ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 33 ละครชีวิต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 56.48K
      248
      4 พ.ค. 54










    ตอนที่
    33 ละครชีวิต


     
     
    พวกผมกลับถึงกรุงเทพก็เกือบสองทุ่ม เพื่อนๆน้องๆที่ไปออกค่ายก็ช่วยกันขนของ ยกกระเป๋าลงจากรถ เสร็จก็แลกเบอร์ แลกเฟช แลกพินแลกแคน อิอิ
     


    ผมในฐานะสวัสดิการก็ต้องแบกหามเยอะกว่าชาวบ้าน ผมแบกกล่องใส่สีใส่พู่กันเข้าไปเก็บในห้องสโมเป็นอย่างสุดท้าย ก็มีรุ่นน้องมาไหว้ลาหลายคน รวมถึงเพื่อนๆที่จะไม่ได้เจอกันหลายเดือนในช่วงปิดเทอม
     

    “ไอ้วอเตอร์ มานี่ดิ๊” ไอ้น้องบัดดี้ตัวดีของผม โบกมือลาสาว รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาผมตามคำสั่ง “ขายหม้อตลอดนะมึง”

    “แหม เพื่อนกันน่ะพี่”

    “หึ ตอบเหมือนดาราเลยนะมึง แล้วนี่กลับยังไงวะ”

    “พ่อมารับ นั่นไงมาแล้ว งั้นผมไปนะพี่พีม เดี๋ยวจะโทรหา”

    “เออ เจอกันปีหน้า มาเป็นรุ่นน้องพี่ให้ได้นะเว้ย”

    “คร้าบบบ รอรับผมเป็นน้องได้เลยพี่” ไอ้วอร์เตอร์ตะเบะท่าเหมือนตำรวจ มันวิ่งถอยหลังโบกมือให้ผม หึหึแล้วเจอกันนะว่าที่เด็กศิลปกรรม



    “พีม กระเป๋า”

    “เฮ้ย ว่าอยู่ทำไมตัวเบาๆ ลืมกระเป๋านี่เอง แหะๆ ขอบใจเว้ยคลื่น”

    “หึหึ ไอ้บ๊อง”
    ผมรับกระเป๋าจากคลื่นเรายืนคุยกันก่อนจะไม่เจอกันอีกหลายเดือน ตอนนี้คนอื่นๆทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างก็ทยอยกลับใกล้จะหมดแล้ว
     
     
    “งั้นกูกลับแล้วนะ เจอกันเปิดเทอม”

     “เออ เจอกันเปิดเทอมเว้ย”

    “ร่ำลากันเสร็จรึยัง”

    ซวยแล้วกู ไอ้ภูมิแม่งโผล่มาได้เวลามาก ชะรอยว่าชะตาผมใกล้จะขาด เพราะไอ้ภูมิมายืนทำหน้าทศกัณฑ์อยู่ใกล้ๆ ถ้าจะใกล้ขนาดนี้ก็ขึ้นขี่คอกูเลยเถอะ แถบยังโอบไหล่ผมเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอีกต่างหาก

    “ว่าไงล่ะ ลากันเสร็จรึยัง”

    “ยัง
    …. เหลือจูบลา”ไอ้คลื่นก็ยอมซะที่ไหนมันยิ้มที่กวนไอ้ภูมิได้


    “มึงเป็นเหี้ยไรกับแฟนกูนักหนาวะ ห๊ะ”


    “เฮ้ยๆหยุด หยุดเลย ถ้ามึงสองตัวชกกันอีก กูจะชกด้วย เอาดิ” ผมถลกแขนเสื้อเตรียมพร้อม คราวนี้ไอ้พีมเอาจริงนะเว้ย “โอ๊ย เชี่ยแม่ง พวกมึงตีกูทำไมวะ อูยย เจ็บๆ”

    “เตี้ยแล้วอย่าซ่ามาขู่กู”

    “ใช่ ขาสั้นๆอย่าซ่า”



    “เออ ทีอย่างนี้ล่ะสามัคคีกันนะพวกมึงอ่ะ” เหมือนพวกมันเพิ่งระลึกชาติได้ จากยิ้มๆ รีบหุบปากหันหน้าไปคนละทาง อะไรกัน พวกมันต้องทำร้ายร่างกายผมก่อนใช่มั้ยถึงจะสมานฉันท์ได้ เหอๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ ผมไม่เสียสละเพื่อชาติขนาดนั้น


    “เอาน่า ยังไงก็เพื่อนๆกันนะ พวกมึงเป็นแบบนี้กูไม่สบายใจนะเว้ย ไหนบอกว่ารักกูไง อยากเห็นกูไม่สบายใจเหรอ” ต้องเอาจุดอ่อนพวกมันมาต่อรอง คึคึ


    “มันบอกรักมึงเหรอ” อ้าว ทำไมไอ้ภูมิมันไม่คล้อยตามวะ ผมได้แต่เกาหัว เกาคิ้ว ไม่รู้จะพูดยังไง ปล่อยให้แม่งจ้องหน้า แยกเขี้ยวแฮ่ๆใส่กันไปเหอะ


    “เฮ้ยพีม กูลับก่อนนะ ฝากบอกแฟนมึงด้วย ว่ากูก็ทำได้แค่บอก” คลื่นสะพายเป้ โบกมือลาและยิ้มให้ผม ตบท้ายด้วยการหันไปยักคิ้วใส่ภูมิอีก ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของที่บ้านที่มารอรับ
    ส่วนคนของผมเนี่ย ปากยื่นจนจะถึงจมูกแล้ว


    จนผมต้องจับมันไว้ไม่ให้กระโดดไปงับหัวไอ้คลื่น โอยยยย ผมเลิกวาดรูปแล้วไปฝึกเป็นกรรมการห้ามมวยท่าจะรุ่งกว่ามั้ยเนี่ย ไปออกค่ายสามวันยังไม่เหนื่อยเท่าอยู่กับมันสองตัวสามนาทีเลยครับพี่น้องคร้าบ





    “ภูมิ ไหนเมื่อคืน มึงบอกว่าเข้าใจไง” เมื่อคืนผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ภูมิฟัง ทั้งเรื่องที่คลื่นสารภาพรัก เรื่องที่นอนเตียงเดียวกัน เพราะผมไม่อยากมีความลับกับภูมิ


    แม้ว่าเรื่องที่บอกอาจจะทำให้ภูมิไม่สบายใจ แต่ผมว่ามันก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ ก็ในเมื่อเราเป็นแฟนกัน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกัน ผมกับมันก็ต้องแชร์กันได้ทุกเรื่อง



    เราก็เหมือนคนๆเดียวกัน
     


    “เออเข้าใจ แต่กูหมั่นไส้มัน แม่งชอบทำตัวหล่อเวลาอยู่กับมึง” เด็กมากภูมิ


    “เอ๊า ก็มันหล่อจริงๆ”


    “ชมชู้ต่อหน้าผัว อยากตายใช่มั้ย ห๊ะ” เชี่ย ผมกระโดดตะครุบปากมันแทบไม่ทัน 


    “อ้าว แอบมาพลอดรักอยู่นี่เอง กูล่ะเดินหาซะทั่ว มาเร็วไอ้ปันจะทำพิธีแล้ว” คุณชายเบียร์โผล่มาได้เวลาพอดี แต่ผมไม่สนใจ กระโดดเกาะหลังไอ้ภูมิ ฮ่าๆ นานๆทีจะได้แกล้งมันต้องเอาให้คุ้ม แต่จริงๆคือผมหมั่นเขี้ยว ไม่เจอกันแค่สามวัน ภูมิมันหล่อขึ้นนะนั่น แฟนใครว๊า คึคึ


    “อื้อ อ๋อย อู ไอ่เอี้ย”
    ไอ้ภูมิพยายามดิ้นออกจากมือผม ทั้งจะสลัดผมให้ตก แต่ไสเจียเสียใจนะเฟ้ย กูอ่ะเหนียวพอๆกับตุ๊กแกเลยล่ะภูมิ ฮ่าๆ แล้วอะไรมันเย็นๆวะ เฮ้ย เชี่ยภูมิถุยน้ำลายใส่มือผม ไอ้ฟายยย แหยะๆ


    “ด่ากูเหี้ยเหรอ ห๊ะ กล้าด่ากูเหี้ยใช่มั้ย” งับหูแม่งเลย


    “โอ๊ย เจ็บนะพีม กูพูดว่าเตี้ยโว้ยไม่ใช่เหี้ย แม่ง ทั้งหูหนวกทั้งมือเค็ม อี๋”
     


    “เฮ้อ มีคู่ไหนปกติบ้างมั้ยเพื่อนกู”


    “ทำบ่นนะมึงไอ้เบียร์ แล้วกูจะรอดูคู่ของมึง ขอให้ปกตินะเว้ย ฮ่าๆ”
     


    …………………………………………
     



    ภูมิมันมารับผมที่มหาลัย ไม่ได้มาคนเดียวด้วย หอบกันมาทั้งโขยง มึงจะมาทำไมกันเยอะแยะเนี่ย กูแค่กลับจากกาญจนบุรีไม่ใช่เฮติ ไม่ต้องมาต้อนรับ หรือว่าจะมาดำเนินการตามแผนรุกฆาตของไอ้ปัน เออๆสงสัยจะใช่ ว่าแต่คู่รักแห่งปีแทนฟ่างก็มาแบบ เหี้ย จูงมือ ทีเมื่อคืนแทบจะเป็น
    2499อันธพาลเผาเมือง
     

    “ไง ดีกันแล้วเหรอ”

    “หึหึ นี่ใครครับ แทนไทนะครับ จัดหนักแปบเดียวข้าวฟ่างขี้คร้านจะใจอ่อน จริงมั้ยจ๊ะที่รัก”

    “กร๊ากกกกกกกก” พวกผมพร้อมใจกันขำ ไอ้ฟ่างเหมือนมีไฟลุกท่วมตัวครับ ฮ่าๆ สะใจโว้ย

    “จัดหนักบ่อย ระวังช่วงล่างไม่ดีนะฟ่าง”


    “ปากแบบนี้ระวังจะตกเป็นเมียพี่ชายผัวแบบไม่รู้ตัวนะไอ้เตี้ย”


    “หึ กูไม่เล่นเลสกับมึงให้เปลืองตัวหรอก
    ….ข้าวฟ่าง” ผมยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆไอ้ฟ่าง อยากทำร้ายไอ้ภูมิดีนัก กูแก้แค้นแทนมึงแล้วนะภูมิ ฮ่าๆ ไอ้ฟ่างเงียบเลย


    ให้มันรู้ซะบ้างว่าไอ้พีมก็เคยเข้าใกล้ความตายมาแล้ว คำเตือน ไม่ควรลองดีกับไอ้ฟ่างเกินปีละ
    2ครั้งเพราะอาจจะทำให้คุณตายเร็วกว่าอายุไขจริง


    “สะวักลีเพี่ยนๆ กูคิกเถือนพวกเมืองที่สวด” เชี่ยปันมาถึงแม่งก็ทักทายเป็นภาษาเหี้ยไรไม่รู้
    ช่วงนี้ไอ้ปันมันคลั่งพี่แอนนา ชวนชื่น คนที่เล่นหนังตลกแล้วพูดสำเนียงจีนๆอ่ะครับ น้าแกพูดไม่ชัด



    ไอ้ปันมันเลยยกให้เป็นไอดอล เหตุผลคือ น้าแอนนาพูดไม่รู้เรื่องแต่คนฟังกลับเข้าใจ มันเลยอยากทำมั่ง หารู้ไม่ว่าที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้พวกผมก็แทบจะแปลจากไทยเป็นไทย ไอ้ปันมันพูดรู้เรื่องครับ แต่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจแค่นั้นเอง



    “แล้วพระเอกล่ะ ไอ้คิวอยู่ไหน” ไอ้มิคถามถึงไอ้คิว
    พวกผมถึงได้มองหา เห็นมันกำลังคุยกับน้องๆกลุ่มสุดท้ายก่อนที่น้องจะโบกมือบ๊ายบายกันว่าแต่ ไอ้เชนล่ะเหมือนผมจะเห็นมันแวบๆ หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้


    “เฮ้ย หาที่ซ่อน เร็ว”
     


    เพราะตอนนี้มืดแล้วและเป็นช่วงปิดเทอม ในมหาลัยเลยเงียบยิ่งกว่าป่าช้า ผมมั่นใจว่าหน้าตึกคณะศิลปกรรมตอนนี้มีแค่พวกผมสิบเอ็ดคน ว่าแต่กูมาแอบซุ่มอะไรอยู่หลังพุ่มไม้วะ สาดดดด อ๋อมาแอบดูละครชีวิตเรื่องยาว เรียลลิตี้แห่งปี ไอ้คิว ไอ้เต้ย ไอ้เชน


    “พวกมึงคอยดูนะ องค์บากต้องชิดซ้าย ทรานฟอเมอร์ต้องหลีกทาง เพราะนี่คือตำนานรักนักล่ากบ บทประพันธ์ในท่านปัน”


    “เรื่องเหี้ยอะไรของมึงไอ้ปัน”


    “ชู่ว์ ซินกูล่าหน่อยดิวะไอ้ภูมิ”

    “ซินกูล่าอะไร”

    “เบาๆ”



    ป้าบ สามป้าบ มือไอ้ภูมิ มือผม มือไอ้เบียร์ รุมสะกำหัวไอ้ปัน มันหันมาทำตาเหวี่ยงใส่ก่อนจะคลานไปหาพวกไอ้ฟ่างไอ้แมทไอ้แทนที่แอบอยู่หลังรถ รู้สึกจะลงทุนกันมาก ไอ้มิคนี่ถึงกับปีนต้นไม้ มึงเป็นห่วงน้องจนลืมสวัสดิภาพของตัวเองเลยเหรอมิค
     


    “พี่เชน”
    มาแล้วครับ มาแล้วๆ ไอ้เชนเดินออกมาจากมุมมืดมุมหนึ่งซึ่งคงจะนัดแนะกับไอ้เต้ยไว้แล้ว เออดีว่ะ เหมือนได้ดูละครเวทีแบบไม่ต้องเสียเงิน นักแสดงพร้อม บท ฉาก บ็อกกิ้งแต่ละจุดก็เปะ สงสัยจะซ้อมมาดี


    “ว่าไงคะ เหนื่อยมั้ย” แสรดดดด มียีหัวไอ้เต้ยด้วย สุดยอดดด ไอ้เชนมึงเอาสันดานจริงมาเล่นป่ะวะ ถ้าให้ไอ้เบียร์นะป่านนี้ไอ้เต้ยคงต้องเริ่มเอง


    “ไม่เหนื่อยครับ แต่ง่วง เต้ยนอนดึก”


    “เด็กซน แล้วไหนกระเป๋า”
    ตุ้บ กระเป๋าของไอ้เต้ยหล่นลงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้น ไอ้คิวมันทิ้งลงพื้น พวกผมก็ยิ้มซิ เออ สนุกๆ


    “อ้าวคิว มึงเป็นไรวะ ทำไมไม่วางดีๆ เกิดมีอะไรแตกทำไง”


    “ไม่เป็นไรหรอก มันไม่ใช่ของกู” อะแหนะ แอบมีความหมายแฝง มันไม่ใช่ของกู อะโด่


    “อ้าว แล้วของใคร”

    “ของเต้ยครับพี่เชน พี่คิวช่วยถือ”

    “อ๋อ งั้นก็ขอบใจนะที่ช่วยถือให้แฟนกู เต้ยคะ วันนี้ไปค้างบ้านพี่นะ มันดึกแล้ว พ่อกับแม่พี่ก็ไม่อยู่”


    “ไอ้เชนแม่ง ตีบทแตกเกิ๊น”
    ไอ้เบียร์พึมพำๆ กูก็ว่างั้นแหละเบียร์ ถ้าให้มึงเล่นนะ ป่านนี้ไอ้เต้ยคงต้องทั้งเล่นเองชงเอง


    “แล้วทำไมไอ้คิว มันทำหน้าส้นตีนแบบนั้นว่ะ” จริงครับ หน้าไอ้คิวเหมือนโมโหอะไรมา


    “ไอ้เชนมันแกล้งคุยโทรศัพท์กับสาวให้ไอ้คิวได้ยิน ตามบทก็ประมานว่า มันยังไม่มีแฟน คนที่คบอยู่ก็แค่เล่นๆ ไอ้คิวก็เลยฉุนแทนไอ้เต้ย แบบที่มึงเห็น”


    “เฮ้ย แม่งแจ่มว่ะ ใครคิดวะ”

    “กูเอง”

    “แล้วถ้าให้มึงเล่น มึงทำได้ป่ะว่ะ”ไอ้ภูมิถามซี้มัน


    “ทำด๊าย พอดีมีพรสวรรค์”


    “มันแรงก็ตรงนี้แหละเบียร์” ผมส่ายหัวเซ็งๆ กับความมั่นใจเกินเหตุของคุณชายเบียร์ หันกลับมาดูละคร ตอนนี้ไอ้เชนหิ้วกระเป๋า จูงมือไอ้เต้ยเดินเคียงไหล่กันไปแล้วครับ ตอแหล แหลทั้งพี่ทั้งน้อง
    “เฮ้ยเชน เดี๋ยว” แค่นั้นแหละครับ ทันที่ไอ้คิวเรียกไอ้เชนไว้ เชี่ยเต้ยแม่งหันมาขยิบตาให้พวกผม
     


    แรว๊ง กูจะปั้นลูกโลกทองคำผสมท็อปอาวอร์ดไว้ให้มึงสองคนนะ


    “อืม มีไรวะ”

    “กูไปค้างด้วยดิ กู เอ่อ ไม่มีใครมารับว่ะ”

    “อ้าว แล้วพวกไอ้พีมล่ะ”


    “มันคงกลับไปแล้วมั้ง มึงก็เห็นว่าเหลือแค่เราสามคน”


    “งั้นกูไปส่งมึงที่บ้านก่อนก็ได้”


    “เฮ้ยไม่ต้อง จะวนรถกลับไปกลับมาให้เสียเวลาทำไมวะ ไปบ้านมึงเลยง่ายดี” แหม จะตามไปเฝ้าไอ้เต้ยอ่ะดิ
     


    “อยากไปค้างกับกูหรืออยากไปอยู่กับไอ้เต้ย มึงคิดว่ากูโง่เหรอ ที่กูไม่พูดเพราะมึงเป็นเพื่อนรักกู
    มึงกับกูไม่เคยผิดใจกันเพราะเรื่องผู้หญิง” ผมเกือบหลุดหัวเราะคำพูดของไอ้เชน ตอนนี้พวกมึงก็ไม่ได้ทะเลาะกันเพราะผู้หญิงนะไอ้สัด กร๊ากกกก


    “เงียบทำไมล่ะ มึงรู้มั้ยกูผิดหวังแค่ไหน ที่เพื่อนสนิทคิดสวมเขาให้กู มึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอคิวว่ามึงกับไอ้เต้ยทำอะไรลับหลังกู”


    “แล้วมึงล่ะ มีแฟนแล้วยังนอกใจไปหาคนอื่น” อันนี้ไอ้คิวมันน่าจะได้ยินที่ไอ้เชนแกล้งคุยโทรศัพท์ละมั้ง


    “เต้ย คือพี่


    “เต้ยไม่อยากฟัง พี่เชนโกหก คนโกหก” ว่าไอ้เชนเล่นดี ไอ้เต้ยยิ่งกว่าครับ มันถอยหลังออกห่างจากไอ้เชน มองไอ้เชนด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ สาดดดด กูฮา
     
     
    “เชนถ้ามึงไม่ได้รักไอ้เต้ยจริง อย่าทำแบบนี้ได้มั้ยวะ” ประโยคพระเอกชิบหายว่ะคิว



    “แล้วมึงเสือกอะไรด้วย” ไอ้นี่ก็ตัวโกงได้อีก แต่จะมีใครลำบากเท่าผู้ชมอย่างผมมั้ยครับ ที่ต้องคอยปิดปากไอ้ภูมิกับไอ้เบียร์ที่หัวเราะคิกๆ



    “ก็กู กู กูเป็นพี่รหัสมัน” โอยยยไอ้นี่ก็ปากแข็ง แล้วที่มึงร้องเพลงให้กัน นอนกอดกันพี่รหัสที่ไหนเค้าทำกันไอ้คิว หน้าไอ้เต้ยเหมือนพยายามระงับอารมณ์มากครับ อารมณ์โมโห เหอๆ



    “ก็แค่พี่รหัสมีสิทธ์อะไรมาห้ามถ้ามันจะรักใครชอบใคร ”


    “มึงก็รู้กูหมายถึงอะไร กูขอได้มั้ยเชน”


    “ขออะไร ขอร้อง ขอไอ้เต้ยหรือขอความรักของมึงคืน” แม่เจ้า
    !!!วาทศิลป์เป็นเลิศเพื่อนกู แต่ขออย่างเดียวอย่าต่อยกัน ถ้าเปลี่ยนไอ้เชนเป็นไอ้แทน ป่านนี้มีชกกันปากแตก เพราะเลือดร้อนทั้งคู่


    “เออ
    ไหนๆ ก็ไหนๆ กูเองก็ค้างคามานาน วันนี้ก็ให้มันเคลียร์ไปเลยก็ดี กูรู้ว่ากูเจ้าชู้ เอาไม่เลือก แต่กูก็รักเป็น และคนที่กูรัก คือเต้ย”


    …………” สะอึกครับ กูขนลุกเลยห่าเชน ไม่ใช่อะไร ปวดขี้ กร๊ากก


    “พี่เชน”


    “พี่รักเต้ยนะ แต่เหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ได้แค่ร่างกายเต้ย ถ้าการมีเต้ยอยู่ๆข้างแล้วมันทำให้คนที่พี่รักเจ็บปวด พี่ก็จะไม่รั้งเต้ยไว้”
    สาดดดดดดดดด ตอแหล แหลแม่งทั้งพี่ทั้งน้อง ไอ้ภูมิมันคงฮามากเพราะเห็นกุมท้องแถมทุบหลังผมดัง อั๊กๆ


    “พี่เชน เต้ย

    “เต้ยไม่ต้องขอโทษ ไม่ต้องโทษตัวเอง ขอแค่เต้ยมีความสุขพี่ก็ดีใจแล้ว เข้าใจมั้ยคะ ไอ้ดื้อ” เหี้ยเอ๊ย ผมกลั้นขำจนปวดท้อง ฮ่าๆ ไอ้เบียร์กับไอ้ภูมิแทบจะโก่งคออ้วก ส่วนไอ้คนที่มันพูด ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าไอ้เชนมันแอบอมยิ้มเหมือนมันสนุก

    “เชน”

    “ส่วนมึงไอ้คิว ถึงกูจะรักเต้ยแค่ไหน แต่ระหว่างเพื่อนกับแฟนกูเลือกเพื่อนอยู่แล้ว กูขอถามมึงแค่อย่างเดียว
    ….

    “มึงยังรักเต้ยอยู่มั้ย”


    “ไคลแมกแล้ว”


    “เฮ้ยเชี่ย ควายปันมึงมาตั้งแต่เมื่อไร” ไอ้ปันมันมานั่งยิ้มหลอนอยู่ข้างหลังพวกผม ทำเอาตกใจหมด แล้วมันไม่ได้มาตัวเปล่าด้วยครับ หอบถังดินที่มีธูปปักอยู่เต็ม


    “แล้วนั่นจุดธูปทำส้นตีนไรวะ”


    “สร้างบรรยากาศไง กูหาน้ำแข็งแห้งไม่ได้ เอาควันธูปนี่แหละ คลาสสิกสุดๆ”
    เวรแล้วไง คิดดูนะครับ บรรยากาศมืดๆในมหาลัยเงียบๆไร้ผู้คน แล้วมหาลัยผมเรื่องเล่า ตำนานเฮี้ยนๆมันน้อยซะเมื่อไร ยิ่งมีกลิ่นธูปควันธูปอีก


    “เอาไปไกลๆเลย ไอ้พีมแพ้ควันธูป” ภูมิกดหน้าผมลงกับอกมัน กูจะตายเพราะหายใจไม่ออกนี่แหละภูมิ


    “เออว่ะ กูลืมงั้นไปหาไอ้แทนดีกว่า” หลังจากสาปส่งไอ้ปันให้ไปไกลๆ พวกผมก็กลับมาดูฉากไคลแม็กต่อ

    “กู คือ กู” ไอ้คิวยังอ้ำๆอึ้งๆอยู่ ผมชักจะอารมณ์เสียแล้วว่ะ แม่งแค่บอกว่ารัก มันจะยากอะไรนักหนาวะ


    “พี่เชน เรากลับกันเถอะ” เน้ นางเอกออกโรง บทดีมั้ยล่ะน้องผม พิศมัย สุวนันท์มาเจอมีหนาวครับ
    แต่ถึงมึงจะนางเอ๊กนางเอก กูก็เห็นนะว่ามึงแอบยิ้มสะใจเชี่ยเต้ย


    “เดี๋ยวพี่ไปส่งนะคะ
    ไอ้คิว ถ้ามึงยังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ กูจะดูแลเต้ยเอง”ไอ้เชนดึงมือไอ้เต้ยออกมา

    “เต้ย
    !!!” ไอ้คิวตะโกนตาม ทำเอาพวกผมลุ้นจนเยี่ยวเหนียว พูดสิ พูดสิคิว


    “กู เอ่อ”
    ไอ้เชนกับไอ้เต้ยค่อยๆหันหลังสโลโมชั่นกลับมาหาไอ้คิว ก่อนที่ไอ้เชนจะจูงมือไอ้เต้ยเข้าไปยืนใกล้ๆไอ้คิว

     “กูจะถามอีกครั้ง มึงรักเต้ยมั้ย”
     






    เรื่องเล่าจากน้องเต้ย



    เฮียเชนพูดจบ ทุกสรรพสิ่งก็เหมือนหยุดนิ่ง แม้แต่ลมหายใจของผมเองก็ดูเหมือนจะหยุดไปด้วย


    พี่คิวยังยืนนิ่ง ผมไม่เข้าใจว่าพี่คิวกลัวอะไร หรือเพราะอะไรทำไมถึงไม่พูด ก็แค่พูดออกมาว่ารู้สึกยังไงกับผม มันยากมากนักรึไง อย่าให้ไอ้เต้ยต้องพิโรธนะ

    “กูจะถามอีกครั้งมึงรักเต้ยมั้ย”

    ……………………….”

    “รัก”

    “ว่าไงนะ”

    “กูรักไอ้เต้ย”

    ……………….”

    เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

    เสียงพวกเฮียๆที่แอบซุ่มตะโกนเฮลั่น พร้อมกันอย่างกับวงคอรัสประสานเสียงของมหาลัย


    “ก็แค่นั้นแหละไอ้สัด แม่ง ทำพวกกูเหนื่อยเป็นเดือน” เฮียเชนผลักหัวพี่คิว ก่อนจะกอดคอหัวเราะร่า


    “เฮ้ย ดะ เดี๋ยวๆ นี่มันเรื่องอะไรกันว่ะ กูงง” พี่คิวมองเฮียคนอื่นๆที่ออกมายืนยิ้มกันครบทีม


    “โดน โดนแล้วล่ะ เจอบิ๊กเซอร์ไพร์เบาๆนะเพื่อน” เฮียเบียร์กับเฮียแทนก็เข้ามากอดคอพี่คิว


    “นี่ มึง พวกมึงหลอกกู”

    “กว่าจะรู้ ก็เปื่อยซะแล้ว”


    “ไอ้เหี้ยยยยยย แม่ง เชี่ยเอ๊ย”
     พี่คิวถึงกับทรุดลงไปนั่งเลย ฮ่าๆ เข้าอ่อนเลยว่ะ พวกเฮียภูมิรุมเตะพี่คิว อ่า อย่าเตะแรงนะ แล้วอยู่ๆพี่คิวก็ลุกขึ้นและมองตรงมาที่ผม อ่ะ เอ่อ สายตาแบบนั้นคงไม่โกรธใช่มั้ย

    “ฝีมือใคร”


    “นี่ๆ เอาไปเคลียร์เลย พวกกูกลับล่ะ บ๊ายบาย” เฮียพีมผลักผมให้เข้าไปเผชิญหน้ากับพี่คิว แล้วพวกเฮียก็เดินจากไปจนเหลือแค่ผมกับพี่คิว เฮียพีมแม่ง ทำไมทิ้งกันแบบนี้วะ ถ้าเต้ยถูกฆ่าหมกส้วมใครจะช่วย


    ผมก็เลยทำได้แค่ก้มมองปลายรองเท้าแตะตัวเองสลับกับรองเท้าผ้าใบของพี่คิว ผมทำอะไรไม่ถูก เอาเข้าจริงๆผมก็กลัวเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าพี่คิวรัก แต่โดนเพื่อนอำแบบนี้ เป็นใครก็คงเคืองหรืออาจจะโกรธเลยก็ได้



    เหมือนรอบๆตัวผมจะเงียบสงัด ยิ่งทำให้รู้สึกกดดันเข้าไปอีก


    “มึงเห็นกูเป็นอะไร ตัวตลกหน้าโง่รึไง” พี่คิวไม่ได้ตะคอก ไม่ได้ตะโกน แต่เป็นเสียงปกติ ฟังดูนิ่งเรียบ ดูห่างเหินเสียจนผมรู้สึกใจหาย


    “พี่คิว เต้ย เต้ยขอ
    …”


    “สนุกพอรึยัง ก้มหน้าทำไม ตีนกูน่ามองกว่าหน้ากูใช่มั้ย” ผมเผลอกัดปากตัวเอง ทำใจกล้าให้เงยหน้ามองพี่คิว เห
    ? ทำไมอมยิ้ม

    “นี่พี่คิวแกล้ง
    …”

    “หึ คิดว่ามึงอำกูได้ฝ่ายเดียวเหรอวะ”
     
    พี่คิวดึงผมไปกอด กอดที่รอคอยมาเกือบสี่ปี สัมผัสแผ่วเบาตรงขมับยิ่งทำให้ผมยิ้ม มันรู้สึกดีจนต้องกอดพี่คิวแน่นๆ

    “พี่คิว”
     


    “มึงรู้มั้ยเต้ยว่าบางที กูก็เคยคิด
    …..ถึงมึงกับนมปั่นจะเป็นคนละคน แต่กูก็มั่นใจว่าซักวัน


    …….
    คนที่กูรักต้องเป็นมึง”
     



    พี่คิวจะรักผม ไม่ว่าจะเป็นคนไหน



    “เต้ยก็รักพี่คิว” ไม่ว่าจะเป็นพี่คนนั้นที่เดินผ่านร้านทุกวัน พี่ดินสอ หรือผู้ชายตรงหน้าที่กำลังกอดผมอยู่ เขาก็คือคนที่ผมรัก
     

    ความรักของผม สมหวังซักที ขอบคุณเฮียๆ และทุกคนที่เอาใจช่วยผมกับพี่คิวมาตลอดนะครับ
     


    ส่วนคำสามคำที่พี่คิวเขียนใส่โพสอิทพร้อมดอกกุหลาบขาวที่ให้ผมวันนั้น อยากรู้มั้ยครับว่าพี่คิวเขียนว่ายังไง ถ้าอยากรู้ผมจะบอกก็ได้ พี่คิวของผมเขียนคำว่า
     



    สามดอกสิบ
     



    สมกับเป็นพี่คิวมั้ยล่ะ
     







    TBC >>>>>>>>>>>>
     




    ………………………….
     


    กรี๊ดดดดดดด คิวเต้ยสมหวังซักที แถมคนแต่งยังสวยอีกต่างหาก เริ่ดเนอะ ต้องรีบจบประเด็นคิวเต้ยคะเพราะแฟนคลับภูมิพีมเริ่มประท้วง กลัวคิวเต้ยจะเป็นคู่หลักเพราะภูมิกับพีมมันดูเหมือนตัวประกอบเข้าไปทุกที อิอิ ขอสปอยไว้นิดนึงว่าตอนหน้าเตรียมกระโถนมาไว้ใกล้ๆคอมด้วยก็ดี


    แล้วก็สวัสดีแฟนนิยายคนใหม่ๆที่หลงเข้ามาอ่านนะจ๊ะ ตาลก็เบื้อเบื่อคนเก่าๆแระ อิอิ แหมรักดอกจึงหยอกเล่น มีคนถามว่าหนุ่มๆไปเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันที่ไหน บอกใบ้ว่าอยู่ใน กทม นี่แหละคะ ไว้สงกรานต์ปีหน้าตาลจะเล่ารายละเอียดให้ฟังนะ ฮา


    เห็นมี
    We are…FC ด้วยแหละ กรี๊ดๆๆๆ แต่ฟังดูคล้ายๆ ชลบุรี FC ทหารเรือ FC มั้ยคะ กร๊ากก แต่ยังไงก็ต้องกราบขอบพระคุณทุกคนงามๆ ที่เป็นกำลังใจให้เรยา(ตอนนี้ที่บ้านก็เรียกตาลว่าอีเรยา สงสัยเราจะสวยเหมือนอารยา ชิมิ)


    ปล ตาลอยากให้คนอ่านเรียกตาลว่า พี่ตาล น้องตาล(ถ้ามี) คุณตาล หญิงตาล เรยาตาล อีตาล บลาๆ มันดูสนิทกว่าการเรียกไรเตอร์ แบบว่าเค้าเขินอ่ะตัว คึ
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×