ning1906
ดู Blog ทั้งหมด

betflik 191

เขียนโดย ning1906

กรณีที่ยิ่งปั่นหูแล้วยิ่งตัน โดยส่วนมากแล้ว ตอนที่เราปั่นหูเราส่วนมากจะรู้เรื่องว่าเราเอาคอตตอนบัตเข้าไปแล้วเราจะควักตัวขี้หูออกมา แม้กระนั้นบางครั้งดิ่งส่วนปลายเราไม่แสดงตัว ขณะที่พวกเราปั่นเข้าไปปุ๊บ ตรงปลายขี้หูมันอาจจะจะยิ่งเข้าไปตันในหู อาจทำให้เกิดภาวะขี้หูอุดตันได้เพิ่มขึ้นจริง

โดยส่วนใหญ่แล้ว หากช่วงเวลาที่เราอาบน้ำแล้วกำเนิดมีน้ำเข้าหูจริง ๆ ก็ไม่แนะนำให้ปั่นหูด้วยเช่นกัน บอกต่อว่าอาจจะใช้คอตตอนบัตซับดิ่งปลายรูหูและรวมทั้งเอียงนิดหนึ่ง เพื่อที่จะซับตรงรอบๆปลายรูหูให้น้ำออกเท่านั้นก็พอ แต่หากเรายิ่งปั่นเข้าไปมันมีโอกาสที่ขี้หูจะเกิดการอุดตันได้มากขึ้น แล้วหากยิ่งอุดตันแน่นการได้ยินบางครั้งอาจจะยิ่งมีอุปสรรคได้เพิ่มมากขึ้น

ขี้หูอุดตัน ส่งผลอะไร
มีผลเสียแน่นอน คือ กรณีที่ขี้หูอุดตันมาก ๆ จะมีผลให้มีภาวะการได้ยินผิดพลาด โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเสียงผิดพลาด ด้วยเหตุนั้นคนไข้อาจจะจะสัมผัสหูอื้อ หรือการได้ยินที่น้อยลงได้ภายหลังที่กำเนิดภาวะขี้หูอุดตันได้ betflik 191 ขณะที่เราปั่นหูอาจจะจะไม่ได้ทำให้เกิดแค่ขี้หูอุดตันอย่างเดียวก็ได้ อาจจะทำให้มีภาวะการถลอกหรือกำเนิดเป็นแผลของรอบๆรูหูลำดับนอก ซึ่งคงจะนำไปสู่การติดเชื้อ เกิดภาวะหูดีกรีนอกอักเสบ หรือถ้านอกจากนี้เราแคะแล้วลึกเกินไป อาทิเช่น กรณีที่เราใช้ไม้แคะหูแหลม ๆ แล้วกำเนิดพวกเราลึกเกินไป อาจจะจะไปมีการบาดเจ็บของบริเวณเยื่อแก้วหูตามมาได้ ซึ่งก็จะส่งผลเสียได้เช่นเดียวกัน

เราต้องมีให้ได้จำเป็นจะต้องแคะขี้หูไหม
การเขี่ยเอาขี้หูออก หากทำโดยผู้เชี่ยวชาญหรือหมอจะไม่ค่อยอันตราย เนื่องจากว่าว่าคุณหมอจะมีกล้องที่จะส่องชมว่าพวกเราเขี่ยถึงไหน หรือว่าโดนแก้วหูหรือยัง หรือว่าเอาออกหมดมั๊ย และเขี่ยแค่ดิ่งรอบๆตัวขี้หู ก็จะมิได้ไปโดนตัวเยื่อบุหรือผนังหู แต่ถ้าพวกเราทำเองแล้วไปเขี่ยโดนแก้วหูหรือเขี่ยโดนผนังรูหู ก็อาจจะเป็นผลให้กำเนิดภาวะการบาดเจ็บปวดของหูชั้นนอกได้

ถ้ารูหูทั่วไปดี ช่องหูทั่วไปดี ไม่ได้มีภาวะผิดธรรมดาของช่องหู อาทิเช่น มีภาวะรูหูแคบหรือว่ามีภาวะติดเชื้อของรูหูอันดับนอก หมอชี้แนะว่าไม่ควรต้องทำความสะอาดรูหูเลย เนื่องมาจากว่าหน้าตาของขี้หู เปรียบง่าย ๆ ก็คล้าย ๆ กับขี้ไคลมันหลุดลอกออกเองได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่เราขยับหน้าตา พวกเราเคี้ยวอาหาร มันหลุดลอกออกเองได้ ยกนอกจากว่าบางคนมีอุปสรรคผิดธรรมดา อย่างเช่น ไปดำน้ำ ว่ายน้ำมา แล้วมีน้ำเปรอะเปื้อนเข้าไป ทำให้กลไกการขับขี้หูเสียไป ซึ่งการพิจารณาก็คือ ชมว่าหากเกิดการได้ยินที่ไม่ถูกทั่วไป มีปวดหู มีหนองออกหู หรือมีกลิ่นที่ไม่ถูกปกติ อันนี้ควรมาพบแพทย์

สถานการณ์ปัจจุบันของโรคเนื้องอกในมดลูก
เนื้องอกในมดลูกถือได้ว่าเป็นเนื้องอกที่เจอได้จำนวนเยอะที่สุดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มีจำนวนสถิติ หากเพศหญิงวัยเจริญพันธุ์คือเริ่มมีประจำเดือน หรือถ้าอายุ 25-30 ปีมาตรวจ จะเหน้าจอเนื้องอกในมดลูกราวๆ 30-50% หากผู้หญิง 10 คนมาอัลตราซาวนด์ จะเหน้าจอ 3 คน 5 คน คือเรื่องธรรดา

ขนาดของเนื้องอกก็มีมากมายในแต่ละราย ตั้งแต่เล็ก ๆ ระดับมิลลิเมตรคือไม่ถึงเซนติเมตร ไปจนถึงเป็นสิบ ๆ เซนติเมตร พอๆกับลูกมะพร้าว หรือลูกแตงโมก็แล้วแต่สรีระของแต่ละบุคคล

จำนวนมากประมาณ 99% ไม่น่าจะใช่เนื้อมะเร็ง ก็คือเป็นเนื้องอกที่เป็นเนื้อดี จะไม่น่าใช่โรคมะเร็ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนมากพวกเราจะอัลตราซาวนด์ตรวจสอบเหน้าจอว่าเป็นเนื้องอกมดลูก แต่ว่ามันก็มีจังหวะที่จะกลายมาเป็นมะเร็ง แม้กระนั้นไม่เยอะ ประมาณสัก 1 ใน 10,000 หรือ 1 ใน 100,000

วัยที่ประสบ
ส่วนมากที่เจอคืออายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป วัยเจริญพันธุ์พอดี คือ 25-30 ปี และประมาณสัก 30-40 ปี ก็เจอเยอะ พอ 40 ปีขึ้นไป โดยแนวโน้มหลังหมดประจำเดือนหรือว่าวัยทองไปแล้ว ตัวก้อนมักจะเล็กลงเอง และโดยธรรมชาติอายุเยอะขึ้นก็จะเป็นลดลง

สาต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เกิดเนื้องอกในมดลูก
เหตุส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดเรื่องกรรมพันธุ์ มิได้เกี่ยวพันกับการติดเชื้อโรคใด ๆ และเกี่ยวกับเรื่องหลักการทำงานของฮอร์โมนเพศสตรี อย่างที่ทราบกันคือ ตัวเนื้องอกนี้นิยมจะเจอในสตรีวัยเจริญพันธุ์คือ มีประจำเดือนไปสัก 3 ปี 5 ปี 10 ปี แล้วเริ่มสำรวจเหน้าจอว่ามีเนื้องอกมดลูก จริง ๆ มันก็คือเหมือนเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกของพวกเรา เซลล์มดลูกพวกเราทั่วไปที่มีการตอบสนองต่อฮอร์โมน และรวมทั้งเจริญโตขึ้นผิดทั่วไปแปรเปลี่ยนเป็นเนื้องอก

ลำไส้อักเสบเรื้อรังจะแบ่งแยกกันเป็นหลายอย่าง คือ จะเป็นแบบติดเชื้อซึ่งก็มิได้มีเชื้อโรคมากนักที่ติดเรื้อรังได้ แต่ส่วนใหญ่ที่คนกล่าวถึงคือ แบบที่มิได้ติดเชื้อ จริง ๆ แล้วมันจะมี 2 โรคใหญ่ในกลุ่มโรคนี้ ก็จะมีโรคที่เรียกว่า Crohn’s disease และ Ulcerative Colitisก็คือลำไส้ใหญ่อักเสบ

สาต้นเหตุการเกิดยังไม่แน่ชัดแค่ไหน ส่วนใดส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรม อีกส่วนก็คือ คล้าย ๆ ภูมิต้านทานในร่างกายผิดธรรมดา คงจะรุนแรงเกินไปแล้วไปทำร้ายตัวของเราเองมากไปด้วย และจะมีส่วนของเรื่องแบคทีเรียในลำไส้

พวกเราพบว่าทางตะวันตกจะมีอัตราการกำเนิดของโรคนี้มากกว่าทางพระอาทิตย์ออกนะขอรับ แม้กระนั้นด้วยความเคลื่อนไหวเรื่องอาหารการกิน เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยหรือของคนเอเชีย โรคนี้เจอได้เพิ่มมากขึ้น ตัวโรคเองจะทำให้เป็นแผลในลำไส้ เป็น ๆ หาย ๆ บางคราวก็ดียิ่งขึ้น บางครั้งก็ห่วยลง

การรักษาแบบตรวจตรากันเองว่าเป็นโรคอะไร จะทำให้มีผลกระทบยังไง
แง่มุมคือมันใช่โรคนี้หรือไม่ อาการอาจจะจะคล้ายกับโรคอื่นได้ อาจจะกลายเป็นมะเร็งลำไส้ก็ได้เช่นกัน หรือว่าเป็นการติดเชื้อในลำไส้ก็ได้ ด้วยเหตุดังกล่าวการมาหาหมอ หมอก็จะสามารถช่วยตรวจตราส่องกล้องชมว่าตกลงมันใช่หรือไม่ใช่ใช่ พอทราบว่าเป็นโรค inflammatory bowel disease หรือ IBD เราก็จะได้คิดแผนยาได้ถูก หากไปทานอย่างอื่น แผลในลำไส้บางทีก็อาจจะเพิ่มมากขึ้น ใหญ่ขึ้น หรืออาจจะจะทะลุก็ได้เหมือนกัน โดยเหตุนี้ ยิ่งมาช้าก็จะยิ่งรักษายาก อาจจะจึงต้องควรใช้การรักษาที่รุนแรงขึ้น ตัวอย่างเช่น ผ่าตัด ตัดส่วนที่อักเสบหรือเป็นแผลออก

ยาต้มช่วยรักษาได้จริงหรือเปล่า
ยาหลายแบบพวกเรามีการทดทดสอบมาแล้ว เปรียบเทียบกับการไม่ใช้ยาหรือใช้ยาแบบยาหลอด ก็เผชิญว่า ยาที่แพทย์ใช้ปัจจุบันนี้ได้ประโยชน์ แต่มันก็จะมียาหลายๆอันที่พวกเราเคยทดพยายามมาแล้วที่ไม่ได้ผล

สำหรับในการรักษาพวกเราจะใช้ยาภายหลังที่มีการค้นคว้า ยาที่ไม่มีการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัย คนใดก็อ้างอิงก็ได้เช่นกัน แต่โดยมากจะไม่เป็นผล อาจจะส่งผลให้ห่วยลงก็ได้เช่นกัน หรืออาจจะทำให้ตับห่วยลงก็ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ส่วนบุคคลก็โดยส่วนมากจะบอกต่อว่าอย่าไปใช้เลย มาหาแพทย์ได้เปรียบกว่า เพราะเหตุว่าว่าเราจะได้ใช้ยาที่ถูกต้อง แล้วประเมินว่าเป็นผลดีมั๊ย บางอันสำหรับบางคนก็ไม่เป็นผล ก็จำเป็นต้องไปแปลงตัวยา เพราะเหตุว่ามียาหลายประเภทที่รักษาโรคนี้

เพราะเหตุไรจำเป็นต้องรักษาให้แม่นยำ
ทั้งคู่โรคนี้ Crohn’s disease กับ Ulcerative Colitis (UC) ลำไส้ใหญ่อักเสบ ทั้งสองทำให้ลำไส้เป็นแผลได้ คงจะมีการเลือดออก หรือท้องเสีย หรือถ่ายเป็นเลือดได้ หากเป็นเยอะ ๆ จะมีข้อขัดแย้ง จะท้องเสียหลายครั้ง เลือดออกด้วย แล้วหากไม่รักษาเลย แล้วเป็นมาก บางทีอาจลำไส้ทะลุได้ บางครั้งอาจจะจะชมดซึมอาหารไม่ได้ น้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ ดังนี้ก็เลยจำเป็นจะต้องรักษา ไม่เช่นนั้นอาจจะจะเสี่ยงต่อชีวิตได้

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น