คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 10 ผู้หญิงคนนี้เธอเป็นคนรักของผม (70%)
“เอ่อ…ก็บอสสั่งริยาไว้ห้ามผู้หญิงที่ไม่ได้มาติดต่อธุระขึ้นไปบนตึก ริยาก็ทำตามคำสั่งแล้วนี่คะ”
อาริยากล่าวด้วยท่าทีน่าสงสาร เผื่อจะทำให้เจ้านายหนุ่มละเว้นโทษให้
ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โกหกเรื่องที่มาพบนนทพัทธ์ ในเมื่อทุกๆ วันจะมีพวกแอบอ้างเข้ามาบ่อยเสียจนไม่เป็นอันทำงาน โดยเฉพาะผู้หญิงของคุณนันทพัทธ์น้องชายฝาแฝดของบอสใหญ่ที่มีมายมายเสียจนรับมือไม่หวาดไม่ไหว โดยแต่ละนางต่างก็แรงเสียจนหยาด
“ครับ คุณทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดีมาก”
ชายหนุ่มลดเสียงลง ก่อนจะหันไปคว้าเอาเอวบางของคนตัวเล็กมายืนข้างกายด้วยท่าทีสนิทสนม พร้อมกับประกาศเสียงดังฟังชัดให้พนักงานที่กำลังตั้งใจลุ้นกับเหตุการณ์นี้ให้ได้ยินกันทุกราย
“แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงคนนี้ เพราะผู้หญิงคนนี้เธอเป็นคนรักของผม”
หลังจากประกาศสถานะของหญิงสาวจบ ชายหนุ่มก็ลากชาริกาให้เดินตามเข้าไปในลิฟท์อย่างไม่เบามือนัก เพราะเจ้าหล่อนแทบจะไม่ให้ความร่วมมือในการก้าวขาเดินแม้แต่น้อย
เมื่อบอสใหญ่ลากผู้หญิงที่เจ้าตัวประกาศว่า ‘เป็นคนรักของผม’ เข้าลิฟท์เรียบร้อย เสียงซุบซิบก็ดังกระหึ่มขึ้นบริเวณชั้นหนึ่งของบริษัท
พนักงานทั้งหลายที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รีบจับกลุ่มกล่าวขานถึงคนรักของเจ้านาย เพราะใครต่างก็รู้ว่าบอสใหญ่ไม่เคยให้สิทธิ์นี้กับใครอีกเลยหลังจากคู่หมั้นสาวที่กำลังจะแต่งงานกันประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงที่นนทพัทธ์ควงนั้นเพียงเพื่อปลดปล่อยความใคร่เท่านั้น
ทว่าผู้หญิงคนนี้กลับทำให้ผู้ชายที่เงียบขรึมที่มองผู้หญิงเป็นเพียงที่ปลดปล่อยความต้องการของผู้ชายต้องยกตำแหน่งคนรักให้
แต่เสียงซุบซิบทั้งหลายก็ต้องเงียบเสียงลงอย่างกับกดปิดสวิตช์ เมื่อมีบุคคลหนึ่งเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ทว่าสายตาคมกลับเชือดเฉือน
“กำลังเมาท์อะไรกันอยู่ครับสาวๆ” นทีเอ่ยถามพนักงานที่จับกลุ่มคุยกันอย่างเคร่งเครียดด้วยท่าทีสบายๆ “แต่เอ๊ะ นี่มันเป็นเวลางานนี่นา”
นทีแสร้งยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาจากนาฬิกาเครื่องหรู ทว่าสายตากลับจ้องไปที่พนักงานสาวทั้งหลายด้วยสายตาตำหนิ ชายหนุ่มรู้ดีทีเดียวล่ะว่าพวกหล่อนพูดคุยเรื่องอะไรกัน เพราะมาทันตั้งแต่ผู้หญิงชื่อชาริกามาขอพบเจ้านายกับประชาสัมพันธ์สาวและทำสงครามน้ำลายกันไปเสียหลายยก
“ก็เรื่องทั่วไปค่ะคุณนที” อาริยาเป็นคนเอ่ยตอบ
แม้เลขาหนุ่มของบอสใหญ่จะดูขี้เล่น แต่พอเป็นเรื่องงานชายหนุ่มก็เข้าโหมดจริงจังเสียจนไม่มีใครกล้าล้อเล่นกับเขา และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อนทีปรากฏตัว กลุ่มนินทาทั้งหลายก็กระจายตัวไปทำงานของตนทันทีโดยไม่ต้องพูดซ้ำ
ใครต่างก็รู้ว่าเจ้าของบริษัทรักและเอ็นดูชายหนุ่มเหมือนน้องชายอีกคนและให้ความสำคัญเขาเท่าๆ กับนันทพัทธ์น้องชายฝาแฝด แน่นอนว่านทีเองก็มีอำนาจในการทำให้พวกเธอตกงานได้เช่นกัน งานนี้จึงไม่มีใครที่จะเสี่ยงกับเรื่องปากท้องของตัวเอง จึงสลายตัวไปอย่างง่ายดาย
“พี่กำลังทำอะไรอยู่นะพี่นนท์” นทีเอ่ยพึมพำกับตนเอง ขณะนึกไปถึงผู้หญิงตัวเล็กเมื่อครู่
******
“ชามเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
นนทพัทธ์เอ่ยถามหญิงสาวเมื่อทั้งสองเข้ามาอยู่ในห้องทำงานเป็นที่เรียบร้อย
“เปล่าค่ะ” ชาริกาตอบออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาประกาศต่อหน้าพนักงานของบริษัทเมื่อครู่ ด้วยสถานะที่เธอคิดไม่ถึง
“แต่พี่คิดว่าเราเป็นนะ ดูสิหน้าแดงใหญ่เลย” เจ้าของห้องเองก็ยังไม่เลิกแกล้ง รู้ดีทีเดียวเลยล่ะว่าเจ้าของหน้าหวานมีอาการหน้าแดงมาจากสาเหตุใด ถ้าไม่ใช่เพราะ…เขิน
“พี่นนนท์จะทานอาหารเลยหรือเปล่าคะ นี่ก็บ่ายคล้อยแล้ว พี่นนท์จะได้ทำงานต่อ”
คนหน้าแดงเพราะความเขินเอ่ยตัดบท เนื่องจากไม่อยากถูกคนตัวโตแกล้งจนไปไม่เป็น แต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าชายหนุ่มหิ้วท้องรอกินอาหารจากตน
“ก็ได้ครับ”
ชายหนุ่มตอบตกลง เพราะรับรู้ถึงความเป็นห่วงที่แสดงออกทางสีหน้าของหญิงสาว ก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟารับแขกตัวใหญ่ภายในห้องทำงานตามร่างบางที่เดินนำไปก่อนแล้ว
“น่าทานจังเลยค่ะ มีแต่ของโปรดพี่ทั้งนั้นเลย” ชายหนุ่มเอ่ยชม เมื่อชาริกาจัดอาหารบนโต๊ะเสร็จเรียบร้อย โดยอาหารทั้งหมดล้วนก็เป็นของที่เขาโปรดปราน
“งั้นก็ทานเยอะๆ นะคะ” ชาริกาบอกยิ้มๆ ดีใจไม่น้อยที่เขาชอบอาหารที่ตนทำมา
“ชามทานด้วยกันกับพี่นะคะ” นนทพัทธ์เอ่ยชวน เพราะถ้ามีคนหน้าหวานร่วมโต๊ะด้วยคงเจริญอาหารกว่าทานคนเดียวเป็นแน่
“อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวพี่นันท์จะไม่อิ่มเอา”
หญิงสาวปฏิเสธอย่างเกรงใจ เพราะทำอาหารมาสำหรับเพียงคนๆ เดียว หากตนร่วมโต๊ะด้วยเกรงว่านนทพัทธ์จะไม่ทานไม่พอ
“อาหารเยอะแยะทำไมพี่จะไม่อิ่มคะ” เขาย้ำอีกครั้ง ทว่าร่างบางยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ ถ้าพูดดีๆ แล้วไม่เข้าใจคงต้องใช้กำลังกันบ้างล่ะ
เมื่อคิดได้ก็จัดการคว้าเอวบางมานั่งบนตักอย่างทันท่วงที โดยไม่ให้หญิงสาวได้ตั้งตัว
“อุ๊ย!”
เจ้าของเสียงหวานหวีดร้องด้วยความตกใจเมื่อเหตุการณที่เกิดขึ้นไวเสียจนจับต้นชนปลายไม่ถูก มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตัวเองก็มานั่งอยู่บนตักแกร่งอย่างหวานเสียวเป็นที่เรียบร้อย
“พี่นนท์ทำอะไรคะ” หญิงสาวถามทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคนตัวโตจับตนเองมานั่งตัก ทว่าที่ถามก็เพราะไม่เข้าใจว่าเขาจะลากให้เธอมานั่งตักเพื่ออะไร
“พี่แค่หาเพื่อนกินข้าวเท่านั้นเองค่ะ” ชายหนุ่มตอบขณะยื่นหน้าไปใกล้ดวงหน้าหวาน ก่อนจะกดจูบที่แก้มเนียนอย่างมันเขี้ยว
“อืมหอมจัง นุ่มอีกต่างหาก”
“พี่นนท์ !”
ใครมีอะไรสงสัยถามได้เลยนะคะ ไรท์อ่านทุกคอมเมนต์จ้า
แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาตอบเลยค่ะ แต่พอไรท์ว่างจะมาตอบนะคะ
วันนี้ก็แวะมาทักทายทุกคน เดี๋ยวไปอ่านหนังสือต่อแล้ว
ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ
ปล. เรื่องเฮียนนท์กำลังจะหมดสต๊อกที่แต่งไว้ อาจจะมีช้าบ้างนะคะ
....
....
ฝากติดตามด้วยจ้าา
ความคิดเห็น