NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HONGZAN "หงส์ซาน" (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #26 : หงส์ซาน #24 ปรนนิบัติพัดวี [100%]***

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.02K
      180
      5 ก.ย. 60


    Hongzan หงส์ซาน ตอนที่ 24 ปรนนิบัติพัดวี  


    ...


    ...


    คำเตือน : เนื้อหาบางส่วนถูกตัดออก 






    “ไม่ทำไม่ได้เหรอ” 

    ร้องขอแทน มันมองตาผม


    “เฮียทรมานนะหงส์”


    ผมกัดปาก จำใจ


    ย้ำว่า ‘จำใจ’ ต้องเป็นฝ่ายดูแลมันตามหน้าที่ภรรยาที่ดี


    อะเอ่อ...

    แล้วผมควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี คือถ้ามันเป็นผู้หญิง ผมจะเริ่มถูกอยู่หรอก แต่นี่เป็นผู้ชายไง ผมเลยไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนอะไรยังไงดี แถมมันยังบาดเจ็บด้วย ถึงจะไม่สาหัสจนทำให้สามารถตอแหลหลอกคนในบ้านว่าร่อแร่ได้ก็ตาม


    “เริ่มจากจูบ”

    สงสัยมันจะรู้ว่าผมไปไม่เป็นถึงได้แนะกลายๆ


    คือ ต่อให้แนะ ผมก็ไปไม่ถูกอยู่ดี ผมไม่ชำนาญในการเขมือบผู้ชายแบบมันนี่


    “เริ่มได้แล้วหงส์ซาน” 

    มันเตือนมา ผมเม้มปาก จำต้องหลับหูหลับตาก้มหน้าลงไปหาปากมัน


    เพียงแค่ผะแผ่วเท่านั้น แต่เหมือนร่างกายจดจำกันได้ พอได้แนบชิดมันก็เคลื่อนเข้าหากันอัตโนมัติ 


    เนื้อหาส่วนนี้ถูกตัดออก 






    เย้!!

    ในที่สุด มังกรก็พ่นพิษได้ แถมยังสามารถรีดพิษจากหงส์น้อยของผมได้ด้วย


    ขนาดนอนอยู่เฉยๆ ยังเหนื่อยตาม ให้ตายสิ


    ผมหอบแรงเหมือนหมาวิ่งร้อยคูณร้อย เหงื่อไหลซกๆ มันหัวเราะกับท่าทางเหนื่อยจัดของผม เลื่อนมือมาลูบเหงื่อออกให้แผ่วเบา


    “โอ๊ย...เจ็บแผล” มันเบ้หน้าท่าทางเจ็บจริง 

    ทีเมื่อกี้ละคึก


    “คิดว่าเป็นคนเหล็ก ไม่เจ็บไม่ตาย” 

    ผมค่อยๆ ดึงตัวเองออก ลุกดูแผลให้ 

    “เลือดออกเลย สงสัยต้องไปให้หมอดูอีกรอบ”


    “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเลือดก็หยุด”


    “แต่”


    “ไม่ต้องหรอก มาให้เฮียกอดหน่อย” 

    แล้วมันก็ลากผมลงไปนอนกอดแน่น จูบหน้าผากผมเบาๆ


    “รู้ไหมว่าเฮียเป็นห่วงหงส์แค่ไหน เฮียแทบบ้าตอนรู้ข่าวว่าพวกมันจับตัวหงส์ไป”


    ผมนอนฟังนิ่งๆ


    “ถ้าไม่ห่วงว่าหงส์กับไอ้หมออยู่ข้างใน เฮียจะระเบิดพวกมันให้เละทั้งแก๊ง”


    “พวกมันเป็นมาเฟียเหรอ” 

    ผมเงยหน้าถาม


    มันยักไหล่


    “ประมาณนั้น”


    ผมนอนนิ่งไม่ถามอะไรต่อ ถึงผมจะไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่ก็รู้อยู่หรอกว่าครอบครัวมันหรือครอบครัวผมเองก็ไม่ธรรมดา


    มันจับมือผมขึ้นไปวางไว้บนหัวใจที่กำลังเต้นรัวของมัน


    หัวใจที่มีผมเต้นอยู่ภายใน


    “เฮียรักอั๊วจริงๆ น่ะเหรอ” 

    ผมถามโดยไม่ได้เงยหน้ามอง


    รู้สึกได้ว่ามันขยับก้มมองผมอยู่


    “สงสัยอะไรในตัวเฮียเหรอ”


    “ก็สงสัยทั้งหมดนั่นแหละ รักได้ไง เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน รักตอนไหน เราเพิ่งแต่งงานกัน”


    มันกระชับกอดผมแน่นขึ้น 


    “เฮียไม่สนเรื่องเพศหรอกนะหงส์ เฮียรักหงส์เหมือนหงส์เป็นน้อง ความรักแบบนี้ไม่มีแบ่งเพศว่าเป็นชายหรือหญิงหรอกนะ เพียงแต่หงส์ต่างออกไปตรงที่เฮียรักและอยากเมคเลิฟด้วยเท่านั้นเอง”


    ผมใช้หัวโขกอกมันไปทีกับความเถรตรงของมัน


    “รักตอนไหนนี่ก็อย่างที่เฮียเคยบอก เฮียให้คนไปสืบเรื่องของหงส์ตอนที่รู้ว่าหงส์เป็นหนึ่งในคู่ดูตัวของเหมย เฮียถูกใจหงส์ตั้งแต่ตอนนั้น พัฒนามาเป็นความชอบจนตัดสินใจเสนอให้แต่งงานด้วย และเริ่มรักหลังจากมั่นใจว่าจะได้แต่งงานกับหงส์แน่ๆ และรักมากหลังจากได้เมคเลิฟหงส์ไปหลายรอบและใช้ชีวิตร่วมกัน ตอนนี้เข้าขั้นหลงจนหัวปักหัวปำเลย”


    ผมแก้มร้อนผ่าวไปกับคำสารภาพของมัน แกล้งโหม่งอกมันอีกรอบแก้เก้อ


    “ใจง่าย” 


    “ใช่ แต่กับหงส์คนเดียวนะ เพราะหงส์ไม่ใช่คนแรกที่เฮียนอนด้วย แต่เฮียไม่เคยยกใครขึ้นมาเป็นแฟน หรือแม้กระทั่งคบ เพียงแค่คู่นอน จะค่ำคืนเดียวหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีใครทำให้เฮียอยากใช้ชีวิตร่วมกันได้ แต่หงส์ไม่ใช่”


    “สำส่อน” 

    ผมอุบอิบด่า มันมะเหงกผมเบาๆ ที แล้วหัวเราะ


    “ชอบเพราะเห็นอั๊วเป็นตัวโชคดีหรือเปล่า”

    ผมยังหาเรื่องไม่หยุด 


    “หงส์ ถ้าแค่นั้นเฮียแค่เข้าพิธีแต่งงาน จดทะเบียน แล้วก็จบๆ กันไป คงไม่มานั่งนอนคิดถึง อยากกกกอด อยากปกป้องอยากดูแลแบบนี้หรอก”


    “ก็ดูแลเพราะต้องรักษาตัวโชคดีไว้นานๆ ไง”


    มันขยับยกตัวขึ้นคร่อมผมไว้ สีหน้าดูจริงจัง มันจับมือผมขึ้นจุมพิตแผ่วเบา จ้องตา แล้วจับมือผมไปวางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจตัวเอง


    “เฮียรู้ว่าหงส์ไม่โง่ หงส์แค่ไม่ยอมรับเท่านั้น” 

    มันจูบหน้าผากผมเบาๆ


    “และเฮียก็รู้อีกด้วย”


    “รู้อะไร”


    มันทำสายตากรุ้มกริ่มใส่


    “รู้ว่าหงส์รักเฮียไง”


    “ฮึย โมเมแล้ว ใครเขารักเฮียกัน อั๊วไม่ตาต่ำขนาดนั้นหรอก เฮียเป็นผู้ชาย หน้าตาก็หล่อน้อยกว่าเฮียหยก ใครเขาไปรักกัน”


    มันฉีกยิ้มกว้างแทนที่จะโกรธ


    “แต่หงส์เป็นคนบอกเฮียเองนะ”


    “บอกตอนไหน ถ้าตอนที่บังคับให้พูดว่าหงส์รักเฮีย นั่นถือเป็นโมฆะ เฮียบังคับให้พูด มันไม่ได้ออกมาจากใจ”


    มันส่ายหัว


    “ไม่ใช่ตอนนั้น”


    “ตอนไหน อั๊วไม่เคยพูดเลย มั่วแล้ว เข้าข้างตัวเอง”


    มันยิ้ม


    “ตอนหงส์เมาไง หงส์บอกรักเฮีย”


    ผมอ้าปากค้าง หน้าร้อนผ่าว


    “โมเม อั๊วไม่มีทางพูดแบบนั้นเด็ดขาด”


    “หงส์พูดจริงๆ ซันไรส์ก็ได้ยิน”


    ผมอ้าปากพะงาบๆ


    “อั๊วเมาๆ” 

    ผมรีบรัวปากปฏิเสธ


    บ้าเอ๊ย นี่ผมเป็นพวกเมาแล้วปากเบาเหรอเนี่ย


    มันจูบหน้าผากผมเบาๆ ทิ้งตัวลงไปนอนกอด


    “อั๊วเมา” 

    ผมอ้อมแอ้มปฏิเสธอีกรอบ


    “งั้นเฮียจะรอคอยวันที่หงส์บอกรักเฮียตอนไม่เมา”


    “ไม่มีทาง”


    “เฮียจะรอ”


    ทั้งเหนื่อยจากการรบกัน ทั้งจากฤทธิ์บาดแผลที่เจ็บ มันหลับไปง่ายๆ หลังจากนั้น ปล่อยให้ผมนอนตัวร้อนหน้าร้อนเพราะเผลอไปพูดความในใจกับมันเข้า


    โอ้หนอกู ทำไมทำตัวแบบนี้!!















    ผมตื่นก่อนมันในวันรุ่งขึ้น ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปข้างนอก ม้าเตรียมยาจีนไว้ให้ ม้าบอกให้ผมยกทั้งข้าวและยาไปให้มันกินที่ห้อง พอกลับเข้ามาอีกรอบ บ๊วยมันก็ตื่นแล้ว


    ร่างกายมันยังเปลือยเปล่าอยู่เลย มันขยับมานั่งข้างเตียง


    “ไปอาบน้ำก่อนสิ” 

    ผมไล่ อายแทนครับ กลัวคนอื่นเข้ามาเห็นด้วย มันไม่งอแง ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยตัวเอง มานั่งกินข้าวกินยาที่ผมเตรียมมาให้


    ทำตัวเหมือนเมียยังไงพิกล (ก็เมียจริงๆ นี่หว่า)


    มันกินไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข แรกๆ ก็กินเอง หลังๆ มันเริ่มอ้อนให้ผมป้อน อ้างว่าเจ็บแขนลามมาถึงมือ ผมจึงจำใจ (ย้ำ ว่าจำใจจริงๆ) ป้อนมันทีละคำจนอิ่ม


    “อั๊วอยากรู้รายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไปไงมาไงพวกแบล็คดราก้อนมาเล่นงานเรา แล้วแบล็คดราก้อนเป็นใคร” 

    ผมถามสิ่งที่ยังค้างคาใจ


    บ๊วยมันชะงักมือที่กำลังยกชาอู่หลงเข้าปากมอง  


    ผมรู้ว่าพวกมันเป็นมาเฟีย แต่ทำไมต้องมาจับผมกับพี่หมอและอะไรที่มันต้องการเอามาแลกเปลี่ยน


    กระดาษแผ่นนั้นคืออะไร


    “ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ทำธุรกิจทับเส้นกันนิดหน่อย สิ่งที่มันต้องการ คือสิทธิ์ในการได้ครอบครองในสิ่งที่มันเคยทำอีกครั้ง”


    “เฮียไปแย่งเขามาเหรอ”


    “ให้ไวน์ดราก้อนดูแลดีกว่าให้แบล็คดราก้อนดูแลนะ แค่เห็นวิธีที่พวกมันใช้ หงส์น่าจะพอเข้าใจ เฮียไม่เคยค้ามนุษย์ แต่พวกมันไม่เลือก ถ้าเฮียไปช้า บางทีหงส์อาจต้องไปนอนอ้าขาให้ผู้ชายนับพันขย่ม”


    ผมใจหายวูบ ไม่คิดไม่ฝันว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น


    “โลกนี้มันไม่ได้สวยงามเสมอไปหรอกนะหงส์ เฮียพยายามทำเท่าที่เฮียทำได้ เรื่องบางเรื่อง ตำรวจก็ยื่นมือเข้ามาจัดการไม่ได้ พวกนั้นกะเล่นงานเฮียให้ตายอยู่แล้ว”


    “เฮียอยู่ที่ไหน มาช่วยทันได้ไง” 


    เฮียอยู่จีน ทันทีที่ซันไรส์รายงานเฮียก็รีบบินกลับมาทันที เฮียไปที่นั่นเพื่อจัดการกับเครือข่ายหลักของพวกมันก่อน ไม่คิดว่าพวกมันจะบ้าระห่ำใช้จุดอ่อนของเฮียมาจัดการเฮียแบบนี้


    “จุดอ่อน??” ผมมองมันงงๆ “อั๊วเนี่ยนะ จุดอ่อนของเฮีย” ผมถามตาโต


    มันพยักหน้า


    หัวใจเป็นจุดอ่อนของร่างกายเฮีย และหงส์เป็นหัวใจของเฮีย


    “เลี่ยนว่ะ” 

    ผมต่อว่าเขินๆ เม้มปาก พยายามมองเมินไปทางอื่น


    “จริงๆ อั๊วอาจเป็นไส้ติ่งของเฮียก็ได้นะ ตัดทิ้งไปดีกว่า”


    มันส่ายหัว


    หงส์เป็นหัวใจของเฮียจริงๆ” มันบอกด้วยปากและดวงตา ผมเมินหลบอีกรอบ



    ผมนึกอะไรออกหันไปมอง


    “แล้วลอร่าเป็นใคร”


    มันชะงัก หลุบหลบตาผม


    “ลอร่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของซันไรส์”


    อ๋อ มนุษย์ตระกูลหน้าตายนี่เอง


    มันยกชาขึ้นจิบ


    “และเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เฮียเคยนอนด้วย และเกือบจะได้คบกัน แต่” 

    มันยักไหล่ แล้วไม่พูดอะไรต่อ


    ผมตาโตมอง


    “อะไรนะ!!


    “ลอร่าเคยเป็นผู้หญิงของเฮีย เราเกือบจะได้คบกัน แต่ยังไม่ทันได้คบก็คิดว่าอย่าเลยดีกว่า ไม่น่าจะรอดด้วยกันทั้งคู่”


    “ทำไม”


    “ลอร่าไม่ใช่สเปกเฮีย”


    “คบๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง” 

    สูตรสำเร็จของการคลุมถุงชน


    “เฮียก็คิดแบบนั้นแหละ แต่เราต่างคนต่างรู้ดีว่าไม่ใช่ของกันและกัน หงส์ก็รู้สเปกของเฮียนี่ แต่ลอร่าตรงข้ามเลย”


    “ยังไง”


    แบบซันไรส์เวอร์ชั่นผู้หญิง แต่ปากจัดกว่าดุกว่า


    เอ่อ

    ผมว่าผมเข้าใจแล้ว


    “แต่ลอร่าเป็นสเปกไอ้หมอ”


    ผมตาโต


    “แล้วทำไมพี่หมอไม่จีบ”


    มันยกชาจิบอีกรอบ


    “จีบแล้ว แต่ไม่ติด”


    “อ้าว ทำไมล่ะ”


    “ไปถามซันไรส์สิ ว่าทำไมป่านนี้ยังไม่มีครอบครัว”


    “เอ่อ อั๊วว่าอั๊วไม่ถามดีกว่า”


    มันหัวเราะ


    “ตระกูลนี้เป็นแบบนี้กันทุกคนรึไง ปากก็หมา หน้าก็ตาย ใจก็หิน”


    มันหัวเราะร่วน


    “มันเป็นบุคลิกของคนเป็นบอดี้การ์ดที่ดีล่ะมั้ง ปากหนัก แต่พูดทีก็เจ็บ เฮียชินแล้ว”


    “ชินสิ เฮียไม่เคยโดนพวกนั้นกัดนี่ อั๊วนี่โดนตลอด”


    มันหัวเราะอีกรอบ


    “เป็นห่วงพี่หมอจัง โทรหาได้ไหม”


    มันพยักหน้า ล้วงหยิบมือถือมากดโทรออก ซันไรส์รับสาย (บ๊วยมันเปิดลำโพงให้ผมได้ยิน)


    “หมอเป็นไงบ้าง”


    “ปลอดภัยแล้วครับ ผมกำลังจะกลับ”


    “ไม่เป็นไร วันนี้พักผ่อนไปเถอะ ฉันก็พักเหมือนกัน ลอร่าจัดการเรื่องทุกอย่างให้แล้ว”

    มันพูดคุยกันต่ออยู่พักหนึ่งก็วางสาย


    “หมอยังพักผ่อนอยู่ อย่าไปกวนมันเลย”


    ผมพยักหน้าเข้าใจ


    “สเปกซันไรส์เป็นแบบไหน”


    “ซันไรส์ไม่มีสเปกหรอก แบบไหนก็ได้ทั้งนั้น”


    ผมพยักหน้า เลิกยุ่งเรื่องของซันไรส์มาคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานแทน

     

     


    to be con... 


    +++++++++++++++++++++++++++++++++

    คราวนี้ก็รู้กันสักทีว่าลอร่าคือใคร ลอร่าคือผู้หญิงที่ไรท์อยากได้เป็นสาเมียมากกกกก (ต่อมเลสกำเริบ) หึ ๆ เลิฟยูลอร่าาาาา 

    พาร์ทหน้าเป็นของซันไรส์และพี่หมอค่ะ ช่วงเวลาที่ทุกรอคอยกำลังจะมาถึง หึ ๆ 

    (มีไรท์ทอล์คด้านล่าง) 

    (>>จองหนังสือ คลิกที่นี่<<) 

    อีบุ๊ค(e-book) หงส์ซาน (จบแล้ว เนื้อหาเหมือนหนังสือทุกอย่าง)

    (ราคา 339.- จากราคาปก 480.- เนื้อหานิยายมี 27 ตอน+ตอนพิเศษอีก 3 ตอน)

    [>>ดาวน์โหลดอีบุ๊คที่นี่ค่ะ<<]




    +++++++++++++++++++++++++++++++++

    ไรท์ทอล์ก : 

    เมื่อสามวันก่อน หลานชายตัวน้อยของไรท์โทรมา บอกว่าย่า(หรือแม่ของไรท์เอง) เข้าโรงพยาบาลเพราะดันเอาเคียวเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวมือตัวเอง (คือจริง ๆ นางเกี่ยวหญ้าแล้วมันมาบาดมือ) เส้นเอ็นนิ้วโป้งขาด เลือดกระฉูด ส่งไปโรงพยาบาลแรก เขาบอกรักษาไม่ได้เพราะไม่มีเครื่องมือ ต้องนำตัวส่งไปโรงพยาบาลที่สอง พอส่งไปโรงพยาบาลที่สอง เขารักษาไม่ได้อีกเพราะไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลที่สาม (โรงบาลอันดับหนึ่งของจังหวัด)

     

    สิ่งที่ทำให้ไรท์ประทับใจคือตลอดเวลาที่นิ้วนางเลือดไหล นางไม่เคยตระหนกเลย ไม่กลัว ไม่ตีตนไปก่อนไข้ ใจเย็น ทั้งที่คนรอบข้างพากันกลัดกลุ้ม เป็นห่วงเป็นใย เป็นเธอเองที่คอยให้กำลังคนรอบข้างว่าไม่เป็นไร บาดแผลนิดเดียวเอง เดี๋ยวก็หาย (คนเจ็บปลอบใจคนไม่เจ็บว่างั้น = = ; )  


    แม่ไรท์ไม่เคยเข้าครอสปฏิบัติธรรมที่ไหน มีแต่ไรท์นี่แหละ ที่ไปแล้วคอยสอนแม่ในสิ่งที่พระอาจารย์ท่านสอนมา การเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ทำให้แม่ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ตั้งแต่ ร่ำรวยมีบ้านมีเงินขนาดไหน พอเวลาเจ็บป่วยมาก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง ได้นอนเตียงเสริมที่ทำจากไม้ปูผ้าธรรมดากลางทางเดิน (เพราะห้องพักทุกห้องเต็ม มีเงินก็ซื้อห้องพิเศษไม่ได้ เพราะคนเยอะ) 

    ในขณะที่เราเจ็บ มีคนอื่นเจ็บกว่า แม่ไม่ร้องเลยเวลาหมอเย็บ (7 เข็ม) แกบอกเจ็บนะ แต่บอกตัวเองว่ามันแค่ภายนอก ถ้าใจเราไม่เจ็บ มันก็ไม่เจ็บ เวลาปวดก็ไม่ร้องขอยากับหมอ นั่งภาวนาพุธโธของแกไป เหมือนไปนอนพิจารณาธรรมในโรงพบาบาลมากกว่า 

     

    มีหลายคนที่มาในสภาพไม่น่าดู แม่ถือว่าตัวเองนั้นเบาที่สุด นางจึงลุกขึ้น แล้วลากเสาน้ำเกลือ พร้อมมือที่ถูกดามไว้ไปให้กำลังใจคนไข้คนอื่น บางคนไม่มีญาติ บางคนเจ็บหนักจนทุกข์ทรมาน นางก็ไปนั่งให้กำลังใจ ไปสอนธรรมะต่ออีกทอด (มีคุณยายคนหนึ่ง โดนงูกัดจนนิ้วเน่าหมอต้องตัดนิ้วทิ้งทีละเปราะทีละเปราะ คนนี้น่าสงสารสุด เป็นคนที่แม่ไปสอนธรรมให้มากสุด จนแกรู้สึกดีขึ้น แถมแม่ยังใจดี ไปส่งแกที่บขสด้วย เพราะแกไม่มีญาติมารับ ลูกหลานติดงานกันหมด ไรท์บอกถ้าเขาขาดเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย ไรท์จะช่วยออกให้ แต่พอดีแกไม่ต้องการ เลยไม่ได้ช่วยตรงจุดนั้น) 


    ร้อนนางก็ไม่บ่น หนาวนางก็ไม่บ่น หิวนางก็ไม่บ่น หนำซ้ำพอกลับมาถึงบ้าน นางก็ทำงานเลย ไม่พัก ไม่มาทำตัวอ่อนแอ ไม่ร้องขอความเห็นใจใคร ที่สำคัญคือตลอดระยะเวลาที่บาดเจ็บ รอยยิ้มไม่เคยหายไปจากหน้าแม่ นางสนุกกับการชูมือที่มีเฝือกใหญ่เท่าแขนให้ทุกคนดู แล้วทำให้ทุกคนมีรอยยิ้ม 


    ไรท์พูดได้เลยว่าไรท์มีแม่เป็นนางฟ้า เป็นเทวดาเดินดิน มีปีกเป็นรอยยิ้มที่พร้อมจะสยายให้กำลังใจใครก็ตามที่กำลังท้อแท้ มีวาจาไพเราะ ทุกคำที่นางพูด นางเพียงต้องการให้เขาคนนั้นหลุดพ้นจากความทุกข์ มีความสุขโดยไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่แดงเดียว  


    ใกล้วันแม่แล้ว ไรท์ขยันทำบุญมาก เพื่อตัวเองบางส่วน แต่หลัก ๆ แล้วคือต้องการยกบุญให้แม่มากกว่า เตรียมเสบียงไว้ให้นางใช้ในภพหน้า และอยากให้นางมีความสุขมาก ๆ ในภพนี้ด้วย เพราะพอนางมีความสุข ทุกคนในบ้านจะพลอยมีความสุขตามไปด้วย


    ลองลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อใครสักคนดูค่ะ เพื่อแม่ก็ได้ เพื่อคนที่เรารักก็ได้ เพื่อลูก ๆ เพื่อเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หรือใครสักคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ง่ายที่สุดคือแบ่งปันรอยยิ้ม ยิ้มให้คนในครอบครัวเราบ่อย ๆ (บางคนเจอหน้ากันก็ปั้นหน้ายักษ์ใส่กันเลย) หรือลองยิ้มให้คนแปลกหน้าดูบ้างค่ะ แล้วเราจะได้เห็นอะไรดี ๆ กลับมาเยอะเลย  

     

    ไรท์ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังท้อแท้นะคะ เวลาที่เรารู้สึกแย่มาก ๆ โลกนี้เหมือนกำลังพังทะลาย หรือดูเหมือนไม่มีอะไรเข้าข้างเราเลย แต่มันเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้นค่ะ อีกไม่นานมันจะผ่านพ้นไป การเดินเขา มันต้องมีทั้งขึ้นและลง ถ้าเราไม่หยุดเดินซะอย่าง ยังไงมันก็ผ่านพ้นไปได้ ปักหมุดชีวิตไว้ที่คำว่า "ฉันจะมีความสุขทุกวัน" ปักหมุดชีวิตไว้แบบไหน เราจะได้แบบนั้นค่ะ   

     

    ไรท์ขอเป็นกำลังใจให้อีกครั้ง ยิ้มเข้าไว้นะทุกคนนนนน









    ADD FAB เป็นแฟนคลับเรื่องนี้จิ้มน้องหงส์ได้เลย

    {ADD FAD}


    แฮทแท็กเรื่องนี้ #หงส์ซาน 




    ติดต่อ-ติดตามการอัพนิยายไรท์เตอร์ได้ที่นี่ค่ะ 

    เพจ : facebook.com/memew28

    เฟส : facebook.com/memewfc

    ทวิต : @Memew28

    เมล : Memew28(แอท)gmail.com

    instagram : Memew28

    Line : Memew28 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×