ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infinity online (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #86 : ตอนที่ 5 การเดินทาง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.29K
      41
      16 ก.ย. 59




    ตอนที่ 5  การเดินทาง

                    เมื่อทุกคนมารวมกันที่จัตุรัสหน้าองค์กรแล้ว พี่กวินก็แนะนำถึงเป้าหมายของเราในช่วงนี้ นั่นก็คือ การพาฉันกับพี่ออฟไปเก็บระดับ ซึ่งเราทั้งสองเป็นเด็กใหม่ทั้งคู่ ทั้งๆที่พี่ออฟอยู่ตั้งปี 3 อ่ะ  แล้วทำไมถึงเป็นผู้เล่นใหม่ไปได้ ซึ่งพี่เขาก็บอกว่า พี่เขาพึ่งเคยเล่น 55

                    เป้าหมายของพวกเราก็คือการเก็บพลังแฝง และการพัฒนาร่างโคลน ซึ่งจะต้องเดินทางไปยังดันเจี้ยนที่แห่งนึ่ง และทำการออกเกมที่โรงแรมแถวๆนั้นซึ่งจะมีเครื่องสำหรับรักษาร่างกายให้ออกเกมอยู่

                    พี่กวินกำผลึกสีฟ้าอันหนึ่งแล้วบอกให้ทุกคนจับไว้ จากนั้นก็วูบ รู้สึกเวียนหัว พอรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่กลางป่าทึบแห่งหนึ่ง

                    “ที่นี่เป็นสถานที่ๆพี่บันทึกจุดวาร์ปไว้น่ะ อยู่ไกลจากเมืองเริ่มต้นพอสมควรเลยนะ”   พี่เขาพูดแล้วอธิบายคลายสงสัย แล้วเราก็เดินทางกัน

                    การเดินทางของพวกเราเป็นไปอย่างราบรื่นจนถึงจุดหนึ่ง ฉันกระชับธนูที่เลือกมาไว้แน่น พี่มุกเดินมาตบบ่าฉันเบาๆ

                    “แรกๆก็ประหม่าแบบนี้แหละยัยแสตมป์”  

                    “ค่ะพี่มุก แตมป์จะพยายาม” ฉันพูดแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ

     

                    “มอนหมาป่าตัวแรก ให้ออฟกับน้องแสตมป์ลองจัดการดูก่อน”  พี่กวินพูด

                    “พี่เห็นด้วยนะ อีกอย่างมันก็ไม่ได้เป็นมอนที่แข็งแกร่งอะไร”  พี่มิกะพูดแล้วยิ้มเปล่งประกาย

                    “แล้วแต่เลยครับ” พี่ออฟพูดนิ่งๆไร้อารมณ์

     

                    การสังเกตว่าเป็นหมาป่าของจริง เป็นมอนสเตอร์บุกรุก หรือสัตวอสูร ให้ดูที่สีกับอัญมณี หรือรอยสักที่ติดตามตัวของพวกนั้น  ถ้าเป็นสัตว์โดยโลกนี้จัดการไปก็ไม่ได้พลังแฝงอะไร แต่ถ้าเป็นมอน หรืออสูรลูกแก้วกลางอกก็จะดูดพลังที่แตกกระจายออกมา ชิ้นส่วนของมันจะไม่หายไป ต้องแล่เอาเอง บางทีอาจเจอผลึกฝังอยู่ในตัวมันก็ได้ หรืออาจเจอแร่ล้ำค่า ชิ้นส่วนของพวกมอนและอสูรสามารถนำไปทำเป็นอาวุธ ยา หรืออื่นๆได้

                    ฉันกระชับธนูไว้แน่น แล้วตรวจสอบสถานะตัวเองที่บันทึกไว้ในการ์ด แม้ว่าจะจัดการแล้วมันไม่เพิ่มให้เห็นก็เถอะ ต้องเอาไปอัพก่อน

                    ชื่อ แสตมป์   เลเวล 0

                    ความคล่อง  72     พละกำลัง  65

                    พลังแฝง 250 หน่วย  

     

                    มันบอกแค่นี้แหละค่ะ

                    ฉันกระชับธนู แล้วง้างโดยเป้าที่เล็งคือป่าหมาที่กำลังกินซากสัตว์อย่างหิวโหยโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง พลังแฝงเริมซึมซับเข้าสู่คันธนูและลูกศร ฉันปล่อยลูกธนูทันที แต่อนิจจังฉันยิงพลาดไปโดนต้นไม้ข้างๆ มอนสเตอร์หมาป่าสะดุ้ง แล้วกระโจนมาทางฉันอย่างเร็ว พีกวินใช้หอกตัวเองเสียบทะลุตัวหมาป่าทันที มันดิ้นพรวดๆด้วยความเจ็บปวด พี่เขาดึงหอกกลับแล้วแทงซ้ำไปยังหัวของมันจนสิ้นใจไปในที่สุด ก็พุ่งเข้าไปในอกของพี่กวิน

                    “ควบคุมความประหม่าได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้วสำหรับครั้งแรก ครั้งต่อๆไปก็จะเริ่มชินเองแหละน้องแสตมป์”   พี่มิกะกล่าวปลอบ แต่เสียงคนหนึ่งก็แทรกมา

                    “ยังใช้ไม่ได้นะครับ แสตมป์ใช้แรงในการง้างศรฟุ่มเฟือยเกินไป เล็งศรก็ผิด ท่าร่างก็ไม่ได้สมดุลกันเลยทั้งๆที่น่าจะชำนาญด้านการเล็งและยิงแท้ๆ ทำไมไม่เอาที่เรียนในโลกจริงมาใช้ล่ะครับ หรือว่าเจอแรงกดดันนิดหน่อยก็ลืม”  พี่ออฟพูด แทนที่จะให้กำลังใจกลับพูดมาตรงๆ จนฉันแทบรับไม่ได้ ทั้งที่มันเป็นความจริงแท้นะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน  อีกอย่างไอ้ที่ฉันเรียนมันเป็นกีฬานะคะ แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าฉันเรียนมาห๊ะ

                    “เหรอคะ แล้วพี่ล่ะคะ หนูก็ไม่เห็นพี่ทำอะไรเลยนี่คะ ได้แต่ดูเฉยๆ”  ฉันอดไม่ได้ ถึงแม้ว่าที่พี่เขาพูดจะเป็นความจริงก็เถอะ จึงเบี่ยงประเด็นทันที

                    “ก็คงงั้นแหละครับ”  พี่ออฟยักไหล่ด้วยท่าทีกวนๆทำเอาฉันควบคุมอารมณ์แทบไม่อยู่

                    ส่วนพี่มุก พี่กวิน และพี่มิกะก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ในท่าทีนิ่งๆแต่พูดตรงของเขา

                    พี่ออฟหยิบมีดสั้นออกมาแล้วจัดการแล่เนื้อมอนหมาป่าอย่างรวดเร็วและประณีต แยกผลึกที่ติดอยู่หน้าผาก หนัง เนื้อ และเขี้ยว จากนั้นก็นำใบไม้มาห่อแล้วยื่นให้ฉัน

                    “เก็บไว้ที่น้องเลย เผื่อเอาไปขายได้หลายตังค์”  พี่เขาพูดกวนๆแล้วเก็บมีดไว้ข้างเอว เดินสะพายกระเป๋ากับดาบยาวเล่มหนึ่งนำหน้าไปพวกฉันก็เดินตามไปเรื่อยๆ แต่ว่าจู่ๆกลับมีไอสีดำรวมตัวกันเป็นวงกลมแล้วดูดฉันนกับพี่ออฟเข้าไปในนั้น มาโผล่อีกที่หนึ่งทำเอาฉันตกใจแทบสลบ

                    “กะ เกิดอะไรขึ้นคะ”  ฉันพูดออกไป โดยกวาดสายตาสำรวจไปด้วยว่ามาอยู่ที่ไหน ซึ่งที่นี่เป็นเหมือนห้องสลัวๆ ที่มีแสงเล็ดลอดจากด้านบนเล็กน้อย

                    “ปรากฏการณ์หลุมมิติน่ะน้องแสตมป์ เกิดขึ้นไม่ค่อยบ่อยนัก มันจะพาเราไปสู่อีกสถานที่หนึ่ง อาจเป็นดันเจี้ยนหรือสถานที่ต่างๆ ส่วนใหญ่เมื่อเจอเหตุการณ์นี้จะไม่รอดกลับไป”   พี่เขาพูดซะหมดกำลังใจ(แล้วไอ้ออฟมันเอาข้อมูลมาจากไหนฟร๊ะ)

                    “ทะ ทำไมล่ะคะ”  ฉันพูดอย่างเร็วด้วยเสียงสั่นๆ

                    “เพราะพวกเขากลับไปไม่ได้ อีกอย่างพวกนั้นเจอกับสัตว์อสูรที่โหด และแข็งแกร่งเกินกว่าจะต่อสู้ได้นะสิ”   พี่ออฟพูดหน้าตาย(มึงรู้ได้ยังงายไอ้ออฟ เอ็งพึ่งเข้ามานะเฟ้ย)

                    “อย่ามัวแต่สั่นสิครับ ไปกันต่อเถอะ เผื่อจะเจออะไรดีๆ”   ท่าทางนิ่งๆไม่สะทกสะท้านอะไรของพี่ออฟทำเอาฉันอยากกระโดดถีบ นี่มันเหตุการณ์คับขันนะ ถึงขนาดกลับไม่ได้เลยนะพี่

                    พี่ออฟเดินนำหน้าด้วยท่าทีเฉยๆ สุดท้ายก็จำใจเดินตาม เดินไปเรื่อยๆก็เริ่มเห็นแสงสว่างจ้า แต่เป็นแสงสว่างสีน้ำเงิน

                    ฮูม!!! 

                    เสียงคำรามดังสนั่น พร้อมกับเสียงฝีเท้าวิ่งมาทางพวกเรา ไม่ใช่สิ เสียงฝีเท้ามันวิ่งมาทุกทิศทางต่างหาก

                    โฮก   โฮก  โฮกๆๆๆ

                    เสียงคำรามดังระงมของสัตว์บางชนิดวิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ  พอเข้ามาอยู่ในระดับโฟกัสของสายตาก็เล่นเอาเข่าอ่อนทันที

                    สิ่งที่เห็นมันคือ เสือตัวสีดำ มีเขาตรงหน้าผากซึ่งเขาเป็นสีดำ โค้งงอดูน่ากลัว แรงกดดันอะไรกันเนี่ย ทำไมร่างกายถึงขยับไมได้ นี่อาจจะเป็นการตายครั้งแรกของฉันสินะ

                    “25 ตัว  เสือพวกนี้มี 25 ตัว น่าจะเป็นอสูรระดับสูงพอสมควร ถ้าเทียบความแข็งแกร่งระหว่างหมาป่ากับพวกนี้ละก็ เทียบไม่ติดฝุ่นเลยล่ะ”  เสียงพูดของพี่ออฟที่ไม่สะทกสะท้านอะไรเลยดังขึ้น

                    “นี่เรากำลังจะตายกันนะพี่ อย่ามัวแต่เล่นได้มั๊ย”  ฉันตะคอกใส่พี่เขา จะไม่ให้โมโหได้ยังไงคะ ก็ชุดเราแต่ละอย่างเป็นชุดเริ่มต้นทั้งนั้น แล้วจะเอาอะไรไปสู้

                    “สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย เลือกเอาเองนะครับ”   พี่เขาพูดนิ่งๆ แต่มันทำให้ฉันคิดได้นิดหน่อย ไหนๆก็จะตายละขอสู้ดีกว่าค่ะ  ถึงแม้ว่าฉันจะกลัวก็เถอะ แต่จะให้อยู่เฉยๆรอความตายมันก็กระไรอยู่ ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วฮึดสู้ ง้างธนูยังไปยังเสือดำตัวหนึ่ง ปรากฏว่าธนูมันสะท้อนออก ไม่ระคายผิวหนังสักนิด

                    พี่ออฟดึงดาบยาวออกมา แล้วพุ่งไปฟันตัวตัวหนึ่ง

                    เคร้ง!! 

                    เสียงดาบแตกกระจายสำหรับการฟันครั้งนี้ แต่เสือดำตัวที่โดนฟันก็หยุดการวิ่งแล้วถอยไปตั้งหลัก ตัวอื่นๆก็ทำเช่นเดียวกัน

                    “เกิดอะไรขึ้นพี่ออฟ”  ฉันตะโกนถามแล้ววิ่งไปอยู่ด้านหลังพี่เขา ฮะๆแบบว่าฉันกลัวน่ะ

                    “พวกมันถอยไปตั้งหลักน่ะ  ให้ตายสิหนังมันแข็งเป็นบ้าเลย ขนาดดาบอย่างดียังถูกแรงดีดสะท้อนกลับจนแตกสลาย”   คำพูดของพี่เขาทำให้ฉันหมดกำลังใจ ไม่อยากสู้ต่อ  พอดูใบดาบก็แตกกระจายแล้วขาถึงกับสั่น บ้าจริง นี่มันดาบเหล็กกล้านะคะ ทำไมถึงแตกเป็นเสี่ยงๆได้

    “อย่าพึ่งท้อสิครับ ใช่ว่าเราจะทำอะไรมันไม่ได้”  พี่ออฟกล่าวยิ้มๆ

    “ขนาดดาบยังแตกเนี่ยนะพี่ แล้วจะเอาอะไรไปชนะ”  ฉันเริ่มกลัวแล้ว แต่พี่เขาก็ยังนิ่ง แรงกดดันของเสือพวกนี้มันไม่ใช่ของเล่านนะพี่

    “ สงสัยคงต้องหาจุดอ่อนของมันแล้วล่ะ”  พี่เขาพูด แล้วยักไหล่เบาๆ

    “ยังไงเหรอค่ะ แล้วจุดอ่อนมันอยู่ตรงไหน”  ฉันเริ่มมีกำลังใจขึ้นมา

    “ต้องหาเอาครับ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”  เราสนทนากันไม่ทันจบ เสือดำตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามา

              ฉันยิงลูกธนูไปยังลำตัวของมัน แต่ก็ไร้ผล  พี่ออฟก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ฉันจะปล่อยพี่เขาให้โดนขย้ำก็เห็นจะไม่ได้ เพราะท่าทางของพี่เขามันนิ่งเกินไป อาจจะกลัวเสือพวกนี้ก็ได้

    'คิดสิคิด  ยัยแสตมป์คิด จุดอ่อนของมันอยู่ตรงไหน พี่บ้าก็ไม่ขยับไปไหนไม่เห็นหรือไงว่าเสือมันพุ่งเข้ามา ตาเอาไปไว้ที่ไหนละห๊ะ'

    'อ๊ะ  ตา  ใช่แล้ว ดวงตาน่าจะเป็นจุดอ่อนของมัน'

    ไม่รอช้าฉันง้างศรแล้วเล็งไปที่ตาข้างซ้ายของมันทันที

                    ฉึก

                    โฮก!!!!!!

    ได้ผล ลูกศรปักเข้าตาของมัน มันล้มคะมำกับพื้นแล้วพุ่งสะเปะสะปะ ส่วนตัวอื่นๆก็คุมเชิงอยู่ห่างๆไม่ขยับมา

    ฉันวิ่งซิกแซกซ้ายขวา ไปมาแล้วล่อมัน จากนั้นก็ยิงไปที่ดวงตาอีกข้าง มันร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วล้มลงกับพื้นดังตึง!

    “สำเร็จแล้ว  จุดอ่อนมันอยู่ที่ดวงตาค่ะพี่ออฟ” ฉันตะโกนบอพี่บ้าด้วยความดีใจ

    ไม่ทันที่พี่เขาได้ตอบอะไรฉันก็รับรู้ถึงแรงกดดันบางอย่าง พลันฉันก็ถูกแรงอะไรสักอย่างบีบให้ตัวฉันลอยขึ้น  มันเป็นอะไรที่อึดอัด และน่ากลัวที่สุด

                    ฮูม!!!

    แสงสีน้ำเงินพุ่งมาอยู่ตรงหน้าฉัน มันไม่ใช่แสงธรรมดา แต่ข้างในมีสัตว์ประหลาดยักษ์ รูปร่างคล้ายเสือ แต่มีเขาโค้งงอเช่นกวางถึง 3 เขาแล้วแตกแขนงออกไปอีกต่างหาก

    แรงกดดันถาโถมมายังฉัน ความกลัว ความอึดอัดทำให้หายใจไม่ออก ฉันจะทำยังไงดี ฉันยังไม่อยากตายนะ ทำไงดี ฉันกลัว

    “สู้กับความกลัวสิแสตมป์ นี่เป็นโอกาสนะ ไม่เผชิญกับมันตอนนี้ ยังไงสักวันเราก็ได้เผชิญกับความกลัวเช่นนี้อยู่ดี”  เสียงพี่ออฟดังมาแว่วๆ ใช่แล้วนี่เป็นโอกาส ฉันต้องสู้ สู้กับความกลัวของตัวเอง

    ฉันพยายามจ้องดวงตาสีแดงก่ำของอสูรยักษ์ตรงหน้า พยายามต่อสู้กับความกลัวของตัวเอง

    “พิจารณาไปด้วยว่าเพราะอะไรถึงกลัว”  เสียงพี่ออฟแว่วมาอีก

    เพราะอะไรถึงกลัว เพราะอะไรล่ะ เพราะแรงกดดัน หรือเพราะจิตสังหารของสัตว์อสูรตรงหน้า หรือเป็นเพราะเรา  ใช่มันไม่ได้เป็นเพราะใคร แต่เป็นเพราะเราต่างหาก  รู้สึกถึงหัวใจว่ามันเต้นแรง ฉันค่อยๆสงบจิตใจ แล้วทำใจให้สบาย กลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตายอยู่ดี แต่ฉันว่า กล้าที่จะตายยังดีกว่าเสียอีก เพราะอย่างน้อยหากกล้าสู้ ก็ยังมีโอกาสชนะ

    ฉันจ้องตาของมัน และตอนนี้เองก็ไม่รับรู้ถึงความกลัว แต่รับรู้ถึงความโล่งใจของตัวเอง

    อสูรเสือตนนั้นไม่พอใจกับการถูกจ้องในรูปแบบนี้ มันคำรามต่อหน้า แล้วง้างเท้าพุ่งเป็นลำแสงเพื่อที่จะตะปบฉันให้สิ้นชีพ ฉันยิ้มรับความตายที่กำลังจะเกิดขึ้น

     

                    กึง!!!

    “ดีมากน้องรัก”  เสียงพี่ออฟดังชัดแจ๋ว พี่เขามาอยู่ตรงหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วอสูรตนนั้นล่ะ

    พี่ออฟยืนทำหน้านิ่งๆ มือข้างซ้ายจับอุ้งเท้าอสูรยักษ์ตนนั้นด้วยท่าทีสบายๆ

    “ใช้เวลาเร็วเหมือนกันนะกับการพัฒนาจิตใจตนเอง ไม่เสียเวลาที่หยุดอสูรพวกนี้ให้”  พี่เขาพูดหน้าตาเฉย

    โฮก!!

    อสูรยักษ์พยายามดึงเท้าตัวเองกลับ แต่ดึงกลับไม่ได้มันจึงคำรามเสียงดัง

    “เฮ้อ”  พี่เขาถอนหายใจแล้วง้างหมัดชกเข้าไปที่หัวของอสูรตนนั้น จนแสงสีน้ำเงินที่ครอบมันอยู่หายไป เกิดเสียงดังสนั่นกับการชกเพียงหมัดเดียว หัวของมันยุบไปตามน้ำหนักหมัดแล้วสิ้นใจตายทันที สมองได้รับแรงกระทบกระเทือนอย่างใหญ่หลวงจนเลือดไหลทะลักออกมาทางรอยยุบ 

    พี่เขาหยิบมีดที่เหน็บเอวออกมา แสงสีฟ้าอ่อนๆคลุมรอบใบมีด แล้วพี่เขาก็จัดการแล่แยกส่วน และข้างในตัวมันมีผลึกสีน้ำเงินเรืองแสงออกมาขนาดเท่าลูกบาสอยู่ด้วย พี่เขาก็ยัดทั้งหมดเข้ากระเป๋าทันที

                    ฉันกวาดสายตาดูรอบๆก็เห็นแต่กองเลือดที่ขังเป็นจุดๆเท่านั้น เสือสมุนตายเรียบและหายไปไหนไม่รู้เหลือแต่กองเลือด

                    แสงสีน้ำเงินออกจากตัวอสูร 3  เขาแล้วพุ่งเข้าสร้อยคอของพี่เขาไม่พุ่งเข้าหน้าอก

     

                    พี่ออฟดึงลูกแก้วที่ติดกับสร้อยคอออกมา แล้วยื่นมาทางฉัน

                    “อ่ะ  จับนี่ไว้”  ฉันเผลอยื่นมือเข้าไปรับลูกแก้วนั่น พี่เขาดีดนิ้วเปราะเดียว แสงสีน้ำเงินกับสีฟ้าก็พุ่งออกมาจากลูกแก้วแล้วพุ่งเข้าสู่หน้าอกฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนๆเย็นๆที่กลางหน้าอก แล้วพี่เขาก็หยิบลูกแก้วคืนไป

                    “เมื่อกี้คืออะไรเหรอคะ”  ฉันถามด้วยเสียงที่อ่อนลง

                    “พลังแฝงไงครับ ของอสูรพวกนี้น่ะ ป่ะไปต่อกันเถอะ”  พี่เขาพูดแล้วก็ไม่ฟังความเห็นอะไรเลย เดินนำหน้าไปซะละ ฉันจึงเดินตามเงียบๆแล้วค่อยๆทบทวนอะไรต่อมิอะไรไปตลอดทาง


    สรุปแล้วเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

                   

     

                    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×