คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Black Candy : 4
Chapter : 4
ช่วงเวลาประมาณบ่ายสองนักศึกษาตั้งแต่ชั้นปี 2 ก็ถูกเรียกมารวมตัวกันที่ลานหน้าคณะ เสียงคุยกันดังเซ็งแซ่ไปทั่วลานกว้าง แต่มันก็เงียบลงเมื่อพี่ใหญ่ปี 4 ผู้เป็นคนนัดบรรดารุ่นน้องมาปรากฎตัวขึ้น
“สวัสดีน้องๆ ทุกคนนะครับ พี่ขอรบกวนเวลาแค่แป๊ปเดียว”
ทันทีที่หนุ่มหน้าหวานปรากฏตัวขึ้นก็เรียกเสียงคุยซุบซิบของบรรดาสาวๆ ขึ้นมากอีกครั้ง
“เนื่องจากเมื่อต้นเทอมทางคณะเรายังไม่ได้จัดกิจกรรมรับน้องกันเลยเพราะมีเหตุที่ต้องเลื่อนกิจกรรมออกไป” ลู่หานบอกไปในระดับเสียงที่คิดว่าทุกคนน่าจะได้ยินชัดเจน
“เพราะฉะนั้นอาทิตย์หน้าเรามีกิจกรรมรับน้องกันโดยเราจะให้รุ่นพี่ปีสองต้องไปกับน้องรหัสปีหนึ่ง ส่วนพี่ปีสี่จะไปช่วยควบคุมดูแลน้องๆ ทุกคนอีกที”
“งั้นฉันก็ไม่ต้องไปใช่ปะ? เพราะฉันไม่มีน้องรหัส” ชานยอลฉีกยิ้มในขณะที่บอกกับเพื่อนๆ เพราะคิดว่าตัวเองคงรอดจากกิจกรรมครั้งนี้
“’งานนี้ปีสองต้องไปทุกคนนะครับ!”
เสียงของใครอีกคนบอกขึ้นมาทำให้ชานยอลรู้สึกเหมือนตกจากสวรรค์ แล้วเมื่อหันไปมองที่มาของเสียงก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคริสนั่นเอง
“โอยยย ไอ้นี่ก็ตามหลอกหลอนซะเหลือเกิน สงสัยต้องไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ซะแล้ว” ร่างโปร่งบนกระปอดกระแปดเมื่อเห็นหน้าอีกคน
“โอ้โห....ลำบากแค่ไหนฉันก็ไปอะงานนี้มาครบสี่คนเลยเว้ยเห้ย” ฮยอนอาบอกอย่างเพ้อฝัน
“พี่คริส พี่ลู่หาน พี่ซิ่วหมิน พี่จุนมยอน อ๊ายยยยย กลับบ้านเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋ารอเลยค่า~~”
คริสตัลว่าพลางหันไปแสดงอาการชอบอกชอบใจกับฮยอนอาที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน ทำให้ซอลลี่และชานยอลต้องนั่งส่ายหัวด้วยความหนักใจกับความคลั่งไคล้ของเพื่อนทั้งสองคน
“แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะครั้งนี้เราจะไม่รับน้องโหดเหมือนปีก่อนๆ ถือเป็นการไปพักผ่อนก่อนสอบด้วย ยังไงก็ขอความร่วมมือจากน้องปีสองทุกคนด้วยนะครับ”
จุนมยอนบอกพร้อมกับส่งยิ้มหวานจนสาวทั้งคณะแทบจะละลายหายไปกับร้อยยิ้มนั้น
“คนนี้ใครฟะ?” นิ้วเรียวชี้ไปยังหนุ่มหล่อแสนสุภาพที่กำลังยืนพูดอยู่ข้างหน้าพลางหันไปถามเพื่อนสาวในกลุ่ม
“อ๋ออ คนนี้พี่จุนมยอนเป็นเพื่อนในเดอะแก๊งของพี่คริสนั่นแหละ คนนี้สุดภาพบุรุษสุดๆ ส่วนคนนั้นพี่ซิ่วหมิน ดูใสๆ แบบนี้ จริงๆ ไม่ใช่นะคะ! ส่วนคนที่พูดก่อนหน้านี้คือพี่ลู่หานคนแมนแดนมังกร พี่เขาเป็นคนจีนเหมือนพี่คริสเลย”
ฮยอนอาร่ายชื่อรุ่นพี่แต่คนให้เพื่อนสาวร่างโปร่งฟัง ชานยอลได้แต่พยักหน้าตามอย่างเข้าใจก่อนจะมองกลับไปที่สี่หนุ่มนั่นอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าคริสดูเด่นกว่าคนอื่นมากจริงๆ อาจจะเป็นเพราะร่างที่สูงโปร่งและหน้าตาที่ราวกับพระเอกการ์ตูนนั่นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงได้คลั่งไคล้ผู้ชายคนนี้นัก
“งานนี้ใครไม่ไปเราจะไม่ให้ผ่านกิจกรรม!” คนร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหน้ากับเพื่อนอีกสามพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง
“บร๊ะ!! คิดว่าตัวเองเป็น F4 หรือไงว่า ที่ไม่พอใจใครก็ให้ใบแดง” เสียงหวานพูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมจนคริสตัลต้องเอามือมาปิดปากบางของเพื่อนสาวร่างโปร่งเอาไว้
“ธุระของเราก็มีเพียงเท่านี้แยกย้ายกันกลับบ้านได้ครับ”
หลังจากที่ซิ่วหมินอนุญาตให้ทุกคนกลับบ้านได้ แต่ละคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทางใครทางมันรวมทั้งสี่สาวที่เดินควงกันออกมาโดยหนึ่งในสี่นั้นไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกใครบางคนจับตามองอยู่
ครืด ครืดด~~
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูที่สั้นอยู่ในกระเป๋าหรูทำให้ร่างโปร่งต้องรีบหยิบมันขึ้นมาแล้วคนที่โทร.เข้ามาก็ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นแบคฮยอนนั่นเอง
“เหวยยยย~~” เสียงหวานส่งคำทักทายไปยังคนที่อยู่ในสาย
“เลิกเรียนยัง?”
“กำลังจะกลับแล้ว”
“เออ รถที่ให้เอาไปเปลี่ยนทะเบียนเสร็จแล้วนะ มารับกลับไปด้วย”
“จริงเด้~~ โอเช ว่าแต่ให้ไปที่ไหน?” คนร่างโปร่งแสดงท่าทางดีใจออกมาจนเพื่อนในกลุ่มทั้งหมดต้องหยุดเดิน
“ลานจอดรถแถวคณะฉันก็แล้วกัน”
“ได้ๆ รอแป๊ปนะจะรีบไปเลย”
ชานยอลกดวางสายก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้กับเพื่อนทั้งสามคน
“วันนี้กลับบ้านด้วยกันไหมจ๊ะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง เหอะๆ”
“กลับยังไง?” ซอลลี่ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“เดินมังคะ!! ไม่ต้องถามมากตามพี่มา!”
สาวร่างสูงที่สุดในกลุ่มบอกก่อนจะโอบเพื่อนทั้งสามคนให้ตามตัวเองไปที่รถ ก่อนจะขับรถไปส่งเพื่อนๆ ที่บ้านที่ละคนและส่งแบคฮยอนเป็นคนสุดท้าย
“ช่วงนี้เป็นไงบ้าง? โอเคขึ้นไหม เริ่มปรับตัวได้หรือยัง?” แบคฮยอนถามขึ้นขณะมองคนที่กำลังขับรถอยู่
“ก็โอเคนะ ถึงบางทีจะมีหลุดออกไปบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจหรอก” หญิงสาวบอกไปโดยที่สายตายังคงมองออกไปยังถนนกว้าง
“เป็นผู้หญิงแล้วระวังตัวด้วยนะเว้ย คนสมัยนี้ยิ่งไว้ใจไม่ได้อยู่ด้วย”
คนตัวเล็กบอกเพื่อนตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง
“เป็นห่วงเขาหรอตัวเอง~~” ชานยอลหันไปทำหน้าตาบ๊องแบ๊วใส่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ จนแบคฮยอนต้องเบ้ปากออกมาด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ต้องพูดอะไรบางอย่างออกมาเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเพื่อน
“ชานยอล....นะ นาย......ดูสวยขึ้นนะ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนบอก หน้าหวานกลับหุบยิ้มลงทันที ไม่ใช่แค่แบคฮยอนหรอกที่เห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะตัวเขาเองก็รู้สึกได้เหมือนกัน เหมือนฮอร์โมนในร่างกายมันถูกเปลี่ยนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวจอดข้างหน้านั่นเลย ส่งฉันตรงนี้แหละ”
ชานยอลชะลอความเร็วของรถลงก่อนจะจอดเทียบริมฟุตบาทเพื่อส่งแบคฮยอนลงเพียงตรงนี้ หลังจากบอกลาเพื่อนรักเป็นที่เรียบร้อยร่างโปร่งกะออกรถมุ่งกลับหอตัวเองที่เป็นสถานที่สุดท้ายทันที แต่ตลอดระยะทางที่ขับออกมาจากบ้านแบคฮยอนก็มีรถที่ขับตามหญิงสาวมาตลอด แต่ร่างโปร่งกลับไม่ทันสังเกตมันซะเอง จนกระทั่งถึงแยกไฟแดงทำให้รถสีดำทั้งสองคันได้มีโอกาสมาจอดขนาบข้างกัน
ไม่รู้มีอะไรดลจิตดลใจให้หญิงสาวที่นั่งฟังเพลงเพลินๆ ระหว่างติดไฟแดงหันไปมองรถคันข้างๆ ที่กำลังเลื่อนกระจกรถลงมาพอดี ทำให้ชานยอลเห็นคนที่อยู่ในตำแหน่งคนขับที่รูปร่างดูจะคุ้นหูคุ้นตา เพราะมันไม่ชัดเจนพอหญิงสาวจึงจำเป็นต้องลดกระจกของรถตัวเองลงด้วย....และนั่น ทำให้เขารู้ว่าตัวเองคิดผิด!!
“มาแข่งกันหน่อยไหมว่าใครจะถึงห้องของตัวเองก่อน” ร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่ในรถบอกพร้อมกับยกยิ้มให้กับหญิงสาว
“นายเป็นใครถึงได้กล้าดีมาท้าฉัน!” สาวผมยาวมองชายหนุ่มที่เข้ามาขอท้าตัวเองด้วยหางตา
“หรือไม่กล้า...”
น้ำเสียงที่ฟังดูติดไปทางดูถูกทำให้ในใจของอีกคนเริ่มเดือดปุดๆ ตากลมเหลือบไปมองเลขวินาทีตัวสีแดงที่อีก 120 วิ ข้างหน้านี้มันจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่เมื่อหันกลับไปมองหน้าเจ้าของรถที่จอดอยู่ข้างๆ ก็พบแต่รอยยิ้มชวนโมโห
เมื่อไฟสัญญาณจารจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว คนร่างโปร่งกลับเหยียบคันเร่งออกตัวรถไปโดยที่คริสยังไม่ทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มยกยิ้มก่อนจะออกตัวรถตามไปด้วยความเร็วเช่นกัน
รถสองคันที่กำลังแข่งกันโดยไม่มีกฎกติกา แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาที่ดึกอยู่พอสมควร แต่มันก็ทำให้ผู้ที่ขับขี่รถอยู่บนถนนตื่นตระหนกกับความเร็วของรถสีดำสองคันนี้อยู่ไม่น้อย ทั้งชานยอลและคริสต่างก็ไม่มีใครยอมใคร ทั้งคู่ขับตามเส้นทางไปด้วยความคล่องแคล่ว จนเมื่อมาถึงทางที่ถนนโล่งคริสจึงสามารถขับขึ้นมาตีคู่กับรถของอีกคนได้ ตาสวยเหลือบมองรถของคู่แข่งก่อนที่จะเหยียบคันเร่งให้ความเร็วเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมจนสามารถกลับมานำคริสได้อีกครั้งจนถึงหอพัก
สาวร่างโปร่งรีบคว้ากระเป๋าของตัวเองลงจากรถก่อนจะทำการปิดประตูล็อครถแข่งกับอีกคนที่กำลังจะลงมาจากรถเช่นกัน
ชานยอลเลือกที่จะวิ่งขึ้นบันไดแทนที่จะขึ้นลิฟท์ เพราะหากมัวแต่รอให้ลิฟท์มาคริสคงมาถึงตัวเขาซะก่อนแน่ๆ ร่างโปร่งวิ่งต่อไปจนขาเริ่มล้า เพราะการขึ้นไปชั้นห้าด้วยการวิ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเลย แต่สุดท้ายหญิงสาวก็สามารถพาตัวเองขึ้นมาถึงชั้นที่มีห้องพักของตัวเองได้ มือเรียวควานหากุญแจในกระเป๋าพร้อมๆกับวิ่งไปด้วย แต่อีกนิดเดียวจะถึงห้องตัวเองอยู่แล้วแท้ๆ ชานยอลกลับถูกคริสคว้าแขนเอาไว้ได้ซะก่อน
“ปล่อย!” หญิงสาวตะคอกใส่อีกคนพลางหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
“ไม่ปล่อย!”
คริสตอบกลับไปพร้อมกับใช้วงแขนของตัวเองกักตัวอีกคนไว้ หญิงสาวถอยหลังกรูจนแผ่นหลังแนบกับประตูห้องของตัวเอง ตาคมที่จองมาทำให้หญิงสาวเริ่มใจสั่น
.......จะใจเต้นแรงทำไม ผู้ชายด้วยกัน
ชานยอลหลบตาอีกคนโดยอัตโนมัติ แต่มือหนาของคริสกลับสัมผัสที่ปลายคางเรียวของหญิงสาวก่อนจะบังคับให้ตากลมโตนั้นให้หันกลับมามองหน้าเขาอีกครั้ง
“นายต้องการอะไร!”
ร่างโปร่งถามอีกคนออกไปอย่างเหลืออด
“นั่นสิ...ต้องการอะไรดีน้า~~”
ตาคมมองหญิงสาวในชุดนักศึกษาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเล้าโลมแบบที่ชานยอลเคยใช้มันยามที่เจอสาวที่ถูกใจ สายตาที่มองมาเริ่มทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดเพี้ยนไปจากเดิม ร่างโปร่งเริ่มรู้สึกเหนื่อยมากกว่าเดิม เพราะคริสเริ่มจะเข้ามาใกล้ตัวเองมากเกินไป มือหนาเริ่มลูบไล้ต้นแขนเล็กนั่นลงมาเบาๆ หน้าคมค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้กับใบหน้าของหญิงสาวจนชานยอลต้องหลับตาลงเพราะความกลัว
“เฮ๊ย!!!”
คริสรีบฉกกระเป๋าสะพายของอีกคนมาอย่างรวดเร็วก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของสาวผมยาวออกมากดอะไรบางอย่างลงไป
“นี่!! จะทำอะไร เอาโทรศัพท์ฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ!!”
เจ้าของโทรศัพท์พยายามยื้อแย่งของ ของตัวเองคืนจนคริสต้องล็อคตัวชานยอลเอาไว้ในอ้อมกอดแทน
“ถ้าดิ้นอีก คราวนี้พี่ไม่ปล่อยเราไปแน่ๆ....น้องยอลลี่” เสียงทุ่มกระซิบลงข้างๆ หู จนอีกคนถึงกับขนลุก
มือหนากดเบอร์ตัวเองลงบนโทรศัพท์ของชานยอลก่อนจะกดโทรศัพท์ออก เมื่อมั่นใจว่าเบอร์ของหญิงสาวได้ถูกบันทึกลงในเครื่องของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาจึงคืนของทุกอย่างพร้อมกับปล่อยคนที่อยู่ในอ้อมกอดให้เป็นอิสระเป็นจังหวะเดียวกับที่ชานยอลออกแรงกระแทกลงไปบนเท้าของคริส
“โอ๊ยย!”
ร่างสูงร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด คนผมยาวเหยียดยิ้มด้วยความสะใจก่อนจะหันไปไขกุญแจห้องแล้วรีบยัดตัวเองเข้าห้องไปทิ้งให้อีกคนยืนกระโดดเหย๋งๆ ด้วยความเจ็บปวด.....แต่มันก็เป็นความเจ็บปวดที่โครตคุ้มค่าสำหรับคริส มือหนาล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่หน้าจอโชว์เบอร์ที่ไม่ได้รับสายขึ้นมาดู
เป็นการขอเบอร์โทร.ที่ประหลาดที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา....
หลังจากหนีผู้ชายที่มีสายตาที่อันตรายมาได้ ก็ทิ้งร่างตัวเองลงบนเตียง ตากลมกระพริบถี่ๆ พร้อมกับหายใจเข้าออกลึกๆ เรียกสติสัมปชัญญะให้กลับมาอีกครั้ง
“เราเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้ชาย จำไว้ว่า เรา เป็น ผู้ ชาย” หญิงสาวพูดซ้ำๆ กับตัวเองก่อนจะซุกใบหน้าที่ร้อนผ่าวลงบนหมอนนุ่ม
“โอ๊ยยย แบบนี้เรียกว่าเป็นอะไรวะเนี้ย!” มือเรียวแตะแก้มของตัวเองพร้อมบ่นกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังรู้สึกอยู่
ใจสั่นเมื่อเห็นสายตานั่น.....แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรกัน?
หลังจากเหตุการณ์ชวนใจเต้นวันนั้นชานยอลก็หลบหน้าหลบคนข้างห้องมาหนึ่งสัปดาห์เต็ม แม้ว่าคนๆ นั้นจะส่งข้อความมารบกวนจนหญิงสาวแทบตามไประเบิดห้องอยู่บ่อยๆ ก็ตาม แต่สุดท้ายวันนี้ทั้งคู่ก็ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งจนได้ เพราะมันคือวันที่ต้องออกค่ายไปรับน้องกันนั่นเอง
“ยอลลี่! ทางนี้!” เสียงตะโกนเรียกของบรรดาเพื่อนสาวทำให้ร่างโปร่งหาพวกเธอจนเจอ
“โห! พวกเธอขนอะไรไปตั้งเยอะตั้งแยะเนี้ย ไปสามวันนะไม่ใช่สามปี”
สาวร่างโปร่งถึงกับตกใจเมื่อเห็นสัมภาระของเพื่อนตัวเอง
“แหมะ! ได้ไปเที่ยวทะเลทั้งทีขอจัดเต็มบ้างไรบ้าง ฮิฮิ” ฮยอนอาบอกพร้อมกับฉีกยิ้มอย่างมีความสุข
“จ้าๆ แล้วอย่าบ่นว่าปวดโน้นปวดนี่แล้วกัน ไปๆ ไปขึ้นรถกันเถอะเดี๋ยวรถจะออกแล้ว”
ชานยอลบอกกับสามสาวก่อนที่พวกเธอทั้งหมดจะขึ้นไปนั่งประจำที่บนรถบัสที่ถูกเตรียมไว้สำหรับการเดินทางไปทำกิจกรรมรับน้องต่างสถานที่นี้โดยเฉพาะ
รถคันโตออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยใช้เวลาไปครึ่งค่อนวันก่อนจะมาถึงที่หมายซึ่งเป็นทะเลที่มีทรายริมชายหาดเป็นสีขาวสะอาดตาบวกกับน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ใครให้ก็แทบจะกระโดดลงไปเล่นมันซะให้ได้
นักศึกษาปีสองและปีสามถูกเรียกไปรวมตัวกันที่ริมชายหาดหลังจากที่เอาสัมภาระของตัวเองไปเก็บไว้ในที่พักเป็นที่เรียบร้อย พี่รหัสและน้องรหัสถูกจับคู่กันเป็นที่เรียบร้อยเว้นเสียแต่ชานยอลที่ยังไม่มีน้องรหัสเพราะเพิ่งเข้ามาเรียนได้ไม่กี่สัปดาห์
“น้องยอลลี่ยังไม่มีน้องรหัสใช่ไหมครับ?” ลู่หานที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมรุ่นน้องถามอีกคนขึ้นมา
“ค่ะ” หญิงสาวตอบลู่หานกลับไปด้วยหน้าตาที่ใสซื่อ
“อ่า ไม่เป็นไร เพราะน้องยอลลี่เพิ่งเข้ามาและยังไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับพวกเรา เพราะฉะนั้นวันนี้น้องยอลลี่ต้องกลับไปเป็นเด็กปีหนึ่งให้พวกเรารับเข้าคณะก่อน”
“ห่ะ!!!” ชานยอลหน้าเหวอทันทีที่จบประโยคของลู่หาน
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ รับสิทธิ์เป็นรุ่นน้องวันนี้แถมฟรีพี่รหัสสุดหล่อคนนี้เลย”
รุ่นพี่หน้าหวานบอกกับชานยอลก่อนที่จะชี้ไปยังหนุ่มร่างสูงที่ยืนเก๊กหล่ออยู่ข้างหลังตัวเอง เมื่อร่างโปร่งเห็นว่าเป็นคริสก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย อยากจะว่ายน้ำหนีไปอยู่บนเกาะกลางทะเลให้มันรู้แล้วรู้รอด
“เอิ่ม....ไม่เอาของแถมได้มะ? บังเอิญไม่ชอบของฟรี” สีหน้าเอือมระอานั่นทำให้ร่างสูงที่ยื่นนิ่งๆ ในตอนแรกเดินเข้ามาหารุ่นน้องปากเก่งทันที
“แต่บางที...ของฟรีก็อยากมีเจ้าของ” ร่างสูงกระซิบบอกคนที่ตัวเล็กว่านิดหน่อยก่อนจะยกยิ้มแบบที่เธอไม่ค่อยชอบมันขึ้นมาอีกครั้ง
“ขอฟรีบางชิ้นมันไม่ค่อยมีคุณภาพ ฉันไม่อยากได้” หญิงสาวบอกก่อนจะเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าด้วยท่าทางกวนๆ
“เอาละเมื่อทุกคนมีพี่รหัสน้องรหัสของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอดเวลาที่เราทำกิจกรรมที่นี่ ทุกคนต้องทำร่วมกับบัดดี้ของตัวเองห้ามแยกจากกันเด็ดขาด!! หวังว่าจะเข้าใจกันหมดทุกคนแล้วนะครับ”
เสียงขานรับจากรุ่นน้องดังอย่างหนักแน่น เว้นเสียแต่ชานยอลที่ต้องหน้าหงิกเพราะกฎของการทำกิจกรรมครั้งนี้....ห้ามแยกจากกัน นี่มันเท่ากับพาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอันตรายชัดๆ
กิจกรรมเริ่มดำเนินไปพร้อมกับการเปิดศึกระหว่างคริสและชานยอลเพราะเหล่ารุ่นพี่และรุ่นน้องที่จับคู่เป็นบัดดี้กันต้องเข้าฐานทำกิจกรรมโดยต้องอาศัยความสามัคคีซึ่งคู่คริสและชานยอลไม่มีมันเลย กิจกรรมนี้เหมือนเป็นการผูกมิตรสานสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องแต่สำหรับชานยอลมันคือกิจกรรมสร้างศัตรู
การทำกิจกรรมในวันแรกดำเนินมาจนถึงด่านสุดท้ายซึ่งเป็นด่านของซิ่วหมินและเป็นด่านสุดท้ายที่อันตรายต่อชานยอลมากๆ เพราะมันคือเกม ‘ส่งลูกอม’
ทุกคนในทีมต้องทำการส่งลูกอมไปให้อีกคนด้วยปากและคนสุดท้ายต้องเป็นคนกินลูกอมเม็ดนั้นภารกิจถึงจะสำเร็จและชานยอลก็ได้อยู่ในตำแหน่งคนสุดท้ายของทีม
ต้นแถวเริ่มส่งลูกอมเม็ดเล็กๆ ต่อๆ กันมาด้วยปาก เรียกเสียงหัวเราะเฮฮากันได้เป็นอย่างดี แต่ชานยอลกลับเครียดอยู่เพียงคนเดียว เพราะคนที่ต้องส่งลูกอมให้กับเขาก็คือคริส....
ในที่สุดลูกอมเม็ดนั้นก็ถูกส่งต่อมาจนถึงคริส ร่างสูงหันกลับมาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างตัว และเพราะเป็นคริสที่ต้องส่งลูกอมเม็ดเล็กซึ่งมีความเสี่ยงที่ปากของทั้งสองจะสัมผัสกัน บรรดาสาวๆ ในกลุ่มก็ต่างลุ้นด้วยความระทึก ร่างโปร่งเริ่มแสดงทีท่าอิดออด แต่ถ้าไม่รับลูกอมไว้ภารกิจก็จะไม่ผ่าน ไหนจะสายตาท้าทายจากคนตัวสูงนั่นอีก ทำให้ชานยอลจำใจหลับหูหลับตาก่อนจะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากบางไปคาบลูกอมต่อจากปากอีกคน
แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะร่างสูงกลับไม่ปล่อยลูกอมออกจากปากง่ายๆ หญิงสาวเริ่มหงุดหงิด และครั้นจะผละตัวออกมาซิ่วหมินก็บอกว่าจะปรับแพ้ทำให้ชานยอลจำเป็นต้องรุกเพื่อแย่งชิงลูกอมเม็ดนั้นออกมาจากอีกคน แต่เป็นเพราะหญิงสาวรีบร้อนมากเกินไปทำให้ริมฝีปากของทั้งสองคนสัมผัสกันเข้าอย่างจัง!
“คุณพระ!!!” คริสตัลถึงกับอุทานออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของตัวเอง
“แหม อยากลองชิมอย่างอื่นมากกว่าลูกอมก็ไม่บอก” ร่างสูงส่งยิ้มกรุ้มกริ้มให้กับสาวร่างโปร่งที่ยื่นตัวแข็งเป็นหินอยู่ตรงหน้า
“น้องยอลลี่ได้ลูกอมมาแล้วต้องกินมันให้หมดนะครับ” ซิ่วหมินบอกกับรุ่นน้องที่ตอนนี้สติเริ่มตะเลิดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
ลูกอมสีชมพูรสหวานละมุนราวกับรสชาติของความรักได้ถูกชานยอลลิ้มลองมันด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นล่ำเป็นส่ำ ภาพตอนที่ริมฝีปากของเขาและเธอสัมผัสกันถูกฉายวนอยู่ในสมองของหญิงสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างโปร่งเริ่มรู้สึกร้อนรุ่มบนแก้มเนียนจนรู้สึกว่ามันแทบจะระเบิดออกมาเสียให้ได้
นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าความรู้สึกของจูบแรก...
ทูตวสวรรค์ได้ส่งลูกอมรสความรักลงมาใช่ไหม......
Talk : อัพดึกทุกคืน ดื่นเช้ามาตาเป็นหมีแพนด้าทุกวัน 5555+ อย่าลืมแท็ก #ลูกอมปีศาจ กันนะจ๊ะ จุ๊บๆ
ความคิดเห็น