คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : เด็กสาวผู้อ่อนแอ
[เรเวน Taik]
"แว้กกกก!!"
"เรเวนทางนี่!!"เสียงของวินเลียนดังขึ้นมาเรียกให้ฉันวิ่งไปทางเค้า ฉันรีบวิ่งไปทางนั้นทันทีอย่างไม่ต้องคิดให้มากความ
"หน็อยแน่!!!บังอาจชุดสวยกว่าฉันงั้นหรอ!"คุณแม่กล่าวขึ้นมาอย่างโกรธเคื่องพาลบินไล่ตามฉันมาอย่างติดๆไม่คิดจะเลิกลา
"คุณแม่ หนูขอโทษ!อย่าไล่หนูเลย!=[]="ส่วนฉันก็ทำได้แต่ซอยเท้าวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตต่อไป เฮ้อ...มันเกิดเรื่องขึ้นย้อนกับไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว หลังจากที่จบเกมกับพวกเอ็มม่าเรียบร้อย แล้วฉันกำลังจะถามถึงที่มาของชุดเจ้าสาวที่ฉันใส่อยู่อย่างสงสัย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามตัวฉันก็ถูกวาปมานั่งรอในห้องรอเข้าเกมในรอบได้ทันที ซึ่งทั้งกลุ่มมีฉันคนเดียวที่เป็นผู้หญิง นอกนั้นก็มี วินเลียนที่นั่งหัวโต๊ะ จากนั้นก็คุณเควิลที่นั่งถัดจากฉันไป ส่วนคนสุดท้ายก็คือลักกี้กาย แล้วทันทีที่ฉันถูกวาปมาทุกคนในห้องก็พากันหน้าแดงกันไปหมด แน่นอนว่าฉันก็อาย ก็เลยได้แต่ก้มหน้าอยู่แบบนั้นจนเกมเริ่ม แต่เริ่มได้ไม่เท่าไหร่คุณแม่มิชิโกะก็พุ่งมาไล่ตีฉันทันที เพียงเพราะสกินชุดเจ้าสาวของฉันมันสวยกว่า จบการย้อนความ กลับมาที่ปัจจุบัน
'ผัวะ!'มีดสั้นถูกฟาดลงกลางหลังของฉันจนกระเด็นไปทางที่วิลเลียนยืนรออยู่พอดี
"เฮ้ย!ลุกไหวมั้ยเนี่ย"เค้ารีบเข้ามาถามทันที
"โอ็ย!@_@? ไม่อ่ะ ตอนนี้เห็นแต่ดาวลูกไก่เต็มไปหมดเลย"ฉันตอบไปอย่างมึนๆกวนๆทันที แต่เชื่อเถอะหมอนี้ไม่โกรธหรอก รู้ทันมุขฉันตลอดจนไม่อย่างเล่นมุขกันมันแหละ
"โอเค งั้นขอเสียมารยาทนิดนะ"เมื่อขออนุญาตเสร็จ เค้าก็อุ้มตัวฉันขึ้นมาอยู่ในท่าเหมือนอุ้มลูกรักบี้อยู่
"เฮ้ย!นี่คนนะ ไม่ใช่ลูกรักบี้=[]=!"ฉันทักทวนออกไปอย่างไม่ค่อยพอใจ
"เรื่องนั้นช่างเถอะ ตอนนี้รีบเผ่นเถอะแม่มานู่นแล้ว=_="เค้าพูดพลานมองไปด้านหลังที่ตอนนี้คุณแม่กำลังจะพุ่งเข้าใส่
"...งั้นวิ่งให้ไวเลย=A=^"เมื่อตกลงกันได้แล้ววิลเลียนก็พาฉันวิ่งหนีฮันเตอร์อย่างไม่คิดชีวิตทันที ในระหว่างก็ปล่อยให้พวกลักกี้ถอดรหัสกันต่อไปเพราะตอนนี้เหลือแค่เครื่องเดียวด้วย
"นี่ๆ นายคิดว่ามือเย็นวันนี้จะเป็นอะไร"
"ฉันคิดว่าน่าจะเป็นซุปเห็ดหอม ไก่อบ และมันบดอีกแหง"
"น่าเบื่ออ่ะอาหารเดิมๆ อยากรู้จังว่าใครทำอร่อยก็อร่อยอยู่หรอกนะ แต่เบื่อแล้วอ่ะ=-="
"จริง ฉันเห็นด้วย อย่างน้อยก็ช่วยเปลี่ยนจากซุปเห็ดหอมเป็นซุปข้าวโพดก็ยังดี กินจนกลิ่นตัวฉันจะเป็นเห็ดหอมแล้วนะเนี่ย"
"อี้~แหวะ ไม่คำเปรี่ยบเที่ยบที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง"
'ผัวะ!'ในขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น แม่มิชิโกะก็ฟาดมีดสั้นลงมาทำให้ต่างคนต่างล้มกันไปคนล่ะทาง หูย~ฟาดแรงเอาเรื่องเลยนะเนี่ย
"เอาล่ะ ฉันจะเป็นคนทำลายสถิติชนะของเธอเอง ยัยหนูเรเว---"
'หวออออ'ในขณะที่คุณแม่มิชิโกะกำลังได้ใจที่จะได้เป็นคนทำลายสถิตอชนะของฉัน เอาจริงๆฉันก็พึ่งรู้มาว่าถ้ามีฮันเตอร์คนไหนสามารถทำลายสถิติของฉันได้ก่อนจะครบร้อยจะได้รางวัลพิเศษด้วย ถึงจะไม่รู้ว่าคืออะไรแต่คงให้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะโชคดียังเข้าข้างฉันอยู่
"เห็นทีจะไม่ใช่วันนี้ค่ะ คุณแม่"
'ตึง!!!'
"เกาะแน่นๆล่ะ"เมื่อลุกได้แล้วฉันก็กดใช้สกิลให้แม่มิชิโกะติดสตั้นทันทีแล้วอาศัยจังหวะนี้เข้าไปอุ้มวิลเลียนเผ่นไปหน้าประตูอย่างไม่คิดชีวิตทันที โว้ยตัวหนักเป็นบ้าเลยไอ้หมอนี้=^=*
"เฮ้ย! แม่ตาแดงตามมานู่นแล้ว วิ่งให้เร็วหน่อยดิ!!=[]="วิลเลียนพูดขึ้นพลาสั่งให้ฉันเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น หน๊อยยย ทำเป็นเร่ง ตัวแกหนักกว่าใครเพื่อนเลยนะรู้ตัวป่ะ
"พูดมากว่ะ!เดี๋ยวทิ้งแม่งตรงนี้เลยนี่!" ฉันขู่ไปเสียงดังเพื่อที่จะให้ไอ้หมอนี้หยุดพูด แล้วตั้งใจหลบการโจมตีของมิชิโกะไปด้วย
"เรเวน!!ทางนี้!"หลังจากที่วิ่งมาได้สักพักเสียงของคุณเควิลก็ตะโกนรออยู่ตรงหน้าประตูทางออกที่เปิดไว้แล้ว เอาล่ะอ่กนิดเดียวเท่านั้น
"สู้โว้ย!!!"ฉันรีบเคนเอาแรงเฮื่อกสุดท้ายออกมาเพื่อไปให้ถึงประตู
"ไม่ให้ไปหรอก!!"เมื่อสิ้นเสียงของมิชิโกะ ก็วาปไปรอหน้าประตูหมายจะหยุดการเคลื่อนไหวทุกคนที่อยู่ ลักกี้ถูกตีล้มไปแล้ว แต่มาถึงจุดนี้แล้วหยุดไม่อยู่แล้วค่า=0=
"เควิลรับ!!"ฉันโยนนายกล้ามโตให้เควิลรับช่วงต่อแล้วตัวนายลักกี้ที่คลานอยู่ออกประตูไปทันที
[หลบหนีได้4คน]
'รอดแล้วโว้ยx4'
หลังจากที่จบเกมที่สามของวันก็เป็นเวลาเย็นพอดี แถมใกล้ถึงเวลาอาหารแล้วด้วยแต่ว่า...ฉันกลับไม่มีแรงแม้แต่จะหิวด้วยซ้ำ ตอนนี้เป็นอะไรที่โครตจะง่วงนอน ถ้าฉันไม่ได้นอนภายใน10นาทีนี้ เตรียมหามฉันเข้าห้องพยายามได้เลย ง่วงมากขอบอก= =
"เกมวันนี้ชนะได้เพราะเธออีกแล้วนะเรเวน^_^"ลักกี้
"อืม.."
"ดูไม่ร่าเริงเลยนะเหนื่อยแล้วหรอ"วิลเลียน
"ก็แหงน่ะสิ เล่นเกมติดกันสามตาแบบนี้ไม่เหนื่อยก็บ้าแล้ว ไหนจะต้องมาอุ้มนายอีก ไหล่จะหลุด"
"ถ้างั้นให้ผมช่วยนวดไหล่ให้เอามั้ย"เควิล
"ขอบใจที่อาสาแต่ไม่ต้องอ่ะ ฉันขอตัวไปก่อนล่ะ บาย"ฉันรีบตอบปฏิเสกไปแล้วขอแยกตัวไปทำธุระตัวเองทันที โดยเป้าหมายคือเตียงนอนที่ห้องเพื่อที่จะได้นอนหลับพักผ่อนแต่...
"เรเวน!"เสียงสดใสร่าเริงของเอ็มม่าดังไล่หลังมา เมื่อหันไปดูก็พบว่าเอ็มม่ากำลังเดินคู่มากับนาอิบที่มองตอนนี้จ้องฉันอย่างไม่เชื่อสายตา จ้องขนาดนี้เดี๋ยวตบให้ตาแตกเลยคอยดู=-=
"...มีอะไรเหรอเอ็มม่า...หวัดดีนาอิบ"ฉันเปิดประเด็นถามเอ็มม่าทันที แล้วหันไปทักทายนาอิบตามประสานเพื่อนซี้กัน
"หวัดดี...ว่าแต่ชุดนี้...สกินทองของเธอหรอ?"เค้าถามพร้อมมองตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ถั่วต้ม=w= สวยใช่มั้ยล่ะ โฮๆ"ฉันตอบไปอย่างมั่นหน้าพร้อมโพสท่าสวยๆทั้งที่ในใจโครตอายออกไป
"ไอ้สวยก็สวยอยู่หรอก แต่ว่าดันได้นกกามาใส่แบบนี้น่าเสียดายจะตายไป"แต่ก็ดันโดนล้อกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
"หน็อย=~=...ใช่ซิ~ก็ฉันไม่ใช่เอ็มม่านินาที่นายจะชมว่าสวยน่ะ"ฉันงัดไม้เด็ดที่อิไลชอบเอาเอ็มม่ามาอ้างกับฉัน แต่คราวนี้ฉันจะทำเป็นพาลพิงถึงเธอเพื่อดูท่าทีของนาอิบนิดหน่อยว่าจะมีอาการหน้าหรือเปล่า ซึ่งก็มีจริงๆตามที่คาด แหมๆพ่อหนุ่มน้อย=w=
"ฉันทำไมเหรอ?"เอ็มม่ากล่าวอย่างสงสัยที่อยู่ๆตัวก็กลายประเด็น ด้วยท่าทางใสๆของนาง
'ซื่อบื่อจังเลยลูกสาวฉัน...เอาเถอะ'
"ไม่มีอะไรหรอกเอ็มม่า อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาเลย"นาอิบเข้ามาปิดหูเอ็มม่าแล้วพาถอยห่างจากฉันจนน่าหมั่นไส้
'อ้าวๆ พูดงี้ สนใจตัวๆมั้ยล่ะไอ้คุณชาเขียว=*='
"..ว่าแต่เอ็มม่ามีธุระอะไรหรือเปล่า"ฉันเลิกที่จะไปสนใจนายหมาห่วงก้าง(?)แล้วหันไปถามประเด็นหลักของวันนี้จากเอ็มม่ามี่ตอนนี้อยู่ในอ้อนกอดอย่างไร้การขัดขืน หนูขัดขืนหน่อยก็ดี ดิฉันหวงค่ะ ก็ไม่ให้หวงได้ไง เอ็มม่าลูกรักฉันเลยนะจะบอกให้ ไอ้พวกตัวผู้ที่คิดจะจีบลูกรักฉันต้องให้ฉันสแกนก่อน(นาอิบผ่านการสแกนแล้ว ไฟเขียว1ต่อ0จ้า)
"อืม มือเย็นวันนี้เป็นอาหารฝรั่งเศสล่ะ ผู้ดูแลเค้าบอกว่า'เห็นทานแต่ของเดิมๆ'เลยจัดอาหารสุดพิเศษให้น่ะ แถมมีเนื้อซี่โคร่งซาดซอสสไปซี่ด้วยล่ะ"
"จริงดิx2!!"เมื่อสิ้นคำพูดของเอ็มม่าก็ทำให้ฉันกับนาอิบร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันเลย แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้สนใจแค่เรื่องข้าวเย็นก็พอ
"อืม เพราะงั้นเธออย่าลืมลงมาทานข้าวด้วยล่ะ อ่ะจริงสิฉันเห็นเธอไม่ลงทานข้าวเย็นตั้งหลายวันแล้วเป็นอะไรหรือเปล่า"ในขณะที่กำลังคิดถึงมือเย็นวันนี้ เอ็มม่าก็ถามถึงสาเหตุที่ฉันไม่ได้ลงมาทานข้าวเย็น
'เฮื่อก!...ชิบแล้ว กูจะตอบยังไงดีล่ะว่า เพราะเหนื่อยเกินไปจากการเล่นเกม พอหัวถึงหมอนแล้วหลับไม่รู้เรื่องเลยแถมน้ำหนักที่เบาอยู่แล้งก็เบาเข้าไปอีก แต่ถ้าตอบแบบนี้ไปเอ็มม่าจะเป็นห่วงหรือเปล่า แถไปเถอะ= ='
"อ่ะเอ่อ..พอดีช่วงนี้เบื่ออาหารน่ะก็เลยไม่ได้ลงไปทานข้าวด้วย ขอโทษนะ"ฉันแถนิดๆพลาเกาแก้มกลบเกลือบไปด้วย
"แบบนั้นต้องบอกคุณเอมิลี่ด้วยนะ จะได้ไม่เป็นอะไรไปซะก่อน"
"อืม...อ่อนี่ เอ็มม่าตอนนี้เหนื่อยมากเลย ขอตัวกลับห้องก่อนได้มั้ย"
"เอ๋? ขอโทษที่มารบกวนนะ พักเยอะๆล่ะ"
"จ้า^_^/"หลังจากที่คุยกันจบแล้วพวกเอ็มม่าก็แยกไปทำธุระของตัวเอง ส่วนฉันก็เดินกลับห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมากินข้าว และไม่ลืมที่จะเอาอาหารเย็นส่วนของสองหนุ่มผู้ไม่คิดจะเข้าสังคมกันเค้าบ้างอย่างอิไลและคาร์ล จริงๆฉันไม่คิดจะแย้แสเรื่องข้าวปลาอาหารของสองคนนั้นหรอกนะ แต่บังเอิญเจ้าไอริสและคุณเอมิลี่ขอร้องมา ฉันเลยต้องมาค่อยยกอาหารขึ้นไปให้
'ให้ตายสิ ไอ้เราก็ดันใจอ่อนซะด้ว---'
'วิ้ดดดด'ในขณะที่กำลังบ่นพร้อมกับเดินขึ้นบันได จู่ๆก็มีเสียงวิ้งดังขึ้นมาในหัว แล้วจากนั้น...ทุกอย่างก็...มืดลง
"เรเวน!!"
"เฮื่อก!!!"
"หมอคะ คนไข้ฟื้นแล้วคะ!!"ทันทีที่ฉันลืมตาขึ้นก็พบกับเหล่าพยาบาลและหมอหญิงที่ตอนนี้ยืนล้อนรอบเตียง แล้วตามตัวของฉันถูกเชื่อมต่อด้วยสายระโยงระยางเต็มไปหมด แล้วไหนจะเครื่องปั้นหัวใจอยู่ข้างๆนี้อีก
"!! โอ็ย!"ด้วยความตกใจฉันเลยเผลอเด้งตัวขึ้นจากเตียงแต่ก็ต้องนั่งกอดตัวเองเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาในตัวอย่างไม่ทันตั้งตัว
"คุณคะใจเย็นๆค่ะ อย่าขยับตัวกะทันหันไม่งั้นแผลจะเปิดนะคะ"หนึ่งในนางพยาบาลเข้ามาห้ามฉันไว้แล้วพยายามกล่อมให้ฉันใจเย็นๆ แต่ว่า...
"...อย่าเข้ามานะ!!"เมื่อมือของนางพยาบาลคนนั้นยื่นเข้ามาใกล้ ในหัวของฉันกลับมีภาพในอดีตที่แสบเลวร้ายผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ความรู้สึกหวาดกลัวต่อผู้คนของฉันกำลังกลับมาอีกครั้ง เลยทำให้ฉันเผลอตะโกนออกไปแบบนั้น ตอนนี้ฉันกลับไปเป็น 'เรเวนที่แสนขี้ขลาดและอ่อนแอ' อีกครั้งแล้ว
"คุณหมอคะ"นางพยาบาลคนนั้นหันไปเรียกแพทย์หญิงที่ยืนดูสถานการณ์อยู่อย่างใจเย็นก่อนที่ส่งกระดานอะไรสักอย่างให้นางพยาบาลอีกคนก่อนจะเดินเข้าจับไหล่ของพยาบาลที่ยื่นอยู่ไม่ไกลจากฉัน
"ตอนนี้คนไข้อยู่ในสภาวะตื่นกลัว แต่เราต้องห้ามใช้ยาระงับประสาทเด็ดขาด เพราะคนไข้รายนี้น่าจะโดนมาหนักพอตัว ฝากไปบอกญาติของคนไข้รออยู่ข้างนอกก่อนด้วย"เธอพูดก่อนที่หันมามองที่ฉันแล้วค่อยเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
"...อย่าเข้านะ!โอ็ย!..."ฉันสั่งห้ามอีกครั้งด้วยความกลัวที่เพิ่มพูมขึ้น ตัวฉันในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยที่หวาดกลัวคนแปลกหน้า
"ใจเย็นๆค่ะ คุณฟรอสต์ ไม่กลัวไปคะ ดิฉันอยากช่วยให้คุณหายดีนะคะ"เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงเป็นใยแล้วก้าวเท้าเข้าใกล้อีกก้าวหนึ่ง
".....มะไม่...ขอร้องล่ะ อะอย่าเข้ามาได้มั้ย..."ฉันตอบไปพร้อมน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว นี่มันเกิดขึ้นกันแน่ ทั้งๆที่คิดหายจากอาการกลัวคนไปแล้วแท้ๆทำไมถึงกลับมาเป็นอีกล่ะแล้วไหนจู่ๆก็กลับร่างเดิมได้ล่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลย
[เรเวน End]
ก่อนหน้านั้นที่คฤหาสน์
[อิไล Taik]
"เฮ้อ.."ผมถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ หลังจากที่เรเวนจะต้องไปเล่นเกมอีกตาหนึ่งแบบกระทันหัน ผมกลับมานั่งเล่นที่สวนของเอ็มม่าอย่างเคยชินเพราะปกติแล้วคนที่มักจะมานั่งตรงนี้เป็นประจำก็คือเรเวน เธอจะมานั่งเล่นตากลมเป็นประจำ หลังจากที่เล่นเกมเสร็จ แล้วผมก็จะมาด้วย...บางคนอาจจะสงสัยว่าผมจะมาด้วยทำไม สั้นๆนะว่า ก็ผมอยากมาด้วยแล้วจะทำไม? ขอผมที่พึ่ง'รู้ใจตัวเอง'หาวิธีใกล้ชิดในแบบของผมหน่อยไม่ได้หรือไง ไหนจะคู่แข่งที่อยู่ในตำแหน่ง'รูทเมท'อย่างคาร์ลนั้นอีก ในตายสิตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ผมต้องมาคอยระแวงว่าจะเรเวนจะไม่สนใจผมแล้วหันไปสนใจคนอื่นแทน
"ฮูก!!"ในขณะที่ผมกำลังนั่งกลุ้มใจอยู่นั้นเสียงของไอริสก็ดึงสติให้ผมกลับมาใจเย็นได้อีกครั้ง จริงสิเรเวนก็พูดเอาไว้ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้สนใจหมอนั้นไปมากกว่าเพื่อน รวมถึงผมด้วย อ้ากกกแล้วแบบนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ยถึงจะได้ใจเธอมา
"...ทั้งๆที่เคยผ่านความรู้สึกนี้มาได้แล้วแท้ๆ"ผมบ่นออกมาอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่ผมเคยคบหาดูใจกับผู้หญิงคนหนึ่งจนกระทั่งเคยขอหมั้นเอาไว้ก่อนด้วยแท้ๆ แต่ทำไมคราวนี้ถึงได้ยากกว่าเดิมนะ=-= หรือจะเป็นเพราะว่าเป็น'เรเวน'ถึงได้ยากขึ้น แต่ว่าไปแล้วผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวแต่ก็ดันเป็นฝ่ายไปผูกมิตรเองซะได้ ทั้งที่ เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยสุภาพ พูดจาไร้มารยาท ห้าว ไม่สมเป็นผู้หญิง ถึงแม้ว่ามุมที่อ่อนแอที่สุดจะดูน่ารักก็เถอะ โอเคอย่างอ่านมาข้างต้น ทุกคนคงจะรู้แล้วล่ะว่าผมแอบชอบเรเวนเข้าให้แล้ว เพราะงั้นไม่อย่ามาล้อผมในคอมเม้นเลย ไหว้ล่ะ (อ้าวๆกลัวเค้าแซวเหรอ=w=)
"ฮูก!!"ในขณะที่กำลังคิดไปเรื่อย ไอริสก็ร้องออกมาพร้อมทำท่าเหมือนจะดีใจอะไรสักอย่าง ให้เดา เรเวนกลับมาจากเกมแล้วแน่ ผมรีบลุกจากที่นั่งแล้วเดินไปยังประตูที่เชื่อมกับทางออกในเกม พอไปถึงก็พบกับพวกวิลเลียนกำลังเดินเข้าคฤหาสน์พอดี แต่ไม่เห็นเรเวนเลย แสดงว่าต้องเข้าในก่อนแล้ว ผมรีบเดินเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อหาตัวเรเวนทันที เพราะผมต้องการคุยกับเธอต่อจากในเกม
"อยู่นั้นไง"หลังจากเดินมาได้สักพักก็เจอเรเวนกำลังยืนคุยอยู่กับเอ็มม่าและนาอิบอย่างสนุกสนาม จริงสิผมพึ่งนึกออกว่าเอ็มม่าก็เป็นคู่แข่งที่ร้ายกาลพอตัว ทำไมน่ะหรอ ก็เรเวนจะให้ความสนใจกับเอ็มม่าอันดับแรกเลยน่ะสิ รองลงมาคือไอริสนกคู่กายของผมเอง ถึงจะเป็นผู้หญิงด้วยกัน แต่อย่างน้อยก็สนใจผมให้มันเท่าๆไอริสหน่อยก็ยังดีY-Y
"พักผ่อนเยอะๆนะ"เมื่อสิ้นเสียงของเอ็มม่าก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป จังหวะนี้แหละที่ผมจะเข้าไปคุยกับเรเวนให้รู้เรื่องไปเลย
"เร--!!"ในขณะที่กำลังจะเรียกชื่ออีกฝ่ายให้หันมา จู่ๆเรเวนก็มีท่าทางแปลกๆแล้วหลังจากนั้นก็ร่างบางนั้นก็หงายหลังลงมา
"เรเวน!!!"
ผมรีบเข้าไปรับตัวเธอทันที ก่อนที่จะร่วงถึงพื้นอย่างเฉียดฉิว แต่เรื่องน่าแปลกใจก็คือตัวเธอเย็นเฉียบแล้วดูเหมือนว่ามันจะลดลงเรื่อยๆเลย ไม่ได้การแล้วต้องรีบพาไปหาคุณเอมิลี่เดี๋ยวนี้เลย
"แข็งใจไว้ก่อนนะ"ผมรีบอุ้มเรเวนไปยังห้องพยาบาลทันที
'ปัง!'
"คุณเอมิลี่!!เรเวนแย่แล้ว!!"เมื่อถึงห้องพยาบาลผมเลก็รีบเรียกหาคุณเอมิลี่ทันที โชคดีที่เธอกำลังเช็กยาและอุปกรณ์การแพทย์ของเธออยู่
"เกิดอะไรขึ้น!!"เธอร้องออกมาด้วยความตกใจแต่ก็ทำหน้าที่ของหมออย่างเต็มที่
"ไม่ทราบครับ เธอกำลังเดินขึ้นบันได แล้วอยู่ๆเธอก็เป็นลมล้มลงมาน่ะ"ผมรีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เธอฟังทันที ระหว่างนั้นคุณเอมิลี่ก็เช็กนู่นเช็กนี้จนกระทั่งเช็กชีพจร เธอก็หน้าเสียทันที อะไรกันทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยล่ะ
"...ชีพจรเธออ่อนมาก การทำงานในร่างกายก็เริ่มอ่อนลงเรื่อยๆขืนปล่อยไว้แบบนี้โดยไม่เครื่องมือแพทย์ที่ดีกว่านี้...เรเวนอาจจะตายได้"เมื่อสิ้นคำพูดของคุณเอมิลี่ ทุกอย่างรอบตัวผมก็เริ่มเดินช้าลง ในหัวที่ว้าวุ่นเมื่อกี้นี่กลับโล่งไม่ความคิดใดๆอยู่หัวอีกเลย
"มะหมายความว่าไงหมอ...ตอนนี้เราเป็นตุ๊กตานะจะตายได้ไง"ผมพยายามตั้งสติแล้วทบทวนในสิ่งเป็นอยู่ ใช่เพราะผู้ดูแลบอกเราว่าเมื่ออยู่ในร่างตุ๊กตาต่อให้โจมตีจากฮันเตอร์นอกเกมเราก็จะไม่มีทางตายได้
[ถูกต้องค่ะ คุณอิไล พวกคุณเป็นตุ๊กตาต่อให้ถูกโจมตีนอกเกมก็ไม่มีทางถึงตายได้ แต่...คุณเรเวนไม่ใช่ค่ะ]ในขณะกำลังหาคำอธิบายให้กับตัวเองอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงของผู้ดูแลดังขึ้นมา
"ไม่ใช่...หมายความว่าเธอตายได้จริงเหรอ"ผมถามซ้ำอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงยกเว้นแค่เรเวนคนเดียวล่ะ
[ก็ไม่เชิงว่าตายได้จริงหรอกค่ะ เพราะคุณเรเวนชีวิตของเธอแขวนอยู่เส้นด้ายมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก]
"....เส้นด้าย..."
[ค่ะ ชะตาชีวิตของคุณเรเวนจะต่างจากพวกคุณคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิ้ง น้ำหนักตัวเบากว่า และการถูกตีครั้งที่สองจากฮันเตอร์หลังบาดเจ็บที่ไม่ได้เกิดจากการตีของฮันเตอร์เองแล้วหมดสติไป นั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นกับตุ๊กตา ยกเว้นแต่ตุ๊กตาตัวตายตัวแทนอย่างคุณเรเวนเท่านั้น ถ้ายังไม่เข้าใจก็เชิญรับชม]
'อย่าเข้านะ!!'อยู่ๆก็มีภาพฉายขึ้นมากลางอากาศ ปรากฏร่างของหญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มกำลังนั่กุมหัวตัวสั่นอยู่ตรงมุมห้อง เธอใส่ชุดคนไข้มีสายระโยงระยางติดตัวเต็มไปหมด แต่ว่า...เมื่อพอเธอเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าที่แสนคุ้มเคยกำลังแสดงสีหน้าออกมาอย่างหวาดกลัวสุดขีด ดวงตาสีส้มที่แปลกประหลาด แต่ผมก็รู้ได้เลยว่านั้นคือ เรเวน ที่ชอบคุยจากวนประสาท แต่ในตอนนี้มันต่างออกไปราวกับคนละคนกัน
[เรเวน ฟรอสต์ อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะสัตวแพทย์ปี1 เป็นคนเข้ากับคนง่ายยิ้มแย้มรักในเสียงดนตรี อาชีพ นักดนตรีกลางคืน นี่คือสิ่งพวกคุณทราบกัน แต่ว่าเบื้อนลึกแล้วคุณเรเวนเธอเป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิดและโรคกลัวสังคมค่ะ ชนิดที่ว่า การกลัวสังคมของคุณคาร์ลยังน้อยกว่าเลยด้วยซ้ำไป] คุณผู้ดูแลอธิบายเพิ่มเติมให้พวกเราเข้าใจถึงอาการที่เรเวนกำลังพบเจออยู่
'อย่าเข้านะ...อึกอือ..'
"เรเวน..."
[ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากครอบครัวที่รับเธอไปอุปการะคนพวกนั้นใช้งานเธอยิ่งกว่าทาสเสียอีก ไหนจะตบตี เป็นที่ระบายความโกรธเกลียดคนในบ้านราวกับว่าไม่ใช่คน เรื่องนี้มีคนทราบแล้วหนึ่งคนเพราะเจ้าตัวเป็นคนเล่ามาเอง]
[ภาพที่พวกคุณกำลังชมอยู่นี้เป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกคู่ขนามหรือโลกที่เรเวนอยู่มาตั้งแต่แรกค่ะ]
"โลกของเรเวน งั้นเธอมาจากโลกอื่นงั้นเหรอ"คุณเอมิลี่พูดขึ้นมาเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ผมเองก็แทบไม่อยากเชื่อเหมือนกัน
[ถูกค่ะ คุณเอมิลี่ ส่วนสาเหตุที่เธอมาโลกนี้ได้ก็เพราะเธอถูกสิ่งที่เรียกว่ารถยนต์ชนเข้าให้ระหว่างที่กำลังเล่นเกม...ที่พวกคุณถูกบังขับไง]
[ด้วยเหตุนั้นวิญญาณของเธอเลยกระเด็นมาที่โลกนี้ แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของคุณเรเวนจะถูกดึงให้กลับเข้าร่างเดิมที่ใกล้ตายอย่างกระทันหันเลยทำให้ร่างกายของโลกนี้เข้าขั้นโคม่าแล้วใกล้ตายแทน]เธออธิบายต่ออย่างไม่เบื่อหน่ายแถมท่าทางจะออกสนุกด้วยซ้ำไป
"แล้วมีวิธีดึงเธอกลับมามั้ย"ผมเอ่ยถามไปอย่างไม่แน่ใจ ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้เธอทรมาร อีกใจหนึ่งก็อยากให้เธอกลับมา
[...แน่นอนว่ามีอยู่แล้วว่า แต่ว่า....]คุณผู้ดูแลเว้นคำไว้ยาวก่อนที่จะปรากฏร่างกายมาให้เห็นแบบตัวเป็นๆ
"การดึงวิญญาณไปมามันจะให้เกิดการเสียหายที่วิญญาณของเธอบางส่วน และร่ายกายทางฝั่งนั้นหรือก็คือถ้าเราดึงวิญญาณของเธอกลับมา เรเวนที่คุณรู้จักและหลงรักอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วร่างกายที่อยู๋โลกนั้นจะไม่มีลมหายใจอีกเลย ถ้าทำแบบนั้นคุณก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าเธอไปครั้งหนึ่งเลยนะ"เธออธิบายถึงผลที่จะตามมาถ้าผมให้เธอดึงวิญญาณของเรเวนกลับมา แต่ค่าตอบแทนที่จะต้องจ่ายสูงเกินไปที่ผมจะตัดสินใจได้ ถ้าผมเลือกที่จะให้เรเวนกลับมาแล้วไม่เหมือนเดิม ผมจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปมั้ย
"...ข้า.."
"อิไล!!ทำแบบนั้นไม่ได้นะ ถ้าทำแบบนั้นแล้วเรเวนจะดีใจงั้นเหรอ"ในขณะที่ผมจะเลือกคุณเอมิลี่ก็พูดเตือนสติของผมเอาไว้ ก็จริงถ้าเกิดผมให้เธอกลับมาแต่เป็นการทำให้ชีวิตที่โลกนั้นจบลงเหมือนกัน
"ใช่ค่ะ ทำไปใช่ว่าเธอจะดีใจ แล้วอีกอย่าง สัญญาที่เรเวนทำไว้กับฉันรางวัลจริงๆของเธอคือ พร ที่ขอได้ทุกอย่าง ต่อให้เสียร่างกายนั้นไปก็ตาม แต่ ในเมื่อเธอกลับเข้าร่างกายเดิมไปแล้วสัญญาคงต้องยกเลิ---"
'หมอ คนไข้สลบไปแล้ว!!'
'รีบพาขึ้นเตียงแล้วใส่เครีื่องช่วยหายใจเร็ว!!'ระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่นั่นเสียงนางพยาบาลและคุณหมอทางนั้นก็เริ่มวุ่นวายขึ้นมาทันที เรเวนที่ยืนสั่นอย่างหวาดกลัวอยู่ๆก็สลบลงพับไปเลยอย่างไม่มีสาเหตุ
"...โห~ดวงแข็งใช่ได้นะเนี่ย..แบบนี้สิถึงจะสนุก เรเวนจะตื่นมาภายในห้านาทีที่เหลือก็ลุ้นกันเอาเองว่าเธอจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า บ๊ายบาย~"เมื่อพูดผู้ดูแลก็หายไปตัวไปในทันที ส่วนคุณเอมิลี่ก็เข้าไปดูว่าเรเวนมีอาการอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
"จังหวะการเต้นของหัวใจตามมาปกติแล้ว"เมื่อตรวจเสร็จเธอก็หันมาบอกผมด้วยท่าทางที่โล่งอกไปเปาะหนึ่ง ผมเองก็ด้วยดีใจที่เรเวนกลับมาแล้วก็รู้สึกผิดนิดๆที่ในความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ทีนี้ก็เหลือแค่มาลุ้นกันว่าเรเวนจะเป็นเรเวนคนเดิมหรือเปล่า
"อะ...โอ็ยยย....."สักพักเรเวนก็ลุกขึ้นมาร้องโอยโอ๊ยพลากุมหัวข้างหนึ่งเหมือนปวดหัวนิดๆหน่อยๆ
"โอ้!ขอบคุณพระเจ้าเธอฟื้นแล้ว!!"คุณเอมิลี่เข้าไปกอดด้วยความดีใจ แต่ยังไม่ทันเดินเข้าไปเรเวนก็มีท่าทีแปลกๆ
"อะ! อ้าย!"จู่ๆเธอก็มีสีหน้าหวาดกลัวมากๆ แววตาที่แสดงออกมาถึงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
"เรเวน..เธอเป็นอะไร นี่ฉันเองเอมิลี่ไง คุณหมอน่ะ"คุณเอมิลี่ที่ดูเหมือนรู้สึกว่าเรเวนแปลกไปก็พยายามพูดให้เรเวนเข้าใจ
"......."แต่เธอกลับเอาแต่เงียบแล้วยกมือป้องหูของตัวเองราวกับว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่ บางอย่างที่เรเวนไม่รู้จักแล้วมันทำให้เธอสับสน รวมถึงพวกผมเองก้เริ่มใจคอไม่ดีแล้วเหมือนกัน ขอร้องอย่าเป็นอย่างที่ผมคิดไว้เลย
"...เรเวน เจ้าจะมาเล่นมุกไม่รู้จักกันไปเลยน่า ข้ารู้ทันเจ้านะ เพราะงั้นเลิกเล่นได้แล้ว"ผมเดินตรงไปจับแขนของเรเวน โดยคิดไปว่านี่อาจจะเป็นมุขที่เรเวนชอบเล่นก็ได้ ผมเชื่ออย่างนั้น ถึงแม้ว่าแววตาที่สะท้อนออกมาจากดวงตาสีน้ำเงินนั้นจะไม่จะไม่ได้เสแสร้งเลยก็ตาม แล้วนั้นคือที่ผมกลัว...เธอกำลังลืมผมไป แล้วตอนนี้เธอกำลังมองผม คนแปลกหน้า
"ฮึก!!..!!"ทันทีที่ผมจับแขนเธอ เรเวนก็พยายามสะบัดแขนให้หลุดออกจากมือผมจากนั้นก็ฝืนลุกไปอยู่อีกมุมห้องอย่างหวาดกลัว ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่ว่า เรเวนในตอนนี้ไม่เหมือนเรเวนที่พวกเรารู้จักเลย
"เรเวน..."คุณเอมิลี่เอ่ยชื่อของอีกฝ่ายอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เบาลงและเป็นห่วงอย่างมาก ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปดี เรเวนในตอนนี้ดูเหมือนกับเด็กที่หวาดกลัวทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
--------ขอจบตอนแค่นี้-----------
กราบสวัสดีพวกรีดเดอร์ทุกคนที่ตามนิสัยเรื่องนี้ ตอนนี้ก็ไม่อะไรมากหรอกแค่จะมาพูดอะไรเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างแรกเลยที่ไรต์จะพูดก็คือ....ไรต์ขอโทษที่หายไปตั้งหลายวัน เพราะไปคิดแต่งนิยายเรื่องอื่นแต่ตัน!! อาจจะมีบางคนรู้อยู่แล้วว่าตอนเปิดเรื่องช่วงแรกๆเราจะอัพครึ่งตอน เวลาเที่ยงหรือบ่ายแล้วจะมาอัพอีกครึ่งตอน ก็เวลาเย็นๆหรือดึกๆ แต่มาช่วงหลังๆเราก็จะเริ่มวันหนึ่งครึ่งตอน สามวันอัพอีกครึ่งตอน ไปๆมาๆ หายไปสี่ห้าวันหรือต้องทวนกันก่อนถึงจะอัพ ก็อยากให้เข้าใจนะว่าเราทำงานกะบ่ายเลิกเที่ยงคืน นอนตี2-3 หรือตี5ก็เคย ตื่น11โมง เวลาจะมานั่งเขียนก็น้อยนิด แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีนัก= =เพราะหมดนี้ก็ทำตัวเองล้วนๆ เราขอโทษที่มาอัพช้าสั้นอีก ดีไม่ดี ครึ่งตอนหลังเนี่ยเขียนออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก แต่เราก็พยายามแล้วนะ เพราะงั้นต่อตอนไปอาจจะต้องรอไปอีกหลายวัน ขอโทษล่วนหน้าเลย-
ปล.แล้วก็เดือนหน้านี้ไรต์ก็จะได้เป็นพนักงานประจำแล้วเย้~
ความคิดเห็น