คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Black Candy : 7
Chapter : 7
CHANYEOL PART
“ทำไมต้องแต่งตัวอลังการขนาดนี้ด้วยอะ?” ผมถามเพื่อนสาวร่างเล็กที่กำลังช่วยเซ็ทผมให้
“นานๆ ทีจะได้ออกไปเที่ยวกลางคืนจะให้แต่งตัวเหมือนนอนอยู่บ้านมันก็ไม่ใช่หรอกนะ”
ฮยอนอาพูดไปดัดผมไปอย่างเชียวชาญ
“แต่แค่ไปเที่ยวนะ ไม่ได้ไปรับปริญญาไม่ต้องเป๊ะขนาดนี้ก็ได้ฉันสบายๆ อยู่แล้ว”
“ไม่ได้!! ไม่เคยได้ยินหรอที่เขาบอกไว้ว่าเป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยน่ะ” เสียงเล็กดังแว๊ดขึ้นมาจนผมสะดุ้ง
หลังจากสอบเสร็จเราทั้งสามคนก็จะออกไปฉลองตามที่สัญญากันเอาไว้ โดยที่ฮยอนอาและคริสตัลเลือกที่จะมาแต่งตัวกันที่ห้องของผมและวันนี้ทำให้ผมได้รู้กรรมวิธีการสร้างความสวยงามของพวกผู้หญิง ก่อนหน้านี้ก็ได้เห็นแบบสำเร็จรูปมาเลย ไม่คิดว่าก่อนที่จะสวยได้แบบที่ผมเห็นมันลำบากแบบนี้นี่เอง ต้องแต่งหน้าทำผมแต่ละครั้งแทบจะใช้เวลาไป 7 ชั่วโครต
“อะ นี่ชุดแก”
คริสตัลที่ยื่นชุดสีดำให้ผมหลังจากทำการคุ้ยมันออกมาจากกระเป๋า
“โอ้โห้! ทำไมต้องสั้นด้วยอะ!”
ผมถึงกับร้องออกมาทันทีที่กางชุดออกดูเพราะมันคือชุดเดรสสีดำ แต่สั้นมากกกกกก
“แล้วทำไมต้องยาววะ!”
“ไม่ทำไม แต่มันสั้นไป” เอาตามความจริงคือไม่กล้าใส่ เคยเป็นชายทั้งแท่งแต่ต้องมาใส่เดรสสั้นเสมอหูมันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่
“ใส่ไปอย่าพูดมาก ขาแกก็ออกจะสวยหัดโชว์มันซะบ้าง แม่อุตส่าห์ให้มาที่สำคัญฉันเบื่อที่จะเห็นแกใส่เสื้อยืดกางเกงยืนแล้ว”
ยัยตัวเล็กบอกกับผมพลางแต่งหน้าให้ตัวเองไปแบบนี้คงต้องได้แต่ทำใจใส่ไปสินะ แต่เอาเถอะผมเชื่อในสายตาของพวกเธอ เพื่อนผมเลือกอะไรให้แต่ละอย่างไม่เคยพลาด ทุกสิ่งอย่างที่ผ่านการพิจารณาจากสองคนนี้ถือว่าเพอร์เฟ็คทุกอย่าง เพราะฉะนั้นผมมั่นใจว่าชุดนี้ผมใส่แล้วสวยแน่นอน
“เสร็จแล้วแก ไปลองใส่ชุดมาให้ฉันดูหน่อยสิ” ฮยอนอาบอกหลังจากทำผมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย
ผมคว้าชุดเดรสสีดำนั่นเข้าห้องน้ำไปก่อนจะจัดการสวมใส่มันด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ ก็คนมันไม่เคยอะนะ ขนาดต้องมาเป็นผู้หญิงก็ว่าลำบากแล้ว แต่ต้องมาแต่งตัวให้เป็นหญิงแท้นี่ยากยิ่งกว่า
ผมใช้เวลาไม่นานก็ใส่ชุดที่พวกเพื่อนเตรียมมาให้ได้สำเร็จถึงจะสั้นไปหน่อยแต่เมื่อมองตัวเองจากเงาสะท้อนของกระจกแล้วก็สวยอยู่ไม่เบา นี่ถ้าผมเจอผู้หญิงในกระจกตอนเป็นผู้ชายนะ ผมคงเดินเข้าไปจีบแล้ว ถ้าไม่ติดว่าคนๆ นั้นคือตัวผมเอง
“สวยว่ะแก! มานี่เลยๆ”
คริสตัลถึงกับเข้ามาจับร่างผมให้หมุดติ๊วทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากใส่ชุดเดรสสีดำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะหยิบรองเท้าส้นสูงสีดำมาให้ผมลองใส่ ทีนี้งานช้างเลยเพื่อนเอ๊ยเพราะผมเดินโดยใส่รองเท้าพวกนี้ไม่ได้
“เฮ๊ยแก! ฉันใส่ไม่เป็น!”
“ถ้าไม่อยากเสียชาติเกิดต้องลองใส่เว้ย ใส่ลองหัดเดินแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็ชิน”
เลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะทำหน้าอ้อนวอนพวกเธอแค่ไหนก็ไม่มีใครยอม ผมจึงต้องจำใจใส่ก่อนจะเดินเกาะแขนคริสตัลไปเดินไป แรกๆ ก็ดูยากแถบจะล้มหน้าทิ่มดินทุกย่างก้าว แต่พอสักพักไปก็เริ่มชินราวกับมีเซ้นยังไงอย่างงั้นทั้งๆ
เอ๊ะ!! หรือว่ามี
“ชุดพร้อม ผมพร้อม โบ๊ะหน้าอีกนิดนึงจะเป๊ะมาก”
ว่าแล้วฮยอนอาก็จัดการแต่งหน้าให้โดยที่ไม่ถงไม่ถามความสมัครใจของผมสักคำ
หลังจากที่นั่งเป็นตุ๊กตาให้สองสาวได้จับแต่งตัวจนหนำใจ ก็ถึงเวลาที่เราทั้งสามออกไปท่องราตรี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมออกเที่ยวกลางคืนในฐานะของผู้หญิง ยอมรับว่ารู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่มาก เพราะตอนนี้ก็เริ่มชินกับเพศนี้ที่ได้มาสักพักแล้ว
ออกจากหอพักมาไม่นานเราทั้งสามคนก็ถึงที่หมายเมื่อผมหาที่จอดรถได้เราทั้งหมดก็ลงจากรถมาโชว์ตัวให้ประชาชีได้เห็นถึงความงดงามที่สวรรค์สรรสร้างมา ขอบอกก่อนเลยว่าเพื่อนผมสวยและเซ็กซี่มาก เคยเห็นแต่พวกมันใส่ชุดนักศึกษากัน พอมาแต่งตัวแบบนี้ก็เปรี้ยวจี๊ดใช้ได้กันเลยทีเดียว
จากลานจอดรถจนถึงตัวผับผมรู้สึกได้ว่าเราทั้งสามคนกำลังถูกจับตามอง ก็ไม่รู้สินะ เข้าใจว่าเห็นคนสวยก็ต้องมองกันเป็นธรรมดา ผมเคยเป็นผมเข้าใจผู้ชายพวกนั้นดี
“กี่ที่ดีครับ”
บ๋อยหนุ่มที่หน้าตาดีน้อยกว่าผมถามฮยอนอาที่เดินนำหน้าไป
“สามค่ะ”
“วันแต่...หน้าตาสวยๆ แบบนี้อายุถึงหรือเปล่าน้า~”
คำพูดของไอ้หนุ่มนั่นไม่ได้ตั้งใจจะถามเฉยๆ แน่นอน เพราะผมเห็นสายตาที่มันใช้มองเพื่อนผมซึ่งแทบจะกลืนกินฮยอนอาเลยก็ว่าได้ซึ่งผมก็ทนไม่ได้ที่จะให้ใครมาทำแบบนี้กับเพื่อน
“หน้าแบบนี้คงไม่ใช่เด็กอายุ 16 มั้งคะ รีบพาพวกเราไปที่โต๊ะได้แล้วยืนตรงนี้นานๆ แล้วมันเมื่อย”
ผมแทรกตัวเองไปยืนบังตัวฮยอนอาเอาไว้ แต่ดูเหมือนไอ้หนุ่มนั่นจะยิ้มกริ่มมากกว่าเดิมพร้อมกับมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจก่อนจะพาเราทั้งสามคนเข้าไปข้างใน
เสียงเพลงดังกระหึ่มอยู่ภายในตัวผับ กลิ่นของแอลกอฮอล์และบุหรี่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ แต่ผมไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะผมชินกับสถานที่แบบนี้อยู่แล้ว แก้วทรงสูงสุดหรูที่มีน้ำใส่ๆ ดูไร้พิษภัยแต่มันกลับแอบแฝงไปด้วยแอลกอฮอล์ถูกวางเรียงไว้ตรงหน้าเราสามคน
“แก้วนี้ฉันขอดื่มต้อนรับวันปิดเทอมอันแสนสุข” คริสตัลบอกก่อนจะยกแก้วที่มีไวน์อยู่ข้างในขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
“แก้วนี้ฉันขอดื่มล่วงหน้าให้กับเกรดเอ”
ฮยอนอาชูแก้วขึ้นก่อนจะทำแบบเดียวกับคริสตัล
“แก้วนี้.....ไม่รู้จะฉลองให้ใครเห็นพวกแกกินก็ขอกินด้วยละกัน” พูดจบผมก็ยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมดเช่นกัน
หลังจากที่ทำแบบนี้ไปสามสี่แก้ว ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ราคาแพงก็เริ่มทำงานสองสาวเริ่มออกลาย ทั้งคู่ต่างทิ้งผมออกไปเต้นกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ปล่อยให้ผมต้องนั่งเป็นท่านผู้ชมดูเธอทั้งสองคนใช้ร่างกายของผู้ชายเป็นเสา ลองนึกดูเล่นๆ ว่าถ้าผมออกไปเต้นแบบนั้นคงจะอดขำตัวเองไม่ไหวแน่ๆ จึงได้แต่นั่งมองเพื่อนทั้งสองอยู่ห่างๆ แทนกะว่าถ้าใครเข้าไปทำมิดีมิร้ายแม่เพื่อนสาวทั้งสอง ผมจะลุกขึ้นไปต่อยมันทันที
..................................................Black Candy...................................................
“เฮ๊ยคริส! ดูโน้นสิ แก๊งนางฟ้ามาด้วยว่ะ ฮ่าๆๆ” ลู่หานชี้ให้หนุ่มร่างสูงที่มีสาวสวยนั่งขนาบตัวทั้งสองข้างดูกลุ่มหญิงสาวที่พวกเขาคุ้นเคย
“ว้าวว! นั่นน้องยอลลี่หนิ พอแต่งตัวแบบนี้แล้วดูสวยมากอะมึง”
ซิ่วหมินถึงกับร้องอุทานออกมาเมื่อเห็นสาวห้าวประจำมหาวิทยาลัยมาเที่ยวด้วยสภาพที่สวยและเซ็กซี่อย่างที่เขาไม่คาดคิด
“ว่าแต่มึงรุกน้องเขาไปถึงไหนแล้ววะ?” หนุ่มหน้าหวานหันมาถามคริส
“อีกไม่นานละ”
“อีกไม่นานจะทำไม?”
เพื่อนหน้าหวานถามด้วยความสงสัย แต่คริสกลับยักไหล่ให้อีกคนเป็นคำตอบ
ไม่มีใครรู้ว่าคริสคิดยังไงกับชานยอล ไม่มีใครรู้ว่าทุกอย่างที่คริสทำไปเป็นเพราะชอบหญิงสาวจริงๆ หรือเพียงแค่ต้องการเอาชนะ เพราะที่ผ่านมา...ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ยินคำว่ารักจากปากของชายหนุ่มเลย....
..................................................Black Candy...................................................
หลังจากที่ผมอุตส่าห์ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ลุกขึ้นไปไหนเด็ดขาด แต่สุดท้ายก็ไม่อาจจะต้านทานแรงรบเร้าของเพื่อนทั้งสองคนได้ จนสุดท้ายผมก็ต้องออกมาเต้นกับพวกเธอจนได้ แต่ก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าสเต็ปการเต้นแบบผู้หญิงนี่ผมได้มายังไง
“เห้ยเหนื่อยละขอพักแป๊ป” ผมบอกกับเพื่อนๆ ที่กำลังเต้นตามจังหวะเพลงอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“เออไปด้วยๆ ชักจะหิวน้ำละ”
คริสตัลหยุดเต้นแล้วกันมาบอกผมก่อนจะเดินตามกันออกมายังโต๊ะเดิมที่เคยนั่ง
“ทำไมไวน์ฉันมันเป็นสีแดงวะ? เมื่อกี้ยังเป็นสีใสๆ อยู่เลย” ผมยกแก้วของตัวเองขึ้นมาดูเมื่อเห็นสีน้ำในแก้วที่เปลี่ยนไป
“พนักงานคงรินให้แกผิดม้างงง~~” ฮยอนอาบอกผมด้วยเสียงที่เริ่มยืดยาน
“กินไปๆ เดี๋ยวจะได้อยากไปส่ายกันต่อกำลังมันส์เลย”
คริสตัลยกมือขึ้นปัดๆ เป็นเชิงบอกให้ผมดื่มน้ำสีแดงในแก้วไป ซึ่งผมก็ยอมทำตามที่เพื่อนบอก แต่ทันทีที่ริมน้ำสีแดงประหลาดเข้าปากไปก็กลับพบกับสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนมากับน้ำไวน์ในแก้ว
มันคือลูกอมเม็ดสีแดง....
หลังจากคายมันออกมาดูก็ทำให้ผมถึงบางอ้อ เจ้านี่คงจะเป็นตัวต้นเห็นที่ทำให้ไวน์ในแก้วของผมเปลี่ยนสี เพราะมันคือลูกอมที่มีสีแดงสด ถ้าย้อนกลับไปในวัยเด็กจะจำได้ว่าสีมันแรงเหมือนลูกอมปีศาจที่อมแล้วสีของมันจะติดลิ้นไปทั้งวัน ผมเลิกสนใจเจ้าลูกอมนั่นก่อนจะยกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วก็ถูกเพื่อนทั้งสองคนลากออกไปเต้นกันต่อ
เวลาผ่านไปสักพักผมรู้สึกว่าสมองตัวเองเริ่มจะเบลอทุกสิ่งรอบตัวเริ่มหมุนเร็วจนรู้สึกปวดหัวแล้วเหมือนมันมีก้อนอะไรบ้างอย่ามาจุกอยู่ตรงคอจนผมอยากจะล้วงมันออกมา
ผมทำหน้าพะอืดพะอมอยู่พักนึงจนคริสตัลต้องหันมาถามหลังจากเห็นว่าหน้าผมเริ่มผิดปกติไป
“แกไหวปะเนี้ย? เมาแล้วหรอ?”
“ไม่รู้ว่ะ ไปห้องน้ำแป๊ปนะจะอ้วก”
ผมบอกกับเพื่อนทั้งสองก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
ขอบอกเลยว่าตอนเป็นผู้ชายผมไม่เคยเมาถึงขั้นอ้วกแตกอย่างนี้มาก่อนเลยและวันนี้ผมก็ดื่มน้อยกว่าปกติด้วย สภาพของผมตอนนี้เริ่มจะไม่เป็นคนทรงผมที่ถูกเซ็ทมาอย่างสวยในตอนแรกเริ่มยุ่ง หยดเหงื่อเม็ดโตแทรกผ่านเมคอัพขึ้นมาบนใบหน้าผมรู้ร้อนไปทั้งตัว
ร้อน...ร้อนแบบแปลกๆ ร้อนนี้มันรู้สึกคุ้นๆ
ไม่นะ!!! ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น ผมจัดการเปิดน้ำที่อ่างล้างหน้าก่อนจะใช้มือเรียวเล็กของตัวเองรองน้ำจนเต็มฝ่ามือแล้วสาดเข้าหาใบหน้าของตัวเองซ้ำๆ โดยไม่สนใจเมคอัพว่ามันจะเละขนาดไหน เพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตัวมันอันตรายเกินกว่าที่จะมาห่วงสวย
“แก! กลับกันเถอะ!” ผมเข้าไปคว้าแขนเพื่อนทั้งสองเอาไว้ด้วยร่างกายที่หายใจอย่างเหนื่อยหอบ
“โห่ อะไรวะยังไม่หายหนุกเลย” ฮยอนอาย่นจมูกเมื่อผมเอ่ยปากชวนเธอกลับ
“กลับเถอะ! ฉันไม่ไหวแล้ว”
บอกไปก็ต้องพยายามควบคุมร่างกายที่กำลังร้อนวูบวาบนี่ไปด้วย
“เออๆ กลับก็ได้”
ทั้งสองสาวยอมกลับผมก็รีบมุ่งออกไปยังรถของตัวเองทันที แต่เรียวแรงมันกลับหายไปซะดื้อ มือไม้ผมอ่อนกระทันหันจนต้องเกือบทรุดตัวล้มลงนั่งนั่งอยู่กับพื้น แต่ดีที่ครัสตัลคว้าตัวผมเอาไว้ทัน
“แกฉันว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ แหละ”
“ซวยแล้วไหมล่ะ ใครจะขับรถล่ะทีนี้”
เสียงฮยอนอากับคริสตัลปรึกษากันในขณะที่สติผมมันกำลังจะหลุดออกจากตัวผมไปซะทุกเมื่อ แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงบุคคลอื่นเข้ามาร่วมด้วย
“มีอะไรให้พี่ช่วยหรือเปล่า?”
“โอ๊ะ! ดีเลยรบกวนพี่คริสช่วยพายอลลี่ไปส่งที่ห้องทีเถอะค่ะ เมาจนเดินเองไม่ไหวแล้ว”
เหมือนสวรรค์กำลังกลั่นแกล้ง ทำไมต้องเป็นอีตานี่ด้วย ยิ่งเวลาแบบนี้เขายิ่งไม่ควรเข้าใกล้ผมเลย
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกพยุงไปที่ไหนสักที่ เสียงพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่องแต่ผมกลับฟังมันไม่ออกว่าพวกเขาพูดอะไรกันและตอนนี้ผมก็ไม่สามารถบังคับให้ตัวเองลืมตาขึ้นมามองอะไรๆ ได้เลย เพราะความรู้สึกหนักหน่วงภายในหัวจนมันแทบจะระเบิดออกมาในทุ่งข้าวสาลีจนจะกลายเป็นโกโกครั้น ผมจึงได้แต่หลับตาปล่อยให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้ขับรถพาผมออกไป
“ยอลลี่ ยอลลี่”
มือหนาตบข้างแก้มผมเบาๆ ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาดูคนที่กำลังเรียก
หล่อ....หล่อมาก ใบหน้าของคนทีเรียกอยู่ห่างจากหน้าผมไม่มาก ผมหรี่ตามองอีกคนก่อนจะหลับตาลงเหมือนเดิมเพราะความปวดจี๊ดในสมองเขาถามอะไรมาผมก็ได้แค่ตอบกลับไปเพียงสั้นๆ
ไม่นานก็รู้สึกว่าตัวเองถูกวางลงบนที่นอนนุ่มๆ ผมพยายามลืมตาขึ้นมาดูรอบๆ ตัว ก็เห็นถึงข้าวของเครื่องใช้ที่คุ้นเคยมันก็ไม่น่าจะเป็นที่ไหนไปได้นอกจากห้องผมเอง
ผ้าที่แห้งพอหมาดๆ ถูกเช็ดไปทั่วใบหน้า มันไม่ได้ช่วยลดความรู้สึกร้อนวาบที่กำลังเป็นอยู่ได้เลย ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่เมื่อผมลืมตาขึ้นมองคนที่กำลังเช็ดตัวให้มันก้ทำให้ใจรู้สึกสั่นวาบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ใบหน้าคมกับสายตาเริ่มทำให้หัวใจผมแทบจะเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมภาวนาขออย่าให้ตัวเองได้รอดผ่านคืนนี้ไปอย่างปลอดภัย
แต่ก็ได้แค่คิดเมื่ออีกคนกำลังจะลุกขึ้นแต่มือผมกลับไปคว้าแขนของเขาเอาไว้ ใบหน้าคมนั่นยกยิ้มขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าตัวเองส่งสายตาแบบไหนไปให้ เขาถึงได้มองผมกลับมาแบบนั้น
อย่ามองได้ไหม....อย่ามอง
มือหนาเกลี่ยเส้นผมบนใบหน้าของผมออกไปก่อนจะโน้มลงมาใกล้ๆ
“อยากให้พี่อยู่ด้วยไหม....หื้ม”
อย่าถามด้วยน้ำเสียงเย้ายวนแบบนี้......เพราะกลัวตัวเองจะเผลอตอบไปว่า ‘อยาก’
“ออกไป!” ออกปากไล่อีกคนไปทั้งๆ แทบจะไม่มีแรงอ้าปากพูดเสียด้วยซ้ำ
“เมาหนักขนาดนี่ยังจะเก่งได้อีกนะ” เสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ๆ
แต่ไม่ว่าจะอ่อนแรงสักแค่ไหน ตอนนี้ผมก็ต้องรีบลุกขึ้นเพื่อพาตัวเองไปอ้วกในห้องน้ำ และแน่นอนว่าตานั่นต้องตามเข้ามาลูบหลังให้ แต่เอาเถอะตอนนี้ไม่มีเวลาจะไปเถียงกับเขาแล้วเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองหายใจแรงมากจนเหนื่อยจะลุกยังไม่มีปัญญา ผมจึงจำเป็นต้องคว้าคอคนข้างๆ มาพยุงตัวเองให้เดินกลับไปที่เตียง
“ร้อน....” ปากผมเริ่มเพ้อออกไปตามความรู้สึก
“ใช่...ร้อน...เรากำลังทำให้พี่ร้อน”
เอาแล้วไง! ประโยคแบบคนผู้ชายประเภทเดียวกันมักเข้าใจดีว่าหมายความว่าอะไร ผมหลับตานิ่งพยายามไม่รู้สึกกับสัมผัสต้นแขน ใจของผมเต้นโครมครามเพราะทนหวั่นไหวไม่ได้ก่อนจะตัดใจลืมตาขึ้นมามองอีกคน แต่ทว่าริมฝีปากของอีกคนกลับทาบลงมาพอดี
ลิ้นนุ่มชื้นรุกล้ำเข้ามาอย่างช่ำชอง แม้พยายามจะขัดขืนสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหลุดรอดออกมาได้ ร่างสูงของผู้บุกรุกเริ่มแทรกตัวลงมาอยู่กลางระหว่างขาก่อนจะถอดจูบออกไปอย่างอ้อยอิ่ง
“ที่เราแกล้งพี่เอาไว้วันนั้น คืนนี้พี่ขอเอาคืน”
..................................................Black Candy...................................................
เปลือกตาบางลืมตาขึ้นมารับแสงที่ส่องผ่านเข้ามาภายในห้องนอน ร่างโปร่งรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย แต่เมื่อหันไปมองข้างๆ ตัวก็พบว่าตัวต้นเหตุไม่อยู่เสียแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้ชานยอลแทบจะมุดแผ่นดินหนี เพราะต้องมายอมให้คนที่ไม่ชอบขี้หน้ามาทำอะไรตัวเองได้อย่างง่ายดาย แถมกลับไปโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว
แบบที่ชานยอลเคยทำกลับผู้หญิง เป๊ะ!
ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างปลงตัวเองก่อนจะพาตัวเองเข้าห้องน้ำไปด้วยความยากลำบาก
เวลาล่วงเลยมาจนเกือบเย็นหญิงสาวต้องพาต้องเองลงจากห้องมาหาอะไรทานและเมื่อหันไปมองประตูห้องข้างๆ ก็พบแต่ความเงียบสงบ ทำให้อารมว้าวุ่นเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของชานยอล
ร่างโปร่งสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเองก่อนจะเดินออกจากตัวหอพักไป แต่ก็เจอกับใครบ้างคนซะก่อน
“อ้าว พี่ลู่หาน มาหาคริสหรอ?”
ร่างโปร่งแกล้งถามออกไปเผื่อคำตอบของอีกคนจะทำให้รู้ว่าตอนนี้คริสอยู่ที่ไหน
“อ๋อเปล่า พี่เอารถมาคืนมัน”
“อ้าว แล้วเจ้าของรถเขาไปไหนซะล่ะ” หญิงงสาวเลิกคิ้วถามหนุ่มหน้าหวานตรงหน้า
“มันขึ้นเครื่องไปแวนคูเวอร์ตั้งแต่เที่ยงแล้ว”
คำตอบของลู่หานทำให้อีกคนรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
เรื่องเมื่อคืนก็แค่วันไนท์สแตนสำหรับเขาจริงๆ.....
Talk : ตอนนี่เล่นเอาไม่ได้นอนตามชานยอลกันไปเลยทีเดียว ขอตัวไปสลบแป๊ป ขอให้สนุกกับการอ่านนะจ๊ะ ^^ ปล. คงรู้นะว่าตอนที่หายไปจะไปหาได้จากที่ไหน...
ความคิดเห็น