คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Black Candy : 15
Chapter : 15
“ต่อไปนี้ฉันจะมาเป็นเลขาฯ ให้คริสเองเพราะฉะนั้นฝากบอกเด็กของเธอด้วยว่าไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับคริสแล้ว!!”
เสียงตบโต๊ะบวกกับเสียงพูดที่ดังแหลมทำให้ทุกคนในแผนกต้องชะเง้อมองไปยังโต๊ะทำงานของลีอาห์ ที่ตอนนี้มียูอียืนอาละวาดด้วยเสียงที่ดังลั่นไม่เกรงใจใคร
“ไม่ต้องไปใส่ใจเขาหรอกยอลลี่ เดี๋ยวอีกสักพักก็ชิน” นานะหันไปบอกชานยอลที่กำลังมองเหตุการณ์ความไม่สงบ
“เขาเป็นคนขี้วีนหรอพี่?”
“อย่างที่เห็นนั่นแหละ กี่ปีกี่ชาติก็เป็นแบบนี้มาตลอดเลย” นานะบอกด้วยสีหน้าเอือมระอา
“ชินอะไรล่ะพี่ เจ๊แกจะมาอาละวาดหนูอะดิ”
“เออน่า ท่านรองไม่ปล่อยให้เขามาทำอะไรเราหรอก”
นานะบอกกับรุ่นน้องและนั่นก็ทำให้แก้มใสเริ่มแดงเหมือนลูกตำลึงสุก
“แหนะ! หน้าแดงงี้มีไรปะเนี้ย?”
นานะว่าพร้อมกับยิ้มล้อเลียนจนชานยอลต้องกลับไปก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
“เอาเป็นว่าเธอบอกเด็กของเธอด้วยก็แล้วกันว่าถ้ายังมียางอายอยู่ก็อย่ามายุ่งกับคู่หมั้นของฉัน!”
สงครามน้ำลายระหว่างยูอีกับลีอาห์ยังคงดำเนินต่อไปและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ
“เธอเห็นฉันเป็นนกพิราบหรอ? ทำไมเธอไม่ไปบอกน้องเขาเองล่ะ ได้ข่าวว่ามีปาก น่าจะบอกเองได้นะ”
ลีอาห์บอกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เธอคิดจะลองดีกับฉันใช่ไหมลีอาห์” ยูอีจ้องหน้าอีกคนอย่างเอาเรื่อง
“เธอคิดว่าฉันกลัวเธอหรอ....ยูอี”
ลีอาห์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานมาประจันหน้ากับยูอีตรงๆ
“หึ! ฉันจะให้คริสเฉดหัวเธอออกจากบริษัท!”
หญิงสาวยกยิ้มอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า แต่ลีอาห์กลับนิ่งเฉยราวกับไม่เห็นไพ่ในมือของคนตรงหน้าเลย ทำให้รอยยิ้มของยูอีต้องหายไป เปลี่ยนมาเป็นอารมณ์โมโหแทน
“เธอคิดว่าเขาจะทำตามที่เธอพูดหรอ?” คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย ตาคมจ้องมองยูอีอย่างท่าทาย
“เธอท่าทายฉันหรอลีอาห์!”
ยูอีกระชากแขนของทูตสวรรค์สาวอย่างแรง แต่ลีอาห์ก็ยังมีท่าทีที่นิ่งเฉยเหมือนเดิมก่อนจะดึงแขนของตัวเองกลับไป
“ไม่ได้ท่า....แต่ถ้าคุณอยากลองฉันก็ยินดี” รอยยิ้มเย็นยะเยือกถูกวาดขึ้นบนใบหน้าของลีอาห์
“คุณมาทำอะไรทีนี่!”
“เอาแล้ว~ เดี๋ยวได้เห็นภาพกีฬามันส์ๆแน่เลยเว้ยยย”
พนักงานสาวเจ้าแห่งการนินทากระซิบกับบัดดี้เมื่อมีบุคคลที่สามปรากฏตัวขึ้น
“คริส! คุณเตรียมหาหัวหน้าแผนกคนใหม่ได้เลยนะ เพราะดูเหมือนคุณลีอาห์คงจะไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว”
ยูอีบอกกับหนุ่มร่างสูงพลางปรายตามองลีอาห์
ร่างสูงมองไปที่ลีอาห์หมายจะถามถึงที่มาของเรื่องราว แต่กลับถูกอำนาจที่ส่งผ่านสายตาคมนั่นครอบงำให้เขาพูดในสิ่งที่ทูตสาวต้องการแทน
“แต่ผมว่าคุณน่ะควรกลับไปได้แล้ว”
“ฉันไม่กลับ! เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปฉันจะมาเป็นเลขาฯให้คุณ!”
ระดับเสียงของหญิงสาวเพิ่มขึ้นตามอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่น
“คุณไม่ต้องลำบากหรอกเพราะผมมีเลขาฯของผมอยู่แล้ว”
คริสบอกอีกคนกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ดังชัดเจน ทำให้ชานยอลที่นั่งทำงานอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุถึงกับสะดุ้งเมื่อตำแหน่งของตัวเองถูกพูดขึ้นมา
“เอาแล้วไง หาเรื่องให้กูเดือดร้อนแล้วไง” ร่างโปร่งบ่นกับตัวเองเบาๆ
“หึ! คุณหมายถึงยัยเด็กนั่นน่ะนะ อย่าออกนอกหน้าให้มากนักนะคริส ฉันรู้นะว่าระหว่างคุณกับมัน เป็นมากกว่าเจ้านายกับเลขาฯ!!”
พลังเสียงของยูอีทำให้พนักงานในแผนกเริ่มหันมาสนใจสถานการณ์ในตอนนี้มากขึ้น นานะกับชานยอลหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่ในระหว่างนั้นลีอาห์กลับหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“หัวเราะอะไร!”
ยูอีหันไปขึ้นเสียงใส่ทูตสาว คริสได้แต่ส่ายหน้าให้กับกิริยาของคู่หมั้นตัวเอง
“ไม่สงสัย....ฉันไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เสียดายความสวยกับชาติตระกูล”
ลีอาห์บอกพร้อมกับยิ้มให้ แต่เพราะคำพูดจึงให้รอยยิ้มที่สดใสนั้นดูน่ารังเกียจในสายตายูอีไปในทันที
“นี่เธอ!”
“พอเถอะยูอี! คุณกลับไปก่อนไป เย็นนี้ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณเยอะแน่ๆ”
คริสคว้าขอมือของยูอีเอาไว้ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมุ่งเข้าไปหาลีอาห์
“เรื่องนี้ถึงหูแม่คุณแน่!”
หญิงสาวสะบัดข้อมือของตัวเองออกจากมือหนา ก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป พนักงานบางกลุ่มก็เริ่มจับกลุ่มนินทากันตามประสา ลีอาห์ยกยิ้มก่อนจะหันมามองหน้ารองประธาน
“ผมขอโทษแทนยูอีด้วยนะครับคุณลีอาห์” คริสก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อประกอบคำขอโทษ
“ไม่เป็นไร ลืมมันซะเถอะ ฉันว่าคุณรีบพาเด็กไปกินข้าวก่อนที่คนอื่นจะมาฉกตัวไปจะดีกว่านะ”
ทูตสาวบอกกับร่างสูงก่อนจะมองไปยังชานยอลที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“โอเคๆ เดี๋ยวออกไป.....ที่ไหนนะ?........ร้านเดิม?........ได้ๆ เดี๋ยวเจอกัน”
มีเรียวสัมผัสลงบนหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเก็บมันลงในกระเป๋าสะพายใบเก่ง
ลีอาห์ยิ้มให้คริสเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ร่างสูงหันไปมองชานยอลที่กำลังเก็บของลงกระเป๋าอีกครั้ง
“พี่นานะ หนูออกไปกินข้าวข้างนอกนะคะ เดี๋ยวจะเข้ามาตอนบ่าย” ร่างโปร่งหันไปบอกกับรุ่นพี่ก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกไป
ขาเรียวก้าวออกมาจากประตูบริษัทอย่างว่องไว ครั้งนี้หญิงสาวจำเป็นต้องเลือกเดินทางด้วยรถเมล์หรือรถแท็กซี่แทน เพราะร่างโปร่งไม่ได้ขับรถมาทำงานด้วยตัวเองเกือบเดือนแล้ว
“จะไปไหน?”
ข้อมือเล็กของชานยอลถูกมือของใครบางคนรั้งเอาไว้
“อ่าว....ไปกินข้าวไงเที่ยงแล้ว” หญิงสาวบอกไปด้วยสีหน้าใสซื่อ
“พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ไปกินกับพี่” คริสบอกกับหญิงสาวและยังคงจับข้อมือเล็กนั่นเอาไว้
“เห้ย วันนี้ฉันมีนัดกับเพื่อน ส่วนนายก็ไปกินกับยูอีเด่ะ” ชานยอลบอกไปพร้อมกับพยายามแกะข้อมือของตัวเองออกจากมือหนา
“ไม่! อยากไปกินข้าวกับเพื่อนใช่ไหม? ได้! งั้นไปด้วยกันเลย”
“เฮ้ยย!!”
คริสออกแรงดึงแขนอีกคนให้เดินตามตัวเองไป แล้วสุดท้ายชานยอลก็ต้องไปกินข้าวกับเพื่อนโดยที่มีคริสติดไปด้วย
เมื่อถึงที่หมายหญิงสาวลงจากรถเดินนำหน้าร่างสูงเข้าร้านไปก่อน ชานยอลลอบยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้มีแค่กลุ่มเพื่อนสาวที่มาด้วย
“ต๊ายยย เจ้านายมาคุ้มหรอยะ!”
นั่นคือประโยคแรกที่ฮยอนอาทักขึ้นเมื่อเห็นชานยอลเดินเข้ามาโดยที่มีคริสเดินตามหลังมาห่างๆ ชานยอลยักคิ้วให้เพื่อนเล็กน้อยก่อนจะหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่กับเพื่อนสาวของตัวเอง
“รู้สึกว่าช่วงนี้จะตามติดน้องสาวจังเลยนะคะ” ชานยอลนั่งลงฝั่งตรงข้ามชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยแซวขึ้นมา
“ฮ่าๆๆ อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็คืออยากเจอเพื่อนน้องสาวมากกว่า” ชางมินหยอดคำหวานพร้อมกับส่งยิ้มให้ร่างโปร่ง
“โอยยยยย สงสัยจะได้กินของหวานแทนข้าว~” คริสตัลทำหน้าตาอ่อนเพลียพร้อมกับพูดขึ้นลอยๆ
“อื้ม!” ร่างสูงที่ตามชานยอลมาด้วยกระแอมขึ้นเบาๆ
“อ้าวววววว~ พี่คริสมานั่งนี้เลยค่ะ นั่งลงเลยๆ”
คริสตัลลุกขึ้นไปดึงลงข้อมือของคนตัวสูงให้นั่งลงข้างๆ ชานยอล
“แหมมม แม่คนนี้ ฉวยโอกาสตลอดเวนะยะ!” ฮยอนอาจิกตามองเพื่อนตัวเองด้วยความหมั่นไส้
“นี่! อย่าแตะต้องผู้ชายคนนี้นะคริสตัล!”
ชานยอลบอกเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะเว้นวรรคคำพูดไว้แล้วหันไปมองหน้าคริส
“คู่หมั้นเขาหวง!”
หญิงสาวพูดเน้นคำพลางยกยิ้มให้กับคริส
“หึงหรอ?”
คริสเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้ากวนๆ ทำให้ชานยอลต้องเบ้ปากเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“เอ่อ...พี่ว่าเราสั่งอาหารกันเลยดีกว่าไหม?”
ชางมินพูดขึ้นมาก่อนจะเรียกพนักงานมารับออเดอร์
“ฝึกงานเป็นไงบ้าง? เหนื่อยไหม?”
ซอลลี่ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เพราะพักหลังมานี้ชานยอลดูผอมลงมาก
“ก็มีบ้าง แล้วเธออะเป็นไงบ้าง?” หญิงสาวถามเพื่อนกลับไปด้วยสีหน้าที่หวงใยไม่แพ้กัน
“แหมม เป็นห่วงกันจังเลยนะสองคนนี้ พี่เป็นพี่ชายแท้ๆ มันยังไม่เคยถามเลย” ชางมินพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ
“อาจารย์อย่างอนสิคะ เค้าถามก็ได้ อาจารย์เหนื่อยไหมคะ” ชานยอลถามพี่ชายของเพื่อนพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ว่าใครได้เห็นแล้วก็ต้องหลงรัก
“แค่ยอลลี่ถาม พี่ก็หายเหนื่อยแล้ว” ชางมินตอบกลับไป ตาคมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าราวกับจงใจจะทำให้อีกคนละลายหายไปเพราะสายตานั้น
"อ่ะแฮ่ม!" เสียงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ชานยอลกระแอมขึ้นมาอีกครั้งทำให้ชางมินต้องละสายตาออกจากชานยอล
“แก.....เหมือนเรากำลังดูละครอยู่เลยว่าไหม? ประหนึ่งว่าพระรองกำลังจีบนางเอกอยู่ แต่พระเอกก็ชอบทำตัวเป็นก้างขวางคออะไรงี้”
คริสตัลหันไปกระซิบกับฮยอนอา
“พนันได้ว่าตอนนี้พี่คริสกำลังรู้สึกจี๊ดอยู่แน่ๆ เชื่อฉันสิแก” ฮยอนอากระซิบตอบกลับไปก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาอย่างมั่นใจ
“อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ”
พนักงานเสิร์ฟจัดการวางอาหารที่ถูกสั่งไปลงบนโต๊ะจนครบทุกรายการ ทุกคนก็ต่างเล่าเรื่องราวที่ตัวเองได้พบเจอกันมาและถึงแม้เหล่าเพื่อนๆ ของชานยอลจะชวนคริสพูดคุยมากมาย แต่คนที่คริสอยากคุยด้วยมากที่สุดกลับคุยอยู่เพียงแค่ชางมิน
“อึ๊ก!”
เสียงสะอึกของร่างโปร่งดังขึ้นในขณะที่ทุกคนท่านอาหารไปได้สักพัก
“อึ๊ก!”
“ดื่มน้ำก่อนสิยอลลี่” ชางมินส่งแก้วน้ำให้ก่อนที่ชานยอลจะรับมันไปดื่มจนหมดอย่างรวดเร็ว
“อึ๊ก!” ชานยอลยังคงสะอึกเหมือนเดิม
“ต้องทำให้ตกใจ!”
คริสตัลบอกก่อนที่ทั้งสามสาวจะลงมือหาสารพัดวิธีมาทำให้เพื่อนตัวเองตกใจ แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนชานยอลก็ยังคงสะอึกอยู่อย่างเดิม จนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องใช้วิธีของตัวเองโดยการ...
หอมแก้ม...
“โอ๊ะ!!”
ทั้งสามสาวต่างอึ้งไปตามๆ กัน รวมทั้งชางมินที่ไม่คิดว่าคริสจะงัดวิธีนี้ขึ้นมาใช้ แต่มันกลับได้ผล ชานยอลหยุดสะอึก ร่างโปร่งนิ่งไปราวกับรูปปั้น เพราะนี่คือสิ่งที่สามารถทำให้เขาตกใจได้มากที่สุด
“อิ่มแล้ว...” ชานยอลพูดออกมาอย่างล่องลอยราวกับว่าวิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปเป็นที่เรียบร้อย
“งั้นกลับกัน” ร่างสูงบอกกับชานยอลก่อนจะหันไปยกยิ้มให้ชางมินอย่างผู้มีชัย
“อือ....” หญิงสาวส่งเสียงตอบรับขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินออกจากร้านไปราวกับถูกสะกดจิต
“พี่กลับก่อนนะครับสาวๆ” คริสลุกขึ้นยืนก่อนจะบอกลาสามสาวที่ยังคงตกตะลึงไปกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่
“ค่ะ....”
ทั้งสามคนพยักหน้าพร้อมกันช้าๆ
“ไว้เจอกันใหม่นะครับคุณชางมิน” คริสยกยิ้มให้กับชางมินก่อนจะหันหลังเดินตามชานยอลออกไป
ร่างโปร่งก้าวขาเดินไปช้าๆ มือเรียวยกขึ้นลูบแก้มของตัวเองไปมาเบาๆ ก่อนจะทำหน้าราวกับกำลังเคียดแค้นใครบางคน!
“ยอลลี่รอพี่ด้วยสิ” คริสกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาชานยอลก่อนจะคว้าข้อมือเล็กเอาไว้
ร่างโปร่งค่อยๆ หันกลับมาหาคริสช้าก่อนจะส่งยิ้มหวานให้อีกคนจนดูผิดปกติไป และก็เป็นอย่างที่คิด....มันผิดปกติ ยังไม่ทันที่คริสจะตีโจทย์แตก ร่างโปร่งก็จัดการใช้กระเป๋าของตัวเองฟาดลงไปยังลำตัวของร่างสูงอย่างบ้าคลั่งทันที
“ไอ้บ้า! ไอ้ตัวหื่นสาธารณะ ไปเลยนะ อยู่ให้ห่างจากตัวฉันเลยไอ้คนอันตรายยยยยยย!!!!”
ชานยอลทำร้ายอีกคนอย่างไม่ยั้งมือ แต่คริสก็จัดการรวบแขนเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ก่อนจะออกแรงฉุดให้ร่างโปร่งเดินตามตัวเองไปที่รถ
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!! ปล่อยสิโว๊ยยยย!!!” ร่างโปร่งพยายามสะบัดแขนตัวเองออกจากมือหนาของอีกคน แต่คริสกับดันหัวของร่างโปร่งให้เข้าไปนั่งในรถก่อนที่ตัวเขาจะขึ้นไปนั่งประจำที่ในตำแหน่งคนขับ
“ถ้าโวยวายอีกพี่จะทำมากกว่านั้น!” คริสพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าชานยอลจะส่งเสียงโวยวายขึ้นอีกครั้ง
“นายนี่มัน!..........” หญิงสาวมองหน้าอีกคนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ทำไม? พี่มันทำไม?”
“หึ ช่างเถอะ ฉันจะไม่พูดกับนายอีกแล้ว” ชานยอลบอกก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง
“แหมม แค่หอมแก้มเอง ทำเป็นเขิน มากกว่านี้ก็เคยแล้วไม่เห็นจะเขินเลย”
โป๊ก!!!
“โอ๊ยย!!”
เสียงกล่องกระดาษทิชชูที่วางอยู่หน้ารถถูกฟาดลงไปบนหัวของร่างสูงอย่างแรงและไม่ต้องถามว่าเพราะอะไร เพราะหลักฐานยังคงคามือที่เร็วกว่าแสงของชานยอล
“อย่าพูดเรื่องนี้อีก ถ้ายังไม่อยากตาย!!”
“โหดหรอ! ได้ ไม่พูดเรื่องนี้แล้วก็ได้ แต่ครั้งหน้าพี่จะหาโมเม้นอื่นมาพูดแทนโอเคไหม?”
ร่างสูงบอกก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย ทำให้ความอดทนของชานยอลเริ่มสลายตัวไปอีกครั้ง
ทั้งคู่เถียงกันไปตลอดเส้นทางจนถึงบริษัท แต่รถยังไม่ทันจะได้จอดดีชานยอลก็รีบเปิดประตูลงมาซะกอน ทำให้คริสได้แต่ส่ายหน้าให้กับความดื้อและความกล้าของหญิงสาว
ขายาวก้าวไปอย่างเร่งรีบ แต่แล้วก็ต้องหยุดลงเมื่อชานยอลเห็นใครบางคนและคนๆ นั้นคือคนที่ร่างโปร่งอยากคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้ ชานยอลจึงออกตัววิ่งเข้าไปหาคนๆ นั้นทันที
“ลีอาห์!! ลีอาห์!! หยุดก่อน!”
เจ้าของชื่อหยุดชะงักทันทีเมื่อชานยอลตะโกนเรียกเสียงดังลั่น หญิงสาวในชุดทำงานสีดำหมุนตัวกลับมาหาผู้ที่เรียกชื่อตัวเองช้าๆ ก่อนจะยกยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ว่าไง......ปาร์ค ชานยอล”
ร่างโปร่งยืนหายใจอย่างเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้าลีอาห์ ตากลมโตมองหญิงสาวผู้ที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะเอ่ยถามอะไรบางอย่างออกไป
“เมื่อไหร่ฉันจะกลับไปเป็นผู้ชาย?”
Talk : ช่วงนี้สอบ คิดอะไรไม่ออกเลย ไว้ตอนหน้าจะพิเศษใส่ไข่ให้น้าาา ^^
ความคิดเห็น