ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Identity V ] ทะลุมิติสุดป่วน วิ่งสู้(รัก)ฟัด ( OC&Prophet )(รีไรต์นิดหน่อย)

    ลำดับตอนที่ #3 : หนึ่งมุมของอีกาขี้กลัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.79K
      217
      24 พ.ย. 61

    [Raven Taik]

    "เอ็มม่า~"ฉันพุ่งเข้าไปกอดเอ็มม่าทันทีที่เธอเข้ามา

    "อ้าวๆ เป็นอะไรอีกล่ะ"เธอถามด้วยความอยากรู้ อือๆ ก็อีกฟ้าผ่าเจ้ากรรมเจ้าเวรบ้านั้นน่ะสิ ดันมาผ่าใกล้ๆแถวนี้ เลยทำให้ฉันเห็น'อดีต'ที่แสนจะเลวร้ายนั้นอีก ความรู้สึกกลัวทำเอาฉันแทบจะช็อกตายอยู่แล้ว ดีนะที่ได้เจ้านกฮูกของอิไลเรียกสติกลับมา ไม่งั้น เรื่องมันจะไม่จบแค่อิไลให้อาหารนกแบบนี้หรอก (พูดแบบนี้ต้องสื่ออะไรย่ะ)

    "อือๆ...วันนี้ขอนอนด้วยคนได้มั้ย"กอดเอ็มม่าแน่นพลานขอไปนอนด้วย บอกเลยว่า ฉันกลัว'เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า'ที่สุดแล้ว และเวลาฉันกลัวอะไรมากๆมีทางเดียวที่จะทำให้ฉันหายกลัวได้นั้นก็คือ....กอดไงศัศ ชนิดที่เรียกว่า'เกาะ'เป็นลิงเป็นข้างเลย= =จะเป็นสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิต ขอแค่อยู่ใกล้ๆในระยะที่ให้ฉันเกาะได้จะเป็น'ใคร'ก็เอาหมด ฟังดูเหมือนอ่อยเลยว่ามั้ยถ้าคนที่อยู่ใกล้ๆเป็นผู้ชายน่ะ= =

    "...เธอกลัวเสียงฟ้าร้องหรอ"เอ็มม่าถาม

    "อืม(. .)(' ')(. .)"ฉันรีบพยักหน้ารั่วๆจนหัวแทบจะหลุด 

    "ก็ได้ ถ้างั้นคุณเอมิลี่ คุณอิไลพวกหนูขอตัวก่อนนะคะ"เอ็มม่าตอบตกลงพร้อมกล่าวลาผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนที่เดินออกไปจากห้องโดยมีฉันที่ยังติดส่อยห้อยตามไปอย่างไม่ห่างแล้วหันไปโบกมือลาคุณเอมิลี่ แต่ว่าฉันรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไปในระหว่างที่ยังเสียสติอยู่....ตูลืมไรวะ?

    อีกด้านหนึ่ง ความในใจของอิไล
    '...ไม่คิดจะบอกลาผมเลย'

    ณ ห้องพักของเอ็มม่า

    "เชิญเข้ามาเลยจ้า"เสียงหวานกล่าวเชิญให้เข้าไปอย่างเป็นมิตร ฉันมองไปรอบๆห้องอย่างนึกสนใจโดยที่เอามืออุดหูเอาไว้อยู่ เพราะไอ้การหูดีเกินชาวบ้านชาวช่องมันให้ฉันรับรู้เสียงได้ดีกว่าและได้ยินเสียงฟ้าร้องที่ฉันไม่ชอบแทบจะตลอด>_<แบบนี้มันก็ไม่ไหวหรอกนะ

    "เรเวน เธอไหวมั้ย"

    "อ่า...อืมไหวอยู่แล้ว แต่ว่าห้องดูกว้างจัง"ฉันหันไปตอบ ก่อนที่จะพูดประมาณกึ่งชมกึ่งถาม ก็ไม่อะไรมากหรอกแค่ ก่อนหน้านี้ฉันนอนในที่แคบๆตลอดเลยเพราะมาเห็นห้องแบบนี้แล้วมันดูกว้างมากเลยสำหรับฉัน

    "กว้างหรอ?..นั้นสินะ มันก็กว้างเกินไปสำหรับเราจริงๆนั้นแหละ"

    "จริงสิ เธอคงเหนื่อยมากแล้ว อาบน้ำแล้วลงไปทานข้าวกันดีกว่า"เมื่อพูดจบเอ็มม่าเดินหายไปในห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมเสื้อผ้าท่ดูเหมือนจะเป็นของเธอเองมาให้ฉัน  เอ่อ.....ก็ไมไม่ได้อยากว่าร้ายอะไรเอ็มม่าหรอกนะ แต่ว่า...ฉันใส่ไซต์เธอไม่ได้=.= ขืนใส่ไปมันก็จะฟิดตัวพอดีสิ 

    "เอ่อ..เอ็มม่า คือฉันใส่ชุดเธอไม่ไหวหรอกนะ ตัวมัน...เล็กไปน่ะ"ฉันเกาแก้มไปตามนิสัยก่อนที่จะบอกเหตุผลไป

    "เอ๋?! อ่ะจริงด้วย ฉันนี้ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆนะ"เอ็มม่าอย่างอายๆก่อนจะเก็บชุดไปไว้ข้างหลัง อ่า~จะดูมุมไหนเอ็มม่าก็น่ารัก~~^_^

    "มะ---"

    'เปรี้ยง!'ในขณะที่ฉันกำลังเอ่ยปากพูด ก็ถูกเสียงฟ้าผ่ากลบไปอีกรอบ และรอบนี้ฉันก็ไม่ได้สติหลุดเหมือนคราวที่แล้ว แต่...สลบไปเลย

    'ตุ้ง!'

    "เรเวน!!"เสียงเอ็มม่าร้องขึ้นอีกครั้งก่อนที่ทุกอย่างมืดลงอย่างรวดเร็ว

    [นาอิบ Taik]

    "เอ็มม่าเนี่ยช้าจังนะ นาอิบนายช่วยไปตามมาหน่อยได้มั้ย"เสียงของมาธาร์ กล่าวดังขึ้นพร้อมหันใช้ผมที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เอาจริงๆก็อยากตอบไปว่า'เธอก็ไปเองสิ'เพราะผมไม่ค่อยอยากจะขยับตัวไปไหนแล้ว หลังจากที่เล่นเกมจบไปแล้ว ทั้งวิ่งทั้งช่วยคนอื่นเหนื่อยจะตายแล้ว แต่ก็ปฏิเสกไม่ได้อีกเดี๋ยวโดนเจ๊มาธาร์เล่นงานเอา=-=

    "ครับๆ"ผมขานรับก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปยังห้องของเอ็มม่าเพื่อที่จะลงมาทานข้าวด้วยกัน เอ๋...จะว่าไปแล้วยัยบูลฮาวาย(มีชาเขียว ชาดำ แล้วก็ แถมบูลฮาวายนิดหนึ่ง)นั้นดูอาการไม่ค่อยดีด้วยสิ คงจะนอนพักอยู่ที่ห้องพยาบาลล่ะมั่งนะ

    "คุณนาอิบ!"ในขณะที่ผมกำลังคิดเรื่อย อยู่ๆคนที่ผมจะต้องไปตามก็วิ่งพรวดพราดออกมาด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ

    "เกิดอะไรขึ้นหรอ!"ผมรีบเข้าไปหาและถามเธอทันที 

    "แย่แล้วค่ะ! เรเวน อยู่ๆเค้าก็เป็นลมพับไป"เอ็มม่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผมฟังทันที ด้วยท่าทางรีบร้อย แต่ว่า เรเวนเนี่ยใครกัน? อีกางั้นหรอ?
    ----------------แค่นี้ก่อนนะ------------------
    ---------------------ต่อเลย--------------------

    "ยังไงก็ช่วยเข้าไปดูหน่อยเถอะค่ะ"เมื่อพูดจบเอ็มม่าก็ดึงผมให้ตามเธอไปที่ห้อง พอมาถึงก็พบยัยบูลฮาวายนอนสลบอยู่ นี่มันเรื่องอะไรกันฟะเนี่ย= =^
    แต่ยังก็เถอะ รีบพายัยนี้ลงไปถึงคุณเอมิลี่ก่อนจะดีกว่า

    "เดี๋ยวฉันจะพาไปหาคุณเอมิลี่ เธอก็ตามไปเล่าเหตุการณ์ด้วยล่ะ"เมื่อพูดจบ ผมก็เข้าไปอุ้มคนที่นอนสลบอยู่ขึ้นมาเพื่อที่จะพาไปห้องพยาบาล

    'เอ๋?...ตัวเบากว่าที่คิดแหละ'

    5นาทีผ่านไป~~

    "เรเวน เค้าเป็นลมเฉยๆนะคงเพราะตกใจเสียงฟ้าผ่า"หลังจากที่พาถึง โชคดีที่คุณเอมิลีายังอยู่ เลยให้เธอดูอาการให้ แต่ไอ้การเป็นลมเพราะกลัวเสียงฟ้าผ่าเนี่ยมีด้วยหรอ? (อย่างนายไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขาหรอกนะ พ่อคนกลัวเสียงเครื่องยนต์)

    "แล้ว...เรเวนจะฟื้นเมื่อไหร่คะคุณเอมิลี่?"เอ็มม่าถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วง

    "ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่น่าจะประมาณเที่ยงคืนวันนี้หรือไม่ก็เช้าวันพรุ่งนี้"

    "งั้นหรอคะ..."

    "...ไม่ต้องห่วงไปหรอกเอ็มม่า ยัยนั้นอึดจะตายไปขนาดยังอุ้มฉันหนีแจ็คได้เลยนะ เพราะงั้นตอนนี้เราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า"ผมพยายามปลอบใจให่เอ็มม่าดีขึ้น ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องไป ซึ่งเธอก็ยอมมาทานอาหารด้วยแต่โดยดี แต่ว่ามันมีน่าสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง ตอนที่อุ้มมาที่นี้ตัวของยัยนี้เบามาก เหมือนตุ๊กตาเลย ถึงร่างกายของพวกเราจะเป็นตุ๊กตาเหมือนกันแต่ยัยนั้นกลับตัวเบากว่าแถมแววตายังเป็นแววตาของคนปกติด้วยยังไม่ใช่แววตากระดุมแบบพวกเรา

    'ยัยนี้เป็นใครกันแน่นะ'

    [เรเวน Taik]

    'ที่ไหนอีก(ฟะ)เนี่ย' ฉันบ่นออกมาอย่างสงสัยเพราะฉันดันตื่นในห้องโถงที่เก้าอี้ห้าตัวพังหนึ่งตัว ดูๆไปแล้วก็เหมือนห้องรอก่อนเข้าเกมเลย หรือว่าใช่ฟะ?
    แต่ก็เอาเถอะ คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าตื่นมากลางสนามแล้วโดนอีแจ็คผัวนาอิบตบจนหัวแตกอีกแล้วล่ะ= =

    'สวัสดียามราตรี'ในขณะที่กำลังย้อนความอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นข้างหู

    'แว้กกก!'ด้วยความตกใจฉันเลยเผอลเสียงหลงแล้วเบี่ยงตัวไปทางอื่นจนตกเก้าอี้ ทุเรศจริงๆเลยฉันเนี่ย= =

    'คิคิคิ ยินดีต้อนรับ ท่านผู้เดินทางจากต่างโลก'เสียงนั้นกล่าวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ฉันลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ ไม่นานก็ปรากฏร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันคิดว่าจะเป็นมาคอสของเกมนี้ แล้วตอนนี้เธอน่าจะมาแนะนำอะไรฉันหรือไม่ก็ มาแหย่ฉันเล่นเฉยๆ แต่ถ้าเป็นอันหลังฉันไม่โอเคด้วยหรอกนะ เสียเวลานอน= =

    'คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า'ฉันถามไปอย่างไม่ค่อยเท่าไหร่ ถึงจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งๆที่ฉันพูดเองแท้ๆว่ากลัวผี

    'แหม~เข้าประเด็นเข้าเร็วจัง ไม่คิดจะถามอย่างอื่นเลยหรอ อย่าง~~คุณมาอยู่นี้ได้ไง อะไรประมาณนั้น'เค้าพูดออกมาด้วยท่าทีที่ดูขี้เล่น ก่อนที่จะเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ซึ่งดูแล้วนั้นไม่ใช่ประเด็นหลักที่เธอมาหาฉันแน่ ถึงสิ่งที่เธอพูดมาจะเป็นคำถามแรกที่ฉันรู้ที่สุดก็เถอะ แต่เอาไว้ตามหาคำตอบเองก็ที่หลังก็ได้ ไม่ซี(- -)

    'เอาจริงๆก็มีเรื่องอยากถามเยอะแยะเลย แต่ไม่เอาอ่ะ รีบเข้าประเด็นหลักของวันนี้เลยจะดีกว่า แล้วถ้ามีเวลาเหลือก็ค่อยถามก็ได้ อีกอย่างเวลาของฉันก็เหลืออีกเยอะ คำตอบที่ฉันอยากรู้ก็เดี๋ยวตามหาเอาก็ได้'ฉันตอบไปอย่างชิวๆไม่คิดอะไรมาก แถมยักไหล่ไปทีหนึ่งด้วย

    'เข้าใจสถานะการณ์เร็วจังนะ ก็ดี ดิฉันจะรีบคุยธุระเลยแล้วกัน'เธอพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเข้ามานั่งตรงข้ามฉัน

    'ก็ไม่มีอะไรมากแค่จะมาบอกว่าตัวคุณในตอนนี้กำลังนอนอาการโคม่าอยู่โรงพยาบาลในโลกของคุณ และร่างที่ๆคุณในตอนนี้เป็นร่างตุ๊กตาเสมือนที่ทางดิฉันทำขึ้นเพื่อคุณโดยเฉพาะ ทุกอย่างเหมือนร่างกาย มีเลือด มีเหงื่อ อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันได้หมด ยกเว้นแต่น้ำหนักที่เบากว่า เซอร์ในคฤหาสน์แห่งก็เป็นแบบเดียวกันแต่ของคุณพิเศษกว่าตรงที่น้ำหนักตัวที่เบากว่าเป็นสองเท่า แล้วดิฉันก็เตรียมห้องพักและข้าวของไว้ให้แล้ว'เธอเริ่มเกริ่มนำโดยใช้สินบนกับฉันมากเป็นพิเศษ แต่ไอ้นอนอาการโคม่าเนี่ย ฉันพอเดาได้อยู่แล้วล่ะ ถึงฉันจะซื่อบื่อแต่ไม่ได้โง่ดักดานนะ

    'ซาบซึ่งใจจริงๆ'ฉันแอบพูดประชดเบาๆพร้อมกอด อกไปพลานๆ

    'ไม่ต้องประชดก็ได้ค่ะ อย่างที่ทราบว่าร่างของคุณนอนอาการโคม่าอยู่ ความน่าจะเป็นระหว่าง เป็นตายของคุณอยู่ในระดับที่ความตายอยู่แค่เอื่อยค่ะ เพราะงั้นดิฉันเลยจะให้โอกาสคุณในการกลับไปยังที่ๆของคุณ'เธอตอบก่อนที่จะพูดเรื่องความน่าจะเป็นว่าเปอร์เซ็นการรอดของฉัน เอ่อ โดนรถสปอร์ตฝ่าไฟแดงแบบไม่แตะเบรกชนเข้าจังๆ แบบนี้ รอดไปนอนอาการโคม่าที่โรงบาลได้ก็โคตรปฏิหารแล้วย่ะ แต่เรื่องที่ฉันจะกลับไปยังโลกของตัวเองได้ อันนี้สิที่เรียกน่าสนใจ

    'จริงหรอ! เธอทำได้จริงหรอ!'ฉันถามออกด้วยความหวัง ถึงฉันจะชอบเล่นเกมนี้แต่ให้มาเล่นเป็ตัวละครขอบาย จะได้เงินเยอะแค่ไหนถ้าออกไปไม่ได้ก็จบจ้ะ

    'ค่ะ แต่ดิฉันก็ไม่คิดที่จะทำให้ฟรีๆหรอกนะคะ'เพล้งความหวังพังลงไปในพริบตา แหมของแบบนี้ก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนสินะ

    'เฮ้อ...แล้วต้องการอะไรล่ะ'เมื่อฉันพูด ใบหน้าของคนตรงหน้าเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ขึ้นนิดๆ ฉันรู้ได้เลยว่ามันต้องมีอะไรแอบซ่อมไว้สักอย่างแน่ สารนุกรมการเอาตัวรอดจากสังคมเห็นแก่ตัว ข้อที่1 อ่านเกมให้ทันแล้วเลือกเอาว่าจะเดินตามเกมหรือไม่

    'เล่นเกมค่ะคุณต้องเล่นเกมให้ชนะครบ100ครั้งรวดหรือไม่ก็ชนะและเสมอให้ครบ200ครั้ง เมื่อนั้นคุณจะขออะไรก็ได้ จะขอให้วิญญาณของคุณก็จะกลับไปยังโลกเดิมก็ยังได้'เมื่อสิ้นคำพูดก็ทำเอาฉันอึ้งไปแปปหนึ่ง จะบ้าหรอ ให้เล่นเกมเอาตัวรอดจากฆาตกรร้องสองครั้งเนี่ยยากจะตายไป= =

    'เป็นร้อยเลยหรอ!'

    'ค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะถ้าคุณสามารถร่วมมือกับเซอร์คนอื่นๆได้ดี ร้อยสองร้อยครั้งแปปเดียวก็ได้แล้วค่ะ...แล้วคุณจะตกลงมั้ยคะ'หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูขี้เล่นนิดๆก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นเยือกเย็นจนเห็นได้ชัด เอาแล้วไง นี่ฉันกำลังทำพันธะสัญญา
    กับปีศาจแน่นๆเลย แต่ว่าถ้ามองอีกมุมหนึ่ง....เดิมทีชีวิตฉันก็ไม่มีห่วงอะไรอยู่แล้วเพราะงั้น...

    '...มีสัญญาให้เซ็นมั้ยล่ะ'ฉันตอบออกไปด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง  ฉันจะเอาชนะเกมนี้ให้ได้

    'รู้ใจจังเลยนะ งั้นเซ็นเลยค่ะคุณอีกาแห่งความเย็นชา'ไม่นานนักก็กระดาษสีเหลืองทองและปากกาขนนกสีดำเหลือบม่วง ขนของนกเรเวน ปรากฏขึ้นต่อหน้า ฉันไล่อ่านไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลงมือเซ็นไปอย่างไร้ความลังเล และมีจุดหนึ่งที่ฉันแล้วยังอยากคิดใหม่ นั้นก็คือ ตราแห่งพันธะ ที่จะเป็นขั้นตอนต่อไปที่อ่านแล้วดูทรมาทเอาเรื่องแถมมีผลข้างเคียงด้วย

    'ว้าวพึ่งเคยเจอคนเซ็นสัญญาที่ทำหน้ามั่นใจแบบนี้เป็นครั้งแรก แต่ว่านะ คุณจะทนขั้นตอนต่อไปได้หรือเปล่านะ' เมื่อเซ็นเสร็จแล้วปากกาขนนกนั้นก็พุ่งเข้าพันรอบคอของฉันแล้วรัด....

    'แฮ่ก!ๆ'ฉันพยายามทนความทรมาทไปให้ได้อย่างสุดความสามารถ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลงไปพร้อมกับเสียงของผู้หญิงคนนั้น

    'คิคิ พันธะเสร็จสิ้น แล้วพบกันใหม่นะ'

    -------------จบตอน-----------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×