ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Bleach ] หัวใจที่ถูกแช่แข็งของเจ้า ข้าจะละลายมันเอง..

    ลำดับตอนที่ #10 : Charpter IX : Happy Brithday Sora Part2 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 652
      29
      6 พ.ค. 61

    หลังจากนั้นโซระที่ยังคงช็อกปะปนความดีใจจนเอ่อล้น(?)นี้ไม่ไหว จึงพาร่างออกมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอก

    ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่เธอได้พักผ่อนโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องงาน ไม่ได้ฝันไปสินะเนี่ย


    ตัดมาด้านอุคิทาเกะ

    "หัวหน้าคะ ไม่มึนหัวบ้างรึไงคะนั่น.."

    ลูเคียที่นั่งมองหัวหน้าของตนเดินไปเดินมาราวกับกำลังร้อนลนอะไรอยู่ในใจ

    "กะ..ก็วันนี้วันเกิดโซระน่ะสิ แถมดูเหมือนซุยฟงจะจัดเซอร์ไพร์เธอไปแล้วด้วย แต่ข้า ข้าคิดอะไรไม่ออกเลยนี่สิ! T T"

    ชายหนุ่มว่าพรางหยีหัวตัวเองเหมือนกำลังครุ่นคิดจนเรือนผมสีขาวฟูไปหมด จนลูเคียผู้เป็นรองหัวหน้าต้องหลุดขำออกมาเล็กน้อย

    "ก็อยากจะช่วยอยู่หรอกนะคะหัวหน้า แต่ข้าไม่ถนัดเรื่องเซอร์ไพร์เท่าไหร่ ยังไงก็สู้ๆนะคะจะเอาใจช่วย ข้าไปให้ของขวัญโซระก่อนล่ะ.."

    หญิงสาวว่าจบก็เดินหายไปจากหน่วยทันที ทิ้งชายหนุ่มให้จมอยู่กับความคิดที่แสนจะว่างเปล่า จะเอายังไงดีกับชีวิต จะทำยังไงดีให้เธอมีความสุข ทำยังไงดีๆๆๆ

    "ว่าแล้วๆ..ดูเหมือนกำลังลำบากอยู่สินะอุคิทาเกะ"

    ขณะที่ชายหนุ่มกำลังง่วนอยู่กับการเซอร์ไพร์วันเกิดหญิงสาว เพื่อนชายเจ้าสำราญของตนก็เข้ามามักเหมือนรู้ทัน

    "เคียวราคุมาพอดีเลย เจ้าช่วยข้าคิดหน่อยสิ หัวข้าจะระเบิดอยู่แล้ว!"

    "หืม คิดเรื่องเซอร์ไพร์น่ะหรอ"

    "ก็เออน่ะสิ ข้าไม่ถนัดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เลยทำให้ไม่ถูกน่ะ"

    ชายหนุ่มที่เดินวนจนเหนื่อย(?)แล้ว จึงทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นภายในห้อง

    "ข้าเข้าใจ แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากขนาดนั้นก็ได้.."

    อุคิทาเกะหันไปมองผู้เป็นเพื่อนอย่างุนงงเล็กน้อย ว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ ถ้ามันไม่ยุ่งยากแล้วจะให้เขาทำอะไรล่ะ

    "อีกอย่างเจ้าก็น่าจะรู้นิสัยโซระดีที่สุดนะ ว่าเจ้าตัวก็ไม่ค่อยชอบอะไรแบบนั้นขนาดนั้นอยู่แล้ว.."

    ทันทีที่สิ้นคำพูดเพื่อนเจ้าสำราญของตนก็ฉุกคิดได้ทันที ใช่แล้ว เมื่อเธอยังเด็กๆพวกพี่ป้าน้าอา ญาติโกโหติกาทำเซอร์ไพร์เธออย่างอลังการงานสร้าง แต่เธอกลับมีท่าทางที่เรียบเฉย เพียงแค่ยิ้มๆแล้วก็ขอบคุณไปตามมารยาท แต่จะมีความสุขออกมาจากใจตอนที่ท่านเก็นริวไซอวยพรวันเกิดเธอเท่านั้น

    "ทีนี้ก็นึกออกซักทีนะพ่อรูปหล่อ ไม่ไหวๆ ต้องให้ข้าออกโรงอยู่เรื่อยเลย.."

    เคียวราคุว่าพรางส่ายหัวระเอือมกับเพื่อนตนที่ชอบคิดมากจนเกินไปทุกที

    "นั่นสินะ ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าคิดออกแล้วว่าต้องทำยังไง!"

    ว่าจบอุคิทาเกะก็ใช้ก้าวพริบตาหายไปทันทีโดยไม่ร่ำไม่ลาเพื่อนเจ้าสำราญของตนแม้แต่น้อย

    "เฮ้อให้ตายเถอะ แล้วข้าจะไปดื่มสาเกกับใครเนี่ย.."

    เคียวราคุพรึมพรัมออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อย ก่อนจะต้องเดินกลับไปหน่วยตนเหมือนคนที่ถูกทิ้งขว้างอย่างไร้เยื่อใย(?)


    ด้านโซระ

    หญิงสาวที่ตอนนี้เดินแบกของขวัญที่พวกเหล่าเพื่อนๆของเธอนำมาให้กลับไปที่คฤหาสต์ แล้วนำไปวางไว้ภายในห้องทันที

    ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า กับการเดินรับของขวัญยากชาวบ้านชาวเมืองเขาไปทั่วนี่สิ

    หญิงสาวคิดพรางหยิบกล่องของขวัญที่ได้มาจากท่านปู่จอมซึนของตน พรางหยิบปิ่นปักผมที่อยู่ข้างในออกมา..

    ไม่ว่ามองกี่ทีมันก็สวยเหมือนเดิม

    "ไม่คิดว่าแก่ขนาดนั้นแล้วจะตาถึงขนาดนี้นะ สงสัยสมัยหนุ่มๆเที่ยวไปจีบสาวไว้เยอะล่ะมั้งถึงรู้ใจกันซะขนาดนี้.."

    หญิงสาวพรึมพรัมออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบางๆอย่างมีความสุข อยากให้สงบสุขแบบนี้ไปทุกๆวัน..

    'ก็อกๆๆ'

    "ท่านยามาโมโตะ มีแขกมาขอพบค่ะ.."

    เอาอีกแล้ว ต้องมาให้ของขวัญอีกแล้วแน่ๆ เก็บไม่ไหวแล้วนะ..

    ทันทีที่ได้ยินเสียงคนรับใช้ของตนจากด้านนอกก็อดฉุกคิดถึงเรื่องนั้นเสียไม่ได้

    "อ่าๆ บอกให้คอยก่อนเดี๋ยวข้าออกไป"

    แต่ตนก็ปฏิเสธมันไม่ได้อยู่ดีเพราะมันเสียความรู้สึกคนที่ตั้งใจจะให้นี่น่าถ้าหากไม่รับมัน..

    เฮ้อ แล้วในที่สุดเธอก็ต้องกลับมากลายเป็นโซระคนเดิมโดยสมบูรณ์ ให้ตายสิเพราะใครกันเนี่ย

    ร่างบางอมยิ้มขณะครุ่นคิดถึงบุคคลที่เปลี่ยนเธอได้ชนาดนี้ ก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องเพื่อไปหาผู้มาเยือนใหม่..

    เมื่อมาถึง หญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักไปเล็กน้อย เมื่อบุคคลที่เธอพึ่งนินทาภายในใจดันมาบุกบ้านหล่อนเสียแล้ว

    "หัวหน้าอุคิทาเกะ หายดีจนไปเที่ยวเล่นบ้านคนอื่นตามใจชอบแล้วหรอคะ.."

    เสียงหวานหยอกล้อผู้ที่มาใหม่ด้ววรอยยิ้มกวนๆ แต่จริงๆเพียงพยายามกลบเกลื่อนหัวใจที่มันเต้นแรงไม่หยุดนี่สิ

    "โซระจัง เอ่อคือ.."

    ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่เมื่อเห็นโซระก็มีท่าทีกระอึกกระอักขึ้นเล็กน้อย

    "ไปเที่ยวโลกมนุษย์กับข้ามั้ย.."

    ก่อนจะรวบรวมความกล้าเอ่ยถามหญิงสาวออกไป

    และร่างบางต้องชะงักขึ้นอีกรอบด้วยสีหน้าที่เหวอรับประทานรองจากท่านปู่จอมซึนไปอีกครั้ง

    "เฮ้อ ทำตัวได้ใจอีกแล้วนะคะ.."

    หญิงสาวว่าพรางเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าเล็กน้อยที่ถูกชายหนุ่มเอายชวนแบบนั้น

    ชายหนุ่มฉีกยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นปฏิกิริยาหญิงสาว ก่อนจะสาวท้าวเดินเข้าไปใกล้เธอ

    "พอดีว่ามีเรื่อง..จะบอกให้ได้เลยน่ะ.."

    ใบหน้าคมเลื่อนไปกระซิบใบหูเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนๆชวนให้เจ้าตัวสงบใจไม่อยู่อีกครั้ง

    "งะ..งั้นก็เอาสิ ข้าเองก็เบื่อๆอยู่เหมือนกัน.."

    หญิงสาวรีบขยับถอยห่างทันที เพราะถ้ายืนอยู่ใกล้นานกว่านี้ใจของระเบิดออกมาแน่ๆ


    หลังจากนั้นโซระและอุคิทาเกะก็เดินทางไปตามหาอูราฮาร่า คิสึเกะ เพื่อขอยืมร่างเทียมใช้ในการเดินทางไปยังโลกมนุษย์

    เจ้าตัวที่ถูกขอก็งุนงงเล็กน้อย ก่อนจะนำมาให้ทั้งคู่ โดยไม่พ้นคำแซวของโยรุอิจิที่อยู่ด้วยซักเท่าไหร่

    จนมาถึงโลกมนุษย์..

    ในโลกมนุษย์นั้นภายในตอนนี้จะเป็นตอนกลางคืนซึ่งสลับกันกับโลกของยมทูตที่โซลโซไซตี้ที่ยังเช้าอยู่

    "ท่านจะไปที่ไหนล่ะ.."

    หญิงสาวในชุดกิโมโนที่ไม่ใช่แบบของยมทูตแต่เป็นลายดอกไม้ที่ประดับสวยงามดูเข้ากับเธอเอ่ยถามชายหนุ่มด้านข้าง

    "ยังไม่บอกได้มั้ย.."

    ชายหนุ่มว่าพรางนำผ้าบางอย่างที่เอามาตั้งแน่เมื่อไหร่ไม่รู้ มาปิดตาหญิงสาวอย่างไม่ให้ตั้งตัว

    "นะ..นี่ท่าน"

    "เอาน่า ทนแบบนี้ซักแปปนะโซระจัง.."

    ฝ่ามือใหญ่ลูบผมดำขลับอย่างเอ็นดู ด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม แต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ก่อนจะ..

    'สวบ'

    "หะ..หัวหน้าอุคิทาเกะ!!"

    ร่างบางร้องเสียงหลงทันทีเมื่อตอนนี้ตนกำลังถูกชายหนุ่มอุ้มขึ้นในอ้อมแขนไปเสียแล้ว พรางดิ้นไปดิ้นมาอย่างตกใจ

    "นี่อย่าดิ้นสิ..เชื่อข้าเถอะแค่แปปเดียวเท่านั้น..แค่วันนี้ ให้ข้าได้ทำเพื่อเจ้าบ้างเถอะนะ.."

    เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ทำให้ผู้ฟังในอ้อมแขนของตนถึงกลับเงียบและทำตามคำของเขาอย่างไม่รู้ตัว

    ใบหน้าสวยกลบใบหน้าแดงก่ำพรางซุกหน้าลงแนบแผ่นอกอีกคน

    "จะรอดูแล้วกัน.."


    จากนั้นชายหนุ่มก็เดินทางอยู่เนิ่นนานในบรรยากาศที่เงียบสงัดไม่มีใครเอ่ยอะไรใดๆออกมา อีกใจก็อยากจะอุ้มร่างบางแบบนี้ไปนานๆเหมือนกัน แต่นานกว่านี้คงจะโดนโกรธเอา

    ในที่สุดก็ถึงจุดหมายในที่ๆชายหนุ่มครุ่นคิดไว้ตั้งแต่แรก

    ร่างสูงค่อยๆปล่อยร่างของร่างบางลงยืนบนพื้นอย่างช้าๆ ทำให้ร่างบางรู้สึกถึงพื้นที่มันไปค่อยปกติเหมือนพื้นถนนคอนกรีตทั่วไป

    ชายหนุ่มเอื้อมมือไปถอดผ้าปิดตาออก และภาพที่ปรากฎภายในดวงตากลมสีม่วงอ่อนก็คือ น้ำทะเลสีครามพร้อมกับพระจันทร์ที่สะท้อนระยิบระยับ และเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า ดาวหลายๆดวงต่างพร้อมใจกันเปล่งประกายอย่างดงาม

    หญิงสาวยืนนิ่งทึ่งกับความงดงามที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนจากโลกยมทูตที่ตนอยู่

    "สวยมากเลยใช่รึเปล่า.."

    ชายหนุ่มว่าพรางแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าที่มืดมิดไปก็ไม่ไร้แสงสว่างจากพระจันทร์ที่ส่ประกายยามค่ำคืน

    "ค่ะ..สวยมากเลย"

    หญิงสาวเอ่ยตอบอย่างลืมตัว เพราะอดหลงไหลกับภาพที่เห็นข้างในตาคู่นี้เสียไม่ได้

    'สวบ..'

    "..!?"

    ร่างบางต้องชะงักไปอีกครั้งเมื่อถูกชายหนุ่มสวมกอดเข้าจากด้านหลัง ไออุ่นบางๆจากอ้อมแขนพร้อมกับบรรยากาศรอบๆที่เหมือนจะเป็นใจ

    หญิงสาวที่อยากจะเอ่ยว่าอีกคนแต่กลับไม่พูดอะไรออกมา เพราะตนก็หยุดความต้องการของตนเองไม่ได้เช่นกัน อ้อมกอดที่น่าคิดถึง เขาได้รับความอบอุ่นนี้ครั้งล่าสุดตั้งแต่เยาว์วัย หลังจากนั้นมันก็ห่างหายไปนานจนแถบจำความรู้สึกไม่ได้

    "โซระจัง.."

    เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยกระซิบใบหูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นเดิม พร้อมกับแววตาคมที่มองลงที่ร่างเล็กด้วยแววตาอ่อนๆ

    "พี่ขอโทษ.."

    ชายหนุ่มกระชับกอดแน่นขึ้นหลังเอ่ยจบ ความรู้สึกกลัวที่จะเสียหญิงสาวในอ้อมกอดนี้ไปอีกครั้งเข้ามาข้างในใจอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่อยากจะเห็นเธอที่เย็นชาแบบนั้นอีกแล้ว เขาทนเห็นมันอีกไม่ได้ขริงๆ

    "เพราะงั้นได้โปรด อย่าเปลี่ยนไปอีกเลยนะ พี่จะขาดใจอยู่แล้วรู้มั้ย เวลาที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้าก็ว่าทรมานเสียแล้ว แต่การที่เห็นเจ้าทำสีหน้าเย็นชาแบบนั้นใส่ มันเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรซะอีก.."

    ความในใจทั้งหมดถูกระบายออกมาจากชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยเพราะความรู้สึกกลัวที่ยังไม่จางหายพร้อมกับความรู้สึกทรมานที่ยังคงคั่งค้างอยู่ในใจ

    ใบหน้าคมซุกลงที่ลำคอของร่างบาง ก่อนเจ้าตัวจะรู้สึกถึงความชื้นบริเวณนั้นราวกับว่าเขากำลัง..ร้องให้ออกมา

    หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบขึ้นทันทีที่รับรู้ ถึงเธอจะคาดไว้บางอย่างแล้ว แต่ถึงขนาดนี้มันเกินกว่าที่เธอคาดเอาไว้ ไม่คิดว่าชายหนุ่มต้องมาเสียใจถึงขนาดนี้เพราะเธอ..

    "พี่จูชิโร่.."

    มือบางเลื่อนไปจับแขนแกร่งที่โอบกอดเธอไว้พรางกระชับมันเพื่อให้รู้ว่าเธอจะไม่ไปไหนแล้ว

    "อา..โทษทีนะ วันเกิดเจ้าแท้ๆ.."

    ชายหนุ่มถอนใบหน้าออกมาจากลำคออีกคน พร้อมกับผละตัวออกมาเหมือนรู้ว่าตนกำลังทำตามความรู้สึกมากเกินไป

    "แฮปปี้เบริดเดย์นะ โซระจัง.."

    มือหนาหยิบบางอย่างภายในกิโมโนก่อนจะเลื่อนไปชูตรงหน้าร่างบาง

    ปรากฎสร้อยโซ่จี้พรจันทร์เสี้ยวเปล่งแสงออกมาเล็กน้อย ดวงตากลมมองสร้อยนั้นด้วยแววตาเปล่งประกายเหมือนตนได้กลับไปอยู่ในครั้งวัยเยาว์

    "ชอบมั้ย พี่กลัวจะไม่ถูกใจเจ้าเท่าไหร่"

    อุคิทาเกะถามด้วยใบหน้าที่ยังคงประดับยิ้มไว้เช่นเดิม

    แต่หญิงสาวกับพยักหน้ารัวๆอย่างไม่ลังเล คงจะชอบสร้อยที่เป็นของขวัญเจ้าเขาอยู่ไม่น้อย

    "ถ้าเช่นนั้น เดี๋ยวพี่ใส่ให้นะ"

    ว่าจบชายหนุ่มก็จัดการสวมสร้อยให้ร่างบางจากด้านหลัง พรางจัดผมให้เธออย่างเรียบร้อย

    "ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พี่จูชิโร่ใส่ปิ่นปักผมเป็นมั้ย ไม่สิ มวยผมเป็นมั้ย.."

    ร่างบางถามขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มพึ่งสวมสร้อยให้เธอเสร็จเมื่อไม่นาน

    "เคยทำให้กับท่านแม่อยู่นะ..เจ้าอยากให้พี่ทำให้หรอ.."

    "ค่ะ ปิ่นอันนี้ได้มาจากท่านปู่ของข้าวันนี้เลยล่ะ ถือโอกาสใส่มันซะตอนนี้เลยจะได้รึเปล่านะ.."

    "ได้สิ เดี๋ยวพี่ใส่ให้.."

    หญิงสาวจึงหันไปนำปิ่นปักผมให้แก่ชายหนุ่ม ก่อนชายหนุ่มจะรับมาพรางลงมือมวยผมให้หญิงสาวอย่างชำนาญแล้วเสียบปิ่นปักผมใส่ไป..

    "หันมาให้พี่ดูหน่อยสิ โซระจัง.."

    ว่าจบร่างบางก็หันมาตามคำขอของชายหนุ่ม เผยให้เห็นใบหน้าสวยคลี่ยิ้มบางๆพร้อมกับผมดำขลับที่ถูกมวยขึ้นพร้อมกับปิ่นปักผมของผู้เป็นปู่ของเธอ

    "สมแล้วล่ะ งามยิ่งนัก.."

    ชายหนุ่มเอื้อมไปสัมผัสลูบไล้ตั้งแต่เลือนผมลงมายันใบหน้าจนถึงลำคออย่างหลงไหลและสายตาของเขาตอนนี้ไม่อาจละจากหญิงสาวตรงหน้าได้เสียแล้วสิ..

    "มะ..มองอะไรขนาดนั้นคะพี่จูชิโร่"

    ใบหน้าสวยแดงระรื่อขึ้นเมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มที่มองราวกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัวยังอย่างงั้น พรางเบือนหนีอย่างเขินอาย

    แต่ต้องหันกลับมาอีกครั้งเพราะฝ่ามือใหญ่ของเขาที่จัดให้ใบหน้าเธอยู่ตรงกับหน้าตน

    "ขอข้ามองเจ้าใกล้ๆหน่อยสิ.."

    เจ้าตัวไม่รอคำตอบหญิงสาวแต่กลับโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆเธอพร้อมกับใช้อีกมือที่ว่างรวบเอวบางไว้พรางใช้แรงกดน้อยๆให้ร่างบางเขามาแนบชิดกับร่างของตน

    ใบหน้าทั้งคู่จนตอนนี้จึงอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ เสียงหัวใจดวงน้อยที่เต้นไม่เป็นจังหวะจึงดังพอให้ชายหนุ่มได้ยินเล็กน้อย และมันก็ไม่ต่างจากเสียงของหัวใจเขานัก

    เขาโน้มเขามาใกล้หญิงสาวอีกจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆของกันและ..ความรู้สึกที่เคยสัมผัสผุดขึ้นในความทรงจำอย่างช่วยไม่ได้

    "ริมฝีปากของเจ้า ยังจะหวานอยู่เหมือนตอนนั้นมั้ยนะ โซระจัง.."

    ชายหนุ่มไม่รอคำตอบหญิงสาวเช่นเดิม ก่อนจะเลื่อนเข้าประกบริมฝีปากเขากับริมฝีปากบางทันทีพร้อมมือลูบไล้แผ่นหลังของเธอกับความรู้สึกร้อนระอุไปทั่วร่างกาย

    "อื้ม~"

    เสียงหวานครางในลำคอเมื่อรู้สึกถึงการแทรกลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากของตนพร้อมกับตวัดเกี่ยวพันกับลิ้นของตนอย่างดูดดื่ม..

    มันช่างต่างจากสัมผัสของเด็กน้อยในวัยเยาว์ซึ่งให้ความรู้สึกเร่าร้อนกว่านั้นอยู่หลายเท่าตัว

    มือบางทุบอกแกร่งของร่างสูงเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ก่อนชายหนุ่มจะค่อยๆถอนออกมาอย่างเสียดาย

    "หวานกว่าเมื่อครั้งนั้นอีกนะ โซระจัง"

    ใบหน้าสวยแดงก่ำขึ้นอีกครั้งพร้อมกับหัวใจที่แถบจะวายตายเสียตอนนี้ ก่อนจะปิดใบหน้าตัวเองด้วยความเขินถึงขีดสุด

    "พี่จูชิโร่อ่า!~"

    "ยังไม่จบหรอกนะ โซระจัง~"

    ว่าจบชายหนุ่มก็เข้าไปสวมกอดร่างบางจากด้านหลังอีกครั้ง

    "ดะ..เดี๋ยวจะทำอะไรคะ อายฟ้าอายดินหน่อยเถอะพ่อคุณ.."

    หญิงสาวละเลิกละลักเหมือนอยากจะดิ้นตายเสียตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เพราะตนตอนนี้หัวใจจะวายเสียจริงๆแล้ว

    "นั่นสินะ..ทำอะไรดีนะ"

    ใบหน้าหล่อเลื่อนไปกระซิบที่ใบหู ก่อนจะขบเม้มใบหูนั้นอย่างหมั่นเขี้ยวพร้อมกับระดมจูบไล้ลงมาถึงซอกคอขาวเนียน

    "อ๊ะ..พะ..พี่จูชิโร่"

    ร่างบางถึงกับต้องครางออกมาเสียงหลงทันทีเหมือนรู้สึกจั๊กจี๊พร้อมกับทำให้ร่างกายมันร้อนขึ้นแปลกๆ

    มือหนาลูบไล้เรือนร่างผอมเพรียวอย่างหลงไหล ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าสวยให้หันมาตนแล้วประกบจูบอีกครั้งทางด้านข้าง

    "อื้ม~"

    ร่างบางเหมือนร่างกายเริ่มอ่อนละทวยลงจนค่อยๆทรุดลงไปนั่งบนผืนทรายพร้อมกับร่างสูง พรางค่อยๆถอนจูบออกมาแล้วค่อยๆดันหญิงสาวเอนตัวลงนอนราบกับผืนทรายนั้นแล้วคร่อมบนร่างเล็กนั้นทันที

    มือหนาลูบไล้ใบหน้าสวยที่แดงก่ำอยู่อย่างหลงไหล พรางปัดปอยผมที่ปกปิดใบหน้าออกอย่านุ่มนวล

    "พะ..พอเถอะพี่จูชิโร่ ถ้าคนมาเห็นเข้าจะแย่เอานะคะ.."

    "ไม่มีหรอก ที่แห่งนี้มันเป็นที่พิเศษที่มีเพียงพี่และเจ้าเท่านั้น..อย่าได้กังวลใจเลย.."

    ฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปลูบไล้ที่เรือนผมดำขลับอีกครั้งเพื่อปลอบโปลมความกลัว ก่อนจะโน้มตัวลงซุกไซร้ที่ซอกคอขาวเนียนพรางขบเม้มตีตรารอยดั่งผู้เป็นเจ้าของ

    "อื้อ~"

    มือที่ว่างค่อยๆเลื่อนปลดอาภรด้านบนของหญิงสาวออกเพียงเล็กน้อยเผยให้เห็นเนินอกที่น่าหลงไหล พรางไล้ใบหน้าลงมาระดมจูบที่เนินอกแล้วสร้างรอยไว้เช่นเดิม ก่อนชายหนุ่มจะค่อยๆถอนตัวขึ้นมาพรางใส่กลับอาภรหญิงสาวเข้าไปแบบเดิม

    "ว่าไปนั่น พี่ยังไม่ทำตอนนี้หรอก เอาไว้เจ้าโตขึ้นกว่านี้อีกหน่อยค่อยมาต่อให้จบแล้วกัน.."

    ว่าจบ ร่างสูงก็โน้มตัวลงประทับริมฝีปากที่หน้าผากร่างเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะถอนออกมา

    แล้วก้มมองร่างเล็กที่หน้าแดงระรื่อเบือนหนีตนอยู่อย่างเขินอายด้วยสีหน้าที่เอ็นดู

    "ทะ..ท่านนี่มัน เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าพี่ชุนซุยเสียอีก.."

    ร่างบางยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับเอ่ยว่าร่างสูงด้วยอาการเขินที่ยังไม่หาย

    "ฮะๆ เจ้าพึ่งรู้หรอโซระจัง.."

    แถมตนยังยอมรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแบบไม่รู้สึกรู้สาแบบนั้นด้วย

    "แต่ตอนนี้ ข้าเริ่มจะง่วงแล้วไปนอนกันเถอะ.."

    ว่าชายหนุ่มก็ช้อนตัวร่างบางขึ้นมาในอ้อมอกโดยที่ไม่ถามเจ้าของร่างอีกครั้ง

    "พี่จูชิโร่! -///-"

    แถมยังยิ้มไม่สะทกสะท้านเสียงตะโกนด้วยความอายของหญิงสาวแม้แต่น้อย

    "โซระจัง.."

    เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเรียกร่างเล็กในอ้อมแขนเสียงอ่อนๆอีกครั้ง

    "ว่าไงคะ"

    ใบหน้าสวยแหงนมองร่างสูงอีกคนเพื่อรอเขาตอบ

    "ข้ารักเจ้านะ และจะรักตลอดไป"

    เป็นคำที่เขาอยากจะบอกหญิงสาวมานานแสนนาน ถึงจะเคยบอกในครั้งวัยเยาว์ แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนนัก จึงอยากจะบอกกับหญิงสาวให้ชัดเจนอีกครั้งถึงความรู้สึกมากมายภายในใจของตน

    "ข้าก็รักท่าน และจะรักตลอดไป"

    ซึ่งที่จริงแล้วความรู้สึกนั้นมันก็ไม่ได้ต่างไปจากหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย

    ====================

    Writer talk

    ยอมรับก่อนเลยว่าตอนแต่งฉากนั้นคือแดดิ้นตายกับที่นอนหลายรอบมาก อยากจะเป็นนางเอกใจจะขาดอยู่แล้ว มันก็จะNCเล็กน้อย เพื่อสีสันของเรื่องนะคะ อย่าลืมคอมเม้นท์พร้อมกับให้กำลังใจในการแต่งต่อไปด้วยค่ะ ♡
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×