lyradin
ดู Blog ทั้งหมด

[เสียงนกเสียงกา] กรณีจิ้นYรามเกียรติ์ของพี่บลู

เขียนโดย lyradin



[เสียงนกเสียงกา] กรณีจิ้นYรามเกียรติ์ของพี่บลู


คำเตือน : นี่เป็นเสียงนกเสียงกา เป็นเพียงการแสดงความเห็นอย่างพร่ำเพ้อของสาววายล้วนๆเกี่ยวกับนิยายวาย หนุมาน&อินทรชิต ของท่านสาววายรุ่นใหญ่ BlueAgeha ไม่มีเจตนามุ่งร้ายต่อใคร ไม่ว่าจะถูกพาดพิงหรือไม่ถูกพาดพิงก็ตาม ถ้าผู้ใดอ่านจบแล้วรู้สึกอึดอัดคับข้องกระดองใจ รับไม่ได้  แนะนำให้ปิดไปดีกว่าเดี๋ยวจะไม่ดีต่อสุขภาพจิต หรือถ้าเห็นว่าควรจะแจ้งแบนอีกทีให้ตายตกกันตามนิยายพี่บลูไป ก็ตามแต่จะเห็นควร

เอ่อ ถ้าไม่รู้จัก Yaoi เกิดมาไม่เคยได้ยิน เชิญปิดไปโลดเลยจ้ะ อ่านไปก็ไม่เข้าใจถ่องแท้ จะจับไปกระเดียดบ้าๆบอๆหน้าแตกเอาได้ (อย่างที่เราเห็นหนังสือพิมพ์เคยทำกับสาววาย - ฮา)

======


เมื่อเร็วๆนี้สาววายคงได้เห็นกรณีที่นิยายจิ้นรามเกียรติ์ของพี่บลู หนุมาน x อินทรชิต (เคยติดอันดับท้อปของหมวดสบายๆคลายเครียด) ถูกแบนออกไป และบอร์ดนักเขียนก็มีการแสดงความเห็นหลากหลายกันมาก ในฐานะสาววายคนหนึ่งที่ตามอ่านนิยายของคนเขียนวายหลายคน รวมถึงได้ตามอ่านเรื่องนี้มาแต่เนิ่นๆ รู้สึกว่านี่เป็นกรณีน่าสนใจทีเดียว นอกจากเรื่องเรตที่เว็บเด็กดีตั้งกฎขึ้นมาห้ามฉากที่ไม่เหมาะสมทางเพศสำหรับเยาวชน สิ่งที่คนส่วนใหญ่พูดก็คือความไม่เหมาะสมของการ "จิ้นรามเกียรติ์"

คำถามคือจิ้นรามเกียรติ์ไม่เหมาะสมเพราะอะไร แล้วความเหมาะสมของการ "จิ้น" มันอยู่ตรงไหน

โดยปกติแล้ว ไอซ์คิดว่าสมองสาววายมันเหมือนจะมีกลไกบางอย่างที่ไม่รับคู่นอร์มอล เช่นว่าอ่านนิยายชายหญิงไม่อิน เห็นงานแต่งงานชายหญิงก็งั้นๆ เวลาดูหนังแม้จะเป็นหนังนอร์มอล ก็จะพยายามจับเอาพระเอกไปคู่พระรองและเขี่ยนางเอกออกไปนอกสารบบให้จงได้

พูดอย่างง่ายที่สุด การจิ้นดูเหมือนจะเกิดขึ้นกับทุกสิ่งที่สาววายเสพเข้าไป ตั้งแต่พี่คนขายไอติมสุดเคะหน้าออฟฟิศ ไปยันดารานักร้องทั่วโลก -- เป็นอิสระทางความคิดที่เกิดขึ้นแน่นอนเพียงแต่ว่าจะแสดงออกมารึเปล่า

ในเว็บเด็กดี เรื่องต่างๆที่สาววายจับมาจิ้น และแต่งแฟนฟิคกันส่วนใหญ่ คือวงดาราบอยแบนด์เกาหลีซะมาก (ไอซ์ไม่ใช่สายนั้นเลยไม่เคยอ่านแต่ก็พอเข้าใจ) นอกจากนั้นก็จะเป็นแฟนฟิคจากนิยายและการ์ตูนทั่วไป ลักษณะเดียวกับโดจินชิที่เป็นของญี่ปุ่น

ถามว่าแบบนี้ไม่เป็นการคุกคามตัวออริจินัลหรือ? เอาดีโน่มาวายกับฮิบาริ ทั้งๆที่มันเป็นผลงานจากความคิดของคนอื่น

ยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะเช่นดารานักร้องที่มีตัวตนอยู่จริงๆ พ่อแม่โน่ริทจะรู้สึกยังไงที่มีคนมานั่งเขียนนิยายเป็นคุ้งเป็นแควว่าลูกเขาเป็นเกย์?

คำถามคือ อย่างงี้ "คุกคาม" รึเปล่า แล้วใช้มาตรฐานของกฎหมายหรือศีลธรรมแบบใด

สิ่งที่ถูกนำมาจิ้น ส่วนใหญ่เป็นผลงานสาธารณะที่คนรู้จักกันทั่ว หรือบุคคลสาธารณะที่สาววายจำนวนมากมีแนวร่วมจิ้นเหมือนๆกัน

แต่สิ่งสาธารณะเหล่านั้นมีสิทธิ์ในตัวเองแค่ไหนกัน และการที่เขาไม่เอาเรื่องสาววาย (หรือแม้แต่เซอร์วิสเพิ่มเพื่อให้เรตติ้งยิ่งสูงเช่นที่เราเห็นๆกันมา) เป็นการยอมรับไปในตัวหรือเปล่าว่าสิ่งสาธารณะอาจถูกนำไปดัดแปลงได้และกลายเป็นสมบัติร่วมกันในทางใดทางหนึ่ง

โดจินชิเป็นตัวอย่างหนึ่งของงานเขียนประเภทที่นำเรื่องออริจินัลมาแต่งนู่นเสริมนี่ บางทีก็ไม่เหลืออะไรของเดิมไว้เลยนอกจากคาแรคเตอร์ของตัวละครหลักไม่กี่ตัว และไม่ใช่ว่าโดจินชิจะมีแต่นักวาดคนอื่นทำ นักวาดเจ้าของเรื่องเองก็วาดโดจินชิเรื่องตัวเองบ่อย บางีก็ตามแต่นักอ่านจะรีเควสต์ (ดังจะเจอตาม Omake ท้ายเรื่อง เช่นว่าทั้งเรื่องเป็นเรื่องหนุ่มน้อยสองคนในรั้วโรงเรียน แต่โดจินชิพิเศษเล่มเล็กๆที่แถมมากลายเป็นกระต่ายน้อยสองตัววิ่งเล่นในป่า อะไรประมาณนี้)

ที่สำคัญ เราจะเห็นว่าวรรณกรรมคลาสสิคจำนวนมาก โดยเฉพาะของเช็คสเปียร์ มีฐานะที่คล้ายๆกันนี้ คือกลายเป็นสมบัติร่วมกันของคนทั่วโลกไปซะแล้ว ประเทศไหนๆก็เอาไปแสดงในเวอร์ชั่นของตัวเอง(ที่ผ่านการดัดแปลง) หลายปีก่อนยังมีหนัง แมคเบธ เวอร์ชั่นพ่อครัวฆาตกรสุดจิตเลยนะธออออว์ (พ่อหนุ่มเจมส์ แมคอาวอย เป็นพระเอกด้วยล่ะ! แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นฮ่ะ) ไปๆมาๆก็ชักจะหายกลิ่นแมคเบธออริจินัลไปเยอะทีเดียว กลายเป็นตลกคาเฟ่สยองๆที่ไม่บอกอาจไม่รู้ว่าเป็นแมคเบธ นึกว่ายืมมาใส่จึ๋งเดียว

แล้วรามเกียรติ์ล่ะ เป็นเหมือนวรรณกรรมคลาสสิคเช่นนี้ไหม

รามเกียรติ์หากมองในด้านวรรณกรรม ก็คือผลงานเขียนเรื่องหนึ่ง มีพล็อตมีตัวละคร เต็มไปด้วยฉากสงครามและฉากรักตามแบบสมัยก่อน

รามเกียรติ์มาจากอินเดีย แพร่ไปในประเทศต่างๆ แล้วแต่ละชาติก็นำไปดัดแปลงเป็นแบบฉบับของตัวเอง ดังที่เราจะเห็นว่ามีงานรามเกียรติ์นานาชาติ พระรามแต่ละชาติหน้าตาต่างกันจนชวนงุนงงทีเดียว บางประเทศพระรามมีกระบอกใส่ศรด้วยนะ (แถมจำนวนศรและชื่อศรไม่เหมือนกับของไทยเราแฮะ) หรืออาจจะต้องบอกว่าพระรามในโขนของเราต่างหากที่แปลก มีแต่คันศรเปล่าๆ ไม่มีสายไม่มีลูกศร ยังยิงยักษ์ตายได้เมพๆ

อย่างงี้ รามเกียรติ์แต่ละชาติ ไม่คุกคามรามเกียรติ์ออริจินัลหรือ

หรือถ้าบอกว่าผลงานเวลามันแพร่ไปในกลุ่มผู้อ่านที่กว้าง มันก็อาจถูกดัดแปลงได้เป็นธรรมดา ตามความคิดและวัฒนธรรม แล้วอย่างนั้นการจิ้นของสาววายจะไม่ถือเป็นการดัดแปลงในกลุ่มผู้อ่านเป็นธรรมดาหรือ

สาเหตุที่ไอซ์เกิดคำถามกับกรณีจิ้นรามเกียรติ์นี้เป็นพิเศษ เพราะไอซ์เริ่มจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรฐานของสังคม ที่ดูเหมือนจะไม่มีตัวชี้วัดอะไรเลย นอกจากว่ามันเป็นความพอใจของเขาหรือไม่

"เขา" คือใคร? เขาคือคนที่บอกว่าเด็กมอต้นน่ะควรตัดผมสั้นเป็นดี ผู้หญิงน่ะนั่งพับเพียบเป็นงาม ผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษน่ะโมเดิร์น เขาคือคนที่บอกว่านิยายน้ำเน่าในตลาดมันเป็นขยะ คนสุภาพต้องแต่งสูทผูกไท นักเรียนต้องแต่งตัวตัดเล็บถูกระเบียบ และอารยชนต้องเรียนหนังสือสูงจึงจะมีหน้ามีตา -- เขาก็คือกระแสหลักที่มีอำนาจในสังคมและมีอิทธิพลต่อความคิดความเชื่อของเรา เขาคือจารีตและบรรทัดฐานที่ถูกตั้งขึ้นมา

รามเกียรติ์ในฐานะวรรรกรรมก็คือวรรณกรรม มีความเป็นสาธารณะในตัวเองพอสมควร ไปโผล่ในศาสตร์ศิลป์ของภาคต่างๆในประเทศไทยต่างๆกันไป ไปเป็นตัวคำทำนายดวงในตำราหมอดู(เช่น ตกดวงนางสีดาคุดคู้ในผอบ จะต้องลำบากตรากตรำ อะไรแบบนี้แล) ไปเป็นรอยสักยันต์ ไปเป็นท่ามวย ไปโผล่ในบางที่ที่เราคาดไม่ถึง และในที่สุดก็มาโผล่ในวงการวาย

วรรณคดีในฐานะวรรณกรรม ก็คือผลงานเขียน เรามองกันแบบเรียบง่ายและตามเนื้อหาอย่างบริสุทธิ์

อย่างไรก็ดี เราสามารถแต้มสีวาดลายลงไปให้มันซับซ้อนขึ้นได้อย่างที่เห็นคนเมาท์กันไปหลากหลาย เพราะรามเกียรติ์เป็นวรรณกรรมที่ถูกนำเข้ามาใช้ในไทยเพื่อส่งเสริมฐานะของกษัตริย์ เป็นตัวหลักที่ช่วยอุ้มชูสถาบันเอาไว้ในทางความเชื่อ เพราะกษัตริย์ของไทยเราใช้วิถีของศาสนาพราหมณ์ฮินดูตามที่รับมาจากเขมรในสมัยอยุธยา จึงมีฐานะเป็นพระนารายณ์อวตารมา เหมือนกับพระรามที่เป็นพระเอกในอุดมคติกษัตริย์ ช่วยชาติบ้านเมือง เข้มแข้งแต่เมตตา ดูแลประชาชน เรื่องรามเกียรติ์เองทุกฉบับก็เป็นผลงานจากราชสำนัก ไม่ได้มีชาวบ้านร้านตลาดเล่านิยมกันเองอย่างขุนช้างขุนแผน ความสูงส่งมันเหนือกว่ากันมาก ตัวละครต่างๆในรามเกียรติ์ผูกโยงกับเทพเจ้าพราหมณ์ฮินดูแทบจะนับเป็นความศักดิ์สิทธิ์รองจากมหากาพย์พรรค์ ภควัตคีตา งานโฮเมอร์ ยิ่งของไทยเราก็คงไม่มีเรื่องไหนเด่นเกินกว่านี้ โองการแช่งน้ำว่าแน่แล้วคนก็ไม่รู้จักเพราะอ่านกันแค่ในวงแคบๆ

ยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากเรื่องการสนับสนุนสถาบันกษัตริย์ ความเชื่อในรามเกียรติ์ลงมาสู่ระดับประชาชนแล้วแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อลักษณะศาสนา เพราะพุทธกับพราหมณ์เราผสมไปด้วยกันเสมอ ลองเปรียบเทียบตัวละคร เรามีโอกาสจะได้ยกมือไหว้รูปปั้นพระรามมากกว่าไหว้อิเหนาแน่ๆ

พอกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิที่แตะต้องไม่ได้ มองในแง่นี้ รามเกียรติ์ก็เริ่มไม่ใช่วรรณกรรมสาธารณะเสียแล้ว

รามเกียรติ์กลายเป็นเพียงสมบัติของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งบังคับบงการให้ทุกคนต้องคิดตามตัวเอง เพื่อคงกรอบที่ตัวเองตั้ง

ทำไม? ถามว่าทำไม? รามเกียรติ์หมดสิ้นความเป็นวรรณกรรมที่ชาติต่างๆและชาวบ้านเอาไปดัดแปลงแต่งเติมแล้วหรือ คนดัดแปลงได้มีแต่คนสมัยก่อนเท่านั้นหรือไง ของเก่านี่มันต้องเก็บต้องรักษาห้ามเปลี่ยนตลอดเลยเรอะ ทั้งที่ตัวรามเกียรติ์ของไทยเองก็บิดเบี้ยวไปจากออริจินัลอินเดียมากมาย

นี่ไม่ได้พูดในฐานะสาววาย แต่พูดในฐานะคนอ่านธรรมดาๆ ไม่ได้พูดเอาหน้าตามน้ำว่าตัวเองเป็นคน "ดี" ตามมาตรฐานสังคมทุกประการ เป็นแค่ชาวบ้านคนหนึ่ง ไม่ค่อยมีความรู้กับเขาเท่าไร ความสูงส่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยอะไรที่ว่าคิดแบบนี้จะบาปจะถูกของก็ไม่เข้าใจอีกเพราะเป็นลูกจีนเกิดมาไหว้แต่บรรพบุรุษ ไม่เคยเจอผีสางประการใด

รามเกียรติ์สำหรับไอซ์เป็นเรื่องที่น่าทึ่งและกระตุ้นจินตนาการอย่างมาก ฟังมาตั้งแต่เด็ก โตมาอ่านแล้วเห็นภาพอ่านแล้วอิน ชื่นชมในฐานะวรรณกรรม แม้ว่าสมมติไม่ใช่พระมหากษัตริย์ของเราแต่ง เป็นตาสีตาสาแต่งก็จะยังชอบ มันมีเค้าจากสงครามของกษัตริย์ที่สอนอะไรเราหลายอย่าง ตั้งแต่การอ้างความชอบธรรมของฝ่ายที่ชนะ และวิธีการปกครองคน

แต่มาถึงยุคนี้ เราจะยกระดับวรรณกรรมของตัวเองเป็นงานคลาสสิคอย่างใจกว้างบ้างไม่ได้หรือ ถ้าแมคเบธเป็นของไทย จะมีวันที่เราได้เห็นแมคเบธเป็นเชฟหนุ่มบ้าคลั่ง และแม่มดสามตนในเรื่องเป็นลุงคนคุ้ยขยะหรือเปล่า -- เราอาจบอกว่าทำไม่ได้หรอกเพราะรามเกียรติ์เกื้อหนุนสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติไว้ (แมคเบธไม่ได้ทำ) แต่จริงหรือ? ในช่วงแรกๆที่ตั้งราชวงศ์อาจใช่ แต่มาปัจจุบันนี้ ศตวรรษนี้ เรานับถือในหลวงกันเพราะพระองค์เป็นพระนารายณ์อวตารเหมือนพระรามหรือ

ไม่หรอก เรานับถือพระองค์ที่พระราชกรณียกิจ เราดูกันที่คุณค่าไม่ใช่เปลือก

ปัจจุบันนี้แม้ไม่มีรามเกียรติ์ รถของพระองค์ไม่มีตราครุฑ เราก็ยังนับถือพระองค์อยู่ดี หรือคุณจะเลิกรักอะไรเพราะภายนอกมันเปลี่ยนแปลงล่ะ? นารายณ์อวตารหรือไม่ ในโลกนี้ทุกคนก็ล้วนเป็นมนุษย์เดินดิน เหมือนพระรามที่เป็นพระเอกคนธรรมดาสู้กับอุปสรรคอย่างยักษ์สิบหน้ายี่สิบกร ฮีโร่ในอุดมคติไม่ใช่แบบนั้นหรอกหรือ

ย้อนกลับมาที่กรณีการจิ้นวายบ้าง แม้ว่าสิ่งสาธารณะอื่นๆจะยังดัดแปลงได้สบายใจเฉิบไม่ผิดกฎหมายอะไรให้ถูกลากเข้าคุก แต่การจิ้นต่างกับการดัดแปลงลักษณะอื่นอยู่ตรงที่มันเป็นการทำให้ผู้ชายปกติเป็นวาย

ก็นะ...เห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อพูดถึงคำนี้ สังคมเราไม่ยอมรับเพศที่สามอย่างเต็มภาคภูมิเลยจริงๆ

ปากว่าตาขยิบ ซึนเดเระไปงั้นๆแหละฮ่ะว่าใครๆถ้าเป็นคนดีจะเพศไหนก็โอเค แต่ไม่หรอก ลองลูกชาย พี่ชาย น้องชาย พ่อ ลุง น้า อา ของตัวเองเป็นดูสิ ร้องห่มร้องไห้บ้านแตกสาแหรกขาด

ก็นะ...อาจไปโยงเข้ากับประเด็นเมื่อกี้ได้เลยจริงๆ คุณจะเลิกรักอะไร เพราะภายนอกมันเปลี่ยนแปลงไปหรือ? ทันที่ลูกชายเป็นเกย์เป็นกระเทย จิตวิญญาณเขามันโสโครกไปเลยรึยังไง

ไม่รู้ว่าสาววายอย่างไอซ์อยู่ในสังคมนี้จะต้องมีกี่ "ก็นะ" กับสีหน้าหน่ายๆ ถึงจะเพียงพอกับความรู้สึกอันขวางโลกที่มี

คนที่บอกว่าจิ้นรามเกียรติ์มันบาปมันผิดบัดสี แสดงว่าคุณไม่ได้ยอมรับเรื่องอิสระทางรสนิยมเพศตรงนี้แม้แต่น้อย ปากว่าไม่เป็นไรแต่ใจบอกว่ามันผิด ผิด ผิดแม่งหมดแหละ มันเสียหาย มันไม่ดี มันไม่ปกติ มันวิปริต มันน่าอาย ฯลฯ เว็บเด็กดีในอุดมคติมันต้องเป็นเว็บเยาวชนสีขาว มีอย่างที่ไหนนิยายวายยุ่บยั่บ ออกไปแม่งให้หมดเลย ไม่งั้นก็แยกโซนซะดีกว่า อย่ามาปนกันกับนิยายดีๆ!

...ความจริงเรื่องเศรษฐศาสตร์อย่างหนึ่งที่ต้อมยอมรับก็คือ ไม่มีดีมานด์ ไม่มีซัพพลาย

สาววายอาจไม่ใช่กระแสหลักที่สังคมยอมรับ แต่มีจำนวนมาก อย่างน้อยก็ในเว็บนี้ที่ติดท้อปอยู่แทบทุกชาร์ตหมวดนิยาย (ไม่ได้ล้อเล่นแต่คนอ่านนอร์มอลอย่างเดียวตามอุดมคติเด็กดีเริ่มน้อยลงไปทุกทีแล้ว สาววายครองโลกอย่างเงียบๆได้จริงนะเออ)

เว็บเด็กดีเองก็ไม่ปฏิเสธลูกค้าที่เข้ามาให้เว้บคึกคักได้ค่าโฆษณา และไม่ตั้งอุดมคติจำกัดสิทธิ์ใคร ไม่ได้มีกฎห้ามเขียนวาย

แบบนี้ อย่าคุกคามกันและกันดีกว่ามั้ง ถ้านิยายวายนั้นปกติไม่เรตไม่หยาบไม่หมิ่นสถาบัน คนอ่านนอร์มอลเพียวจะมีสิทธิ์อะไรไปว่า?

อะไรคือ ควร ไม่ควร ถามตรงๆไม่มีใครรู้แน่เลยจริงๆ จนกว่า "เขา" ผู้ใหญ่ยิ่งจะปรากฏกายมาประณาม ตอนที่เขาไม่ปรากฏ คนส่วนใหญ่ก็ทำกันมานาน จนกว่าจะมีผู้ตั้งมาตรฐานว่าสิ่งที่เอ็งทำมาตลอดนั้นมันต่ำช้าไร้อารยธรรมยิ่งนัก ชีวิตที่ดีมีศีลธรรมมันต้องเป็นแบบกู!!

แล้วการตลาดที่ "ไร้อารยธรรมและไม่สมควร" ทั่วโลกมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนการที่บอยแบนด์เกาหลีชอบจับนักร้องมาเล่น kissing game เซอร์วิสแฟนคลับวาย คนยิ่งจิ้นยิ่งดัง มันเป็นการตัดสินใจและการไม่เอาเรื่องของสิ่งสาธารณะ สาววายก็มีบรรทัดฐานของสาววาย แต่ยังไงการจิ้นในกรณีแบบนี้นั้นไม่มีปัญหาที่ต้องมาคุกคามกันเพราะ "เขา" ได้รับผลประโยชน์เกินกว่าจะเอาเรื่อง

รวบย่อการเพ้อทั้งหมดท้งมวล กรณีรามเกียรติ์นี่แหละที่เป็นเหตุบ่นของวันนี้ ว่าสรุปแล้วเรามองวรรณกรรมในฐานะอะไรกัน ใครคุกคามใคร หรือการจิ้นของสาววายมันคุกคามใครกันแน่ และรสนิยมเพศที่ต่างจากตัวเองนี่มันจะเป็นเรื่องสกปรกของสังคมเราไปอีกนานแค่ไหน (บ่นทีไรบ่นเบื่ออุดมคติและความศักดิสิทธิ์เปลือกๆบ้าๆบอๆอย่างที่สุดตามเคย นี่ไอซ์บ้าหรือโลกมันบ้า?)

เสียงนกเสียงกาที่ไม่มีใครใส่ใจวันนี้ ขอถือหางฝ่ายจิ้นรามเกียรติ์ของพี่บลู ส่วนหนึ่งอาจเพราะเป็นสาววาย แต่อีกส่วนเพราะมันเป็นนิมิตหมายใหม่ของการแหกคอกกรอบความคิดความเชื่อที่น่าสนใจมาก ไม่เห็นใครกล้าแตะต้องของเก่าแบบนี้มานาน(ยกเว้นที่เห็นคนจิ้นอิเหนากันเป็นระยะๆ-ฮา) ให้มันรู้ไปว่าของเก่าต้องเก็บห้ามปรับเปลี่ยนจริงๆหรือไม่ และการคิดอะไรต่างจาก "เขา" จะเป็นการปู้ยี่ปู้ยำซะหมด

ศิลปะของดาด้าทำจากขยะสนิมเขรอะแปลกประหลาดสามารถเชิดหน้าชูตาอยู่ในนิทรรศการหรูฉันใด หวังว่าสังคมไทยจะเป็นนิทรรศการใหญ่ที่ใจกว้างฉันนั้น... แค่นี้แหละ มาเพื่อบ่นจริงๆจ้า




ความคิดเห็น

suunyan
suunyan 9 ก.ค. 55 / 21:42
เขียนได้สะใจมากค่ะ :)
boonnapa
boonnapa 19 ก.ค. 55 / 11:25
ชิ ไอ้คนเราก็อยากอ่าน การที่พี่บลูแต่งแนวนี้ออกมาทำให้คนหรือวัยรุ่นที่ไม่สนใจในวรรณคดี กลับมาศึกษา ท่าทางนิสัยตัวละคร ทำให้ทุกคนที่อ่านรู้สึกสบายๆและสนุกไปกับนิยายที่พี่บลูแต่ง
ยังไงซะ ขอขอบคุณพี่บลูจากใจจริง และ เราก็จะติดตามผลงานต่างๆของพี่บลูนะ
Prince Earendil  Star of hope!
Prince Earendil Star of hope! 8 ธ.ค. 56 / 01:06
พี่หญิงไอซ์จังเขียนได้ใจมาก เอ้า!  ก็เพิ่งมาเจอคนเปิดประเด็นการจิ้นวายในรามเกียรติ์

ความจริง เค้าก็ชอบการจิ้นในพี่บลูนะ  เขียนสนุกดีล่ะ 

แต่เขารักและเคารพองค์เทพในศาสนาฮินดู มันจิ้นไม่ลงจริงๆ สาธุเถอะ อย่าโกรธเขาเลย

เพราะโตมาไปไหว้พระ ร้องเพลงบูชาทุกพระองค์ตลอดเวลา

ขนาดหนุมานก็ชาบูเป็นเทพนะเอ้อ ! มันเลยจิ้นไม่ลง...ประมาณหนึ่งแล้วกันนะ ^^
summer
summer 7 ก.ค. 57 / 21:24
เห็นด้วยนะครับ พูดโดนใจมาก ถ้ารามเกียรติ์แฟนฟิคโดนแบรผมว่าแนวๆนี้คงโดนแบนตั้งแต่มีเฮตาเลียแล้วหล่ะครับ