ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #30 : ตอนที่ 28 การเปลี่ยนแปลง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 56.29K
      249
      20 มี.ค. 54







    ตอนที่
    28 การเปลี่ยนแปลง





     
    “แม่งอะไรกันนักหนาวะ ไอ้คิวรักไอ้เต้ย ไอ้เต้ยก็รักไอ้คิว ทำไมมันไม่คบๆกันไปวะ หรือต้องให้กูจุดธูปจุดเทียนทำพิธีอัญเชิญผูกดวงวิญญานก่อน แม่ง กูเซ็ง”
     


    “เออ มึงก็ใจเย็นๆดิมิค จะโวยวายทำไมวะ ห่า”
     
    “ก็กูหงุดหงิดอ่ะมึง ไม่หล๊ายหลั่งใจ” มงกุฎดอกส้มมาแล้วครับ ไอ้แทน ไอ้มิค ผมนั่งสุมหัวกันอยู่ในห้องรับแขกบ้านไอ้เชน ไอ้เต้ยมันถูกไอ้ฟ่างบีบคอบังคับให้กินข้าวอยู่ในครัว มีไอ้เชนช่วยอีกแรง
     

    ส่วนไอ้ปัน เหอๆ มันไปนั่งหลบมุมบ่นพึมพำๆอะไรไม่รู้คนเดียว ไอ้เบียร์ ไอ้ภูมิ ไอ้แมทไปดูอาการไอ้คิว เรียกว่าใช้บุคลากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดอ่ะครับ
     


    จั่งซี่มันต้องถอน จั่งซีมันต้องถอน ผมกับไอ้มิคขมวดคิ้วใส่ไอโฟนไอ้แทน เสียงเรียกเข้าทำเอาผมหมดศรัทธาในไอโฟนเลยทีเดียว
     

    “ฮัลโหล ว่าไงเบียร์ ..ก็ดีเมียกูป้อนข้าวป้อนน้ำมันอยู่ ดีนะที่ปิดเทอมแล้ว ไม่งั้นคงไม่เป็นอันเรียน แล้วเพื่อนกูมันเป็นไงบ้างวะ …..เออ ยังไม่ตายก็ดีแล้ว… เออๆ มึงก็ดูมันดีๆล่ะ…… อะไรนะ อ๋อได้ …พีมๆ ไอ้ภูมิฝากคิดถึง ฮ่าๆ”
     

    ได้ยินเสียงไอ้ภูมิโวยวาย แล้วก็เสียงไอ้เบียร์กับไอ้แมทหัวเราะเล็ดลอดออกมา พวกมันรู้ว่าผมกับภูมิกำลังอยู่ในช่วงปฏิบัติภารกิจ งองู งอนกับง้อ เหอๆ
     

    เย็นนี้ผมต้องไปรับโทษทัณฑ์จากไอ้ภูมิครับ อึ๋ย แค่คิดก็สยองแล้ว เมื่อเช้าผมโทรไปหาภูมิ กะว่าพูดเพราะๆให้มันอารมณ์ดี
     
    ผมถามว่าจะกินอะไรมั้ยเดี๋ยวซื้อเข้าไปให้ หรืออยากไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่า มันตอบกลับมาว่าไงรู้มั้ยครับ “ไปตายซะ” ผมนี่วิ่งหามีด หาเชือกแทบไม่ทัน อะไรจะงอนฝังหุ่นขนาดนั้น
     


    ผมชูนิ้วกลางใส่หน้าไอ้แทน แล้วเดินมาดูพวกในครัว ไอ้เชนกำลังจับสปาเก็ตตี้ยัดปากไอ้เต้ย
     


    “กูกราบล่ะครับน้องเต้ย มึงแดกซักทีเห้อ กูเหนื่อย แม่งจะดื้อไปไหนวะ” ไอ้เชนนั่งกราบนั่งไหว้ไอ้เต้ย ที่เอาแต่นั่งนิ่ง มือปิดปากตัวเองแน่น ไอ้เต้ยมันเป็นตัวป่วน ปากหมาก็จริง แต่ว่าอีกหนึ่งสันดานของมันคือ ดื้อ
     


    “มันไม่แดกก็ปล่อยมันเชน ตายไปไอ้คิวก็ไม่สนใจหรอก” ไอ้ฟ่างที่กำลังยืนผัดอะไรซักอย่างหันมาด่า ไอ้เต้ยก็ทำตาขวางใส่ แต่ก็ต้องรีบหลบ ก็นั่นน่ะไอ้ฟ่างนะครับ มันจับกะทะเขวี้ยงใส่หัวขึ้นมาแล้วจะซวย
     



    “มึงทำเป็นหรอฟ่าง”ผมเดินเข้าไปส่องกะทะ ถามไอ้ฟ่าง มันกำลังทำซอสสปาเกตตี้หมูสับมะเขือเทศสด
     



    “มีหมาบางตัวชอบแดกกูเลยต้องทำ หน้าอย่างกับเกิดที่ปอยเปด เสือกกระแดะชอบสปาเก็ตตี้ แม่ง” ที่ไอ้แทนเดินเข้ามาในครัวเมื่อกี้ คงมาสั่งให้ข้าวฟ่างทำสปาเกตตี้ให้
     

    แต่ถ้าหน้าไอ้แทนปอยเปด กูก็พนมเปญดีๆนี่เอง ไอ้ฟ่างมันก็บ่นไปตามประสาแหละครับแต่มันก็ตั้งอกตั้งใจทำ
     
    “ทำกระเพราไก่ไข่ดาวให้กูด้วยดิ”ผมยิ้มแฉ่ง สะกิดแขนไอ้ฟ่าง มันหันมาทำตาลอร์ดโวลเดอมอร์ใส่ผม เห็นภาพมั้ยครับ


    “กูทำเป็นอย่างเดียว จะแดกก็แดก ไม่แดกก็นู่น ส้มตำปูปาร้าปากซอย” เหี้ยฟ่างมึงชี้ตะหลิวเฉียดคิ้วกูไปนิดเดียว
     

    “เฮอะ มึงอย่าไปขอมันเลยพีม แม่งทำเป็นแค่ของโปรดไอ้แทน เอาไว้มัดใจผัว”
     



    “ถึงไม่มัดเพื่อนมึงก็ไปไหนไม่รอดหรอก หึ อ้าวไอ้เต้ยมึงนั่งมองหน้ากูมันจะอิ่มมั้ยห๊ะ มึงอยากได้มั้ยไอ้คิวน่ะ ถ้าอยากได้ก็รีบแดก สมองจะได้แล่นมีรอยหยักไปคิดหาทางเอามัน แล้วมึง จะยืนเตี้ยเป็นปมด้อยให้ชีวิตน้องกูอีกนานมั้ย ไปหยิบจานมาให้กูเซ่”
     


    “เอ่อ ครับฟ่าง หมาแม่ลูกอ่อนยังไม่ดุเท่ามึงเลย” ผมเดินไปหยิบจานมาให้ฟ่างแบบมึนกับคำด่า เจอหมาในปากไอ้ฟ่างทีไรหมาในปากผมตกงานทุกที  ไอ้เต้ยมันก็รีบจ้วงข้าวเข้าปากจนตาเหลือก คงรีบเอาแรงไปพิชิตไอ้คิว


     
    ………………………………………
     
     
    “ไอ้คิวรู้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน หรือมึงว่าไงเต้ย” หลังจากที่ไอ้ปันมันไปนั่งทางในมา ก็กลับมาพร้อมแผนการอีกครั้ง นี่มึงยังไม่เข็ดไม่หลาบอีกใช่มั้ย


    พวกผมก็นั่งมองไอ้เต้ย รอดูว่ามันจะมีปฏิกิริยายังไง เพราะตั้งแต่เช้ามามันเงียบมาก พูดแทบจะนับคำได้ ตาก็ดูจิตๆยังไงไม่รู้ เหมือนคนที่มีความคิดชั่วๆในหัวอ่ะครับ เออ ประมานนั้นแหละ
     







    “เต้ยจะรุกคิว”
     




    “ห๊ะ
    !!!!


    พวกผมตะโกนลั่นบ้าน คุณแม่บ้านบ้านไอ้เชนวิ่งเข้ามาถามว่าเป็นอะไร เหอๆ ไม่มีอะไรครับ แค่ตกใจที่น้องพวกผมเสียสติไปแล้ว


    “แค่ก แค่ก ฟ่าง กูขอน้ำหน่อย” ไอ้แทนถึงกับสำลัก ไอ้มิคนี่คาบส้อมค้างคาปาก



    “เฮียพีมบอกว่าพี่คิวรู้สึกดีกับเต้ยใช่มั้ย”
    มันถามผมก็จริง แต่ตามันจ้องอยู่ที่จอทีวีที่ไม่ได้เปิด ชนิดไม่กระพริบตาเลย



    “อะ เอ่อ ใช่ มันบอกว่าเวลาอยู่ใกล้มึงแล้วรู้สึกสบายใจ”


    “หึ ดี” ไอ้เต้ย ยิ้มมุมปาก แบบเดียวกับที่ไอ้ฟ่างชอบทำและมันก็กำลังทำอยู่ พวกผมลอบกลืนน้ำลายอย่างกล้าๆกลัว ไอ้ฟ่างมึงแอบไปเสี้ยมสอนวิชาอะไรให้มันรึเปล่าวะ


    “ละ แล้วมึงจะเอาไงต่อ” แม้แต่ไอ้เชน ยังพูดอะไรไม่ออกครับ
     


    “เต้ยคิดดีแล้ว เต้ยจะไม่ปล่อยพี่คิวไปอีก ลองดูซิว่าแค่ผู้ชายคนเดียวเต้ยจะเอามาไม่ได้”
     

    “เต้ย
    !!!



    “ไอ้เต้ย มึงแดกอะไรผิดสำแดงรึเปล่าวะ ไอ้เชนมึงเอาอะไรให้น้องกูกิน” ไอ้แทนหันไปถาม


    “เปล่านะเว้ย กูก็อึ้งอยู่เนี่ย”



    “ดีมากเต้ยน้องรัก เราจะดำเนินแผนการเดิมต่อ ยิ่งรู้ว่าไอ้คิวมีใจแบบนี้ยิ่งสนุก มันหึงมึงแน่ ไอ้พีมมึงแน่ใจนะว่าไม่ได้เผลอหลุดปากบอกไอ้คิวไปเรื่องที่ไอ้เชนเป็นแฟนปลอมๆกับไอ้เต้ย”


    “เออ กูก็พูดเท่าที่เล่าให้พวกมึงฟังนั่นแหละ”
     




    “เอาล่ะแผนต่อไป ต้องทำให้ไอ้คิวมันรู้ใจตัวเอง”
    ไอ้ปันมันเอามือประสานกันบนตัก เหมือนจะพยายามขรึมนะครับ แต่ผมกับไอ้ฟ่างหลุดขำ ดูยังไงก็ฮาวะแม่ง กูคิดเป็นอื่นไม่ได้จริงๆปัน



    “กูว่ามันรู้แล้วนะ แค่ไม่กล้ายอมรับ”
    ไอ้แทนพูด

    “นั่นแหละ เราต้องกระตุ้นมัน อาจจะเหมือนเร่งไอ้คิวไปบ้าง แต่ก็เพื่อความสุขในบั้นปลายของมัน พวกมึงไม่ต้องห่วง” มันน่าห่วงตรงที่มึงเป็นคนคิดแผนนี่แหละปัน
    ไม่รู้ผมบ้าทำตามมันไปได้ยังไง


    “กูว่าให้เวลาไอ้คิวอีกหน่อยดีกว่านะ มันคงสับสน พวกมึงลองคิดดูนะเว้ย อยู่ๆรู้ว่าคนที่กวนกันทุกวันคือรักแรก มึงจะทำยังไง ต่อให้ยังรักยังแคร์อยู่ ใช่มั้ยเต้ย”
    จากสภาพไอ้คิวที่ผมเห็นเมื่อคืน มันน่าสงสารนะครับ

    “ไม่”
    ไอ้เต้ยตอบแบบเสียงดังฟังชัดมาก ถ้าต่อใส่ลำโพงนี่จะแจ่มมาก ไม่ใช่แระ ฮ่าๆ


    “อ้าว ทำไมวะ”




    เต้ยเจ็บมาตั้งหลายปีนะเฮีย ก็ในเมื่อพี่คิวรักเต้ยเหมือนกัน จะช้าทำไมละ เสียเวลา”



    “โอ้วววววว แรงครับน้อง อะไรสิงมึงวะ”
    ไอ้มิคเข้าไปจับ ลูบๆคลำๆแขนไอ้เต้ย เหมือนเป็นของแปลกสุดแสนมหัสจรรย์แห่งยุค
     



    “เหนือฟ้ายังมีฟ้า กูว่าไอ้ฟ่างน่ากลัว เจอไอ้เต้ยเข้าไป มึงเป็นคนดีเลยว่ะฟ่าง”
    ไอ้ปัน มึงพูดอะไรนี่ไม่ได้กลัวชีวิตจะหาไม่เลยว่ะ กูเจอมาแล้วสองดอกตอนอยู่ในครัว ยังเกร็งมันไม่หาย



    พวกผมนั่งมองหน้ากัน พร้อมกับส่งยิ้มเจื่อนๆให้ไอ้เต้ย มีแค่ไอ้ฟ่างที่เหยียดยิ้มมุมปาก ผมว่าคนที่อยู่เบื้องหลังแล้วผลักดันให้ไอ้เต้ยเป็นแบบนี้คือไอ้ฟ่างนี่แหละ แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาแค่ข้ามคืนไอ้เต้ยถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เหอๆ ขอให้มึงโชคดีว่ะคิว
     






    “ในเมื่อพูดกันดีๆไม่ชอบ จากนี้ไปพี่คิวจะได้รู้ซักทีว่าของจริง มันเป็นยังไง”
     






    ไอ้เต้ย มึงเปลี๊ยนไป๋
     



    ………………………………………..






     
    “กูไปค่าย ไม่ได้ไปเที่ยว มันไม่สนุกหรอก จริงๆ”


    “กูจะไปกับมึง จะไป จาปายยย”
    ไอ้ภูมิลงไปดิ้นพล่านๆอยู่บนโซฟา มันเงยหน้ามามองผมค้อนๆแถบปากก็ยื่นๆ โอ๊ยย กูอยากได้กล้องมาอัดวีดีโอ
     


    “ภูมิ มีเหตุผลหน่อยสิ”



    “ไม่มี ไม่รู้ ไม่เอา ไม่ฟัง”
    มันกอดอกมองผมด้วยหางตา ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ ลูบหัวมันด้วย คิดซะว่ากำลังโอ๋ลูกชาย



    “กูไปเข้าค่าย อีกสามวันก็กลับแล้ว ไม่ใช่กูไม่อยากให้มึงไป แต่นี่มันงานของคณะคนนอกไปไม่ได้ เข้าใจมั้ยครับ”หลักจิตวิทยาที่เคยร่ำเรียนมา ทั้งจิตวิทยาโน้มน้าวใจ จิตวิทยาชักจูง จิตวิทยาเด็กพิเศษ เหอๆ ผมงัดมาใช้หมดเลยครับ จนกูจะเป็นโรคจิตแล้วเนี่ย
     


    “มึงจะไปหากิ๊กละสิ จะทิ้งกูละสิ” มันยังกอดอก ท่าทางฟึดฟัดใส่ผม ถ้าเป็นเด็กหรือสาวน้อยวัยใสทำมันก็คงน่ารักน่ะนะ แต่นี่ไอ้ภูมิตัวอย่างควายนอกจากจะไม่น่ารัก มันยังน่าถีบอีกต่างหาก แต่ก็ถีบไม่ลง มันคงอยากอยู่กับผม
     


    “กิ๊กเกิ๊กอะไรว๊า ที่ไปก็เพื่อนกันทั้งนั้น มีแต่ผู้ชายด้วย”



    “พูดเหมือนตอนนี้คนที่คบกับมึงเป็นผู้หญิง”


    “ก็บอกแล้วไง ว่ามีแต่พวกเพื่อนๆ”



    “ทุก
    10 นาที” มันหันมาบอกผมแบบเอาแต่ใจ


    “ห่ะ
    ?10 นาทีอะไรวะ”



    “กูจะโทรหามึงทุกๆ
    10นาที” แม่เจ้า!!!! พ่อมึงเป็นเจ้าขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยรึไง ไอ่ฟายยยยยย กูฝากถามเรื่อง 3G หน่อยสิ ทำไมเพิ่งมี ใครโกงใครกินไปบ้างกว่าจะประมูลได้ เอ่อ เปลี่ยนเรื่องดีกว่านะครับ เหอๆ



    10นาที? มึงจะไม่ให้กูขี้กูเยี่ยวเลยเหรอครับที่รัก”ไม่เป็นอันทำอะไรพอดี เพราะมัวแต่รับโทรศัพท์ไอ้ภูมิ ผมต้องผูกติดหูเลยมั้ยครับคุณภูมินทร์ครับ


    “งั้น
    15


    20 ได้มั้ย”ผมต่อรองครับ


    17มันก็ไม่ยอม สู้ราคาไม่ถอยเหมือนกัน


    19เหอะกูไม่ได้อะไรเลยนะเนี่ย ไม่ได้บอกผ่านด้วย”



    “งั้นคืนนี้ ไม่ต้องนอน”



    “จัดไป”


    สุดท้ายนิทานเรื่องงองอนและงอง้อก็จบลงที่เตียงฮะ แบบว่าป๋มเด็กชายพีมต้องยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อยุติปัญหา


    ก็เป็นที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่ายครับ เด็กๆจำเอาไว้นะครับว่า ทุกปัญหามีทางออก ส่วนจะออกมากหรือออกน้อยอันนี้ก็ลืมนับ


    เอาเป็นว่าผมได้ฆ่าลูกตัวเองไปหลายล้านชีวิต พ่อขอโทษนะลูกนะที่ทำให้พวกเจ้าไม่มีโอกาสลืมตามาดูโลก กร๊ากกก

    ผมอ่วมอรทัยไปทั้งตัว สะบักสะบอมลุกมากินข้าวไม่ได้เลยละฮะ และแล้วนิทานเรื่องนี้ก็จบลงด้วยเอวังละประการฉะนี้แล
     
     
     


    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>
     



    …………………………………..
     



    สั้นมั้ยคะ สั้นเนอะ สั้นว่ะ แม่งสั้น (เอ้ออ รู้แล้วว่าสั้น) อีนังตาลมันอดใจไม่ไหวคะ มันกะว่าจะละทางโลกไม่แตะต้องคอม ไม่สนใจนิยาย แต่มันทำไม่ได้ เพราะมันเปิดมาดูคอมเม้นอีกที โอ้ววว ทำไมทุกคนต้องเครียดดด



    ก็บอกแล้วว่านิยายเรื่องนี้สดใสสบายคลายเครียด แต่ แต่ แต่ ทำไมตอนที่แล้วทุกคนถึงคิดว่ามันเศร้า แอร๊ยย แค่ซึ้งนิดหน่อยเองคะ อิอิ
     

    นี่มันนิยายสดใส ลัลล๊า ฮาเฮนะคร๊า อิอิ ตอนหน้าจะพาหนุ่มๆไปเที่ยวสวนสนุกคะ หึหึ เจอกันวันพุธ เพราะติดภารกิจนางงาม ของดคอนเซปวันเว้นวันคะ ฮ่าๆ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×