ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Cold Love รักอันเเสนหนาวเหน็บ (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #35 : ครอบครัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 463
      5
      25 ส.ค. 56

    B B

     

    ห้องหับบนชั้นสองห้องหนึ่งถูกตกแต่งใหม่อีกครั้ง เน้นด้วยสีขาว เหลืองนวล เน้นสีพาสเทลเป็นหลักโดยช่างแต่งมืออาชีพ เตียงนอนสี่เสาสีขาวละมุน ลวดลายดอกทานตะวันสดใสอ่อนๆ ผ้าม่านคลุมสีขาวน้ำนม โต๊ะ ตู้ ชั้นหนังสือและชุดโซฟาถูกขนย้ายมาตกแต่งห้องนอน โซฟาสีฟ้าหวาน รับกับผ้าม่านสีเหลืองนวลและแจกันดอกไม้สีชมพู แม้การตกแต่งด้วยสีเช่นนี้ จะเหมาะกับสีสำหรับเด็กผู้หญิง แต่ว่า เมื่อตกแต่งและจัดวางดีๆแล้ว ก็เหมาะกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้เช่นกัน

    รถยนต์สีขาวแล่นเข้าจอดที่บันไดทางเข้าบ้าน ชายหนุ่มที่หายดีจากอาการไม่สบายเมื่อหลายวันก่อน เดินลงจากฝั่งคนขับรถ มาเปิดประตูรถอีกด้านให้ผู้เป็นภรรยาลงจากรถ ชิเงรุยิ้มน้อยๆอย่างสุขใจ เอริก้าวลงมาด้วยชุดสีขาวสะอาด ผมที่ได้รับการดูแลอย่างดีปล่อยสยายแผ่กลางหลัง

    เธอหายดีจากการถูกยิงแล้ว โชคดีที่ไม่โดนจุดสำคัญ จึงทำให้ไม่เป็นอันตรายมาก แค่เสียเลือดมากไปเท่านั้น ร่างกายจึงยังอ่อนเพลีย จึงต้องอยู่โรงพยาบาล 1 สัปดาห์เพื่อให้แผลหายและหายอ่อนเพลีย เช่นเดียวกับรินที่บาดแผลทางใจยังคงส่งผลเสียอยู่ ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนบ่อยๆ  เพื่อให้รินรู้สึกดีขึ้น อัตสึชิจึงให้รินกลับบ้านที่แท้จริงไปพร้อมดับเอริเสียเลย เป็นความต้องการของเขาเองและมาซายะ

    ไหวมั๊ยจ๊ะ?เอริยื่นมือไปจับมือของรินที่กำลังลุกออกมา เพราะว่าอยู่แต่ในโรงพยาบาล ทำให้ไม่ได้เดินเหินไปมา จึงทำให้รู้สึกเมื่อยๆและไม่มีแรงอยู่บ้าง แต่กระนั้น หน้าตาของรินยังดูสดใสดีกว่าตอนที่อยู่ในโรงพยาบาลขึ้นเป็นกอง

    ผมไม่เป็นไรฮะรินขยับก้นออกมา กระเถิบออกจากเบาะนั่งออกมาจากรถ สวมเสื้อสีขาวสะอาดตากับกางเกงยาวสีอ่อน เส้นผมถูกหวีอย่างเรียบร้อยจนดูน่าเอ็นดู

    ถึงบ้านของเราแล้วนะลูกชิเงรุร้องบอก ลูบหัวนั้นอย่างคิดถึง ในที่สุด วันที่ครอบครัวของเขาจะกลับมาพร้อมหน้าก็มาถึงเสียที

    คนใช้ยืนต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียง ร่างสูงวิ่งออกมาจากในบ้าน สีหน้าแช่มชื้น ตัวเขาสูงกว่าที่รินจำได้ ภาพลักษณ์ดูเปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะว่าเขาขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วก็ได้

    พี่ชาย!

    โคววิ่งออกมา สวมชุดลำลองสบายๆ เส้นผมถูกเซตตามใจชอบอย่างเคย ยังคงสวมแช่นไร้กรอบแบบเดิม สีหน้าดีใจและตื่นเต้น ยืนมองดูน้องชายที่คิดถึงมาเป็นเดือนๆด้วยความตื้นตัน

    เอ้า ยืนมองหน้าน้องอยู่นั่นแหละ ไม่พูดไม่จาชิเงรุร้องแซว เห็นโควมองหน้ารินอยู่นานแสนนาน จะพูดอะไรก็ไม่พูด ทำเอาขำกันไปทั้งหมด

    คุณผู้ชายคะ โต๊ะอาหารจัดเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะสาวใช้ร้องบอก เขาพยักหน้า ก่อนจะครอบครัวของเขาไปที่ห้องทานอาหาร อาหารมื้อเที่ยงวันนี้ จะวิเศษกว่าครั้งไหนๆในชีวิตของเขาเลยทีเดียว

    ห้องทานอาหารถูกแต่งเสียใหม่ เข้ากับบรรยากาศของฤดูร้อน ผนังสีส้มสดใส ลวดลายดอกไม้เล็กๆอย่างทานตะวัน ตู้โชว์สีน้ำตาลที่เข้ากับทุกฤดู ผ้าปูโต๊ะสีขาวละมุน รับกับแจกันเมาท์เท่น โคลเวอร์ที่สดใส

    เก้าอี้สี่ตัวถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ถูกคนในครอบครัวทั้งสี่นั่งลงอย่างพร้อมๆกัน ชิเงรุนั่งอยู่หัวโต๊ะ ด้านข้างมีเอริ และอีกด้านมีรินและโควนั่งข้างๆกัน เบื้องหน้าคือถ้วยกระเบื้องและตะเกียบคู่ใหม่ บ่งบอกว่าอาหารมื้อนี้เป็นแบบญี่ปุ่น

    หึหึ ทานข้าวก่อนแล้วค่อยคุยกันนะทั้งสองคนชิเงรุร้องบอก เมื่อเห็นโควทำท่าจะพูดอะไร เขาดุตื่นเต้นมากที่ได้เจอน้องชาย รินเองก็เช่นกัน

    อาหารมื้อเที่ยงถูกยกมาเสิร์ฟทีล่ะอย่าง เรียกล้ำลายชวนสอ ทั้งกลิ่นและหน้าตาดึงดูดให้ทานอย่างอดใจไม่ไหว ของที่ขาดไม่ได้คือซุปมิโสะ ปลาอาจิผ่ากลางย่างโชยุและเกลือ ไข่ยัดไส้สารพัดไส้ที่สำหรับทานคนเดียว  เกี๊ยวซ่า ไก่คาราเกะ คร็อกเก้และหมูชุบแป้งทอดสำหรับทานรวม รวมถึงเครื่องเคียงอย่างแตงกวาและผักกาดดอง

    น่าทานจังเลยฮะรินพูดออกมา ทำลายบรรยากาศเงียบๆ ใบหน้าดูสดใสขึ้นมากเมื่อเป็นอาหาร ให้ทั้งชิเงรุ เอริและโควดูดีใจกันมาก

    ข้าวสวยร้อนๆถูกตักใส่ชามข้าว ชามข้าวแต่ล่ะคนแตกต่างกันตามความชอบ ของชิเงรุเป็นสีน้ำตาลพื้นๆ แต่ดูเรียบๆเหมาะสมกับเขาดี ของเอรินั้นเป็นสีเขียวอ่อนเหมือนสีชาเขียวอ่อนๆ ลายดอกไม้สีขาวเล็กๆ ของโควเป็นสีน้ำเงินล้วน และของรินเป็นสีเหลืองลายลูกเจี๊ยบ

    รินเคี้ยวข้ามแก้มตุ่ย จนดูเหมือนลูกหนูที่แอบเอาเล็ดทานตะวันยัดแก้มไว้ แถมยังทานข้าวหมดไปถึง 3 ชามเลยทีเดียว  ทำเอาทั้งสามคนมองดูอย่างสุขใจและเอ็นดู โควตั้งใจว่าหลังทานข้าวเสร็จ จะพารินไปดูห้องนอนใหม่ และเผลอๆ อาจจะพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆด้วย

    อร่อยไหมลูกชิเงรุถาม อิ่มอกอิ่มใจที่เห็นลูกชายคนเล็กยิ้มแย้มและทานข้าวจุมาก ถึง 3 ถ้วยด้วย

    อร่อยฮะ!” รินหันกลับมาบอก เศษข้าวติดอยู่รอบปากเหมือนเด็กเล็กๆ ทำให้บรรยากาศสดใส

    ในที่สุด ครอบครัวของเขาก็สมบูรณ์เสียที

    .

    .

    .

    .

    ว้าว สวยจังเลยฮะรินร้องอย่างดีใจ เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง ที่รินสดใสขนาดนี้ เพราะก่อนจะมาที่นี่ ได้คุยกับชิเงรุ ปรับความเข้าใจกันหมดเสียแล้ว ทำให้ไม่มีสิ่งใดมาค้างคาอีก….

     

     

    3 ชั่วโมงก่อน

    ชิเงรุออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 5 หลังจากที่รับรู้ว่าเอริถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเดียวกันและต้องพักฟื้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เขาได้กลับบ้านไปจัดการธุระ ก่อนจะมาหาภรรยาที่รักในวันเดียวกัน ทั้งๆที่เธอเข้าโรงพยาบาลมาหลายวันแล้ว แต่เขาเพิ่งรู้นี้ ช่างน่าละอายจริงๆ

     “ไม่ใช่ความผิดแกหรอก เป็นเพราะฉันปิดข่าวนี่เองเขาตกใจกับเสียงคุ้นเคย ที่ไม่ได้ยินมานานนับสิบปี จึงหันไปอย่างตระหนก พบชายชราที่สายตาดุดันและเผด็จการ แฝงด้วยความหยิ่งทระนงในตัวอย่างที่เคยสัมผัส

    โคดากะ มาซายะ อดีตพ่อตาของเขา...

    เขายังคงสวมชุดยูคาตะสีพื้นที่ตัดเย็บอย่างดีอยู่เสมอ รูปลักษณ์ที่เห็นเหมือนคุณตาที่ใจดี ไม่มีใครรู้ว่าเขาเลือดเย็นแค่ไหนหากไม่รู้จักเขาดีพอ เขามักจะเผด็จการ เอาแต่ใจตัวเองและวางอำนาจเสมอ หากอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกสาว

    คุณ...ชิเงรุลืมสรรพนามที่จะใช้เรียกเขาไปแล้ว เพราะเมื่อก่อน ยังคงเรียกว่า คุณพ่อ แต่ตอนนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว จึงไม่สะดวกจะเรียกแบบนั้น

    แกยังดูงี่เง่าเหมือนเดิมไม่มีผิด ไม่น่าให้ซายากะแต่งกับแกจริงๆเขายังคงคิดถึงเรื่องในอดีตอยู่ รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาตอนเห็นชิเงรุ

    ขอโทษครับ...อยู่ต่อหน้าเขาก็เหมือนเด็กอ่อนหัด แถมยังจำฝังใจกับความผิดเห็นแก่ตัวของตัวเอง จึงทำให้เขาสลดไม่น้อย

    เฮอะ! ช่างเถอะ เรื่องผ่านมานานขนาดนั้น วันนี้ฉันมีธุระจะคุยกับแก ภรรยากำลัลงพักผ่อนอยู่ มาทางนี้เขาตัดบทอย่างรำคาญ ชักชวนให้ชิเงรุที่จมปลักความผิดเก่าๆเดินตามมา

    ครับ?

    บนชั้น 6 ของโรงพยาบาลแห่งนี้ นอกจากห้องตรวจ ห้องผ่าตัดที่ทันสมัยแล้ว ยังมีห้องรับแขกอยู่ 3 ห้อง ที่กว้างขวาง สำหรับรับรองแขกวีไอพีโดยเฉพาะ ภายในห้องตกแต่งด้วยความหรูหราราวกับที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาล ชุดโซฟาหนังอย่างดีสีเบจ ผนังสีขาว ม่านสีครีมทอง และข้าวของต่างๆดูหรูหรา

    นั่งลงซะสิมาซายะยังคงวางตัวตามนิสัยเดิมเช่นเคย ข้างกายเขายังมีชายหนุ่มในชุดสูทดำอยู่เสมอ ภาพเช่นนี้เขาเห็นจนติดตา ยามที่ต้องพบเขาอยู่บ่อยในอดีต

    คุณพ่อ...มีอะไรรึครับ?เขาเอ่ยถามถึงธุระ สรรพนามที่ใช้เรียกยังคงเหมือนเดิม เพราะมาซายะเป็นคนบอกเองว่าให้เรียกเช่นนั้นได้

    ฉันมีจะขอความร่วมมือจากแกมาซายะเข้าเรื่องทันที ไม่ยอมนอกเรื่องแม่แต่น้อย

    เรื่อง..อะไรรึครับ?ชิเงรุถามอย่างงงๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว

    เกี่ยวกับความรักของลูกชายแกน่ะแหละมาซายะพูดออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง เมื่อพูดถึงหลานชายก็นึกถึงไอ้เด็กบ้านั่น เมื่อนึกถึงแล้วก็หงุดหงิด!

    ทำไมไอ้คนที่ชิงเอาหัวใจของลูกสาวเขาและหลานชาย จะต้องเป็นมันด้วย!

    อ.อะไรนะครับ...มาซายะกุมขมับ จริงอยู่ที่ชิเงรุนั้นเก่งกาจในเรื่องของการบริหารงาน แต่บางที กับเรื่องง่ายๆ ก็ใสซื่อจนเกินไป จนตามไม่ทัน

    ชิเงรุรู้ว่าเคียวนั้น คิดยังไงกับรินมานานแล้ว แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ พอได้ยินเรื่องแบบนี้อีก จึงยังงุนงง ไม่อาจทำความเข้าใจได้

    ฮึ่ย! สรุปว่าถ้าแกอยากให้ลูกชายแกมีคนรักดีๆ ก็ร่วมมือกับฉันซะ!” มาซายะหงุดหงิดเหลือแสน โพล่งออกมาเสียงดังจนลั่นห้อง ดูเหมือนตาแก่ขี้รำคาญที่ทนไม่ไหวกับลูกเขยซื่อบื้อ

    ครับ!”

    หลังจากที่คุยกับมาซายะแล้ว เขาก็ยืนอยู่หน้าห้องพักของริน  กล้าๆกลัวๆที่จะเดินเข้าไปหา พลางครุ่นคิดว่าตนจะพูดอะไรดี หากลูกชายหันมามองด้วยดวงตาใสซื่อ ที่เขาไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลมองเมื่อหลายเดือนก่อนนู้น

    แกร๊ก....

    จะมัวแต่ลังเลได้ยังไงกัน..ชิเงรุตัดสินใจผลักประตูให้เปิดออก ภายในห้องตกแต่งเหมือนห้องคนไข้ทั่วไป มีเพิ่มเพียงตู้เย็น ชั้นหนังสือและทีวีติดผนังที่สามารถมองเห็นได้จากประตู เขามองเห็นตียงอยู่ครึ่งนึง ข้างเตียงนั้นมีโซฟาสีขาวและหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับลม มองเห็นเรือนผมสีน้ำตาลเข้มไหวน้อยๆใต้สายลม

    เขาเดินไปอย่างเงียบเชียบ ภาพในทีวีฉายสารคดีสัตว์โลก มีแมวน้ำกำลังนอนอืดบิดขี้เกียจตัวกลม  ได้ยินเสียงหัวเราะใสๆดังมาจากลูกชายที่นอนอยู่บนเตียง

    ริน....เขาส่งเสียงเรียก ลำคอแห้งผาก น้ำลายหนืดเหนียวไปหมด ความรู้สึกในใจตีกันไปมาอย่างสับสน

     

    อ่ะ..คุณพ่อฮะ!” รินหันไปหาเขาทันทีที่ได้ยินเสียง เสียงๆนี้เขารอคอยที่จะได้ยินเรียกชื่อเขามาตลอด ร่างเล็กๆหย่อนตัวลงจากเตียง วิ่งตึกตักมาหาชิเงรุที่ยินตัวแข็งเพราะทำตัวไม่ถูก

    ลูกชายอยู่ตรงหน้าเขา ยังคงมีสีหน้าและแววตาไร้เดียงสาเช่นเคย ในดวงตากลมโตนั้นเหมือนเด็กเล็กๆที่อยากให้พ่อลูบหัว

    เขาดึงลูกชายมากอดแนบอกแน่น หยดน้ำตาไหลออกจากดวงตาอย่างห้ามไม่อยู่ ที่ผ่านมามีแต่ลูกชายเท่านั้น ที่จะส่งเสียงเรียกเขมาตลอด ทั้งที่ได้ยินและไม่ได้ยิน เรียกร้องอยากให้เขาพูดด้วย หรือจะแค่มองก็ยังดี ไม่เคยจะเรียกร้องอย่างอื่น มีเพียงเขาเท่านั้นที่โง่เง่ามองไม่เห็นสิ่งนั้น

    พ่อขอโทษ!” เขากอดลูกชายจนแน่น ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร

    ว่ากันว่า น้ำตาลูกผู้ชาย จะหลั่งออกมาเฉพาะคนที่รัก

    รินเองก็ไม่ยอมแพ้ กอดพ่อแน่น ร้องไห้งอแงเหมือนเด็กอยู่ในอ้อมกอด มาซายะได้เคยบอกว่าคุณพ่อจะมาหาในวันนี้ จึงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเขารู้แล้วว่าพ่อไม่ได้เกลียด ถึงขนาดตามหาจนล้มป่วยจากปากเอริเอง จึงไม่ลังเลที่จะเรียกว่า คุณพ่อและวิ่งมาสวมกอดอย่างที่เคยอยากจะทำ

    พูดคุยและปรับความเข้าใจกันนั้น เป็นเรื่องที่สมควรทำที่สุดในตอนนี้ รองจากการสวมกอดและร้องไห้

    ผมไม่เคยเกลียดคุณพ่อนะฮะ...รินเงยหน้ามองชิเงรุที่นั่งอยู่ข้างเตียง ตอนนี้รินอนอยู่บนเตียง และมีชิเงรุนั่งอยู่ข้างๆ มองลงมาด้วยใบหน้าอ่อนโยน

    ขอบคุณมากนะ..พ่อโง่เองที่ยังจมปลักอยู่กับเรื่องในอดีต ตอนนี้..เรามาเริ่มกันใหม่นะ รินไม่เกลียดเอริซังใช่ไหม? ชิเงรุลูบหัวน้อยๆอย่างเอ็นดู ลูกชายเขาโตขึ้นมาก สีหน้าดูสดใสขึ้น นี่เป็นเพราะเคียวรึเปล่านะ?

    ว่ากันว่าคนที่มีความรักมักจะเปลี่ยนไป

    ไม่นะฮะ! คุณ...คุณแม่เล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังหมดแล้ว ทั้งเรื่องที่คุณพ่อตามหาผมจนล้มป่วย ที่พี่ชายกับอาคาริซังตามหาผมถึงต่างจังหวัด ที่เอริซังตามหาผมด้วยเป็นเดือนๆ แล้วก็เรื่องที่เคียวซังตามหาผม...รินพูดออกมา เหมือนจะประกันว่าตนเองไม่โกรธใครจริงๆ

    ขอบคุณนะ ขอบคุณที่เข้าใจพ่อ เอริซังแล้วก็พี่ชายของลูก

    ฮะ!” รินตอบกลับมาด้วยยิ้มอันสดใส

    ทั้งคู่ยังคงพูดคุยกันอีกมากมาย รินเล่าเรื่องที่ได้พบเจอราวกับเด็กที่เพิ่งกลับจากทัศนศึกษาให้พ่อฟัง แต่เมื่อ....

    อื้มๆ เคียวซังใจดีกับผมมากนะฮะ เขาพาผมไปเที่ยวทะเลด้วยล่ะ

    แล้วก็ดูแลผมอย่างดีเลย ว่าก่อนหน้านี้จะใจร้ายกับผม แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะฮะ!”

    ตอนนี้ เราไม่ได้เจอกัน แต่เดี๋ยวราก็ต้องเจอกันฮะ แน่ๆเลย

    ดวงตาของรินดูสดใสมาก เหมือนสาวน้อยอยู่ในห้วงความรัก จนชิเงรุชักจะหวงลูกชายขึ้นมาแล้ว

    ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่ว่า เขาไม่ปรารถนาให้ลูกชายต้องเจอกับเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ อย่างการถูกนินทาจากคนรอบข้าง แต่ว่า..หากลูกชายมีความสุข ไม่ว่าอะไรเขาก็จะให้

     

    ชิเงรุนึกขำตัวเองในตอนนั้นเหลือเกิน  พลางมองดูลูกชายที่ตื่นเต้นกับห้องใหม่อย่างสุขใจ เพื่อลูกชาย เขาถึงกับต้องติดต่อนักออกแบบภายในมาจัดการดูแลห้องๆนี้เป็นพิเศษ ส่วนอย่างอื่นนั้นเป็นผลพลอยได้ที่ไม่ได้ตั้งใจ คิดแค่ว่า ไหนๆลูกชายก็จะกลับมาแล้ว ก็จัดการอะไรๆให้มันดูใหม่ต้อนรับลูกชายไว้ดีกว่า โชคดีที่จัดการเพียงไม่ถึงวัน มันจะเสร็จได้ดีขนาดนี้ คงต้องขอบคุณความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

    ห้องนี้ถูกตกแต่งด้วยสีพาสเทลเป็นหลัก ทั้งสีขาวละมุน เหลืองนวล ชมพู ฟ้า มีรูปภาพของดอกไม้สีหวานๆประดับ เขาหาตุ๊กตาขนนุ่มหลายตัวมาไว้ให้ ด้วยคิดว่าลูกชายยังคงเป็นเด็กอยู่เสมอ

    แต่พอเห็นลูกชายชอบขนาดนี้แล้วความคิดที่ว่า ลูกชายอาจจะไม่ชอบสีแบบนี้ ก็พลันหายไป

    ห้องนี้คล้ายๆกับห้องผมที่คอนโดเคียวซังเลยล่ะฮะ!” รินร้องบอกเสียงใส ทำเอาสีหน้ามีความสุขของชิเงรุแข็งค้าง รู้สึกพูดไม่ออก บอกไม่ถูกขึ้นมา

    งั้นเหรอๆ เขาดูแลรินดีมากใช่ไหม?ชิเงรุทำใจยอมรับ พลางถามไถ่ชีวิตลูกชายช่วงที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นเดือน

    ใช่ฮะ! เคียวซังน่ะนะ....

    รินเล่าเรื่องซ้ำอีกรอบ พรรณนาถึงเขาไม่หยุดหย่อน เหมือนลูกอวดแฟนให้คุณพ่อฟัง ในขณะที่คุณพ่อยังทำใจไม่ได้ กับการที่หัวใจดวงน้อยของลูกต้องไปอยู่ในมือคนอื่น

    ดีจังนะ...เหมือนน้ำตาตกใน เขาเพิ่งจะได้ลูกชายกลับคืนมานะ อย่าเพิ่งให้ใจของลูกชายไปหาคนอื่นตอนนี้ได้ไหม! ความรักช่างไม่เข้าใครออกใครจริงๆ

    พ่อลูกคุยกันสนุกสนานเชียวนะคะ มาพักทานของว่างกันดีกว่าค่ะเอริเดินเข้ามาพร้อมถาดใส่ขนมและน้ำหวาน คุกกี้หลากชนิดพูนจานและน้ำหวานสีแดง

    เพิ่งทำเสร็จหมาดๆเลยนะเนี่ยเอริร้องบอก หลังจากทานข้าวเสร็จก็รีบไปทำ โชคดีที่ขอให้คนใช้เตรียมส่วนผสมไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว เธอแค่ปรุงรสหวานอีกหน่อยและอบมันเท่านั้น ด้านหลังมีโควที่เดินพร้อมเข้ามาด้วยกัน ทุกคนใบหน้าแช่มชื่นและมีความสุข เพราะได้เห็นท่าทีร่าเริงสดใสของรินกันทั้งนั้น

    คุณแม่ทำเองเหรอฮะ?สรรพนามที่ใช้เรียกเธอ ทำเอาภายในใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ วันนี้เธอมีลูกชายสองคนแล้ว

    จ้ะ คุกกี้นมสด คุกกี้ช็อกโกแลตชิป คุกกี้ข้าวโอ๊ตและคุกกี้แยมเธอยิ้มรับ พลางวางถาดนั้นลงกับโต๊ะกลมสีน้ำตาลภายในห้อง เวลาแบบนี้เป็นเวลาช่วงบ่าย สายลมร้อนของฤดูร้อนพัดพาโชยมาจากด้านนอก ท้องฟ้าสีฟ้าสว่างสดใส เจือด้วยสีเหลืองเจิดจ้าของแสงแดดที่สาดส่องลงมา ดูกระจ่างใจเหมือนอารมณ์ของทุกคนในตอนนี้

    ครอบครัวล้องวงนั่งอยู่ที่โต๊ะกลมสีน้ำตาล แจกันดอกเดซี่ให้ความสดใสเป็นอย่างดี กลิ่นหอมของนมเลย แป้งและน้ำตาลชวนยั่วน้ำลาย กลิ่นน้ำหวานอันหอมหวานชวนให้ทานแก้กระหาย

    วันนี้เป็นวันที่ดีนะครับโควพูดขึ้น คำพูดเข้ากับความรู้สึกและบรรยากาศในวันนี้เหลือเกิน รอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้า ลบล้างยังไงก็ลบไม่ออก สุขใจขนาดนี้ จะเอาอะไรมาลบกันได้ล่ะ?

    วันนี้เหมือนฝันเลย มีทั้งคุณพ่อ คุณแม่แล้วก็พี่ชายนั่งอยู่ข้างๆผม...

    ผมหวังมาตลอดเลย ในที่สุดมันก็เป็นจริง

    ทุกคนนั่งนิ่ง ฟังที่รินพูด

    ผมรักทุกคนมากๆเลยนะฮะ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชายยิ้มนั้นช่างสดใส ใสซื่อและบริสุทธ์หาใดเปรียบ

    ทำไมพวกเขาเพิ่งจะมารู้สึกแบบนี้เอาตอนี้ ความรู้สึกพรรค์นี้น่ะ สมควรจะมีตั้งแต่วันที่เขาลืมตาดูโลกแล้วไม่ใช่รึไง

    ทำไมพวกเขาถึงได้โง่งมขนาดนี้นะ หากไม่สนเรื่องราวพรรค์นั้นไป เขาก็สามารถมีวันที่มีความสุขได้แบบนี้ทุกวันไม่ใช่หรือไง

    ขอโทษ แล้วก็ขอบคุณนะ...เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม?ทุกคนจับมือของรินไว้ ปาดน้ำตาออกจากใบหน้า

    ฮะรินตอบรับทั้งน้ำตา ในที่สุด วันที่เคยฝันเอาไว้ก็มาถึง มีครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ การมีครอบครัวที่อบอุ่น ดีเลิศกว่าสิ่งไหนๆ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

    วิ่งที่รินปรารถนาอย่างแรงกล้ามาตลอดคือการที่ได้อยู่กับครอบครับที่อบอุ่น ได้รับความรักอย่างเพียงพอ ในเวลานี้ ทุกคนไม่ได้มองรินเป็นตัวแทนของใครแล้ว แต่รักด้วยหัวใจและตัวตนของริน

    หากปรารถนาอย่างแรงกล้า คำภาวนาจะเป็นจริงอย่างแน่นอน

    ……………………………..

    เข้าสู่โซนอบอุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปจะดราม่านิดหน่อย แต่จากนี้ไปจะอบอุ่นมั่กๆเลยล่ะ ประโยคสุดท้ายนั่น ของชิโนะจากเรื่อง Hakkenden touhou hakken ibun ฮะ เรื่องนี้สนุกนะ แน่นอนว่ารังสีวายแผ่พุ่งเยอะมาก ดูแล้วอบอุ่นมากเลยล่ะ ใครสนใจหาดูได้นะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×