lyradin
ดู Blog ทั้งหมด

50 ข้อก่อนเอ็นท์

เขียนโดย lyradin
 

 
 




>>50 ข้อก่อนเอ็นต์ และก่อนสอบ เพื่อแรงฮึด(เรอะ?)<<

1.   1.    อย่ามองแต่เปลือก ให้มองที่แก่น มหา’ลัยหรือความเห็นใครไม่สำคัญ ถามตัวเองก่อนว่าอยากทำอาชีพอะไร
2.    อาชีพที่ว่าต้องรักมาจากใจ เพราะต้องทนกับมันไปอีกตลอดชีวิต
3.    คิดดูให้ดีว่าเราเหมาะกับมันไหม อยากเป็นใจจะขาดดิ้นเพราะอะไร เคยมองดูอาชีพอื่นไหม หรือทั้งชีวิตมองแต่อาชีพนี้อย่างเดียว บางทีสิ่งที่เชื่อ อาจไม่ใช่สิ่งที่ใช่
4.    อุดมการณ์เกี่ยวกับอาชีพนั้นเหมาะกับเราไหม เช่น อยากเป็นหมอ เพราะเงินดีพยาบาลสวย หรือเพราะอยากช่วยคนป่วยน้ำเลือดน้ำหนองไหลให้สบาย
5.    เงินทองเกียรติยศศักดิ์ศรีไม่ใช่ประเด็นของความสุข
6.    บางอาชีพไม่เหมาะกับคนหัวดื้อ ยึดมั่นในความคิดตนเองไม่ยอมเจ้านาย ระบบราชการบางครั้งไม่เอื้อต่อคนกระตือรือร้น จงพิจารณาใคร่ครวญอย่างรอบคอบว่าจะทำงานที่ไหนจึงรุ่ง
7.    อาชีพมีเยอะแยะหลากหลาย ประเทศไทยต้องการอาชีพตั้งแต่วิศวกรยันชาวประมงน้ำกร่อย อย่าถูกจำกัดวงเพราะเรียนเก่ง-เรียนไม่เก่ง บ้านรวย-บ้านจน หากใจจริงอยากเป็นคนปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่เชียงใหม่ อย่าได้ลังเล
8.    มีทุนเสมอสำหรับคนตั้งใจ ติดตามข่าวสารเพื่อคว้าโอกาสความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดี
9.    มองให้อะไรให้ลึกซึ้ง อย่าพูดกว้างๆ สมมติอยากเป็นครู เจาะจงไปเลยว่าจะทำอะไร สอนเด็กอนุบาลเต้นแอโรบิค สอนภาษาอังกฤษเด็กประถม สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ ฯลฯ เพราะสาขาการศึกษามีมากมาย ใครที่เรียนตรงกับอาชีพที่ทำย่อมได้เปรียบที่สุด ไม่เสียเวลาเปล่า
10.    อย่าโดนใครไซโค ไม่ว่าพ่อแม่ ญาติ เพื่อน ครูแนะแนว เพราะคนพวกนั้นทั้งหมดไม่มีใครมาใช้ชีวิตของเราไปจนตาย
11.    อย่าเสียดายว่าพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดเราเคยทำอาชีพนี้ รู้เกี่ยวกับอาชีพนี้มาดี ถ้าเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นก็น่าเสียดาย เพราะชีวิตที่เหลืออาจเป็นความเสียดายยิ่งกว่า
12.    เมื่อตกลงใจเลือกอาชีพแล้ว จงศึกษาให้ถ่องแท้ อย่าดูแบบผิวเผิน เพื่อให้แน่ใจว่านี่เป็นสิ่งที่ชีวิตเราควรจะเป็น หาหนังสือเกี่ยวกับอาชีพนี้มาอ่าน ถามคนที่ทำอาชีพนี้ เรียนสาขานี้ (หรือจะถามหมอดูเพื่อขอกำลังใจก็ไม่แปลก)
13.    เลือกคณะ อย่าเลือกสถาบัน เพราะคณะคืออาชีพ สถาบันแค่ยี่ห้อ
14.    มีเป้าหมายแล้วจงมุ่งมั่นจนสุดหูรูด
15.    ปัญหาที่เกี่ยวกับพ่อแม่หรือครอบครัว จงพูดคุยกันด้วยความเข้าใจอย่างมีอารยธรรม ใจเย็นไว้ก่อนเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่ศัตรูประสงค์ร้ายแต่เป็นอุปสรรคที่ใจจริงหวังดีและรักเราทั้งนั้น(แม้การกระทำที่ออกมาอาจรุนแรงด้วยอารมณ์) ฟังพวกเขาพูดให้จบก่อนแล้วค่อยอธิบายทุกสิ่งอย่างละเอียดลออตั้งแต่ความเป็นมาของแรงบันดาลใจ อุดมการณ์ของเราต่ออาชีพ ความถนัดของเราต่อมัน ให้ความมั่นใจกับพวกเขา อย่าลืมว่าจงใจเย็นเสมอเพื่อไม่ให้กลายเป็นการฟาดฝีปากอย่างไม่สร้างสรรค์
16.    ถ้าเรียนไปแล้วไม่ใช่ รีบหาสิ่งที่ใช่ให้ได้ อย่าลังเลใจที่จะซิ่ว กลับตัวตอนนี้ยังไม่สายเกินแก้
17.    เก่งอะไรเก่งให้จริง ตั้งใจเรียนให้มาก ความขยันน่ากลัวกว่าความฉลาด
18.    คลานไปข้างหน้าแค่หนึ่งคืบ ก็ใกล้จุดหมายกว่าคนยืนเฉยๆ
19.    ยิ่งเราให้เวลากับอะไรมากเท่าไร เรายิ่งชำนาญมันมากเท่านั้น อย่าเสียเวลากับสิ่งไร้สาระจนเกินไป เวลาที่มีใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ให้เวลากับการเรียนมากขึ้น 1 นาทีก็ถือว่าได้เปรียบคนที่ไม่ให้แล้ว
20.    เวลาเรียนทำเกรดในร.ร.อย่าจับปลาหลายมือ  เก่งและชอบวิชาไหนเอาวิชานั้นให้เลิศไว้ก่อน วิชาที่ห่วยสุดคอยพยุงไว้ไม่ให้ทุเรศเป็นพอ ถ้าเราไม่ได้เคยคิดจะใช้มันทำมาหากินอยู่แล้ว
21.    คนที่สอบได้คะแนนดีส่วนใหญ่รู้ดี ต้องเรียนและอ่านสะสมมานานๆก่อน จะง่ายกว่าอ่านแบบไฟลนก้น
22.    เห็นอะไรบ่อยๆจะติดตา เวลาอยากจำอะไร เขียนใส่เศษกระดาษเอาไปแปะไว้ตามฝาบ้าน ห้องน้ำ หัวเตียง โต๊ะเรียน ฯลฯ
23.    ดื่มน้ำและนอนหลับให้เพียงพอ อย่าทำให้นาฬิกาชีวิตตามธรรมชาติเสียสมดุลเกินเหตุ ข้อนี้สำคัญ
24.    อ่านหนังสือแล้วง่วง หิว เบื่อ เกิดอาการปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้ผีเข้า ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เลิกอ่าน ประเด็นของการเลิกอ่านจริงๆมีอย่างเดียว คือใจไม่สู้ เลยบังคับตัวเองไม่ได้
25.    ซึ่งใจไม่สู้นั่นเองเป็นเหตุที่ทำให้พ่ายแพ้
26.    คนฉลาดรู้ดี เวลาทำอะไรต้องคิดก่อนเสมอ อย่าทำอะไรที่จะทำให้ต้องเสียใจภายหลัง
27.    อย่าต้ำไบ่ไปเสียเวลากับผลประโยชน์ระยะสั้นถ้ายังเรียนได้ไม่ดี อย่าหันไปเล่นเกมทำเงิน มันได้เงินแค่ตอนนี้ แต่ทำไปตลอดชีวิตไม่ได้ ของพวกระยะสั้นนี้คืองานอดิเรก อย่าให้มันมากินเวลาของอนาคตเรา
28.    การบริหารเวลาสำคัญอย่างยิ่ง กิจกรรมและงานอดิเรกไม่ใช่สิ่งต้องห้าม อย่าให้การเรียนเสียเป็นพอ
29.    คิดอะไรคิดยาวๆ บางคนชอบคิดว่า อย่างเราเป็นแค่นี้ก็พอ ได้แค่นี้ก็บุญ อย่าลืมว่าเรายังมีพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดให้ดูแล ยังไม่รวมตัวเราซึ่งอาจจะไปหาผัวเมียลูกหลานมาเพิ่ม ต้องทำยังไงถึงจะเลี้ยงทุกคนได้อย่างภาคภูมิ
30.    ตอนเลือกร.ร.คิดให้ดี บางคนเรียนเก่งปานกลางไปเลือกร.ร.ที่มาตรฐานสูงเกินควร ทำให้เกรดถูกกด ถ้ามหาลัยที่เราจะเข้าไม่ได้เรียงคะแนนโดยดูว่ามาจากสถาบันไหน(บางมหาลัยเวลารับเข้าจะดูว่าเด็กมาจากร.ร.อะไร ถ้าร.ร.ไหนค่าเฉลี่ยต่ำแต่เก่งก็จะตั้งค่าผ่านต่ำตาม) อาจทำให้เสียโอกาสได้
31.    เหนือฟ้ายังมีฟ้า เก่งแล้วอย่าชะล่าใจ ในสถาบันของเราอาจเป็นหัวกะทิ แต่ยังมีสถาบันอื่นๆที่ซ่อนคนเก่งไว้อีกมาก
32.    พอคนเก่งเหล่านี้แสดงตัวออกมาที จะเห็นว่าเยอะจนชวนวิงเวียน ดังนั้นจงพร้อมรบอยู่เสมอ ถ้าเก่งแล้วในสถาบันนี้ แสดงว่าถึงเวลาอัพเลเวลไปเจอตัวบอสๆได้แล้ว หาโอกาสไปลองสอบสนามใหญ่ๆเพื่อผ่านด่านสูงๆดู
33.    เช่นเดียวกับนักรบทั้งหลาย การอ่านตำราพิชัยสงครามไม่เพียงพอ ต้องลองลงสมรภูมิจึงรู้วิถีกระสุนศัตรู อยากเข้าที่ไหนไปเอาข้อสอบเก่าๆของที่นั่นมา อ่านเยอะไม่เท่าอ่านตรง ถ้าศัตรูเก่าคือคนออกข้อสอบคนเดิมยังไม่ตาย หรือศัตรูใหม่เรียนจบสำนักเดียวกันมา รับรองว่าต้องมีกระสุนวิถีคล้ายๆกันนี้โผล่มาอีก
34.    ทำทุกสิ่งอย่างฉลาด การท่องคัมภีร์ได้หมดเล่มไม่เท่าคนที่เข้าใจแก่นปรัชญาเพียงหนึ่งประโยค อ่านทุกสิ่งให้อ่านอย่างเข้าใจอย่าสักแต่ท่องไม่งั้นจะเหนื่อยเปล่า คนบางคนลอกการบ้านเพื่อนแต่เก่งกว่าเพื่อน คิดว่านั่นเป็นเพราะอะไร ความแตกต่างมันอยู่ที่เข้าใจหรือทำไปตามตัวอย่าง
35.    อ่านเสร็จลองเขียนย่อออกมาดู จะเห็นได้ว่าเราไม่เข้าใจตรงไหนบ้าง
36.    ส่งสัญญาณเอสโอเอสขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ ให้เขาอธิบายจนบรรลุแก่น
37.    อย่ากลัวที่จะถาม ดังสุภาษิตญี่ปุ่นที่ว่า ถาม-อายครั้งเดียว ไม่ถาม-อายตลอดชีวิต
38.    คนโง่ที่รู้ตัวเองว่าโง่แน่นอนว่าดีกว่าคนโง่ที่ดันนึกว่าตัวเองฉลาด เพราะงั้นจงโง่อย่างภาคภูมิใจ ไม่ต้องอายที่จะบอกว่าไม่รู้ มีตรงไหนไม่เคลียร์รีบไปหาคำตอบมาให้ได้ อย่าช่างมัน เดี๋ยวจะสะสมตะกอนความงง
39.    คนเรามีเทคนิคการจำต่างกัน บางคนท่องบ่นงึมงำเป็นคาถาอาคม บางคนตัดย่อเป็นรหัสลับดาวินชี ลองอ่านดูแล้วจำ จะเริ่มค้นพบวิธีท่องของตัวเองที่เหมาะกับตัวเอง
40.    ในทำนองเดียวกัน กวดวิชาก็มีหลายสำนัก ลองเรียนดูหลายๆแห่งจนกว่าจะค้นพบที่ที่สอนกระบวนท่าเหมาะกับเรา  อย่าทู่ซี้เรียนที่ไหนที่ไม่เหมาะเพราะเหตุผลเสล่อๆ เช่นพ่อแม่บังคับหรือเพื่อนเรียนที่นั่น เสียเงินเสียเวลาเสียอนาคต
41.    การโดดเรียนไปทำเรื่องไร้สาระเป็นบาปกรรมร้ายแรง อภัยโทษได้ถ้าเข้าใจในเรื่องนั้นๆอยู่แล้วเท่านั้น
42.    เรียนติวเข้มทำข้อสอบโดยพื้นฐานไม่แน่นไม่มีประโยชน์อะไร ยิ่งจะทับถมให้ล่มจมเปล่าๆ ยังไม่มีเสาเข็มอย่าริอ่านปูหลังคา ถ้าพื้นฐานยังไม่บรรลุ รีบไปอัดพื้นฐานอย่างด่วนที่สุด บางคนเข้าคอร์สเรียนเบสิคแกรมม่าตอนม.ปลายก็ไม่เห็นจะโง่ตรงไหน คนไม่รู้แล้วยังไม่ยอมเรียนโง่กว่าหลายขุม
43.    ไม่รู้จะไปเรียนไหน? การเรียนปูพื้นฐานมีสอนในหลายกวดวิชา ถึงต้องนั่งหัวโด่ท่ามกลางเด็กๆก็ช่างมันปะไร
44.    ความอิจฉาริษยาเป็นไฟเผาใจ มีบางคนเอามันมาใช้เพื่อเร่งเตือนสติตัวเองให้เรียนแข่งกับคนที่อิจฉา แต่วิธีนี้จริงๆไม่แนะนำ เราไม่ทำอะไรเพื่อเอาชนะใคร เราทำอะไรเพื่ออนาคตของตัวเอง
45.    ชีวิตเราบุญกรรมกำหนดครึ่งหนึ่ง เรากำหนดเองอีกครึ่งหนึ่ง  อย่าปล่อยให้ใครมากำหนดนอกจากนี้
46.    การฝึกสมาธิช่วยเพิ่มคะแนนได้บ้าง
47.    ตรงกันข้าม การหลับหูหลับตาบนบานไม่ช่วยอะไรเท่าไร
48.    ถ้าเรียนจนเก่งแล้วยังมีเวลาว่าง จงใช้มุขเก่ามาเล่าใหม่เหมือนตอนกวดวิชาก่อนเรียน ไปหาที่เรียนก่อนเข้ามหาลัย
49.    รักในวัยเรียนถ้าจัดการให้ดีและทั้งสองฝ่ายมีวุฒิภาวะมากพอเท่านั้นจึงไม่เป็นอุปสรรค แต่ส่วนใหญ่พวกเรายังเด็กมักถูกความหลงบังตาเลยให้เวลากับมันมากไปนิด ทำให้มากินเวลาที่สามารถใช้อ่านทบทวนหนังสือได้
50.    อย่าลืมว่า ตั้งใจมุ่งมั่นลำบากแค่ตอนนี้ไม่มีกี่ปี แล้วต่อไปจะได้สบาย อนาคตของเราที่เหลือแขวนอยู่กับเวลาตอนนี้ ถ้าผ่านไปแล้วมันย้อนกลับมาไม่ทันแล้ว จงใช้ให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างที่ได้เคยบอกไปแล้วและจะขอย้ำอีกครั้งให้จำไว้เสมอ ทำอะไรอย่าให้ต้องเสียใจภายหลัง  --- เป็นกำลังใจให้ทุกคนมีความสุขในชีวิตอย่างภาคภูมิ....สาธุ!


เครดิต : แผ่นรองไดจากบอร์ดยิ้มหวานฝีมือ Sweetlover เจ้าค่ะ
หมายเหตุ : ตัวอิฮั้นคนเขียนเองก็เรียนไม่เก่งและยังไม่ได้เอ็นท์ (อ้าว!) แค่ว่างๆก็เลยเขียนเล่น 555 อ่านมาทำไมเหนี่ยะ คงไม่มีใครโดนหลอกนะเออ ก๊ากๆ (วิ่งหลบเปลือกกล้วย ขวดน้ำ ฯลฯ อย่างว่องไว)






 


ด้วยเดชอำนาจ

แห่งพระสยามเทวาธิราช

และเหล่าเทพไท ผู้ใดคิดคด

อกตัญญูต่อแผ่นดิน ขอจงมีอันเป็นไป > สร้าง Glitter ของคุณเองที่ Glitter.Dek-D.COM

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น