lyradin
ดู Blog ทั้งหมด

มหากาพย์ผ่าตัดไส้ติ่ง:::

เขียนโดย lyradin



 

 

สวัสดีค่ะ 


ไม่ได้อัพบล็อกมานานมากกกกกกกก วันนี้มีเวลาสักที เพราะว่ามานอนว่างอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าค่ะ สาเหตุก็ตามที่จั่วหัวเบยฮือ T-T ไอซ์ไส้ติ่งอักเสบเลยมาผ่าตัด มันเป็นวิบากกรรมความซวยจริงๆ ใครว่างและอารมณ์ดีก็อ่านขำๆนะ ใครเศร้าอยู่อย่าอ่าน เดี๋ยวจะยิ่งพาเครียด 55555


 
เท้าความก่อนหน้ามารพ. :::
แน่นอนว่าใครเป็นไส้ติ่งละก็มันจะต้องปวดท้อง ไอซ์ก็ปวดค่ะทุกท่าน แต่อนิจจา มันไม่ได้ปวดตรงไส้ติ่ง!! =o=' //ร่างกายหลอกลวงชั้น

 
ที่จริงคือ สองสามวันก่อนหน้านั้นไอซ์รู้สึกมันแน่นๆ อึดอัด เหมือนท้องอืดท้องเฟ้ออะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ พอดีกินเยอะด้วย ก็เลยคิดว่าอาหารคงไม่ย่อยมั้ง ไม่ได้ถ่ายมาหลายวันด้วย ก็เลยเฉยๆ กะจะหาอีโนกินหน่อยแต่ลืม
วันต่อมา มันอึดอัดหนักกว่าเดิม กินข้าวไม่ลง แต่แปลกมาก รู้สึกปวดตรงกระเพาะ แสบๆเหมือนมีแผลในกระเพาะอาหารแล้วน้ำย่อยมันออกมาโดน เอ๊า! จะเอาไง กินก็ไม่เข้า ไม่กินก็หิว = =' ไอซ์ก็คิดว่าสงสัยเป็นโรคกระเพาะแน่ๆแล้วเรา เลยไปร้านขายยาซื้อแอนตาซินเยล(คล้ายๆอะลั่มมิลค์จ้า)กับยาลดกรดในกระเพาะมา กินข้าวต้มอาหารอ่อน อ้วกๆๆๆ เสร็จก็นั่งเสิร์ชกูเกิลดูอาการโรคกระเพาะเป็นการใหญ่ ซึ่งก็ตรงกับที่ไอซ์รู้สึกทุกอย่าง -w- (แอบกินข้าวไม่ตรงเวลานิดหน่อยด้วยล่ะตอนสอบ เลยปักใจเชื่อว่าใช่)

 
แต่แล้วผ่านไปสักพัก แอนตาซินเยลกับอีโนจะออกฤทธิ์ก็หาไม่ มันกลับอึดอัดยิ่งขึ้นๆๆๆๆๆ ToT คราวนี้อิฮั้นก็ไม่ไหวล่ะฮ่ะ ตัดสินใจทิ้งงานการไปหาหมอดีกว่า ในใจนึกภาพแผลในกระเพาะคงใหญ่เบ้อเริ่มเป็นรอยปากฉลาม เลยบึ่งมาถึงรพ.วิชัยยุทธ


 
วินิจฉัยไส้ติ่ง :::
วิบากกรรมไม่จบลงเพียงเท่านี้ เพราะถึงแม้มารพ.ถึงมือหมอแล้ว หมอก็ยังไม่แน่ใจฮ่ะว่าเดี๊ยนเป็นโรคอะไร TwT'' ก็แน่สิฟระ! มันดันปวดทั้งกระเพาะทั้งที่อื่นๆ ปวดๆๆไปหมด แต่หมอของวิชัยยุทธมีพลังสะท้านบู๊ลิ้มสมชื่อค่ะทุกท่าน กดไปกดมา จิตสัมผัสได้ทีเดียวว่าเจ็บไส้ติ่งมากที่สุด เลยสั่งไอซ์ไปเช็คโดยการอัลตร้าซาวนด์

 
อัลตร้าซาวน์เนี่ยนะทุกคน มันต้องมีน้ำในกระเพาะปัสสาวะมากพอสมควร เพื่อจะดันลำไส้ให้พอดูผ่านเครื่องแล้วเห็นภาพ (คือถ้าไม่มีน้ำ ก็มองไม่เห็น เหมือนเวลาคุณแม่ไปอัลตร้าซาวน์ท้องก็จะเห็นเด็กเพราะมีน้ำคร่ำ) ทีนี้ไอซ์ดันชิ้งฉ่องก่อนมาเรียบร้อยน่ะสิคะ(รอบคอบเกิน 55555) ซวยขั้นต้น! แต่ปัญหาก็คือมันกินน้ำไม่ได้ เพราะว่าถ้าเป็นไส้ติ่งจริงละก็ จะต้องผ่าตัดทันที ซึ่งผ่าตัดก็ต้องงดน้ำงดน้ำอาหารก่อนผ่าเพื่อความปลอดภัย

 
เอาล่ะ เยี่ยม! จะทำยังไงให้มีน้ำในกระเพาะปัสสาวะ ก็เอาน้ำเข้าทางเส้นเลือดสิคะ ให้น้ำเกลือนั่นเอง >_<
น้ำเกลือมันช้ากว่าดื่มน้ำอยู่แล้วล่ะไอซ์ก็เลยต้องนอนรอไป ระหว่างที่รอก็เกิดอ้วกๆๆๆอีกครา T^T โถข้าวต้งข้าวต้มแอนตาซินเยล ตูซื้อมาทำไม... 5555 อ้วกกันมันส์จริงๆครับท่าน เกือบสองชั่วโมงกว่ากระเพาะปัสสาวะจะมีน้ำมากพอให้อัลตร้าซาวน์ได้ จากนั้นไอซ์ก็เข้าห้องอัลตร้าซาวน์

 
ปัญหา!! มีน้ำก็จริง แต่ไม่มากพอ เห็นไม่ชัด!! TOT  ไอซ์นอนรอความตายอย่างสงบขณะที่หยอดน้ำเกลือต่อ จนแล้วจนรอดมันก็เห็นไม่ชัด พยาบาลมาละเลงเจลอัลตร้าซาวน์ส่องๆดูหลายทีก็ตอบ "ยังไม่ชัดค่ะ" ทุกที อร๊ากกก จะเอาไง หนูจิไม่ไหวเลี้ยวพ่อหมอ ;_; แต่หมอวิชัยยุทธก็แผลงกระบวนท่าอีกครั้ง(คนละคนกับคนเมื่อกี้)มาส่องๆๆๆๆทั้งที่ไม่ชัดอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วพยักหน้าหนักแน่น "ไส้ติ่งแหละ สงสัย80%" โอ้ ท่านซินแสผู้นี้เป็นเกย์ที่หล่อลากน่ารักและพลังยุทธสูงจริงๆ แบบฟังวินิจฉัยจริงจังมากแล้วรักเลยอ่ะ แทบจะก้มลงไปกราบ ข้าน้อยรอต่อคงกระอักโลหิตเป็นแน่ //คารวะ2จอก

 
จากนั้นไอซ์ก็โดนเข็นลงหามาหมอคนแรกอีกรอบ (เข็นขึ้นๆลงๆลิฟต์สนุกฮ่ะ นับรวมได้3รอบ) นอนรอผลอัลตร้าซาวน์เป็นทางการ ปรากฏหมอ(คนใหม่มาแทน เป็นอาจารย์หมอ)มาถึงบอกว่า อัลต้าซาวด์มองเห็นไม่ชัดจากภาพ เขาไม่อยากฟันธง เกิดเป็นอย่างอื่นแล้วผ่าฟรีจะลำบากแถมไม่หาย (เออว่ะ เวร 5555) เขาเลยแนะนำว่าสงสัยต้องเช็คให้ชัวร์โดยซีทีแสกน ที่ตอนแรกไม่ได้แนะซีทีแสกนเพราะว่ามันแพงกว่าอัลตร้าซาวน์มาก (เจ็ดพันกว่าแน่ะฮือ) โอเค ไอซ์ก็รักตัวกลัวตายเป็น จับหนูไปทำไรก็ทำเถอะค่ะ เลยเข้าซีทีแสกน

 
ซีทีแสกนแป๊บเดียวเสร็จค่ะทุกคน (หมอน่าจะให้ทำแต่แรก แพงแต่ดีก็ไม่บ๊อกกก) เครื่องซีทีแสกนเป็นอุโมงค์สั้นๆ วงใหญ่ ให้เรานอนลอด เสียงในเครื่องจะสั่งให้หายใจเข้า หายใจออก กลั้นใจ ก็ทำไปตามนั้น เห็นเลยทันที ไอซ์ลงมานอนรอผลชั้นล่างอีก สักพักก็เย็นใจแน่จริงดั่งเมนทอสว่าอิฮั้นเป็นไส้ติ่งอักเสบ ไอซ์ก็นอนรอขั้นเขียงอย่างเดียว

 
ความซวยซ้ำซ้อนที่บังเกิดมาก็คือ ขณะนั้นเป็นเวลาหมอผลัดเวรกลับบ้านพอดี =w= คุณอาจารย์หมอก็จะกลับบ้านไปฮอลิเดย์เช่นกัน เลยฝากเคสไอซ์ไว้กับอาจารย์หมอมือฉมังอีกคน(ที่ยังไม่มา ;_;) เสร็จแล้วไอซ์ก็นอนรอไป เลยหลับไปนานทีเดียวค่ะ ตื่นมาอีกทีก็มาเซ็นจ่ายเงินอะไรต่ออะไรไปเรียบร้อย (สองแสนแน่ะแง ToT เอาเถอะแค่นี้ซื้อชีวิตเราถูกจะตาย ไม่กล้าเปลี่ยนไปรพ.รัฐข้างเคียงเพราะกลัวไส้ติ่งมันแตกก่อนไปถึง ผ่าเลยดีกว่า กลัวตายจัด 5555 ถ้าแตกมันจะติดเชื้อในช่องท้องกลายเป็นผ่าตัดใหญ่เลยเนะ) เสร็จสรรพก็ขึ้นมาห้องพักผู้ป่วยของไอซ์ที่จะอยู่หลังผ่าเสร็จ ได้ห้องเลขสวยนะ ใครว่าไม่สวยชั้นว่าสวย ^-^

 
ขึ้นเขียง :::
พอดีอ้วกแตกอ้วกแตนแถมกินไรไม่ลงมาเต็มที่ แถมกว่าจะได้เรื่องว่าเป็นไส้ติ่งชัวร์ก็น้านนาน เรื่องงดข้าวน้ำก่อนผ่าเลยไม่เป็นปัญหา ทีนี้ไอซ์ก็ถูกจับขึ้นเตียง แล้วเหล่าผู้ช่วยพยาบาล(ที่นี่เครื่องแบบคล้ายๆนางพยาบาลเลยแต่ไม่ใส่หมวก)เข้ามะรุมมะตุ้มกันเข้ามาแก้ผ้าเดี๊ยน เช็ดตัวล้างเล็บขัดสีฉวีวรรณให้เอี่ยมอ่อง แอร๊ยยยย ชอบอ้ะ! รู้สึกเหมือนเป็นนางเอกบ้านป่าที่เจ้าชายเก็บไปเข้าวังแล้วนางกำนัลมาอาบน้ำแต่งตัวให้เลย กร๊ากๆๆๆ 55555 (นี่ตูคิดอะไร??? =w=) 

 
พยาบาลที่นี่พูดจาอ่อนหวานอบรมมาดีมากค่ะขอถูกใจสักห้าสิบครั้ง มันดูเป็นงานที่ใช้ความอดทนสูงจริงๆนะดูแลชาวบ้านที่ไม่รู้จักแถมคนไข้บางคนขี้บ่นหัวดื้อเนี่ย //ใครไปรพ.รัฐคงได้ประสบการณ์ที่แตกต่างสุดโต่ง เอิ๊กกก

 
พอร่างกายสะอาดพร้อมขึ้นเขียง ไม่นานเฮียตือร้านหมูบะช่อ เอ๊ย! ท่านอาจารย์หมอที่เป็นศัลยแพทย์ก็มา ทักทายใจดี กดๆๆตรวจเสร็จก็คลำๆพุงไอซ์แล้วบอก "ดี ผอมๆตัวเล็กๆแบบนี้แหละผ่าง่าย" เหล่านางพยาบาลก็ "คุณหมอท่านนี้เก่งมากๆๆเลยค่ะ" ชาบูสุดฤทธิ์ ไม่รู้ช่วยกันปลอบใจรึเปล่าแต่ก็รู้สึกใจชื้นนะ 555 >< หลังจากนั้นไอซ์ก็รอเตรียมตัวเตรียมห้องอีกหน่อย แล้วก็ได้ผ่าสมใจ ^^v

 
พอเข้าห้องผ่าตัดอีอาร์ ก็อู้หูประสาบ้านนอกเข้ากรุง(?)เพราะไม่เคยผ่าตัดอะไรมาก่อนเลยในชีวิต ห้องผ่าตัดดูดีมีชาติตระกูลกว่าฉากในหนังมากอ้ะ ตอนนั้นไอซ์ก็สวัสดีหมอพยาบาลคนนู้นคนนี้เมาท์มอยส์ไปเรื่อย ทุกคนชวนคุยแล้วก็มาถามชื่อแซ่น้ำหนักส่วนสูง หมอที่วางยาสลบไอซ์ชื่อดอกไม้หอมหน้าตาใจดีมาก เป็นห่วงด้วยว่าไอซ์น้ำหนักน้อยไป นึกว่าไดเอ็ตผิดวิธีรึเปล่า(เปล่าเลยค่ะ เดือนนี้หนูจนมาก อดอยากไม่มีข้าวกิน 55555) จากนั้นก็จับแขนไอซ์กางออกเหมือนนอนตรึงไม้กางเขนอ่ะทุกคน ฉีดยาเปิดผ้า จากนั้นก็มีคนเอาหน้ากากออกซิเจนมาสวมให้ ไอซ์หายใจสูดเข้าไปสองฟืดก็ไม่รู้ตัวเลยค่ะ >w<

 
ความจริงคือ ตอนแรกหมอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ว่าตัวเล็กผ่าแค่ชั่วโมงครึ่งคงเสร็จแน่นอน แต่มันไม่เป็นงั้นน่ะสิคะ!! ปรากฏว่าไอซ์มาจากดาวดวงซวยเช่นเคย ไส้ติ่งไอซ์ยาวมากกกกกผิดมนุษย์มนา แถมไม่อยู่ไอ้ตรงที่ควรจะอยู่ TOT หมอมาเล่าให้ฟังจนเห็นภาพเลยว่าโอ้วจอร์จ มันยาวจริงๆ นี่มันไส้ติ่งคนหรือวัวควาย???(สัตว์กินพืชมีไส้ติ่งยาวกว่ามนุษย์ค่ะ) 5555 นอกจากนี้แล้ว ปกติไส้ติ่งก็ควรจะอยู่แถวขวาล่างๆใกล้ลำไส้ใช่ไหมคะทุกท่าน ปรากฏว่าไอซ์ตัวเล็กไม่มีที่ ไส้ติ่งของไอซ์ก็เลยไปอยู่นอกช่องท้อง ไปอยู่แถวๆตับ =w= มันก็เลยไม่ได้ปวดมากครวญครางอย่างคนอื่นที่ไส้ติ่งอยู่ในช่องท้อง
หมอก็ใจดีค่ะกลัวไอซ์จะเสียโฉม เลยผ่าน้อยๆให้รอยแผลมันสั้นๆ(2-3นิ้วเท่านั้นเอง) ทีนี้ก็เลยลำบากมากกว่าจะแงะงัดมันออกมาได้ 3 ชั่วโมงกว่าแน่ะค่ะ!! (ซึ้งใจ เป็นไอซ์คงกรีดเพิ่มแล้วล่ะ อีนี่ไส้ติ่งคนรึเปล่า 555555)

 
พักฟื้น :::
การณ์ปราฏว่าช่วงพักฟื้นทุกข์ทนกว่าก่อนผ่าหลายเท่านัก (เอ๊ะ?) มันแปลกแต่จริง อาจจะเพราะไอซ์ก่อนผ่าไม่ได้รู้สึกเจ็บที่ไส้ติ่งเลยก็ได้(อึกอัดแต่กระเพาะ 555) หลังผ่ามันเจ็บแผลตลอดเลยกลายเป็นเจ็บกว่าก่อนผ่า 555
 
ตอนฟื้นจากยาสลบหมาดๆ มันรู้สึกแย่มากค่ะ T T คือมึนๆเวียนๆ ลืมตาแทบไม่ขึ้น พูดจาไม่รู้เรื่องด้วยแต่ฟังพยาบาลในอีอาร์พูดออกนะ แล้วคือมันห้ามกินน้ำกินอาหารเลยใช่มะ ไอซ์ก็คอแห้งมากกกก แบบเหมือนอยู่ทะเลทรายสะฮาร่าเลย ร้องขอน้ำเป็นคำแรก แล้วก็ขอน้ำๆๆๆๆๆ อย่างงี้ตลอดทั้งที่ก็ได้ยินนะว่าพยาบาลบอกยังกินน้ำไม่ได้ ระบบย่อยดูดซึมไม่ทำงานเลยค่ะ (ทรมานจริงๆกินน้ำไม่ได้เนี่ย หึยยย) พยาบาลก็คงเวทนา เลยเอาน้ำมาแตะๆให้ที่ปากกับลิ้น เผื่อเราจะรู้สึกดีขึ้นเหมือนมันชื้นๆบ้าง 5555 TwT
 
หลังออกจากอีอาร์มาเข้าห้องพักเลขสวย ไอซ์ก็นอนสลบเหมือดค่ะ ตื่นมาก็พบกับวิบากกรรมเดิม กินน้ำไม่ได้ ;_; โอย หิวข้าวหิวน้ำตลอดเว ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะถ้ากินอะไรลงไปมันอาจจะโดนแผล ลำไส้ก็ยังนิ่งเฉยไม่ทำงาน ขืนแอบงุบงิบอะไรลงไปล่ะเดี๋ยวจะได้ตายเพราะกิน ไอซ์ก็เลบสงบปาก(อันแห้งแตกระแหง)ของตัวเองไว้ เพราะยิ่งเมาท์ก็ยิ่งคอแห้งเป็นผุยผง ผ่านไปวันสองวันถึงค่อยกินน้ำได้ช้อนเล็กๆ ไม่ก็น้ำแข็งทุบทีละก้อน อีกวันสองวันผ่านไปก็กินน้ำ น้ำข้าว โจ๊กปั่น โจ๊ก ข้าวต้ม อาหารปกติ ตามลำดับ ทีละขั้นราวกับวิวัฒนาการโฮโมซาเปียนก็ไม่ปาน >O< มีเหล่านางกำนัล เอ้ย ผู้ช่วยพยาบาลมาดูแลเช็ดตัวปะแป้งให้ตลอดค่ะ บริการดีสมเป็นเอกชน อีกอย่างมีปุ่มกดเรียกพยาบาลสะดวก คุยผ่านลำโพงได้ เก๋กู้ดเมิ่กกก ต่อให้ไม่มีญาติมานอนเฝ้าก็ไม่เป็นไรค่ะ


อ่อ มีเรื่องไม่สบอารมณ์นิดหน่อยด้วย คือด้วยความที่ไอซ์นอนห้องรวม 4 คน ซึ่งก็มีม่านและผนังกั้นกว้างขวางงดงามแทบจะไม่รู้สึกว่าเป็นห้องรวมอ่านะ แต่พอดีห้องตรงข้ามเป็นคุณยายคนนึง เปิดทีวีทั้งวันทั้งคืนเสียงดังสนั่นลั่นโลก! ;_; อิฮั้นนอนหลับๆตื่นๆ เกือบจะเปิดศึกฉะกันแล้วแต่ก็คิดว่าอาเหล่าม่าคงหูตึง เขาได้แต่นอนอ่ะก็คงอยากดูทีวีบ้าง ไอซ์จะถือโทษอะไรได้ หาเอียร์มัฟฟ์มาปิดหูจะดีกว่า ถึงว่าอะไรไปแกก็คงไม่ได้ยิน 5555 จริงๆมันหงิดเพราะว่า นอกจากนี้คุณยายยังใช้ปุ่มกดเรียกพยาบาลไม่เป็น จะเอาอะไรทีก็ตะโกนกู่ร้องเรียกสิคะ "พยาบาล!!!! พยาบาลอยู่ไหน!!!!" ปานองค์บากตะคอกหาช้างกูอยู่ไหน =w=' พอพยาบาลมาดู แกก็ดื้ออีก อายไม่ยอมถอดกางเกงมั่ง บอกเจ็บฉีดยามั่ง บ่นหมอมั่ง คือพูดอะไรก็ดังตลอด 555 มันเป็นประสบการณ์นอนพักฟื้นที่โหดมันฮาดีจริงๆฮ่ะสำหรับห้องข้างเคียง


รวมๆแล้วกิจวัตรไอซ์ในรพ.คือ นอน ฝึกเดิน นอน ฝึกเดิน
แล้วก็ต้องเคี้ยวหมากฝรั่งค่ะ มันสำคัญจริงๆ! เพราะว่าพอเราเคี้ยวๆๆๆๆ ร่างกายจะรู้สึกอัตโนมัติว่าได้กินอาหาร ดังนั้นลำไส้จะถูกหลอกให้คิดว่า เฮ้ย อาหารมาแล้ว ลำไส้ก็พยายามทำงาน เป็นการกระตุ้นให้ระบบย่อยกลับมาเป็นปกติเร็วขึ้นค่ะ อิฮั้นว่าตัวเองกินหมากฝรั่งมากพอสำหรับทั้งชีวิตนี้แล้วล่ะ 5555 ความลำบากหลักที่ไอซ์รู้สึกคือการที่มีเข็มน้ำเกลือและยาจิ้มอยู่ในแขนตลอดเวลา... จำไว้เลยนะทุกคน ถ้าเขาจะเจาะ พยายามอย่าให้เจาะตรงท้องแขน มันเจ็บซี้ดจี๊ดจ๊าดจริงๆค่ะ T_T เจ็บกว่าแผลผ่าตัดอ่ะ 5555 ตรงอื่นไอซ์ไม่อะไรนะ แต่ท้องแขนนี่สะดุ้งจริงๆ เป็นรอยช้ำชัดด้วย กลับบ้านหลายวันยังไม่หายเลยแง


ความซวยอีกอย่างที่ทรมานน้อยกว่าจิ้มเข็มเข้าท้องแขน คือ ไอ TOT
โอ๊ยบ่องตงงง ไอทีกลัวไส้จะไหล 55555 ยิ่งไอยิ่งเจ็บแผลค่ะ ถึงกับต้องขอยา จริงๆเห็นว่าคนไข้ไส้ติ่งหลายคนก็เป็นโดยเฉพาะคนที่คอระคายยาสลบที่เขาสอดท่อเข้าคอ มันจะไอแบบน็อนสต็อปเลย ทำให้นอนก็เจ็บขยับก็เจ็บ ชั้นล่ะเสียวแผลเปิดจริงๆพี่ชายยยย กินยาแก้ไอก็ไม่ค่อยจะหาย แถมวันท้ายๆที่ไอหนักมากๆ ไอซ์ดันเม็นส์มาอีก โอ้วเยี่ยม! ปวดท้องเป็นสองเท่า แทบร้องไห้เป็นภาษาต่าวดาว ฟหกดาสวเสดกาเว่สห!!!!


 
เออใช่หมายเหตุ ทีวีของโรงพยาบาลมีช่องอาหรับเยอะมากจนน่าตกใจค่ะ ข่าวอาหรับ หนังอาหรับ การ์ตูนอาหรับ... แสดงว่าเหล่าเศรษฐีน้ำมันมาพักที่นี่เยอะรึ? แหม่ๆอยู่ไหนกันอ้ะ *-* 555 //อยู่นานๆชั้นว่าคงแต่งนิยายได้เรื่องนึง "พยาบาลสาวเจ้าใจชีค" กร๊ากกก 5555555


 
กลับบ้าน:::
ความซวยของอิฮั้นไม่จบลงอย่างง่ายๆแน่น้อน! ประเด็นคือไอซ์มาผ่าไส้ติ่งเอาสัปดาห์ก่อนจะสอบพอดี อ่า กรรมสิคะ ขนหนังสือไปท่องในโรงพยาบาลทั้งที่มึนเมาไร้เรี่ยวแรง ;w; เดี๋ยวอ่านเดี๋ยวหลับเพราะว่าฉีดยาแล้วมันง่วง ครั้นจะเลื่อนสอบก็ไม่ได้เพราะคณะไอซ์มีภาควิชาหนึ่งที่ไม่ยอมเลื่อนสอบ คือถ้าขาดก็ขาดเลย ห้ามป่วยห้ามตายห้ามสายห้ามอะไรทั้งสิ้น =o= (ไร้มนุษยธรรมแสรดดด ไหนว่าคณะ Humanities? ><)

 
โดยสรุป ไอซ์ต้องให้หมอเอาเหล็กเย็บออกจากแผลออกก่อนเวลา (เหล็กเย็บหน้าตาเหมือนแม็กเลยทุกคน เดี๋ยวนี้เขาไม่เย็บไหมกันแล้ว) แล้วก็แล่นมาสอบได้เรียบร้อย......อย่างเฟลๆ 5555 TOT ไม่เป็นไร ชั้นทำดีสุดล่ะค่า! เดินขึ้นบันไดเข้าห้องสอบได้ก็รู้สึกเป็นบุญแล้ว ^^v หลังจากนี้ปลายๆเดือนหมอถึงจะนัดไปดูแผลอีกที สถานะปัจจุบันตอนนี้(เขียนต่อตอนกลับบ้านแล้ว)คือรู้สึกหายดีแข็งแรงแล้วค่ะ เจ็บๆแผลนิดหน่อย เดินเขยกเล็กๆ แต่กินได้กินดี อยากฟาดบุฟเฟ่ต์มากจริงๆ 555

 
สุดท้ายนี้ ที่เขียนเล่ามาทั้งหมดนอกจากจะเล่าประสบการณ์ผ่าตัดครั้งแรกในชีวิต ก็คือจะบอกเล็กน้อยว่า ไส้ติ่งอักเสบเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำเป็นว่าต้องกินเมล็ดฝรั่งก็เป็นได้นะคะ เพราะบางทีก็เศษอาหารธรรมดาๆนี่แหละมันเกิดตกลงไปในร่องทำให้อักเสบ ดังนั้นอยากให้ทุกคนระวังเวลาปวดท้อง มันอาจจะเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสก็ได้ อย่างไอซ์เองถ้าเกิดสมมติดวงตก วันนั้นมัวคิดว่าเป็นโรคกระเพาะแล้วดื่มแอนตาซินเยลก่อนนอน ไม่ได้หาหมอ มีหวังไส้ติ่งแตกขึ้นมาคงซวยหนักกว่านี้มากละจ้า >< ถ้าไส้ติ่งแตกเห็นหมอว่าหนองมันจะเละไปหมดช่องท้อง บางคนสองเดือนไม่ได้ออกจากร.พ. บางคนก็ตาย = =' เพราะงั้นอย่าชะล่าใจกับอาการต่างๆของร่างกายนะคะทุกท่าน! เงินจะจ่ายหมอเก่งๆถึงแพงหน่อยก็ช่างมัน เรื่องนี้สำคัญกว่าช้อปกระเป๋าหลุยส์ลุยทัวร์รอบโลกเน้อ

 
ใครที่ยังไม่เคยผ่าตัดไส้ติ่ง ขอให้โชคดีมีชัย ไม่ต้องผ่าเลยตลอดชีวิต (หรือถ้าผู้หญิงก็กันเหนียว ถ้าผ่าคลอดลูกให้หมอเขาเอาไส้ติ่งออกไปด้วยเลย) ใครที่ผ่านแล้วรอดมาแล้วก็ถือว่าฟาดเคราะห์่ค่า ไม่ต้องกังวลกับไส้ติ่งอีกแบ้ว
 
จบค่ะจบ ^^



 

 
 


+ สร้อยเกล็ดมังกร
+ สร้อยเกล็ดมังกร


>> แปลไทย มังงะ Yaoi <<
>> แปลไทย มังงะ Yaoi <<

ความคิดเห็น

tonypee
tonypee 17 พ.ย. 56 / 16:08
(.^^.)
Cs 67
Cs 67 21 ก.พ. 57 / 21:27
ผมก็ผ่ามาละ ตอนผ่าก็หายใจเองไม่ได้ ต้องโดนสอดท่อช่วยหายใจ ตอนนั้นยาสลบพึ่งออกฤทธิ์ มึนๆอยู่(รอสลบก่อนก็ไม่ได้) รู้เลยความทรมารของคนที่โดนสอดท่อช่วยหายใจเป็นยังไง พยายามดิ้นสู้ สุดชีวิตแต่ไม่มีแรง แล้วทุกอย่างก็แว๊บหายไป รู้ตัวอีกที อยู่ห้องมอนิเตอร์ กว่าจะเข็นมาไว้ห้องพักฟื้นได้ก็เกือบ2ชั่วโมง แต่ก็ดีใจอย่างหนึ่งหมอบอกว่าเคสผมเป็นเคสที่ใช้เวลาน้อยสุดแล้ว หมอบอกว่าแค่ลงมีดมันก็โผล่ออกมามอบตัวแต่โดยดี แผลเลยเล็ก เจ็บแค่นิดหน่อยเอง แต่ถ้าให้ที่สุดเห็นจะเป็นตอนจามกับตอนไอ นรกชัดๆเลย หลังจากแผลแห้งตกสะเก็ดหมอก็นัดมายิงเลเซอร์ลบแผลเป็น ตอนนี้เลยเป็นแค่รอยจางๆ ค่าใช้จ่ายก็ถูกมากจ่ายแค่7บาท(ส่วนกิน ไม่นับค่าเลเซอร์ที่ต้องจ่ายเองเพราะไม่อยู่ในเงื่อนไขของมหาวิทยาลัย) ตอนนี้หายดีแลิว ยังคิดถึงตอนเป็นใหม่ๆ ว่ากว่าจะผ่านมานี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใครที่ยังไม่เป็นก็ขอให้อย่าได้เป็นตลอดชีวิต ใครที่เป็นแล้วก็พลาดเคราะห์ไป ขอให้โชคดีไม่มีโรคครับ
คนปวดไส้ติ่ง
อยากอ่านคะ แต่สีพื้นกับสีอักษร ทำให้อ่านไม่ไหวจริงๆ เศร้าเยย