ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #13 : [CHAN x KAI] ...MY REASON... [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      4
      2 เม.ย. 56

     


    ...MY REASON...

    ChanKai SHOT FICTION BY SOLINA

     

     
     







     

    ...คุณเคยหาเหตุผลที่ไม่อยากมองหน้าหรือเข้าใกล้ใครสักคนไม่ได้ไหม...

     

     

     

     

     

                    ร่างโปร่งในชุดนักเรียนยืนพิงกำแพงในขณะที่มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง.. อีกข้างหนึ่งนั้นถือจับมือถือไอพอดเครื่องบางที่เชื่อมต่อกับเฮดโฟนอย่างไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง... ใบหน้าได้รูปรับกับผิวสีแทนนั้นยิ่งทำให้เขาดูโดดเด่นเสมอ ยามที่เขาแวะมายังโรงเรียนเอกชนชื่อดังแบบนี้...

     

     

     

                    ...ก็แค่แวะมาหาเพื่อนสมัยเด็ก...

     

     

     

    “ไค~~~~~~~~” เสียงดังโวยวายของใครสักคนดังมาแต่ไกล พร้อมกับเรือนร่างผ่ายผอมที่กระโดดกอดคอเขา... ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนข้างๆเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนหูฟังออกจากหูและห้อยมันไว้ที่คอ มือเรียวข้างหนึ่งยกแขนเล็กของเพื่อนสนิทออกและหันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่เต็มที่

     

     

     

    “ช้าไปสิบนาทีนะแทมิน” เจ้าของชื่อแทมินยกยิ้มร่าเริงก่อนจะคว้าคอเพื่อนสนิทมาใกล้ๆเพื่อกระซิบอะไรบางอย่าง... บางอย่างที่ทำให้เขาผลักแทมินออกไปด้วยความหงุดหงิด...

     

     

     

    ...วันนี้พี่แพคฮยอนบอกว่าอยากเจอไคอีกแล้วนะ...

     

     

     

    ถ้าแค่พี่แพคฮยอนเขาก็คงไม่มีปัญหาหรอก... แต่เพื่อนสนิทของพี่แพคฮยอนนั่นแหละที่เขาไม่อยากจะเจอ...

     

     

     

     

    ...ใครบางคนที่เห็นทีไรก็อยากจะต่อยให้หน้าหงายเพราะความถือดี...

    ...ใครบางคนที่หลงตัวเองยิ่งกว่าอะไร...

    ...ใครคนนั้นที่ชื่อว่าปาร์คชานยอล...


     

     

     

     

    ร่างโปร่งเดินตามเพื่อนตัวบางที่บอกเขาให้มาหาที่โรงเรียนอย่างกะทันหันนั้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก... เขาไม่เชื่อหรอกว่าแทมินจะไม่รู้ว่า พี่แพคฮยอนเพิ่งจะบอก... แทมินต้องรู้มาก่อนหน้านี้แล้วแน่ๆ

     

     

     

    อยู่ๆไคก็หยุดเดินเสียดื้อๆทำให้คนที่เดินลากแขนอยู่นั้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่ทันที...

     

     

     

    แทมินต่างจากเขามาก... จะเรียกได้ว่าคนละโลกก็คงไม่แปลก... เขาชอบที่จะมองดูทุกสิ่งและปล่อยผ่านทุกอย่างไปอย่างเงียบสงบ... แต่แทมินนั้นสนใจกับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาและผ่านไป... เพื่อนสมัยเด็กของเขานั้นเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆของสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไม่มีตกลง... ต่างจากเขาที่ชอบโลกในด้านที่ต่างจากแทมินโดยสิ้นเชิง...

     

     

     

    ...และที่สำคัญ...

    แทมินนั้นมีรอยยิ้มที่สดใสเสมอ... ต่างจากเขา

     

     

     

    “ฉันจะกลับบ้าน” ไคเอ่ยไปในที่สุด หลังจากคิดมาได้สักพัก... เขาไม่ได้หนี... แค่เขาไม่อยากไปมันก็เท่านั้น

     

     

     

    “ไม่เอาน่าไค... แปปเดียวเอง”

     

     

     

    “ฉันอารมณ์ไม่ดีแทมิน... ขอโทษนะ แล้วเจอกัน...” ว่าจบร่างโปร่งก็แกะมือเล็กของแทมินออกจากข้อมือ และหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับออกไปตามที่พูด... แต่เมื่อหันมาก็เจอคนตัวสูงในชุดนักเรียนนั้นยืนอยู่พร้อมกับรุ่นพี่ตัวเล็กที่แทมินบอกว่าอยากเจอเขา...

     

     

     

    ไคสบถออกมาเบาๆอย่างหัวเสีย ก่อนจะเอ่ยทักรุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้า “สวัสดีครับพี่แพคฮยอน”

     

     

     

    “ไคจะกลับแล้วเหรอ.. แทมินไม่ได้บอกเหรอ ว่าพี่อยากเจอน่ะ” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นรุ่นน้องกำลังจะก้าวเดิน... ไคถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายอีกครั้ง แต่เมื่อหันมาสบสายตาที่เฉียบคมของรุ่นพี่ร่างเล็กแล้วก็อดสงสารแทมินที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างหลังไม่ได้...

     

     

     

    พยอนแพคฮยอนเป็นพี่รหัสของแทมินที่เป็นประธานนักเรียนในโรงเรียนนี้แน่นอนว่า ถ้าแทมินพาเขาไปหาแพคฮยอนไม่ได้ แทมินจะโดนอะไรบ้างเขาก็ไม่อยากจะเดา...

     

     

     

    “บอกครับ... แต่ผมแค่มีธุระ”

     

     

     

    “งั้นพี่ขอแค่สิบนาทีได้ไหม... เดี๋ยวพี่ให้เลขาพี่ไปส่ง” เสียงเล็กว่าพร้อมกับเหลือบไปยังคนตัวสูงที่ยืนทำหน้านิ่งมองเขาด้วยสายตาที่อ่านยาก

     

     

     

    “แค่สิบนาที... แต่ผมขอกลับเอง”

     

     

     

    “เดี๋ยวฉันไปส่ง... ไปที่ศาลาเถอะพยอน” เสียงทุ้มต่ำของคนที่เป็นเลขาของแพคฮยอนเอ่ยตัดบทสนทนานั้นหมด แพคฮยอนพยักหน้าและเดินนำไปที่ศาลากลางสวนดอกไม้ที่ยามนี้บานสะพรั่งต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือน...

     

     

     

    ไคเดินตามมาอย่างเสียไม่ได้ตามมาด้วยแทมินที่กระโดดเกาะแขนเขาทันที... ใบหน้าที่เคยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มนั้นเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด จนไคต้องเลื่อนไปกุมมือเล็กนั้นอย่างเสียไม่ได้...

     

     

     

     

    “พี่มีเรื่องอยากขอร้องไคเสียหน่อย...” ทันทีที่ทั้งหมดนั่งลงแล้ว รุ่นพี่ร่างเล็กก็เอ่ยขึ้นทันทีอย่าง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ ในขณะที่ใบหน้าได้รูปนั้นไม่ได้แสดงอารมณ์มากกว่านั้น...

     

     

     

    “ถ้าผมอยากทำ”

     

     

     

    “ถือว่าพี่ขอร้อง...”

     

     

     

    “ถ้าผมอยากทำ... บอกเรื่องที่อยากจะขอร้องมาสิครับ” ไคว่าอย่างไม่สนใจสายตาของใครบางคนที่มองมาโดยตลอด... เขาไม่ได้เกลียดพี่แพคฮยอน แต่เขาแค่ไม่ถูกชะตากับเลขาของพี่แพคฮยอนมันก็เท่านั้น

     

     

     

    “พี่อยากให้เราช่วยงานชานยอลเกี่ยวกับงานแสดงดนตรีที่จะมีขึ้นในอีกสองอาทิตย์”

     

     

     

    “พยอน!! / ไม่!!” ไคกับชานยอลเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน จนคนที่นั่งอยู่ระหว่างกลางอย่างแทมินสะดุ้งจนตัวโยน... แต่คนที่เอ่ยขอร้องอย่างแพคฮยอนนั้นกลับนั่งนิ่งไม่สนใจโทสะของทั้งสองคนที่กำลังห้ำหั่นกันทางสายตาเลยสักนิด

     

     

     

    “แค่ช่วยงานในวันก่อนหน้าวันแสดง... แค่นั้น...”

     

     

     

    “ผมไม่รู้ว่าพี่คิดจะทำอะไร... แต่ถ้าจะให้ผมทำงานกับเขา... ผมขอปฏิเสธ... สิบนาทีแล้ว ขอตัวนะครับ” ร่างโปร่งลุกขึ้นเต็มความสูงทันที ไคตวัดสายตามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเดินออกไปจากศาลา...

     

     

     

     

     

    ขายาวภายใต้กางเกงนักเรียนสีเข้มเนื้อดีก้าวแรงๆอย่างหงุดหงิดกับสิ่งที่เขาเสียเวลามาในวันนี้ เหตุผลงี่เง่า ระบบงี่เง่า... งานงี่เง่า เขาไม่ชอบสักอย่างของโรงเรียนนี้ ถึงมันจะมีชื่อเสียงขนาดไหน แต่สำหรับเขามันก็ไม่ต่างจากแหล่งรวมเหล่าคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นนั่นแหละ...

     

     

     

    ไคเดินมาจนเกือบถึงหน้าประตูโรงเรียน แต่ก็ต้องหยุดเดินเมื่อหัวไหล่ของคนถูกกระชากอย่างแรก... ใบหน้านิ่งตวัดมองเจ้าของมือใหญ่อย่างเอาเรื่อง ก่อนจะยกมือขึ้นปัดที่ไหล่สองสามชั้นและมองหน้าเจ้าของมือใหญ่นั้นด้วยใบหน้ากวนๆ

     

     

     

    “คุณประธานของนายขอแค่สิบนาที...”

     

     

     

    “และเขาบอกให้ฉันไปส่งนาย”

     

     

     

    “ไม่จำเป็น ฉันมีปัญญากลับเอง” ไคยกยิ้มที่มุมปาก และยกมือขึ้นปัดไหล่ข้างที่ชานยอลจับเมื่อครู่นั้นอีกครั้งและหันกายเดินไป...

     

     

     

    ชานยอลกลอกตาไปมาอย่างพยายามระงับอารมณ์โกรธที่พุ่งพล่าน... เขากับเจ้าเด็กรุ่นน้องนั่นเจอกันนับครั้งได้ก็จริงอยู่ แต่หนึ่งในไอ้นับครั้งได้นั่น ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไอ้เด็กคนนี้จะไม่ทำตัวกวนเท้าเลยสักครั้ง

     

     

    “มีปัญญากลับเอง แต่คงไม่มีปัญญาทำอะไรให้ชาวบ้านสินะ” เสียงทุ้มเอ่ยไล่หลัง ทำให้ขาเรียวที่กำลังจะก้าวต่อไปนั้นหยุดลงทันที... ไคหันมามองคนตรงหน้าที่เริ่มหาเรื่องเขาก่อนด้วยสายตาท้าทาย ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากอย่างกวนประสาท

     

     

     

    “ถ้าชาวบ้านคนนั้นเป็นนาย... ถึงมีปัญญาฉันก็ไม่ช่วย”

     

     

     

    “เหตุผลละ?”

     

     

     

    “ไม่ถูกชะตา... ขอตัวนะครับ รุ่นพี่”

     

     

     

     

    ชานยอลมองรุ่นน้องต่างโรงเรียนที่เดินต่อไปอย่างไม่โกรธหรืออะไรมากไปกว่านั้น... กลับกันเขากำลังรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งมันด้วยซ้ำ คิมจงอินเป็นเด็กที่ฮอตมากในหมู่สาวๆ หน้าตาคมคายผิวเข้ม และใบหน้าที่นิ่งสนิทที่เรียกได้ว่า น่าหลงใหล...

     

     

     

    ...แต่สำหรับปาร์คชานยอล...

    มันไม่เห็นหน้าหลงใหลเลยสักนิด...

     

    แต่บางอย่าง... มันก็ทำให้เขาอยากเห็นหน้าเจ้าเด็กกวนประสาทบ่อยๆเหมือนกัน

     

    บางอย่างที่เรียกได้ว่า....ความรัก

     

     

     

     

    ร่างสูงเดินกลับไปหาเพื่อนร่างเล็กที่นั่งจิบน้ำชากับน้องรหัสอยู่อย่างสบายใจ... พยอนแพคฮยอนเหลือบมองคนที่เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มแล้วก็ต้องส่ายหัวไปมาอย่างอ่อนใจ... งานเขาคงล่มอีกแหง เพราะดูท่าเจ้าเพื่อนบ้าคนนี้คงไม่ได้คุยงานให้แหงๆ

     

     

     

    “กูบอกให้มึงไปส่งน้องนะชานยอล” แพคฮยอนเอ่ยปากทันทีที่เพื่อนสนิทร่างสูงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ตาคมเหลือบมองเพื่อนรักแวบหนึ่งก่อนจะยกแก้วชาขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดี...

     

     

     

    “ก็น้องไคของมึงไม่ยอมให้กูไปส่ง กูจะทำไงได้”

     

     

     

    “มึงก็รวบหัวรวบหางพาไปส่งสิวะ ไอ้เอ๋อ... ทีงี้ทำมาเป็นสุภาพบุรุษ... ถามจริง มึงชอบน้องเขาใช่ไหม?” แพคฮยอนยกมือขึ้นตีไหล่หนาของเพื่อนอย่างแรง

     

     

     

    “รวบหัวรวบหาง ? มึงกลัวกูไม่ตายหรอพยอน... ขาก็ยาวแขนก็ยาวแบบนั้นลองรวบสิ ตายห่าแน่ๆ ทำไงดีวะ น้องจงอินแม่งเกลียดกูแหงๆ”

     

     

     

    “มึงไปกวนตีนเขาแบบนั้น ใครไม่เกลียดมึงบ้างละ... ไปกันเถอะแทมิน เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านนะ... ขอบใจมากที่พาเพื่อนมาให้ไอ้เอ๋อมันกวนตีนทุกวัน”

     

     

     

    “มะ... ไม่เป็นไรครับ... ทีแรกผมคิดว่าพี่แพคฮยอนชอบไคซะอีก...”

     

     

     

    “และทุกคนก็คิดว่าชานยอลชอบพี่ด้วยใช่ไหมละ... ปัญญาอ่อนกันจริงๆ ใครจะไปชอบเพื่อนเอ๋อๆอย่างมันได้วะ... กลับกันๆ เดี๋ยวดึกแล้วพี่จินกิจะหาว่าพี่กักตัวน้องแทมินอีกนะ... ส่วนแก... หาทางที่ทำให้งานฉันสำเร็จให้ได้ด้วย!!!

     

     

     

    พยอนแพคฮยอนเดินจากไปพร้อมกับร่างผอมบางของน้องรหัสมัน... ชานยอลยกยิ้มกับคำสั่งทิ้งท้ายของเพื่อนสนิท ก่อนจะเก็บถ้วยชาทั้งหมดไปล้างและวางคว่ำไว้ข้างอ่าง... ร่างสูงเดินไปยังลานจอดรถหน้าโรงเรียน ที่ทางบ้านของเขาส่งคนมารับเช่นทุกวัน...

     

     

     

     

    ทันทีที่ถึงบ้านร่างสูงก็รีบขึ้นไปบนห้องของตนทันที... งานแสดงดนตรีที่พยอนแพคฮยอนพูดถึงนั้น มันเป็นงานแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆของชมรมดนตรีที่มีเขาเป็นตัวเอก... เขาจึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อไม่ให้ทุกคนที่คาดหวังในตัวเขา ต้องผิดหวัง...

     

     

     

    มือหนาวางหนังสือเรียนลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะปลดกระดุมเม็ดบนของชุดนักเรียนออก และตรงไปหยิบกีตาร์ซึ่งเป็นของสำคัญอีกอย่างในชีวิตของเขา...

     

     

     

    ...กีตาร์ที่พ่อเป็นคนสอนให้...

     

     

     

    แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้าผ่อนคลายยิ้มแย้มยามนี้นั้นกำลังคิดแผนแกล้งให้คนที่ปฏิเสธการทำงานกับเขาทันทีนั้น ยอมตอบตกลงให้ได้อยู่...

     

     

    ...ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่...

    หากเป็นสิ่งที่เขาต้องการ...

     

    ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้...

     

     

     

     

     

    ไคกำลังหัวเสียอย่างหนัก เมื่อได้รับเมลจากคนที่ไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดว่าเดี๋ยวเย็นนี้จะมารับหน้าโรงเรียน... ปาร์คชานยอลเป็นบ้าไปแล้วรึไง ถึงคิดจะบังคับให้เขาทำงานด้วยวิธีนี้น่ะ...

     

     

     

    “เป็นไรวะไค... หน้าเครียดเชียว” เสียงเพื่อนสนิทอย่างโอเซฮุนเอ่ยถามขึ้น ในขณะที่ดวงตาคมของไคตวัดมองทันที... มือเรียวยื่นเครื่องมือสื่อสารเครื่องบางให้เพื่อนสนิทอ่านก่อนจะฟุ่บหน้าลงกับแขนตัวเองอย่างแสนหงุดหงิด...

     

     

     

    ...เย็นนี้จะไปรับ ถ้าไม่เจอแสดงว่าปอด...พี่ชานยอล...

     

     

     

     

    ...ก็สมควรที่ไคมันจะหงุดหงิด...

     

     

     

    เซฮุนคิดในใจก่อนจะส่งมือถือคืนให้กับเพื่อนสนิท.... “ถ้ามึงไม่ไปกูไปให้ป่ะละ... กะพี่ชานยอลกูโอเคมากนะ”

     

     

     

    “ฝัน!!

     

     

     

    “อ้าว... พูดงี้หมายความว่าไงวะ... แกชอบพี่ชานยอลรึไง”

     

     

     

    “เปล่า... ถ้าแกได้เป็นแฟนกับมัน ฉันก็ต้องเจอหน้ามันบ่อยๆ บอกตรงๆ ไม่อยากเห็นหน้ามัน”

     

     

     

    “เหตุผลละไค?”

     

     

     

    “.............” ความเงียบคือสิ่งที่เซฮุนได้รับ... มือบางเลื่อนไปตบหัวที่ปกคลุมด้วยกลุ่มผมนุ่มเบาๆก่อนจะเหล่มองด้วยสายตาที่เขาเห็นแล้วไม่รู้สึกผลอดภัยสักนิด...

     

     

     

    “แกชอบพี่ชานยอลใช่ไหม”

     

     

     

    “โลกแตกรึไง ถามอะไรแบบนี้”

     

     

     

    “ตอบไม่ตรงคำถาม... ว่าไงคุณเพื่อนคนเก่ง.... แกชอบพี่เขาไหม” เซฮุนยังคงซักเขาด้วยคำถามเดิม... จงอินยกมือขึ้นตบหัวเพื่อนรักคืนไปที ก่อนจะหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายไหล่ข้างหนึ่งและเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว จนเซฮุนวิ่งตามแทบไม่ทัน...

     

     

     

    และทันทีที่เดินตามเพื่อนตัวดีทัน เซฮุนก็เอ่ยถามอีกครั้ง “มึงชอบเขาใช่ไหม?

     

     

     

    “แค่ไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ไม่อยากคุย รวมๆแล้วก็ ไม่อยากเสวนาด้วย”

     

     

     

    “งั้นแปลว่ามึงกลัวจะชอบเขา”

     

     

     

    “แกเป็นบ้าอะไรมานั่งเค้นวะ... กูเป็นผู้ชาย”

     

     

     

    “กูก็เป็นผู้ชาย... ยังชอบจื่อเทาได้เลย ของแบบนี้มันอยู่ที่ความรู้สึก... ถามตัวมึงเองเถอะไอ้ไค” เซฮุนว่าจบก็เดินผ่านเพื่อนสนิทไปหาร่างสูงของเด็กแลกเปลี่ยนชาวจีนที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนทันที... ตาคมกลอกไปมาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อเห็นร่างสูงของคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดนั้นกำลังยืนกอดอกพิงรถคันหรูของเจ้าตัวอยู่... ใบหน้าหล่อเหลาสวมปกปิดด้วยแว่นตากรอบดำที่ไม่มีเลนส์ยิ่งทำให้ดูดีเข้าไปอีก... อีกทั้งชุดนักเรียนโรงเรียนดังที่สวมใส่อยู่นั้นยิ่งทำให้ปาร์คชานยอลดูดีขึ้นไปอีก...

     

     

     

    ...แต่มันก็ไม่ใช่สำหรับเขาหรอก!!...

     

     

     

    “ไค!!” เสียงทุ้มต่ำตะโกนพร้อมกับโบกมือไปมา... อากัปกริยาที่แปลกประหลาดนั้นยิ่งทำให้เขาอดระแวงไม่ได้... และเมื่อเสียงเพื่อนสนิทดังขึ้นในหัว มันยิ่งทำให้เขาเผลอปั้นหน้าเครียดกว่าเดิม...

     

     

     

    “เสียงดังน่ารำคาญ... มีธุระอะไร”

     

     

     

    “ก็มารับอย่างที่บอกไง... ไปๆขึ้นรถนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

     

     

     

    “เล่นบ้าอะไรของนาย... ฉันไม่เคยเรียกนายว่าพี่ และฉันก็ไม่นับว่านายเป็นพี่ด้วย ว่าธุระมาแล้วรีบไปซะ” ไคปัดมือหนาที่เอื้อมมาจะจับแขนของตนออก ก่อนจะว่ายาวเหยียดด้วยน้ำเสียงจริงจังและเอาเรื่อง.. ชานยอลถอนหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะสบดวงตาคู่สวยของไคอย่างตรงไปตรงมา... แต่คนอายุน้อยกว่าก็เป็นคนหลบตาก่อน...

     

     

     

     ไคถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะก้มหน้ามองลงพื้น “อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก...” ว่าจบก็เดินเบี่ยงหลบไปเพื่อเดินกลับบ้านตามปกติ..

     

     

     

    แต่แล้วแขนเรียวก็ถูกรั้งด้วยมือหนา คนตัวสูงกว่าเปิดประตูรถก่อนจะผลักร่างของไคเข้าไปในรถอย่างรุนแรง และแทรกตัวขึ้นนั่งข้างๆก่อนจะสั่งให้คนรถออกรถไปทันที...

     

     

     

    “ทำบ้าไร!!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดตะโกนลั่นรถ ก่อนจะตรงเข้ากระชากคอเสื้อของคนอายุมากกว่าอย่างไม่กลัวเกรง

     

     

     

    “ฉันอุตส่าห์พูดดีๆกับนาย แต่นายกลับไม่ชอบ... คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการคุยกันด้วยกำลังจริงไหม... คิมจงอิน”

     

     

     

    “จะดวลอะไรก็ว่ามาดีกว่า..”

     

     

     

    “ไม่ละ... เสียเวลา...”

     

     

     

    “ปอดแหกรึไง.. สุดท้ายก็เป็นคุณชายดีแต่ปากสินะ”

     

     

     

    “เลิกกวนตีนสักที... คิดว่าพี่อยากทำร้ายคนที่ชอบรึไง”

     

     

     

     

     

     

    ...เหมือนมีฟ้าผ่าลงมาท่ามกลางสภาพอากาศที่แจ่มใส... ร่างโปร่งเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน..มือเรียวที่กำคอเสื้อของคนอายุมากกว่าข้างๆนั้นปล่อยออกอย่างตกใจก่อนจะถอยห่างอย่างรวดเร็ว ส่วนคนพูดเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป ก็ยกมือขึ้นปิดปาก และเสมองออกไปยังวิวเบื้องนอก

     

     

     

    ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งตัวรถทันที... ไคขยับตัวให้ห่างจากรุ่นพี่ต่างโรงเรียนเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าออกไปมองข้างนอก... คำถามของโอเซฮุนดังขึ้นในหัวทันทีที่ความเงียบเริ่มก่อตัวมากขึ้น...

     

     

     

    ...กูไม่รู้วะเซฮุน แต่ตอนที่เขาบอกว่าชอบกู...

    กูกลับไม่รู้สึกรังเกียจ... กลับกัน มันกลับตื้นตันและดีใจมากอีกต่างหาก...

     

    ...แบบนี้คือกูชอบเขารึเปล่าวะ...

     

     

     

     

    “ไค... นายรังเกียจพี่รึเปล่า?” สุดท้ายปาร์คชานยอลก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ... ไหนๆเขาก็เผลอหลุดปากไปแล้ว... ก็ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสมันเลยแล้วกัน

     

     

     

    “นายไม่ได้ชอบพี่แพคฮยอนหรอกเหรอ”

     

     

     

    “พี่ชอบนาย...”

     

     

     

    “................”

     

     

     

    “ขอโทษทีทำให้ลำบากใจ... เดี๋ยวจะไปส่งที่บ้านนะไค ลืมมันซะเถอะ”

     

     

     

    “บ้ารึเปล่า...”

     

     

     

    “หื้ม??”

     

     

     

    “นายบ้ารึเปล่า... อยู่ๆก็บอกว่าชอบ... และก็บอกให้ลืม... ไม่รู้รึไงว่าทำให้คนอื่นดีใจขนาดนั้น... สมควรแล้วที่พี่แพคฮยอนจะด่าแกว่าไอ้เอ๋อน่ะ!!!!

     

     

     

    “มะ...หมายความว่าไง ??”

     

     

     

    “บางที....อาจจะ....ไม่แน่ใจเหมือนกัน... ชอบเหมือนกัน....มั้ง” ไคว่าด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ  ก่อนจะเสหน้าหลบสายตาของคนที่มองมาด้วยความไม่คุ้นชิน.... มือเรียวยกขึ้นดันคนที่ทำท่าจะขยับเข้ามาใกล้นั้นให้ออกห่าง แต่ก็สู้แรงไม่ได้...

     

     

     

    ชานยอลที่มือไวขึ้นมาทันทีนั้นคว้าร่างโปร่งของรุ่นน้องมากอดหลวมๆ ในขณะเดียวกันไคที่กำลังปั้นหน้าไม่ถูกนั้นก็ใช้มือทุบลงบนหลังกว้างอย่างแรง... จนร่างสูงจำต้องปล่อยร่างโปร่งที่มีใบหน้าเรียบเฉยอย่างไม่พอใจ...

     

     

     

    “พูดว่า “ชอบพี่ครับ” ให้ฟังหน่อยนะ”

     

     

     

    “บ้ารึไง!!

     

     

     

    “ถึงจะบ้า ก็บ้าเพราะรักน้องจงอินมานานแล้วนะ”

     

     

     

    “ไม่ขำ ไม่เขินด้วย!! อย่ามาปัญญาอ่อน!! นายมีธุระอะไรก็ว่ามาเร็วๆ!!

     

     

     

    “พูดได้เหรอ?”

     

     

     

    “เออ!!”

     

     

     

    “ช่วยงานดนตรีหน่อยได้ป่ะ?”

     

     

     

    “เออ!!”

     

     

     

    “ไม่มีปัญหาแน่นะ?”

     

     

     

    “เออ!!”

     

     

     

    “เป็นแฟนกันด้วยนะ?”

     

     

     

    “เออ!!........เฮ้ย!! ไม่!! ไม่เป็น ถอยออกไป ไอ้บ้า!!!”

     

     

     

     

    แต่สุดท้ายร่างโปร่งก็ปล่อยให้รุ่นพี่ที่ตัวโตกว่ากอดด้วยใบหน้าที่หงิกยิ่งกว่าอะไรดี... ดวงตาคู่คมของจงอินเหลือบมองคนข้างๆก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียดอย่างเนือยๆ

     

     

     

     

    ...นี่คงเป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากเข้าใกล้เขาละมั้ง...

    เพราะเขา...ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด...

    เพราะแบบนี้ละมั้ง.. ถึงไม่อยากเห็นหน้า...

     

    ...เพราะกลัวว่าจะเผลอพูดความจริงออกไป...

     

    ...ความจริงที่ชอบคนคนนี้มากจนไม่อยากจะยอมรับ...

     

     

     

    END…



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    OK... ร้อยเปอร์เซ็นของจริงนะคะ... ลงแล้ววว ห้ามสาปส่งโบ้แล้วน้า 55555555555 
    เมื่อวานไล่ตามทุกคนที่รีและกดเฟบของเราเลยย คือไม่คิดว่าชานไคจะมีคนสนใจนะ 
    แต่จริงๆที่เราติด และจุดไฟให้เราก็คือ "IVY CLUB" ตอนสัมภาษณ์อินเตอร์วิวอ่าค่ะะ 
    สายตาที่สอดประสานกันตอนพี่ชานกำลังให้สัมภาษณ์นั้นคืออะไรร 
    ทำไมคิมจงอินถึงสายตาหวานเชื่อมขนาดนั้นนะ แล้วก็จินตนาการไปเรื่อยๆ บ้าบอมาก เพ้อมากนะนี่เอาจริงๆ 555555555 มันก็เลยกลายเป็นฟิคเรื่องนี้แหละค่ะ . ___ .'' หวังว่าจะชอบกันน้าา งิงิงิ

    ก็... ขอบคุณทุกๆคนที่กดเข้ามาอ่านกันนะคะ ขอโทษคนที่กดเข้ามาเมื่อวานด้วยย รักทุกๆคนน้าา 
    ขอบคุณมากๆเลยค่า >v< 


    ปล. สำหรับคนที่กำลังรอ AUCTION ขอให้อดใจรอหน่อยนะคะ ของหนักๆมันต้องใช้เวลานิดนึงงง
    ปล๒. สำหรับคนที่รอ ONE NIGHT ก็ต้องขออภัยเช่นกันค่ะ... รอกันก่อนนะ ของเยอะๆ(?)มันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน T/////////////T 

     

    25 HOURs.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×