ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Cold Love รักอันเเสนหนาวเหน็บ (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #39 : ทุกอย่างที่ก้าวเดินต่อไป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 364
      5
      11 ต.ค. 56

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

     

    สายลมเปลี่ยนทิศอีกแล้ว.....แต่ใจของเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนไปแน่นอน ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เขาก็จะรอ ไม่มีวันเปลี่ยนไปไหน...

    อากาศที่เคยร้อนอบอ้าวตอนนี้ได้เริ่มเย็นลงมาบ้าง ใบเมเปิ้ลที่ถูกปลูกอยู่ไม่ไกลจากบ้านปลิวผ่านสายลมมา ทำให้ล่วงรู้ถึงการมาของฤดูใบไม้ร่วงที่แสนว้าเหว่ รินตรวจดูเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อีกครั้ง ทั้งเขาและมันจะต้องไปอยู่ในต่างแดนที่หนาวเหน็บ

    มาซายะ คุณตาของรินได้จัดการเรื่องที่พักและโรงเรียนไฮสคูลที่รินจะต้องไปเรียนไว้เรียบร้อยแล้ว รินจะต้องเรียนไฮสคูลปีแรกซ้ำอีกหนึ่งปี เพื่อให้ตรงกับการเปิดเทอมของที่นั่น ซึ่งเปิดเดือนกันยายนพอดี ยังพอมีเวลาให้รินได้คุ้นชินและปรับตัวกับสภาพแวดล้อมอยู่อีกสัก 1 อาทิตย์ แม้ว่าการไปที่นั่น จะมีห้องพักและอย่างอื่นที่ถูกเตรียมไส้เสร็จสรรพพร้อมอำนวยความสะดวกแล้ว รินก็ยังอดใจหายไม่ได้ ในเป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะต้องไปอยู่นอกบ้านที่ไกลแสนไกล อยู่คนล่ะซีกโลก รินยังเที่ยวที่นี่ได้ไม่กี่ที่ รู้จักกับคนอื่นๆนอกจากครอบครัวได้ไม่กี่คน ก็ต้องจากไปที่อื่นแล้ว

    จากทั้งครอบครัว..และคนรัก

     

     

     “ริน เตรียมตัวพร้อมรึยัง?โควเปิดประตูห้องเข้ามาหาริน สีหน้าเขาราวจะทำใจได้บ้างแล้ว การที่น้องชายต้องไปอยู่ต่างประเทศถึง 3 ปี เป็นเรื่องที่ทรมานใจเหลือเกิน แต่หากเขายังทำหน้าอาลัยอาวรณ์อยู่ รินก็จะรู้สึกไม่ดีไปด้วย

    พร้อมแล้วฮะ!” รินตบหน้าตัวเองเบาๆ เรียกความสดใสคืนมา เขาจะต้องยิ้มให้ทุกคนสบายใจ เพื่อตัวเองและทุกคน ขืนมัวทำหน้าเศร้าก็จะรู้สึกหดหู่จนทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีไปด้วย และถ้าไม่รู้สึกดี สนุกขึ้นมาก็ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองด้วย

    รินค่อยๆเดินลงบันไดมาอย่างช้าๆ โดยมีโควช่วยหิ้วกระเป๋าที่หนักอึ้งตามลงมา ผู้ที่รอรินอยู่ด้านล่างคือชิเงรุ เอริและไทกะ

    ริน มาหาแม่ทีสิจ๊ะเอริรู้สึกแย่มาก เเต่เธอก็ยังคงยิ้มให้ ปิดความกังวลไว้ไม่มิดเลยทีเดียว  เธอกลัวเหลือเกินว่ารินจะใช้ชีวิตยังไง ถึงแม้ว่ามาซายะจะยืนยันว่ารินจะอยู่อย่างสุขสบาย ปลอดภัยแน่นอน แต่เธอก็ยังกังวล ไปเรียนที่นั่น จะโดนใครแกล้งรึเปล่า จะหลงทางไหม จะปรับตัวได้รึเปล่า เธอกังวลต่างๆนานา

    คุณแม่ฮะรินสวมกอดแน่น อยากจะซึมซับความอ่อนโยนของคุณแม่เลี้ยงไว้ให้มากที่สุด เพราะเมื่อจากกันแล้ว ไม่สามารถจะมากอดแบบนี้ได้เลย

    ทุกอย่างพร้อมแล้วสินะชิเงรุมองดูกระเป๋าใบใหญ่ของลูกชาย เขามั่นใจว่าลูกชายจะต้องเตรียมตัวมาดีแล้วแน่นอน รวมถึงข้าวของนั้น ส่วนหนึ่งเขาช่วยลูกชายจัดด้วย ทั้งเสื้อโค้ท สเวตเตอร์ ผ้าพันคอ ต้องเตรียมไปให้เยอะเลยทีเดียว ที่นั่นช่างหนาวเหน็บ ต่างจากที่นี่

    ริน นี่ของที่ระลึกจากฉันนะไทกะจับมือรินมาแล้ววางของสิ่งหนึ่งให้

    ว้าว..สวยจังเลยฮะมันคือรูปปั้นตุ๊กตาหมีสีขาวถือตะกร้าที่บรรจุหัวใจไว้เต็มยืนอยู่บนกล่องขนาดพอดีมือสีน้ำตาล  เมื่อหมุนหรือเปิดกล่องแล้วจะมีเสียงเพลงออกมา มันคือกล่องเพลงที่สั่งทำพิเศษ

    พอดีว่าพ่อของฉัน เขามีเพื่อนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกนี้พอดีน่ะ ฉันคิดว่ารินน่าจะชอบนะไทกะลูบหัวรินเบาๆ มองดูรินมองกล่องเพลงอย่างชอบใจ

    งั้นก็รีบไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวมันจะสายเอานะเอริร้องบอก กว่าจะไปถึงสนามบินรถอาจจะติดเอาก็ได้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอาลัยอาวรณ์แบบนี้ เราควรจะเขาไปด้วยรอยยิ้มมากกว่า

    ฮะ....ผมไปแล้วนะรินหยิบกระเป๋าด้วยตัวเอง ก่อนจะลากมันไปที่รถ หันหลังกลับมาหาทุกคนในขณะที่มือยังจับประตูรถอยู่ ดวงตาคู่สวยมองทุกคนอย่างแน่วแน่และชัดเจน ภาพที่ทุกคนยืนเรียงกันส่งเขา เขาอยากจะจำมันให้ได้ ให้ตราตรึงในใจ เป็นภาพที่ดีก่อนจากลา

    โชคดีนะจ๊ะเอริกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ โบกมือส่งเขาด้วยน้ำตา แต่ใบหน้านนั้นย้มอย่างอ่อนโยนที่สุด

    ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมานะลูกชิเงรุเพียงยิ้มบางๆ โอบเอริไว้ มองดูลูกชายที่กำลังจะไปอยู่ในอีกซีกโลกในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ แค่พ้นวัน ลูกชายก็จะไม่ได้อยู่ที่ประเทศนี้แล้ว

    ถ้าอยากได้อะไรก็โทรมาบอกนะ พี่จะส่งไปให้!” โควร้องบอก น้ำตาจะปริ่มให้ได้ นองชายจะไม่อยู่แล้ว เขาต้องเหงามากแน่ๆ

    โชคดีนะรินไทกะบีบมือโควเบาๆ ราวปลอบ พลางโบกมือให้กับริน อุตส่าห์ได้เจอกันอีกครั้ง แต่แค่แปบเดียวก็ต้องไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แย่จริงๆ

    แต่ยังไงเดี๋ยวก็ได้พบกันอีกอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถโทรหาติดต่อได้อีก ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก

    สาเหตุที่ทุกคนไม่ไปส่งรินที่สนามบิน เพราะรินเป็นคนขอร้องเอง รินกลัวจะทำใจไม่ได้ หากเห็นทุกคนยืนส่งตนที่สนามบิน รินจะต้องวิ่งกลับมาแน่ๆ เพราะงั้นจึงขอให้ส่งที่บ้านก็พอ อีกอย่าง ทุกคนเองก็ยุ่งๆกับการเรียนและงานอยู่ด้วย ชิเงรุวุ่นอยู่กับสัญญาของบริษัทและหุ้นทั้งหลาย ปัญหามากมายในบริษัท เอริก็ต้องถ่ายแบบคลอเลคชั่นใหม่ของซีซั่นนี้ให้เสร็จภายในสามวัน โควเองก็วุ่นวายกับเรื่องเรียน และไทกะก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แค่พวกเขาต้องมายืนส่ง มันก็เสียเวลามากแล้ว รินไม่อยากให้ทุกคนต้องเดือดร้อนและเสียเวลามากไปกว่านี้

    รถยนต์สีไข่มุกแล่นออกจากสู่ถนนใหญ่  คนขับรถไม่ใช่ใครอื่นไกล ยาตะนั่นเอง เขายังคงสวมชุดสูทที่ดูน่าอึดอัดและแว่นตาดำไว้เช่นเคย

    ข้าวของครบนะครับคุณหนูเขาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่ตอนนี้ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ คุณหนูเองก็ไปมาหาสู่ระหว่างบ้านของมาซายะและบ้านของตัวเองประจำอยู่แล้ว และช่วงนี้คุณหนูต้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพื่อที่จะใช้ในต่างแดนได้อย่างแม่นยำและเอาตัวรอดได้  เขาก็เป็นคนรับรถไปรับ-ส่ง อยู่เสมอ

    ครบฮะ ยาตะซังรินตอบกลับมาเสียงใส พลางมองวิวทิวทัศน์ที่กำลังผ่านสายตาไปมากมาย ดวงตาจับภาพพวกนั้นไว้เป็นความทรงจำที่ดี

    รถยนต์สีสวยพาเขาลัดเลาะไปตามเส้นทางต่างๆเพื่อที่จะไปถึงสนามบิน มือบางถือโทรศัพท์สีขาวแบบฝาพับไว้แน่น มองดูกล่องข้อความในมือถืออย่างใจจดใจจ่อ

    ฉันอาจจะส่งข้อความหารินบ่อยๆไม่ได้นะ เพราะฉันไม่มีโทรศัพท์มือถือ อาจจะพอขอยืมโทรศัพท์เพื่อนร่วมงานใช้ส่งข้อความหาได้ แต่ก็อาจจะทำได้ไม่บ่อย  แล้วมาซายะก็จับตาดูฉันไว้อยู่ด้วย รินอดทนหน่อยนะ

    รินนึกคำพูดของเคียวในวันก่อน จึงได้แต่มองดูมือถือแทบทุกวัน หวังว่าสักวันสักนาทีมันจะสั่น แล้วปรากฏข้อความขึ้นมา แต่จนแล้วจนรอด มันก็ยังไม่มีมา

     

    ไม่ได้ๆๆๆๆ คิดแบบนั้นเอาแต่ใจชะมัดเลย เคียวซังกำลังลำบากอยู่แท้ๆ

     

    ยาตะพารถยนต์คันหรูหักเลี้ยวไปมา สองข้างทางเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่เส้นทางที่คุ้นเคยใกล้บ้าน ต้นเมเปิ้ลที่เปลี่ยนเป็นสีแดงชวนให้รู้สึกดี

     

    แม้เวลาจะเปลี่ยนไป แต่เขามั่นใจว่าใจของเขาจะไม่มีวันเปลี่ยน....

     

    เวลา 17. 40 นาที ที่สนามบิน รินเดินวกวนไปมาระหว่างร้านขนมหวานที่อยู่ใกล้กับชั้นสองกับร้านเบเกอรี่ข้างร้านสินค้าปลอดภาษี  เลือกไม่ถูกระหว่างเค้กช็อกโกแลตนมสดและเค้กครีมนมคาราเมลของทั้งสองร้าน

    ผมควรจะเอาอันไหนดีฮะ!” รินตัดสินใจวางทั้งสองอย่างลงคืนที่ร้านสองร้านที่ค่อนข้างห่างกัน ก่อนจะวิ่งมาถามยาตะด้วยสีหน้าจริงจัง จนคนโดนถามหลุดขำ

    ทั้งสองอย่างเป็นครับเขาแนะนำไป สุดท้ายรินก็กลับมาพร้อมถุงขนมใหญ่ที่ค่อนข้างใหญ่ของทั้งสองร้าน แน่นอนว่าเค้กทั้งสองอย่างคงจะถูกซื้อมาด้วย

    ถ้างั้นเราก็ไปนั่งทานกันเถอะครับ เหลือเวลาอีก 40 นาที กว่าเครื่องจะออกยาตะลากกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่สองใบตามหลังรินที่เดินนำหน้าไปก่อนแล้วด้วยความว่องไว เห็นท่าทางร่าเริงแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเบาใจ ชวนดีใจ

    ทั้งคู่เดินไปที่ชุดโซฟาสำหรับนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง บริเวณนี้คนค่อนข้างหนาตา อาจจะได้พบกันบนเครื่องก็เป็นได้

    โต๊ะกลมสีน้ำตาลถูกวางด้วยขนมจนเต็มไปหมด บนมือของยาตะที่ไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เที่ยงมีเพียงข้าวกล่องของสนามบินเพียงกล่องเดียว เขามองดูปริมาณขนมแล้วอยากจะบ่นตามประสาผู้ใหญ่ แต่พอเห็นใบหน้าที่กำลังสุขใจกับขนมมากมายก็ดุไม่ลง อย่างน้อยให้เขาสบายใจตอนอยู่ที่นี่ยาวๆจะดีกว่า เพราะไปถึงที่นั่นแล้ว กลัวว่าจะรู้สึกไม่ดีกับหลายๆอย่าง ด้วยเพราะความต่างของวัฒนธรรม

    เค้กช็อกโกแลตนมสด เค้กครีมนมคาราเมล พุดดิ้งสตอเบอรี่ คัพเค้กชาเขียว และชูครีม รวมถึงลูกอมรสต่างๆเท่าที่จะหิ้วมาไหวค่อยๆถูกเติมเต็มกระเพราะเล็กๆที่น่าจะเต็มไปนานแล้วลงไปทีล่ะอย่างๆจนพื้นที่ว่างบนโต๊ะค่อยๆกลับคืนมา

    พอใจรึยังครับ? คุณหนูยาตะถามพลางอมยิ้มน้อยๆ ดวงตาภายใต้แว่นสีดำฉายแววเอ็นดูและอ่อนโยนปนขบขัน

    พอใจแล้วฮะ! ที่ลอนดอนเนี่ย ต้องมีขนมอย่างอื่นอร่อยๆอีกใช่ไหมฮะ!” รินถามเสียงใสพลางเช็ดรอบปากที่เปรอะเปื้อนขนม

    แน่นอนครับ  อาหารอย่างอื่นก็อร่อยมากเหมือนกันแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่มาซายะเก็บมาเลี้ยง แต่ก็เอาใจใส่ในการศึกษาของเขามากทีเดียว เขาเคยไปมาหลายประเทศทั้งจัดการธุระและเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ถ้าไม่ได้ถูกมาซายะเก็บมาเขาคงไม่มีโอกาสจนถึงทุกวันนี้

    สำหรับงานในครั้งนี้ของเขานั้น เป็นงานคุ้มกันระยะยาว นานถึง 3 ปี มาซายะให้เขาไปกับรินที่ลอนดอนด้วย เพิ่อเป็นครูสอนพิเศษและคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ยามที่รินพบเจอและไม่สามารถแก้ไขได้ รวมถึงให้คำแนะนำและเป็นบอร์ดี้การ์ดให้กับรินด้วย

    เสียงของเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ดังขึ้น บอกเวลาขึ้นเครื่องของรินที่จะนั่งไปลอนดอนดังขึ้น รินช่วยยาตะเก็บเศษขนมและเศษขยะไปทิ้งจนหมด ก่อนจะมุ่งหน้าสู่อีกซีกของโลกที่กินเวลายาวนานชวนใจหาย

    เมื่อพูดประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้คนหลายครั้งแล้ว เธอก็พูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่มีชีวิตชีวา

    ขออนุญาตนะคะ ท่านผู้โดยสารทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมองไปยังผู้โดยสารท่านหนึ่ง อายุสัก 15-16 ปี ที่สวมเสื้อสีขาวและโค้ทยาวติดขนเฟอร์สีขาวสีครีมค่ะ ข้างๆเขามีผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดสูทดำเมื่อเธอพูดจบ ทุกคนก็กวาดสายตามองหาคนที่ว่าทันทีด้วยความนึกสนุก ครั้นมองไปก็พบจริงๆ พวกเขากำลังเดินไปสู่ประตูขึ้นเครื่อง

    ทั้งรินและยาตะชะงักกึกเมื่อฟังแล้วรู้ว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์พูดถึงนั้นตรงกับลักษณะตัวเอง จึงพากันมองรอบกายที่เต็มไปด้วยผู้คนหลายสิบคนกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่

    มีชายคนหนึ่งได้ฝากข้อความถึงเขาค่ะ ดังนี้ ขอโทษนะ ที่ข้อความมาช้าไปหน่อย....ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ฉันจะไม่มีวันลืมวันที่เราสองคนได้ใช้ร่วมกันมาแน่นอน  เมื่อ 1095 วัน ผ่านพ้นไป พวกเราจะได้พบกันอีกครั้งแน่นอน เป็นข้อความที่โรแมนติกมากๆเลยนะคะเนี่ย ขอให้ผู้โดยสายทุกท่านอวยพรให้พวกเขามีความสุขด้วยค่ะเสียงปรบมือเบาๆดังขึ้นก่อนจะกลายเป็นดังกระหึ่มให้กับข้อความนั้น รินหน้าแดงลามไปถึงใบหู ข้อความแบบนี้มัน...มัน....

    คุณหนู!” ยาตะร้องตะโกน คุณหนูขอเขาเขินอายจนวิ่งไปไม่รอเขาเลย ท่ามกลางฝูงชนที่แสนแออัด เด็กหนุ่มผู้หนึ่งกำลังวิ่งไปด้วยความดีใจ เขินอายและซึ้งใจ

    เป็นข้อความก่อนจากที่ดีที่สุดเลยฮะ...เคียวซังแม้น้ำตาจะไหล แต่ใบหน้านั้นไม่เศร้าใจและหม่นหมอง มือบางกอบกุมสร้อยคอที่อยู่ภายใต้เสื้อสีขาวไว้อย่างบางเบาพลางพึมพำ

    ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ผมก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด...










    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    3 วันต่อมา

     

    ผ่านไปสามวัน หัวใจทั้งสี่ห้องถูกทำลายไปแล้ว 3 ใน 4 โควเรียนไม่รู้เรื่องเพราะกังวลสารพัดกับน้องชาย กลัวว่ารินจะถูกคนอื่นแกล้ง กลัวว่ารินจะปรับตัวไม่ได้ อาหารไม่ถูกปาก และอีกสารพัด เรียกได้ว่ากังวลเกินเหตุ สมแล้วที่เป็นลูกชายของเอริ

    นี่โคว...เรามาเดทกันนะ นายยังมัวคิดถึงแต่คนอื่นอยู่อีกเหรอ? ไม่เอาน่า รินมีคนดูแลแล้วนะไทกะบ่นด้วยความน้อยใจ ชิชะ เขานั่งอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่โควกลับใจลอยคิดถึงน้องชายอยู่ได้ ใจร้ายชะมัด!

    ยุ่งน่า! รินยังเด็กขนาดนั้นนะ! นายก็รู้ว่าเด็กต่างชาติน่ะโตเร็วขนาดไหน! 10 ขวบก็มีแฟนแล้ว แถมยังจูบกันแล้ว ไหนจะการกลั่นแกล้งพิลึกพิลั่นอีก! รินน่ะกลัวคนแบบนั้นจะตาย!” ในมือของโควถือหนังสือเล่มบางที่ชื่อ การกลั่นแกล้งในชั้นเรียนต่างประเทศตัวโต ภาพประกอบในเล่มเป็นภาพเหตุการ์จำลองของการกลั่นแกล้งของนักเรียนสารพัดรูปแบบ

    นายนี่นะ เลิกสนได้แล้วไทกะจะไม่ทน! มือหนาคว้าหนังสือเล่มนั่นไปยื่นให้กับบริกรที่เดินผ่านมา วานให้เอาช่วยเอาไปทิ้งหน่อย ท่ามกลางเสียงโวยวายของโควที่ดังแทรกขึ้นมา

    นายทำอะไรของนายเนี่ย!” โควโวยวายเสียงดัง มองหนังสือถูกทิ้งลงถังขยะต่อหน้าต่อตาด้วยความหงุดหงิด

    หึ!” ไทกะลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ให้ความได้เปรียบจากร่างกายที่สูงและใหญ่โตกว่า คว้าท้ายทอยของโควมายื่นมาด้านหน้าแล้วประกบปากลงไปเบาๆ เพียงแค่นั้น เสียงโวยวายก็เงียบลง แทนที่ด้วยอาการเขินอาย โดยไม่สนสายตาจากทั้งร้านที่มองมา

    น..นาย...นายทำอะไรน่ะก้มหน้างุดและปิดปาก พูดโดยเสียงลอดผ่านซอกนิ้ว

    ก็นายไม่สนใจฉันนี่ ฉันไม่ทนแล้วไทกะยิ้มเผล่ มองปฏิกิริยาแบบนั้นอย่างชอบใจ อีกฝ่ายสะดุ้งเบาๆด้วยใบหน้าแดงๆ อา....ชักจะทนไม่ไหวแล้วสิน่า! แถวนี้มีเลิฟโฮเต็ลไหมนะ? หรือจะพาไปที่ห้องของเขาดี

    แต่มันน่าน้อยใจจริงๆ นานๆจะได้เจอกันแท้ๆ ทั้งมหาวิทยาลัยของโควและโรงเรียนของเขามันไปกันคนล่ะทิศทาง ถ้าบอกว่าให้นัดตอนเย็นมาเจอกันแบบนั้นก็ลำบากแย่ โควที่ขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วมีงานมากมาย การเรียนก็หนักและกิจกรรมก็เยอะมาก และเขาเองก็ถูกทางบ้านและที่โรงเรียนกวดขันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่เทอมสองนี้ตลอด ทำให้แทบไม่มีเวลา ไหนจะเรื่องกีฬา ชมรมอีก เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ก็ยังนัดออกมาเจอกันในวันหยุดที่หาได้ยากยิ่ง แต่โควกลับเอาแต่คิดถึงรินแบบนี้ น้อยใจชะมัด!

    ก..ก็..ก็ฉันเป็นห่วงรินนี่นา รินน่....

    พอเลยนะ! อุตส่าห์ได้เจอกัน นายเอาแต่คิดถึงริน มันน่าน้อยใจชะมัด ถ้านายเอาแต่คิดถึงรินแบบนี้ แล้วฉันจะอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ...ว่าเเล้วก็แกล้งทำหน้าน้อยใจ เสียใจ เหมือนจะร้องไห้ แต่น้ำตาลูกผู้ชายไม่ไหลง่ายๆนักหรอก

    อ่.อ่ะ...ฉ..ฉันขอโทษ....ไทกะ...เป็นไปตามคาดโควทำหน้าสำนึกผิด เสียงอ่อนลง

    ฉันน่ะนะ..อุตส่าห์ได้เจอกับนาย นึกว่าจะได้คุยกันแบบคู่อื่นๆเขา แต่นายกลับเอาแต่คิดถึงน้องชาย ไม่สนใจฉัน ฉันไม่สำคัญกับนายสินะ...”  เขาแกล้งหันหน้าหนี แอบใช้นิ้วจุ่มลงน้ำในแก้วโดยที่โควมองไม่เห็นไปแปะไว้ใต้ตา จากมุมของโควมันทำให้เห็นว่าไทกะกำลังร้องไห้อยู้

    อ่.อ๊า....ข..ขอโทษ..ขอโทษนะไทกะ..ฉันผิดเอง...อ..เอางี้..วันนี้ นายอยากจะทำอะไร ตามใจนายเลย!” โควรีบยื่นข้อเสนอให้โดยเร็วด้วยความรู้สึกผิด เขาผิดเองที่ไม่สนใจความรู้สึกของไทกะ เอาแต่คิดถึงริน มากเกินไป...

    จริงเหรอ? นายยอมให้ฉันทำอะไรก็ได้จริงเหรอ?ไทกะถามย้ำ ยังไม่หันหน้ากลับมา แต่ใจจริงแอบลอบขำอยู่ในใจจนตัวสั่นกึกๆ

    งั้นก็....

     

     

    เช้าวันอาทิตย์ที่แสงแดดส่องสว่างอย่างสดใส อากาศดีไม่ร้อนและไม่เย็นเกินไป ผู้คนเลือกที่จะเดินโดยไม่ใช้ร่มกันแดด  กลุ่มเด็กสาววัยรุ่นเดินเกาะกลุ่มกัน ปรึกษากันว่าจะไปร้านไหนต่อ กล่มเด็กหนุ่มที่นัดกันมาเล่นเกม คู่รัก พนักงานออฟฟิศเดินกันขวักไขว่

    นี่ ยิ้มหน่อยสิ อย่าเอาแต่บูดสิ ไม่เข้ากับชุดเลยนะไทกะเดินถือเครปครีมกาแฟ ข้างกายมีสาวสวยเดินอยู่ด้วย  อีกฝ่ายเกร็งหน้า เดินช้าและไม่มั่นคงเพราะส้นสูงที่สวมอยู่ มือเรียวพยายามจับชายกระโปรงไม่ให้มันปลิวบานไปมากกว่านี้

    นายมันบ้าที่สุด!” เธอกัดฟันส่งเสียงลอดไรฟันอย่างเดือดดาล ใบหน้าเรียวแดงไปทั้งหน้า หายใจติดขัดและประหม่าเขินอายกับทุกสายตาที่มองมาจนน้ำตาจะไหล

    เพราะว่ายื่นข้อเสนอสุดพิเศษ ปลอบโยนไทกะที่น้อยใจเขาเพราะเอาแต่สนใจริน โควจึงต้องอยู่ในสภาพนี้

    ชุดเดรสสีเขียวอ่อนลายดอกไม้สีขาวเป็นผ้าพลิ้วบางๆ แขนตุ๊กตา วิกผมสีน้ำตาลเข้มดัดเป็นลอนดูเข้ากับรูปหน้า ส้นสูงสีขาว กระเป๋าลูกปัด โควถูกจับแต่งครอสเดรสจนเหมือนผู้หญิง ชนิดที่ร้อยทั้งร้อยก็ต้องบอกว่าเขาเป็นผู้หญิงแท้ 100 %

    ก..ก..กระโปรงมัน..มัน..สั้นไปแล้วโควก้มหน้างุด พึมพำเสียงแผ่วข่มความอายไว้อย่างลำบากลำบน เขาเป็นผู้ชายนะ! เป็นผู้ชายทั้งแท่ง ให้มาใส่กระโปรงแบบนี้..คนรู้จักเห็นเข้าเขาคงกลายเป็นฮิคิโคโมริแน่!

    ไม่นี่นา เซ็กซี่ดีออกไทกะยิ้มกริ่ม ภูมิใจนิดๆที่มีคนมองด้วยความชื่นชมมากขนาดนี้ พลางคว้ามือของโควที่จับประโปรงอยู่มาถือไว้ กันไม่ไห้โควเดินแปลกๆ และให้ชุดของมันดูสวยอย่างที่ควรจะเป็น

    จริงๆแล้วแค่นึกไม่ออกว่าจะแกล้งอะไรโควดี ตอนที่เดินเล่นหลังออกมาจากร้านบังเอิญเดินผ่านย่านชอปปิ้งที่สาวสวยยืนอยู่เต็มไปหมด จึงปิ๊งไอเดียนี่ได้ แถมแอบขอร้องให้พนักงานร้านช่วยจับโควแต่งตัวอีก งานนี้ทั้งร้านเลยได้แต่แตกตื่นมองดูผู้ชายที่ดันแต่งชุดกระโปรงได้สวยกว่าตัวเองตาค้าง

    แฟนเรา...สวยจริง

    เป็นผู้ชายแท้ๆ

    อ๊ะ...หมดแล้ว..โควบ่นเสียงเบา คิ้วขมวดเพราะเครปกล้วยหอมในมือหมดแล้ว คำสุดท้ายก็เคี้ยวอยู่ในปาก เขาบ่นด้วยความเสียดาย อยากจะย้อนกลับไปซื้ออีก แต่มันก็ไกลไป อีกอย่าง ใส่ชุดผู้หญิงแบบนี้ เดินลำบากจะตายไป

    เดินไปอีกหน่อย ตรงกลางลานมีร้านน้ำชานะ มีเครปด้วย สนใจไหมล่ะ?ไทกะถาม เหมือนว่าโควจะปรับตัวได้แล้ว ไม่รู้ว่าปรับตัวได้หรือพยายามไม่สนกันแน่..

    สนสิ!” เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ....ไทกะคิดในใจ พลางยิ้มบางๆ ก่อนจะจูงมือพาโควไปที่ที่บอก

    บ่ายวันอาทิตย์แบบนี้คนยิ่งเยอะเป็นพิเศษ แม้จะเป็นแบบนั้น ร้านน้ำชาที่ไทกะบอกก็ยังมีที่นั่งว่างอยู่ที่หนึ่งพอดีทำให้ไม่เสียเวลาในการหาที่นั่งมากนัก ทั้งครอบครัวที่พากันมาเที่ยวในวันหยุด คู่รักวัยรุ่น กลุ่มเด็กสาวที่นัดกันออกมาทานขนมหวานด้วยกัน หรือกลุ่มเด็กมัธยมที่มานั่งติวการบ้านในร้านที่สงบและในวันที่อากาศดีแบบนี้

    ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ?เสียงจากบริกรหนุ่มดังขึ้น สายตาแอบเหลือบมองเนินอกของสาวสวยที่เป็นลูกค้าอย่างโจ่งแจ้ง

    มองไปก็ไม่เห็นหรอกเฟ้ย!

    เอาเครปเซตบี เพิ่มไอศกรีมวานิลลาอีก 1โควสั่งด้วยตาเป็นประกาย แม้จะไม่ชอบของหวานมากนัก แต่กับไอศกรีม เค้กและเครปเป็นข้อยกเว้น

    แล้วก็ขอกาแฟดำกับทีรามิสุชาเขียวทีนะครับไทกะยื่นหน้ามาขวางสายตาของบริกรไว้ด้วยใบหน้าเดือดนิดๆ อีกฝ่ายถึงกับเหวอ โค้งตัวรับออร์เดอร์แล้วจากไปทันทีอย่างร้อนรน

    ระวังตัวบ้างสิไทกะร้องเตือน ให้ตายสิ แต่งชายธรรมดาก็โดนคนจีบ แต่งหญิงก็โดนมองหน้าอก ถึงจะมองไปแล้วไม่มีตู้มๆนูนขึ้นมาให้มอง  แต่ผิวเนียนๆของโควน่ะเขามองและสัมผัสได้คนเดียว

    ระวังตัวอะไร? ฉันไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อยโควเถียงพลางดิ่มน้ำชาที่ถูกนำมาเสิร์ฟ บรรยากาศดีจริงๆ มองไปนอกร้านเห็นแสงแดดอ่อนๆยามบ่ายกับสวนสาธารณะที่มีแต่เด็กๆวัยสดใสและพุ่มไม้สีเขียวดุสบายตา

    ในร้านน้ำชากลางแจ้งนี่ก็เหมือนกัน พวกเขานั่งอยู่นอกร้านซึ่งมีร่มกันแดดอันใหญ่กางไว้ให้ มีฉากไม้สีขาวที่มีเถากีวี่พันรอบให้อารมณ์วินเทจคลาสสิคสบายตา ด้านในเป็นเคาท์เตอร์สำหรับสั่งเครื่องดื่มสำหรับคนที่ไม่ได้นั่งในร้าน ตู้ขนม ชั้นหนังสือ เมนูหลากหลายด้านหลังเขียนด้วยสีสดใสชวนมอง

    อาหารที่สั่งได้แล้วครับบริกรไม่ใช่คนเดิม แต่เป็นคนล่ะคน ถึงจะเป็นแบบนั้นโควก็จ้องถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ กลัวว่าเขาจะแอบมองตัวเองอีก โชคดีที่บริกรไม่ได้รู้สึกอะไรกับโควไปมากกว่าลูกค้า จึงวางอาหารลงบนโต๊ะแล้วกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

    เครปชุดบีที่โควสั่งเป็นเครปนมสดหอมกรุ่นกำลังร้อนๆ มีวิปครีมนดสมอยู่บนเครปและตกแต่งด้วยสตอเบอรี่และกี่วี่  มีไอศกรีมชาเขียวและวานนิลลามสดสองก้อน ดูน่ากินจนโควไม่ทน ใช้ส้อมตักทานไปเรื่อยๆ ไม่มีท่าทีว่ามันเลี่ยน

    ทำไมถึงชอบเครปจังเนี่ย ฉันให้ลองทานขนมอื่นก็ไม่เอาไทกะชอบเหลือเกินเวลามองดุโควทานขนมหวาน มันให้ความรู้สึกใสซื่อแปลกๆ ดูเป็นธรรมชาติและเป็นมุมมองที่ไม่ว่าใครก็ไม่เคยเห็นนอกจากเขา เหมือนสมบัติล้ำค่าที่เป็นของเขาเพียงคนเดียว

    แม้จะเคยเอาขนมอย่างอื่นให้ลองทานแล้ว โควก็ยังชอบทานเครปเป็นหลัก และไอศครีมกับเค้กเล็กน้อย แต่กลับไม่ชอบทานขนมอย่างอื่นอีก

    ทั้งๆที่ตอนทานขนมออกจะน่ารักมากแท้ๆ.....

    ภาพลักษณ์ที่ติดตานักเรียนของโรงเรียนเดิม โควเป็นประธานนักเรียนผู้มากความสามารถ ไม่ว่าจะบู๊บุ๋นก็เก่ง มีรอยยิ้มอ่อนโยน ช่วยเหลือทุกคนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เป็น Mr. Perfect

    แต่ภาพลักษณ์ของโควที่ติดตาเขาแต่แรกคือ คนหัวรั้น ดื้อดึง ปากไม่ตรงกับใจ มีความพยายามสูง คิดมากและปากร้ายในบางที

    แต่ว่า มันน่ารักซะเหลือเกิน!

    โควชอบขนมแค่สามอย่าง คือ เค้ก เครปและไอศกรีม

    อาหารที่ชอบคือ อาหารญี่ปุ่นแทบทุกอย่าง และซุปข้าวโพดกับลาซานญ่า

    ชอบสัตว์ตัวเล็กๆที่สามารถอุ้มได้

    เวลาเจอของชอบจะเดินอมยิ้มและพยายามเดินวนอยู่บ่อยครั้ง

    ตอนนอนชอบหาอะไรกอด

    เวลารู้สึกผิดจะพยายามปลอบและยื่นข้อเสนอสุดตัวเพื่อให้อีกฝ่ายหายโกรธหายงอนหรือก็คือเขานั่นแหละ

    หวงน้องชาย ห่วงน้องชาย รักน้องสาวมากจนไม่สนใครเลย

    ชอบกังวลเวลาน้องชายไปไหนคนเดียว

    ใบหน้าตอนยิ้มของโควน่ารักกว่ายิ้มของผู้หญิงคนอื่นๆที่เขาเคยรู้จัก

    ต่อให้พูดสิบวัน สิ่งที่เขาเห็นและรับรู้จากตัวของโคว มันก็ไม่มีวันพูดได้หมด

    สิ่งเดียวที่เขาแน่ใจคือ เขารัก โคว

    ย..ยิ้มอะไรของนายน่ะ..น่า..น่าขนลุกชะมัดโควมองรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ ปากเคี้ยวเครปเป็นคำสุดท้าย ผลไม้และไอศกรีมก็หมดลงไปพร้อมกัน พอกับเรื่องของขนมหวานที่ชอบแล้ว สองพี่น้องมักจะทานไม่รู้จักอิ่ม

    ไปเดินเล่นกันเถอะไทกะยิ้มเผล่ชวนโควไปเดินเล่นหลังจากที่อาหารว่างบนโต๊ะถูกจัดการหมดเรียบร้อยแล้ว

     

    หลังจากที่จ่ายเงินค่าอาหารแล้ว ไทกะก็จูงมือโควไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ที่นี่มีทางเดินยาวที่มีวิวสวยงาม ต้นเมเปิ้ลในฤดูใบไม้ร่วงเป็นวิวที่สวยสุดยอดจนต้องถ่ายรูปเก็บไว้ รวมถึงเป็นสถานที่เดทที่ดีที่สุด

    ตามทางเดินมีใบเมเปิ้ลตกอยู่เต็มพื้นไปหมด คู๋รักหลายคู่เลือกที่จะนั่งใต้ต้นเมเปิ้ลที่มีม้านั่งยาว  นอกจากนี้ด้านข้างยังมีทะเลสาบ มีเป็ดสีขาวลอยดุ่ยๆในน้ำให้ได้ยืนชมนั่งชมผ่อนคลาย

    ทั้งคู่นั่งกอดเข่าพิงกันริมทะเลสาบ มองดูเป็ดสีขาวและภาพของพระอาทิตย์กำลังตกดินอย่างเงียบๆ โควใบหน้าแดงซ่านนิดๆ เพราะต้องนั่งท่าผู้หญิงที่ไม่คุ้นชินเอาซะเลย ส่วนไทกะก็อมยิ้มอย่างสุขใจ แอบโอบเอวบางๆนั่นไว้ให้มั่น

    อากาศดีจังเนอะไทกะชวนคุย โควตอบกลับมาแค่

    อื้ม

    พระอาทิตย์ตอนกำลังตกแบบนี้ สวยดีนะ ว่าไหม?

    อื้ม

    นายรักฉันไหม?

    อื้ม..อ่ะ..อ๊ะ!”  ห..หลงกลจนได้!

    พูดอีกทีสิ หึหึไทกะจับโควหมุนตัวเข้าหาเขา ใบหน้าคมแดงนิดๆขณะมองใบหน้าที่แดงซ่านไปถึงหูของโควที่จ้องตอบกลับมา

    อา....หน้าแดงๆ ที่เขินอาย ท่าทีแบบนั้นมัน...จะทำให้เขาอดทนไม่อยู่จริงๆนะ ยั่วยวนชะมัดเลย...

    จุบ..ได้ไหม?ไทกะถามเสียงเบา ประคองใบหน้าเรียวเชยคางขึ้นมา ดวงตาคู่นั้นที่จ้องตอบมาสั่นไหวนิดๆ เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายที่เขาไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีก

    ดึงดูดยิ่งกว่าผู้หญิงที่สวยๆที่ไหน คนตรงหน้าเขาดีเด่นยิ่งกว่า

    ต่อให้คนอื่นจะมองว่าแปลกยังไงก็ช่าง ที่มีแฟนเป็นผู้ชาย

    ไม่มีใครกำหนดเอาไว้นี่นา

    เขาจะ รักคนๆนี้ตลอดไป

    อ..อื้ม....โควเองก็ตอบกลับมา ความรู้สึกที่เห็นในดวงตาคู่นั้น มีไม่น้อยไปกว่าเขาที่รู้สึกได้

    แม้มันจะแปลกมากแค่ไหนก็เถอะ แต่เขา...รักผู้ชายคนนี้

    แค่นี้เอง

    ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

     

    ไทกะค่อยๆก้มลงมอบจุบที่บรรจงมอบให้อย่างอ่อนโยน ริมฝีปากสีชมพูอ่อนนุ่มนิ่มชวนบดขยี้ เหมือนกลีบดอกไม้ที่ชวนให้ผึ้งมาดอมดมและรุกล้ำหาน้ำหวานจากภายใน

    จูบที่เนิ่นนานที่เกิดจากความรู้สึกที่ใสสะอาดไร้สิ่งใดมาเจือปน

    .

    .

    .

    .

    เวลา 18.00 ห้องของไทกะ

    ท้องฟ้าเปลี่ยนสี จากสีส้มอมเหลืองของพระอาทิตย์ยามตกดิน กลายเป็นสีเทาหม่นและสีน้ำเงินดำที่กำลังมาเยือนในอีกไม่ช้า สายลมของฤดูใบไม้ร่วงกำลังแผ่วมาอย่างอ้อยอิ่ง

    แฮ่ก..อ..อื้ม...อื้ม.....”  เสียงหอบเบาๆภายใตต้แสงสลัวของโคมไฟ เตียงนอนที่ยวบยามตามแรงสัมผัสสั่นไหวนิดๆ ดวงตาที่มองไปยังด้านบนฉายแววความรักและความต้องการเต็มเปี่ยม

    หากเขาไม่เติมเต็มคงจะรู้สึกผิด

    อื้อ..อื้ม....จูบซ้ำลงไปอีก ให้แน่ใจถึงรสสัมผัสอันลึกล้ำที่เขาไม่มีวันหาได้จากที่ไหนได้อีกแล้ว

    ตกลง..นะไม่ต้องการคำตอบ พูดแค่นั้น ไทกะก็เริ่มทันที

    โควมองดวงตาคู่นั้นอย่างแน่ใจ ก่อนจะพยักหน้า แม้อีกฝ่ายจะไม่ต้องการคำตอบ

    ร่างกายนี้...ฉันให้นายแค่คนเดียวนะ

    เพราะว่า....

    ฉัน

    ฉันรักนาย

    ........................................................................

     

     

    ขอโทษนะฮะ ที่หายไปนานมาก พอดีมีเรื่องสอบแกตแพทด้วย กว่าจะปั่นเสร็จ แหะๆ

    ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านกันนะฮะ ขอบคุณมากฮะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×