NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HONGZAN "หงส์ซาน" (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #22 : หงส์ซาน #20 งอนพระราม & ฉันพร้อมแล้วนะ [100%] ***

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.2K
      186
      11 ก.ย. 60



    หงส์ซาน #20 งอนพระราม & ฉันพร้อมแล้วนะ 


    เนื้อหาบางส่วนถูกตัดออก 



    “อาบคนเดียวไหวไหม”

    มันถาม ผมพยักหน้า โด่ แค่นี้ชิลล์ๆ ผมเดินเนิบๆ เข้าห้องน้ำไป

     

    เอ๊ะ ไอ้ขอบประตูนี่ มาขวางทางกันทำไมเนี่ย

     

    ทุกอย่างรอบตัวดูพร่างพราวไปหมดเลย สบู่ยังมีแสงเรืองรองเลยดูดิ ใช้เวลาไม่นานผมก็อาบน้ำเสร็จ แสงเรืองๆ ที่ผมเห็นรอบตัวเบาบางลงบ้างแล้ว

     

    ผมเดินออกจากห้องน้ำ บ๊วยมันยืนคอยเพื่อจะอาบน้ำต่อ มันลูบหัวผมเบาๆ ก้มกระซิบข้างหู                                                                  

    “อย่าเพิ่งหลับก่อนล่ะ ขอเฮียอาบน้ำก่อน”

     

    ผมไม่ได้ตอบรับ ง่วงจะตาย จะให้ถ่างตารอทำไม พอมันเดินเข้าห้องน้ำ ผมก็เดินขึ้นเตียง พอหัวถึงหมอนผมก็ปิดสวิตซ์ทันที 

     

     

    “หงส์”

    ได้ยินเสียงเรียกข้างหู มันมาพร้อมอะไรที่ซุกๆ อยู่แถวๆ ซอกคอจนผมต้องแหงนหน้าขึ้นเพื่อให้สิ่งนั้นเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น

     

    “หลับหนีเฮียได้ไง ทำตัวน่ารักขนาดนี้มารับรางวัลจากเฮียก่อน”

     

    ผมครางฮือ เมื่อมีสิ่งหนึ่งเคลื่อนผ่านชายเสื้อขึ้นมาที่ยอดอก

     

    ผมค่อยๆ ลืมตามอง จนเห็นหัวคุ้มๆ ของใครสักคน

     

    “หงส์ซาน”

     

    ประมวลผลไม่เกินห้าวิผมก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

     

    “จะกินหงส์เหรอ”

     

    ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ

     

    “ทำไมทำตัวน่ารักได้ขนาดนี้นะหงส์ แค่นี้เฮียก็หลงหงส์จนหัวปักหัวปำแล้วนะ”

     

    ขออภัย เนื้อหาส่วนนี้ถูกตัดออก 

     





     

    “โอ๊ย...

     

    ผมครางโอ๊ยออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกตัว

     

    ผมลืมตา สภาพผมตอนนี้คือนอนหงาย ผ้าห่มคลุมถึงเอว สภาพร่างกายแบบนี้ ไม่ต้องเดาให้เสียเซลล์สมอง ผมโดยไอ้บ๊วยมันข่มเหงเอาแน่ๆ

     

    ผมขมวดคิ้ว พยายามนึกทบทวน จำได้แค่ว่านั่งกินข้าวเย็นกับมัน 


    แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นวะ 

    ผมดันตัวลุกนั่ง ครางโอ๊ยออกมาอีกรอบ ตาโตเมื่อเห็นร่างของใครบางคนมานอนอยู่ข้างๆ

     

    มันจะไม่น่าตกใจเลยถ้าคนคนนั้นเป็นไอ้บ๊วย

     

    แต่ไม่ใชครับ

     

    เขาคือ...

     

    “พี่หมอ”

    ผมครางเรียกเบาๆ

     

    พี่หมอนอนหงาย ท่าทางหลับสบายบนเตียง ปรือตาเปิดเมื่อผมเรียก

     

    พี่หมอมาอยู่ในห้องได้ยังไง

     

    ระ หรือว่าเมื่อคืน...

     

    “ตื่นแล้วเหรอ” พี่หมออ้าปากหาวหวอด “อาการเป็นไงบ้าง”

     

    ผมนั่งกระอักกระอ่วน

     

    นี่ผมกับพี่หมอ

     

    “อ้าว สงสัยจะยังแฮงค์ไม่หาย น้องหงส์ครับ อาการเป็นยังไงบ้าง บอกให้พี่หมอทราบหน่อย”

     

    “กะ เกิดอะไรขึ้น”

    ผมถามอึ้งๆ เตียงไอ้บ๊วย แต่พี่หมอมานอน แล้วบ๊วยมันหายไปไหน แล้วไอ้อาการที่ผมปวดอยู่นี่ ตกลงไอ้บ๊วยหรือพี่หมอเป็นคนทำกันแน่

     

    พี่หมอหัวเราะ ลูบหัวผมเบาๆ

     

    “เห็นไป่หลงเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเราทำตัวน่ารัก อดใจไม่ไหวทำลายสถิติใหม่ไป รอบแน่ะ”

     

    ผมตาโต

     

    หะ หกรอบ

     

    จะปวดสะโพกสะบัดแบบนี้ก็ไม่แปลกใจหรอก เบาใจหน่อยที่คนทำเป็นไอ้บ๊วยไม่ใช่พี่หมออย่างที่ผมหวาดหวั่นไว้ตอนแรก

     

    “ผมจำอะไรไม่ได้เลยพี่หมอ”

     

    “อ้าว”

     

    “จำได้แค่ว่านั่งกินข้าวเย็นกับอาเฮีย คุยอะไรกันเยอะแยะ มารู้ตัวอีกทีก็นี่แหละ”

     

    “ไป่หลงรู้คงเสียใจพิลึก เอาเป็นว่าเราเมาละกัน เอาละ เล่าอาการให้พี่หมอฟังหน่อย พี่หมอตรวจไปแล้วรอบหนึ่งก่อนไป่หลงจะออกไป”

     

    ผมทำหน้ากระอักกระอ่วน แต่ก็ยอมบอกอาการโดยดี พี่หมอลุกไปหยิบกระเป๋าเครื่องมือมาวางไว้ข้างเตียง หยิบยาออกมาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ใส่ถุงมือยาง

     

    “เดี๋ยวพี่หมอจะเพิ่มยาบำรุงให้อีกตัว”

     

    ผมพยักหน้ารับ พี่หมอทำเร็วครับ แผล็บเดียวก็จิ้มเข็มหัวเล็กจิ๋วกับต้นแขนผม ฉีดพรืดไม่มีลีลา เก็บอุปกรณ์มานั่งยิ้มแฉ่งข้างๆ

     

    “เก่งขึ้นนะ โดนไปขนาดนั้นยังลุกขึ้นมานั่งเองได้ ครั้งหน้าโดนสักแปดยกก็น่าจะนอนซมแค่วันเดียว”

     

    “ผมขออย่าให้เกิดขึ้นเลย”

    ผมพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น จำได้ว่าคุยกับบ๊วยมันเยอะมาก แต่คุยเรื่องอะไรบ้างนี่จำไม่ได้จริงๆ ยิ่งนั่งทบทวน ภาพความทรงจำก็ไหลเข้ามาเป็นฉากๆ แต่มาเป็นภาพพร่าๆ มัวๆ ปะติดปะต่อไม่ได้

     

    “พี่หมอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมมานอนอยู่กับผมได้”

    ผมเลิกระลึกถึงความหลังหันมาสนใจปัจจุบันแทน 

     

    “ไป่หลงโทรหาตั้งแต่หกโมงเช้า บอกว่าเมื่อคืนน้องหงส์ทำตัวน่ารัก จนทำสกอร์ใหม่ไป ลูก น้องหงส์น่าจะระบมวันนี้”

     

    ไม่ใช่ระบมธรรมดา แต่ระบมมากเลยล่ะ

     

    “พี่หมอรีบแบกกล่องเครื่องมือมา จริงๆ ก็ยังไม่ได้นอนเพราะติดเคสก่อนมา หลังตรวจน้องหงส์ไปรอบหนึ่ง ส่งไป่หลงไปทำงาน กลับมาดูอีกรอบ เห็นน้องหงส์หลับสบายพี่หมอเลยไต่ขึ้นเตียงมาหลับบ้าง”

     

    แล้วมาทำให้ผมเข้าใจผิดคิดว่าผมโดนพี่หมอทำอะไรเนี่ยนะ

     

    พี่หมออ้าปากหาวอีกรอบ

     

    “ได้ยาบำรุงไปไม่เกินครึ่งวันก็น่าจะลุกเดินได้ ตอนนี้ก็มะ”

    พี่หมอตบเตียงแปะๆ 

    “มาให้พี่หมอนอนกอดหน่อย”

     

    “ไม่เอาพี่ ขยะแขยงน่า ผู้ชายเหมือนกัน นอนกอดกันหยึยจะตาย”

     

    พี่หมอจ้องหน้าผม

     

    “แล้วที่นอนกอดกับไป่หลงทุกวันนี่ไม่รู้สึกขยะแขยงรึไง”

     

    ผมนิ่งไป แก้มร้อนผ่าวขึ้นมาจางๆ

     

    “นะ นั่นมันพิเศษ เขาเป็น เอ่อ

    ผมไม่กล้าพูดว่าเขาเป็นสามีตัวเอง พี่หมอค่อยๆ แย้มกลีบปากออกกว้าง

     

    “พี่หมอเข้าใจแล้วว่าทำไมไป่หลงถึงอดใจไม่ไหวเมื่อคืน น้องหงส์ของพี่หมอน่ารักจริงๆ เอาน่าอย่าคิดมาก โอกาสได้กอดน้องหงส์มีไม่มาก มะ มานอนกัน เราต้องการพักผ่อนด้วยกันทั้งคู่”

    ไม่พูดเปล่า พี่หมอยังรั้งผมลงไปนอนด้วยอีกรอบ 

     

    ผมนอนขนลุกขนชัน แต่เพียงไม่นานตาผมก็ปรือลง ท่ามกลางสติที่กำลังเลือนราง เห็นใครสักคนเดินเข้ามา ตัวใหญ่ๆ ผมพยายามปรือตามอง แต่หนังตามันหนักยังไงพิกล

     

    คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะเป็นซันไรส์ พอมาถึง ผู้ชายคนนั้นก็ดึงคนที่นอนอยู่ข้างๆ ผมลุกขึ้น

     

    “ทำอะไรของคุณ”

     

    “นอนไง ง่วงจะตาย สามสี่เคสติดต่อกันยังไม่ได้นอนเลย”

     

    “ห้องนี้ไม่ใช่ห้องนอนของคุณ”

     

    “แล้วฉันนอนที่ไหนได้ล่ะ”

     

    “ห้องนอนสำหรับแขก”

     

    “นอกจากห้องนี้ มีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่ฉันจะไปนอนคือห้อง

     

    แล้วสติผมก็ดับไปเพียงแค่นั้น









    #ซันไรส์

    “นอกจากห้องนี้ มีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่ฉันจะไปนอนคือห้องของนาย”

     

    ผมจ้องมองคนตรงหน้า จ้องมองพร้อมถามคำถามว่าทำไมผมถึงได้มายืนอยู่ในห้องของเจ้านาย ในเวลาที่เจ้านายไม่อยู่ ในเวลาที่หงส์ซานกำลังหลับใหล 


    และในเวลาที่นักป่วนประสาทกำลังคล้องวงแขนมารอบลำคอผมแบบนี้  


    มันไม่ใช่เพียงแค่วงแขน แต่เรือนร่างของเขากำลังแนบชิดเข้ามา กลิ่นกายหอมๆ สีหน้ายั่วๆ แม้กระทั่งกลีบปากน่าบดขยี้กำลังเคลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

     

    และผมก็บ้ามาก

     

    ที่หลงกลก้มหน้าลงต่ำ ทาบกลีบปากนั้นไปทันทีเช่นกัน

     

    ราวกับแมลงเม่าที่ถูกล่อหลอกให้บินเข้าหากองไฟ แม้จะรู้ว่าเส้นทางหลังจากนี้คือความตาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะบินเข้าหา

     

    ความกรุ่นที่พุ่งขึ้นมาเงียบๆ ก่อนหน้านี้มะลายหายไป ความกรุ่นที่เกิดจากความรู้สึกไม่พอใจ

     

    ไม่พอใจไปกับภาพที่ผมเห็น ภาพหมอที่กำลังกกกอดใครสักคน


    ใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวผม

     

    ……

     

    ….

     

     

    ..

     

    .

    ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาภายในรั้วบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ รถที่เพียงแค่เสียง ผมก็จำได้แล้วว่าเป็นรถของใคร


    “หมอมาแต่เช้าแบบนี้สงสัยว่าเมื่อคืนเจ้านายเราจะเล่นหงส์ซานหนักแน่ๆ” 

    วิกเซอร์ออกความเห็นขึ้นมาเงียบๆ


    ผมไม่แปลกใจหรอก เพราะเมื่อคืนหงส์ซานทำตัวน่ารักจริงๆ (สำหรับเจ้านายผมนะ) ท่านยิ่งแพ้ทางคนแบบนั้นอยู่ด้วย


    ลิงนั่นก็บื้อ พอแอลกอฮอล์เข้าปากก็เล่าความลับที่กักเก็บไว้หมด หงส์ซานไม่ใช่นักดื่ม และไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มบ่อยนักหรอก และผมก็รู้ว่าเพราะอะไร (ตอนไปเขื่อนหงส์ซานก็ดื่ม แต่เป็นไวน์แบบอ่อน ไม่ทำให้เมาแบบเมื่อคืน)


    ผมรู้ว่าหงส์ซานรักเจ้านายผมแล้ว ไม่มากก็น้อย ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เจ้านายผมมีความสุข


    ผมพ่นลมหายใจออกแรง วิกเซอร์ตบหลังผมเบาๆ อย่างให้กำลังใจ


    “ทำใจเถอะซันไรส์ ทำใจว่าเราสองคนมีนายหญิงเป็นลิงไม่สมประกอบคนหนึ่ง คิดในแง่ดีไว้ ถึงเราจะไม่ชอบ แต่ลิงนั่นกลับเป็นคนทำให้เจ้านายของเรามีรอยยิ้มได้มากกว่าที่เราเห็นมาทั้งปีซะอีก”


    ผมไม่เถียง


    “เรื่องหงส์ซานน่ะไม่น่ากลุ้มใจเท่ากับเรื่องที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้หรอกนะ”


    นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ผมเป็นห่วงเช่นกัน


    “สลับหน้าที่กันไหม ฉันจะลองไปขอเจ้านายอีกรอบ”


    วิกเซอร์ส่ายหัว


    “ฉันเห็นด้วยกับเจ้านายนะซันไรส์ ทางนี้มีฉันกับพวกเอ็ดเวิร์ดมาช่วยดูแล ไม่แน่ เจ้านายอาจตัดสินใจเรียกลอร่ากลับมาด้วยก็ได้”


    ผมชะงัก ขมวดคิ้วมอง


    “อย่าให้เรื่องต้องถึงลอร่าดีกว่า ไม่งั้นคงยุ่งยิ่งกว่านี้”


    วิกเซอร์ยักไหล่


    “อาชีพของเรามันต้องเจอแต่เรื่องยุ่งๆ อยู่แล้ว และนู่น ฉันว่าตัวยุ่งสำหรับนายมาแล้ว”


    ผมหันไปมองตาม เห็นหมอแบกกระเป๋าเครื่องมือแพทย์เดินยิ้มเข้ามา สีหน้าดูอิดโรยอย่างคนอดหลับอดนอน ให้เดาก็คงยังไม่ได้กลับบ้าน ตระเวนรักษาคนไปทั่วเหมือนเดิมนั่นแหละ


    “หมายความว่ายังไง” 

    ผมละสายตาจากหมอหันไปถามน้องชายร่วมสายเลือด


    วิกเซอร์ยกยิ้ม


    “ฉันอาจไม่ฉลาดเท่านายนะซันไรส์ แต่ก็ไม่โง่จนเกินไป ฉันว่านายโดนเล็งอยู่ และนายพรานคนนี้น่ากลัวกว่าพวกสาวๆ ที่เคยผ่านมาของนายหลายเท่าเลย นาย..เสร็จ..แน่” น้องผมเน้นสามคำสุดท้ายช้าๆ ชัดๆ 


    “เสร็จอะไรกันเหรอ”


    ผมหันไปมองคนถาม หมอกระชับกระเป๋าถามพวกเราสองคน ผมนิ่งไม่ตอบอะไร วิกเซอร์ยิ้มให้


    “เรื่องงานน่ะครับ เจ้านายเรียกมาเหรอครับ”


    “ใช่”


    วิกเซอร์ไม่ถามต่อว่าเรียกมารักษาใคร เพราะก็พอจะเดาๆ กันได้อยู่จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน


    “ขอตัวก่อนนะ” 

    เขาพูดไม่เจาะจงใคร ยกมือให้พวกเราสองคน ก้าวฉับๆ ไปทางห้องเจ้านาย ผมกับวิกเซอร์มองตามกระทั่งลับสายตา วิกเซอร์หันกลับมามองหน้าผม แล้วยิ้ม


    แต่รอยยิ้มของน้องดูเจ้าเล่ห์ยังไงพิกล


    “ฉันว่าคนนี้น่าจะทำให้นายปวดหัวยิ่งกว่าเรื่องของหงส์ซานหรือว่าเรื่องของแบล็กดราก้อนอีกนะ”


    ผมตีสีหน้านิ่งเรียบ ไม่ตอบอะไรน้อง และน้องก็ไม่พูดอะไรต่อเช่นกัน


    ผ่านไปไม่นานก็เห็นเจ้านายกับหมอเดินลงมาพร้อมกัน ตรงไปยังห้องทานอาหาร สมาชิกภายในบ้านทุกคนกล่าวทักทายหมอไม่ต่างกับหมอเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมาของเจ้านายผม


    ผมกับวิกเซอร์พากันเดินตามไปคอยดูแลรับใช้อย่างที่เคยทำ


    ผมทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่สายตาก็เพียรจับจ้องอยู่ยังคุณหมอจอมยุ่งของผมเสมอ นายใหญ่ค่อนข้างให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องแบล็กดราก้อน สมาชิกทุกคนดูตื่นตัวกับเรื่องนี้เพราะเคยชินและพอรู้เรื่องคร่าวๆ กันมาก่อนแล้ว


    ในบ้าน ผมว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลย คือหงส์ซาน บุคคลเดียวที่เจ้านายผมคอยปกป้องดูแล ไม่แม้แต่จะให้มารับรู้เรื่องที่อาจทำให้เครียดและหวาดกลัวนี้ด้วย


    จริงๆ เจ้านายผมก็ไม่ต่างกับพ่อแม่และพี่ๆ ของหงส์ซานนั่นแหละ เป็นไข่แดงที่ทุกคนพร้อมใจกันปกป้อง


    แต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องรู้ราวอะไร มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย


    ข้อดีคือ มันทำให้หงส์ซานมีความสุขอยู่เสมอ แต่ข้อเสียคือ หากรายนั้นดำเนินชีวิตแบบไม่ระวังภัยอะไรเลย อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ ที่ผ่านมา เขาถูกกันไว้เป็นไข่แดงอย่างที่บอกจึงปลอดภัยมาได้จนถึงทุกวันนี้


    ถึงมาอยู่ในมือเจ้านาย หงส์ซานก็ยังถูกดูแลเหมือนเดิม เพียงแต่เหตุการณ์ครั้งนี้มันดูจะหนักไปสักหน่อยแค่นั้น


    ในขณะที่ทุกคนกำลังถกปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างออกรส ป่านนี้หงส์ซานคงกำลังนอนหลับกรนฟี้ๆ อยู่


    “อาหงส์ล่ะ อาไป่หลง”

    นายหญิงใหญ่ถาม เจ้านายผมยิ้ม หมอยิ้มเจ้าเล่ห์


    “ผมอยากให้หงส์ซานเป็นผู้หญิงจริงๆ เมื่อคืนโดนลูกโทษไปหกลูก คาดว่าวันนี้ผมต้องฉีดยากันขนานใหญ่เลย”


    นายหญิงใหญ่ตาโต ซ้อใหญ่จ้องหน้าเจ้านายผม


    “เบาๆ หน่อยสิไป่หลง อาหงส์ตัวเล็กนิดเดียว เดี๋ยวได้ตายก่อนหรอก”


    หมอหัวเราะ


    “ไม่ต้องห่วงครับ หงส์ซานอึดกว่าที่คิด วันสองวันก็เดินตัวปลิวแล้ว”


    เจ้านายผมไม่พูดอะไร กินไปเงียบๆ พออิ่มหมอก็เดินไปส่งเจ้านายผมที่รถ


    ผมเดินไปเผชิญหน้ากับเจ้านายอีกครั้ง


    “เจ้านาย”


    “ฉันรู้ว่านายจะพูดอะไรนะซันไรส์ คนที่ฉันห่วงสุดตอนนี้ไม่ใช่ตัวฉันเอง พ่อแม่หรือพี่ๆ น้องๆ แต่เป็นคนที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้วงนิทราตอนนี้ต่างหาก”

    เจ้านายจ้องหน้าผม มองให้รู้ว่าท่านหมายความตามพูดจริงๆ


    “หน้าที่ตอนนี้ของนายคือปกป้องหัวใจฉันด้วย”


    ผมมองตาท่าน


    “ครับ” ผมรับปาก และนั่นคือคำมั่นของผมที่มีต่อเขา “ผมจะปกป้องเขาด้วยชีวิต”


    เจ้านายยิ้ม ตบไหล่ผมเบาๆ วิกเซอร์เปิดประตูออก เจ้านายผมก้าวขึ้นไปนั่ง ปรับสูทให้เข้าที่ วิกเซอร์มองหน้าผม ไม่พูดอะไร แต่สายตามีแววล้อเลียนปนสนุกสนาน


    ผมรู้ว่าวิกเซอร์ไม่ได้กำลังสนุกเรื่องที่เจ้านายฝากฝังให้ผมดูแลลิงหลับด้านบน แต่น่าจะเป็นเรื่องใครอีกคนที่ยืนเคียงผมอยู่ไม่ห่างตอนนี้ต่างหาก


    ผมไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรทั้งนั้นกลับ วิกเซอร์เดินอ้อมไปประจำตำแหน่ง เปิดประตูออก แทรกตัวเข้าไปนั่ง แล้วรถหรูที่ถูกหุ้มด้วยโครงสร้างนิรภัยทั้งคันก็ขับเคลื่อนออกไป


    ความเงียบเข้ามาแทนที่


    ผมขยับ ไม่สนใจคนที่อยู่ข้างๆ ให้เขารู้ว่าผมตั้งใจเมินเขาจริงๆ


    “นี่อย่าเมินแฟนตัวเองแบบนี้สิ”


    ผมเบรกกึก หันไปมองอย่างรวดเร็วชนิดหมอต้องเบรกกึกตาม


    ผมยกยิ้มให้ดูเยาะเย้ยที่สุด


    “พอดีผมไม่เคยมีแฟน และไม่คิดจะมีด้วย สถานภาพของผมตอนนี้คือโสด” 

    ผมเน้นคำหลังหนักแน่น


    “ฉันไง เราเป็นแฟนกันแล้ว”


    “นั่นคือสิ่งที่คุณโมเมเอาเองต่างหาก ย้ำ ผมยังโสด”


    ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องมาโต้เถียงกับเขาแบบนี้ ผมทำหน้าหงุดหงิด หันหลังก้าวฉับๆ ไปยังห้องของหงส์ซาน


    หน้าที่ของผมตอนนี้คือปกป้องหงส์ซาน ปกป้องเขาด้วยชีวิต


    หมอก้าวตามมาไม่ห่าง ผมไม่ได้เข้าไปเฝ้าในห้อง เพราะในนั้นมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีอยู่แล้ว ผมยืนอยู่หน้าห้องนั่นแหละ กอดอก ทำท่าถมึงทึงตามแบบฉบับบอดี้การ์ดที่ดีควรเป็น ไม่สนใจไก่กาใดๆ ทั้งสิ้น


    และหมอก็ไม่มาวอแวอะไรกับผมอีกเหมือนกัน เปิดประตูเข้าไปภายใน 


    ผมรู้ว่าเขาจะเข้าไปดูหงส์ซานอีกรอบ แต่อีกเดี๋ยวเดียวก็คงจะออกมาป่วนผมอีกแน่ๆ


    ผมยืนคอย


    จากสิ่งที่ผมคาดเดาเอาไว้ น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3-5 นาที แต่ผ่านไปร่วมสิบนาทีหมอก็ยังไม่โผล่ กระทั่ง 15 นาที


    20 นาที


    ไม่จำเป็นต้องยกนาฬิกามอง เพราะผมเชี่ยวชาญด้านการคำนวณเวลาจากการนับเลขในใจอยู่แล้ว


    30 นาที


    ทำไมหมอเข้าไปนานผิดปกติ


    ผมยืนคอย ต่อให้เป็นเพื่อนสนิท ห้องนอนเจ้านายไม่ใช่สถานที่ที่จะให้คนนอกเข้าไปใช้เวลานานเกินความจำเป็น ห้องนั้นเก็บเสียงด้วย ผมจึงไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น 


    ผมขมวดคิ้ว ยกนาฬิกามอง


    ถ้าเป็นเวลาอื่น ผมจะไม่ห่วง แต่มาเวลานี้ ต่อให้เป็นหมอที่เป็นเพื่อนสนิท ผมก็ไม่ไว้ใจ


    ผมผลักเปิดประตูออก มองเข้าไปภายใน 


    ภาพที่เห็นทำเอาผมร้อนซู่ขึ้นมาในอก มันเป็นความร้อนที่ผมไม่เคยพบเจอมาก่อน เหมือนมีใครเอาถ่านแดงๆ มานาบหัวใจ ระอุอ้าวมาถึงดวงตา 


    บนเตียงขาว หงส์ซานกำลังหลับสนิท และคนที่ควรจะออกไปป่วนผมกำลังหลับสนิทเช่นกัน แต่หลับในลักษณะที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น


    วงแขนของหมอโอบกอดหงส์ซานไว้ กอดไม่ต่างกับที่เจ้านายผมโอบกอดหงส์ซานด้วยความรัก


    ความร้อนมากมายพุ่งออกมาจากตัวผม รู้ตัวอีกที ผมก็ถลาเข้าไปคว้าหมอไว้ ลากลงมาจากเตียง  


    “ทำอะไรของคุณ!” 

    ผมถามเสียงเข้ม พยายามระงับไอร้อนที่มีตอนนี้ หมอปรือตามอง สีหน้าท่าทางดูง่วงจริงๆ


    “นอนไง ง่วงจะตาย สามสี่เคสติดต่อกันยังไม่ได้นอนเลย”


    “ห้องนี้ไม่ใช่ห้องนอนของคุณ” 

    ผมเตือนเขาตามจริง ให้เขาเข้าใจว่าที่นี่คือห้องของเจ้านายผม ต่อให้เขาเป็นเพื่อนสนิท สามารถเข้านอกออกในได้มากแค่ไหน ก็ไม่ควรที่จะมายุ่มย่ามกับเมียเพื่อนตัวเองแบบนี้


    หงส์ซานอาจไม่ได้คิดอะไร แต่คนอย่างหมอ ผมไม่ไว้ใจ ผีเข้าผีออก อาจอยากเขมือบหงส์ซานเข้าอีกคนก็ได้ ถึงเวลานั้น มันคงไม่สนุกกับทุกฝ่ายแน่ๆ


    “แล้วฉันนอนที่ไหนได้ล่ะ” 

    หมอถามมาด้วยท่าทางของคนที่ตื่นดีแล้ว ตามสไตล์ของคนนอนไวตื่นไว เป็นร่างกายของคนที่พร้อมจะไปช่วยเหลือคนอื่น แม้จะอยู่ในสภาพอดหลับอดนอนมามากกว่า 24 ชั่วโมงก็ตาม


    บางครั้งผมก็ยังทึ่งกับความสามารถนี้ เหมือนเป็นพลังส่วนพิเศษที่มาพร้อมกับหมอตั้งแต่เกิด


    เกิดมาเพื่อเป็นหมอ เป็นผู้รักษาคนอื่น


    “ห้องนอนสำหรับแขก” 

    ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ จ้องตาเขา


    “นอกจากห้องนี้ มีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่ฉันจะไปนอนคือห้องของนาย”

    ..

    .

    สามนาทีถัดมา


    หงส์ซานยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง สองมือผมกำลังบีบคลึงเรือนร่างของหมอในห้องนอนเจ้านาย กลีบปากยากจะแยกออกจากกัน


    ผมรีบดันหมอออกเมื่อมือของหมอกำลังจะล่วงล้ำเข้ามากอบกุมส่วนสำคัญของผม 


    แม้มันจะยั่วยวน 

    แม้น้องผมจะตื่นขึ้นมาประท้วงเรียกร้องอยากให้หมอจัดการเร็วๆ 


    แต่หน้าที่ในความรับผิดชอบของผมสำคัญกว่า


    หมอมองมาด้วยสีหน้าแปลกใจ


    “คุณควรออกไป ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณควรอยู่ และไม่ใช่สถานที่ให้เรามาทำเรื่องแบบนี้กันด้วย”


    “งั้นกลับห้อง” 

    หมอชวนมาเสียงพร่า หมอเองก็น่าจะ อยาก ไม่แพ้ผม


    “ผมมีหน้าที่ต้องทำ” 

    ผมดันเขาออกห่าง


    “ทั้งที่ไอ้นั่นของนายอยากโดนฉันอมจะแย่เนี่ยนะ” 

    หมอดีดน้องผมเบาๆ ผมกัดกรามอย่างอดทน


    “ใช่” 

    ผมตอบกลับหนักแน่น


    หมอกอดอก เอียงคอ มองตาผม


    “สามนาที ฉันสามารถทำให้นายเสร็จได้”


    “ไม่” 

    ผมตอบกลับหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม


    “คุณจะไปนอนห้องผมก็ได้ แต่ตอนนี้กรุณาออกจากห้องนี้ไปก่อน มันไม่ใช่ที่ที่คุณควรอยู่หรือหลับนอน เชิญ” 


    หมอจ้องหน้าผม


    “นายอนุญาตแล้วนะ”


    ผมไม่ตอบด้วยคำพูด แต่ตอบด้วยสายตาว่าจะไปไหนก็ไป แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่ หมอขยับเข้ามาชิด ยื่นปากจูบปากผมเบาๆ


    “ฉันพร้อมเสมอ ถ้านายต้องการ”


    ผมกอดอก ยืนนิ่ง บังคับกลายๆ ให้เขารีบออกไป หมอขยับเข้ามาชิดอีกจนได้กลิ่นลมหายใจ มันเป็นกลิ่นหอมที่ผมจำได้แม่น


    หมอจุ๊บผมอีกรอบ เลื่อนปากมาใกล้ใบหู กระซิบให้ผมได้ยินเบาๆ


    “พร้อมทั้งหมด รวมถึงส่วนที่เคยปิดสนิทมาตลอดนั้นด้วย” 

    แล้วหมอก็เคลื่อนตัวขยับห่างออกไป


    “อ้อ” 

    หมอหยุดตัวเองไว้หลังลูกบิด หันกลับมายิ้มให้จางๆ ขยิบตาเจ้าชู้ให้ผมตามสไตล์


    “หงส์ซานจะตื่นราวๆ เที่ยง ไม่ได้วางยานอนหลับหรอกนะ แต่ฤทธิ์ยาบำรุงทำให้รู้สึกผ่อนคลายคล้ายยานอนหลับ บอกไว้แค่นี้แหละ”


    แล้วเขาก็เปิดประตูก้าวจากไป  



    To be Con...


    ประกาศ รถอ้อยคว่ำหนึ่งคันรถใหญ่ เรียกหน่วยกู้ภัยหน่อย >////<


    เจอกันเมื่อเม้นท์ชน 2220

    (>>จองหนังสือ คลิกที่นี่<<) 

    อีบุ๊ค(e-book) หงส์ซาน (จบแล้ว เนื้อหาเหมือนหนังสือทุกอย่าง)

    (ราคา 339.- จากราคาปก 480.- เนื้อหานิยายมี 27 ตอน+ตอนพิเศษอีก 3 ตอน)

    [>>ดาวน์โหลดอีบุ๊คที่นี่ค่ะ<<]






    ADD FAB เป็นแฟนคลับเรื่องนี้จิ้มน้องหงส์ได้เลย

    {ADD FAD}


    แฮทแท็กเรื่องนี้ #หงส์ซาน 




    ติดต่อ-ติดตามการอัพนิยายไรท์เตอร์ได้ที่นี่ค่ะ 

    เพจ : facebook.com/memew28

    เฟส : facebook.com/memewfc

    ทวิต : @Memew28

    เมล : Memew28(แอท)gmail.com

    instagram : Memew28

    Line : Memew28 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×