ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #27 : [Kris x Suho] แอบชอบ เดอะ ซีรี่ย์ - 3 - หอสมุด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 849
      1
      25 ก.ค. 56



    ๓. หอสมุด

     

     

    หลังจากได้กระดาษโน้ตจากคุณ K จุนมยอนก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่า จะต้องปรึกษาปัญหานี้กับใครสักคน... ซึ่งตัวเลือกที่โผล่ขึ้นมาเป็นอันดับแรกนั้นก็คือแพคฮยอน... แต่เพื่อนตัวเล็กของเขากลับไม่ว่างที่จะคุยเรื่องนี้เสียอย่างนั้น... ทำให้ความกลุ้มใจนี้ยังคงตามรบกวนเขาอยู่จนวันนี้ก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์ที่สองแล้ว...


    เขาไม่กล้ามองหาคนตัวสูงคนนั้นเหมือนทุกครั้ง...แต่ก็บางครั้งที่เผลอเขาก็จะมองหาเสมอ...

    แล้วยิ่งเห็นกลุ่มเพื่อนของคนคนนั้น...เขาก็ยิ่งกระวนกระวายมากกว่าเดิม...

    แต่ถ้าถามว่า อยากเจออีกไหม

     

    คำถามคือไม่... เพราะตอนนี้เขายังไม่พร้อม

     

    พร้อมสำหรับอะไร... คิมจุนมยอนเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน...

     

    “จุนมยอน ~ ถามไรหน่อยสิ” ในขณะที่นั่งเงียบกันอยู่สองคนในห้องสมุด แพคฮยอนก็เงยหน้าจากกองหนังสือแล้วเอ่ยขึ้น... ดวงตาเรียวคู่สวยนั้นมองเขาด้วยสายตาที่เหมือนจะมีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง

    “อะไรเหรอ?”

    “นาย...ชอบจงอินเหรอ?” ใบหน้าขาวออกแววไม่เข้าใจอย่างเห็นได้ชัด จนคนที่ถามคำถามนั้นถึงกับผงะ... งั้นแปลว่าที่แพคฮยอนไม่ค่อยคุยกับเขาเหมือนที่ผ่านมาเพราะคิดว่าเขาชอบคนคนนี้เหรอ ??

     

    ว่าแต่ว่า... จงอินเป็นใคร ??

     

    “จงอินเป็นใครเหรอแพคฮยอน?” เขาถามกลับไปซึ่งเพื่อนสนิทนั้นชะงักและมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อเต็มๆ

    “ก็คนที่เอากระดาษโน้ตให้นายไง... นายไม่รู้จักเขาจริงๆเหรอ เขาเป็นน้องรหัสคริสที่เป็นเดือนคณะไง เห็นนายมองเขาบ่อยจะตาย... หรือว่า.... ?” เมื่อพูดถึงตรงนี้เหมือนใบหน้าของเขาจะเห่อร้อนขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล... ดวงตากลมที่เคยสบตากับดวงตาเรียวของเพื่อนสนิทนั้นไหววูบและเบือนไปทางอื่นทันที...

    “ปะ...เปล่านะ...”

    “แกชอบคริส?” สมมติฐานใหม่ถูกตั้งขึ้นก่อนที่จุนมยอนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่หยิบมาจากชั้น โดยไม่สนใจสายตาคาดคั้นของแพคฮยอนเลยสักนิด มือเรียวของเพื่อนสนิทยื่นมาจับมือเขาแน่นในขณะที่ดวงตาเรียวคู่นั้นของแพคฮยอนนั้นเต็มไปด้วยคำถามและการคาดคั้น....

    “อะ...อื้ม....”

    “ตั้งแต่เมื่อไรวะ... ไม่เห็นรู้เลย แล้วคนอื่นรู้ไหม ?”

    “แกยังไม่รู้แล้วใครมันจะไปรู้... แล้วแพคฮยอนชอบจงอิน?”

    “เปล่า...ฉันเกลียดมัน” เสียงใสของเพื่อนสนิทตอบกลับมาทันที ทำให้เขาไม่รู้จะต่อบทสนทนาต่อไปยังไงดี... แต่เมื่อเงยหน้าและแอบเหลือบมองใบหน้าของแพคฮยอนที่ค่อยๆระเรื่อขึ้นและเบือนไปอีกทางนั้นก็ได้คำตอบชัดเจน...

    ...เพราะงั้นถึงถามสินะว่าชอบจงอินเหรอ...

    “มีเรื่องปรึกษา...” จุนมยอนปิดหนังสือและเงยหน้ามองเพื่อนสนิทก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียดและหยิบกระดาษโน้ตแผ่นเล็กออกมาจากกระเป๋าสตางค์.... “ฉัน....ได้นี่มาจากจงอิน”

    มือเรียวบางรับมาและเปิดอ่านก่อนที่จะเบิกตากว้างและยื่นหน้าเข้ามาใกล้

    “คริสเพิ่งเลิกกับแฟน...แล้วเขารู้ด้วยว่าแกชอบ... แบบนี้มันไม่บังเอิญไปเหรอวะ?”

    “ฉันควรทำไงอ่ะแพคฮยอน ~~ คือฉันชอบมองเขาอยู่ไกลๆนะ แต่พอเข้าใกล้เขาทีไรฉันเหมือนจะหายใจไม่ออกทุกทีเลย” เขาเอ่ยบอกแพคฮยอนไปอย่างไม่ปิดบัง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าใบหน้าขาวของตนนั้นระเรื่อขึ้นอีกแล้ว

    “อาการหนักนะแก... ฉันว่า.....แปปนะ” เสียงโทรศัพท์ของแพคฮยอนดังขึ้นก่อนที่จะเอ่ยประโยคนั้นจบ... จุนมยอนมองใบหน้าน่ารักของเพื่อนที่บึ้งตึงและหงุดหงิดเต็มที่นั้นอย่างหมดหวังที่จะได้คำตอบ ก่อนจะถอนหายใจหนักๆอีกครั้งและปล่อยสายตาไปยังผู้คนบางตาในห้องสมุดในเวลาบ่ายๆเช่นนี้....

    แล้วก็ต้องสะดุดเข้ากับคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่มุมห้อง... เส้นผมสีทองนั้นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร แม้จะมองจากมุมนี้ก็ตาม... ใบหน้าขาวระเรื่อขึ้นทันทีเมื่อนึกถึงโน้ตสั้นๆที่ได้รับเมื่อสองอาทิตย์ก่อน

    “อะไรนะ!! จะเล่น ? ได้ดิ!! เจอกันหน้าหอสมุดเลยเป็นไง!!!” หลังจากตะคอกใส่โทรศัพท์เสียงดังลั่นไปแล้ว เพื่อนตัวเล็กของเขาก็เก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋าพร้อมกับฝากหนังสือไปเก็บแล้วก็ลุกไปจากโต๊ะทันที...

     

     

    จุนมยอนถอนหายใจออกมายาวเหยียดอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นมานั่งที่ที่ของแพคฮยอนเพราะไม่อยากเสียสมาธิในการทำรายงาน รายงานเดี่ยวที่ต้องส่งอาทิตย์หน้านั้นเขาจำเป็นต้องทำให้เสร็จเร็วที่สุดเพราะจะได้มีเวลาไปอ่านหนังสือสอบวิชาถัดไป... แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดที่จะนั่งเขียนได้อย่างสบายๆ ไม่งั้นเขาจะถ่อมาถึงหอสมุดนี้ทำไมกัน...

    นิ้วเรียวกะจิ้มลงบนโน้ตบุ๊คเครื่องหนาไปได้สักพักก็หักลับไปยังหนังสือเล่มหนาและคัดลอกข้อความที่สำคัญลงบนสมุดก่อนจะวางดินสอแล้วมาพิมพ์เนื้อหานั้นลงโน้ตบุ๊คอีกที....

    ดูเหมือนจุนมยอนจะมีสมาธิกับรายงานมากไปหน่อย... คนตัวเล็กไม่รู้ตัวเลยว่าโต๊ะตัวยาวที่เคยนั่งเพียงลำพังนั้นไม่ได้มีแค่ตนอีดต่อไป....

    ร่างสูงของคริสนั่งท้าวคางนั่งมองจุนมยอนกำลังทำรายงานอย่างตั้งใจนั้นอยู่นานสองนานแล้ว แต่ไม่มีทีท่าว่าคนตัวเล็กนั้นจะหันมาสนใจเขาสักนิด... แต่แบบนี้แหละดีแล้ว... เขาอยากให้จุนมยอนทำงานเสร็จก่อน..

    แล้วหลังจากนั้น... ค่อยมาเหนื่อยกับเขาต่อ...

     



     

    เขานั่งทำงานไปเรื่อยโดยไม่นึกสนใจเวลาเลยสักนิดว่ามันผ่านไปนานขนาดไหน หรือใครจะเดินลุกนั่งอะไรรอบข้าง เขารู้เพียงอย่างเดียวว่างานมันต้องเสร็จ... และเมื่อมันเสร็จแล้วจุนมยอนถึงเพิ่งรู้ว่า เขานั่งทำงานมากกว่าสี่ชั่วโมงแล้วน่ะสิ...

    นิ้วเรียวกดเซฟไฟล์งานก่อนจะประสานมือและยกมันขึ้นบิดไปมาอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะหันไปมองรอบๆตัวแล้วก็ต้องสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อที่นั่งฝั่งตรงข้ามเยื้องไปสองที่นั้นมีร่างสูงของคริสกำลังนั่งท้าวคางอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่...

    ถ้าจำไม่ผิดตอนที่แพคฮยอนลุกออกไป คริสนั่งอยู่อีกมุมนึงไม่ใช่เหรอ... แล้วทำไมอยู่ๆถึง...

     

    อย่าบอกนะว่าจะทำตามที่เขียนในโน้ตนั้นจริงๆน่ะ...

     

     

    มือบางแสนสั่นเทานั้นพยายามเก็บของทุกอย่างของตนลงกระเป๋าอย่างเงียบเชียบ... แต่เพราะมันสั่นมาก ถึงทำปากกาตกทีหนังสือตกทีอย่างไม่ได้ดั่งใจเลยสักนิด... ใบหน้าขาวแดงระเรื่อขึ้นอย่างที่เจ้าตัวไม่อาจห้ามได้.. จุนมยอนตัดสินใจวางของไว้อย่างนั้น แล้วเดินไปเก็บหนังสือที่ชั้นก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ...

    จุนมยอนพบว่านั่นเป็นทางเลือกที่ผิดจริงๆ เมื่อคนที่นั่งไปอีกสองที่นั่งนั้นขยับตัวเองมาอยู่เบื้องหน้าสัมภาระทั้งหลายของเขาแล้ว...

    ...แบบนี้มันจงใจแกล้งกันไม่ใช่หรือไง!!!!

     

    จุนมยอนเดินเข้าไปที่โต๊ะอย่างช้าๆ มือก็สั่นหน้าก็แดง แบบนี้มันจะไปทำอะไรด้.... แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องเอาของมาแล้วรีบกลับหอให้เร็วที่สุด ใช่ๆมันต้องเป็นแบบนั้น...

    มือเรียวหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายหลัง ก่อนจะเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มหนาสองสามเล่มที่ตั้งใจจะยืมกลับหอ แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อมือหนาของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นเอื้อมมาจับมือเขาไว้เฉย...

    “จะไม่ทัก...กันเลยเหรอ?” เสียงทุ้มนุ่มละมุนเอ่ยขึ้น พร้อมกับสายตาหวานเชื่อมของเจ้าของมือหนานั้นจะช้อนมองคนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้างุดเพื่อซ่อนใบหน้าแดงระเรื่อนั้นไว้...

    “สวัสดี... ทักแล้วนะ ปล่อยด้วย.. ฉันรีบ” เสียงหวานสั่นเทาเอ่ยตะกุกตะกักก่อนจะดึงมือของตนออกจากมือหนา แล้วตั้งใจจะหยิบหนังสือขึ้น แต่กองหนังสือนั้นก็ถูกคนตรงหน้าคว้าไปเสียอย่างนั้น...

    “เดี๋ยวไปส่ง...”

     

    ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะมองตามร่างสูงที่เดินอ้อมโต๊ะตัวยาวมาหาตนนั้นนิ่ง... เหมือนสมองหยุดทำงาน เหมือนร่างกายทุกส่วนเป็นอัมพาต... เมื่อมือใหญ่นั้นคว้าหนังสือเล่มหนาไปถือเอง อีกทั้งมือที่ว่างนั้นก็กอบกุมมือเขาแน่น...

    คริสลากเขามายังเคาน์เตอร์รับ-คืนหนังสือก่อนที่ร่างสูงจะลากเขาออกไปจากห้องสมุด... จุนมยอนอยากจะดึงมือกลับมาแทบตายแต่เมื่อมองไล่เลี่ยขึ้นไปถึงใบหน้าของเจ้าของมือหนานั้น...

    ในสมองของเขากำลังถูกสั่งให้ประมวลผลอย่างรวดเร็ว หากแต่คำตอบที่ได้กลับมานั้นก็ยังคงเป็นคำถาม...

    คำถามที่ว่า...เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

     
     

    “ดะ...เดี๋ยว...” เสียงหวานหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสีแดงอย่างแผ่วเบา ในขณะที่ร่างเล็กนั้นหยุดเดินลง ร่างสูงนั้นก็เลยต้องหยุดด้วย... ใบหน้าหล่อเหลานั้นหันกลับมามองสบใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจของเขา ก่อนจะค่อยๆก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ

    “กำลังคิดอยู่ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือความฝันเหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเหมือนรู้ความคิดของเขา... บางทีคริสก็อันตรายกว่าที่เขาคิดไว้มาก...

    “ทำไมถึงคิดว่าฉันคิดงั้น”

    “ดวงตา... ตาของจุนมยอนเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ...”

    “มันยากจะเชื่อ...” คริสยกยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบของเขา ก่อนที่มือหนาจะเลื่อนมือของเขานั้นขึ้นไป

    “เพราะแบบนั้นจุนมยอนถึงไม่เหมือนกับใครไง... หลังจากนี้... เตรียมเหนื่อยหน่อยนะ เพราะนายจะได้เห็นฉันทุกวันแน่ๆ” ว่าจบ ริมฝีปากหนาก็กดจูบลงบนหลังมือของเขา... ใบหน้านวลแดงระเรื่อขึ้นอย่างห้ามไม่ได้เหมือนทุกครั้ง ในขณะที่ดวงตาคู่โตนั้นเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนจะรีบดึงมือกลับ... แต่ก็สู้แรงคนตัวสูงกว่าไม่ได้..

    ...ทำไมเขารู้สึกเหมือนกำลังถูกจีบกันนะ...

     

    “เดี๋ยวไปส่งที่หอ ฝนมันจะตกแล้ว” คริสเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะลากเขาไปที่รถ และขับไปส่งเขาที่หออย่างที่พูดไว้ไม่มีผิด...

     

    ร่างสูงยืนส่งยิ้มน้อยๆให้อยู่ที่หน้ารถ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับมือหนาที่ยกขึ้นไล้ใบหน้าขาวนวลที่ยังระเรื่อไม่หาย ดวงตาคู่คมนั้นเหม่อลอยอย่างไม่เคยเป็น...

    “มีใครได้เห็นใบหน้าตอนนายเขินนี้กี่คนแล้วนะ... ทำไมฉันมองไม่เห็นจุนมยอนแต่แรก...” ร่างเล็กนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนที่ใบหน้านวลจะก้มหน้านิ่ง ในขณะที่มือเรียวบางนั้นเอื้อมไปกอบกุมมือหนาที่เจ้าตัวเผลอกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว...

    “แต่คริสก็เห็นแล้วนี่...”

    “ให้ฉันได้รู้จักจุนมยอนมากกว่านี้ได้ไหม... ฉันอยากรู้จักนายมากกว่านี้...” มือหนาของคริสกระชับมือของเขาแน่นกว่าเดิม ก่อนที่คนตัวสูงจะเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม...

    ใบหน้าหล่อเหลาได้รูปนั้นขยับเข้าใกล้ใบหน้าขาวนวลอย่างช้าๆ ก่อนที่จมูกโด่งจะกดลงบนแก้มเนียนนั้นอย่างแผ่วเบา... สัมผัสบางเบาแต่กลับทำให้ใบหน้าขาวนั้นระเรื่อแดงขึ้นอย่างน่ารัก... มือบางแสนสั่นเทาพยายามกอดกระชับหนังสือเล่มหนาในมือก่อนจะดึงอีกมือออกจากมือของอีกคนอย่างยากลำบาก...

     

     

     

    “วันนี้ฉันคงรุกนายมากเกินไป... รีบขึ้นห้องเถอะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ...ตัวเล็ก

     

     

    น็น

    จุนมยอนยืนมองคนตัวสูงกลับขึ้นรถและขับมันออกไป... เขาไม่รู้ว่าตัวเองเดินขึ้นห้องมาตั้งแต่เมื่อไร

    ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอออกมายืนมองรถคันนั้นที่ระเบียงนานเพียงใด...

     
     

    เขารู้เพียงแต่ว่า สัมผัสบางเบาที่แก้มกับความอบอุ่นที่มือข้างที่ถูกเกาะกุมนั้นยังคงชัดเจน...

     

    ...ชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธว่ามันเป็นความฝัน...









    TBC.

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ในที่สุดงานของเอกก็ผ่านพ้นไปแย้ววว ~~ แต่สอบยังไม่ผ่านไปง่ะะะ  TT w TT 
    ตอนแรกว่าจะอัพวันศุกร์... แต่คิดไปคิดว่า ขอหนูนอนพรุ่งนี้แบบยาวๆ แบบจัดเต็มๆดีกว่าาา 

    วันนี้งานเลิกกะเลยมาลงตอนที่ ๓ เลยยย ><  อีกประมาณสองตอนจบแล้วอ่ะะะ เสียดายเรื่องนี้เบาๆ คือชอบบรรยากาศมากๆ  ; w ; 
    ถ้าจบแล้วเราต้องเหงาแน่ๆเลยง่ะะะ แง้ TOT 

    ขอบคุณสำหรับทุกๆคนที่เข้ามาอ่านแล้วก็เม้นให้ด้วยนะคะ ; -  ; คือเม้นไม่เคยขึ้นเร็วงี้มาก่อน คือดีใจมากที่ทุกคนชอบฟิคเรื่องนี้
    *กอดเรียงคน* 

    แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะคะ :3 



     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×