลลาเวียร์ นี่เขากล้าทรยศพวกข้างั้นหรือ!!!
“หยุดความคิดของเจ้าก่อนฟราน เดม่อนไม่ได้ทรยศ”
ท่านพี่เอ่ยเสียงเรียบก่อนดึงข้าให้นั่งลง ข้าตวัดสายตาแข็งๆมองท่านพี่อย่างลืมตัวก่อนจะคลายมันลงพลางผ่อนลมหายใจ
“ท่านหมายความว่าไง ก็เมื่อครู่ข้าเห็น”ข้าเอ่ยถามอย่างพยายามจะเย็นที่สุด พยายามไม่พูดออกไปว่าเกิดอะไรขึ้น
“เดม่อนไม่ได้จะไปกับเมลลาเวียร์ หมอนั่นมาบังคับให้เดม่อนไปด้วยเพราะเขาต้องการใช้พลังของเดม่อนในการตามหาเรเวอร์เรียที่หายไป”
“หายไป? หายไปไหน บ้าน่าอย่างเรเวอร์เรียนน่ะเหรอจะหนีเมลลาเวียร์ไป”
ข้าค้านอย่างไม่เชื่อหู คิดได้เพียงว่ามันเป็นข้ออ้างของใครสักคนไม่เมลลาเวียร์ก็ท่านพี่ ท่านพี่มองข้าก่อนถอนหายใจแผ่วๆ
“เมลลาเวียร์ไม่เหมือนเดิม...นั่นไม่ใช่ตัวตนของเขา”ท่านพี่กล่าวสั้นๆแต่ข้าพอจะเข้าใจอะไรๆดี
“เมลลาเวียร์กำลังคลั่ง”ข้าเว้นมองใบหน้าท่านพี่กับเรย์ ท่านพี่พยักหน้ารับเห็นด้วยก่อนข้าจะเอ่ยต่อ”ข้าไม่รู้ว่าเดม่อนกับเมลลาเวียร์ไปกระทบกระทั่งกันเรื่องอะไรในการพบกันที่นี่ ข้ารู้เพียงแต่เมลลาเวียร์แคร์เดม่อนมาก อาจจะด้วยการที่เห็นเดม่อนอยู่คนละฝ่ายกับเขาจึงคิดน้อยใจว่าอีกฝ่ายเกลียดตนเข้าให้ ยิ่งจักรพรรดิปีศาจให้ความสำคัญกับอลาวอีกมันยิ่งทำให้เขาคิดได้เพียงว่าอลาวคือต้นเหตุทั้งหมด ถ้าไม่มีอลลาวเสียคนเดม่อนคงจะไม่กลายเป็นศัตตรู และเขาคงจะได้รับความรักจากพ่อตัวเองมากกว่านี้”
ข้าอธิบายออกมาตามความคิดที่คิดได้ รู้สึกเหนื่อยและน้อยใจแทนเมลลาเวียร์แปลกๆ ท่านพี่กับเรย์เองก็นิ่งเงียบไม่เสนอความคิดเห็นด้วยหรือแย้งขึ้นมาข้าจึงเอ่ยต่อ
“เขาคงคิดว่าหากอลาวกลายเป็นจักพรรดิปีศาจไปเดม่อนก็คงจะกลับมาอยู่ที่นี่ด้วย และนั่นทำให้ผลไปตกอยู่กับ
อลาว อลาวกลายเป็นเพะรับบาปทั้งๆที่ไม่ได้ผิดอะไรเลย เมลลาเวียร์เองก็เปลี่ยนไปเรื่อบๆ เขาเริ่มเห็นแก่ตัว เริ่มไม่เห็นหัวใครมากขึ้น และยิ่งตอนนี้เรเวอร์เรียที่เปรียบดั่งสิ่งที่เป็นตัวตนสุดท้ายของเขาหายไป หมอนั่นเลยยิ่งเตลิดไปกันใหญ่”
“เราต้องช่วยเมลลาเวียร์”
“ซีโร่?”
ข้าเรียกออกมาด้วยความฉงน ส่วนท่านพี่เพียงมองอย่างเงียบๆแต่คนที่จะแปลกใจสุดคงเป็นเรย์ที่รักษาซีโร่อยู่
“เจ้าฟื้นขึ้นมาได้ไง?”
หน้าหมอนี่ตอนตกใจจี้เส้นแปลกๆแหะ
“เมลลาเวียร์ไม่ได้ทำร้ายข้ามากเท่าที่เห็น”ซีโร่ว่าเสียงนิ่งก่อนจะยกมือขึ้นลูบแผลที่ค่อยๆสมานตัวที่ลำคอฎเขาฝังเขี่ยวลงมาก็จริงแต่กลับไม่ได้ดูดเลือดข้าไปเลยสักนิด”
“แต่เจ้าทำท่าเหมือนจะตาย”
ท่านก็ตรงไปท่านพี่
“ที่เขี้ยวของเขามียาชาที่ทำให้ข้าอ่อนแรง เมื่อครู่ข้ากำลังจะพูดแท้ๆว่าเดม่อนอย่าไป ข้าไม่ได้เป็นอะไร มันฟังข้าที่ไหน”ซีโร่ว่าเสียงเซ็งๆแลดูไม่เครียดเท่าที่ควรจะเป็น
“เจ้าดูไม่เครียดเลยนะซีโร่”ข้าเอ่ยปากอย่างแปลกใจ
“ก็นะ...ข้าเข้าใจเหตุผลที่เมลลาเวียร์ทำทุกอย่างลงไป การที่ได้เข้าใกล้เขามันทำให้ข้าเข้าใจจิตใจของเขา บวกกับเดม่อนเองก็เคยเล่าเรื่องเมลลาเวียร์ให้ฟังบ่อบๆว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ เล่าไปยิ้มไป ข้าไม่คิดว่าทั้งสองจะเกลียดกันได้ลงหรอก สรุปแล้วตันเหตุทั้งหมดเรื่องนี้มันก็มาจาก...จักพรรดิปีศาจ”
ข้าพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเหล่มองซีโณ่อย่างแปลกใจ ทำไมซีโร่ที่ติ่นขึ้นมาลุกขึ้นมาเอ่ยสรุปเสียเฉยๆราวกับไปรู้เรื่องราวอะไรมางั้นแหละ มันต้องมีอะไรแน่ๆ ซีโร่ที่คงได้ยินความคิดข้าหันมามองก่อนพ่นลมหายใจพรืด
“ข้าไม่รู้ว่าท่านฉลาดหรือแค่ขี้สงสัย แต่ว่ามันก็มีอะไรจริงๆนั่นแหละท่านฟราน”ซีโร่ว่าก่อนจะเหล่มองทางพวกข้าทีละคน
“ตอนนท่านฟีเนอร์กับท่านอลันกำลังบุกมาที่โลกปีศาจ”
ซีโร่เอ่ยเสียงเซ็งๆแต่ข้านี่เบิกตาโพลงเลย
“อะไรนะ???”
“ก็นะ ราชาสวรรค์กับราชานรกกำลังมาที่นี่...ไม่สิต้องบอกว่าท่านอลันลากท่านฟีเนอร์มามากกว่า ดูท่ารายนั้นกำลังโมโหอย่างสุดๆเลย ตอนนี้ตามที่ได้ข่าวมาคือท่านอลันกำลังทำลายป่าของท่านอยู่นะท่านเรย์ หายไปครึ่งแถบแล้วมั่ง”ซีโร่ว่าน้าเสียแต่เรย์ยังคงยิ้มเจิดจ้าไม่เปลี่ยน
“ไม่เป้นไรข้าไปคิดบัญชีกับเจ้าหนูเอาก็ได้”
“คิดว่าจะต่อกรกับอลาวง่ายๆหรือไง?”ท่านพี่เฟรนด์ว่า
“ไม่ก็...คิดบัญชีกับลูกคนโตขององค์ฟีเนอร์”
องค์ฟีเนอร์ได้ยินแบบนี้แล้วดุเท่ห์ไปอีกแบบดิ๊พ่อข้า แต่ลูกคนโตนี่มัน...
“ข้าไม่เกี่ยว”ท่านพี่ว่าเสียงแข็ง
“แต่นั่นพ่อท่าน”
“นั่นไม่ใช่พ่อข้า”
ถึงกับตัดพ่อตัดลูกกันเลยเร๊อะ!! ข้ามองทั้งคู่ที่เริ่มทะเลาะกันอีกครั้งอย่างปลงๆก่อนจะหันกลับไปมองซีโร่ที่กำลังนั่งมึนๆอยู่
“แล้วเจ้ารู้เรื่องนี้ได้ไง?”
“ก็ตอนที่ใกล้กับเมลลาเวียร์ ไอของเขามันลบล้างไอในพื้นที่นี้หมดทำให้พวกสิบพ่อบ้านพอจะติดต่อข้าได้ เขาบอกให้ข้ารู้ว่าตอนนี้ท่านอลัยฃนลากท่านฟีเนอร์มาแล้ว และคงถึงในไม่ช้าแถมยังบอกว่าว่าไม่แน่พวกเขาจะตามมา....”
“...พรุ่งนี้ให้เตรียมตัวบุกปราสาทปีศาจแบบยกแก๊งค์ได้เลย”
+++++++++++++++++++++++++++TBC.++++++++++++++++++++++++ศาจดูเสียล่ะมั้ง”
“อย่า!!!!!!!!!!”
สิ้นเสียงของเดม่อนเมลลสเวียร์ก็ดึงซีโร่ที่เริ่มอ่อนแรงหันมาหาตนเอง ลมหายใจอุ่นๆไปคลอเคลียอยู่ข้างต้นคอของซีโร่ นัยน์ตาสีแดงเสรขึ้นมองเดม่อนอย่างยั่วยุก่อนจะฝังเขี้ยวสีขาวลงบนต้นคอของอดีตเทพแห่งความตายอย่างไม่ปรานี
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“ซีโร่!!!!!!!!”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++57%++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น