Knight Vs Queen! ศึกปราบเกรียน[อัศวินแด่ราชินี]
ตอนที่ 6 : 4th Round::Love sick(???)<rewrite.>
4th Round
Love sick(???)
รักที่จะป่วย.....(?)
“ดูจากอาการแล้วนะคะ จุดๆนี้ขอบอกไว้เลยว่าองค์ราชินีทรงประชวลอย่างแน่นอนค่ะ! ไม่ต้องเก้อเขินไปนะคะเข้ามาดูเลยค่ะ จากที่ดิฉันคาดคะเนนะคะ นะจุดๆนี้แล้วขอบอกเลยว่าอาการนี้เกิดจากการที่พระองค์ทรงเครียดสะสม ใช้พลังเกินตัว รวมทั้งอาจจะอาบน้ำนานเกินไปนะคะ...จุดๆนี้ต้องบอกเลยว่าควรให้พระองค์พักผ่อนสักสองถึงสามวันค่ะ!”
พระราชาและอัศวินทั้งสามคนกำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อประสบพบเจอกับคุณหมอพริตตี้ที่รายงานอาการป่วยของคนบนเตียงราวกับขายของหรืออะไรสักอย่าง หมอสาวสวยยิ้มให้ทั้งสี่คนก่อนจะขอตัวเดินออกไป พอคุณหมอสาวเดินออกไปทุกสายตาก็เบนกลับมามองคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง
“แอมไพร์”
ไอโรเรียกเสียงอบอุ่นแล้วเอามืออังที่หน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ ร่างบนเตียงขยับตัวหนีสัมผัสที่ดูเย็นชืดสำหรับเขาในเวลานี้แล้วมุดเข้าใต้ผ้าห่มอย่างโหยหาความอบอุ่น ไอโรทำปากยื่นก่อนจะหันไปหาอัศวินทั้งสามที่มองดูอยู่
“ดูท่าแอมไพร์จะเป็นหนัก แต่ข้าคงดูแลให้ไม่ได้ข้ามีงานต้องทำ”ไอโรพูดพลางถอนหายใจ
อัศวินทั้งสามถึงกับเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อเห็นราชาจอมลั้นลาทำหน้าเครียด ดูท่าแล้วองค์ราชาคงจะรักองค์ราชินีมากสินะ ทั้งสามคนคิดเป็นความคิดเดียวกัน
“ที่จริงงานพวกข้ามีเอกสารนิดหน่อย สองคนคงพอทำเสร็จ แต่ประเด็นคือใครจะไปและใครจะเฝ้า”
เคอร์รีสกล่าวก่อนมองไปที่เพื่อนร่วมงานอีกสองคน คาร์เรย์หันไปมองเลโอแล้วยักไหล่ จะให้ตัดสินยังไงเล่า
“ข้าจะไปทำงานเอกสาร ถ้าพวกเจ้าแยกกันไม่ได้ก็อยู่เฝ้าราชินีอยู่นี่แหละ”
เลโอทำท่าจะหันหลังเดินออกไปแต่กกลับถูกพระราขชาจับไหล่รั้งเอาไว้ ใบหน้าเครียดๆกลับมาดูลั้นลาและเจ้าเล่ห์ขึ้น เลโอเลิกคิ้วหนึ่งข้างพลางมองอีกฝ่ายเป็นเชิงตั้งคำถาม
“ข้าว่าเจ้าควรจะดูแลแอมไพร์นะ”
“ทำไม?”
ไม่รอให้ไอโรเว้นวรรค์หาข้ออ้าง เลโอถามทันทีทันใด แต่พะระราชาก็หาได้หน้าเปลี่ยนสีไม่ พระองค์ยังคงยิ้มร่าอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด
“หมอบอกแอมไพร์เครียด นั่นน่าจะมีส่วนมาจากการที่เจ้าเองไม่ยอมดีกับเขา หมอบอกแอมไพร์ใช้พลังเกินตัว นั่นเพราะเจ้าไม่ยอมช่วยแอมไพร์ตอนที่เซย์เนียลเจอปีศาจ ส่วนเรื่องอาบน้ำ...เพราะเขาคิดมากเรื่องเจ้าและอาจจะเหนื่อยสะสมจากเรื่องที่ไปสู้กับปีศาจ ดังนั้นเจ้าผิด เจ้าต้องดูแล”
เลโอมองหน้าคนที่พล่ามออกมาก่อนปัดมือที่ไหล่ออกอย่างไม่ใยดี จะมองยังไงในความคิดเลโอเจ้าตัวก็ไม่ผิด เรื่องที่อีกฝ่ายมาตามเขาก็ไม่ได้ขอ เรื่องที่สู้กับปีศาจอีกฝ่ายก็เสนอตัวเอง เรื่องอาบน้ำนั่นก็ทำตัวเองแท้ๆ
“ไร้สาระ”
“ไม่นะข้าว่า เจ้าน่ะหัดมีสัมพันธ์ไมตรีกับคนอื่นมั่งเหอะ”เคอร์ริสบ่นก่อนกอดอกมองหน้าอีกฝ่าย
เลโอมองหน้าเพื่อนร่วมงานที่พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนย้ายสายตาไปที่อีกคนหนึ่งที่เหลืออยู่โดยมีความหวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง แต่เปล่าเลย เขาไมได้รับความช่วยเหลืออะไรทั้งสิน ทั้งยังมีสีหน้าที่ไม่รู้ไม่ชี้ส่งกลับมาให้อีกแน่ะ
“สรุปหน้าที่เจ้า เลโอ! ส่วนพวกเจ้า คาร์เรย์ เคอร์รีส เจ้าทั้งคู่ออกไปทำงานเอกสารซะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเลโอสักนิด”
“ครับๆ”
สองอัศวินรับอย่างงงๆเมื่อไอโรเปลี่ยนโหมดเฉยก่อนเดินออกจากห้องไป ทันทีที่ทั้งคู่ออกไปเลโอก็เอ่ยปากถามไอโรทันที
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”เลโอที่สังเกตได้ถึงความผิดปกติของพี่ชายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่จริงจัง
“อื้ม...มีข่าววงในบอกมาว่ามีคนต้องการรอบฆ่าแอมไพร์”ใบหน้ายิ้มแย้มยังคงเป็นแบบเดิมเพิ่มมาก็แต่รังสีความไม่พอใจเท่านั้น
“ฆ่าองค์ราชินี?”
เลโอทวนคำก่อนจะเบนสายตาไปมองคนที่นอนหน้าแดงกร่ำอยู่บนเตียงนอนสีขาว เส้นผมสีม่วงแผ่สยายเต็มหมอนใบหนา หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงบางบอกถึงอัตตราการหายใจ
“ใช่...ข้าได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่วันแรกที่แอมไพร์มาที่วัง แต่เพราะช่วงนั้นแอมไพร์ยังปกติดีก็เลยน่าจะดูแลตัวเองได้แต่ว่าตอนนี้เขากลับมาป่วยซะนี่..”ไอโคปลายตามองร่างบนเตียงแล้วถอนหายใจ
“แล้วทำไมต้องเป็นข้า?”
“เจ้าก็รู้ในบรรดาคนทั้งหมดข้าไว้ใจเจ้าที่สุด เจ้าเท่านั้นที่ข้าจะฝากยอดรักข้าได้...”
ไอโรพยายามแสดงสีหน้าที่แสนจะจริงใจออกมาเพื่อไม่ให้เลโอจับได้ว่าตนกับร่างบนเตียงไม่ไดเป็นอะไรกันเลยนอกจากเพื่อน หรือเจ้านายกับองค์รักษ์
“แต่...”
“เลโอ...พี่ขอเถอะนะ”
ไอโรใช้ไม้ตายเมื่ออีกฝ่ายกำลังจะบอกปัดหรือกล่าวอ้างเหตุผลสาระพัดที่เจ้าตัวสามารถเอาออกมาอ้างได้
“ก็ได้ครับ”เลโอรับปากอย่างไม่เต็มใจ
“ดีมาก ฝากที่รักข้าด้วยนะ”
ไอโรกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มยินดีก่อนจะเดินออกนอกห้องไปอย่างสบายอารมณ์ อัศวินนภามองตามอีกฝ่ายไปจนสุดสายตาก่อนเบนกลับมามองที่ราชินี พิษไข้ทำให้อีกฝ่ายสงบเสงี่ยมไปถนัดตา ดวงตาปิดสนิทและดูหลับลึกราวกับไม่ได้หลับมาเป็นเวลานาน เลโอมองร่างบนเตียงก่อนเดินเข้าไปย่อนกายลงบนเตียงที่ยังว่างอีกมาก มือเรียวยกขึ้นวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของอีกฝ่าย
“อื้ม...”
เสียงครางในลำคอดังรอดออกมาก่อนร่างบางจะพลิกตัวหันหน้าเข้าหาร่างอัศวินหนุ่ม เรียวแขนร้อนรุ่มดังไฟกางออกเกี่ยวเข้ากับเอวของอัศวินนภาจนหน้าเหวอไปประมาณ0.5วินาทีก่อนจะกลับมาเป็นดังเดิม สภาพตอนนี้ถ้ามีคนมาเห็นแล้วเข้าใจผิดก็ไม่แปลก แอมไพร์ที่ยังหลับอยู่ฝังหน้าเข้ากับเอวของเลโอ สองมือโอบรอบเอวอีกฝ่ายเหมือนลูกลิง
“หนาว....”
“ท่านก็ห่มผ้าสิจะมากอดข้าทำไมกัน”อัศวินหนุ่มตอบเสียงเรียบ เขายังอุตส่าห์ตอบแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายละเมอก็ตามแต่
“เลโอ...”
เสียงที่คล้ายครางต่ำในลำคอแต่เจ้าของชื่อได้ยินชัดเจนว่าเป็นชื่อตน ใบหน้านิ่งเรียบหันกลับมามองคนผมม่วงที่ปรือตามองเขาอย่างยากลำบาก
“ตื่นแล้วก็ช่วยปล่อยเอวข้าด้วย”
แอมไพร์ทำหน้างงก่อนเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนทำอะไรอยู่จึงค่อยๆปล่อยมืออย่างว่าง่าย
“ขอโทษ”เด็กหนุ่มพลิกตัวไปนอนหงายก่อนเอาแขนข้างขวาก่ายหน้าผากเอาไว้พลางหายใจทางปาก
ปฏิกิริยาที่ว่าง่ายและนอบน้อมทำให้เลโอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ร่างสูงใช้ดวงตาเทาสวยสำรวจอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งว่านอกจากพิษไข้แล้วเจ้าตัวไม่ไดมีบาดแผลที่หัวหรือเปล่าถึงไปได้แปลกไปขนาดนี้
“อื้อ!”
แอมไพร์สะดุ้งเมื่อเลโอทาบหลังมือบนหน้าผากตนอีกหนก่อนมือที่ไร้เรี่ยวแรงจะปัดมืออีกฝ่ายออก เมื่อเห็นเลโอมองตนด้วยความไม่เข้าใจกึ่งไม่พอใจราชินีป่วยๆจึงเอ่ยเสียงแหบ
“เย็น...”
พอได้รับรู้สาเหตุจากคำพูดสั้นๆผิดวิสัยเลโอก็พยักหน้าเข้าใจ แอมไพร์ปรายตามองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะเลิกผ้าห่มออก
“ท่านจะไปไหน”
“ไม่รู้”
คำตอบที่ไดมาทำให้เลโอเริ่มปวดหัว แอมไพร์ยกมือกุมศรีษะเล็กน้อยก่อนพยุงตัวลุกขึ้น ขาเรียวห้อยจากเตียงลงไปแตะพื้นแต่กลับชะงักเมื่อเห็นสภาพตัวเอง
“ทำไมชุดข้า...”
“ไอโรเช็ดตัวให้ท่านไปรอบหนึ่งและเปลี่ยนชุดให้”เลโอตอบก่อนลุกขึ้นมายืนด้สนข้างอีกฝ่าย
“เจ้าบ้าเอ๊ย...”
เสียงแหบพล่าสถบด่าออกมาก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นในสภาพชุดนอนที่เหมือนกระโปรงที่ยาวถึงเข่า ร่างบางเดินโงนเงนเพราะในความรู้สีกของแอมไพร์โลกทั้งใบเหมือนหมุนคว้างไปหมด เท้าที่ย่ำลงพื้นสะเปะสะปะราวกับหันเดินก่อนร่างนั้นจะทรุดฮวบลงไป
“ราชินี!”
น้ำเสียงที่แสดงได้ว่าตกใจจากระดับความดังที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยออกมจากปากของเลโอก่อนเจ้าตัวจะพุ่งเข้าไปรับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาสีม่วงถูกปิดทับไปด้วยเปลือกตาบางไปแล้ว อัศวินนภาชอนตัวราชินีจอมดื้อขึ้นก่อนพาไปวางไว้ที่เตียงและห่มผ้าให้อีกครั้ง เขาส่ายหัวเล็กน้อยดูเหมือนว่าการดูแลแอมไพร์ครั้งนี้จะลำบากมากสำหรับเขาเสียแล้ว เมื่อมองจากรูปการแล้วแอมไพร์คงเป็นประเภทป่วยแล้วเอาแต่ใจเป็นแน่
“แล้วทำไมต้องเป็นข้าด้วยเล่า...”
“เลโอได้เว....”
ไอโรที่ลงทุนเอาข้าวต้มอาหารเช้ารวบกลางวันของแอมไพร์มาให้อีกฝ่ายด้วยตัวเองต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเลโอนั่งอยู่บนเตียงแถมยังมีโต๊ะตัวเล็กตั้ง มีกองเอกสาร และมือที่กำลังเขียนอะไรสักอย่างอยู่บนโต๊ะ....แล้วทำไมมีมือเดียว??
“เลโอทำไมเจ้าถึงจับมือแอมไพร์แบบนั้น!!!”
ไอโรร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าอีกมือของเลโอถูกแอมไพร์จับเอาไว้ทั้งยังเอาหน้าแนบด้วยซ้ำไป
“เบาๆสิครับ เดี๋ยวเขาก็ตื่น”
เลโอส่งเสียงตำหนิทั้งที่ตายังจ้องอยู่ที่เอกสารของตน พระราชาวางถ้วยข้าวต้มไว้ที่ข้างเตียงก่อนจะหันมากอดอกไตร่สวนน้องสุดที่รัก
“ตอบคำถามข้ามาก่อน”
“ก็แค่เขาละเมอ”
เลโอตอบสั้นๆไม่ทุกข์ร้อนใดๆเมื่อเรื่องมันมีแค่ไหนเขาก็ตอบแค่นั้น ไม่คิดหาข้อแก้ตัวหรืออะไรที่หนักแน่นกว่ามายืนยัน แต่ใจก็พลางคิดถ้าเกิดว่าพระราชามาเห็นเขาตอนที่ถูกแอมไพร์กอดเอวคงจะสติแตกอาละวาดวังถล่มแน่
“หรือเจ้ากับแอมไพร์จะ...”
“ก็บอกว่าแค่ละเมอ...”
เสียงเรียบๆเย็นๆเอ่ยสมทบอีกรอบก่อนจะมีสายตาเย็นเฉียบตามมาเป็นกำลังเสริมทำให้ไอโรเงียบปากสนิท ชามข้าวต้มถูกเขี่ยเข้าใกล้ๆเป็นเชิงเหมือจะบอกว่า”ฝากป้อนให้ด้วยและกันนะตัวเอง”ก่อนพระราชาจะเผ่นแผ้วออกจากห้องไปทันที
ยามดึกที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอที่เล็ดรอดออกมาจากปากเรียวสวย ดวงตาสีอเมทิตส์คู่สวยถูกซ่อนไว้ภายใต้เปลือกตาบางๆ แพรขนตายาวเรียงแนบอยู่กับพวกแก้มสีแดงระรื่นเพราะพิษไข้ ชายหนุ่มผู้บุกรุกยามวิกาลจ้องมองภาพนั้นด้วยหากหลายอารมณ์...แต่หาใช่อารมณ์เสน่หา
มือเรียวสวยราวกับรูปปั้นจากจิตรกรมือดียืนออกมาแตะที่หน้าผากกลมมนคล้ายตรวจวัดอุณหภูมิ เส้นผมสีน้ำเงินราวกับท้องฟ้ายามรัตติกาลพริ้วไสวตามสายลมบางเบาที่เข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ราวกับตามชายหนุ่มเข้ามาเพื่อยลโฉมร่างที่หลับอยู่ แม้จะไม่ใช่อิสตรี...แต่ความงามก็เลื่องลือไปไกลทั้งสามโลก ความงามที่มีก่อให้เกิดความลุ่มหลงที่แสนร้ายกาจ...แต่ไฉนเลยราชามนุษย์ถึงไม่รู้สึกตัวถึงอัญมณีเมล็ดงามที่อยู่ตรงหน้าและปล่อยให้สึกหลอ
“หรือข้าควรพาเจ้ากลับดี...หื้มตัวเล็ก?”
เสียงทุ้มพูดราวท่วงทำนองแห่งบทเพลง เนื้อความในคำพูดบ่งบอกถึงความเอ็นดูของผู้พูดที่มีต่อร่างบนเตียงได้เป็นอย่างดี มือเรียวเนียนสวยลูบเส้นผมสีม่วงเข้มราวผ้าไหมชั้นดีอย่างช้าๆก่อนจะก้มจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบา ไอร้อนซึมซัมผ่านริมฝีปากสีสวย ไม่ใช่เพียงแค่รู้สึกแต่ความร้อนนั้นกำลังถูกดูดเข้าสู่ร่างสูง เมื่อรู้ว่าน่าจะพอร่างนั้นก็ถอนริมฝีปากออกก่อนจะแลบลิ้นสีแดงสดเลียริมฝีปากตัวเองราวกับเพิ่งทานอาหารรสเลิศมาก็ไม่ปราน
“พิษไข้เองก็อร่อยอยู่นะ โดยเฉพาะของเจ้าแต่ข้าเองก็ไม่อยากกินมันบ่อยเท่าไหร่หรอก”
ร่างสูงพึมพัมคำพูดที่ราวกับจะสื่อถึงคนตรงหน้าให้ดูแลตัวเองบ้าง ทั้งๆที่สติของอีกฝ่ายยังอยู่อีกฟากโลกแห่งความฝัน
“ดูดีแลตัวเองบ้างก็ดีนะ....”
“ข้าว่าท่านควรดูแลตัวเองก่อนดีกว่า”
เสียงทุ้มไม่คุ้นหูดังขึ้นมาจากมุมมืดจนร่างสูงต้องเสตาขึ้นมองเพื่อระวังตัวอย่างรวดเร็ว แต่ผู้บุกรุก็ยังช้ากว่าอัศวินเจ้าของถิ่นอยู่ดี...
เลโอในชุดเครื่องแบบลำลองที่เป็นแค่เสื้อแขนยาวขาวกับกางเกงสีดำขายาว แขนยาวเหยียดตรงมาด้านหน้าทำให้ดาบในมือจี้เข้ากับลำคอของผู้บุกรุกอย่างพอดี ชายผมน้ำเงินที่ตอนแรกตื่นตกใจแต่ตอนนี้ใบหน้านั้นกลับฉายแววความเรียบเฉยเสียมากกว่า เขาไม่ร้สึกตื่นเต้นหรือตื่นกลัวทั้งที่มีดาบเล่มคมจ่อลำคออยู่ทั้งคนจ่อยังเป็นอัศวินนภา อัศวินที่เก่งกาจและเลื่องลื่อที่สุดในหมู่มนุษย์หรืออาจจะสามโลก...?
“ตัวข้าดูแลตัวเองได้แล้วใยข้าจะเผื่อแผ่มายัง...เพื่อนร่วมโลกไม่ได้เล่า ท่านอัศวินนภา”
“สิ่งใดกันทั้งบ่งชี้ว่าท่านสามารถดูแลตัวเองได้ทั้งที่มีดาบของข้าจ่อคออยู่”
“หากแต่เพียงข้าต้องการหลุดพ้นข้าก็ทำได้ง่ายดาย....และหากแต่ข้าจะฆ่าท่านก็ง่ายดายไม่แพ้กัน”
!!!!
เลโอรู้สึกราวกับเหมือนห้วงลมหายใจขาดวูบไปชั่วคราว นัยน์ตาสีเทาสวยเบิกโพลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเมื่อร่างที่อยู่ตรงหน้าอัตธานหายไปราวกับฝุ่นละอองและปรากฎตัวอยู่ด้านหลังเขาอย่างน่าทึ่ง! เสียงนุ้มนุ่มราวเสียงฮาร์ฟเสียงต่ำเอื่อนเอ่ยข้างใบหูราวกระซิบ ทั้งมือเรียวยังจ่ออยู่ที่ลำคอของเขาพร้อมมีดเล่มเล็กที่มองดูก็รู้ว่ามียาพิษคลืบอยู่ที่หากจะปลิดชีวิตเขาคงง่ายดายอย่างที่ร่างสูงว่า....
“แต่เสียดายที่ข้ามาเพื่อปกป้องตัวเล็ก”
ฉึก!
มีดเล่มเล็กถูกปาไปด้านหน้าอย่างแรงจนมันปักเข้ากับพื้นห้อง ตึงการเคลื่อนไหวของร่างที่เร้นกายอยู่ เงาที่ดูผิดธรรมชาติรีบถอนรูปกลับมาเป็นร่างระหงส์ในชุดดำสนิท เลโอหรี่ตามองอย่างพิจารนา ความจริงเขารู้ตัวได้ครู่หนึ่งแล้วตั้งแต่คราที่บุรุษปริศนาเอ่ยประโยคแรกกับเขา แต่ด้วยความที่คิดว่าทั้งคู่เป็นพวกเดียวกันทำให้เลโอคิดจะจัดการให้เสร็จเป็นคนๆไป แต่เมื่อครู่ทั้งการกระทำและคำพูดของร่างสูงทำให้เขาฉุกคิด...มาเพื่อปกป้องตัวเล็ก...ราชินีหรือ?
“เจ้ามีปัญหาอะไรกับตัวเล็กงั้นหรือ ใยจิตมุ่งร้ายถึงแรงกล้าเช่นนั้น”คำพูดราวบาทหลวงในโบสถ์คริสตจักรทำให้เลโอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“มันแย่งตำแหน่งที่นายข้าควรได้รับ! มันไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลก!!”
“ข้าอยากรู้จังว่าถ้าตัวเล็กมาได้ยินจะทำหน้าแบบไหน....แต่ทางทีดีข้าว่าไม่เสี่ยงดีกว่า”
สิ้นคำพูดชวนงงร่างสูงก็พลันหายไปจากด้านหลังเลโอทำให้อัศวินหนุ่มกลับมาหายใจได้ปกติอีกครั้ง พลันสายตาก็สังเกตเห็นร่างที่ราวกับวิหคโผลบินในห้วงอากาศปรากฎกลายขึ้นด้านหลังนักฆ่าสาวอย่างเงียบเฉียบและสง่างาม มือเรียวนั้นจับเข้าที่ลำคอร่างระหงส์เช่นเดียวกับเคยทำกับเลโอ ร่างกายของหญิงสาวสั่นเทาราวกับความกลัวเพิ่งเข้ามาเกาะกุมหัวใจ เลโอเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเมื่อเขาเพิ่งพบเจอมาในเวลาไม่นาน
“ทำไมนายเจ้าถึงเหมาะสมจะเป็นราชินีมากกว่าตัวเล็กล่ะ...หื้ม?”
เสียงครางในลำคอแทนคำพูดที่บ่งบอกประโยคคำถามกลายเป็นเอกลักษณ์หนึ่งสิ่งที่เลโอจดจำสำหรับชายคนนี้ไปแล้ว
“ก่ะ...ก็นายข้าทั้งสวย...สง่า และนางเป็นผู้หญิง! ราชินีที่ไหนเป็นผู้ชาย!”
“แล้วราชินีที่ไหนสั่งฆ่าคนกันเล่า? ประหลาดคนจัง”
เสียงทุ้มเอ่ยประโยคสุดท้ายก่อนเจื่อหัวเราะหน่อยๆคล้ายขบขันกับเหตุผลของอีกฝ่าย เล็บแหลมคมเลื่อนเข้าใกล้บริเวณที่น่าจะเป็นหลอดลมของหญิงสาวก่อนน้ำเสียงเรียบนิ่งดูไม่ทุกข์ร้อนหรืออาทรใจจะเอ่ยขึ้น
“จะเลือกกลับไปดีๆพร้อมชีวิตและวิญญาณ หรือจะเอาทั้งหมดทิ้งไว้ที่นี่กันล่ะครับ?”
ทันทีที่ไดยินคำพูดนั้นนักฆ่าสาวก็หน้าซีดเผือก นัยน์ตาที่แยกสีไม่ออกเพราะความมืดมิดเสมาทางเลโอเพื่อขอความช่วยเหลือ
“เสียใจที่ถ้าเขาไม่ฆ่าก็อาจะจะเป็นข้าที่ต้องทำ”
ในฐานะอัศวินผู้บุกรุกทุกคนคือศัตตรู ยิ่งเป็นคนที่หมายชีวิตราชินีด้วยแล้ว...แม้เขาจะไม่ยอมรับราชินีองค์นี้แต่หน้าที่คือหน้าที่ ไม่อาจขัดได้ ยิ่งไอโรฝากชีวิตแอมไพร์ไว้กับเขาด้วยแล้วยิ่งขัดไม่ได้เข้าไปใหญ่
“ข่ะ...ข้ายอมถอนตัวก็ได้”
มือเรียวของบุรษปริศนาค่อยๆผ่อนออกจากลำคอบางแต่ทันใดนั้นร่างบางก็พุ่งเข้าใส่แอมไพร์อย่างรวดเร็วเกินกว่าใครจะคาดคิดว่าหล่อนยังจะกล้าทำอะไรอีกทั้งๆที่ยมทูตทั้งสองพร้อมส่งมอบความตายให้หล่อนอยู่
“แต่ต่อเมื่อมันตายเท่านนั้น!!”
หมับ!
“เสียดายที่ข้ายังไม่อยากไปพบท่านยมในสภาพชุดนี้นะ”เสียงแห่บพล่าเอ่ยอย่างยั่วเย้าก่อนมือเรียวที่จับข้อมือที่มาพร้อมมีดเล่มบางจะบีบแรงขึ้นจนมันหล่นลงมาบนเตียงหนา
“ทำไมถึงอยากฆ่าข้านักหนา...ทั้งที่ข้ามั่นใจว่าหน้าของข้าสวยกว่านายเจ้าเป็นแน่”
“เจ้า!!!!”
เลโอมองแอมไพร์ที่ยันตัวขึ้นนั่งด้วยความแปลกใจหน่อยๆเพราะความที่มั่นใจว่าองค์ราชินีอาการหนัก แล้วทำไมคนอาการหนักถึงนั่งยิ้มสวยอยู่บนเตียงราวกับหายดีแล้วแบบนั้นเล่า แอมไพร์ยิ้มมุมปากที่เพิ่มเสน่ห์ให้เจ้าตัวชนิดที่ผู้มองอาจจะหลงใหลโดยไม่รู้ตัว
ดวงตาเรียวหรี่มองหญิงนักฆ่าอย่างพิจารนาก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงพล่าๆ”ทำมะ?”
“ทำไมเจ้าถึง...!”
มือเรียวอีกข้างยกขึ้นบีบใบหน้าอีกฝ่ายก่อนจะยื่นเข้าหาพร้อมยิ้มยั่วเย้า ดวงตาสีสวยสบเจ้ากับดวงตาคู่นั้นจนนักฆ่าสาวต้องเสตาหลบเพราะไม่อาจปฏิเสธเสน่ห์ที่ไร้ที่ติของอีกฝ่ายจากดวงตาได้
“เจ้าเองก็สวยใช่ย่อยนะ...แต่น้อยกว่าข้า”เสียงพล่ากระซิบข้างหูก่อนจะปล่อยมือจากใบหน้านั้น
“กลับไปซะ แม้ข้าจะไม่ชอบผู้หญิงขนาดไหนแต่ข้าก็ไม่อาจจะทำร้ายเพศแม่ได้หรอก!”
แต่อิสตรีที่ถูกกล่าวถึงกลับหากลัวไม่ หล่อนพุ่งตัวเข้ามาหมายจะชีวิตราชินีอีกรอบ แต่แล้วทุกอย่างก็พลันเงียบสงบเมื่ออยู่ๆนางก็กลายเป็นกบสีเขียวตัวเล็กกระเปี๊ยกเดียว แอมไพร์ส่ายหน้าก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินมาก้มเก็บกบน้อยแล้วโยนออกไปนอกระเบียงอย่างไม่ใยดี
“แต่กบเพศแม่นี่ไม่ต้องก็ได้มั้ง....”
ร่างบางเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เพียงอีกก้าวเดียวที่จะถึงเตียงร่างบางก็ทรุดฮวบจนเลโอต้องเข้ามาประคองทันที มือเรียวยกขึ้นกุมหัวตัวเองก่อนจะถูกพาไปนั่งที่เตียง
“แล้วอีกคน?”
“หือ?”
แอมไพร์ครางในลำคอเมื่อเลโอพูดออกมาแปลกๆ เขามองซ้ายมองขวาทั้งยังใช่สัมผัสจับแต่กลับไปไม่เจออะไรที่ว่า
“อีกคนอะไรเลโอ? เจ้าติดไข้ข้าจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง?”
“ก็...”
อัศวินหนุ่มกำลังจะหันไปชี้ที่ข้างเตียง แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าไม่เหลือไว้แม้แต่กลิ่นไอ เขามั่นใจว่าไมได้เพ้อไปเองแน่ในเมื่อลำคอของเขายังมีความกลัวตกค้างอยู่จนเผลอยกมือขึ้นลูบคออย่างไม่รู้ตัว
“คอ?...คอเจ้าทำไม หรือเจ้ามีแผล?”
แอมไพร์รีบพุ่งมาอย่างไม่ดูสังขารตัวเอง ผลที่ได้คือการล้มลงไปกองกับเตียงด้วยอาการหน้ามืด อัศวินหนุ่มส่ายหัวเบาๆก่อนยกขาที่ห้อยอยู่นอกเตียงของแอมไพร์ขึ้นไปบนเตียง
“นอน”
“ง่า...”
“อย่า”
“แต่...”
“ไม่”
“งื้อ”
ประโยคสนทนาที่ไม่รู้ทั้งคู่เข้าใจกันไปได้ยังไงถูกต่อยาวพอประมาณก่อนแอมไพร์จะเบ้หน้า
“นอนมากเส้นกดทับ เมื่อยนะเลโอ”
“แต่ลุกแล้วก็หน้ามืด”
“ครับ ข้าจะนอนเดี๋ยวนี้”
พอเจอเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอไปไม่นานแอมไพร์ถึงกับเป็นราชินีสิ้นลายรีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัวทันที
“คร่อกกกกกก ฟี้....ครอกกกกก”
“นอน...”
“ครับ! นอนแล้วนอน หลับ หลับปุ๋ย....นี่หลับเลยทีเดียวเชียวไม่ได้ตื่นอยู่เลย...”
“องค์ราชินี...”
“จ๋า...”
แอมไพร์เลิกผ้าห่มลงแล้วมองคนที่ยืนกอดอกมองตนด้วยสายตาอันเร้าร้อน....หมายถึงดุดัน ราชินีเบ้หน้าก่อนมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม
“เจ้าเองก็ไปนอนซะ ข้าไม่เป็นไรมากแล้ว”
แอมไพร์เอ่ยเชิงไล่ ซึ่งเลโอก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงไม่อาจหลับได้หากมีใครมานั่งจ้อง ยิ่งเป็นสายตาอย่างเขาด้วยล่ะก็
“ขอบคุณ....”
เสียงที่เบาบางราวกับมดกระซิบผ่านช่องแคบรอดผ่านเข้าหูเลโอได้อย่างแม่นยำก่อนประตูห้องจะปิดลง ริมฝีปากของเลโอกระตุกยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากก่อนที่พอเจ้าตัวรู้ตัวจะรีบยกมือแตะปากแล้วหุบยิ้มทันที
“ตัวเล็กจริงๆด้วย”
“ห๊ะ...”
แอมไพร์ที่กำลังมุดหัวเข้าไปในคอเสื้อร้องเสียงเบาแล้วหันมาหาคนที่นั่งไคว่ห้างจ้องเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อครู่ องค์ราชินีหันไปมองค้อนวงโตใส่คนที่วิพากษ์วิจารณ์รูปร่างเขาอีกครั้งในรอบเดือนกว่าๆที่รู้จักกันมา...ถึงเดือนหรือยังนะ?
“ทำไมกับหุ่นข้า?”
“ไม่ทำไม แค่สงสัยว่าจะปลิวหรือเปล่าถ้าลมมา”
“ต่อให้เอาไดโนเสาร์มาฉุดข้าก็ไม่ขยับเว้ย!”
“หรอ...”
!!!!!
แอมไพร์สะดุ้งสุดตัวเมื่อมือเย็นๆคว้าเข้ากับเอวของเขาแล้วออกแรงลากเขาไปใกล้ตัวเอง ทำให้แอมไพร์อยู่ในสะภาพใส่เสื้อไม่เสร็จแถมยังถูกอีกฝ่ายโอบเอวอยู่ รู้สึกแปลกๆชอบกล
“ทำบ้าอะไรเนี่ยห๊ะ?!!! ข้าไม่ได้พิศวาทเจ้านะเว้ย!”
“ก็เห็นบอกไดโนเสาร์ฉุดก็ไม่ไป...แล้วท่านไม่ชอบผู้หญิงไม่ใช่หรือ?”
“ก็เอาให้ตั้งตัวดิเว้ยเฮ้ย!!! แล้วเรื่องชอบไม่ชอบนั่น...เจ้าลองมาเป็นข้าที่โดนผู้หญิงนับร้อยวิ่งไล่ฆ่าเพราะหาว่าแย่งสามีพวกนาง แต่สุดท้ายพวกนางกลับแย่งกันจะเอาข้าเป็นสามีดูเซ่!!!”
แอมไพร์เปิดเผยความลับที่แม้แต่ไอโรเขายังไม่บอกแก่เลโออย่างหัวเสีย ที่ยอมบอกเพราะว่าอีกฝ่ายคงไม่ไปพูดต่อและคงไม่หัวเราะเยาะเขาแน่...อย่างน้อยก็ภายนอก
“เสน่ห์แรงจริงๆ”
“ก็เออนะเซ่!”
บางที่แอมไพร์ก็คุยจนลืมสภาพที่ตัวเองเป็นอยู่และอาถรรพ์ห้องแห่งนี้ไปเสียแล้ว....
“ท่านรา...ชิ..นี..ข้า..เอา...”
คาร์เรย์ที่เปิดเข้ามาอย่างอารมณ์ดีเพราะคิดว่าอีกฝ่านอนอยู่บนเตียงถึงกับชะงักเมื่อเห็นเพื่อนอัศวินตัวเองโอบเอวร่างขององค์ราชินีอยู่ แอมไพร์ที่เห็นแบบนั้นก็เข่าอ่อนทรุดลงไปบนตักเลโอพอดีเด๊ะ
“คาร์เรย์เจ้า....ทำ...เอ่อ...เอิ่ม...”
เหมือนเคอร์รีสจะได้มาเห็นในสถานการณ์ที่ดูดีกว่า....ล่ะมั้ง
“สรุปเจ้ากับองค์ราชินี...”
“ก็ไม่รู้สินะ”เลโอตอบหน้าตาย...แต่แอมไพร์ไม่เห็นแบบนั้น
“นี่มันอาถรรพ์บ้าอะไรวะเนี่ย!!!!!!!!!!!!!!”
แหมม ไม่มีปฏิเสธเลยนา 5555
ว่าแต่ใครกันนะที่มาแอบจุมพิศแอมไพร์