ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #70 : ตอนพิเศษของเก่าเล่าใหม่ 100 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 40.68K
      165
      23 ธ.ค. 54






    ขออารัมพบทนิดนึงนะคะว่าสิ่งที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วซึ่งถูกตาลตัดออกจากตอนที่หนุ่มๆไปช่วยน้ำท่วมและตอนวันเกิดภูมิ


    และเนื่องในโอกาสที่วันที่12 ที่ผ่านมาเป็นวันดีวันที่สิ่งสวยงามสูงสุดของโลกได้บังเกิด เลยคิดว่าน่าจะหาอะไรพิเรน เอ้ย พิเศษมาให้พี่น้องผองเพื่อนได้อ่านกันค่ะ



    แล้วตาลก็เปิดไปเจอไฟล์นี้พอดี เลยคิดว่า "แบ่งให้คนอ่านอ่านด้วยดีกว่า" หากินง่ายอีกแล้วค่า เชิญไปอ่านโล้ดดดดดดดดดดดด

     









    ตอนพิเศษ ของเก่าเล่าอีก

     






    วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่พวกผมมาช่วยกรอกทรายที่วิทยาลัยการปกครอง ภูมิก็ไม่ได้มาด้วยอีกตามเคยเพราะเดี๋ยวมันแพ้น้ำ รวมถึงไอ้เบียร์ที่วันนี้มันไปช่วยเหลือน้องหมากับพี่โอ๊ตกลุ่มผมเลยขาดสมาชิกไปสองคนแต่ดันได้ของแถมมาหนึ่งตัวคือน้องรหัสของผมเองครับ ไอ้เชี่ยน้องดิน วันนี้มันขอติดสอยห้อยตามมาเป็นอาสาสมัครด้วย

     




    ช่วงที่ผ่านมามันก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหนหรอกครับ ไอ้ดินบอกผมว่าที่ผมไม่ค่อยเจอมันเพราะมันไปแสวงหาวิธีปรับตัวจากที่เคยใช้ชีวิตแบบนักเรียนเปลี่ยนมาเป็นนักศึกษา มันอยากรู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่า และวิธีที่มันว่าก็คือการตะล่อนออกจีบสาวทั่วมหาลัยฯ ใครที่ไม่รู้จักไอ้ดินปี1เดือนคณะศิลปกรรมนี่ถือว่ามีปัญหากับชีวิตแล้วนะครับเพราะมันไปหยอดไว้ทั่ว อีกหน่อยคงได้เป็นศิษย์น้องไอ้เชนอีกคน

     





    ไอ้ดินมันชื่นชมไอ้ภูมิมาก เรียกว่ายกให้ไอ้ภูมิเป็นไอดอลของมันเลย มันแทบจะเจริญรอยเดินตามไอ้ภูมิทุกกระบวนความ ไม่รู้มันแอบไปสนิทกันตอนไหน ไอ้ภูมิเองก็เสี้ยมสอนน้องดีเหลือเกิน ดีจนผมอยากเอาฝ่าเท้านวดหนังหน้าพวกมัน  มีอย่างที่ไหนให้ไอ้ดินคอยตามดูผมในคณะว่ามีใครมาเกาะแกะรึเปล่า ห่าดินแม่งก็บ้าจี้พี่มันสั่งอะไรมันก็ทำหมด โง่บริสุทธิ์จริงๆ





    "พีมๆดูนั่น" ไอ้คลื่นมันสะกิดบอกผมให้ดูอภิมหากาพย์ภาพยนตร์กำลังภายในแห่งทศวรรษระหว่างปีศาจนกเพนกวินจากเทือกเขาสันคาราคีรี(ไอ้ปัน ไอ้มิค) และอีกฝ่ายคือกองทัพอีแร้งแห่งลุ่มแม่น้ำฮวงโห(ไอ้แทน ไอ้เต้ย) พวกมันกำลังทำการต่อสู้เพื่อชิงสุดยอดเจ้ายุทธภพ(ไอ้ฟ่าง)ที่หน้าตาบ่งบอกว่าความอดทนของมันใกล้สิ้นสุด กร้ากกกกกกก แถมยังมีไอ้แมทที่อุปโหลกตัวเองเป็นผู้กำกับยกไอโฟนขึ้นอัดคลิป





    "ในสมัยศตวรรษที่14" ไอ้เต้ยเดินมาพูดใส่กล้องที่ไอ้แมทถือไว้ ก่อนจะวิ่งกลับไปยืนข้างๆไอ้แทนที่กำลังกอดคอไอ้ฟ่างอยู่ ฮ่าๆ เคยดูโฆษณาnature giftป่ะครับ นั่นแหละครับพวกมันกำลังล้อเลียนเขาอยู่





    "เฮ้ย ส่งน้องฟ่างมา" ไอ้มิคดัดเสียงใหญ่ๆแบบพระเอกหนังจน มันตะโกนสั่งไอ้แทนให้ปล่อยตัวไอ้ฟ่างมาหามัน แต่ไอ้แทนก็หาได้สนใจไม่มันยังสติลกอดคอไอ้ฟ่างต่อไป โอยยยย กูปวดท้อง แม่งดูหน้าไอ้ฟ่างแบบว่าทั้งปลงทั้งจะขำ



    "ถ้าอยากได้ ก็ข้ามศพกูไปก่อน" ไอ้แทนโต้กลับไป



    "อั้ยย๊ะ" นี่คือเสียงซาวด์ประกอบที่ไอ้ปันมันทำครับ มันยกไหล่ข้างนึงเหมือนพวกจิ๊กโก๋ตามเสาไฟในซอย พ้อยท์ขากวนตีนอีกต่างหาก ไอ้เต้ยก็ไม่ต่างกันมันเอาเท้าข้างนึงเขี่ยดินไปข้างหลังเหมือนวัวกระทิง พวกจิตอาสาและพี่ๆทหารถึงกับงงนะครับจุดนี้



    "ปัจจุบันศตวรรษที่21" ไอ้เต้ยวิ่งมาพูดใส่กล้องอีกครั้งแล้วก็วิ่งกลับไปเป็นทัพหลังให้ไอ้แทนต่อ



    "เฮ้ย ส่งน้องฟ่างมานะเว้ย" พวกมันหมุนตัวประหนึ่งเป็นการเดินทางสู่ยุคใหม่ เหอๆ แม่งคิดได้ ไอ้แทนหันไปมองหน้าไอ้ฟ่างก่อนจะตอบไอ้มิคว่า

     


    "ถ้าอยากได้ ก็เอาไปเล้ยยย" ไอ้แทนผลักไอ้ฟ่างออกไป โอยยยกูฮาไม่ไหวแล้วแทน แต่ก็ต้องขำค้างเมื่อมันดันหันมามองผมก่อนจะอ้าปากทำตาเหลือกเหมือนหมาเจอเนื้อชิ้นใหม่ เชี้ยยยยยยยยยยยยแทน ไอ้เชน ไอ้คลื่น ไอ้ดิน ไอ้คิว ฮากันจนทรายแทบปลิวเข้าปาก

     



    "ห๊ะ" ยังครับไอ้มิคยังไม่จบ มันก็แอ๊บตกใจ จากนั้นไอ้ปันก็เดินออกมาทำหน้านิ่งมองกล้องใกล้ๆในระยะติดเลนส์กับไอ้แมท




    "สมัยนี้เป็นกันเยอะ nature gayสนับสนุนให้ผู้ชายรักกัน" ปิดฉาก จบได้ประทับจิตประทับใจมาก




    กร้ากกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เชนกับไอ้คลื่นฮากลิ้งหงายหลังลงไปจากกองทรายเลยครับ สงสารก็แต่น้องเฟย เอ้ย น้องฟ่าง มันจะเหมือนในโฆษณาอยู่แล้วเชียวถ้าไอ้ฟ่างไม่เดินกลับมาตบหัวไอ้แทนจนหน้าทิ่มซะก่อน



    "เพื่อนเล่นเหรอสัส"




    "เปล่าจ๊ะ เพื่อนที่ไหน นี่เล่นกับเมียหรอก" ดูนอบน้อมมากกกกก ไอ้แทนคุยกับไอ้ฟ่างแบบภาษาราชการดีเนอะ ว่ามั้ยครับ ฮ่าฮ่า





    "ไอ้เรื่องระยำๆนี่สร้างสรรค์กันจังนะไอ้พวกเวร แล้วพวกมึงจะขำอีกนานมั้ยกูจะได้กะเวลาตายให้ถูก" ชะอูยยย ผมรีบเอามือปิดปากเลยครับ ไอ้คิวกับไอ้คลื่นก็รีบหันกลับไปสนใจทำงานต่อ มีแต่ไอ้ดินนี่แหละที่ยังนั่งขำคิกๆอยู่ เดี๋ยวมึงได้ตายแบบไม่รู้ตัวเชี่ยน้องดิน





    "พี่ฟ่างแม่งโคตรโหดเลยเนอะพี่พีม เออผมลืมถาม ลูกพี่ผมไปไหนทำไมไม่มาด้วย" ไอ้ดินพยายามกลั้นหัวเราะ มันนั่งลงใกล้ๆผมที่มัดปากกระสอบอยู่

     



    "มันไม่ว่าง" ผมไม่ได้อยากโกหกแต่ก็ต้องทำเพื่อรักษาอิมเมจของไอ้หล่อไว้ เพราะถ้าบอกไอ้ดินไปว่าภูมิไม่มาเพราะกลัวแพ้น้ำ เดี๋ยวไอ้ดินมันจะหมดศรัทธาในตัวลูกพี่มัน "อยู่ๆ มึงถามถึงมันทำไม หรือว่าคิดถึงจะคุยมั้ยเดี๋ยวกูโทรให้"


    "โหยพี่พีม ผมก็แค่ถามดู ก็ปกติลูกพี่ไม่ปล่อยพี่พีมไปไหนคนเดียวแต่วันนี้ฉายเดี่ยวได้ผมเลยสงสัย"

     


    "แล้วกูมาคนเดียวซะที่ไหน เพื่อนกูก็เยอะแยะ มึงอย่าให้ไอ้ภูมิล้างสมองมากนะดิน" ไอ้ดินมันหัวเราะร่าก่อนจะลุกขึ้นตักทรายต่อ แต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะเดี๋ยวไอ้เต้ยก็มากวนมัน เดี๋ยวไอ้แทนก็เรียก ไอ้ดินมันอยากไปคัดตัวเป็นนักฟุตบอลมหาลัยฯน่ะครับ เลยจะให้ไอ้แทนใช้เส้นสายช่วย ช่วงนี้ไอ้ดินเลยต้องกลายเป็นลูกกระจ๊อกของไอ้แทนไปโดยปริยาย

     




    "เฮ้ย พี่ดูนั่นๆ " ไอ้แมทส่งสัญญาณเรียก พวกผมทุกคนก็พร้อมใจกันมองตามสายตาเพ้อๆของมัน

     




    "ดูอะไรของมึงวะแมท" ไอ้เต้ยที่สายตาและสมาธิสั้นหันไปถามไอ้แมท มึงนี่ดูจะความรู้สึกช้ากว่าชาวบ้านเค้านะเต้ย อาจเป็นเพราะไอ้เต้ยมันกำลังนั่งพับเพียบพยายามปั้นทรายให้กลายเป็นEM ball อยู่มั้งครับมันเลยยังไม่เห็นสิ่งที่พวกผมเห็น




     

    "ดูนั่น พี่องุ่นๆ" แทบไม่ต้องบอกซ้ำรอบสองทั้งผม ไอ้คิว ไอ้เต้ยหันพรึ่บไปมองทิศทางที่ไอ้แมทบอก ไอ้ดินกับไอ้คลื่นก็มองตามด้วยความงงๆเอ๋อๆ

     



    สิ่งที่พวกผมเห็นตอนนี้คือผู้ชายตัวเล็กๆ ผมสีน้ำตาลอ่อนรับกับผิวขาวโอโม่จนเรืองแสง ยิ่งใส่เสือยืดสีดำยิ่งเด่น แม่เจ้า กูนึกว่าตุ๊กตามีชีวิต โคตรน่าฟัดเอ้ยน่ารัก แม่งยิ้มทีมีเขี้ยวเล็กๆด้วย พี่องุ่นมากับเพื่อนๆห้าหกคน พี่ๆเขากำลังเอาน้ำเอาขนมมาแจก เหล่าอาสาสมัครทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทั้งทหาร มองกันจนเหลียวหลัง

     



    โคตรน่ารักมากกกกสมคำร่ำลือ พวกผมตั้งอกตั้งใจมองตามพี่องุ่นที่เดินแจกข้าวกล่องให้อาสาสมัคร แต่เหมือนมีคนนึงที่ไม่สนใจ เอาแต่ก้มตักทรายไม่พูดไม่จา ไม่ต้องเดาครับ มันมีอยู่คนเดียวแหละ แม่งหมั่นไส้ว่ะ

     



    "กูว่าน้องโตเกียวคือที่สุดแล้วนะ นี่ยังมีขั้นกว่าอีกเหรอวะ ถ้าพี่องุ่นจะน่ารักขนาดนี้กูขอเป็นเกย์ซักวันเถอะวะ" ไอ้มิคครับ ไอ้มิคมันจิตหลุดแล้วครับ ฮ่าๆ

     


    "น่ารักขนาดนี้ไม่น่าตาต่ำเล้ย มึงว่ามั้ยพีม" ไอ้เชนเหลือบมองไอ้ปันและหันมายิ้มให้ผม



    "เออว่ะเชน แม่งถ้าเป็นกูนะได้แฟนน่ารักขนาดนี้กูเอาขึ้นหิ้งร้อยพวกมาลัยไหว้ทุกวันพระเลย"

     


    "รำคาญเสียงหมาคุ้ยกองขี้ว่ะ" ไอ้ปันมันมองพวกผมตาขวางเลยเว้ย กร้ากกกก ไอ้ฟ่างคงทนหมั่นไส้ไม่ไหวเลยขว้างกิ่งไม้แถวนั้นใส่มัน


    "ไม่หล่อ ขอร้อง อย่า เยอะ" ไอ้ฟ่างอวยพรเสร็จก็กลับไปช่วยไอ้แทนมัดปากกระสอบทราย ไอ้ปันมันก็ก้มดูแผนที่ของมันไม่สนใจใคร ไอ้เชนถึงกับส่ายหน้าเลยครับ

     


    แต่ผมรู้สึกนะว่าเหมือนพี่องุ่นจะมองมาทางนี้บ่อยๆ พวกผมเลยยิ้มให้ พี่องุ่นก็ยิ้มหวานตอบกลับมา โอยหัวใจจะละลาย ไอ้แมทก็เลยทำเนียนทัก ก็คงจะรู้จักกันบ้างแล้วล่ะเพราะเรียนเศรษฐศาสตร์ด้วยกัน


    "ไม่คิดว่าจะเจอพี่องุ่นนะครับเนี่ย ที่บ้านเป็นไงบ้างครับ น้องน้ำไปหารึยัง" ดูคารมน้องชายพวกผมซะก่อนครับ มีแอบทำตาวงตาหวานนะมึงเชี่ยแมท



     

    "ยังไม่ท่วมเลย แล้วบ้านน้องแมทล่ะ" เสียงเพราะมากกกกกกกกกกก โอย หลงเลยคนนี้ (อย่าไปฟ้องไอ้ภูมินะ ก็คนนี้น่ารักจริงๆครับ)

     


    "ก็ปริ่มๆแล้วครับ อ๊อลืมแนะนำนี่พี่ๆของผมครับ พี่ๆนี่พี่องุ่นเป็นรุ่นพี่ที่คณะผม"




    "หวัดดีครับพี่องุ่น ผมมิค" ไอ้มิคเร็วเลยนะมึง พวกผมก็ทักทายพี่องุ่นจนพี่เขาเอาแต่ยิ้มเขินๆและก็ต้องยิ้มเจื่อนลงเมื่อหันไปยิ้มให้ไอ้คนที่ทำเป็นตักทราย แต่เชี่ยปันแม่งทำเมินไม่สนใจ พี่องุ่นเศร้าหน้าจ๋อยไปเลย ผมล่ะอยากเข้าไปกอดปลอบ

     


    "งั้นพี่ขอไปช่วยเพื่อนแจกของก่อนนะ อยากได้อะไรก็บอกพี่ได้เลย เอาน้ำเอาขนมเพิ่มมั้ย"



    "พอดีไม่ค่อยชอบทานขนมเท่าไรแต่ถ้าเป็นผลไม้ก็น่าสนนะคะ" ไอ้เชนมาเอง ตัวพ่อมันมาม้อเองเลยทีเดียว พี่องุ่นแก้มแดงเลย คึคึ น่ารักจริงๆครับ ใครแซวใครเรียกก็ยิ้มแล้ว แม้ว่าหน้าตาพี่องุ่นจะคุณหนูมากๆ แต่เมื่อกี้ก็เห็นยกลัง แบกของแบกถังน้ำสมกับเป็นลูกนายทหาร พี่องุ่นกลับไปหาเพื่อน ก่อนไปยังหันไปมองไอ้ปันเหมือนอยากจะคุยด้วยแต่สุดท้ายก็ไม่คุย หมั่นไส้ไอ้ปัน ผมหมั่นไส้มัน



     

    "เชี่ยปัน ทำไมมึงไม่คุยกับพี่องุ่นห๊ะ พี่เค้าเสียใจนะเว้ย" ไอ้มิคว่า




    "กูตักทรายอยู่ ไม่ว่างคุย อีกอย่างพวกมึงก็ชวนองุ่นคุยแล้วนี่ " มันหันไปมองไอ้แมทกับไอ้เชนด้วยสายตามืดหม่น





    "แล้วทำไมพี่ปันเรียกพี่องุ่นว่าองุ่นเฉยๆ พี่เค้าอยู่ปีสี่แล้วนะ" ไอ้แมทยังคงกวนไอ้ปันต่อไป สะใจดีชิบหาย ดูเหมือนมันก็แคร์ๆพี่เค้านะครับ แต่ทำไมทำเหมือนไม่สนใจ


    "เรื่องของกู"


    "อ่อ งั้นถ้าเพื่อนผมจะจีบพี่องุ่นก็เป็นเรื่องของมัน ให้จีบได้ใช่ป่ะพี่ปัน"


    "กูไม่รู้โว้ย มึงก็ไปถามกันเอา สาดดดดดดดดดดดด" ไอ้ปันมันโวยวายกลบเกลื่อนเดินไปแย่งที่ตักทรายจากมือไอ้คลื่น เล่นเอาไอ้คลื่นถึงกับงง พี่องุ่นก็ยังทำหน้าที่อาสาสมัครที่น่ารักต่อไป เอาน้ำมาให้พวกผมบ้าง มาช่วยจับช่วยมัดกระสอบทรายบ้าง


     

    ซักพักพ่อพี่องุ่นก็มารับ ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อพี่องุ่นยศตำแหน่งอะไรแต่เห็นมีทหารตามเป็นขบวน ก่อนกลับพี่องุ่นก็แวะมาบอกลาไอปัน พวกผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทั้งที่หูนี่แทบจะกระดิกรับสัญญานความถี่ทุกถ้อยคำที่สองคนนั้นพูดกัน ยิ่งไอ้เต้ยนะถ้าไอ้คิวคว้าไว้ไม่ทันมันคงแปลงกายเป็นขอมดำดินทรายขุดรูไปแอบฟังไอ้ปันกับพี่องุ่นคุยกันแน่ๆ



    "ปัน องุ่นจะกลับแล้วนะ"


    "อืม"



    "ปัน คุยกับองุ่นหน่อยสิ"



    "กลับยังไง ให้ไปส่งมั้ย"

     



    "ไม่เป็นไร พ่อองุ่นมารับแล้ว ปันเมื่อวานองุ่นขอโทษ องุ่นไปช่วยผู้ประสบภัยกับคุณพ่อแล้วโทรศัพท์องุ่นตกน้ำ องุ่น องุ่น ฮึก ปัน ฮึก อย่าโกรธ องุ่นเลยนะ" สาดดดดดดดดดดด น่ารักเชี่ยๆ อยากเช็ดน้ำตาให้ชิบหายวายวอดครับพี่องุ่น แล้วดูแทนตัวเองว่าองุ่นสิครับทั้งที่อายุเยอะกว่า โอย ตายๆ และจากบทสนทนาผมว่าผมได้ข้อมูลอะไรดีๆแล้วล่ะ ผมกับไอ้คิวเงยหน้ามาสบตากันและยิ้มเลวๆอย่างรู้ทัน







    หึหึ ไอ้ปัน หลักฐานและพยานแน่นหนาขนาดนี้ เห็นทีมึงคงถึงคราวอวสานแล้วว่ะเพื่อน

     




    และพอพี่องุ่นกลับไปไอ้ปันมันก็เอาแต่ร้องเพลง เพลงนี้ครับ "เผื่อใจเอาไว้ก่อนเธอยังไม่สาย ให้โอกาสใจเธอลองมองใครนอกจากฉัน ขอยอมเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคนที่เธอฝัน เพียงแค่นั้นก่อนอย่าทุ่มความสำคัญ" ผมสัญญาว่าจะต้องเค้นคอถามเอาความจริงจากไอ้ปันให้ได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมันกับพี่องุ่นเป็นแบบไหนกันแน่

     

     

     



    "เออพี่พีมฝากบอกลูกพี่ผมด้วยนะว่าลอยกระทงปีนี้ผมไปด้วย" ดวงอาทิตย์กำลังจะโบกมือลาพาแสงสว่างไปจากโลก ไอ้ดินก็ยังถามถึงแต่ลูกพี่มัน



    "มึงก็ลอยที่บ้านมึงสิ ลาดพร้าวได้ข่าวว่าน้ำจะเข้าแล้วนิ หึหึ"

     


    "โหยพี่พีมอย่าแช่งดิ พี่เต้ยๆลอยกระทงที่ไหนพี่" ไอ้ดินมองค้อนผมอย่างน่าถีบ ก่อนจะตะโกนถามไอ้เต้ยที่ก่อเจดีย์ทรายไว้ที่ขาไอ้คิว เมื่อกี้ก็ได้ยินไอ้คิวด่าแฟนมันว่าถ้ายังไม่เลิกเล่นมันจะสร้างเมรุเผาไอ้เต้ยซะ




    "ลอยที่บ้านพี่คิว ดินไปลอยกับเฮียป่าว" ไอ้เต้ยดูภูมิอกภูมิใจในการนำเสนอสถานที่ลอยกระทงของมันซะเหลือเกิน ฮ่าๆ



    "บ้านพี่คิวอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาหรอพี่ โหสุดยอด"

     



    "ฮื่อ เปล่า กูซื้อโอ่งราชบุรีมา ถ้ามึงสนใจอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ไปลอยกับไอ้เต้ยมันสิไปช่วยมันหาบน้ำมาใส่ตุ่มด้วยนะ" ไอ้คิวว่าก่อนจะสลัดไอ้เต้ยที่พันแข้งพันขามันออก

     



    "ฮ่าๆๆ ไม่เอาหรอกพี่ ผมก็นึกว่าบ้านพี่ติดเจ้าพระยาผมว่าจะไปส่องสาว แต่เบื่อที่มอเราว่ะ ไปไหนดีพี่คิว ขอแบบแจ่มๆ"



    "น้องดินขรา หาที่ไปไม่ได้หรอลูก ไปกับพวกพี่มั้ยคะ"



    "เอ่อ ไม่เป็นไรครับพี่เคที่" เจอของแล้วมึงไอ้ดิน

     






    พวกมันมากันแล้วครับ แก๊งค์สามสาวพิภพสะอื้น

     


    นอกจากพี่องุ่นที่เหมือนยาชูกำลังของเหล่าอาสาสมัครอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างเสียงหัวเราะสร้างสีสันตั้งแต่เช้าจรดเย็นก็คือพวกอีกรีนนี่แหละครับ เห็นพวกมันอ้อนแอ้นตุ๊งติ้งแบบนั้น แต่แบกกระสอบทรายเยี่ยงชายอกสามศอกอย่างพวกผมเลยนะ กร้ากกกก เห็นมั้ยว่าพวกรักสวยรักงามอย่างอีกรีนอีจี้ยังลุยน้ำมาช่วย หรือมันมาดูทหารก็ไม่รู้นะ ฮ่าๆ ล้อเล่นครับ พวกมันตั้งใจมาช่วยครับได้ข่าวว่าออกเดินสายไปตามที่ต่างๆจนจะทั่วกรุงเทพแล้ว

     



    ที่สำคัญชุดที่พวกมันแต่ล่ะคนใส่มาตักทรายนี่สุดๆ โดนน้ำคงหนักน่าดูเพราะเฟอร์ทั้งนั้น




    "น้องกรีนคิดไม่ผิดจริงๆที่ตัดสินใจมาลำบาก ขอบคุณผัวขามากนะคะที่ชวนกูมา มึงได้บุญยิ่งกว่าแจกถุงยังชีพอีกนะคะอีคิว" อีกรีนกระพริบตาปริบๆใส่ไอ้คิว ก่อนจะหันไปทำตาหวานให้ผู้ชายทั่วทั้งอาณาบริเวณ


    "เพราะกูรู้ไงว่าช่วงน้ำท่วมมึงคงหากินลำบาก ไหนจะต้องหนีน้ำหนีเจ้าหน้าที่เขาดิน ลำบากหน่อยนะกรีนนะ เจอขี้หมาซากแมงสาบก็แดกประทังชีวิตไปก่อน น้ำลดเมื่อไรก็ได้แดกปลวกเหมือนเดิมแล้ว"

     

    "อีดอก เก็บไว้ให้บรรพบุรุษมึงแดกเถอะคะปลวกน่ะ ไหนๆมีไรให้พวกกูช่วยบ้าง ฝั่งนู้นเค้าเสร็จกันหมดแล้ว ว่าไงคะเชนขาคลื่นขามีไรให้กรีนนี่ช่วยมั้ยคะ"

     


    "ไม่เป็นไรครับ ผมทำเองดีกว่าเดี๋ยวกรีนเหนื่อย" ไอ้คลื่นออกแนวผวานิดๆนะนั่น ฮ่าๆ

     


    "ต๊าย กรีนไม่เหนื่อยหรอก ช่วยๆกันทำจะได้เสร็จไวๆ อร้ายยยยยยย" เสร็จของมันคงไปคนละทางกับไอ้คลื่นแล้วครับ พวกมันหันไปกรี๊ดวี๊ดๆใส่กันอย่างถูกใจ หึหึ ไอ้คลื่นมองผมแบบคนที่ไม่มีที่ไป กรั่กๆ

     



    "อีพงเทพษ์ มึงจะทำอะไรน่ะ ไอ้ดินมึงระวังนะ" น้องรหัสของผมสะดุ้งสุดตัวที่หันไปเจออีจี้เลื้อยมายืนใกล้ๆ


    "อีคิว อีเลว กูเปลี่ยนชื่อแล้วย๊ะ ตอนนี้กูชื่อนางสาวประภัสสร"


    "แปลว่าอะไรวะ" ไอ้ปันถาม



     

    "แปลว่านางฟ้า นางฟ้าคนนี้ไม่ต้องการสายชลหรอกค่ะ ขอแค่โดนคลื่นซัดซักป๊าบสองป๊าบชาตินี้จะมิมีลืมเลือนพระเดชพระคุณ"

     


    "โหยอีสะเป๊าะแด๊ะ กูว่าตอนที่มึงเปิดตำราตั้งชื่อมึงคงลืมส่องกระจกว่ะจี้ เพราะถ้ามึงส่องกระจก มึงจะต้องชื่อว่าอีอเวจี ชื่อจริงอเวจี ชื่อเล่นจีจี้ บ๊ะ เข้ากั๊นเข้ากัน ฮ่าๆๆ" ทรายหนึ่งถังจากมืออีจี้ถูกสาดใส่ไอ้คิวเต็มๆ อีจี้สะบัดหน้าคอแทบเคล็ดใส่ไอ้คิวก่อนจะเดินมาควงแขนผม มันบอกว่าอะไรก็ไม่แซ่บเท่าน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างผม เอ่อ แล้วมึงได้ถามกูซักคำมั้ยจี้

     




    "อีกรีนมึงมานี่ดิ มาใกล้ๆกู" ไอ้คิวเรียกเมียน้อยไปหา

     



    "อะไร ต่อหน้าต่อตาน้องเต้ย มึงจะเอาเลยเหรอ"

     


    "เต้ยไม่ว่า เจ๊กรีนทำตามสบายเลยครับ" ไอ้เต้ยก็รู้เห็นเป็นใจดีนัก อีกรีนแทบโผเข้าหาไอ้คิวแบบทอนาโด



    "เออเอา เอาตีนสะกิดขนตาปลอมมึงไงอีห่า มานี่ มึงติดยังไงวะไอ้ขนตาปลอมเนี่ย" ไอ้คิวดูสนใจขนตาปลอมของอีกรีนเป็นพิเศษ พวกมันติดขนตาปลอมเพื่อมาตักทรายอ่ะครับคิดดู พยายามมากเพื่อนกู



    "ก็แค่บีบกาวใส่แล้วก็ติดปัดมาสค่าร่า แค่นี้จบ มึงถามทำไมหรือมึงเปลี่ยนใจอยากสวยแบบพวกกู กรี๊ดดดด อิคิว ไม่จริง คุณพระอย่าทำกับกรีนแบบนี้"

     


    "โหย อีดอกฟักทอง อีนกเป็ดน้ำ เดี๋ยวกูเอาจอบถากขนตาปลอมมึงร่วง"



    "ว๊าย รุนแรงกับกะเทย ใจร้าย"

     


    "กูแค่อยากรู้ว่าพวกมึงทำยังไงถึงติดได้ก็นึกว่าแม่งเอาทิ่มเข้าไปทีละเส้น พวกผู้หญิงก็ทำแบบเดียวกับมึงใช่มั้ย กว่าหนังหน้ามึงจะเป็นคนได้ ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอกรีน"

     



    "เออ เพื่อผู้ชายเห็นมั้ยทั้งอาสาสมัครทั้งทหารก็มองความสวยของพวกกู"

     



    "แม่งเปลือง ทำก็ทำให้คนอื่นดู ตอนปี้กันแล้วเกิดขนตาปลอมมึงหลุด ผัวมึงไม่ช็อคหนังหน้าแท้ๆของมึงจนหัวใจวายตายเลยเหรอวะ"

     



    "อีห่า พูดซะขนตาปลอมกูร่ำไห้ เมื่อคืนกูไม่ได้ติดมึงยังฟีชเจอริ่งกูจนเช้า แหมๆ ทำเป็นลืม" แล้วอีกรีนกับไอ้คิวก็ฟัดกันอย่างสนุกสนานบนกองทราย คงมีแต่อีจี้ที่ยืนกรี๊ดเพราะเห็นไอ้แทนกับไอ้ฟ่างโชว์หวาน มันบอกว่าที่จริงไอ้ฟ่างน่ะเป็นผู้ชายในสเป็คมันเลยแต่มันไม่กล้าเข้าใกล้กลัวโดนไอ้แทนเตะ ฮ่าๆ ส่วนอีเคที่ก็ดูจะเมามันส์กับการแทะโลมเพื่อนๆผมซะเหลือเกิน







     

    ......................................



     

     

    ตอนพิเศษเพิ่ม วันเกิดภูมิ






    พวกผมกำลังดื่มกำลังเมาได้ที่ ไอ้ปันลุกไปอ้วกสามครั้งแล้ว ไอ้มิคก็หลับๆตื่นๆ ไอ้เชนที่หายไปนอนก็กลับมานั่งซดเพียวๆได้อีกครั้งก่อนจะสลบเหมือดไปอีกหน มีแค่ไอ้เต้ยกับไอ้แมทที่เมาน็อคแบบลืมฟื้น เสียงเคาะประตูทำให้พวกผมหยุดแหกปากเคาะขวดเคาะจาน หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก



    "ใครมาวะ เชี่ยไหนโทรเรียกเด็กมา มึงเหรอเชน" ไอ้แทนตะโกนถามไอ้เชน เล่นเอามันสะดุ้งตื่นมาแบบเมาๆมึนๆ



    "เหี้ยแทนมึงมากวนกูทำไม"


    "มีคนมา เด็กมึงรึเปล่า"


    "เด็กเชี่ยไร  กูปวดหัวขนาดนี้ไม่มีอารมณ์เรียกใครมากกหรอก มึงจะมาถามทำไมวะ แม่งก็เดินไปเปิดดิไป" ไอ้เชนด่าเสร็จมันก็นอนต่อ สุดท้ายก็เป็นไอ้มิคที่เดินเซๆไปเปิดประตูให้



    "อ้าว พี่โอ๊ต หวัดดีพี่ มาได้ไงเนี่ย" แค่นั้นแหละครับ แค่ได้ยินคำว่าโอ๊ต ภูมิก็ดิ่งไปที่ประตูทันที



    "โอ๊ตตตตต~~~~"




    ต่างจากผมที่เกิดอาการทำตัวไม่ถูก พี่โอ๊ตมาเหรอ




    "คราวนี้มึงเป็นหมาหัวเน่าแน่เชี่ยพีม" ไอ้ฟ่างเหยียดยิ้มอย่างพอใจ เป็นหมาหัวเน่าน่ะไม่เท่าไร แต่จะทำตัวถูกมั้ยเนี่ยสิ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เจอพี่ชายคนโตของบ้านเจริญเกียรติวาณิชย์ จะได้เจอพี่โอ๊ตตัวเป็นๆแบบไม่ได้ตั้งตัว

    จะรอดมั้ยกู



     

    และตอนนี้ตรงหน้าผมมีผู้ชายตัวสูงรูปหน้าคมเข้ม หุ่นมาตรฐานเหมือนถูกปั้นแต่งมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ สายตาคมดุที่คล้ายสายตาไอ้ฟ่างและรอยยิ้มกวนๆที่เหมือนรอยยิ้มของภูมิถูกส่งมาให้พวกผม นี่เหรอพี่โอ๊ต พี่ข้าวโอ๊ตที่ผมเคยได้ยินเสียงทางโทรศัพท์ และเห็นเพียงรูปถ่ายแค่ไม่กี่ครั้ง

     




    ตัวจริง.....แม่งโคตรหล่อ โคตรสูง โคตรเท่ โคตรดูดี โคตรมีเสน่ห์ พี่ครับพี่จะหล่อไปไหนครับ แบ่งให้ผมบ้างก็ได้ หรือถ้าพี่จะกรุณาซักนิดก็ช่วยเจียดส่วนสูงมาให้ผมบ้างได้มั้ยครับ

     

    ในมือพี่โอ๊ตมีตุ๊กตาหมีสีขาวขนาดกำลังพอดี ไอ้หมีตัวนั้นมันใส่เสื้อยืดคอวีสีดำทับด้วยเสื้อช็อปสีกรม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการแต่งตัวแบบนี้เป็นมาสคอตประจำตัวภูมิ พี่โอ๊ตใช้แขนอีกข้างที่ว่างกอดคอน้องชายคนเล็กที่กอดพี่ชายหนึบไม่ยอมปล่อย ส่วนน้องชายคนกลางมันก็นั่งจิบเหล้า ยักคิ้วให้พี่ชายด้วยท่าทางที่ไม่แคร์สิ่งใดในโลกหล้าต่างจากพวกผมที่ยกมือไหว้กันถ้วนหน้า



    "พี่โอ๊ตหวาดดีคร้าบบบบบ" ไอ้แทน ไอ้คิว ไอ้เบียร์ และไอ้ปันที่เพิ่งตื่นขึ้นมาอีกรอบพร้อมใจกันประสานเสียงสวัสดี จนพี่โอ๊ตรับไหว้แทบไม่ทัน





     

    พี่โอ๊ตกอดคอภูมิมานั่งข้างไอ้เบียร์ซึ่งก็เฉียงกับผมพอดิบพอดี บอกตรงๆว่าการพบเจอญาติของภูมิแต่ละครั้ง ทำให้ผมตื่นเต้นมาก เหมือนอย่างตอนนี้ที่ผมเริ่มวางมือวางสีหน้าไม่ถูก เพราะผมไม่รู้ว่าพี่โอ๊ตจะรู้เรื่องของผมกับภูมิรึเปล่า แล้วถ้าพี่โอ๊ตรู้........

     




    "หวัดดีครับพี่โอ๊ต โหยยยยย ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะหรือหล่อกว่าเดิมวะพี่ มียาดีอะไรก็บอกน้องบ้างดิ" ไอ้มิครีบเสนอหน้าถามแบบคนเพิ่งสร่างเมา

     


    "หล่ออะไร พี่แก่แล้ว อยู่แต่ในป่าจะเอาเวลาไหนมาหล่อวะมิค แล้วนี่พวกเราเป็นไงบ้าง อ่า เกือบลืม น้องภูมิพี่ขอโทษนะที่ปีนี้หาของขวัญให้ภูมิไม่ทันเลยให้เท็ดดี้แบร์ซ้ำกับปีที่แล้ว" ภูมิรับตุ๊กตาหมีไปกอดพร้อมกับรอยยิ้มดีใจเต็มสองแก้ม  เวลาภูมิอยู่กับพี่โอ๊ตมันดูเป็นเด็กน้อยไปเลย




    "ขอบคุณครับ ซ้ำก็ไม่เป็นไรแค่โอ๊ตมาภูมิก็ดีใจแล้ว ไหนตอนแรกโอ๊ตบอกว่าติดงานมาไม่ได้ไง" คนอื่นก็ดื่มกินกันตามปกติ แต่ผมที่ไม่เคยเจอพี่โอ๊ต ไม่ชินกับภูมิโหมดอยู่กับพี่ชายคนโตผมเลยไม่มีกระจิตกระใจดื่มแล้ว

     


    "ก็มาเซอร์ไพรส์ภูมิไง สุขสันต์วันเกิดนะ โตแล้วสิไอ้ข้าวปั้น" พี่โอ๊ตขยี้หัวน้องชาย สายตาเอ็นดูเต็มไปด้วยความรักและมือที่กอดคอภูมิก็ยังคงกอดไม่ห่างเหมือนกับว่าพี่โอ๊ตเห็นภูมิเป็นเด็กชายตัวกระจ้อย



    จะว่าไปแล้วตั้งแต่พี่โอ๊ตเดินเข้ามาภูมิก็ยังไม่หุบยิ้มเลย มันดูมีความสุขแบบที่ผมไม่ค่อยได้เห็น ถ้าไม่นับเวลาที่อยู่กับแม่ กับเพื่อน กับผม ก็คงมีพี่โอ๊ตนี่แหละที่ทำให้ภูมิยิ้มได้ ^_^



    "โอ๊ต ภูมิคิดถึงโอ๊ต"



    "หึหึ พี่ก็คิดถึงภูมิเหมือนกัน"

     

    "พีม ผัวมึงโคตรติดพี่เลยว่ะ" ไอ้คิวก้มลงกระซิบผม มันเลยเจอหลังแหวนจุมพิตกลางหน้าผากเสียงดังน่ารักเลยล่ะ



    "ไงไอ้ตัวแสบ" พี่โอ๊ตหันมาทักทายน้องชายนัมเบอร์ทูว์



     

    "พลอดรักกันเสร็จแล้วเหรอถึงเห็นหัวกู"




    "อย่ากวนตีนกู มานี่ดิ" เหล้าแทบขึ้นจมูกเลยครับ ทำไมมันคนละฟีลล์กับไอ้ภูมิละครับพี่ พี่โอ๊ตเรียกแต่ไอ้ฟ่างยังนิ่ง เอ่อ ภาพพจน์พี่ชายใจดีเมื่อครู่หายวับไปกับเหล้าที่ผมเพิ่งกรอกเข้าปากเลยครับ เหลือเพียงผู้ชายหน้าหล่อที่แผ่ไอเย็นน่ากลัวยิ่งกว่าไอ้ฟ่างอีก เห็นไอ้เบียร์กับไอ้เชนขำ



    "ฟ่างมานี่" ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ



    "ข้าว  ฟ่าง" ความกดอากาศต่ำมากครับ เสียงพี่โอ๊ตยะเยือกมาก ตั้งแต่ผมรู้จักไอ้ฟ่างมาคงมีคนสองคนที่เรียกมันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ได้ หนึ่งคือพี่โอ๊ต สองคงเป็นไอ้ผู้ชายหน้าตาชั่วๆที่อมยิ้มทำตัวเนียนเท้าแขนโอบข้างหลังฟ่างกลายๆนั่นแหละครับ



     

    "มีไร กู...ฟ่างกินอยู่" ฮ่าฮ่า ใครไม่เคยเห็นไอ้ฟ่างหงอก็มาดูได้นะครับ แม่งอย่างฮา โด่ กูก็นึกว่าจะแน่ นี่แหละที่เขาเรียกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ไอ้ฟ่างโหดแค่ไหนพี่ชายมันก็คงขั้นกว่า




    "พี่บอกว่าให้มานี่"

     


    "ฮุ๊ว์ แม่ง" ไอ้ฟ่างมันกระฟัดกระเฟียดแต่ก็ยอมลุกไปนั่งข้างพี่โอ๊ต แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ทำเอาผมยิ้ม พี่โอ๊ตดึงฟ่างไปกอด กอดแบบจมลงกับอกอ่ะครับ จนไอ้แทนชะเง้อคอตามคิดดู ฮ่าฮ่า อย่าบอกว่ามึงหึงแม้กระทั่งกับพี่ชายเค้านะแทน กูรับไม่ได้อย่างแรวง



    "เมื่อไรจะเลิกดื้อซักที"


    "ดื้อเหี้ยไร โอ๊ย โอ๊ตแม่ง กู โอ๊ย ฟ่างเจ็บ" โดนตีปากแรงขนาดนั้น ไม่เจ็บก็ควายล่ะครับ อูยยย หน้าหล่อๆไม่น่าโหดร้ายเลยพี่โอ๊ต

     

    "แทน มึงดูแลน้องกูยังไงให้มันนิสัยแบบนี้" เห๋? ทำไม.... ทำไมพี่โอ๊ตถามแบบนี้ หรือว่า อย่าบอกนะว่าพี่โอ๊ตรู้ว่าไอ้แทนกับไอ้ฟ่างคบกัน อ้าววววววว แล้วพี่โอ๊ตจะรู้เรื่องของผมกับภูมิด้วยรึเปล่าฟระ



    "เอ่อ ก็ ผมก็ดูแลดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับพี่โอ๊ต"



     

    "อร้วกกกกกกกกกกกกกก" พร้อมใจกันมากครับ เชี่ยคิวถึงกับลูบหลังตัวเองประกอบซาวด์ ไอ้ฟ่างจะเขินก็ไม่เขิน จะด่าก็ไม่ด่า มันถลึงตาใส่ไอ้แทนก่อนจะใช้ไหล่พี่โอ๊ตเป็นที่กำบัง

     



    "หึหึ มึงกับไอ้แทนเป็นอะไรกันฟ่าง" พี่โอ๊ตยกเหล้าที่ไอ้คิวชงให้ขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะยิ้มมุมปากถามไอ้ฟ่าง



    "เชี่ยไหนรายงาน ไอ้เบียร์อีกล่ะสิ" ไอ้ฟ่างผลักพี่โอ๊ตออก มันลุกขึ้นเตะหลังไอ้เบียร์เบาๆเป็นการเอาคืนก่อนจะกลับไปนั่งให้ไอ้แทนซุกอีกครั้ง พี่โอ๊ตกอดคอไอ้เบียร์หัวเราะน้องชายคนกลาง





    "ไม่เกี่ยวกับน้องเบียร์ กูถามก็ตอบสิ"





    "อย่าไขสือถามได้มั้ย แม่ง ก็เป็นอย่างที่โอ๊ตรู้นั่นแหละ"



    "มึงเป็นเมียมัน?"



    "โอ๊ต!!!!!"


     

    "หึหึ  แล้วพวกแก็งค์หล่อเทพล่ะเป็นไงบ้าง" พี่โอ๊ตหันมาถามพวกไอ้คิว ไอ้เบียร์ แล้วพอหันมาเจอผมพี่โอ๊ตเลิกคิ้ว  




    "นี่ ใช่
    ........." แล้วพี่โอ๊ตก็เอาแต่จ้องหน้าผมแล้วก็ยิ้ม เอ่อ พี่ยิ้มทำไมอ่ะครับ พี่โอ๊ตก้มลงกระซิบอะไรซักอย่างกับไอ้เบียร์ ก่อนจะเหยียดยิ้มโคตรจอมมารมาที่ผม ไอ้เบียร์ ไอ้คุณชาย มึงขายอะไรกูวะ

     



    "โอ๊ตห้ามมองพีมนะ"  ก่อนที่ผมจะลนลานมากไปกว่านี้ และก่อนที่มือพี่โอ๊ตจะถึงตัวผม ไอ้ภูมิก็กระโดดตระครุบเอามือมาปิดหน้าผมไว้ แล้วก็เอาตัวมาบังผมประหนึ่งมันเป็นพระเอกเสาร์5 ทับทิมสยามมมมม เพราะไม่อยากให้พี่โอ๊ตเห็นหน้าผมเนี่ยนะ ไอ้นี่ท่าจะบ้าแม่งทุ่มทุนสร้างมากยิ่งกว่าคุณฉลอง ภัคดีวิจิตร

     




    "หึหึ หวงของกับพี่มึงเหรอข้าวปั้น" ผมชักจะสงสัยแล้วสิว่าลูกชายบ้านนี้แดกตำราศรีธนญชัยตั้งแต่เด็กรึไง ทำไมสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงถึงได้เจ้าเล่ห์ขนาดนี้ แล้วผมขอบอกไว้เลยนะครับว่าพี่โอ๊ตในสายตาผมตอนนี้ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้หรือพี่ชายที่ใจดี แต่เป็นผู้ชายอันตรายยิ่งกว่าไอ้เชนกับไอ้ฟ่างรวมกันซะอีก

     



    "ว่าไง หวงไอ้เด็กคนนี้กับพี่เหรอภูมิ" หืมมมมมม???? เด็ก? ใครเด็กวะพี่ ผมขอย้ำอีกทีว่าผมเกิดก่อนไอ้หล่อนี่เป็นปีเว้ย



    "ก็ของของภูมิ ภูมิรัก โอ๊ตเจ้าชู้ไว้ใจไม่ได้" ทำไมเวลาไอ้ภูมิพูดกับพี่ชายมันดูน่ารักง๊องแง๊งจังวะ พวกไอ้แทนหัวเราะที่พี่โอ๊ตเขกหัวภูมิ แล้วดึงคอน้องชายไปกอด




    "ชื่อพีมใช่มั้ยเรา" แล้วอยู่ๆพี่โอ๊ตก็หันมาสนใจผมแล้วก็จ้องเอาจ้องเอา


    "เอ่อ ครับ"


     

    "เจ๋งนี่หว่า เอาไอ้เด็กนี่อยู่ แต่เหนื่อยหน่อยนะ" พี่โอ๊ตยักคิ้วให้พร้อมรอยยิ้มหล่อๆที่ดูกวนอยู่ดี

    "ครับ"


    "เฮ้ย มึงพูดเป็นแค่ครับเหรอวะ" อ๊ากกกกกก อย่าดุผมมมมมมมมมม


    "เอ่อ"



    "โอ๊ต ห้ามพูดคำว่ามึงกับพีม"



    "กล้าสั่งกูหรอน้องชาย" พี่โอ๊ตน่ากลัวโคตร  "หึหึ สรุปว่าน้องชายกูสองคนออกนอกโลกไปแล้วใช่มั้ย ก็เอาเถอะอย่างน้อยภูมิก็ทำได้ดีที่ยังรู้จักอยู่ข้างบนแต่ฟ่าง....ต้องอยู่ข้างล่างนี่มึงสู้น้องไม่ได้เหรอวะฟ่าง "

     


    พรวดดดดด คราวนี้ทั้งไอ้แทนและผมสำลักเลยครับ เอ่อ พี่โอ๊ต.....................






    ไอ้ฟ่างหายใจฟึดฟัดๆเหมือนจะลุกไปต่อยพี่ชายแต่ก็รู้ว่ามันคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ พี่โอ๊ตจิบเหล้ายกยิ้มร้ายกาจให้ฟ่าง เหอๆ ส่วนผมก็ได้แต่ทำตัวให้ลีบให้เล็กที่สุด ก็พี่ชายภูมิรู้แล้วอ่ะว่าผมกับมันเป็นไรกันแถมพี่เค้ายังไม่ว่าอะไรซักคำนอกจากแซวอ้อมโลกซึ่งผมก็เขินอยู่ดี แม่งไอ้ภูมิยิ้มแฉ่งอยู่ได้




    "พี่โอ๊ตไม่ว่าอะไรไอ้แทนหรอครับที่มันยึดน้องชายพี่ไป พี่ไม่คิดว่ามันแปลกแตกต่างจากธรรมชาติหรอพี่" ไอ้มิคกุลีกุจอเข้าไปถาม



    "หึ ถ้าสิ่งที่มันเอาทำเมียยังเป็นคนอยู่ สำหรับกูก็ยังถือว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติว่ะ" ไอ้แทนยกมือไหว้พี่โอ๊ตท่วมหัวเลยครับ

     

     

    "กูว่าพี่โอ๊ตก็เสี่ยงนะมึง น้องชายสองคนมีแฟนเป็นผู้ชาย" อยู่ๆไอ้ปันมาจากไหนไม่รู้ครับ มันโผล่มากลางวงแล้วก็ยื่นหน้าไปมองหน้าพี่โอ๊ตใกล้ๆ



    "อย่าเลย ปล่อยมันให้มีลูกสืบสกุลให้พ่อให้แม่เหอะ" ไอ้ฟ่างหันไปทำหน้าเหวี่ยงๆใส่พี่ชาย

     


    "มึงอย่าไปตัดสินชิวิตคนอื่นดิฟ่างต้องให้พี่โอ๊ตได้เลือกทางเดินเอง จริงมั้ยพี่ อิอิ" พี่โอ๊ตส่ายหน้าขำๆ


    "มึงยิ้มไรโอ๊ต อย่าบอกนะ......." พี่โอ๊ตยังยิ้มกวนเหมือนเดิม



    "อะไรของมึงข้าวฟ่าง กูชอบผู้หญิงเหอะสัด แต่ถึงกูจะมีกูก็จะเป็นผัว ไม่อ่อนเหมือนมึงที่เป็นเมียไอ้แทน"




    แรว๊งส์


    "กูไม่ได้อ่อน!!!!!"



    "แต่แข็งสู้ไอ้แทนไม่ได้"



    "เชี่ยโอ๊ต กูเป็นน้องมึงนะ"







    "ฟ่างชอบโวยวาย เด็กว่ะ" ทุกคนมองไปที่ไอ้ภูมิผู้ซึ่งพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา

     




    พูดอะไรไม่ดูตัวเองเลยนะมึง     ไอ้เด็กน้อย หึ 

     

     






     

    ...................................................




    -          หวังว่าคงจะถูกใจแฟนคลับพี่โอ๊ตนะคะ





    -          แล้วพบกันใหม่ตอนปกตินะคะ ร้ากทุกคนเสมออออออออออ จ๊วฟฟฟฟฟฟ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×