ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:KRISYEOL] Black Candy

    ลำดับตอนที่ #26 : Black Candy : 22

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.12K
      12
      14 ธ.ค. 56

     

     

    Chapter 22

     

     

     

    ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

     

     

    ยอลลี่....ยอลลี่ครับ

     

    เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงเรียกของคริสดังขึ้นหน้าห้องของชานยอล แต่ไม่ว่าจะเรียกสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมา

     

     

    ยอลลี่ ไม่ไปเรียนหรอ?

     

     

    ชายหนุ่มเรียกคนในห้องจนรู้สึกเหนื่อยและคิดไปเองว่าอีกคนคงขี้เกียจไปเรียนเหมือนอย่างเมื่อวาน จึงเลิกเคาะประตูและหันหลังเตรียมออกไปทำงาน

     

    แต่แล้วอยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงเรียกของเจ้าของห้อง

     

     

    เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป! วันนี้วันอะไร?

    ชานยอลถามขึ้นในสภาพที่อยู่ในชุดนอนหัวฟู

     

     

    วันศุกร์ไง

     

     

    ย๊ากกกก!! แย่แล้ว! ฉันนึกว่าวันเสาร์ รอแป๊ป อาบน้ำก่อน สายแล้วๆๆๆๆ

    หญิงสาวปิดประตูดังโครม ส่วนคริสก็แต่แต่ยืนหัวเราะความเปิ่นของชานยอลอยู่คนเดียว

     

     

     


     

     

    เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ชานยอลวิ่งกระหืดกระหอบลงมาจากห้องด้วยสภาพที่ต่างไปจากเมื่อเช้าไม่มากเท่าไหร่นัก ผมยาวถูกรวบแล้วมัดเป็นจุกกลมๆ เอาไว้ ส่วนใบหน้าก็ไม่ได้แต่งแต้มอะไรมากมายตามปกติ มือทั้งสองข้างหอบหิ้วสัมภาระด้วยความทุลักทุเลจนคริสที่นั่งรออยู่ต้องเข้าไปช่วยรับของพวกนั้นเอาไว้

     

     

    เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง นายต้องพาฉันไปส่งให้ถึงมหาลัยภายในครึ่งชั่วโมง!”

    ชานยอลบอกไปพร้อมกับพยายามใส่รองเท้าผ้าใบไปด้วย

     

     

    มหาลัยอยู่แค่ตรงนี้เอง พี่ให้ 15 นาทีพอ

     

     

    จ้าๆ พ่อคนเก่ง ถ้าไปถึงสายแม่จะฟาดให้

    ร่างโปร่งบอกพลางถูมือไปมาเพราะอุณหภูมิที่ติดลบของอากาศ

     

     

    ทำไมไม่ใส่เสื้อโค้ท ไม่หนาวหรือไง?

    คริสถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนมีแค่ชุดยูนิฟอร์มของมหาวิทยาลัย

     

     

    เออว่ะ! ลืม ถึงว่าล่ะหนาวจนตัวจะชาอยู่แล้ว รอแป๊ปๆ เดี๋ยวขึ้นไปเอาบนห้อง

    ชานยอลหันหลังเตรียมวิ่งกลับไปบนห้อง แต่ถูกคริสดึงแขนเอาไว้เสียก่อน

     

     

    ไม่ต้องกลับขึ้นไปหรอก ใส่ตัวนี้ไปก่อนละกัน

    ร่างสูงบอกก่อนจะถอดเสื้อโค้ทของตัวเองไปคลุมไหล่อีกคนเอาไว้

     

     

    แล้วนาย....ไม่หนาวหรอ?

     

     

    ในรถยังมีอีกตัว เดี๋ยวค่อยไปเอาก็ได้ แต่ตอนนี้รีบไปเถอะ กลัวสายไม่ใช่หรอ?

     

     

    เออ! ลืม รีบเลยๆ

     

     

    ชานยอลบอกก่อนจะวิ่งนำหน้าคริสไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มได้แต่มองแล้วยิ้มออกมาก่อนจะเดินตามอีกคนไปอย่างรวดเร็ว

     

     

     

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านไปเกือบ 15 นาที รถคันหรูก็มาจอดอยู่หน้ามหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อย ชานยอลก้าวลงมาจากรถช้าๆ เพราะอากาศที่หนาวเกินไป

     

     

    เย็นนี้ให้มารับหรือเปล่า

    คริสเลื่อนกระจกลงถามคนที่ยืนตัวสั่นเป็นลูกนกตกกองหิมะอยู่ข้างๆ รถ

     

     

    ไม่ต้อง รถอยู่กับคริสตัล เดี๋ยวเย็นนี้ฉันขับกลับเอง

    ร่างโปร่งบอกพร้อมกับกอดตำราเรียนไว้แน่น

     

     

    งั้นเย็นนี้กลับไปรอที่หอนะ เดี๋ยวพี่เลิกงานแล้วจะมารับไปกินข้าว

     

     

    อือ....

    ร่างโปร่งตอบรับพร้อมกับทำตัวสั่นจนคริสต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

     

     

    รีบเข้าไปข้างในได้แล้ว ยืนอยู่ตรงนี้นานๆ เดี๋ยวจะไม่สบาย

     

     

    ย่ะ!!”

    ชานยอลบอกก่อนจะหันหลังเดินเข้าอาคารเรียนไป ส่วนคริสก็ได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าให้กับท่าทีของอีกคน

     

     

     

    แต่ระหว่างทางที่ชานยอลกำลังเดินไปยังห้องเรียนของตัวเอง ร่างโปร่งก็สัมผัสได้ถึงพลังงานมืดบางอย่างที่เดินตามเขามา หญิงสาวหันหลังกลับไปก็พบว่ามีผู้หญิงกลุ่มนึงเดินตามเขามา และสายตาที่มองมานั้นก็ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

     

    เมื่อชานยอลเห็นดังนั้นก็จ้องอีกฝ่ายกลับอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นเลยตรงมาที่ชานยอลทันที

     

     

    มองหน้าอยากมีปัญหาหรอ?

    ฝ่ายตรงข้ามเริ่มเปิดประเด็นก่อนทันทีที่มายืนประจันหน้ากัน

     

     

    เปล๊า แค่สงสัยว่าเธอมองฉันทำไม

    ชานยอลตอบกลับไปด้วยท่าทีที่ดูสุขุม

     

     

    คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดที่ฉันต้องมองเธอหรือไง

     

     

    เปล๊า แล้วถ้าไม่มองฉัน แล้วเธอรู้ได้ไงกันว่าฉันมองเธออยู่ มีญาณทิพย์หรอ? เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานของฉันงั้นสิ

    ชานยอลถามกลับไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่าประโยคของเขากำลังเรียกน้ำโหของอีกคนอยู่

     

     

    ปากดีจังเลยนะ.....ยัยเมียน้อย

     

     

    ประโยคที่หนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นมา ทำเอาชานยอลรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที ร่างโปร่งพยายามปรับสีหน้าให้นิ่งที่สุดก่อนจะตอบกลับไป

     

     

    อื้ม....ถ้าปากไม่ดีคงเป็นเมียน้อยไม่ได้ สนใจมารับตำแหน่งร่วมกันไหมล่ะ ฉันยินดี

    ร่างโปร่งบอกพร้อมกับฉีกยิ้มยั่วอารมณ์โมโหอีกฝ่าย

     

     

    นี่เธอ! อยากมีเรื่องกับฉันใช่ไหม!!”

    หญิงสาวคนนึงกระชากแขนชานยอลอย่างแรง แต่ชานยอลก็สะบัดมันออกไป

     

     

    เธอนั่นแหละ! อยากมีเรื่องกับฉันใช่ไหม! ฉันว่าฉันอยู่ของฉันดีๆ แล้วนะ ฉันไปทำอะไรให้เธอเดือดร้อนหรือไง ถึงได้มาหาเรื่องฉันห๊ะ!”  ชานยอลตอบกลับไปด้วยระดับเสียงที่ดังขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้

     

     

    ใช่ เธอไม่ได้ทำอะไรให้ฉัน แต่เธอทำให้รุ่นพี่ยูอีต้องเจ็บปวดใจ เพราะฉะนั้นฉันจึงต้องมาจัดการเธอ

     

     

    หญิงสาวคนเดิมพูดพร้อมกับเอามือกอดอกเอาไว้แล้วมองชานยอลด้วยสายตาไม่เป็นมิตรและชานยอลก็มองกลับไป โดยมองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหัวเราะออกมา ทำให้กลุ่มผู้หญิงที่มาหาเรื่องต้องหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย

     

     

    นี่พวกเธอเป็นขี้ข้ายูอีหรอ? คอยตามเป็นหน่วยสอดแนมงั้นสิ? โถๆๆ งั้นฝากไปบอกเจ้านายเธอด้วยแล้วกันนะว่า หัวเราะที่หลังเสียงดังกว่า

    ร่างโปร่งบอกพร้อมตบบ่าหญิงสาวคนนั้นเบาๆ ก่อนจะเดินหันหลังหนีเสียงกรีดร้องของหญิงคนนั้น

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------

     

     

    เป็นอะไรแก เห็นหน้าบูดมาทั้งวันละ

     

     

    คริสตัลกระซิบถาม ในขณะที่กำลังเรียนกันอยู่ ชานยอลไม่ได้ตอบกลับไป เพราะถึงแม้ว่าจะนั่งแถวหลังสุด แต่วิชานี้อาจารย์โหดไม่พอ แถมหูดีอีกต่างหาก ร่างโปร่งก็เลยไม่กล้าที่จะพูดกับเพื่อนเพราะกลัวจะซวยกันยกชั้น มือเรียวหยิบสมุดของตัวเองขึ้นมาก่อนจะเขียนข้อความลงไปแล้วส่งมันให้กับคริสตัลแทนคำพูด

     

     

    โดนข้อหาว่าเป็นเมียน้อย

     

     

    คริสตัลขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากเห็นข้อความบนสมุด แต่ด้วยความอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้หญิงสาวก็เขียนข้อความต่อจากของชานยอลลงไป

     

     

    ใครว่าแก

    คริสตัลส่งสมุดคืนให้ชานยอลเขียนตอบกลับ

     

     

    แถวที่สามนับจากหน้ากระดาน

     

     

    คริสตัลรับสมุดมาอ่านอีกครั้งก่อนจะเหลือบตาขึ้นไปมองตำแหน่งที่นั่งที่ชานยอลบอกไป หญิงสาวหรี่ตามองราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ในใจก่อนจะเขียนข้อความลงไปแล้วส่งต่อให้ฮยอนอาที่นั่งอยู่ข้างหน้ากับซอลลี่

     

    ฮยอนอารับสมุดไปอย่างงงๆ ก่อนจะก้มหน้าลงอ่านข้อความที่คริสตัลเขียนไว้ เมื่อหญิงสาวอ่านข้อความครบถ้วนทุกตัวอักษรเป็นทีเรียบร้อยก็ได้หันหลังกลับมามองหน้าชานยอลเล็กน้อยพร้อมยกยิ้มมุมปากแล้วส่งสมุดคืนให้ก่อนจะหันกลับไปตั้งใจฟังอาจารย์อย่างเดิม

     

    และเมื่อชานยอลเปิดดูข้อความในสมุด ก็พบกับข้อความที่ฮยอนอาเขียนไว้ด้วยปากกาสีแดงตัวโตๆ ว่า...

     

     

    เย็นนี้จัดเต็ม!’

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากเรียนมาทั้งวัน สี่สาวก็แยกย้ายกลับบ้านช่องของตัวเอง ชานยอลจึงต้องเดินฝ่ากองหิมะไปลานจอดรถเพียงลำพัง

     

    มือเรียวกระชับเสื้อโค้ทให้แนบลำตัวเพื่อเรียกความอบอุ่นให้กับร่างกาย และเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเสื้อที่ตัวเองสวมใส่อยู่นั้นเป็นของใคร มันทำให้ร่างโปร่งรู้สึกอุ่นขึ้นมากกว่าเดิมจนน่าประหลาดใจ

     

     

     

    หนิ ยัยเมียน้อย ไม่มีใครคบแล้วหรอถึงได้กลับบ้านคนเดียว สงสัยเพื่อนคงรับไม่ได้ที่เธอเป็นเมียน้อย ฮ่าๆๆๆ

    ผู้หญิงกลุ่มเดิมพูดขึ้นก่อนจะส่งเสียงหัวเราะสนับสนุนคำพูดของหนึ่งในนั้นกันด้วยความสะใจ

     

     

    ฉันเดินมาคนเดียวแล้วทำไม? เส้นเลือดฝอยเธอจะแตกหรอ?

    ชานยอลถามกลับด้วยท่าทางกวนโมโหอีกตามเคย

     

     

    เส้นเลือดฝอยฉันไม่แตกหรอก แต่ปากเธอแตกแน่ๆ

     

     

    เมื่อพูดจบอีกฝ่ายก็ยกแขนขึ้นเตรียมจะฟาดลงบนใบหน้าเนียนของชานยอล แต่ยังไม่ทันทีจะได้ทำอะไร ก็มีเหตุที่ทำให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นกรี๊ดร้องและพากันหลบสิ่งที่ลอยมาปะทะตัวพวกเธอกันทันที นั่นก็คือหิมะที่ถูกปั้นเป็นก้อนกลมๆ มันถูกปามาอย่างไม่ยั้งมือ และมีบางลูกที่พลาดมาโดนชานยอล จนร่างโปร่งต้องมองหาที่มาของกระสุนหิมะพวกนี้แล้วก็พบว่าเป็นฝีมือของเพื่อนตัวเอง

     

    แม้ซอลลี่ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของชานยอลสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เธอกลับมาร่วมวงปาหิมะกับสองสาวที่เหลือด้วย

     

    ว๊าย!”  ซอลลี่อุทานออกมา เมื่อหิมะที่เธอปาออกไป โดนหน้าฝ่ายตรงข้ามเต็มๆ

     

    อย่างนั้นแหละแก เอาให้สาสมกับที่มันทำเพื่อนเรา ว่ะฮ่ะฮ่าๆๆ

    ฮยอนอาหัวเราะอย่างชั่วร้ายพร้อมกับปาหิมะออกไปอย่างไม่ยั้งมือ

     

     

    หยุดๆๆๆ หยุดก่อนๆ

    ร่างโปร่งบอกเพื่อนทั้งสามของตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปหาคู่กรณี

     

     

    เลิกยุ่งเรื่องของฉันซะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ถ้าคราวหน้ามีอีก ระวังก้อนหิมะอาจจะกลายเป็นก้อนหินโดยไม่รู้ตัว

     

    ชานยอลยืนกอดอกบอกกลุ่มผู้หญิงที่มาหาเรื่องด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนนางร้ายในละคร ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องมาทำอะไรแบบนี้

     

     

    มองหน้าฉันทำไม!! กลับไปได้แล้ว!”

    ชานยอลตวาดใส่ผู้หญิงพวกนั้น จนทั้งกลุ่มต้องกุลีกุจอยอมถอยทัพกลับไป

     

     

    โอ้ววว ก็ดุเป็นเหมือนกันหนิ ดีๆ นึกว่าจะเก่งกับพี่คริสคนเดียวซะอีก

    ฮยอนอาว่าพลางพยายามจะโอบไหล่เพื่อนร่างโปร่ง

     

     

    อยากลองโดนตบสักครั้งไหมล่ะ?

    ร่างโปร่งว่าก่อนจะเงื้อมือขึ้นราวกับจะตบฮยอนอาจริงๆ แต่เพื่อนร่างบางกลับหนีไปหลบหลังซอลลี่ซะก่อน

     

     

    มาช่วยแล้วยังไม่สำนักถึงบุญคุณอีก เพื่อนเนรคุณอย่างแกนี่ต้องเจอดี นี่แน่ะ!!!”

    ฮยอนอาก้มลงไปกำหิมะไว้เต็มๆ มือก่อนจะปาใส่ชานยอลแล้ววิ่งหนีไป

     

     

    แน่จริงอย่าวิ่งหนีสิวะ!!”

    ชานยอลตะโกนเสียงดัง ในขณะที่เพื่อนอีกสองคนที่เหลือได้หัวเราะออกมาเล็กน้อย

     

     

    ให้ฉันกลับไปเป็นเพื่อนเธอไหม?”  ซอลลี่ถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นห่วง

     

     

    ไม่เป็นไร พวกนั้นคงไม่กล้ากลับมาทำอะไรฉันแล้วแหละ แต่บางทีก็อยากให้กลับมานะ คงจะสนุกน่าดู

    ชานยอลบอกพร้อมกับกระตุกยิ้มเล็กน้อย จนเพื่อนทั้งสองต้องขมวดคิ้วสงสัยในคำพูดของเพื่อนร่างโปร่ง

     

     

    พวกเธอกลับไปได้ละ ฉันต้องรีบไป พอดีมีนัดกินข้าวกับผู้ชาย

     

     

    อ๋ออออออออ~ อย่างนี้นี่เอง! แหมๆๆ เดี๋ยวนี้แรงนะยะ

    คริสตัลถึงบางอ้อทันทีที่ชานยอลพูดจบ

     

     

    นี่เธอตกลงคบกันแล้วหรอ?

     

     

    จะบ้าหรอ! ยัง!!”

    ชานยอลตอบซอลลี่กลับไปทันควัน

     

     

    แหม รีบตอบจังเลยนะ ไม่ต้องพยายามปิดบังฉันหรอกแก ฉันรับได้ที่กิ๊กของพี่คริสเป็นแก่ สำหรับแกฉันยอม ฉันไม่หึงหรอกเพื่อน

    คริสตัลบอกพร้อมกับทำหน้าเศร้าก่อนจะตบบ่าชานยอลเบาๆ

     

     

    อ้อหรอ~ ขอบคุณมากเลยนะ ฉันซึ้งในน้ำใจเธอจริงๆ~ ยัยบ้า!!!”

    ชานยอลผลักคริสตัลให้ออกห่างจากตัวเองไป

     

     

    ฮ่าๆๆๆ ไปได้แล้วแกอะ เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว ตอนนี้ยัยฮยอนอาไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้เนี้ย

     

     

    เออ กลับบ้านกันดีๆ ขอบใจนะเว้ย ถ้าพวกแกไม่โผล่มาช่วย ตอนนี้ฉันอาจจะกลายเป็นศพหมกกองหิมะไปแล้วก็ได้ ฮ่าๆๆ

     

     

    เออ ไปละ

     

     

    คริสตัลบอกก่อนจะโอบไหล่ซอลลี่ออกไป ทำให้เหลือชานยอลเพียงลำพัง หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับบ่นขึ้นมาเบาๆ

     

     

    เป็นผู้หญิงนี่มันเหนื่อยจริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างโปร่งเดินไปตามถนนที่มีผู้คนเดินกันขวักไขว่ เช่นเดียวกับภายในใจของเขา ที่มีเรื่องราวเข้ามามากมายไม่จบไม่สิ้น หลายครั้งที่เขาพยายามอดกลั้น หลายเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้นิสัยของผู้หญิงได้หลายๆ แบบ หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนไป เหตุการณ์เหล่านั้นทำให้เขาคิดได้ว่า ผู้หญิงคือสิ่งที่ไม่ควรเอามาล้อเล่น...

     

     

     

    แต่ตอนนี้ชานยอลไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ชีวิตของเขาจะเป็นยังไงต่อไป แม้ลีอาห์จะมาให้เห็นบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าทูตสวรรค์สาวจะให้เขากลับไปเป็นผู้ชายในเร็วๆ นี้ และลูกอมหลากสีที่แฝงไปด้วยอำนาจบังคับจิตใจเหล่านั้นก็หายไปจากชีวิตเขามาสักพักแล้ว เหลือไว้เพียงความรู้สึกที่มาจากใจของเขาเองล้วนๆ

     

     

    ชานยอลก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ปราบใดที่อีกคนยังไม่มา เขาก็ตั้งใจจะเดินมันต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ

     

     

    แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดเดิน เมื่อมีใครบางมาขว้างทางเดินเขาเอาไว้ ชานยอลค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองคนๆ นั้น ก็พบว่าเป็นชายหนุ่มร่างสูงที่เขาคุ้นเคย ชานยอลมองหน้าอีกคนนิ่ง ก่อนจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

     

     

    รู้ได้ไงว่าฉันอยู่นี่

     

     

    ทำไมจะไม่รู้ เดินตามมาตั้งนานแล้ว ว่าแต่เราเหอะ กำลังคิดอะไรอยู่ขนาดพี่เดินนำหน้าไปแล้วเรายังไม่เห็นพี่เลย

     

     

    อ่าวหรอ แล้วก็เดินตามอยู่ได้ตั้งนานเนาะ เสียเวลาจริงๆ เลย ปล่อยให้ฉันเดินบ้าอยู่ได้ตั้งนาน มันหนาวรู้ไหม!”  ร่างโปร่งว่าอีกคนก่อนจะเอามือซุกลงไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวหนา

     

     

    คริสไม่ได้พูดอะไรตอบไป ได้แต่ยิ้มให้ก่อนจะดึงชานยอลไปกอดเอาไว้ ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ดิ้นหนีเหมือนครั้งก่อนๆ ทำให้คริสกอดชานยอลเอาไว้ได้แน่นกว่าเดิม

     

     

    อุ่นขึ้นบ้างไหม”  คริสถามคนที่อยู่ในอ้อมกอด

     

     

    อุ่น.....แต่มันจะอุ่นกว่านี้ ถ้านายกอดฉันไว้เพียงคนเดียว

     

     

    ประโยคที่ชานยอลพูดออกมา ทำให้คริสค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกจากร่างโปร่ง เพื่อจะได้มองเห็นสีหน้าอีกคนชัดๆ

     

     

    ถ้าตอนนี้ไม่มีคนอื่นเข้ามาทำให้ลมหนาวแทรกผ่านฉันกับนายเข้ามาได้....กอดของนายคงอุ่นมากกว่านี้

    ชานยอลบอกด้วยน้ำเสียงเรียบและมองตาอีกคนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

     

     

    นี่หนาวจนเพี้ยนไปแล้วหรอ ปกติไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย

    คริสถามไปยิ้มไปและไม่อยากจะเชื่อว่าอีกคนจะมีโมเม้นให้เขารู้สึกประหลาดใจได้อย่างนี้

     

     

    อ้าว! คนจะเป็นแฟนกันเข้าไม่ได้พูดกันอย่างนี้หรอกหรอ?!”

    อารมณ์ของร่างโปร่งเปลี่ยนไปเป็นหงุดหงิดทันทีที่ได้ยินร่างสูงบอก

     

     

    หือ!?”

    คริสถึงกับตาโตเมื่อได้ยินประโยคล่าสุดจากชานยอล

     

     

    เมื่อกี้เราพูดว่าอะไรนะ?”  คริสขอให้อีกคนทวนคำพูดอีกที

     

     

    ไม่ต้องทำมาเป็นหูแว่วกะทันหัน ของดีฉายหนเดียว!”

     

     

    พูดจริงหรอ?”  คริสถามอีกคนเพื่อความแน่ใจ

     

     

    แหม ตลอดเวลาที่รู้จักกัน นายลวนลามฉันไว้กี่ครั้งก็ช่วยรับผิดชอบกันหน่อยก็แล้วกัน

    ชานยอลบอกก่อนจะเดินหนีไปเพราะความเขินอาย แต่ก็โดนคริสกอดจากข้างหลังไว้ก่อนจะกระซิบบอกอะไรบ้างอย่างเบาๆ

     

    พี่จะรับผิดชอบเราไปตลอดชีวิตเลยล่ะ

     

     

    -------------------------------------------------

     

    หลังจากตกลงกันอยู่ตั้งนานว่าจะกินอะไรกัน สุดท้ายก็จบลงที่ร้านราเมงข้างทาง ตามคำขอของชานยอล

     

    กลับไปทำงานหรือยัง?

     

     

    ก็สั่งงานผ่านนานะไป ขี้เกียจเข้าไปเจอแม่ที่บริษัท

     

     

    กลับไปทำงานได้แล้ว หนีหน้าเขาอย่างนี้ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก

     

     

    ก็ถ้าเขายังเอาชีวิตพี่ไปขายให้กับธุรกิจของเขา พี่ก็จะยังไม่กลับไป

     

     

    เออ งั้นก็แล้วแต่ท่านเถอะ ฉันขี้เกียจจะพูดแล้ว

    ชานยอลถอนหายใจก่อนจะก้มหน้าก้มตากินราเมงของตัวเองต่อไป

     

     

    เป็นห่วงก็บอกมาเถ๊อะ

    คริสพูดขึ้นลอยๆ ทำให้ชานยอลต้องเหลือบตาขึ้นมามอง

     

     

    ฉันไม่ได้ห่วงนาย แต่ฉันห่วงสมบัตินายต่างหาก สมมุติว่านายโดยตัดออกจากกองมรดก ฉันก็อดใช้ของแบรนด์เนมฟรีตลอดชีวิตพอดี”  ชานยอลบอกก่อนคีบเส้นราเมงเข้าปากโดยไม่สนใจสายตาของคริสที่กำลังเขาอย่างขำขัน

     

     

    ได้ข่าวว่าบ้านตัวเองก็มีกิจการ ยังจะมาอยากได้ของฟรีอีกหรอ

     

     

    มีใครคนนึงเคยกล่าวไว้ว่า เพราะงกถึงรวย!”

    คริสมองอีกคนด้วยสีหน้าพยายามเชื่อพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย

     

     

    ทั้งสองกินไปคุยกันไป มีทั้งเสียงหัวเราะของคริส มีทั้งเสียงดุๆ ของชานยอล หากใครกำลังตั้งใจฟังทั้งสองคุยกันคงปรับอารมณ์ตามไม่ทันอย่างแน่นอน

     

     

    ยอลลี่

    จู่ๆ คริสก็เรียกขึ้นมา หลังจากที่เงียบกันไป

     

     

    ว่า?”  ชานยอลถามทั้งๆ ที่ยังคงสนใจของกินของตัวเองอยู่

     

     

    ไหนลองเรียนพี่คริสซิ

     

    คริสบอกพร้อมกับยิ้มกรุ่มกริ่ม ในขณะที่อีกคนเงยหน้าขึ้นมามองอย่างเบื่อหน่าย

     

     

    นี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องนี้อีกหรอ

     

     

    ก็แค่อยากได้ยิน ไม่เรียกก็ไม่เป็นไรหรอก

     

    ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจก่อนจะหยิบซ้อมมาจิ้มขนมเล่น ฝั่งชานยอลเมื่อกิริยาของอีกคนก็เบ้ปากออกมาเล็กน้อย แล้วทำเป็นไม่สนใจต่อไป

     

     

     

     

     

     

    หลังจากที่ออกมาจากร้านอาหาร ทั้งสองก็ตัดสินใจเดินเล่นกันต่ออีกสักพัก มือหน้าจับมือเรียวเล็กของชานยอลเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับ คริสจำต้องยอมปล่อยมือเล็กนั่นแต่โดยดี

     

     

    พรุ่งนี้ไปทำงานด้วยล่ะ

    ชานยอลบอกในขณะที่คริสกำลังเปิดประตูรถ

     

     

    ถ้าอารมณ์ดีก็จะไป

     

     

    ไปเถอะ หนีมาแบบนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด นายต้องพยายามสู้กับมันให้ถึงที่สุด

     

     

    เหมือนที่พี่พยายามจีบเราใช่ปะ

    คริสบอกพร้อมกับยิ้มกวนๆ ให้ ทำให้สีหน้าจริงจังของชานยอล เปลี่ยนเป็นเบื่อหน่ายไปในทันที

     

     

    เดี๋ยวแม่ตบคว่ำซะเลยหนิ! ไป!! กลับบ้านได้แล้ว!”

    ชานยอลว่าพลางผลักอีกคนเบาๆ

     

     

    คร้าบผม~ เราก็กลับไปได้ละ แล้วก็ห้ามเหยียบคันเร่งเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนะ

    ร่างสูงสั่งคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

     

    โห้วว งั้นฉันว่าฉันจอดรถไว้ที่นี่แล้วเดินกลับดีกว่ามั้ง

     

     

    ก็เราชอบขับรถเร็ว แล้วนี่ก็ดึกแล้วด้วย พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม

    คริสบอกพร้อมกับยื่นมือมือไปยีหัวอีกคน

     

     

    ถึงเร็วแต่เขาก็ระวังตัวแหละแหม ไปได้ละ อย่าลีลามาก มัวแต่คุยบ้านช่องไม่ได้กลับกันพอดี

    ชานยอลว่าพลางดันตัวอีกคนให้เข้าไปในรถ

     

     

    ก็ได้ๆ งั้นพรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วพี่ไปรับนะ

    คริสบอกหลังจากนั่งประจำที่คนขับเรียบร้อยแล้ว

     

     

    อือ

     

    คริสยิ้มให้ชานยอล ก่อนจะเอื้อมมือไปที่ประตูรถ แต่ยังไม่ทันที่จะออกแรงดึงประตูเข้าหาตัว ชานยอลกลับรั้งเอาไว้ซะก่อน

     

     

    ขับรถดีๆ นะ.......พี่คริส









    แอบอู้งานมาต่อฟิค ฝากสกรีม #ลูกอมปีศาจ ให้กำลังใจเค้าด้วยน้าาาาา ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×