ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #31 : ตอนที่ 29 เผชิญหน้า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 61.51K
      260
      24 มี.ค. 54










    ตอนที่
    29 เผชิญหน้า






     
    ผมจะออกเดินทางไปค่ายวันพรุ่งนี้แล้วครับ จัดกระเป๋าเรียบร้อย ไปประชุมนัดแนะโปรแกรมต่างๆมาแล้วเรียบร้อย เพราะฉะนั้นวันนี้เลยมาเที่ยวฉลองปิดเทอมกับเดอะแก๊งค์
     




    และสถานที่ที่พวกผมเลือกมาก็คือ อือ อือ อือ ดรีมเวิร์ล
    !!!! ไร้ซึ่งคำอธิบายว่าทำไมผู้ชายตัวควายๆสิบคนถึงมาเที่ยวดรีมเวิร์ล อยากรู้ก็ไปถามไอ้ปันดูนะครับ เพราะมันเป็นคนคิด
     


    วันนี้ทุกคนมาแบบชิวๆ แต่ไอ้คุณเชนก็ยังรักษาคอนเซปผู้ชายสอง ส ( สำส่อนกับสำอาง) มันก็มาเต็มครับ ร้อนจะตายห่าเสือกใส่เดฟกับฮู้ด



    ส่วนไอ้แทนกับไอ้ฟ่าง เหอๆ บอกแล้วไงครับ ข้าวฟ่างไม่แค่มัลติมีเดีย(สื่อ มุขพี่อิ๊ด ฮ่าๆ) ใส่เสื้อคู่รักครับพี่น้อง ไอ้ฟ่างใส่คำว่า คนนี้ ไอ้แทนใส่ กูจอง เดินไปด้วยกันมันก็จะได้สองประโยคนี้ครับ คือ คนนี้กูจอง กับ กูจองคนนี้
     


    ไอ้ภูมิก็ไปอ้อนพี่ชาย ว่าก่อนกลับพาไปทำด้วย แล้วไม่ต้องสงสัยครับว่ามันจะเอาไปใส่กับใครถ้าไม่ใช่ผม แต่ถ้าไม่ใช่ผมละก็
    …. หึหึ งานนี้จะได้รู้ว่าคนอย่างไอ้พีมก็โหดเป็น
     


    แต่ประเด็นนั้นมันก็ไม่น่าสนใจเท่าเรื่องที่ว่า นี่เป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของไอ้เต้ยกับไอ้คิว ซึ่งก็ตามคาดครับ เฉยเมยและเย็นชา แถมไอ้คิวยังควงอิงมาด้วย ไอ้เต้ยก็หน้าหดเหลือแค่สองเซน แต่ซักพักมันก็กลับฟื้นคืนชีพเพียงเพราะไอ้ฟ่างไปกระซิบอะไรซักอย่าง จากนั้นไอ้เต้ยกับไอ้เชนก็ไม่ห่างกันเลย



    ไอ้เบียร์กับไอ้มิคก็ควงแฟนมาเปิดตัวเหมือนกัน ไหนไอ้เบียร์มันบอกว่าเลิกกันแล้วไงวะ สงสัยตอนนั้นจะงอนแต่ตอนนี้คงคืนดีกันแล้ว



    แฟนไอ้คุณชายเบียร์ดูเรียบร้อยดีครับ เธอยิ้มเก่ง ไม่ถึงกับสวยมากแต่ก็ดูได้เรื่อยๆ จะอธิบายยังไงดีวะ คือเธอดูมีเสน่ห์ ดูได้ไม่เบื่อ แบบนี้แหละสเป็กผมเลย อิอิ ไอ้ภูมิกระแอมเรียกผม ตอนที่ผมเผลอมองใบปอแฟนไอ้เบียร์บ่อยและนานไปหน่อย แหะๆ
     



    แฟนไอ้มิคก็สวยเปรี้ยวมาเลย ก็นะสเป็กมันก็ไม่มีอะไรมาก ขาว สวย หมวย และ
    …. เหอๆ ก็ตามนั้นครับ เธอชื่อ น้ำขิง ไอ้แทนแซวใหญ่ว่าคอแห้ง อยากดื่มน้ำขิงให้ชุ่มคอ



    พอน้ำขิงกับไอ้มิคเดินไปซื้อของกิน ไอ้ฟ่างก็ถามไอ้แทนว่าเอาน้ำใต้ศอกกินรอไปก่อนมั้ย เพราะมันมีเยอะ


    ไอ้แทนยิ้มร่าตอกกลับว่า ไม่อยากได้น้ำใต้ศอกขอน้ำใต้หว่างขาข้าวฟ่างละกัน เสื่อมมาก ไอ้ฟ่างแทบกระอักเลือด ปกติไอ้แทนไม่ใช่คนลามก แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับถ้ามีข้าวฟ่างอยู่ใกล้ๆมัน

    รายของไอ้ปันกับไอ้แมทบอกว่าหล่อเลือกได้พวกมันเลยฉายเดี่ยว มาหาเอาข้างหน้า หึ
     

    สาวๆเค้าก็สนิทกันเร็ว ผู้หญิงนี่ก็แปลกนะครับ ไม่รู้จักกันมาก่อน แค่ถามเรื่องเครื่องสำอางว่าใช้ยี่ห้อไหน ดันเม้าท์ติดลมซะงั้น
    ไอ้เบียร์กับไอ้คิวต้องช่วยกันแงะแฟนพวกมันออกจากกัน
     



    ……………………………….




     
    แผนการกระชากความรู้สึกไอ้คิวก็เริ่มมาได้ซักพักแล้วครับ ไอ้เชนกับไอ้เต้ยนี่แทบจะทำให้น้ำตาลท่วมดรีมเวิร์ล มันจูงมือกันอ่ะครับตั้งแต่ลงจากรถ แม่งอย่างแนว คนนี่มองกันเหลียวหลัง เพราะมีผู้ชายหล่อสองคนเดินจูงมือกันให้ดู
     

    มีสาวๆกลุ่มนึงกรี๊ดพวกมันด้วย เข้ามาขอถ่ายรูป เห็นชมว่าเหมาะสมกันมาก หล่อทั้งคู่ ถามกันใหญ่ใครเคะใครเมะ พวกผมก็งงกันตาแตก ก็พวกเธอพูดไทยอยู่ดีๆทำไมกลายเป็นภาษาญี่ปุ่นไปได้ คือผมไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นอ่ะครับ รู้จักแต่ โออิชิ ฟูจิ ฮาจิบัง อาโออิ มิยาบิ อิคึ
     


    พอถ่ายรูปจนสาแก่ใจ สาวๆกลุ่มนั้นก็อวยพรให้ไอ้เต้ยกับไอ้เชนให้รักกันนานๆ ผมกับภูมิมองหน้ากันแล้วหันไปยิ้มคนละทาง เชี่ยเอ๊ย ผู้หญิงสมัยนี้คิดอะไรแปลกๆ ผมเขินไปด้วยเลยเห็นมั้ย
     
    แต่ไอ้คิวเพื่อนรักของผมนี่สิ มองไอ้เต้ยซะตาขวาง  ผมไม่คิดว่ามันจะออกอาการขนาดนี้ พวกไอ้ภูมิคงไปใส่ใฟไว้แน่ๆ




     
    “เป็นไรวะมึง หน้าเป็นตูด ขี้ไม่ออกเหรอวะ” ผมนั่งลงข้างๆไอ้คิวระหว่างรอไอ้เบียร์กับภูมิไปซื้อบัตร

    วันนี้เสี่ยฟ่างเลี้ยงครับ มันบอกทำบุญให้เด็กกำพร้าสติปัญญาบกพร่อง หึ ส่วนสาวๆเค้าก็ไปถ่ายรูปหน้าทางเข้า มีไอ้น้องแมทเป็นตากล้องให้ มากันสิบกว่าคนก็ขนกล้องมายังกับร้านกล้องดิจิตอลเคลื่อนที่
     

    “เปล่า” เสียงนิ่งมาก ตาก็มองไอ้เชนกับไอ้เต้ยที่เดินสวีทไม่กลัวฟ้าผ่าอยู่หน้าดรีมเวิร์ล



    “เต้ยร้อนมั้ยคะ” ไอ้เชนซับเหงื่อให้ไอ้เต้ยระหว่างเดินผ่านม้านั่งของผมกับไอ้คิวไป ไอ้เชนมันใส่แว่นกันแดด ผมเลยไม่เห็นว่ามันทำสายตายังไง แต่ไอ้เต้ย มีขยิบตาให้ผมด้วย เฮียฟ่างมึงสอนมาดีหรือว่าสันดานมึงเป็นแบบนี้อยู่แล้ววะเต้ย
     


    “หึ วันก่อนหมาตัวไหนมันตะโกนบอกรักใส่หน้ากูวะ”
    ไอ้คิวแค่นหัวเราะ มองตามไอ้เชนกับไอ้เต้ยด้วยหางตา หึหึ เก็บอาการบ้างครับเพื่อน นี่แหละนะเค้าถึงบอกว่า ของบางอย่างกว่าจะเห็นค่าก็ตอนจะเสียมันไป ดีนะที่ไอ้คิวมันจะเสียไอ้เต้ยไปแบบปลอมๆ


    “ก็มึงถามมันว่าตามมึงมาเรียนที่นี่ทำไม ก็เพราะมันรักมึง แต่ตอนนี้ก็อย่างที่มึงเห็น กูว่าไอ้เต้ยกับไอ้เชนก็ไปกันได้ดีนะ มึงว่ามั้ย”
    คิดว่าไอ้เต้ยกับไอ้เชนแสดงเป็นแค่สองคนเหรอ แอ็คติ้งผมก็ไม่น้อยหน้าใครนะครับ


    “ไม่รู้โว้ย ไม่ได้สนใจ แม่งประเจิดประเจ้อ”
    นี่ขนาดมันไม่สนใจนะครับ โอยยย ไอ้ปากแข็งฟอร์มจัด ปากหนัก แม่งหมั่นไส้โว้ย


    “คิว มึงอย่าพาลดิวะ ถึงยังไงพวกมึงก็เคยรู้สึกดีต่อกันมาก่อน”

    “เออ เคยรักแล้วไงวะ ก็แค่อดีต”

    “คิว มึงพูดอะไรก็กลัวน้องมันเสียใจบ้าง อีกอย่างมึงระวังอดีตกับปัจจุบันจะเป็นคนๆเดียวกันล่ะ”

    “เชี่ยพีม ไปไกลๆตีนกูเลยสัด นู่นไปหาที่รักมึงนู่น ห่าภูมิหล่อขึ้นทุกวันนะมึง”
    ไอ้คิวด่าผมแล้วชิ่งหนีไปหาแฟนมัน เชี่ยเอ๊ย ด่าเฉยๆไม่ได้ ต้องตบหัวกูด้วยใช่มั้ย ไอ่ฟายยยย
     


    “เป็นไร แหกปากทำไม” ไอ้ภูมิเอาบัตรปึกนึงตีหน้าผากผม มันยื่นบัตรให้ทุกคนยกเว้นผมเพราะมันใจดีเก็บไว้ให้


    พอผ่านประตูดรีมเวิร์ลเข้ามาไอ้ภูมิก็ลากผมเข้าร้านเสื้อผ้า อย่าบอกนะว่าจะซื้อเสื้อผ้าที่ดรีมเวิร์ล มันเดินดุ่มๆไปที่โซนหมวก ยืนมองอยู่สองวิแล้วก็หยิบหมวกทรงฟักทองมาสองใบ แล้วก็ไปจ่ายเงิน แล้วก็เอามาวางแหมะไว้บนหัวผมหนึ่งใบ อีกใบมันก็ใส่เอง มันทำภารกิจทั้งหมดนี้ภายในเวลาไม่ถึงห้านาทีครับ ก่อนจะลากผมออกมาหาพวกเพื่อนๆที่รออยู่ข้างนอก
     
    “ใส่ไว้ บอกแล้วไงไม่ชอบคนดำ”


    “ไม่ดำหรอกน่า กูไม่ชอบใส่หมวก มันเกะกะ” ผมดึงหมวกออกจากหัว แต่ภูมิก็ยื้อไว้ สรุปก็ต้องใส่ บอกแล้วว่าคนอย่างไอ้ภูมมิถ้ามันต้องการ มันต้องได้
     



    ……………………………………



     
    อาจเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมคนเลยเยอะ พ่อแม่ก็พาลูกๆมาเที่ยว วัยรุ่นอย่างพวกผมก็เยอะเหมือนกัน ทั้งไทยทั้งเทศ เสียงดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของดรีมเวิร์ลก็ยังคงส่งเสียงไปทั่วบริเวณเหมือนทุกครั้ง ไอ้เต้ยกับไอ้แมทกอดคอกันวิ่งนำหน้า เหมือนเด็กสิบขวบ



    ไอ้เบียร์กับแฟนก็เดินแบบผู้ดีกันไป คู่ของไอ้มิคนี่ยังกับตลกคาเฟ่ ไอ้มิคพูดน้ำขิงฮา น้ำขิงพูดไอ้มิคฮา ไอ้ปันก็เดินเล่นกับอิง คุยเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ เห็นสาวหน่อยแม่งทำเป็นโชว์พาว โด่ เมื่อวานมันยังถามผมอยู่เลย สงคราโลกครั้งที่สองเยอรมันอยู่ฝ่ายไหน แม่งถามมาได้ มันเรียนรัฐศาสตร์นะ
     


    ส่วน ไอ้เชน ไอ้คิว ไอ้ภูมิ ผม และคู่รักแห่งปีแทนฟ่างเดินรั้งท้าย ไอ้คู่รักแทนฟ่างก็แหย่กันไป ส่วนมากไอ้แทนเป็นคนแกล้ง บิดนมไอ้ฟ่างบ้าง จี้เอวบ้าง ขัดขาบ้าง ไอ้ฟ่างก็ทำได้อย่างเดียวครับ ด่า
    หึหึ ไอ้ภูมิก็ไม่ทำอะไรเดินหล่อกอดคอผม
     


    “เต้ยมันน่ารักเนอะ มึงว่ามั้ย” ไอ้เชนถามพลางกอดคอไอ้คิว เหอๆ บางทีคนที่ร้ายเงียบอย่างไอ้เชนก็อาจจะอันตรายที่สุดก็ได้นะครับ

    “หึ”


    “กูรู้เรื่องของพวกมึงสองคนแล้วนะ กูเข้าใจว่าพวกมึงเป็นแค่อดีต มึงเป็นเพื่อนกู มึงเจ็บกูก็เจ็บ แล้วก็ดีใจด้วยที่มึงเจอรักใหม่อย่างอิง”


    “กูไม่เคยมีรักใหม่” ไอ้คิวหันไปมองหน้าไอ้เชนตรงๆ ไอ้เชนทำหน้ากวนส้นมาก นี่มึงเรียนทันตะหรือนิเทศเอกการแสดงวะ ไอ้ฟาย และก่อนที่ไอ้เชนจะปั่นหัวไอ้คิวจนสติแตกมากไปกว่านี้ ไอ้ตัวแสบมันก็มาได้เวลาเหมือนเจตนา



    “พี่เชน ไปถ่ายรูปคู่กับเต้ยเร็ว” ไอ้เต้ยลากแขนไอ้เชนไปนั่งตรงซุ้มประตูหัวใจ ให้ไอ้แมทถ่ายรูปให้ ปล่อยให้พี่คิวของมันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้หัวใจตัวเองอยู่กับที่


    “หึ ไงมึง ถูกหมาเพื่อนรักแย่งไปแดก ซึมเลยสิ” ไอ้ภูมิผลักหัวไอ้คิว มันก็หันมาชักสีหน้าใส่


    “ซึมเหี้ยไร กูปกติเหอะ”


    “อ๋อ ใช่ ตอนนี้มึงปกติ ถึงไอ้เชนจะเอาไอ้เต้ยให้ดูมึงก็ไม่เป็นไร” ไอ้แทนโผล่เข้ามากอดคอไอ้คิวแทนไอ้เชน พวกกูไม่ได้ตั้งใจจะรุมมึงนะคิว ที่ทำอยู่นี่ก็เพื่ออนาคตมึงทั้งนั้น หึหึ


    “สัดแทน แล้วมึงจะ
    ” ผมสะกิดไอ้คิวให้มันเลิกพูดเพราะอิงเดินมาแล้ว


    “คิวไปถ่ายรูปกัน ไปถ่ายรูปด้วยกันมั้ยคะ” อิงดึงแขนไอ้คิว แล้วหันมาชวนพวกผม


    “ไม่เป็นไรครับ ตามสบาย ถ่ายรูปกับคนสวยแล้วกลัวใจสั่น”
    อิงหัวเราะมุขเสี่ยวๆของไอ้แทน แล้วขอตัวไอ้คิวไปถ่ายรูป แทนมึงจะพูดอะไรก็ช่วยดูคนข้างหลังมึงบ้างนะ ด้วยความปรารถนาดีจากกู
     


    “กูแม่งหมั่นไส้ไอ้คิว ทำไมมันปากแข็งแบบนี้วะ”
    ไอ้ปันถอยลงมาเดินข้างพวกผม


    “เออน่า คนมันสับสน แค่วันสองวันมึงจะให้มันยอมรับได้รึไงวะ” ไอ้แทนกับไอ้ปันถึงกับส่ายหน้า ผมรู้ว่ามันอยากเห็นไอ้เต้ยสมหวังและอยากให้ไอ้คิวมีความสุข แต่ทุกอย่างมันก็ต้องใช้เวลา และเราก็กำลังใช้เครื่องทุ่นเวลาอย่างไอ้เชนช่วยอยู่ไง


    “กูว่ามันก็เกินคาดแล้วนะ ออกอาการซะขนาดนี้”
    อยากตะโกนเป็นภาษายาวี ไอ้ฟ่างคิดเหมือนผม



    “ทีกูรู้ตัวว่ารักฟ่าง กูยังบอกแม่งวันนั้นเลย จะรออะไร ใช่มั้ยภูมิ ไอ้พีมมันเป็นเบ๊อยู่ดีๆ มึงยังเลื่อนขั้นเอามันมาทำเมียได้ ฮ่าๆๆ”
    หมาที่ไหนมันจะชัดเจนต่อความรู้สึกตัวเองแบบมึงล่ะแทนไอ้เหี้ยยยยย
     




    ………………………………………



     
    ขณะนี้มีบางคนกำลังจะเป็นลมเพราะไวกิ้งครับ ถือยาดมไม่วางเลย ไอ้น้องแมท ฮ่าๆ ตอนแรกมันจะไม่เล่นแต่ไอ้เต้ยวิ่งรอบตัวมันพร้อมกับตะโกนว่า ไอ้แมทน้องพี่ป๊อด ไอ้แมทน้องพี่ป๊อด เชี่ยแมทก็ลมออกหู หลับหูหลับตาขึ้นไปนั่งเรือเหาะ  ลงมาแบบขาสั่นหน้าซีดมาก ฮ่าๆ น้ำขิงเลยเอายาดมให้มัน
     


    “ควายตัวไหนบอกกูว่านั่งหัวเรือจะไม่เสียว สาดดดดดดด หัวใจกูแทบหยุดเต้น”สาวๆหัวเราะไอ้ปันกันใหญ่ มันก็เป็นอีกหนึ่งรายที่น่าสงสารครับ มันนั่งข้างผม เชี่ยปันกรี๊ดตุ๊ดแตกมาก


    “ไอ้ภูมิมันบอก จัดการมันเลย มันแกล้งมึง” ผมชี้ไอ้ภูมิ มันหัวเราะแล้วผลักหัวผม



    “มึงเงียบไปเลยเตี้ย มึงก็เกาะกูแน่นเหมือนกันเหอะ”


    “โม้ กูจับมึงตอนไหนไอ้แห้ง” ผมไม่ได้เกาะแขนมันนะ ผมโดยใส่ร้าย


    “พอๆ เรื่องผัวเมียเก็บไปเคลียร์ที่บ้าน สาวๆอยากเล่นอะไรต่อครับ” ถุย เชี่ยมิคทำแอ๊บเป็นสุภาพบุรุษ บรรดาสาวๆก็บอกว่าแล้วแต่


    “งั้นเต้ยขอเสนอรถไฟตะลุยอวกาศ ป่ะๆ”
    ไอ้เต้ยนี่ก็บ้าพลังเกิน เล่นไอ้นี่เสร็จก็จะต่อไอ้นั่น นอกจากมันจะไม่กลัว มันยังขอเล่นอีกรอบ ก่อนจะมาเล่นไวกิ้งพวกผมประเดิมเฮอริเคน เล่นเสร็จทุกคนต้องยืนรอไอ้เต้ยเล่นต่ออีกสามรอบ คือรอบเดียวผมก็มึนๆแล้ว



    “มึง เออ พี่ว่าพักก่อนดีกว่า” ไอ้เชนคงมึนๆ เลยลืมบทคนรักผู้แสนดี ผมว่าอันนี้ไม่ใช่การแสดงแล้วล่ะ ฮ่าๆ

    “โหยย พักทำไม เต้ยอยากเล่น ปะๆ”
    ยิ่งไอ้นี่ นิสัยแบบนี้ ไม่ได้แกล้งทำ มันดื้อ มันซนโดยสันดานครับ

    “เอาแต่ใจ” ไม่ใช่เสียงไอ้เชนครับ หึหึ พี่คิวของไอ้เต้ยนั่นแหละ

    “ทำไมล่ะ ก็ใจเต้ย ไม่เกี่ยวกับพี่คิวซะหน่อย”


    “เออ ก็ไม่ได้อยากเกี่ยวหรอกโว้ย แต่กูสงสารเพื่อนกู ต้องคอยเอาใจเด็กดื้อๆอย่างมึง” อิงสะกิดแขนไอ้คิว เธอคงคิดว่าพวกมันจะทะเลาะกัน แต่พวกมันไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังเป็นตัวของตัวเอง เหมือนทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน ไอ้คิวกับไอ้เต้ย มักจะเป็นแบบนี้เสมอ


    “ถึงเต้ยจะดื้อ เต้ยก็ดื้อกับพี่เชน พี่เชนเต็มใจจะเอาใจเต้ย พี่เชนไปกับเต้ยนะ เต้ยไม่อยากอยู่ใกล้พี่คิว” พอไอ้เต้ยมันคว้ามือไอ้เชน หันหลังให้ไอ้คิว ก็ยักคิ้วให้พวกผม ใบปอที่ไม่รู้เรื่องก็ถึงกับงง
    ไอ้คิวก็กัดฟันกรอดๆ
     



    สุดท้ายก็ไปต่อรถไฟตะลุยอวกาศตามที่ไอ้เต้ยแนะนำ ชื่อน่ารักนะ แต่แม่งหัวใจกูแทบวาย ผมไม่เคยเล่นเพราะมาทีไรไอ้เครื่องเล่นนี้ก็มีปัญหา เลยไม่เคยลอง ตอนนี้ได้ยินแต่เสียงไอ้เต้ยกับไอ้ฟ่างตะโกนมันส์สะใจ


    ภูมิบอกว่าอย่าหลับตาเพราะมันจะเสียว มันเหมือนเวลาเราขับรถลงสะพาน หรือเนินสูงๆ หัวใจเหมือนหยุดเต้น แบบมันวูบไปเลยครับ ผมก็แหกปากแข่งไอ้ปันที่ตะโกนเป็นภาษาอะไรไม่รู้ ผมจำได้ประมาน “ไอ้เหี้ยยยย ปล่อยกูลง”



    “เฮ้ย อิง ไหวป่าวเนี่ย” พวกผมแซวอิงขำๆ เธอหน้าซีดมาก แต่ก็พยายามยิ้มให้พวกผม


    “อิงเกือบช็อคอ่ะ ไม่ไหวแล้ว ขอไปนั่งรอที่ฟู้ดสเตชั่นนะ น้ำขิงกับใบปอไปด้วยกันมั้ย”


    “อืมก็ดีนะ ปอไปกับอิงนะเบียร์ ร้อนอ่ะ”

    “เอางั้นเหรอ ให้เบียร์ไปด้วยมั้ย”
    ราชนิกูลเบียร์ไม่อยากจากแฟน แต่ตามันก็ว้อนอยากเล่นกับพวกผมมาก


    “ไม่เป็นไร เบียร์เที่ยวกับเพื่อนเถอะ แต่ถ้าจะเข้าเมืองหิมะ ไปเรียกด้วย” แล้วสามสาวเค้าก็ไปรอที่ฟู้ดสเตชั่น ไอ้คิวไอ้เบียร์ไอ้มิคก็เดินไปส่ง พร้อมหอบกระเป๋า หอบเป้ทั้งของแฟนและของพวกผมไปด้วย
    พวกผมก็ยืนรอพวกมันกลับมา พลางคิดว่าจะเล่นอะไรต่อ
     
     “พวกมึงเล่นไรต่อวะ”

    “ขออะไรเบาๆนะพี่ ตับไตไส้พุงผมย้ายที่หมดแล้ว”

    “หึหึ มึงเล่นไม่ได้แล้วจะเสือกเล่นทำไมว่ะแมท ถ้าเล่นมันต้องเล่นเอามันส์ดิวะ”

    “ก็น้องพี่แทน แม่งท้าผม”

    “ก็กูอยากให้มึงเล่นด้วย ดูดิพวกเฮียเค้ามีเพื่อนตั้งหลายคน กูมีมึงคนเดียว กูก็อยากเล่นกับเพื่อน เพื่อเพื่อนมึงทำไม่ได้เหรอวะ”


    “ไอ่สัด กูซึ้งมาก มึงก็เล่นกับพี่เชนของมึงไง รักมากไม่ใช่เหรอ” อื้อหือ ไอ้แมทมันเชือดนิ่มๆ ปากว่าตาขยิบ คือปากด่าไอ้เต้ยแต่ตามองไอ้คิว พวกผมขำมันสองตัว เลยตกลงกันว่าจะต่อที่ซุปเปอร์สแปช


    ผมก็ถอดหมวก ถอดรองเท้าเตรียมเปียกแล้วก็เปียกจริงๆ
    โคตรมันส์ อันนี้ผมกับไอ้ภูมิขอสองรอบ แต่ไอ้เต้ยสี่รอบ ไอ้เชนเกือบอ้วกเพราะต้องเล่นด้วยทุกรอบ



    “หนาวมั้ย” ภูมิจับไหล่ผม ตอนที่เราเดินไปหาเครื่องเล่นอันใหม่ ไอ้เต้ยวิ่งนำหน้าไปนู่นแล้ว


    “ไม่ มึงหนาวเหรอ”

    “ถ้าได้กอดคนแถวนี้ก็คงหาย” ไอ้ภูมิอมยิ้ม เหล่มองผม สาดดด

    “ให้มากกว่ากอด เอาป่ะ”

    “อย่าท้าพีม”

    “หึหึ ครับ คุณภูมิท้าไม่ได้ ลดๆลงบ้างนะความหื่นมึงน่ะ”

    “แฟนน่ารัก ลดไม่ได้”

    “ใครก็ได้หยิบกระโถนให้กูหน่อย กูอยากสำรอก” เชี่ยมิคพอแฟนไม่อยู่ต่อมรั่วก็ทำงานเลยนะมึง ไอ้ฟ่างผลักหัวผมแล้วกอดคอน้องมัน ชวนกันเหล่สาวจีนด้วย 

    “มีแฟนหล่อก็ต้องทำใจนะ” ผมตบไหล่ไอ้แทน ยิ้มกวนๆ

    “อืม จะว่าไป สูงๆหล่อๆแบบไอ้ฟ่างกูก็เอาบ่อยแล้ว ขอลองเตี้ยๆขาวๆซักครั้งเถอะวะ” มันเลียปาก ทำตาอุบาท ผมก็ถอยสิครับ

    “เหี้ย อย่าเข้ามานะ กูถีบจริงๆนะเว้ย”

    “หึหึ”

    “อ๊ากกก ภูมิช่วยกูด้วย ไอ้แทนจะปล้ำกู”
    ผมวิ่งดักหน้าดักหลังไอ้ภูมิ พวกเชี่ยนั่นก็ดันหัวเราะ

    “เฮ้ย อย่าไปรังแกมัน ปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติ”

    “ไอ้ภูมิ ไอ้ลูกหมา” มันผละจากฟ่างมากอดคอผมเดินไปต่อที่สกายโค้ดเตอร์ วัดใจแล้วสินะ
     


    “เอาแล้วไงกู”  ไอ้ปันพึมพำแหงนหน้ามอง คนที่กำลังเล่นสกายโคทเตอร์ เสียงกรี๊ดนี่สุดๆเลยครับ “พีมถ้ามึงรอดไปได้ ฝากบอกพ่อบอกแม่กูด้วยนะ กูรักพวกท่านมาก”
    ถึงกับสั่งเสียเลยเพื่อนกู

    “มึงกลัวแล้วจะเล่นทำไมวะปัน”

    “ศักดิ์ศรี”
    ถุย เหตุผลแมนมาก ไม่ใช่กลัวโดนล้อว่าป๊อดเหรอวะ

    สกายโคทเตอร์ก็นั่งเป็นคู่ พวกผมก็ส่งซิกให้ไอ้เชนไปนั่งคู่ไอ้ปัน แล้วไอ้คิวจะนั่งไหนได้ละครับ ถ้าไม่คู่ไอ้เต้ย ไอ้ปันกับไอ้เชนคู่หน้าสุด กลัวแล้วเสือกไปนั่งหน้านะปัน ถัดมาก็ไอ้แทนกับไอ้ฟ่าง ไอ้คิวกับไอ้เต้ย แล้วก็ผมกับภูมิ   ไอ้เบียร์นั่งกับไอ้มิค
    ส่วนไอ้แมทมันขับรถคุณปู่รออยู่ข้างล่าง 
     
     

    “มองหน้าทำไม ผิดหวังเหรอที่ไม่ได้นั่งกับพี่เชนของมึง”
    เอาแล้วเว้ย ระหว่างรอให้คนเต็ม ไอ้คิวกับไอ้เต้ยก็เปิดศึกครับ


    “พี่คิวนั่นแหละที่ผิดหวัง พี่คิวเกลียดเต้ย”

    “เป็นหมอดูเหรอหรือเป็นบ้า ถึงได้คิดแบบนั้น”

    “ก็จริงมั้ยล่ะ พี่คิวไม่คุยกับเต้ย พี่คิวไม่เหมือนเดิม”

    “ใครกันแน่ที่ไม่เหมือนเดิม” เอ้ววว ผมกับไอ้ภูมิคงยิ้มชั่วพอกัน คิวเอ๊ยมึงรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าอดีตกับปัจจุบันของมึงมันซ้อนทับกัน 



    เจ้าหน้าส่งสัญญานว่าให้เช็คดูความเรียบร้อย ภูมิก็ก้มดูเช็คความปลอดภัยให้ผม โอเค พร้อม


    “กลัวมั้ย” ภูมิหันมาถามผม


    “แค่นี้สบ๊าย พี่เทพครับน้อง”


    “หึหึ หลังๆมานี่มึงชอบมาเป็นแพ็กเกจนะพีม”

    “แพ็กเกจไรวะ”

    “น่ารักแถมฮาด้วย แบบนี้รักตายเลย”
    จุก ไอ้แสรดดดดดดดด

    “ภูมิ”

    “หื้ม”



    “ไอ้เหี้ย กูเขิน อ๊ากกกกกกกก” ผมด่ามันก็ตอนที่ไอ้เครื่องเล่นมันออกตัว หัวแทบหลุด มึงจะแกว่งไปไหนครับ
    แต่มันส์มาก ตะโกนจนเสียงแหบ




    …………………………………..


     
    “เหี้ยเอ๊ย ใครคิดไอ้เคื่องเล่นนรกนี่วะ” ไอ้ปันลงไปนั่งยองๆแขนเกยหัวเข่า มันเมาครับ ไอ้เชนบอกว่าไอ้ปันร้องไห้ด้วย เพราะมันอยากลง พวกผมก็วนเกือบทุกอย่าง เล่นแบบลืมตาย ไอ้เต้ยเล่นแต่ละอย่างไม่ต่ำกว่าสองรอบ ตอนนี้ได้เวลาไปรับสาวๆมาเล่นเมืองหิมะ



    “แม่งหนาวสัด” ไอ้แทนกอดอกปากสั่น มันจะไม่หนาวขนาดนี้ถ้าพวกผมไม่ได้เปียกก่อนเข้ามา เพิ่งไปเล่นแกรนแคนยอร์น ไอ้คิวเรียกซะเสีย ล่องแก่ง อิงใส่เสื้อขาวมา พอโดนน้ำก็เลย อ่านะ คิวมันก็ถอดเสื้อเชิ้ตของมันคลุมให้ มันใส่เสื้อยืดอีกตัวข้างใน ไอ้เต้ยทำหน้าทำตาเหมือนอยากจะกระโดดงับเสื้อ ฮ่าๆ



    “พี่เชนนนน” อยู่ดีๆ ไอ้เต้ยก็เอาหัวไปวางบนอกไอ้เชน ไอ้คิวหันไปมองแทบจะทันที

    “หื้ม ว่าไง จะเอาอะไรคะ”

    “เต้ยคอแห้ง หิวน้ำ”

    “พี่บอกแล้วว่าอย่าซนไง หื้ม ทำไมเต้ยไม่ฟังคะ ไว้ออกไปค่อยกินนะ”


    “ครับ เต้ยไม่หิวแล้วก็ได้”


    “บ๊ะ ได้ใจกูจริงๆ” ไอ้แทนก้มมากระซิบข้างหูผม หน้าไอ้ฟ่างที่รักมึงก็เลวได้ใจกูเหมือนกัน ไปสอนวิชากันเพิ่มอีกรึเปล่าวะ


    ไอ้เชนจับแก้มไอ้เต้ย ห่าเชนจะเล่นอะไรไม่บอกไม่กล่าว ไอ้เต้ยกระพริบตาปริบๆสองครั้งด้วยความงง มันรีบซ่อนรอยยิ้มเลวๆ เข้าไปยืนใกล้ๆไอ้เชน
    ไอ้คิวก็ได้แต่กำมือแน่น กว่ามึงจะยอมรับใจตัวเอง ไอ้เชนกับไอ้เต้ยต้องสมสู่กันให้มึงดูมั้ยวะคิว
     
     
     
    ผมกับไอ้แทนทนไม่ไหวต้องไปลากคอมันมาคุย ปล่อยคนอื่นเล่นสไลด์น้ำแข็งไป มีอันนี้แหละที่ไอ้น้องแมทมันเล่นแบบไม่ฝืนใจ มันบอกเห็นน้ำแข็ง เห็นหิมะแล้วคิดถึงแดดดี๊ เออ ไอ้ลูกกตัญญู
     

    “คิว กูถามอีกครั้ง มึงรักอิงเหรอ”
    ผมเปิดประเด็น

    “เปล่า”
    ผมกับไอ้แทนมองหน้ากัน จริงๆก็รู้คำตอบอยู่แล้ว

    “รักไอ้เต้ยเหรอ”
    สมกับเป็นแฟนไอ้ฟ่าง ตรงได้ใจกูมาก

    “กู
    …….

    “คิดก่อนตอบ เอาให้แน่”

    “กูไม่รู้ แต่ไม่ชอบที่มันไปอี๋อ๋อกับไอ้เชน”

    “หึง
    ?

    “น่าจะหวงมากกว่า”

    “แม่งแล้วทำเก๊กนะสัด” ไอ้แทนตบหัวไอ้คิวเน้นๆ “ไอ้เชนกับไอ้เต้ยเพิ่งเริ่มคบกัน กูว่าใจมันยังไม่ลืมมึงหรอก รีบไปทวงคืนตอนนี้ไม่สาย”
    ไอ้แทนมันพยายามจะบอกว่า รักแท้ต้องแย่งชิง รักไม่จริงต้องเสียสละ กูพูดถูกมั้ยแทน คึ


    “มึงบ้าเหรอแทน กูไม่เอาของเพื่อน” คราวนี้เงียบกริบ เออ ก็จริง เห็นเจ้าชู้แบบนี้ แต่พวกมันไม่เคยทับทางกันเลยนะครับ ของๆเพื่อนไม่แตะ แม้จะมีกรณีมาเสนอให้เอง


    ไอ้คิวเจอบ่อย เด็กไอ้แทน เด็กไอ้เชน ชอบมาหลังไมค์กับมัน เพราะเจอเซอร์ๆ ติสๆแบบไอ้คิวคงโดนใจ วันต่อมาถูกไอ้แทนไอ้เชนสลัดทิ้ง โทษฐานรบกวนเพื่อนมันให้รำคาญ


    “ไอ้เต้ยยังไม่ได้เป็นของไอ้เชนนี่หว่า น่าเชื่อกู” ผมตบไหล่ไอ้คิว ยิ้มให้กำลังใจมันด้วย พวกมันกอดคอกันโดยมีผมอยู่ตรงกลางจะหนีบกูแบนแล้วสาดดดด



    “เราจะเห็นคุณค่าของบางอย่างก็ต่อเมื่อเสียมันไป แต่นี่มึงยังไม่เสีย มึงรักมัน มันรักมึง สองคนรักกัน แฮปปี้ อึ๊บๆ” ผมเตะขาไอ้แทน ตลอดนะมึง ใต้เข็มขัดตลอด



    “คิดดีๆนะคิว คิดไม่ออกก็บอกพวกกู แค่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง ลองรักคนที่มึงรักมันไม่ยากหรอก เชื่อกูนะเพื่อน” ไอ้แทนตบไหล่ไอ้คิวอีกครั้ง พวกผมก็เดินออกมาให้เวลามันได้คิด ไอ้ภูมิโบกไม้โบกมือเรียกผมให้ดูมันกับไอ้ปัน ไอ้ฟ่าง กำลังจะสไลด์แข่งกัน


    “มันว่าไง” ไอ้เชนปรี่มาถาม


    “ไม่นานเกินรอ เตรียมส่งตัวไอ้เต้ยเข้าหอ”
    ผมยืดอกตอบ
     

    “ดีมาก ถึงเตี้ยแต่ก็มีสาระ มิน่าไอ้ภูมิถึงหลงมึงนัก ฮ่าๆ” มันสองตัวกอดคอกัน หันหลังให้ผม โมโหแม่ง ปากดีนักใช่มั้ยไอ้หมอฟันดะ ผมคว้าเกร็ดน้ำแข็งปาใส่หลังพวกมัน ไอ้เชนยอมคนซะที่ไหน มันก็ปากลับ ไอ้เหี้ย เต็มเบ้าตากูเลย
     


    พวกผมเล่นสไลด์ไปหลายรอบมาก ไอ้แทนกับไอ้ฟ่างแทบจะสิงกัน เล่นรอบไหนมันก็นั่งซ้อนกอดเอวกันตลอด แต่ผมกับภูมิยังไม่กล้าขนาดนั้น เราเล่นคนละอันแล้วจับมือกันแค่นั้น
     


    เล่นไปเล่นมาไอ้ภูมิตาดีชี้ให้ผมดูไอ้คิว มันกำลังปัดน้ำแข็งออกจากผมไอ้เต้ยครับ ประหนึ่งว่าเป็นเกร็ดหิมะโปรยปรายกลางกรุงโตเกียว เฮ้ย ไม่เอา ไม่ไปญี่ปุ่น เปลี่ยนเป็นหิมะโปรยปรายกลางกรุงโซล เออค่อยเข้าท่าหน่อย




    แล้วมันก็ลากกันไปหลังสโนว์แมนตัวใหญ่ที่ไร้ผู้คน ผมกับภูมิมองตากันแล้วรีบไปแอบดู ซักพักมนุษย์อีกหนึ่งคู่ก็ตามมา ไอ้แทนกับไอ้ฟ่าง แม่งเสือกตลอด (ผมไม่เสือกเลยเนอะ แหะๆ)
     


    “พี่คิว เต้ยเจ็บ” เห็นได้ชัดว่ากำลังตอแหล
    แต่อาจจะเจ็บจริงก็ได้เพราะไอ้คิวบีบข้อมือมันซะขนาดนั้น

    “เออ กูมันไม่อ่อนโยนเหมือนไอ้เชน”
    พระเอกกำลังประชด


    “แล้วพี่เชนเกี่ยวอะไรด้วย ห้ามว่าพี่เชน”
    นางเอกก็ประชดกลับ คุณประจักษ์กับโสรยา (น่าจะคนละเรื่องนะ)

    “หึ แตะต้องไม่ได้เลยนะ ทำไม มันก็เพื่อนกูทำไมกูจะว่าไม่ได้”


    “เพราะพี่เชนเป็นแฟนเต้ย เต้ยไม่ชอบให้ใครมาว่าพี่เชน โอ๊ย เจ็บนะโว้ย พี่คิวปล่อยสิวะ”
    ไอ้คิวมันแรงควาย มึงดิ้นไปเถอะเต้ย ดิ้นให้ตายก็ไม่หลุด เพราะเฮียเจอมาเยอะ กูรู้ดี


    “ขึ้นวะกับกูเหรอ แล้วไปเรียกมันว่าพี่ทำไม”
    เน้ เป็นไงล๊า มีเรียกร้องสิทธิ์ด้วยแหละ


    “ทำไมจะวะไม่ได้”

    “พูดจาไม่น่ารักเลยนะ”
    ไอ้ฟ่างทุบหลังไอ้แทนดัง อั๊กๆ มันคงสะใจ ที่ผลงานออกมาดี

    “ก็ไม่ต้องมารัก ปล่อยยยย”


    “ไอ้เต้ยแม่งแรด”
    ผมว่า พร้อมอมยิ้มมีความสุข ไม่รู้สิ แต่ผมว่ามันสองคนน่ารักดีว่ะ ไอ้เต้ยมันนิสัยเด็กละมั้ง


    “เหมือนมึง”
    ไอ้แทนด่าผม

    “เหมือนเมียมึงแหละสัด”
    ไอ้ภูมิด่ามันกลับ พี่ชายมันเลยมองแทบจะกัดหัวน้องตัวเอง
     
     


                                    ……………………………………
     



    เล่นจนเหนื่อยก็ได้เวลาพักกินข้าวเอาแรง มื้อนี้ขอฝากท้องไว้กับผู้พันแล้วกัน กินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยคาร์บั้ม ผมก็ดันลืมว่าพวกไอ้ภูมิ มันนักแข่งรถ แม่งแค้นอะไรกูมากมั้ย ชนเอาๆ แทบอ้วกเอาไก่ออก
     
     


    “ไอ้แทน นั่นบ้านผีสิงนะมึง ไม่ใช่โรงแรม เข้าไปรีบออกมาล่ะ อย่ามัวแต่ทำไอ้ฟ่างครางแข่งกับเสียงครวญของผี ฮ่าๆๆ”พวกผมกำลังเมามันส์กับการแซวไอ้ฟ่าง แต่บางทีก็เซ็ง แซวอะไรไปมันก็ไม่เขินไม่อาย ร้ายกว่านั้นมันดันหอมแก้มกันโชว์
     


    คือ พวกกูอ่ะรับได้ แต่ช่วยเกรงใจสาวๆเขาบ้าง ไอ้ฟ่างบอกว่า ถ้ารับเพื่อนแฟนไม่ได้ ก็อย่าคบต่อเดี๋ยวจะจบไม่สวย นี่มึงจะติสแตกไปไหนข้าวฟ่าง
     


    ไอ้เบียร์กับแฟนเข้าไปก่อน ตามด้วยไอ้แทนกับฟ่าง ไอ้มิคกับน้ำขิงขอบายเพราะกลัวผีทั้งคู่ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาแบบลับๆของพวกผม ไอ้คิวกับไอ้เต้ยครับ มันเข้าไปด้วยกัน ออกมาไอ้เต้ยหน้าแดง ก้มหน้าก้มตาเดิน ไอ้คิวก็หน้าตายหน้านิ่งเกินปกติ ผมส่งสายตากวนตีนมัน ไอ้คิวก็ยักไหล่ แม่งมันทำอะไรกันวะ


    “จะเข้ามั้ย”
    ภูมิถาม


    “เข้าดิ ทำไม หรือมึงกลัว” ผมยิ้มล้อไอ้ภูมิ


    “กลัวจะอดใจไม่ไหว ฆ่าปาดคอมึงในนั้นว่ะ”


    “แหม ตัวเอง ตัวเองกล้าฆ่าเค้าหรอ”


    “หึหึ ขนลุกว่ะพีม” มันดึงมือผมเข้ามา
     มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลานนะครับว่าผมกับภูมิจูบกันในบ้านผีสิง
     


                                   ……………………………………



    เที่ยวมาทั้งวัน ตอนนี้สภาพแต่ละคน ปวกเปียกมากจะขับรถกลับไหวรึเปล่าก็ไม่รู้ พวกผมถ่ายรูปบ้าๆบอๆก่อนกลับบ้าน ระหว่างรอสาวๆไปเข้าห้องน้ำ



    “ภูมิ โอ๊ตจะคุยด้วย” ไอ้ฟ่างยื่นโทรศัพท์ให้น้องมัน ไอ้ภูมิยิ้มรีบรับมาคุย”
     



    “หวัดดีครับ
    …. ภูมิอยู่สวนสนุกมาเที่ยวกับเพื่อน…. สนุกสิ แล้วโอ๊ตอยู่ไหน ใช่ฟ่างมากับแฟน เคยสิ โอ๊ตเคยเจอแล้ว …..ภูมิก็มากับแฟน อยากเห็นก็กลับบ้าน แม่บอกว่าโอ๊ตไม่คิดถึงบ้าน…. อื้อภูมิปิดเทอมแล้ว โอ๊ตกลับมาหาภูมินะ ไม่เอาหรอก ภูมิไม่ชอบอยู่ในป่า ….ภูมิก็คิดถึงโอ๊ต ฟ่างชอบแกล้งภูมิ ก็ได้ เดี๋ยวภูมิโทรหา” ไอ้ภูมิคุยโทรศัพท์กับพี่ชายได้น่ารักมาก
     

    “ใส่ไฟกูตลอด กูไปแกล้งมึงตอนไหนไอ้น้องเวร เดี๋ยวไอ้โอ๊ตก็มาด่ากูอีกแม่ง”


    “ช่วยไม่ได้ มึงบอกแม่ทำไมเรื่องที่กูไม่กินข้าว”


    “ก็เพราะเวลามึงปวดท้อง กูจะซวยไง เป็นกระเพาะแล้วไม่เจียม” ไอ้พี่น้องสองคนก็งุ้งงิ้งๆใส่กัน ซักพักพี่ชายพวกมันก็โทรกลับมาอีก ไอ้ภูมิแย่งโทรศัพท์ไอ้ฟ่างมาคุย
     


    “กูจะไปเข้าห้องน้ำ ไปป่าว”
    หันไปมองใครก็ไม่มีใครสนใจ แกล้งไม่ได้ยินอีกต่างหาก ฮึ๋ย ไอ้ภูมิก็คุยโทรศัพท์ “ไม่มีหมาตัวไหนมีน้ำใจจะไปเป็นเพื่อนกูเลยใช่มั้ย กูไปคนเดียวก็ได้โว้ย” ผมเดินแกมวิ่งมาห้องน้ำคนเดียว ไอ้พวกเพื่อนเวรจำไว้เลยนะ จำไว้ๆ
     



    “พีม พีม”
    เสียงเรียกชื่อผม ติดจะสั่น เหมือนคนเหนื่อย พอหันกลับไปมองผมก็แปลกใจ ทำไมมันบังเอิญจัง


    “ไอ้คลื่น มึงมาทำอะไรวะ”
    คลื่นมันยืนหอบแฮ่กๆ ยกมือโบกไปมาเพราะอ้าปากพูดไม่ได้ ผมเลยหลุดขำท่าทางตลกๆของมัน มึงคงไม่ได้วิ่งตามกูมาใช่มั้ย


    “มาสวนสนุก
    ….กูคงมากรีดยางมั้ง”


    “ห่า กวนตีนนะมึง”

    “หึหึ กูพาน้องมาเที่ยว นั่งกินข้าวอยู่เห็นมึงเดินผ่านน่ะเลยวิ่งตาม นึกว่าไม่ใช่ซะอีก”

    “คงกะจะวิ่งมาตบหัวชาวบ้านเค้าไปทั่วล่ะสิ”

    “โหยย อย่าเจ้าคิดเจ้าแค้นดิวะ กูขอโทษมึงไปหลายรอบแล้วนะ”


    “เออๆ ล้อเล่นหรอก เฮ้ย กูปวดฉี่ เดี๋ยวมาคุยต่อ”

    “เหรอ เออไปดิ เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน”


    “อ๊ากกก แม่งจะราดแล้ว สาดดด” ผมวิ่งไปรูดซิบไปแทบไม่ทัน พอถึงที่หมายก็ปล่อยเต็มที่ เฮ้อออ โล่ง ความสุขเกิดขึ้นได้เสมอ อิอิ


    “ไม่ไปฉี่ในห้องน้ำวะ” ผมหันมามองไอ้คลื่นที่ยืนก้มหน้าให้กระจก


    “กูแค่ฉี่ ไม่ได้ขี้ เข้าห้องน้ำทำไม” ผมจัดการเก็บน้องพีมเข้าที่เข้าทาง ล้างมือเรียบร้อย ไอ้คลื่นก็ยังยืนก้มหน้า หูแดงๆ

    “เฮ้ยเป็นไรวะคลื่น ตัวแดงๆนะมึง เมาแดดเหรอ”


    “เอ่อ เปล่าๆ”


    “เออ วันนั้นที่มึงรีบกลับ ที่บ้านมีเรื่องอะไรเหรอ โอเคยัง”


    “อ๋อ น้องกูขับรถเฉี่ยวคนว่ะ พ่อเลยเรียกไปดู”


    “เหรอวะ แล้วเป็นอะไรมากมั้ย”


    “โอเคแล้ว คนที่โดนเฉี่ยวก็ไม่เป็นอะไรมาก น้องกูก็ไม่เป็นไรมั้งเห็นมันเล่นไวกิ้งไปหลายรอบ” มันพูดด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนเดิม


    “อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แล้วมึง เฮ้ย
    !!!….” ผมกับไอ้คลื่นตะโกนพร้อมกัน ที่ผู้ชายคนนึงทำเป๊ปซี่หกใส่ผม เพราะมีเด็กวิ่งไล่กันเข้ามาในห้องน้ำ เลยชนพี่เขา แล้วพี่เขาก็เซมาโดนผมอีกที


    “เฮ้ยน้อง พี่ขอโทษ” พี่คนนั้นรีบขอโทษผมใหญ่ ส่วนเด็กน้อยสองคนวิ่งหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้



    “ไม่เป็นไรครับ” อ่า เป๊ปซี่เต็มเสื้อกูเลย พี่เขาขอโทษผม แล้วไปจัดการธุระของตัวเอง ก่อนไปก็ยังมาขอโทษอีก เหอๆ อุบัติเหตุ ผมเข้าใจ ไม่เป็นไรครับพี่
    ผมก้มมองสภาพตัวเอง เสื้อเลอะตั้งแต่ตรงหน้าอกลงไป เซ็งเลย จะกลับบ้านแล้วแท๊แทไอ้พีมเอ๊ย ผมรองน้ำมาลูบๆเสื้อ ถึงจะล้างคราบไม่ได้แต่อย่างน้อยจะได้ไม่เหนียว


    “มากูช่วย”


    “ไม่เป็นไร จิ๊บๆ กูจัดการได้”


    “ทำแบบนั้นเดี๋ยวก็เปียกทั้งตัว มานี่ กูช่วย” คลื่นมันก็ใจดีช่วยผมเช็ด


    “แม่งเหนียวว่ะ กูถอดซักเลยดีกว่า”


    “เฮ้ย ไม่ต้องๆ จะเป็นชีเปลือยรึไง เดี๋ยวกูเช็ดให้ มึงยืนเฉยๆเหอะน่า”


    “โหยมึง ก็แม่งเหนียวอ่ะ”


    “เออ อยู่นิ่งๆดิพีม
    ….” ไอ้คลื่นมันทำตาดุๆ ใส่ แถมยังจับแขนผมไม่ให้ยุ่งกับเสื้อด้วย คลื่นมันเปิดน้ำมาลูบเสื้อผม แล้วก็เอาผ้าเช็ดหน้าของมันมาเช็ดให้ด้วย ผมก็เลยต้องยืนนิ่งๆให้มันช่วยเช็ด
     



    “มึงปล่อยเมียกูได้รึยัง” 
    น้ำเสียงเย็นๆดังขึ้น ทำให้ผมกับคลื่นหันไปมองคนที่ยืนอยู่ที่ประตู
     
     


     
    “ภูมิ”
     
     



     
    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
     



    ………………………………………..




    คึคึ หลบหน่อยพระเอกมา ขอโทษที่มาช้านะคะ แต่ช้าก็ดีกว่าไม่มา ชิมิ อิอิ
    ไอ้น้องเต้ยสำนึกไว้ด้วยว่าตัวอ่ะเป็นน้องอย่าริอาจไปรุก กรั่กๆ
    รักแบบอุดมคติมันก็ดีคะ แต่ตาลมิปลื้ม ยังไงมันก็ต้องมีสามคู่ เอ๊ะ รึสี่คู่ดีน๊า หึหึ เลขสามนี่แหละกำลังดี ตาลว่าจะทำบทสัมภาษณ์หนุ่มๆมาให้อ่าน ใครจะฝากถามอะไรคนไหนมั้ยเอ่ย เดี๋ยวตาลหอบไปถามมาให้ หุหุ
    ปลๆ สองตอนที่แล้วมีคำผิดเกลื่อนกลาด ทำไมไม่เตือนตาลบ้างละคร๊า แอ๊ อับอาย
     
    ตอบเม้น น้อง AorAir นะคะ เม้นน้องยาวยาวมากกกกกกกกก ฮ่าๆ ขอบคุณมากๆเลยคะ
    พี่ขอเป็นกำลังใจให้นะคะเรื่องสอบเอ็นทราน(สมัยยี้แรกแกตแพทใช่มั้ย) ถ้าน้องทำเต็มที่ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง ไม่ต้องเสียใจคะ ภูมิใจเถอะว่าครั้งนึงชั้นก็ได้ทุ่มเททำมันดีที่สุดแล้ว แต่พี่ตาลก็ขออวยพรให้น้องติดมหาลัยที่หวังเอาไว้นะคะ ตั้งใจเรียน และอย่าจริงจังกับชีวิตมาก ลัลล๊าแบบพี่ดีกว่าฮ่าๆๆ เรื่องเพื่อน ถ้าเราจริงใจ แล้วเค้าก็จริงใจ นั่นคือเพื่อนแท้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็โบกมือลาโลดดด ฮ่าๆ สู้ๆนะคะ
     
    ส่วนเรื่องรูปอิมเมจที่มีคนถามว่าพวกเขาเป็นใคร ตาลไม่รู้จักเลยคะว่าเขาแต่ละคนเป็นใคร ยกเว้น รูปของภูมิ พีม แล้วก็น้องเต้ย(เอ็นดูน้องเต้ยเป็นพิเศษ เพราะชอบมาหลายปี) นอกนั้นเก็บได้ตามเว็บ หน้าตรงตามที่ตัวเองคิดไว้เลยเอามาให้ดูคะ อิอิ หล่อ ถูกใจมั้ยคะ






     

     
      










     









    คิดซะว่ากำลังวิ่งตามพีม อิอิ




     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×