คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 13 ยินดีต้อนรับสู่บ้าน ของเรา (30%)
บทที่ 13
ยินดีต้อนรับสู่บ้าน…ของเรา
วันนี้เป็นวันที่ชาริกาจะย้ายออกจากบ้านหลังใหญ่ที่ตนเองอาศัยอยู่มานานหลายปี ตั้งแต่บิดามารดาเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุ แม้จะไม่ได้เป็นญาติหรือแม้แต่คนรู้จักของบ้านพิมพ์พิลาวัลย์ ทว่าทุกคนในบ้านต่างก็ดีกับเธอทุกคน จนอดจะใจหายไม่ได้ที่ตนกำลังจะย้ายออกไปในวันนี้
“หนูชามจะไปจริงๆ เหรอคะ”
ป้านวลแม่บ้านใหญ่เอ่ยถามอย่างใจหาย เมื่อหญิงสาวที่ตนน่าเอ็นดูคนนี้กำลังจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ซึ่งจะทำให้ไม่ได้เจอหน้ากันทุกวันแบบแต่ก่อน
“ค่ะป้านวล”
ชาริกาหันมาตอบคนสูงวัย ก่อนจะหันไปเก็บของที่เหลือบางส่วนตนเองต่อเช่นเดิม
“หนูชามจะไปอยู่ที่ไหนคะ ปลอดภัยหรือเปล่า” คนเป็นห่วงเอ่ยถาม
นางเพิ่งจะรู้จากนายหญิงภีรตาว่าหญิงสาวที่ตนเองดูแลมาตลอดหลายปีจะย้ายออกในเร็ววัน ซึ่งวันนั้นมันก็มาถึงเร็วเหลือเกินจนตั้งตัวไม่ทัน จึงอดจะเป็นห่วงตามประสาไม่ได้
“เอ่อชามไปอยู่กับเพื่อนค่ะ และก็ปลอดภัยแน่นอน”
ชาริกาวางมือจากการเก็บของ แล้วเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ กับป้านวลที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่บนเตียงนอนกลางห้อง พร้อมกับสวมกอดท่านไว้
“ชามสัญญาว่าจะมาเยี่ยมป้านวลบ่อยๆ นะคะ” หญิงสาวเอ่ยสัญญา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากผู้มีพระคุณทั้งสองท่านจะเมตตาคอยช่วยเหลือทุกอย่างแล้ว ยังมีป้านวลแม่บ้านสูงวัยท่านนี้คอยดูแลเธอมาตลอด ซึ่งท่านก็เปรียบเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่ตนเคารพอีกคน จึงมีความผูกพันกันยิ่งกว่าคนอื่นๆ ในบ้าน
“เพื่อนคนนี้ไว้ใจได้ใช่ไหมคะ” คนขี้ระแวงเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ
“ไว้ใจได้แน่นอนค่ะ” ชาริกาตอบไปเพื่อให้คนสูงวัยสบายใจ
แต่แท้จริงแล้วหญิงสาวไม่ได้ไปอยู่กับเพื่อนอย่างที่บอกไป และก็ไม่ได้ไปอยู่กับนนทพัทธ์อย่างที่เคยพูดไว้แต่อย่างใด
ตั้งแต่นนทพัทธ์กลับมาจากต่างจังหวัด เขาก็ไม่เคยเข้ามาค้างที่บ้านอีกเลย ซึ่งมันก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วจวบจนเธอเรียนจบ และกำลังจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ตามที่เคยได้พูดคุยกับผู้มีพระคุณ
แม้ตอนแรกตกลงจะย้ายไปอยู่คอนโดฯ ของนนทพัทธ์ ทว่า ณ ตอนนี้หญิงสาวเองก็ไม่กล้าที่จะย้ายของเข้าไปอยู่ ในเมื่อเจ้าของห้องเงียบหายเข้าไปในปุยเมฆไม่เห็นแม้กระทั่งเงาหัว
แต่เรื่องย้ายออกก็ต้องดำเนินไป ส่วนเรื่องที่อยู่ก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากมีห้องเช่ารายเดือนราคาประหยัดอยู่มากมายที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน
“ป้าคงห้ามหนูไม่ได้ งั้นหนูชามเก็บของต่อเถอะค่ะ เดี่ยวป้าจะให้คนรถมาช่วยยกของ”
“ขอบคุณนะคะป้านวล”
ชาริกาเอ่ยขอบคุณ พร้อมกับกอดท่านแน่นขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคนสูงวัยก็กอดตอบเช่นกัน
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเป็นไปได้ป้าไม่อยากให้หนูชามย้ายออกไปเลยด้วยซ้ำ”
“ขอบคุณป้านวลที่ดูแลชามมาตลอดนะคะ”
“หนูชามก็เหมือนลูกเหมือนหลานป้าอีกคนหนึ่ง แถมน่ารักแบบนี้จะไม่ให้ป้ารักได้ยังไง” นางพูดพร้อมกับยกมือลูบหัวคนรุ่นหลานไปด้วยความเอ็นดู
ชาริกาน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจและสวมกอดท่านไว้แน่น แม้จะไม่มีพ่อแม่คอยอยู่เคียงข้างเหมือนคนอื่น ทว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ที่มีคนรักและเอ็นดูเช่นป้านวลคนนี้
“ขอบคุณนะคะที่รักและดูแลชามมา”
หญิงสาวได้แต่พร่ำขอบคุณกับอกอุ่นอยู่เช่นนั้น ซึ่งคนสูงวัยก็ไม่ได้ผลักไสแต่อย่างใด ทว่ากลับกอดร่างเล็กแน่นขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
***************
“หนูชามจะไปจริงๆ ใช่ไหมลูก”
ภีรตาเอ่ยถามอย่างใจหาย ระหว่างที่ยืนส่งหญิงสาวอยู่หน้าบ้าน หลังจากที่คุยกันอยู่นานหลายชั่วโมงในเรื่องนี้ แต่ชาริกาเองก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นดังที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก
ทว่าก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเข้ามาเยี่ยมบ่อยๆ แม้หญิงสาวจะทำงานในบริษัทตัวเอง ซึ่งจะไปมาหาสู่กันเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่มันก็อดจะรู้สึกใจหายไม่ได้ เมื่อคนที่อยู่ด้วยกันมานานกำลังจะไปอยู่ที่อื่น
ถ้าไม่ติดว่าตนเองต้องบินไปต่างประเทศพร้อมกับสามีในอีกไมกี่ชั่วโมงข้างหน้า คงจะตามไปส่งหญิงสาวถึงที่พักด้วยตนเอง
“ชามจะมาเยี่ยมคุณท่านบ่อยๆ นะคะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้ พร้อมกับยกมือไหว้ลาท่านอีกครั้ง “ชามขออนุญาตลานะคะ”
“เดินทางปลอดภัยนะลูก ว่างๆ เดี๋ยวแม่จะแวะไปหาที่บริษัท” ภีรตาเอ่ยอวยพร
“ค่ะคุณท่าน”
ชาริกายิ้มให้ทุกคนในบ้านที่มายืนรอส่งเธออีกครั้ง ก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่มีคนขับของบ้านพิมพ์พิลาวัลย์เป็นสารถีให้ จากความเมตาของเจ้าของบ้านในการอำนวยความสะดวก
ภีรตามองตามหลังรถไปจนพ้นรั้วบ้านพร้อมกับคนในบ้านที่มีสีหน้าเศร้าไม่ต่างกัน เมื่อชาริกาเลือกจะตัดสินใจแบบนี้ นางเอกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะห้าม แม้จะเป็นห่วงมากแค่ไหนก็คงทำได้แต่ดูแลหญิงสาวอยู่ห่างๆ ต่อไป
“เข้าบ้านกันเถอะ”
นายหญิงของบ้านเอ่ยอย่างตัดใจ พร้อมกับหันหลังเดินเข้าบ้านไป โดยมีพวกสาวใช้และคนในบ้านคนอื่นๆ ตามหลังไป บางรายก็แยกไปทำงานของตนเองที่ทำค้างไว้
ความคิดเห็น