ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Little Lord Of Nan-Elmoth~ ( ลอร์ดน้อยแห่งพนานันเอลม็อธ )

    ลำดับตอนที่ #70 : To The Hidden – City : Part 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 62
      0
      23 ส.ค. 56


    นันเอลม็อธ...กำลังห่างจากตัวข้าและท่านแม่ไปแล้ว...

     

    เงามืดที่เขาเกิดมาและเติบโตมาจนเข้าสู่วัยหนุ่ม กำลังเล็กลงเรื่อยๆ

     

    แล้วแสงสว่างจากแสงตะวันก็มาสาดส่องเขา

     

    เขาเป็นอิสระแล้ว อิสระจากท่านพ่อ อิสระจากโดรอน และอนธกาลที่ครอบงำชีวิต...

     

    แล้วนั้น ! นานาอาเรเดล อาร์เฟย์นีเอล กำลังหัวเราะเสียงกังวานใส นางแทบไม่เคยหัวเราะ

     

    แบบนี้เลย ท่านแม่ ข้าดีใจที่ทำให้ท่านมีความสุข ท่านคือยอดดวงใจของข้า...

     

    ฮ่าๆ แม่กำลังจะได้กลับบ้านแล้ว มายกลิน ลูกรัก ”

     

    เขาก็หัวเราะเสียงใส “ นานา ความฝันของลูกก็ด้วย ความฝันที่จะได้ไปอยู่กอนโดลิน

     

    ไชโย ! ไชโย ! นานา ข้ารักท่านที่สุดเล้ยยยย ~!! ”

     

    อาเรเดลได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเรียวคมของโอรสแล้ว นางก็รู้สึกว่า นางน่าจะพาเขา

     

    ออกมาได้ตั้งนานแล้ว...หลังจากนั้น ทั้งสองก็ไม่ได้เห็นทิวยอดไม้ของนันเอลม็อธอีก !...

     

    ขอให้ลูกใช้ สายตาเฉียบคม ให้เป็นประโยชน์แล้วกันจ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อน...”

     

    อะไรเหรอ ? ”

     

    แม่ควรจะพาสองม้าของเราไปพักผ่อนเสียก่อน เราต้องเดินทางอีกไกลนะ

     

    เราจะไปพบเคเลกอร์มและคูรูฟิน คนดีของแม่ ”

     

    มายกลินก็ตอบรับ แล้วมือเรียวก็ปัดแสงสีทองแสนอบอุ่นยามต้องเข้านัยน์ตาของเขา

     

    ไปหาพวกเขากัน นานา...”

     

    ~*~*~*~*~

     

    ยามแสงดาวสะท้อนพิ้นแผ่นดินฮิมลัด สองแม่ลูกได้มาถึงเรือนประทับของบุตรแห่งเฟอานอร์

     

    อาเรเดลก็ลั่นเสียงกระดิ่งหน้าประตู จนผู้รับใช้คนหนึ่งมาต้อนรับ

     

    ห๊าาาา ?...ท่าน...ท่าน...เจ้าหญิงอิริสเซ...”

     

    จำข้าไม่ได้เหรอ ข้าเคยพักที่นี้ ตอนที่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี้...”

     

    มายกลินก็รู้สึกประหลาดใจ ...นานาเคยอยู่ที่นี้เหรอ ?...

     

    คนรับใช้ผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในเรือนไม้ใหญ่ก่อน

     

    ท่านหญิงขาวก็หัวเราะร่า เมื่อเห็นว่าพรายหนุ่มกำลังจะไปหลบหลังเสาด้วยความตื่นเต้น

     

    ที่จะได้พบญาติของท่านแม่เป็นครั้งแรก

     

    ไม่ต้องกลัวไปลูกรัก พี่เคเลกอร์มกับคูรูฟิน เขาไม่ใช่พวกผีร้ายหรือออร์คซะหน่อย

     

    แม่ต้องให้พวกเขาได้เห็นว่าแม่เลี้ยงเจ้าดีแค่ไหน ?...”

     

    สุรเสียงเข้มดังก้องเป็นภาษาเควนยา ซึ่งเป็นเสียงของบุรุษดังขึ้น

     

    นั้นเจ้าใช่ไหม ? อิริสเซ ”

     

    พรายหนุ่มร่างสูงสง่าในชุดล่าสัตว์ เรือนผมสุกสว่าง เกล้าขึ้นเหนือศีรษะ

     

    แขนเรียวแกร่งคู่นั้นกอดอก เขากำลังใช้สายตาเพ่งพิศร่างระหงตรงหน้า

     

    พี่เทลโค เคเลกอร์ม ข้าดีใจจริงๆ ที่ข้าได้เจอท่าน ”

     

    แล้วมายกลินก็ได้เห็นว่าพรายผู้นั้นงามสง่าเหลือเกิน ผมเป็นสีทอง แต่มันก็ไม่ได้ฉายให้สะดุดตานัก

     

    ...คนนี้นะเหรอ...คือรักแรกของนานา...

     

    เจ้ามาแล้วเหรอ อิริสเซ เจ้าหนีออกมาจากกอนโดลินหรือไง ? ”

     

    พรายหนุ่มอีกคน มีผมสีดำเกล้าสูงเหมือนเคเลกอร์ม ใบหน้าของเขางามหมดจด

     

    แน่นิ่งราวกับว่าสลักมาจากศิลา แล้วเสียงหัวเราะใสก็ตามมา

     

    อตาร์ อาหญิงอิริสเซกลับมาได้ซะที ข้าไม่ได้เห็นนางตั้งหลายปี ”

     

    เจ้าอยู่แต่กับบ้านนี่นา เทลเปเอ๊ยยย ”

     

    พรายหนุ่มที่คล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อกล่าวเสริม

     

    ดวงตาคู่นั้นฉายแสงสว่างที่โดดเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ...พวกโนลดอร์สง่างามจริงๆ...

     

    ข้ากำลังจะกลับบ้านแล้ว ญาติๆ ที่รัก ”

     

    แล้วพรายหนุ่มผมสีทองก็ทักขึ้น ดวงตาสีเทาหวาดหวั่น “ อิริสเซ...เด็กคนนี้ใคร ?..”

     

    มายกลินรู้ตัวดีว่าหมายถึงตัวเขาเอง แต่เขาก็ยังหลบมุมกับเสา

     

    ท่านหญิงขาวก็รั้งมือบางของเขาให้มาตรงหน้า

     

    ไม่ต้องอายไปลูกรัก กล้าๆ หน่อย ”

     

     

    หนุ่มน้อยรู้สึกว่าถ้าตัวเองเป็นตุ่นเหมือนโนลปาก็ดี จะได้มุดลงดินหนีไป....

     

    พรายโนลดอร์ทั้งสามก็อดตะลึงไม่ได้ อาเรเดลกำลังโอบไหล่ของเด็กหนุ่ม

     

    ร่างสูงเพรียว ดูบอบบางเมื่อเทียบกับส่วนสูง แต่ก็มีกล้ามเนื้อขึ้นบนเรียวไหล่บ้างแล้ว

     

    แถมยังมีเรือนผมสีดำที่เหมือนกับนาง ไม่ซิ รูปโฉมก็ถอดแบบมาจากอาเรเดลซะด้วย !

     

    หนุ่มๆ เฟอานอเรียน นี่คือ ลูกชายของข้าเอง คูรูฟิน ข้าไม่น้อยหน้าเจ้าแล้ว...”

     

    ลอร์ดคูรูฟินก็พยักหน้ารับ ขณะที่บุตรชายก็ทำหน้าค้าง

     

    ฝ่ายลอร์ดหนุ่มผมสีทองก็ถามย้ำ “ เขาเป็นลูกใคร ? ”

     

    ลูกของข้าเอง ก็บอกแล้วไง เลิกเซ้าซี้น่า พี่เทลโค ”

     

    เคเลกอร์มเม้มริมฝีปากไว้แน่น และหนุ่มน้อยก็สังเกตว่าดวงตาสีเทาเข้มจับจ้องเขา

     

    ตั้งแต่ศีรษะจรดรองเท้าบู๊ต เขาไม่ชอบแบบนี้เลยให้ตายซิ !

     

    ข้าให้พักแค่คืนเดียวเท่านั้น พักผ่อนที่ห้องรับรอง ”

     

    อาเรเดลก็ตวาดลั่น “ ท่านพี่เทลโค ! ข้าไม่ได้เจอท่านตั้งนาน ท่านกล้าพูดแบบนี้กับข้าเหรอ ”

     

    เจ้าก็ควรรีบกลับไปหาพี่ชายเจ้า ก่อนที่พ่อของเด็กคนนี้จะมาแล้วกันเถอะ ยัยหนูขาว ! ”

     

     

    ~*~*~*~*~*~

     

    มายกลินกำลังนอนบนพิ้นเรียบที่ปูด้วยฟูกสีนวล ซึ่งพรายหนุ่มผู้แสนใจดีที่มีนามว่า

     

    เทลเป บุตรแห่งคูรูฟินนำมาให้ ใบหน้างามสง่าส่งรอยยิ้มแสนใจดีให้

     

    เจ้าชื่อมายกลินใช่ไหม บุตรแห่งอิริสเซ ”

     

    ใช่ครับ ท่าน...”

     

    ข้ามีนามเต็มว่า เทลเปรินควา หรือในซินดารินเรียกว่า เคเลบริมบอร์

     

    อย่าถือสาท่านพ่อและท่านลุงของข้าเลย พวกอารมณ์เสียง่าย แต่หายเร็ว...”

     

    พรายหนุ่มผมดำก็พยักหน้ารับ

     

    เจ้ากับอาหญิงควรจะออกเดินทางแต่เช้า อย่างน้อยพอตะวันขึ้น เพราะว่าช่วงนี้ฝนตกหนัก

     

    แถมเป็นพายุฤดูร้อนด้วย เชื่อข้านะ น้องชาย...”

     

    น้องชาย...เขาผู้นี้รับข้าเป็นน้องแล้วเหรอ ?...

     

    พักผ่อนไปเถอะ ลูกชายคนเดียวของอาหญิง ฮ่าๆ ”

     

    มายกลินก็ยิ้มรับให้กับคำบอกว่าฝันดีจากญาติคนใหม่ของตน

     

    ~*~*~*~*~*~

     

    ร่างสูงแกร่งในชุดล่าสัตว์ของลอร์ดเคเลกอร์มยืนพิงต้นเสาไม้ และอีกร่างหนึ่งก็อยู่ในชุด

     

    กระโปรงสีขาว ดวงหน้าของนางก็ยังคงความงดงามไม่เคยเปลี่ยนแปลง

     

    รูปร่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากการให้กำเนิดและเลี้ยงดูบุตรชาย

     

    อิริสเซ เจ้าหายไปไหน และมีเด็กคนนี้ได้อย่างไร ”

     

    ข้า...ข้าก็ไม่อยากให้มันเป็นเช่นนี้หรอก พี่เทลโค ข้าหลงทางในป่าสนธยา

     

    แล้วดาร์กเอลฟ์ผู้นั้นก็มาหาข้า...”

     

    ลอร์ดเคเลกอร์มหัวเราะเล็กน้อย “ เจ้าเลยยอมมีลูกให้เขางั้นซิ แต่เจ้าก็เลี้ยงเก่งนี่นะ

     

    เจ้าหนูเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรเป็นดาร์กเอลฟ์เลย เว้นแต่ดวงตาที่ข้าว่ามันเข้มไปซะหน่อย..”

     

    ขอบใจที่ท่านชม ” มือเรียวบางก็แตะบนเสาคู่ฝั่งตรงข้าม

     

    พรุ่งนี้ ข้าก็ต้องขับม้าต่อแล้ว ท่านจะไม่ลาน้องและหลานให้มันสมกับที่เป็นเชื้อวงศ์ฟินเว

     

    หน่อยเหรอ ? ”

     

    ลอร์ดเคเลกอร์มเดินมาเคียงข้างพรายสาว ดวงตาสีเทาอมครามเฉดสีคล้ายกันมองยังเรียวหน้า

     

    งามคมของอาเรเดล “ ทำไม เจ้าไม่รอข้า ? เจ้าไปมีลูกกับคนอื่น ใครหน้าไหนที่กล้า

     

    แตะต้องเจ้าหญิงผู้เฉอโฉม ราชธิดาแห่งองค์ฟิงโกลฟินได้ ! ”

     

    ข้ารอท่าน รอมาตลอด แต่ว่า...ข้าก็ไม่อยากเจอท่าน เพราะว่าเราเป็นลูกพี่ลูกน้อง

     

    ตามประเพณี ข้ากับท่านแต่งงานกันไม่ได้ อีกอย่าง ข้าเองอยากให้ท่านมีคนรัก

     

    สตรีทั่วเบเลริอันด์มีมากพอให้ท่านได้รักนางนะ ”

     

    ข้าเข้าใจ อิริสเซ ” เคเลกอร์มกุมเรียวมือบางไว้ “ ข้าจะบอกทางลัดให้แล้วกัน...”

     

    อาเรเดลก็ยืนนิ่ง

     

    เจ้าสองแม่ลูกเข้ายังฟอร์ดอารอส และวกไปทางทิศตะวันตกเลียบแนวของอาณาจักรโดริอัธ

     

    ข้าคิดว่า มันจะสะดวกในการเข้ากอนโดลินของพวกเจ้า...”

     

    นิ้วเรียวแกร่งของเคเลกอร์มก็เชยเรียวคางสวยของอีกฝ่าย เพื่อจะจุมพิต

     

    แต่ว่าท่านหญิงพรายก็หันหน้าหนี “ ข้า...ข้าขอบคุณท่าน พี่เทลโค...

     

    ข้าหวังว่า เราสองคนจะได้เขียนจดหมายติดต่อถึงกันอีกครั้ง เมื่อข้ากลับไปถึงกอนโดลิน ”

     

    งั้นก็ได้ ลาก่อนแล้วกัน อิริสเซเอ๊ย...”

     

    ท่านหญิงขาวได้เห็นแผ่นหลังของญาติผู้พี่ของตนหายไปยังมุมหนึ่งของทางเดิน

     

    ~*~*~*~*~*~

     

    พรายหนุ่มน้อยก็รู้สึกว่าอ้อมแขนบางมาโอบกอดไว้แนบแน่น

     

    นานาเองเหรอ ?...”

     

    ใช่จ๊ะ โลมีออนที่รัก ” นางจุมพิตกระหม่อมของบุตรชาย “ คืนนี้ แม่ขอนอนกอดเจ้านะจ๊ะ ”

     

    นานา...ท่านช่วยเล่าให้ข้าฟังได้ไหมว่า ทำไม ท่านถึงออกจากที่แห่งนี้

     

    แล้วไปอยู่นันเอลม็อธของท่านพ่อได้..ท่านน่าจะชอบที่นี้มากกว่า...”

     

    อาเรเดลถอนหายใจเบาๆ เมื่อมายกลินยังไม่หันมามองนาง

     

    มันเป็นชะตากรรมของแม่มากกว่า มายกลิน โลมีออน...”

     

    ~*~*~*~*~

     

    ตอนหน้าเป็นการย้อนความของท่านแม่รอบที่ 2 นะครับ...

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×