ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Demon change

    ลำดับตอนที่ #5 : ความสามารถที่ก้าวกระโดด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 124
      1
      7 ก.ย. 54

    _______________________________


    เช้าวันรุ่งขึ้น ณ.โรงเรียน

    ไร้เดช ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าเพราะนอนไม่หลับคิดแต่เรื่องของเดมอนตลอดทั้งคืน

    ใจหนึ่งก็ดีใจที่หัวดีฉลาดขึ้นมากับเขาบ้าง..อีกใจก็เครียดที่[อายุขัย]ลดลงไป1ปี
    ถึงไม่มีหลักฐานว่าลดลงไปแล้วก็ตาม

    "โย่~ตาดำปี๋เลยนะเพื่อน"

    แดนส่งเสียงทักมาแต่ไกล

    "อย่าบอกนะว่าอ่านหนังสือเรียนโต้รุ่งมา!?"

    มาลีข้องใจมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ไร้เดชวิ่งไปห้องสมุด
    เธอไม่คิดว่าเขาจะยอมฟังคำแนะนำที่ให้ไปอ่านหนังสือ แต่ตาที่เหมือนกับไม่ได้นอนทำให้เธอคิด

    "..เอ่อ..คงงั้นล่ะมั้ง..?"

    ไร้เดชโกหกส่งๆไปเขาไม่คิดจะบอกใครเรื่องเดมอนแม้แต่กับเพื่อนสนิท

    "โอ้โห มุ่งมั่นขนาดนั้นเชียว ถ้าเกิดตั้งใจแต่แรกคงไม่เหมือนกับเมื่อวานหรอก"

    มาลีพูดไปอย่างนั้น แต่นั่นไปสะกิดต่อมโมโหของไร้เดชเข้าอย่างจัง

    "คอยดูให้ดีๆ..."

    "หา?"

    "คาบเรียนต่อไปนี่แหละ..ชั้นจะแสดงพลังที่แท้จริงออกมาให้ดู"

    ครืน ครืน เสียงประกอบที่ไม่รู้ว่าดังมาจากที่ไหน บ่งบอกถึงการเอาจริงของเด็กหนุ่ม


    _____________________


    และแล้วเมื่อถึงชั่วโมงเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของครูโหด
    ที่ไร้เดชไม่ชอบทั้งครูและบทเรียน

    แต่นั่นคงเป็นอดีตเท่านั้น

    เพราะตอนนี้เขาได้เป็นคนหัวดีในช่วงข้ามคืน

    "โจทย์เลขข้อนี้ยากกว่าทุกครั้งนะ เอ้า! ใครจะเป็นคนตอบล่ะ!?"

    โจทย์คราวนี้ยากอย่างที่ว่ามาจริงๆ�

    นักเรียนหัวดียังต้องเพ่งโจทย์ซำ้แล้วซำ้เล่า

    นักเรียนหลายคนกุมขมับ�

    หรือบางคนถึงกับเบือนหน้าหนีไม่อยากมองเลยด้วยซำ้

    ครูเห็นว่าไม่มีใครยกมือเพื่อจะตอบเขาเลยคิดจะสุ่มเลือกนักเรียนขึ้นมา
    ทว่า มีหนึ่งคนที่ยกมือขึ้นเพื่อขอสิทธ์ในการตอบ

    เขาคือ เด็กจอมเหม่อขึ้นชื่อเรื่องความห่วยอันดับต้นๆของห้อง ไร้เดชนั่นเอง

    วินาทีแรกทุกคนในห้องตกใจมาก ใครกันที่กล้าขอตอบโจทย์ยากๆแบบนี้
    แต่พอเห็นว่าเป็นไร้เดชทุกคนก็หัวเราะกันในใจพลางเยาะเย้ย

    "หมอนี่ท่าจะบ้าแฮะ โจทย์ง่ายๆเมื่อวานยังตอบไม่ได้
    วันนี้ยากๆดันคิดจะขอตอบซะงั้น"

    ครูมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่ไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้

    "นึกว่าใครเธอเองเรอะ วันนี้ยากกว่าเมื่อวานเยอะนะเธอตอบไม่ได้หรอก"

    แต่ไร้เดชก็คิดจะตอบอยู่ดี เขามีแววตาที่มุ่งมั่นมาก
    เขาลุกออกจากที่นั่งและเดินไปที่กระดานดำเพื่อไปตอบโจทย์ข้อนั้น

    เขาเดินผ่านโต๊ะเรียนของมาลีที่อยู่เกือบจะหน้าสุด

    "นี่ ไม่ต้องฝืนหรอก ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะล้อนายเมื่อเช้านะ
    แค่กล้ายกมือก็เก่งแล้วไม่ต้องไปตอบหรอก"

    มาลีแอบพูดกับเด็กหนุ่มแต่เขาก็ไม่สนใจและเดินต่อไป

    "มาตอบจริงๆรึนี่"

    ครูยืนดูไร้เดชที่ถือชอร์กเตรียมตอบ

    �แกรกแกรก ไร้เดชเริ่มลงมือเขียน�

    ครูละเหี่ยใจ รู้ทั้งรู้ว่าตอบไม่ได้แต่ก็ยังดื้อที่จะตอบ
    เขาละสายตาจะเด็กหนุ่มหันไปเปิดคู่มือการสอนแทน

    และแล้ว

    เสียงในห้องเรียนที่ควรจะเงียบกลับมีเสียงจ้อกแจ้กคุยกันของนักเรียน
    เสียงดังขึ้น ดังขึ้น

    "สุดยอดเลย"

    "ทำได้ไงเนี่ย"

    "เดี๋ยวสิ..อาจจะตอบผิดก็ได้นะ"

    ครูหันกลับไปมองที่ไร้เดชและก็ต้องตกตะลึงกับกระดานดำ
    ที่ถูกเขียนคำตอบซะเกือบเต็มหน้ากระดาน

    "ผมเขียนอธิบายเผื่อให้ นักเรียนคนอื่นเข้าใจวิธีทำแบบง่ายๆด้วย..ได้มั้ยครับ?"

    ครูแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเขารีบตรวจคำตอบนั้นด้วยความรวดเร็ว
    เพราะอยากจะรู้ให้ชัดว่านั่นเป็นคำตอบที่ถูกหรือเป็นแค่การตอบเน้นปริมาณ
    และเขาก็พบว่า..ทั้งหมดนั้น..

    ถูกต้อง!!

    ทันทีที่ครูยืนยันคำตอบ นักเรียนทุกคนต่างก็ตกตะลึงพูดอะไรไม่ถูกไปทั้งห้อง..แม้แต่ครู

    "เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ~~~~~~~~~!!!!"

    แดนร้องตะโกนด้วยความดีใจที่เพื่อนรักทำได้

    "..มะ..ไม่น่าเชื่อหมอนั่นทำได้จริงๆด้วย"

    มาลีแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
    �แน่นอนว่าต้องเป็นแบบนั้นคนที่เมื่อวานถูกเรียกให้กลับไปนั่งที่ก่อนจะตอบ
    วันนี้กลับกลายเป็นว่าตอบโจทย์ที่ยากมากได้

    หลังจากที่ครูยืนนิ่งหน้ากระดานดำมาครู่หนึ่ง คราวนี้ครูหันมามองที่ไร้เดช

    "..เก่งมาก"

    เด็กหนุ่มไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้ยินคำชมจากครูโหดคนนี้ มันไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง

    "ขะ..ขอบคุณครับ!"

    หลังจากนั้น ไม่ว่าวิชาอะไรไร้เดชก็ทำออกมาได้ดีจนนักเรียนคนอื่นในห้องตกตะลึงกันเป็นแถวๆ
    เช่นภาษาอังกฤษก็พูด อ่าน เขียน ได้คล่องปรื๋อศัพท์ต่างๆที่เมื่อวานไร้เดชยังต้องถาม
    ตอนนี้เขาท่องได้หมดจนนักเรียนบางคนแอบสงสัยว่าพกพจนานุกรมฉบับจิ๋วมาด้วยรึเปล่า
    �� �หรือภาษาไทยแต่งกลอนออกมาได้ซาบซึ้งจนแดนร้องไห้ท่วมห้องเรียน

    ความสามารถที่ก้าวกระโดดภายในข้ามคืน ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจ
    แต่คนที่ตกใจมากที่สุดคือเจ้าตัวเองเขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น จู่ๆก็เก่งขึ้นมาเก่งจนน่ากลัว

    หลังเลิกเรียน

    "เป็นอะไรไปน่ะ สีหน้าไม่ดีเลยทั้งที่วันนี้สุดยอดไปเลยแท้ๆไม่ดีใจเหรอ?"

    แดนเข้ามาทักไร้เดชที่ตีหน้าเครียดเดินออกจากโรงเรียน

    "อ๊ะ..ก็..ดีนะ"

    ไร้เดชตอบนำ้เสียงเรียบ

    "สงสัยเมื่อวานอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังเลยล่ะมั้งถึงได้เก่งขึ้นมาขนาดนี้..คงจะเหนื่อยมากเลยล่ะสิ"

    มาลีมองไร้เดชด้วยสายตาชื่นชมพร้อมถือนำ้ผลไม้กระป๋องมาให้

    "วันนี้ขอเลี้ยงคนมีความพยายามหน่อยนะ"

    "ว้า~ไร้เดชโชคดีอ่ะ ได้ดื่มฟรีด้วย!"

    "ของแดนก็มี แน่นอนว่าของชั้นก็ด้วย"

    "เย้~~~~มาลีใจดีที่สุดเลย!"

    แล้วทั้งสามคนก็ดื่มนำ้ผลไม้ฉลองกัน

    "ขอบใจนะทุกคน.."

    ไร้เดชรู้สึกสับสนกับท่าทีดีใจของเพื่อนๆ ปกติแล้วถ้าเขาทำได้ขนาดนี้คงจะดีใจกระโดดโลดเต้น
    แต่นี่ไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงเขา สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เกิดจากการแลกเปลี่ยนกับปีศาจตนหนึ่ง
    เขาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรได้แต่ให้เพื่อนดีใจไปแบบนั้น


    ณ.บ้านของไร้เดช

    เด็กหนุ่มเปิดประตูบ้านเบากว่าทุกทีเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่ากลับมาแล้ว
    แต่ก็ไม่พ้นสายตาแม่ของเขาไปได้

    "อะไรกัน ทำท่าลับๆล่อๆแบบนี้ถูกเพื่อนในโรงเรียนล้อมารึไง?"

    แม่ของเด็กหนุ่มรู้ว่าลูกของตนไม่ใช่เด็กเก่งเหมือนใครเขา แต่ก็รักและเอ็นดูเสมอมา
    ไม่เคยคาดหวังว่าจะให้เป็นแบบนี้หรือแบบไหน แต่นั่นทำให้ไร้เดชรู้สึกผิดกว่าต่อว่าเขาซะอีก

    "ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่รู้อยู่แล้วล่ะว่าลูกเป็นเด็กดี ข้อดีในตัวลูกมีเยอะแยะเลยนะ"

    "เอ่อ..ไม่ใช่แบบนั้นครับ.."

    ไร้เดชรีบแก้ความเข้าใจผิดทันที เขาหาหลักฐานผลหรือการเรียนวันนี้นั่นคือ..บทกลอนที่เขาแต่ง

    "..คะ..ครูบอกว่านี่เขียนได้ดีน่ะครับ"

    แม่ของไร้เดชอ่านบทกลอนอยู่นาน..ซำ้ไปซำ้มา..และลูบหัวของเด็กหนุ่มเบาๆ

    "ไม่ว่าลูกจะเรียนได้ดีหรือไม่ลูกก็เป็นลูกที่แม่ภูมิใจเสมอจ้ะ.."

    ไร้เดชไม่เข้าใจคำตอบของแม่ ตอนแรกเขาคิดว่าแม่คงดีใจมากกว่านี้

    และเขาก็เดินกลับไปในห้อง..
    เด็กหนุ่มวางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะเสียงที่สะท้อนกลับมาเบาแม้วางกระแทกลงไป
    เพราะด้านในไม่ได้ใส่หนังสือเรียนไว้มากอะไร

    เด็กหนุ่มเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงที่คุ้นเคยและนึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
    ความฉลาดที่ได้มา..อายุขัยที่สูญเสียไปทั้งหมดนี้เขาทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้ เขาเองก็ไม่รู้

    เมื่อวานนี้เขานอนไม่หลับเพราะมีเรื่องกังวลใจวันนี้ก็เช่นกันแต่
    วันนี้เขาพยายามข่มพยายามข่มตาให้หลับเพื่อให้ลืมทุกอย่างไปแม้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง



    จิ๊บจิ๊บ



    ไม่่ใช่สโลแกนโฆษนารถแต่เป็นเสียงนกร้องยามเช้า
    ไร้เดชลืมตาตื่นขึ้น แต่งตัว ทานข้าวเช้า ไปโรงเรียนตามปกติ

    แต่เมื่อถึงโรงเรียนสถานที่ท่ี่เขามุ่งไปไม่ใช่ห้องเรียนหากแต่ว่าเป็นห้องสมุดที่อยู่(?)ของเดมอน

    [เช้าแบบนี้คงไม่มีใครมาห้องสมุดหรอก]

    เด็กหนุ่มเดินคิดไปพลางหาหนังสือที่เขาเปิดเมื่อวานซืน หนังสือเล่มนั้นยังคงอยู่ที่เดิม

    [ไม่ใช่ความฝันสินะ..]

    เด็กหนุ่มยังคงไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นเขามาดูให้แน่ชัดว่าหนังสือเล่มนั้นมีตัวตนอยู่จริงรึว่าเขาคิดไปเอง
    สีหน้าสับสน�เขาคงรู้ว่ามันไม่ใช่ฝันหรือคิดไปเองอะไรทั้งนั้น
    เพราะเขาหัวดีขึ้นจริงๆไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่ก็อยากจะมาดูที่นี่อย่างไม่รู้สาเหตุ

    ในระหว่างที่หันหลังกลับก็มีเสียงทักขึ้น�

    เสียงที่เย็นวาบและแสนสุภาพ"มาหาผมหรือขอรับนายน้อย?"

    เจ้าของเสียงไม่ใช่ใครเดมอนนี่เอง

    "ชั้น..ไม่ได้มาหานาย..ชั้น..มาอ่่านหนังสือต่างหาก"

    ข้ออ้างที่นึกขึ้นมากระทันหันไม่แนบเนียนพอที่จะตบตา เดมอนแอบยิ้มเพราะจับได้

    "งั้นหรือขอรับ..แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะขอรับสำหรับความฉลาดที่ได้ไป
    �...ผลลัพท์น่าพึงพอใจไหมขอรับ"

    ไร้เดชหลบตาครู่หนึ่งแล้วจึงตอบอย่างไม่มั่นใจ

    "ก็...ฉลาดขึ้นจริงๆแหละแต่..ไม่เห็นจะรู้สึกดีอย่างที่คิดไว้เท่าไหร่"

    คำตอบที่ยาวกว่าที่คิดทำให้เดมอนชอบใจคล้ายว่าเด็กหนุ่มเปิดใจให้ตัวเองบ้าง

    "ความแตกต่างจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้ขอรับ"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×