คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : กาลครั้งหนึ่งสิ้นสุดลง THE END
“ แบคฮยอนทำไม... “
“ หึหึ คยองซู ไม่มีใครรักเจ้าจริงเท่าพี่ “ ลู่หานเปลี่ยนมากอดลำตัวคยองซูเอาไว้จากข้างหลัง แบคฮยอนกำลังถูกมินซอกดึงตัวให้หนีออกไปจากบ้านหลังนี้
“ ลู่หาน คุณเองก็จะฆ่าผมไม่ใช่หรอ “
“ พี่ทำเพื่อทวงสัญญาของพี่ต่างหาก “
“ ...... “
“ เจ้าคงไม่รู้ว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนเจ้าสัญญาอะไรไว้กับพี่ ถึงเวลาที่ต้องรักษาสัจจะแล้วนะคยองซูของพี่ “
“ คุณฆ่าจงอิน “
“ มันเป็นลูกของแม่มด พี่จำเป็นต้องฆ่ามันไม่อย่างนั้นพี่เองจะเป็นฝ่ายถูกฆ่า “
“ แม่มดอะไร คุณพูดอะไร “ เป็นถ้อยคำที่แผ่วเบาจนน่าสงสาร แต่ลู่หานไม่ได้คิดที่จะเห็นใจกับน้ำเสียงนี้หรอก
“ ไม่ต้องห่วงหรอกนะคยองซู พี่ส่งแม่ของมันไปอยู่ในนรกเป็นเพื่อนกันกับมันแล้ว “
“ มะ..แม่ “
“ คนที่เลี้ยงเจ้ามาตั้งแต่เด็กมันไม่ใช่แม่ของเจ้านะคยองซู “
“ ไม่จริง.. “
“ จริง “
“ ......... “
“ เอาละ ไปเตรียมตัวกันดีกว่า เจ้าอยากตามไปอยู่กับจงอินแล้วก็แม่ของมันไหมละคยองซูน้องพี่ “ แบคฮยอนที่เขามีความรู้สึกดีๆให้ตอนนี้ก็เลือกที่จะเอาชีวิตรอดและพามินซอกหนีไปแล้ว จงอินน้องชายที่เขารักและเอ็นดูก็จากเขาไปแล้ว แม่ที่เคารพก็ทิ้งเขาไปแล้วเหมือนกัน คยองซูจ้องมองร่างของจงอินที่มีเลือดนองไหลออกมาด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ถ้าหากจะให้เขาใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังโดยปราศจากคนที่เขารักแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม..?
“ ผมจะไป.. “
“ ขอบใจเจ้ามากคยองซู “
มินซอกฉุดกระชากลากถูให้แบคฮยอนยอมตามออกมา มินซอกรู้ดีว่าแบคฮยอนอาลัยอาวรณ์ในตัวคยองซูมากขนาดไหน แต่ถ้าเขาไม่รีบพาหนีออกมาก็มีแต่จะตายกันทั้งหมด อย่างไรซะเขาก็ยังมั่นใจว่าลู่หานจะไม่ทำให้เขาได้รับอันตราย มินซอกจึงจำเป็นที่จะต้องพาแบคฮยอนหนีออกมาก่อนแล้วค่อยกลับเข้าไปช่วยคยองซูอีกครั้งก็คงทัน
“ มินซอก เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง “
“ ข้าปลอดภัยดี “
“ ลู่หานมันทำอะไรเจ้ารึเปล่า ? “ แบคฮยอนจับตามเนื้อตัวของพี่ชายเพื่อสำรวจหาร่องรอยวามผิดปกติที่อาจเกิดจากการถูกทำร้าย.. แต่กลายเป็นว่าเห็นแค่เพียงรอยจ้ำๆตรงลำคอ
เยอะเสียด้วย...
“ ก็..ทำบ้าง แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหรอก “
“ มินซอกเจ้าหนีไปนะ ข้าจะกลับไปช่วยคยองซู “
“ ไม่ได้นะแบคฮยอน ถ้าเจ้าไปข้าต้องไปด้วย “
“ แต่เจ้าจะไม่ปลอดภัย “
“ เจ้าต่างหากที่จะไม่ปลอดภัย ยังไงซะลู่หานก็ไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก “
“เจ้าพูดเหมือนตัวเองมีความสำคัญกับมันมากเหลือเกินนะ เจ้าก็เห็นไม่ใช่หรอว่ามันเลือดเย็นขนาดไหน คิดจะฆ่าได้กระทั่งน้องของตัวเอง “
“ แบคฮยอนเจ้ารู้..”
“ ข้ารู้ว่าคยองซูเป็นใคร “
“ แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป “
“ ข้าถึงบอกให้เจ้าหนีไปไง ข้าจะกลับไปช่วยคยองซู “
“ มันอันตรายนะแบคฮยอน ข้าไม่ยอม “
“ เจ้าจะปล่อยให้คยองซูตายรึไง!! ”
“ แล้วเจ้าไม่กลัวว่าตัวเจ้าเองจะตายรึไง!! “
“ คยองซูสำคัญกว่าชีวิตของข้า “ มินซอกเม้มปากแน่น ถ้าแบคฮยอนรักคยองซูมากขนาดนี้ทำไมถึงไม่เลือกที่จะช่วยคยองซูออกมา
“ แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ช่วยคยองซูออกมา เจ้าช่วยข้าทำไมแบคฮยอน “
“ มินซอก “
“ ......... “
“ เจ้ารักลู่หานใช่ไหม “
“ ขะ..ข้าไม่ “
“ อย่าโกหกนะมินซอก เจ้าก็รู้ว่าเจ้าโกหกข้าไม่ได้ ใจของเจ้า ข้ารู้สึกถึงมัน “
“ ใช่ ข้ารักลู่หาน “
“ เพราะแบบนี้ไง ข้าถึงต้องพาเจ้าหนีออกมา เจ้าคงทนไม่ได้ที่จะเห็นคนที่เจ้ารักต้องตายไปต่อหน้าต่อตา “
“.......... “
“ ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเสียใจ เพราะยังไงซะ ข้าก็ต้องฆ่ามัน “
“ แบคฮยอน.. “ ดวงตากลมใสของมินซอกคลอหยาดน้ำขึ้นมาหน่วงที่ขอบตา แบคฮยอนยืนยันว่ายังไงซะก็จะต้องฆ่าลู่หานให้ได้ ซึ่งทั้งตัวแบคฮยอนเองและตัวลู่หานก็อาจจะต้องตายกันไปทั้งคู่
“ แบคฮยอนสัญญากับข้านะว่าเจ้าจะกลับมา “
“ ข้าไม่กล้าสัญญาหรอกมินซอก บางทีข้าอาจจะต้องตาย..“
“ แบคฮยอน ... “ มินซอกรวบกอดตัวแบคฮยอนเอาไว้แน่น เขาไม่ได้ต้องการที่จะหนีออกมาจากลู่หานได้โดยที่ไม่มีแบคฮยอนอยู่ด้วยหรอกนะ
“ ข้ารักเจ้ามากนะแบคฮยอน “
ผ้าคลุมสีดำสนิทผืนขนาดใหญ่ปกคลุมร่างกายเปลือยเปล่าของคยองซูเอาไว้ ใบหน้าเรียบนิ่งเหมือนไร้อารมณ์ความรู้สึกของคยองซูเหม่อมองออกไปข้างนอกช่องหน้าต่างขนาดไม่ใหญ่มาก ท้องผ้าภายนอกเริ่มจะมืดเพราะนี่เป็นเวลาหัวค่ำแล้ว
“ คยองซู พี่เตรียมน้ำไว้ให้เจ้าแล้ว “ คยองซูกำลังนั่งอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ภายในห้องนอนของใครสักคนที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคือห้องของใคร
“ อย่าเอาเท้าของเจ้าสัมผัสพื้นเด็ดขาด “ ลู่หานขึ้นเสียงสั่งจนคยองซูที่กำลังจะก้าวเท้าลงมาหยุดชะงักเท้าเอาไว้
“ เจ้าจะต้องสะอาดที่สุด “ ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาช้อนตัวคยองซูให้อยู่ในอ้อมอก น้ำหนักขนาดเบาหวิวแบบนี้ทำให้ลู่หานเผลอนึกถึงมินซอก
“ ที่นี่ห้องของใครหรอครับ “
“ ห้องของเจ้า ห้องที่พี่ให้คนมาคอยทำความสะอาดเพื่อรอเจ้ากลับมาใช้มันมาโดยตลอด “
แล้วบทสนทนาสั้นๆก็จบลงเมื่อลู่หานอุ้มคนตัวเล็กกว่าเดินเข้ามาจนถึงภายในห้องน้ำขนาดใหญ่ซึ่งภายในมีเพียงแค่อ่างหินขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุน้ำที่ลอยไปด้วยกลีบดอกไม้สีแดงสด
“ เหยียบเท้าพี่แล้วลงไปอาบน้ำสิคยองซู “
“ ครับ “ คยองซูเหยียบลงบนเท้าของลู่หานแล้วก้าวลงไปภายในอ่างหินขนาดใหญ่ สัมผัสเย็นเฉียบของผิวน้ำไม่ได้ทำให้คยองซูรู้สึกสะทกสะท้าน ลู่หานดึงผ้าคลุมสีดำให้เลื่อนหลุดออกจากร่างของคยองซู
“ ชอบไหมคยองซู “ หลังจากที่คนตัวเล็กนั่งลงแช่กับน้ำที่เต็มไปด้วยกลีบสีแดงของดอกไม้แล้ว ลู่หานย่อตัวลงระดับเดียวกันกับขอบอ่างลู่หานเลื่อนมือบีบที่ต้นคอขาวเบาๆ
“ ขอบคุณเจ้ามากจริงๆ พี่หวังว่าคราวนี้เจ้าจะไม่ผิดสัญญากับพี่อีก “
กลิ่นควันเหม็นสาบลอยอบอวลไปทั่วทุกพื้นที่ ในลานกว้างที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากคบเพลิงก็เต็มไปด้วยร่างของเหล่าภูตผีตระกูลเดียวกัน เสียงฮือฮาเสียงดังฟังไม่เป็นภาษาดังขึ้นจนวุ่นวาย ใจกลางลานขนาดใหญ่มีแท่นหินที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างโดดเด่น เสียงดังที่เกิดขึ้นค่อยๆเงียบลงเมื่อร่างที่เด่นสง่าในชุดสีขาวกำลังเดินแหวกเหล่าฝูงภูตที่มีลักษณะน่าเกลียดน่ากลัวออกมา ในอ้อมอกแข็งแรงมีร่างของบุคคลสำคัญในพิธีกำลังซบอยู่
“ หลบไป “ แม้แต่ปลายเท้าของคยองซูใครหน้าไหนก็ไม่มีใครได้สัมผัส จะไม่มีใครมาทำให้คยองซูจะต้องแปดเปื้อน มือน่าเกลียดและมีกลิ่นเหม็นเน่าหลายคู่กำลังพยายามแตะเท้าของคยองซูให้ได้แต่ทว่าเพียงลู่หานหันกลับไปจ้องมองมือสกปรกเหล่านั้นก็รีบชักกลับด้วยความเกรงกลัว
“ พี่น้องของข้า “ หลังจากเดินมาถึงแท่นขนาดใหญ่ลู่หานก็แผดเสียงดังกึกก้อง ทุกตัวตนยอมเงียบเสียงลงจนเหลือแค่ความเงียบ ลู่หานในชุดสีขาวกำลังอุ้มคยองซูซึ่งสวมเสื้อผ้าสีขาวสะอาดด้วยท่าทีหวงแหน
“ นี่แหละจะเป็นหนทางไปสู่ความเป็นอมตะของพวกเรา “ ลู่หานค่อยๆประคองให้คยองซูยืนขึ้นตัวเล็กถูกวางลงอย่างเบามือบนแท่น
“ จงก้มหัวให้แก่ผู้มีพระคุณของพวกเจ้าทุกคน “ เสียงฮือฮาดังขึ้นก่อนที่ฝูงภูติแวมไพร์ชั้นต่ำจะก้มหัวลงหมอบจรดกับพื้นดิน
“ คยองซู นอนลง “ ฉับพลันหยาดน้ำตาเม็ดโตก็ร่วงเผาะลงอาบแก้มเนียนใส ลู่หานขัดใจขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคยองซูกำลังร้องไห้
“ เจ้ากลัวหรอคยองซู “
“ ครับ “
“ นิดเดียวคยองซู เจ้าจะเจ็บแค่เพียงเวลาสั้นๆเท่านั้น “ มือซีดยกชูขึ้นมาพร้อมกับกริชเล่มยาว เสียงโห่ร้องของบรรดาพวกชั้นต่ำดังขึ้นเหมือนจะเชียร์ให้ลู่หานรีบปักมันลงที่อกของคยองซู
“ หลับตาเสียนะน้องพี่ “ คยองซูยอมนอนราบลงกับแท่น ขณะเดียวกันกริชเล่มยาวก็ถูกลู่หานใช้สองมือประคองเอาไว้แล้วยกขึ้นสูงระดับหน้าผากของตัวเอง ลู่หานวนกริชเป็นวงกลมรอบตัวคยองซูแล้วก็พึมพัมอะไรบางอย่างซึ่งคยองซูเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ามันคืออะไร คล้ายจะเป็นบทสวด บางทีลู่หานอาจจะกำลังสวดส่งวิญญาณ..
เสียงพึมพับยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเสียงโห่ร้องของเหล่าบรรดาภูติ ลู่หานเร่งจังหวะคำพูดให้เร็วขึ้นพร้อมกับวนกริชเร็วขึ้น หัวใจของคยองซูเหมือนกำลังจะหยุดเต้นลงเมื่อลู่หานสูดหายใจเข้าลึกแล้วพุ่งกริชตรงมาที่อกของเขา ดวงตากลมโตปล่อยน้ำตาหยดสุดท้ายลงที่ปลายหางตา จากนั้นเขาก็หลับตาลงแน่นเพื่อรอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะถูกมอบให้
อึกก....
เสียงหอนลากยาวส่งผลให้ลู่หานชะงักมือเอาไว้ได้ทันแต่ทว่าส่วนปลายของกริชได้ถูกปักลงไปที่อกของคยองซูแล้ว เลือดสีเข้มไหลทะลักออกมาหลังจากคยองซูกรีดร้องเสียงดัง ความเจ็บแล่นริ้วไปทั่วร่างถึงแม้กริชจะปักไม่ทะลุอกแต่มันก็สร้างความเจ็บปวดให้คยองซูได้อย่างมหาศาล
“ อ่า.. คยองซู ดูซิว่าใครมา “ ลู่หานชักปลายแหลมคมออกจากตัวคยองซูแล้วหันกลับไปมองยังต้นเสียงคำราม แน่นอนว่าต้องเป็นแบคฮยอน ไม่รู้จักรักตัวกลัวตายบ้างหรืออย่างไรถึงได้เที่ยวแส่เรื่องของคนอื่นเขาอยู่ได้
“ แบค... “ ทันทีที่หันไปเจ้าของเสียงที่คำรามกึกก้องไม่ได้เป็นแบคฮยอนอย่างที่ลู่หานคิด แต่กลับเป็นร่างของมินซอก..
“ มินซอก “ ร่องรอยคราบเลือดที่เปรอะเต็มปากบางนั้นเป็นเลือดของเหล่าแวมไพร์ชั้นต่ำร่างกายเล็กที่ลู่หานเห็นในป่าครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาจนอยากได้มาไว้ครอบครองกำลังสั่นเทาเนื้อตัวที่เขาหวงแหนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด ลู่หานจำไม่ได้แล้วว่าไม่ได้เเห็นสภาพสะบักสบอมของมินซอกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่มันก็เหมือนมีภาพซ้อนทับของครั้งแรกกับครั้งนี้ ครั้งที่มินซอกสู้เพื่อปกป้องแบคฮยอน
“ ลู่หาน ได้โปรดหยุด “
“ มินซอก กล้าดียังไงมาขัดขวางข้า “
“ ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องตายนะลู่หาน “
“ น้องของเจ้าจะทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรอ ? “
“ น้องข้าจะไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ข้านี่แหละจะฆ่าเจ้าเอง “
“ มินซอก..”
“ ข้ารักเจ้านะลู่หาน รักเจ้ามาก “ คำพูดที่ลู่หานรอคอยมาตลอดได้พรั่งพรูออกจากปากของมิซอกพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลอาบนองหน้า มือที่กำกริชไว้แน่นเผลอคลายออกจนกริชล่วงหล่น นั่นสร้างความตื่นตกใจให้กับเหล่าภูตผีแวมไพร์ทั้งหลายในบริเวณนั้น ดวงตาที่แข็งกร้าววูบไหวเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็กลับมาแข็งกร้าวดังเดิม ลู่หานก้มลงเก็บกริชขึ้นมาถือไว้แล้วหันหลังให้กับมินซอก เขาหลับตาลงแน่นแล้วเอ่ยปากสั่งบรรดาทาสรับใช้ของเขาทั้งหลายให้ได้ยินโดยทั่วกัน
“ ฆ่ามัน..” มินซอกก็รู้ดีอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ เขาตัวสั่นแต่ก็ไม่ได้เกรงกลัวในเหล่าบรรดาทาสของลู่หานทั้งหลาย ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ต้องโดนเล็บแหลมคมกรีดเข้าที่ผิวเนื้อจนแสบร้อนและมีเลือดไหลเป็นทางยาว มินซอกเบี่ยงตัวหลบแต่ป้องกันตัวเองโดยที่สายตายังจ้องมองไปที่ลู่หานซึ่งยืนหันหลังให้เขานิ่ง หรือมินซอกจะคิดผิดมาโดยตลอดว่าลู่หานนั้นรักและเป็นห่วงเขา
“ ท่านลู่หาน รีบทำพิธีเทิดท่าน พวกข้าอดใจรอแทบไม่ไหวแล้ว “
“ ได้ “ ลู่หานไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองมินซอก เขายกกริชขึ้นระดับหน้าผากอีกครั้ง ดวงตากร้าวจ้องมองคยองซูซึ่งนอนตัวสั่นเทา ลมหายใจรวยรินเพราะฤทธิ์ของแผลเก่า
“ พี่สัญญาว่าเจ้าจะต้องไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้ “ อีกครั้งที่ลู่หานท่องบทบูชา เขาวนกริชไปรอบตัวคยองซูเร็วขึ้นแล้วชูปลายกริชแหลมคมให้ลอยขึ้นสูง
“ ขอความอมตะจงอยู่กับเรา ”
.
.
.
.
.
ลู่หานกรีดข้อมือตัวเองด้วยมีดพกเล่มเล็ก เขาหยุดเลือดของตัวเองให้ไหลไปรวมกันกับเลือดคยองคยองซูที่ไหลซึมออกมาจากหน้าอก ร่างของคยองซูสงบนิ่งลงพร้อมกับลมหายใจ ลู่หานได้ยินเสียงของมินซอกซึ่งแผดเสียงร้องห้ามไม่ให้เขาฆ่าคยองซู แต่ไม่ทันเสียแล้ว ลู่หานยืนมองหยดเลือดของตัวเองที่ไหลออกมาจากข้อมือและมองกริชเล่มยาวซึ่งถูกฝังลงที่อกของคยองซูและตรงกับหัวใจอย่างพอดิบพอดี ความยาวของกริชนั้นทะลุอกของคยองซูได้อย่างง่ายๆ
ก่อนที่คยองซูจะแน่นิ่งไปร่างเล็กนั้นเชิ่ดอกขึ้นสูงเพราะความเจ็บปวด กระตุกเกร็งเพียงเล็กน้อยแล้วก็นิ่งไป เสื้อผ้าขาวสะอาดของคยองซูอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน และเลือดนั้นก็กระเซ็นออกมาเปรอะเสื้อผ้าของลู่หานด้วยเช่นเดียวกันแต่ว่าลู่หานไม่ได้รู้สึกสะเทือนใจเพราะอย่างน้อยพิธีก็สำเร็จแล้ว...
“ เจ้าทำอะไรลงไป “ อีกครั้งที่ลู่หานต้องหันกลับไปมอง เขาแสยะยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่ควรจะมาตั้งแต่แรกในตอนนี้ได้ปรากฏตัวออกมาเสียที แบคฮยอนใช่ไหมคือคนที่มินซอกแสนจะห่วงใย คนที่สมควรจะได้นอนจมกองเลือดนั้นควรเป็นแบคฮยอนไม่ใช่มินซอก
“ เจ้าก็เห็นแล้ว จะยังอยากรู้อีกหรือว่าข้าทำอะไรลงไป ”
“ มินซอกรักเจ้านะลู่หาน!!”
“ ............ “
“ ข้าไม่ยอมให้คยองซูต้องตายไปโดยที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่หรอกลู่หาน “ แบคฮยอนฟื้นขึ้นมาด้วยความหนักอึ้งที่ศีรษะ จำได้ครั้งสุดท้ายว่ามินซอกกอดเขาไว้พอเขาหันหลังให้มินซอกสติเขาก็พร่ามัวไปหมด มินซอกใช้ท่อนไม้ฟาดหัวเขาจนล้มฟุบลงไป แล้วมินซอกก็มาที่นี่...
“ กระจอกแบบเจ้านะ ไม่มีทางทำอะไรข้าได้หรอก แน่จริงทำไมเจ้าถึงตองให้มินซอกมาตายก่อนเจ้าด้วยละแบคฮยอน”
“ มินซอกหนีมา เหอะ.. เจ้ารู้ไหมว่าเพราะอะไรมินซอกถึงต้องยอมเสี่ยงมาทั้งๆที่รู้ว่าคนเลือดเยนแบบเจ้านะไม่มีทางปล่อยให้มินซอกรอดไปได้ “
“...............”
“ มินซอกรักเจ้า มินซอกไม่ต้องการที่จะเห็นเจ้าตาย เพราะไม่ว่ายังไงข้าก็จะต้องฆ่าเจ้าให้ได้“
“ เจ้าจะทำอะไรข้าได้ อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อ้อนวอนขอให้มินวอกมาช่วยข้าเสียเมื่อไร “
“ เจ้าจำได้ไหมว่าเราเคยสู้กันที่ป่า แล้ววันนั้นคนที่ช่วยข้าไว้ก็คือจงอิน “
“ ไม่น่าละเจ้าถึงยังไม่ลงนรกไปสักที “
“ จงอินให้อะไรบางอย่างไว้กับข้า เพราะเขาไม่รู้ว่าจะใช้มันไปทำอะไร แต่บังเอิญว่าข้ารู้ซะด้วยสิว่าจะใช้มันอย่างไร “ ลู่หานรู้สึกว่าของที่จงอินให้กับแบคฮยอนนั้นมันจะสร้างอันตรายให้กับตัวเขา จนถึงชีวิต..
“ ที่เจ้าฆ่าจงอินเป็นเพราะเจ้ารู้ว่าถ้าจงอินไม่ตาย เจ้านั่นแหละที่จะต้องถูกจงอินฆ่า “
“ เดินทางปลอดภัยนะ แล้วอย่าเที่ยวไปกัดกับใครเขาอีกละ “
“ ข้าไม่ได้อยากจะกัดกับมันสักหน่อย “
“ เดี๋ยวก่อนแบคฮยอน ผมมีอะไรจะให้คุณนะ ผมคิดว่ามันคงไม่มีประโยชน์กับผม “ แบคฮยอนซึ่งกำลังจะเดินทางกลับบ้านหยุดชะงักเท้าแล้วหันกลับมารับของเอาไว้
“ แค่มีดธรรมดานี่นะหรอ “
“ แม่ผมบอกว่ามันคือกริช บางทีผมอาจจะไม่ต้องใช้มันแล้วเพราะผมคงไม่มีศัตรูที่ไหนแบบคุณ”
“ มันใช้ทำอะไรได้บ้าง “
“ เอาไว้ป้องกันตัวเองละมั้ง แล้วแต่คุณจะเอาไปใช้ละกันเพื่อระหว่างทางมีอันตรายอย่างน้อยไอ้นี่มันอาจจะช่วยคุณได้ “ ถึงแบคฮยอนจะไม่รู้ว่าเอามันไปใช้ทำอะไรแต่เขาก็ยอมรับเอาไว้
“ เออนี่คุณ ครั้งหนึ่งผมเห็นแม่ถือมันขึ้นมาแล้วมันมีแสงสว่างออกมาจากกริชเล่มนี้ด้วย “
“ บางทีนี่อาจจะเป็นของเล่นของแม่เจ้าก็ได้ “ แบคฮยอนยิ้มแล้วลาจงอินอีกครั้งก่อนจะออกเดินทางต่อไป
“ เจ้าไปเอามันมาจากไหน “
“ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่ามันคือกริชมนต์ของแม่มดขาว...หึ เจ้ากลัวตายรึไง”
“ เหอะ.. ถ้าคิดว่ามีปัญญากเข้ามา ” ลู่หานกระหยิ่มในฝีมือการต่อสู้ของตัวเองอยู่ไม่น้อย เขาเลือกที่จะไม่ใช้อาวุธ ขณะที่แบคฮยอนกำลังพุ่งตัวเข้ามาดวงตาของลู่หานก็มองไปที่มินซอก
ร่างโปร่งเบี่ยงตัวหลบแบคฮยอนซึ่งฟาดแขนลงมาที่ตัวของเขา เวลาที่เห็นแบคฮยอนโกรธนี่เป็นความสนุกสนานของลู่หานเสียจริง มันดูเหมือนลูกหมากำลังโมโหหิว แต่หมาตัวนี้ดื้อเกินไปหน่อยเขาเลยไม่รู้สึกว่าเอ็นดู อยากฆ่าให้ตายนักเชียว..
อั่ก..!!
เพราะความประมาทเลยถูกความแหลมคมจากกรงเล็บหมาป่าดเข้าใส่กลางลำตัว ลู่หานกระเด็นตามแรงทรุดลงกับพื้น บางทีอะไรๆมันอาจจะง่ายกว่านี้ถ้าเขาไม่เกิดบ้าอยากมีหัวใจ อยากมีหัวใจเพื่อใช้รักใครสักคน ลู่หานหันกลับไปมองมินซอกอีกครั้ง ร่างเล็กกำลังพยายามคลานเข้ามาหาเขาด้วยสติอันน้อยนิด
“ มินซอก “ ลู่หานเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อสบกับสายตาแดงช้ำของมินซอก
“ แบค..ฮะ ..อ อย่า “ ริมฝีปากบางเอ่ยห้ามด้วบน้ำเสียงแผ่วเบา ซึ่งแบคฮยอนไม่สามารถได้ยินมัน เขายังพุ่งตัวเข้าหาลู่หานซึ่งล้มลงกับพื้นด้วยกริชในมือ ลู่หานไม่ขยับตัวหนีแต่เขายังจดจ้องอยู่ที่มินวอกซึ่งกำลังไอออกมาพร้อมกับเลือดที่ทะลักออกจากปาก
แบคฮยอนได้โปรดข้าขอร้อง..
ความเจ็บหนึบที่หัวใจทำให้แบคฮยอนชะงักมือเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะใช้กริชเล่มขนาดยาวฟันลงที่คอของลู่หาน ความเจ็บทรมานนี้ไม่ใช่ความรู้สึกของเขา หากแต่มันคือความรู้สึกของมินซอก ลู่หานแหงนหน้าขึ้นมองแบคฮยอนที่หยุดการเคลื่อนไหว เห็นแบบนี้ลู่หานจึงรีบผละตัวออกจากระยะอันตราย เขานำตัวเองวิ่งเข้าไปหามินซอกซึ่งกำลังเอื้อมมือที่เปรอะคราบดินและเลือดเข้ามาหาเขา ลู่หานประคองมินซอกให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด น้ำตาที่เขาคิดว่าทั้งชีวิตมันจะไม่ไหลออกมาก็เริ่มหยาดริน
“ มินซอก ข้าขอโทษ “
“ ลู่... “
“ เจ้าน่ะมันตัวปัญหา เจ้าทำให้ความเย็นชาของข้านั้นหายไป “ มินซอกเผลอยิ้ม
“ ฮะ..ฮะ “
“ หัวใจของข้ามันมีไว้รักเจ้าแค่คนเดียวนะมินซอก “ ลู่หานกอดร่างเล็กเอาไว้แน่น ใบหน้าที่เย็นชาเริ่มแสดงความเจ็บปวดเมื่อมินซอกหายใจรวยรินเต็มที ลู่หานซบหน้าลงกับอกเล็กอย่างที่เขาชอบทำ มินซอกเลื่อนมือขึ้นมากอดลู่หานเอาไว้ด้วยแรงที่พอมี เขารู้แล้วละว่าตัวเองคงจะไม่รอดอย่างที่คิดไว้ แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็อาจจะหยุดลู่หานได้ อย่างน้อยเขาก็ได้บอกลู่หานเสียทีว่าเขารักลู่หานมาก...
“ ยะ..อย่าร้องนะ “ ลู่หานผละหน้าออกแล้วลูบแก้มมินซอกอย่างแผ่วเบา เขาไม่เคยปล่อยให้มินซอกต้องมีเลือดออกและได้รับบาดเจ็บขนาดนี้มาก่อน ทำไมเขาถึงเลวขนาดที่ทำร้ายหัวใจของตัวเองได้ลงคอ
“ มินซอกข้ารักเจ้านะ “ มินซอกยิ้มพร้อมกับหยดน้ำตา ตัวเล็กกระตุกเกร็งเหมือนกันกับคยองซูไม่มีผิด เป็นครั้งแรกที่ลู่หานรู้สึกกลัว กลัวว่าเขาจะไม่ได้กอดมินซอกอีกต่อไป
“ มินซอก!! “
“ ............ “
“ มินซอก... “ อยากหยุดลมหายใจตัวเองไปพร้อมกับคนที่รัก ใช่เขารักมินซอกมาตั้งแต่แรกเห็น ....
ลู่หานกอดร่างของมินซอกเอาไว้แน่น มือมินซอกร่วงหลนลงกับพื้นตามแรงโน้มถ่วงอย่างช้าๆ
“ มินซอก “ แบคฮยอนทิ้งของมีคมในมือลงกับพื้นด้วยความตกใจ เขากุมหัวใจตัวเองเอาไว้แน่นแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พวกภูติซึ่งเล็งเห็นแล้วว่าพิธีที่พวกมันรอคอยกำลังล่มไม่เป็นท่า เสียงโห่ร้องไม่พอใจดังขึ้นรอบบริเวณแต่ลู่หานก็ยังกอดมินซอกเอาไว้อย่างเดิม
“ มินซอก เห็นดอกไม้นั่นไหม อยากได้รึเปล่า “
“ อยากได้สิ แต่เก็บมันไว้แบบนั้นแหละดีแล้ว “
“ มันสวยเหมือนกันกับเจ้าเลยนะ “
“ ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก “
ภาพเมื่อวันที่เขาพามินซอกออกมาเที่ยวในป่าไหลย้อนกลับคืนมาในความทรงจำอย่างห้ามไม่ได้ ลู่หานดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของมินซอกเพราะมินซอกไม่ได้ยิ้มให้เขาเห็นบ่อยๆ ถึงรอยยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มสุดท้ายแล้วก็ตาม...
ไฟร้อนลุกขึ้นท่วมตัวของลู่หานจนสว่างไปทั่วบริเวณ เหล่าทาสทั้งหลายร้องตื่นตกใจแล้วแตกกระเจิงหนีกันไปคนละทิศละทาง เมื่อเห็นว่าหัวหนาของพวกมันได้ถูกไฟเผาจนท่วมตัว ลู่หานยังกอดมินซอกเอาไว้ทั้งที่ไฟลุกท่วมร่าง ทรมาณเหลือเกิน...
แบคฮยอนมองภาพที่ปรากฏต่อสายตาของเขาด้วยความเงียบ แล้วสิ่งหนึ่งก็ทำให้เขาละความสนใจจากลู่หานซึ่งกำลังค่อยๆถูกไฟเผาให้มอดไหม้ไปพร้อมกับมินซอก
“ คยองซู !!“ ความตายที่ลอยอบอวลทำให้แบคฮยอนรู้สึกหดหู่ ทำไมคนอย่างเขาถึงปกป้องคนที่รักไว้ไม่ได้สักคน ทั้งมินซอก ทั้งคยองซู...
“ เจ้าตื่นขึ้นมาได้ไหมคยองซู “ ร่างที่มีกริชปักอกอยู่ยังนิ่งไม่เคลื่อนไหวหรือลืมตาตื่นขึ้นมาตามคำร้องขอ แบคฮยอนเขย่าตัวคยองซูครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่ได้ผล เขาตัดสินใจดึงกริชออกจากอกของคยองซูอย่างเบามือ
“ ข้าต้องอยู่คนเดียวจริงๆด้วยหรอ “
“ ....... “
“ พี่ชาย “ แบคฮยอนสะดุ้งตัวเมื่อมือเล็กๆสะกิดที่แผ่นหลังของเขา เป็นเด็กน้อยคนนั้นที่เขาสัญญาว่าจะพาหนีไปจากที่นี่
“ เจ้า “
“ ปลุกเขาอีกครั้งสิครับ แล้วเขาจะตื่นขึ้นมา “
“ เขาตายแล้ว “
“ เขากำลังรอที่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งนะครับพี่ชาย “
“ เจ้ารู้ได้อย่างไร ? “
“ ผมรู้เพราะว่าผมรู้ ขอบคุณนะครับที่ช่วยหมู่บ้านของพวกเรา “
“ ข้าไม่ได้เป็นคนช่วยหรอก คนที่ช่วยเขาสละชีวิตตัวเองไปแล้ว “
“ ยังไงซะก็ขอบคุณนะครับ ถ้าพี่ชายปลุกเขาอีกครั้ง คุณคนนี้เขาจะตื่นขึ้นมาจริงๆนะ” เด็กน้อยยิ้มแล้วจ่างนั้นร่างเล็กจิ๋วก็แตกตัวออกเป็นละอองสีเหลืองแล้วค่อยๆจางหายไปกับอากาศ แบคฮยอนตกใจกับสิ่งที่เห็น ย้อนไปเมื่อวันนั้นเด็กที่อดข้าวอดน้ำมาหลายวันติดกันหากจะมีชีวิตรอดได้จนถึงวันนี้ก็ดูจะเหนือธรรมชาติไปหน่อยสินะ
“ คยองซู ได้โปรดตื่นขึ้นมาเถอะนะข้ารอเจ้าอยู่ “ คยองซูยังนิ่ง.. นั่นทำให้แบคฮยอนตาแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ บางทีเขาอาจจะถูกผีเด็กหลอก
อึกก.. !!!!
แบคฮยอนตกใจจนพงะหงายหลังตกลงจากแท่น แสงสีแดงเรืองๆฉายสว่างออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของคยองซู เจ้าของร่างกายที่อาบไปดวยเลือดค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วสูดหายใจเข้าออกรุนแรงเหมือนกับพยายามกอบโกยหาอากาศหายใจ
“ คยองซู เจ้า เจ้า!! “
“ แบคฮยอนนั่นเจ้าหรอ “ ใบหน้านั่กชักสีหน้าสงสัยเมื่อมองไปที่ร่างของใครสักคนก็เห็นเป็นเพียงภาพรางๆ
“ ใช่ ข้าเองแบคฮยอน “
“ เจ้าปลอดภัยดีใช่ไหม “ แบคฮยอนสงสัยในคำพูดของคยองซู คนตัวเล็กไม่เคยแทนตัวเองแบบนี้แต่แล้วแบคฮยอนก็เข้าใจใอสบเข้ากับดวงตาที่แดงและมีแสงวาบออกมา
“ คยองซูเจ้าเป็นใคร “
“ ข้าเป็นแวมไพร์ เจ้าไม่รู้จักข้ารึไง? “
“ หึ... นี่ลู่หานคงทำสำเร็จอีกแล้วสินะ “
“ ทำ..ทำอะไร พี่ลู่หานทำอะไร !! “
“ ลู่หานพี่ของเจ้านะ ปลุกเจ้าให้กลับมาเป็นน้องของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว “
“ ............... “ แบคฮยอนลุกขึ้นยืนเขายิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปกอดคยองซูเอาไว้แน่น
“ พี่ชายของเจ้าบางทีเขาก็ไม่ได้เลวเสมอไป “
“ ที่นี่ห้องของใครหรอครับ “
“ ห้องของเจ้า ห้องที่พี่ให้คนมาคอยทำความสะอาดเพื่อรอเจ้ากลับมาใช้มันมาโดยตลอด “
-THE END-
ใครบ่นว่าจบค้างขอให้โดนผีเด็กหลอกแบบพี่แบค
ไม่ปล่อยให้แบคโด้ค้างหรอกคะ (-,.-') เห็นทีว่า15ตอนคงไม่พอสำหรับความรัก ฮิ้วว
หืดขึ้นคอเลยนะกว่าจะได้พาร์ทนี้มา สองอาทิตย์แตะฟิควันละบรรทัด แอร้
เปิดฟิคใหม่เพราะว่าแต่งได้ไกลแล้วก็เลยลงให้อ่านเล่นๆนะคะ
สำหรับคนที่หลบซ่อนตัวมานานแล้วนี่ก็พาร์ทจบแล้วคอมเม้นต์แสดงตัวหน่อยนะเราไม่ว่าหรอก แค่จะขอบคุณ... :D
คนอ่านคะขอบคุณที่ทนรอเรามาได้ตั้งนานนะคะ กราบรอบทิศเลยจริงๆ ดีใจมากที่มีคนรอ(?)
ขอบคุณจริงๆคะ ขอบคุณมาก
PS. จบหักมุมบนยอดดอยมากคะ ฮะฮะ TT แต่เราเขียนแล้วน้ำตาคลอด้วยความสงสารพี่ลู่หาน
เรื่องนี้มัน ลู่หมิน ft. แบคโด้นะคะ 55555555555555555555555555555555
พระเอกเรานี่ขี่ม้าขาวมาตอนเขาตายกันไปหมดแล้ว *ตบรัว* แกไม่รอให้พี่หมินไปเกิดก่อนละแล้วค่อยมาช่วย
โถ่วว พี่แบคของน้องงง พ่อพระเอกยอดยาหยี <3 <3 อย่าลืมไปตามอ่าน XTAR นะคะ อยากให้อ่านนะ อิ__อิ
ความคิดเห็น