ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ้าครบสูตรตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #1 : ลัทธิบูชิโด---------ทำความเข้าใจนิดๆ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 394
      0
      15 มิ.ย. 51

    ลัทธิบูชิโด คือ ลัทธิที่ยอมรับและยกย่องวิถีแห่งคนกล้า ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกว่า "ซามูไร" (Samurai) คำว่า "บูชิโด" ฮอพฟ์ (Hopfe. 1994 : 227) ได้แปลว่า "หนทางของอัศวินนักต่อสู้" (the way of the fighting knight) ซึ่งเราอาจแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า "มรรควิธีที่จะนำไปสู่ความเป็นซามูไร" และถ้าเราย้อนกลับไปศึกษาในเรื่องผู้กล้าของขงจื๊อ ซึ่งเรียกว่า "ซุนจื่อ" นั้น เราจะเห็นได้ว่ามีแนวคิดที่คล้ายกันมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในช่วงศตวรรษที่ 17 รัฐบาลญี่ปุ่นให้การยอมรับลัทธิขงจื๊อมากจนถึงขนาดตั้งโรงเรียนที่อยู่ในแนวคำสอนดั้งเดิมของขงจื๊อเพื่อให้การอบรมศึกษาสำหรับชนชั้นสูง ผู้นำของสถาบันแห่งนี้ คือ ท่านยามากะ โซโก (Yamaga Sogo. ค.ศ. 1622 - 1685) ท่านได้นำเอาลัทธิขงจื๊อ พุทธศาสนา และความเชื่อแบบชินโตมาผสมผสานกันจนพัฒนาไปสู่ลัทธิบูชิโด ซึ่งเป็นหลักประพฤติมาตรฐานของซามูไรญี่ปุ่นในสมัยนั้น มีแนวทางปฏิบัติดังนี้ คือ

    1. ซามูไรทุกคนจะต้องเป็นผู้อยู่ในสังกัดของเจ้านายในระบบศักดินา และจะต้องมีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้านายอย่างมั่นคง เราอาจกล่าวได้ว่า คุณธรรมข้อนี้เป็นผลมาจากอิทธิพลทางความคิดของลัทธิขงจื๊อที่เน้นในความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งซามูไรที่ดีนั้นจะต้องรำลึกอยู่เสมอและหาทางตอบแทน บุญคุณให้ได้ ไม่เพียงแต่เจ้านายเหนือหัวเท่านั้น แต่รวมไปถึงบุคคลทั้งหลายที่มีบุญคุณ เพราะการรู้จักตอบแทนหนี้บุญคุณถือว่าเป็นความดีสูงสุด อย่างไรก็ตามการตอบแทนบุญคุณของเหล่าซามูไรนั้น จะต้องคำนึงถึงพันธะหน้าที่เป็นสำคัญ ถึงแม้นว่าจะไม่เต็มใจ เพราะอาจเป็นเหตุที่ทำให้ตนต้องทอดทิ้งบิดา มารดา บุตร และภรรยาก็ตามแต่เพื่อรักษาหน้าที่ของตนซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้านายเหนือหัวแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบแทนบุญคุณต่อเจ้านายก่อน และครอบครัวของซามูไรทุกคนจะต้องยินดี และสนับสนุนการกระทำของพวกเขาด้วยจึงจะได้รับยกย่องอย่างสูงจากสังคม

    2. ซามูไรจะต้องเป็นผู้มีความกล้าหาญไม่เกรงกลัวความตาย และสามารถเผชิญกับความตายได้ทุกเมื่อ คุณธรรมในข้อนี้น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากแนวความคิดในพุทธศาสนาที่เชื่อในกฎไตรลักษณ์ที่เห็นว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่เที่ยง และไม่มีตัวตนแท้จริงที่ถาวร ชีวิตทุกชีวิตเกิดมาเพื่อใช้กรรม เวลามีชีวิตอยู่จะต้องดำเนินชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและครบถ้วน โดยไม่หวั่นไหวกับความตาย การตายที่มีเกียรติของซามูไรญี่ปุ่นคือ การทำฮาระคิริ (Harakiri) หรือเซ็ปปุกุ (Seppuku) การตายแบบนี้ต้องใช้พลังจิตและความอดทนอย่างสูงที่จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดซึ่งมาจากการใช้มีดสั้นแทงที่หน้าท้องใต้เอวขวาแล้วกรีดมาทางซ้ายจากนั้นดึงมีดขึ้นข้างบน การคว้านท้องเช่นนี้เป็นการเปิดเยื่อบุช่องท้องแล้วตัดลำไส้ให้ขาด การตายด้วยวิธีนี้นอกจากเป็นการตายอย่างมีเกียรติแล้ว ยังเป็นการแสดงความกล้าหาญและพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการบังคับจิตใจของตนเอง

    3. ซามูไรจะต้องเป็นผู้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ยอมตายเพื่อรักษาเกียรติดีกว่าอยู่อย่างไร้เกียรติ

    4. ซามูไรจะต้องมีความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนต่อเจ้านาย ซึ่งคำสอนในข้อนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางความคิดของลัทธิขงจื๊อในเรื่องของระเบียบวินัย และความจงรักภักดี

    5. ซามูไรจะต้องเป็นผู้มีความเที่ยงธรรม และช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก คำสอนนี้น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อที่สอนให้นักรบผู้กล้าทั้งหลายเป็นผู้มีเมตตาจิต และรักความยุติธรรม ไม่นิ่งดูดายเมื่อเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ต้องรีบช่วยเหลือทันที อย่างไรก็ตามคำสอนของลัทธิบูชิโดนี้ ไม่เพียงแต่เป็นหลักปฏิบัติของพวกซามูไรเท่านั้น ต่อมาได้มีผู้นิยมปฏิบัติตามกันทั่วไป จนกลายเป็นแนวทางคำสอนของความเชื่อแบบชินโต
    ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามในปี ค.ศ. 1945 ประเทศพันธมิตรได้ยกเลิกชินโตของรัฐ ลัทธิบูชิโดก็เสื่อมความนิยมไป ซามูไรหรือผู้กล้าค่อย ๆ หมดผู้สืบทอด แต่จิตสำนึกแบบชินโตยังคงอยู่ในใจของคนญี่ปุ่นไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาใดก็ตาม ดังนั้นความเป็นชินโตนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ลัทธิความเชื่อเท่านั้น แต่เป็นจิตสำนึกภายในที่ทำให้คนญี่ปุ่นเกิดสำนึกร่วมกันในความเป็นญี่ปุ่น อันแสดงถึงเอกลักษณ์ของชาติที่ยังคงเหลืออยู่ท่ามกลางความแปรเปลี่ยนของสังคม



    เครดิตที่มา:: http://www.thai-folksy.com/ELearning/Religion/13-11-Shinto.html 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×