ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Cold Love รักอันเเสนหนาวเหน็บ (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #49 : ยามเช้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 179
      2
      22 พ.ค. 57

    ตึกที่ทาด้วยสีแดงหม่นๆ ถูกถล่มจนยับ  หน้าต่างแตกละเอียด ผนังด้านนอกเป็นรอยกระสุนหลายร้อยนัดเลยทีเดียว นี่สร้างความพรั่นพรึงต่อผู้คนที่สัญจรไปมาได้อย่างดี ที่ตรงนี้อยู่ในเขตที่ค่อนข้างจะแออัด มีคนจนและคนจรจัดอาศัยอยู่มาก แต่กระนั้นก็ยังมีคลับลัสต์ของเคียวมาเปิดอยู่ มีร้านค้าไม่กี่แห่งทำให้ค่อนข้างเงียบเหงาและคึกคักและน่ากลัวเวลากลางคืน

    หลังจากที่ตึกถูกถล่มไปเมื่อเช้า เหตุการณ์ก็สงบลง ตำรวจท้องถิ่นจับคนในแก๊งมาเฟียเซดิโน่ไปได้หลายสิบคน ทั้งถูกบังคับ เต็มใจสมยอม ศพของผู้ที่ตายถูกลำเลียงลงมาจากตึก มาซายะเหม่อมองศพของลูกสาวและลูกชายด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ตาทั้งสองข้างของทั้งสองคนค้าง ดูทรมาน เขาเอื้อมมือไปลูบลงอย่างเบามือ ลูบใบหน้าอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันหลังกลับ

    รินนั่งอยู่บนรถ มองดูเหตุการณ์ที่สงบ ห่มผ้าผืนหนา ช่วงนี้ใกล้จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว สองมือประคองแก้วกระดาษใส่โกโก้ที่จะทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น

    เคียวเปิดประตูรถเข้ามาอีกด้าน โอบไหล่บางของคนรักกอย่างอ่อนโยน ถ่ายทอดความอบอุ่นให้อย่างไม่หวงแหน

    ทุกอย่างจบแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้วเขาพูดกระซิบข้างหูอย่างอ่อนโยน จะบอกว่าทุกอย่างง่ายก็ว่าง่าย จะว่ายากก็ยาก หากในตอนนั้นเขาทิ้งปืนเร็วไปรินก็คงถูกยิง ในระยะประชิดแบบนั้น ไม้ช้าก็เร็ว กระสุนนัดนั้นหากถูกยิงจะต้องโดนรินแน่ ถ้าเขาทิ้งปืนไปไม่รู้ว่าความรู้สึกตกใจในตอนนั้นจะหยิบปืนขึ้นมายิงหมอนั่นทันก่อนที่รินจะถูกยิงไหม

     

     

    คุณน้าเรย์โกะกับคุณอาจิโร่....รินพึมพำ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกครั้ง เขาเสียใจที่ช่วยทั้งสองไม่ได้เลย

    ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร...พวกเขาไปสบายแล้ว ไม่ต้องห่วงนะรินเคียวกอดปลอบ จูบซับน้ำตาเบาๆ เกลี่ยผมที่ระใบหน้าออก กอดเขาแน่นอยู่บนรถท่ามกลางึวามวุ่นวายเล็กเบื้องหน้า

    ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกลำเลียงขึ้นรถไป ศพผู้เคราะห์ร้ายก็เช่นกัน รถตำรวจแล่นออกไปนานแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงมาซายะ สมิธ และยาตะเท่านั้นนอกจากรินและเคียว

    กลับไปพักผ่อนกันเถอะ ข้าฤดูหนาวแล้วแบบนี้ ชานมอ่อนๆสักถ้วยน่าจะเหมานะสมิธยิ้มบางๆ เดินเข้ามาลูบหัวเล็กๆของริน ก่อนที่เขาจะขึ้นรถไปพร้อมกับยาจะ และมาซายะขึ้นรถมาหาริน รถยนต์ทั้งสองคันแล่นออกไปจากสถานที่นี้ ไม่คิดจะกลับมาเหยียบอีก

     

     

     

    คฤหาสน์ของสมิธตั้งอยู่กลางใจเมืองในหมู่บ้านคัดสรร เงียบสงบและร่มรื่นไม้แพ้กับบ้านที่รินเคยพักอยู่ในลอนดอน สมิธพาทุกคนขึ้นเครื่องบิน บินกลับไปลอนดอน โชคดีที่รินไม่เจ็ทแลค เคียวดูแลรินตลอดเวลาจนกระทั่งเข้ามาในคฤหาสน์ รอบๆเป็นสวนหญ้าสีเขียวตัดเสมอกันดุน่ามอง มีต้นไม้ให่ บ่อน้ำ พุ โต๊ะม้าหิน ลูกน้องของสมิธเฝ้ายามกันอยู่รอบๆคฤหาสน์ราวกับกำแพงมีชีวิต สาวใช้หลายสิบคนออกมาต้อนรับ หยิบเอาสัมภาระต่างๆที่สมิธมีไปเก็บไว้ให้และช่วยนำทางแขกทั้งหลายไปยังห้องพัก แนะนำว่าตรงไหนคืออะไร

    เธอคงอยากพักแล้วสินะ ฉันจะให้คนไปส่งที่ห้องนะ หลับให้สบาย เด็กดีสมิธลูบหัวเขาเบาๆอย่างเอ็นดู นึกรักอย่างไม่มีข้อกังขา เขากล้าหาญพอที่จะล่อหลอกให้เซคันด์ไม่อยู่แล้วส่งข้อความมาบอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนได้

    ข้อความนั้นบอกว่าเขาอยู่ตรงข้ามกลับคลับลัสต์ของเคียว และบอกว่าตึกนั้นสีแดง มองออกไปจากตึกทางซ้ายมีแม่น้ำไหลผ่าน และบอกว่าร้านแถวนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งตามหาได้ไม่ยากเลยในเมื่อแถวนั้นเป็นแหล่งบันเทิงแห่งหนึ่งในอิตาลีใต้  ใช้เวลาเพียงคืนเดียวก็หาเจอและพร้อมสำหรับการบุกไปช่วยเหลือ

    ฮะรินขยี้ตาเบาๆ ตอนนี้เขามอมแมมไปหมดจนชักได้กลิ่นตุๆ

    เสื้อผ้าอยู่ในห้องแล้วล่ะ เป็นของหลานชายฉัน น่าจะพอใส่ได้นะ โทษทีที่หามาให้ไม่ทัน

    ไม่เป็นไรฮะรินยิ้ม ให้เขาสบายใจ ก่อนที่จะเดินตามสาวใช้ไปพักที่ห้อง เคียวแยกตัวออกไปขอไปทำธุระ

    ทางเดินในชั้นที่สองของคฤหาสน์กว้างขวาง มีรูปภาพราคาแพงหลายรูปภาพประดับอยู่สองข้างทาง วอลเปเปอร์เป็นสีน้ำตาลเข้มลวดลายเถาไม้สีครีมดูตัดกัน มีพุ่มดอกไม้สีสวยใส่แจกันทรงสูง ทุกอย่างดูเรียบง่ายแต่หรูหรา

    รินหยุดลงที่หน้าห้องห้องหนึ่ง บานประตูสีน้ำตาลอ่อนคล้ายสีช็อกโกแลตนม รินคิดว่าตัวเองคงหิวแล้วแน่ๆ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเพลียมากกว่า และเหนียวตัวอยากอาบน้ำ

    ถ้ามีอะไรเรียกดิฉันได้เลยนะคะ ยกหูโทรศัพท์แล้วบอกว่าคุณต้องการอะไรสาวใช่คนนั้นร้องบอก ขณะมองดูรินเข้าไปในห้อง

    ขอบคุณฮะรินขอบคุณก่อนจะมองไปรอบๆห้อง ห้องกว้างมาก ดูกว้างกว่าห้องที่รินเคยอยู่มาทั้งหมด ด้านนอกมองเห็นสวนสวยๆรับกับแสงแดดที่โผล่ออกมาหลังฝนตก รินได้ยินว่าประเทศอังกฤษ ฝนมักจะตกบ่อยมากๆ ทำให้อากาศค่อนข้างเย็นสลับกับอุ่น

    เตียงนอนตั้งอยู่ฝั่งหนึ่ง มีโต๊ะลิ้นชักใกล้เตียงวางโคมไฟและโทรศัพท์ ประตูห้องน้ำอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เสื้อผ้าหนึ่งชุดวางอยู่บนเตียง รวมถึงชั้นในที่ยังไม่ได้แกะออกจากห่อ เสื้อตัวนั้นค่อนข้าง พอเทียบแล้วมันยาวเลยแขนรินมาก ส่วนกางเกงก็ขายาวดูแล้วน่าจะต้องพับขาหลายทบ

    รินหยิบผ้าขนหนูที่วางด้วยกันเดินเข้าห้องน้ำ อ่างอาบน้ำจากุชชี่! ที่คอนโของเคียวเองก็มีแต่รินยังไม่เคยลองเล่นแบบน้ำวนสักครั้ง จึงถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปแช่น้ำหลังจากอาบน้ำแล้วต่ออีกนาน ความรู้สึกสดชื่นแล่นปราดเข้ามาในร่างกาย ตอนนี้รินรู้สึกหิวและเพลียเล็กน้อย การอาบน้ำทำให้ตาตื่นได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว บางทีเขาอาจจะแต่งตัวแล้วออกไปหาทุกคน กอดแน่นๆให้รู้ว่าทุกอย่างมันจบแล้วจริงๆ

    เสื้อผ้าที่พับอยู่ถูกสวมลงไปทันที พอสวมแล้วรู้สึกว่ามันหลวมมากเกินไปนิดหน่อย ทั้งแขนเสื้อ ขากางเกงต้องทับอยู่หลายทบทีเดียว  ตาซ้ายที่ยังเป็นแป็นแผลไม่หนักมากขนาดที่ต้องให้ใครช่วย ในห้องมีกล่องปฐมพยาบาลเล็กๆและมีของที่ใช้ได้อยู่ รินจึงลงมือทำแผลเองเสียเลย จากนั้นจึงเช็ดผมจนแห้งก่อนจะสวมรองเท้าแตะเดินในบ้านออกไปด้านนอก

    ต้องหลงแน่เลย...รินมองทางอันซับซ้อนแล้วรู้สึกกังวล พอๆกับบ้านของมาซายะเดี๊ยะเลย ราวกับเขาวงกตขนาดย่อมๆ

    รินเดินมาอีกที เจอกับหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นสวนที่ไม่ใช่ด้านหน้าเสียแล้ว ไม่รู้ว่าส่วนไหนเสียด้วย ไม่มีคนอยู่แถวนี้รินจะถามทางใครดี

    นายดูไม่จืดเลยริน! เสื้อกับกางเกงฉันตัวนี้มันเล็กสุดแล้วนะ!” เสียงคุ้นๆดังมาจากด้านหลัง รินหันกลับไปดูแล้วยิ้มกว้าง

    เจฟส์! ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ? เอ๊ะ หรือว่า...รินนึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ พอเขาพยักหน้าก็ราวกับเป็นคำตอยที่ถูก

    ถูกแล้ว คุณอาสมิธเป็นอาของฉัน เขาเป็นพี่ชายของพ่อฉันน่ะ ทั้งสองคนอยู่ฝรั่งเศส แต่ฉันไม่อยากไปเลยขออยู่กับอา

    อ้อ...

    ฉันเดาถูกจริงๆด้วย ว่าเด็กคนนั้นที่อาพูดถึงคือนาย ได้ยินเขาพูดชื่อน่ะ ตอนนี้นายกลับมาแล้ว ให้เดาว่าวันนั้นที่นายไม่ไปทำรายงานด้วยกันคงมีเรื่องแย่ๆใช่ไหม?เขาดูร่าเริงกว่าตอนปกติเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามีเรื่องดีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนี้

    อื้ม...

    ตานายเจ็บนี่นาเจฟส์มองดูตาซ้ายของเพื่อนชาวเอเชียตรงหน้าอย่างเห็นใจ เขาไม่รู้รายะละเอียดอะไรมากนักจากอา เพราะนั่นเหมือนจะเป็นเรื่องส่วนตัวจึงไม่ได้ถาม ตาซ้ายของเพื่อนสนิทอยู่ใต้ผ้าพันแผล ช่วงนี้เขาติดนิสัยดูแลคนอื่นเพราะรินแท้ๆ พอเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ จึงใช้มือลูบเอาเบาๆ

    แฮะๆ..จั๊กจี้จังเลยรินหัวเราะคิกคัก รู้สึกจั๊กจี้มากกว่าจะเจ็บเพราะผ้าพันแผลค่อนข้างจะหนา ทำให้ไม่โดนแผล

    รินเสียงของเคียวดูน่ากลัว ดวงตาเรียวยาวจ้องมองมือของเจฟส์ที่กำลังสัมผัสใบหน้ารินอย่างไม่วางตาราวกับจะจ้องให้มันแห้งแล้วหลุดไปเสีย เจฟส์เองก็ขนลุกกับการถูกมองแบบนั้นจึงหดมือกลับแทบไม่ทัน พอมองดูสายตาของเขาแล้วจึงเข้าใจได้ในทันที

    อ้อ...ที่แท้

     

    เคียวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ปลดกระดุมบนสองเม็ด พอเห็นหน้าอกหนาแกร่ง รับกับกางเกงสแล็คขายาว ดูมีเสน่ห์แบบหนุ่มที่อายุเข้าเลข 3 เขาดูเหมือนยังอายุ 20 ต้นๆดูเลยในสายตาของเจฟส์ และด้วยความที่เขาตัวสูง ทำให้เขาดูน่าเกรงขาม สง่าและน่ามองไม่น้อย เจฟส์มองอย่างชื่นชม บุคลิกดูเคร่งขรึมคล้ายอาของเขา

    รินถลาร่างเล็กๆเข้าอ้อมกอดของเคียวอย่างไม่อายเพื่อน กอดเขาจนแน่นด้วยแรงที่มีแล้วยิ้มหวาน

    เคียวซังล่ะ!”

    อื้ม ฉันเองไงเขานึกขำ ก่อนหน้านี้ก็คุยกันแล้วนี่นา ทำเป็นลืมเหมือนว่าไม่ได้เจอกับเขาก่อนมาที่นี่ไปได้ ตอนนั้นอาจจะตั้งตัวไม่ทันล่ะมั้ง ตอนนี้คงได้อาบน้ำสดชื่นขึ้นแล้ว

    อ๊ะ! นี่เจฟส์ล่ะ เขาเป็นเพื่อนของผมคนแรกที่นี่เลยนะรินแนะนำเขาให้กับเคียวด้วยน้ำเสียงเริงร่า ทั้งสองจ้องกันอยู่สักพักก่อนที่เจฟส์จะพูดขึ้นมาทำลายบรรยากาศอันหนักอึ้ง

    สวัสดีครับเสียงเขาดูกระอักกระอ่วนแปลกๆ พลางคิดว่าเคียวอาจจะไม่พอใจที่เขาทำตัวสนิทสนมกับริน

    อืมเคียวตอบรับอย่างเย็นชา พลางจูงมือรินไปอีกทางหนึ่ง สายตาอ่อนโยนแบบนั้นทำให้เจฟส์มองตามแล้วอมยิ้ม ต่อให้เย็นชาหรือแข็งกร้าวยังไง เจอกับยิ้มแบบนั้นไม่ว่าใครก็ต้องหลงทั้งนั้นแหละ!

     

     

     

    ตอนนี้ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี สาวใช้กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารอยู่พอ แขกในคฤหาสน์ของสมิธเนเข้ามาในห้องเงียบๆ เจฟส์มองดูอย่างสนใจ พวกเขาเป็นชาวเอเชียทั้งหมดและน่าจะเป็นคนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับริน มีคนหนุ่มที่พยายามเบี่ยงตัวออกห่างจากอาของเขา ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับรูปถ่ายในห้องอาของเขารึเปล่า เขาเคยได้ยินอาพูดชื่อใครคนหนึ่งขึ้นมาเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ฮารุกะ

    ส่วนอีกคนหนึ่งดูมีอายุมากกว่าใคร เป็นคุณตาที่มีใบหน้านิ่งเฉย ดูน่าเคารพ เส้นผมสีดอกเลาดูสวยงามใต้แสงไฟ รอยย่นบนใบหน้าทำให้เขาดูแก่ แต่ท่าทางของเขาที่ยืนตรง ไม่งองุ้มเหมือนคนวัยเดียวกันทำให้เขาอาจดูอ่อนกว่าอายุจริง พอมองไปรอบห้องแล้วหันมาเจอรินก็แย้มยิ้มออกมาทันที ดูอ่อนโยนผิดกับเมื่อครู่

    รินเสียงเรียกของเขาอ่อนโยน เจือไปด้วยความรักและความเป็นห่วง ไม่รู้ว่าเจฟส์คิดไปเองรึเปล่า เหมือนเห็นเขาแอบปัดมือของเคียวออกแล้วจูงหลานไปนั่งที่โต๊ะเอง

    เคียวมองมาซายะที่จู่ๆก็เดินมา ดีดมือของเขาออกแล้วจูงมือรินไปนั่งด้วยกัน สายตาเขาจ้องอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งขนาบข้างกับรินในขณะที่มาซายะนั่งอีกฝั่ง สมิธมองดูคนสองวัยแย่งรินอย่างสนุกสนาน ยาตะถอนหายใจเล็กน้อยที่ถูกสมิธให้นั่งข้างๆกัน เจฟส์นั่งข้างยาตะ มองดูคุณตากับเคียงฝั่งตรงข้ามอย่างขบขัน

    อาหารถูกวางลงมาทีละอย่าง เบื้องหน้าของเขาคือจาน ช้อนส้อมและแก้วน้ำใบใสที่กำลังถูกเติมน้ำโดยสาวใช้ อาหารตรงหน้าเป็นอาหารสเปนและอิตาลี ทั้งปาเอญ่าจานใหญ่ แฮมรมควัน ลาซานญ่า ผักโขมอบชีส พิซซ่าเปเปอโรนี่ สลัดผัก แซนวิชประสบไส้หลากหลาย ทั้งแฮม เนื้อไก่ ผัก ไข่ พายตับ ซุปมะเขือเทศและตะกร้าขนมปังหลากหลายวางอยู่รอบโต๊ะ เป็นอาหารมื้อใหญ่เลยทีเดียว กลิ่นหอมชวนรับประทานทำเอารินรู้สึกหิวเอามากๆ

    ทานเลยนะริน มีอีกเยอะเลยล่ะ อยากได้อะไรก็สั่งมาเพิ่มได้เลย แม่ครัวของฉันทำได้ทุกอย่างเลยนะสมิธพูดเอาใจ อาหารมื้อนี้เขาให้แม่ครัวทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ท้องน้อยๆนั่นกินอิ่มหลังจากผ่านวันเวลาอันเนิ่นนาน

    แค่นี้ก็เยอะแล้วฮะ ผมจะทานเยอะๆเลยรินยิ้มกว้างอย่างเริงร่า พอเห็นอาหารน่าอร่อยก็สดชื่นขึ้นมาเยอะ

    อาเดาถูกไหมว่ารินเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเรา เจฟส์สมิธหันมาถาม เจฟส์นั่งดื่มซุปมะเขือเทศอยู่เงียบๆ

    ถูกครับ ผมถึงเลือกชุดที่เล็กที่สุดให้เขาไง แต่เหมือนมันจะยังใหญ่อยู่เขาพูดกล้ะวหัวเราะ แขนเสื้อกับกางเกงต้องพับขึ้นอีกตั้งหลายทบกว่าจะพอดีกับแขนเล็กๆ รินเคี้ยวขนมปังหยุบหยับจนแก้มป่อง มีเคียวตักอาหารมาไว้ในจานให้โดยที่ตัวเองยังไม่ลงมือทาน

    ทานเยอะๆนะลูกมาซายะตักลาซานญ่าคำโตวางไว้มุมจาน

    ทานเยอะๆเลยนะ น่าร่อยทั้งนั้นเลยเคียวตักปาเอญ่าวางไว้มุมจานอีกข้าง อาหารในจานรินดูเหมือนจะเพิ่มไม่หยุด

    พอก่อนฮะ! เดี๋ยวผมทานไม่หมด!” รินรีบเบรกก่อนที่จานตัวเองจะพูนไปมากกว่านี้ ทุกคนหัวเราะทันที บรรยากาศดูสดใสขึ้นมา ทุกคนพูดคุยกันไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน

    ยาตะทานซุปมะเขือเทศจนเกือบหมดก่อนจะทานขนมปังตามลงไป แต่ไม่รู้ทำไมในจานของเขาถึงมีอาหารมาเพิ่มอยู่เรื่อย

    คุณจะเอามาใส่ในจานผมทำไมเนี่ยยาตะถามเสียงขุ่น มองช้อนกับส้อมของสมิธตักนู่นตักนี่มาใส่ไม่หยุด เหมือนมาซายะกับเคียวไม่มีผิด

    นายเองก็เหนื่อยนี่นาฮารุกะ ทานเยอะๆเลยนะเขายิ้มกว้าง เรียกชื่ออีกฝ่ายที่ตีหน้ายักษ์ใส่

    อย่ามาเรียกชื่อผมนะ! แล้วก็เลิกตักอาหารมาใส่ในจานผมได้แล้ว!” ยาตะแหว

    เจฟส์รู้สึกเหมือนเป็นคนนอกชอบกล แต่เขาไม่สนเท่าไหร่ เขาทานซุปจนหมดแล้วทานพิซซ่าไปสองชิ้นกับพายตับอีกซีกก่อนจะทานแซนวิชกับขนมปังอบใหม่ไปอีกอย่าละชิ้น ทานจุไม่แพ้รินเลยทีเดียว

    รินทานลาซานซ่าอีกสองสามคำแล้วตามด้วยพิซซ่า พายตับและแซนวิชหลังจากทานปาเอญ่าที่ตักมาในจานจนหมด ตอนนี้รู้สึกอิ่มจนตื้อเลย

    มาซายะพอถูกห้ามจากหลานชายก็หันมามาสนใจทานอาหารบ้าง เขาทานซุปมะเขือเทศกับขนมปังอบใหม่ๆไปหลายชิ้น และขอเติมซุปอยู่บ่อยครั้ง เขาแก่แล้ว ไม่อยากทานอาหารที่ย่อยยากหนักหรอก

    เคียวซัง ทานนี่สิๆรินตักผักโขมอบชีสจะป้อนเคียว แน่นอนว่าเขาอ้าปากรับไว้โดยดี รู้ดีว่ารินไม่อยากทานจึงเอามาให้เขาทานแทน

    งั้นรินก็ทานบ้างสิเขาตักผักโขมมาจะป้อนรินบ้าง แต่เหมือนจะรู้ตัว รินหันไปแทะแฮมรมควันแทนเสียแล้ว ทำเป็นไม่สนใจเคียวอีก

    เด็กดื้อ!” สองนิ้วหนาบีบจมูกรินเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว สวีทกันจนคนไม่มีคู่อิจฉา เจฟส์มองภาพนั้นอย่างปลงตก สงสัยเขาต้องหาแฟนบ้างเสียแล้วสิ!

     

    .

    .

    .

    .

    .

    ชิเงรุกับเอริที่อาการค่อนข้างไม่ดีเป็นลมอยู่บ่อยครั้งหลังจากที่ตอนเย็นได้รับโทรศัพท์จากมาซายะว่ารินปลอดภัยดีแล้วตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ก็โล่งอกมาก อาการที่แย่ๆหายดีเป็นปลิดทิ้ง มาซายะบอกว่าจะให้รินโทรหาพวกเขาให้เร็วที่สุด

    คุณพ่อครับ ผมอยากให้รินกลับมาที่ญี่ปุ่น...ชิเงรุเป็นห่วงลูกชายมาก ไปครั้งนี้ไม่กี่เดือนก็เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเสียแล้ว อยากจะให้ลูกชายกลับมาอยู่ใกล้ตัวมากกว่าให้อยู่ไกลๆ

    เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว ฉันเองก็คิดจะให้เขากลับญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่คงต้องถามความต้องการของเจ้าตัวก่อนมาซายะก็เป็นห่วงไม่น้อยกว่าใคร เขาถึงกับฝืนตัวเองลุกจากเตียงบินมาที่อิตาลีเละลอนดอนเพื่อริน เรียกได้ว่าอาการป่วยถูกดีดกระเด็นเมื่อนึกถึงหลาน

    ครับคุณพ่อ ถ้างั้นผมจะคุยกับรินอีกทีตอนที่เขาโทรมาก็แล้วกันครับชิเงรุวางสายลงไปหลังจากที่มาซายะตอบรับ เขาอยากให้ลูกชายกลับมาเสียจริง

    เป็นยังไงบ้างคะคุณ ลูกปลอดภัยดีไหม?เอริถามเสียงกังวล เมื่อได้ยินคำตอบก็ยิ้มกว้างอย่างโล่งอก โควได้ยินก็โล่งอกบ้าง เขารีบกลับมาจากมหาวิทยาลัยมาฟังข่าวน้องชายโดยไม่ไปไหนเลย

    คุณพ่อบอกว่าเดี๋ยวรินจะโทรมาหา ตอนนี้เขาพักผ่อนอยู่ชิเงรุร้องบอก ตั้งใจว่าจะไม่นอนเลยทีเดียวเพื่อรอรับโทรศัพท์จากลูกชายที่รัก

     

    แล้วเวลานั้นก็มาถึง กลางดึกรินก็โทรมาคุยเสียงสดใสหลังทานอาหารเที่ยงของที่นั่น ความสุขแผ่ซ่านไปทั้งครอบครัวเป็นความประทับใจที่ลืมไม่ลง

    ผมถูกยิงที่ตาซ้าย แต่ไม่เป็นแผลลึกนะฮะ! แค่ถากๆ อีกไม่กี่วันก็จะหายแล้วล่ะ!” รินไม่อยากให้ครอบครัวต้องกังวล อีกอย่างแผลมันก็ไม่ได้ลึกจริงๆ น่าจะหายเร็วด้วยซ้ำ

    ดีแล้วล่ะลูก...ริน พ่ออยากให้เรากลับมาที่นี่ ที่บ้านของเรา...พ่อกลัวว่ามันจะเกิดอันตรายแบบนี้ขึ้นอีกชิเงรุบอกเสียงสั่น เขากลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกชายอีก

    คุณพ่อฮะ...คุณตาก็บอกแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมอยากอยู่ที่นี่ ผมมีเพื่อนแล้วตั้งเยอะ ผมอยากเรียนให้จบม.ปลาย....ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากกลับไปนะ! แต่ผมอยากเรียน อยากอยู่กับเพื่อนๆ...รินรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว แต่เขาอยากอยู่ที่นี่จริงๆ อยากเรียนต่อ อยากอยู่กับเพื่อนๆ เพราะเขากลัวว่าจะไม่ได้อยู่กับเพื่อนๆอีก อุตส่าห์ได้เพื่อแล้ว หากกลับไปมันก็น่าเศร้าที่ต้องแยกจากกัน

    พ่อรู้...แต่พ่อเป็นห่วงลูก กลับมาบ้างได้ไหม ทั้งพ่อและแม่ พี่เขาอยากเจอลูก หรือจะให้พ่อบินไปหาก็ได้นะชิเงรุรู้คำตอบอยู่แล้ว หากลูกชายจะยืนกรานแบบนั้น เขาอาจจะไปหาทุกครั้งที่มีโอกาสเลย ลูกชายเขาเพิ่งจะได้เพื่อใหม่เป็นธรรมดาที่รู้สึกผูกพันธุ์ไม่อยากแยกจาก และเขาไม่อยากทำให้ลูกชายเสียใจ

    ได้สิฮะ..คุณตาบอกว่าวันเกิดผมจะให้ผมกลับไปฉลองที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว

    งั้นก็ดีเลยสินะจ๊ะ! รินจะพาเพื่อนมาด้วยก็ได้นะ แม่ยินดีต้อนรับจ้ะ!” เอริแย่งสามีพูดโทรศัพท์คนเดียวมาพูดเอง เธอไม่คิดบังคับลูกชายอยู่แล้ว อยากเห็นลูกชายมีความสุข

    อื้ม! ผมจะชวนทุกคนมาล่ะ คุณแม่ต้องเตรียมอาหารอร่อยๆไว้นะ!” รินร้องบอกเสียงสดใส นึกถึงวันนั้นมีเพื่อนๆจะอยู่ในงานวันเกิด วันเกิดแรกของเขาที่จะมีคนมาฉลองด้วย

    จ้า งั้นไว้เดี๋ยวแม่จะโทรไปหาใหม่นะจ๊ะตอนนี้ดึกมากแล้ว เธอต้องตื่นเช้าและสามีเองก็ต้องตื่นยเช้าเช่นกัน

    อ๊า! แม่ครับ ผมยังไม่ได้คุยกับรินเลยนะ!” โควถลามา คว้าหูโทรศัพท์เอาไว้แล้วรีบพูดทันที

    ริน นี่พี่นะ เป็นยังไงบ้างโควรีบพูดทันที กลัวว่าน้องชายจะวางสายไปเสียก่อน เขาคิดถึงน้องมากจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าที่มหาวิทยาลัยยุ่งมากเขาอยากจะโทรหารินวันละหลายๆรอบเลยทีเดียว

    พี่ฮะ! ผมสบายดีล่ะ วันเกิดผมพี่ต้องให้ของขวัญผมด้วยนะ!”

    ได้เลย พี่จะเตรียมของขวัญดีๆไว้ให้นะ!”

    อื้อ!”  โคววางสายหลังจากที่พูดกับน้องชายไปหลายประโยค ความจริงเขาอยากคุยมากกว่านี้แต่กลัวร่างกายจะรับไม่ไหวเพราะเหนื่อยล้าจากการเรียนที่หนักหนามากแล้ว

    พี่ชายต้องดูแลตัวเองดีๆนะ! ผมจะโทรหาบ่อยๆเลย!”

    จ้า

    อ่า...วันนี้เขามีความสุขมากเลย เสียงของน้องชายเนี่ย ได้ยินเมื่อไหร่ก็สุขสุดๆ!

     

     ................................................................................................................................

                   ขุ่นพ่อขุ่นเเม่เเละขุ่นพี่เเลดูไม่มีบท.....


    เรื่องนี้ใกล้จบเเล้วจริงๆ ;[];

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×