ning1906
ดู Blog ทั้งหมด

king668

เขียนโดย ning1906
 เนื่องเหตุเพราะเป็นการคว้าแดูป์บนแผ่นดินแม่ จับเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่สร้างความเป็นมาศาสตร์กระชากแดูป์มาครอง นับตั้งแต่มีการประลองมาเป็นปีที่ 14
 
 ที่สำคัญมันคือแชมป์แรกในรอบเกือบ 3 ปี ภายหลังจากคว้าแดูป์ "สก็อตติชโอเพ่น 2018" "โปรเม" ก็ไม่เคยได้แดูป์ "แอลพีจีเอ" อีกเลย
 
 การคว้าแดูป์ในบ้านกำเนิด จารึกชื่อเรื่องเป็นไทยคนแรกบวกกับการหวนครองแชมป์อีกที ล้วนเป็นแรงอัดให้นักกอล์ฟสาววัย 25 ได้ระเบิดความดีใจและแรงกดดันที่พังทลายออกมา
 
กล่าวภายหลังคว้าแดูป์ ที่ถือได้ว่าเหนือความคาดหวัง เนื่องเหตุเพราะ 3 วันแรก ชั้นเชิง 1 และ 2 ที่คั่วแชมป์กันมาคือสองนักหวดวงสวิงรุ่นน้อง "โปรเหมียว" หรือ แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ และ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ที่นำอยู่ 5 และ 4 อันเดอร์พาร์ ตามระดับ
 
 แต่ในวันท้ายที่สุด "โปรเหมียว-ปภังกร" ตีหลุดเอกสาร ในระหว่างที่ "โปรจีน-อาฒยา" พัตต์เกระดานี้พลาดในหลุมสุดท้าย  ส่งผลให้ "โปรเม-เอรียา" ที่ทำคะแนนในวันท้ายสุด 9 อันเดอร์พาร์ 63 สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 ปาดหน้าคว้าแดูป์ไปครอง และเป็นแดูป์ที่ 11 สำหรับในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์
 
 การพลาดเหรียญค่าตอบแทนโอลิมปิกเกมส์ 2016 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว "โปรเม" หวังเป็นอย่างมากว่าจะมีจังหวะได้แก้ตัวในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว king668 ประเทศญี่ปุ่น โดยการแข่งขันชิงชัยจะมีขึ้นในเดือนกรกฏาคมนี้ ข้างหลังเลื่อนมาจากข้อขัดข้องการแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19
 
 การคว้าสิทธิ์ไปแข่งโอลิมปิก ถ้าติด 1 ใน 15 ของโลกจะได้รับสิทธิ์นั้นแน่ๆ ปัจจุบันนี้หลังคว้าแดูป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 "โปรเม-เอรียา" ขยับมาอยู่ชั้น 14 ของโลก 
 
 และมีจังหวะลุ้นลำดับขั้นให้สูงมากขึ้นจากรายการหน้าศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ ในรายการ เพียวร์ ซิงค์ แดูเปี้ยนชิพ พรีเซนเต็ด บาย วิซิต วิลเลียมส์เบิร์ก ชิงเงินค่าตอบแทนรวม 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเช่นเดียวกับ 41.6 ล้านบาท แข่งขันที่ คิงส์มิลล์ รีสอร์ท, เวอร์จีเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะวันที่ 20-23 เดือนพฤษภาคมนี้ 

 
 ยอดนักสอยคิววัย 37 จากเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ครองแดูป์โลกสมัยที่ 4 ข้างหลังบดบี้ขยี้ "ฌอน เมอร์ฟี่" 18-15 เฟรม คาครูซิเบิ้ล เธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ขยับใกล้แดูป์ 7 ยุคอย่าง "เฮนดรี้" และ "รอนนี่" แดูป์ 6 สมัย มาติดๆ ด้วยฟอร์มและวัยยัง "มาร์ค เซลบี้" มีระหว่างและโอกาสมากพอที่จะสร้างตำช้านานบทใหม่
 
 ชัยชนะเหนือ "ฌอน เมอร์ฟี่" ในเกมที่สุดระทึกที่เรียกว่า "มวยถูกคู่" เนื่องจากว่า "เซลบี้" มุ่งเน้นเชฟและโชว์เหนียว แทงโหดเมื่อสบจังหวะตามฉายา "ฉลามหิน" แต่ "เมอร์ฟี่" คือจอมแม่นและสู้ทุกจังหวะที่สบโอกาส สองคนเป็นเพื่อนเข้าร่วมรุ่น รู้จักดีและสนิทสนามกันมาตั้งแต่ 9 ขวบ ซ้อมและชิงชัยกันมาร่วม 20 ปี เหน้าจอกันครั้งใดก็ไม่มีใครกลัวคนไหน แต่ชัยชนะส่วนมากตกเป็นของ "เซลบี้"
 
ดาวรุ่งอังกฤษระหว่างนั้น เจอยอดนักสนุกสนานเกอร์ลำดับที่ 1 ของเอเชีย ผู้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศรายการชิงแดูป์โลกมาแล้ว 2 สมัยในปี 1993 และ 1997 ย่อมสร้างความสะพรึงให้กับเด็กใหม่ โดยการแข่งขันชิงชัยใช้ระบบ 19 เฟรม ผู้ใดถึง 10 เฟรมก่อนเป็นผู้ชนะ
 
 แสดงตัวว่า "ไทยทอร์นาโด" ไล่ต้อน หนูจากเลสเตอร์นำห่างถึง 3-0 ก่อน "เซลบี้" มาปล้นในเฟรมที่ 4 เฉือนไป 59-67 แต้ม ไล่ตีตื้นมาเป็น 3-1 แต่นักสอยคิวไทยทำเบรกยาวชนะ 86-0 และ 119-1 แต้มหนีห่างถึง 5-1 และมีระทึกอยู่บ้างในเฟรมที่ 9 เมื่อแต้มจบลงด้วยผลเสมอที่ 53-53 จำเป็นจะต้องวินิจฉัยด้วยการชิงดำ และผลคือ "ต๋อง วัฒนา" ตบหายขึ้นหนีเป็น 6-3
 
 ชื่อของ ด.ญ.ณัฐรดา สกุลวงศ์ธนา ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจาก สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่าเป็นนักเทนนิสเยาวชนผู้หญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประจำปี พ.ศ.2564 ซึ่งนับเป็นการติดทีมชาติ ยุคที่ 2 ภายหลังจากติดกลุ่มชาติครั้งแรก ปี 2563 ในรุ่นอายุเดียวกันมาแล้ว และที่สำคัญน้องยังเป็นแดูป์ของการแข่งขันคัดคัดเลือกนักเทนนิสกลุ่มชาติไทยในครั้งนี้ด้วย
 
 "หนูดีใจมากและภูมิใจมากจ้ะที่ได้เป็นนักกีฬากลุ่มชาติ ดีใจที่จะได้เล่นเทนนิสให้กับประเทศไทย ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาหนูตั้งใจฝึกฝนซ้อมมาก เนื่องจากต้องการนำมาซึ่งการทำให้ได้ อยากเอาชนะความกดดันทั้งในและนอกสนาม ท้ายที่สุดหนูก็เอาชนะความกดดันนั้นมาได้จ้ะ"
 
พิณเพลง" สนิทกับพี่ชายทั้ง 2 คนมาก ครอบครัวเราถูกใจพากันไปออกกำลังกาย ขั้นตอนแรกเลย "ปั้น" เล่นเทนนิสก่อน และไปท้า พิณเพลง ว่ากล้าเล่นหรือเปล่า พิณเพลง ซึ่งตอนนั้น 6 ขวบ หยิบแร็กเกตลงเล่นอย่างไม่กลัว นั่นเป็นจุดเริ่มที่นำมาซึ่งการทำให้ พิณเพลง เล่นเทนนิสมาถึงเป็นกิจวัตรนี้
 
 คุณพ่อจตุพล เล่าเรื่องบุตรสาวให้ฟังว่า การที่พี่ชายคนโตกระทำตามเป้าหมายของตัวเองได้เป็นผล คือการติดต่อขอทุนเรียนรู้เอง จนได้ไปศึกษาเล่าเรียนที่สหรัฐอเมริกาและเดินทางไปคนเดียวได้ เป็นแรงดลใจให้น้องทั้งสองคนอยากมีจุดมุ่งหมายบ้าง โดย พิณเพลง ตั้งเป้าไว้ที่การติดทีมชาติไทยอีกสักรอบ ด้วยเหตุฉะนี้ ก่อนการแข่งขันชิงชัยคัดกลุ่มชาติ พิณเพลง ก็เลยตั้งใจฝึกฝนซ้อมเป็นอย่างมาก จนถึงปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ได้ตอนท้าย 
 
 จนกระทั่งในปี 2014 หนุ่มจากเมืองเลสเตอร์ ก็ก้าวสู่ตำแหน่งแดูป์โลกได้เป็นผล พร้อมๆ กับการเลื่อนระดับขึ้นสู่ลีกสูงสุดของ "จิ้งหน้าจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ กลุ่มของคนไทย โดยในนัดชิงชนะเลิศ "เซลบี้" สามารถเอาชนะ "เดอะร็อกเกต" รอนนี่ โอซุลลิแวน 18-14 เฟรม ครองแดูป์โลกอย่างมากใหญ่สมเกียรติข้างหลังเพียรพยายามมา 15 ปีเต็ม 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น